โครงงานเรื่อง กระถางต้นไม้จากผ้าขนหนู

โครงงาน เรอ่ื ง กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู ผจู้ ดั ทา นาย ปรชิ ญ์ จนั ตะ๊ นุ เลขที่ 5 นางสาว ธนัชญา อดุ พรม เลขที่ 19 นางสาว จริ ัญญา ยะปัญญา เลขท่ี 23 นางสาว นติ ยา ยาปัน เลขที่ 37 นางสาว กลุ ธดิ า กองกณุ ะ เลขที่ 40 เสนอ ครดู ารงค์ คนั ธะเรศย์ นเ้ี ป็ นสว่ นหนงึ่ ขงิ รายวชิ า I30201 การศกึ ษาคน้ ควา้ และองคค์ วามรู ้ (IS1) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสาตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงงาน กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู ผจู ้ ดั ทาโครงงาน นาย ปรชิ ญ์ จนั ตะ๊ นุ เลขท่ี 5 นางสาว ธนัชญา อดุ พรม เลขท่ี 19 นางสาว จริ ัญญา ยะปัญญา เลขที่ 23 นางสาว นติ ยา ยาปัน เลขท่ี 37 นางสาว กลุ ธดิ า กองกณุ ะ เลขที่ 40 ครปู รกึ ษา ครดู ารงค์ คนั ธะเรสย์ ปีการศกึ ษา 2565

บทคดั ยอ่ โครงงานศกึ ษาคน้ ควา้ และการสรา้ งองคคื วามร(ู ้ IS)เรอื่ ง กระถางตน้ ไม ้ จากผา้ ขนหนู จดั ทาขน้ึ โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศกึ าาของการใชง้ านของกระถางตน้ ไม ้ ทท่ี ามาจากผา้ ขนหนูทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ โครงงานนีม้ ปี ระโยชน์ในการใชง้ าน ประหนัดในการ ใชง้ าน

กจิ กรรมประกาศ โครงงาน เรอ่ื ง “กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู” ฉบบั นส้ี าเร็จลลุ ว่ งได ้ เพราะความกรณุ าอยา่ งยงิ่ จากคณุ ครดู ารงค์ คนั ธะเรศย์ คณุ ครสู อนวชิ าโครงงานการศกึ ษา คน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู ้ (IS) ทก่ี รณุ าใหค้ าแนะนา และตรงจสอบ ขอ้ บกพรอ่ งตา่ งๆ ของโครงงานฉบบั ทใี่ หถ้ กู ตอ้ งและสมบรู ณ์ ขอขอบพระคณุ คณุ ครทู า่ นทใี่ หค้ วามรว่ มมอื ในการจดั ทาโครงงานใน ครงั้ นี้ทใี่ หค้ าแนะนาในการตรวจสอบและประเมนิ คณุ คา่ ของโครงงาน เรอื่ ง “กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู” ขอขอบคณุ ทกุ คนในครอบครวั รวมถงึ เพอื่ นๆทกุ คนทค่ี อยใหก้ าลงั ใจ และใหค้ วามอนุเคราะหใ์ น การทาโครงงานไว ้ ณ โอกาศนี้ คณะผจู ้ ดั ทา 31 สงิ หาคม 2565

สารบญั ก ข บทคดั ยอ่ ค กติ ตกิ รรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทท่ี 1 บทนา 1 1 1.1ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา 2 1.2วตั ถปุ ระสงค์ 3 1.3ขอบเขตการศกึ ษา 3 1.4.ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 3 บทท่ี 2 เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง 4 2.1คณุ สมบตั ขิ องผา้ ขนหนู 4 2.2ลกั ษณะของผา้ ขนหนู 5 2.3ประเภทของภาชนะทค่ี วรปลกู ไมก้ ระถาง 5 2.4ประเภทและชนดิ ของกระถาง 5 บทท่ี 3 วธิ กี ารดาเนนิ งาน 5 3.1วัสดอุ ปุ กรณ์ 6 3.2ขนั้ ตอนการทดลอง 6 3.3ขนั้ ตอนการทา 7 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 4.1ผลการทดลอง บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ

บรรณานุกรม 8 ภาคผนวก 9

บทที่ 1 บทนา 1. ความเป็ นมาและความสาคญั ของปญั หา เนอื่ งจากสมาชกิ ในกลมุ่ ของพวกเราชอบและรักใน การปลกู ตน้ ไมซ้ งึ่ กระถางตน้ ไมม้ รี าคาแพงมากในทอ้ งตลาด 1 กระถาง ตกอยกู่ ระถางละ 100-200 บาท หรอื มากกวา่ นัน้ ตาม ขนาดและความสวยงาม ซงึ่ ในการปลกู ตน้ ไมใ้ นแตล่ ะครัง้ จะตอ้ งใช ้ คา่ ใชจ้ า่ ยจานวนหลายบาทตอ่ จานวนกระถาง โดยเฉพาะคา่ ตน้ ไม ้ ทต่ี อ้ งใชจ้ า่ ยหลายบาทแลว้ หากรวมไปถงึ ป๋ ยุ ดนิ และกระถาง ก็ ใชค้ า่ ใชจ้ า่ ยจานวนมาก ในฐานะทพ่ี วกเราชอบและรกั ในการปลกู ตน้ ไม ้ จงึ คดิ ทจี่ ะประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในการปลกู ตน้ ไมใ้ นแตล่ ะครัง้ โดยการ คดิ นวัตกรรมทชี่ อื่ วา่ “กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู”พเพอื่ ประหยดั ตอ่ คา่ ใชจ้ า่ ยในการปลกู ตน้ ไมใ้ นแตล่ ะครัง้ และมคี วามสวยงาม ตามความคดิ ของเราเอง 2. วตั ถุประสงค์ - ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยใจการซอ้ื กระถางตน้ ไมท้ เ่ี เพง - ไดก้ ระถางตน้ ไมต้ ามทเี่ ราตอ้ งการ - มกี ระถางตน้ ไมท้ ไ่ี มเ่ หมอื นใคร - นาของเกา่ มารไี ซเคลิ - นาหลงั ปรชั ญาเศรษฐกนิ พอเพยี งมาใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั 3. ขอบเขตของการศกึ ษา โครงงานนีศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เกย่ี วกบั ชนดิ เเละวสั ดใุ นการทางาน กระถางตน้ ไมโ้ ดยใชผ้ า้ ขนหนูเหลอื ใช ้ ศกึ ษาวธิ กี ารทากระถาง ตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนูเหลอื ใชว้ า่ สามารถใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ รงิ หรอื ไม่

4. ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั 1.ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย 2. มกี ระถางตน้ ไมท้ สี่ วยงามไวใ้ ชง้ าน 3. ไดร้ ปู รา่ งของกระถางตน้ ไมท้ เี่ ราตอ้ งการ 4. นาผา้ ทเี่ หลอื ใชก้ ลบั มาใชง้ านไดใ้ หมโ่ ดนมปี ระสทิ ธภิ าพ มากกวา่ เดมิ 5. ไดก้ ระถางตน้ ไมท้ สี่ วยงามไมเ่ หมอื นคนอนื่ เเละเอาไวต้ กเเตง่ บา้ น

บทท่ี 2 เอกสารและการศกึ ษาเอกสารอา้ งองิ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง การศกึ ษาในครัง้ นี้ ผศู ้ กึ ษาไดศ้ กึ ษาเอกสารและเอกสารอา้ งองิ ใน การศกึ ษาโครงงานการทากระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนูโดยแบง่ เน้อื หา ของเอกสารแตล่ ะหัวขอ้ ดงั นี้ คณุ สมบตั ขิ องผา้ ขนหนุ 1.ใหผ้ วิ สมั ผัสทดี่ ี 2.ซบั น้าไดด้ ี 3.ขนหลดุ ลว่ งนอ้ ย 4.คงทนตอ่ การใชง้ าน -คงทนตอ่ สี -คงทนตอ่ การซกั -คงทนตอ่ แสง -คงทนตอ่ เหงอ่ื -ทนตอ่ การหลดุ ลยุ่ ของขน 5.หลกั การซกั ตอ้ งไมก่ ระดา้ ง ลกั ษณะของผา้ ขนหนู ผา้ ขนหนสู าหรับใชอ้ าบน้านัน้ จะมไี วเ้ พอ่ื ใสอ่ าบน้า โดยเฉพาะจะมี คณุ สมบตั ใิ นการซมึ ซบั น้าไดด้ ี เน้อื ผา้ นุ่มสบายและแหง้ งา่ ยและ ผา้ ขนหนูทใ่ี ชน้ ัน้ จะมขี นาด 27x54 ซงึ่ เป็ นขนาดทพี่ อดี

ประเภทของภาชนะทคี่ วรปลกุ ไมก้ ระถาง ภาชนะใดๆ กต็ ามทเี่ รานามาใชเ้ พอ่ื ใสด่ นิ หรอื เครอ่ื งปลกู เพอื่ ใชป้ ลกู พนั ธไ์ มล้ งไปในนัน้ แลว้ กอ้ าจจะรวมเรยี กในทน่ี ที้ งั้ หมดวา่ กระถางก็ได ้ ซง่ึ อาจจะเป็ นภาชนะขนาดเลก็ ทยี่ กยา้ ยเคลอื่ นทไ่ี ดส้ ะดวกหรอื ภาชนะ ใหญโ่ ต ทตี่ ดิ อยกุ่ บั ทยี่ กเคลอื่ นยา้ ยไปไหนไมไ่ ด ้ ดงั เชน่ กะบะซเี มนตื หรอื กะบะคอนกรตี ทอี่ อกแบบกอ่ สรา้ งทต่ี ดิ อยกู่ บั อาคารสถานท่ี โดย เฉพาะสงื่ เหลา่ นจี้ ะถอื วา่ เป็ นกระถางทงั้ สเ้ิ พราะมหี ลกั สาคญั อย3ู่ ประการดว้ ยกนั คอื 1. เป็ นภานะทม่ี ปี รมิ าตรจากดั คอื มดี า้ นตา่ งๆ โดยรอบ แตม่ ดี า้ นหนงึ่ เปิดเพอ่ื ใชป้ ลกู ตน้ ไมใ้ นดา้ นหรอื สว่ นนัน้ ภายในมพี นื้ ทเี่ พอื่ บรรจดุ นิ หรอื เครอ่ื งปลกู ไม ้ 2. เป็ นภาชนะทมี่ ที ร่ี ะบายน้าออกจากภาชนะนัน้ อาจจะเป็ นรทู มี่ อี ยทู่ าง สว่ นลา่ ง เพอื่ ใหน้ ้าทใ่ี ชร้ ดตน้ ไมล้ งไปในภาชนะนัน้ ไมต่ กคา้ งขงั อยใุ่ น ภาชนะนัน้ ได ้ การระบายน้าออกจากภาชนะนัน้ ะตอ้ งมปี รมิ าณพอสมควร กบั ขนาด และปรมิ าตรของภาชนะนัน้ ๆ ดว้ ย 3. เป็ นภาชนะทส่ี ามารถทนทานตอ่ ความชนื้ และมอี ายคุ งทนถาวร พอสมควร ไมเ่ ป็ นภาชนะทส่ี รา้ งขนึ้ จากวัสดทุ ไ่ี มค่ งทนถาวรอยไู่ ดน้ าน พอสมควร และเป้นภาชนะทสี่ ามารถดแู ลรกั าาไดง้ า่ ยดว้ ย เชน่ การ เปลยี่ นเครอ่ื งปลกู หรอื เปลยี่ นดนิ การใหน้ ้าพันธไุ์ มใ้ นภาชนะสะดวก ประเภทและชนดิ ของกระถางหรอื ภาชนะปลกู พนั ธไุ์ ม้ ภาชนะหรอื กระถางทใี่ ชล้ กู พนั ธไุ์ มน้ ัน้ มมี ากมายหลายชนดิ และหลาย ประเภท ซงึ่ แลว้ แตเ่ หตผุ ลทเี่ หมาะสมและความนยิ มโดยรวมถงึ ประโยชนใ์ ชส้ อย ซงึ่ สามารถแบง่ ออกไดห้ ลายลกั ษณะ คอื ภาชนะหรอื กระถางทนี่ ามาใชใ้ นวตั ถปุ ระสงคต์ า่ งๆกนั

ซง่ึ หมายถงึ ภาชนะหรอื กระถางทส่ี รา้ งขน้ึ เพอื่ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการ ใชต้ า่ งๆกนั คอื 1.เพอื่ ใชเ้ ลยี้ งตน้ ไมอ้ อ่ นๆ หรอื ตน้ กลา้ และตน้ ไมท้ ไี่ มแ่ ขง็ แรงพอ เป็ น การปลกู ลงในกระถางในระยะหนง่ึ ทจ่ี ะรอการเจรยิ เตบิ โตจนเเขง้ แรงดี แลว้ จงึ นามาลงปลกู ในพนื้ ทด่ี นิ ตอ่ ไป กระถางประเภทนีเ้ ป็ นกระถาง ธรรมดา ทอ่ี าจใชว้ สั ดเุ หลอื ใชอ้ น่ื ๆ หรอื วัสดทุ ห่ี างา่ ยราคาถกู มา ดดั แปลงใชก้ ไ็ ดเ้ ชน่ กระบอกไมไ้ ผท่ เ่ี จาะรทู ก่ี น้ เหนอื ขอ้ หรอื ขอ้ ไมไ้ ผ่ ผา่ ครงึ่ ตามยาวแลว้ ประกบกนั เขา้ ไปใหม่ ใหเ้ ป็ นรปุ กระบอกใชเ้ ชอื กหรอื ลวดรัดใหอ้ ยุ่ กระถางไมไ้ ผ่ หรอื กระบอกแบบน้ีเวลานาพนั ธไุ์ มอ้ อกปลกู ก็แกะกระบอก ออก ทาใหส้ ดวกในการเอาพนั ธไุ์ มป้ ลกู โดยไม่ กระทบกระเทอื นระบบรากในกระบอกนัน้ นอกจากนอี้ าจใชป้ ี บ กระป๋ อง ลงั ไมก้ ไ้ ด ้ ทนี่ ยิ มใชก้ นั มากเพราะหางา่ บจานวนมาก กค้ อื หมอ้ หงุ ขา้ ว ดนิ เผาทเี่ ผาแลว้ ร่ัวรา้ วมาใชใ้ นปลกู กงิ่ ตอน เวลาจะปลกุ กท็ บุ หมอ้ ทงิ้ โดยไมต่ อ้ งเสยี ดายหมอ้ ดนิ นัน้ ในทอ้ งทบ่ี างแหง่ ใชไ้ มไ้ ผส่ านเป็ น กระถางปลกู กง่ิ ตอนกงิ่ เชน่ กงิ่ ตอนลาไยในภาคเหนือ เรยี กระถางแบบน้ี วา่ กว๋ ย เวลาปลถกก็ปลกุ ลงไปพรอ้ มกบั กระถางหรอื กว๋ ย กจ้ ะผพุ ัง กลายเป็ นดนิ ไปในไมช้ า้ ในปัจจบุ นั นเี้ ป็ นยคุ ของถงุ พลาสตกิ กใ็ ช ้ ถงุ พลาสตกิ นัน้ ออกเสยี กอ่ น หากใชก้ ระถางดนิ เหนียวเผาแลว้ กจ็ ะดี กสา่ กระถางอยา่ งอน่ื เพราะใชไ้ ดห้ ลายครงั้ ทนทานดกี วา่ แตก่ ระถางท่ี ใชป้ ลกู พันธไุ์ มเ้ ลก้ นม้ี คี วามจาเป็ นทจี่ ะตอ้ งถา่ ยกระถาง จากขนาดเล็ก ใหโ้ ตขนึ้ เรอ่ื ยๆ ขอ้ สาคยั ในการเลอื กกระถางแบบนีจ้ งึ พจิ ารณาเลอื ก กระถางทมี่ รี ปู รา่ งปากกวา้ งกวา่ กนั เพอ่ื สะดวกในการถา่ ยเทพนั ธุ์

บทที่ 3 วธิ ดี าเนนิ การ วสั ดอุ ปุ กรณ์ -ปนู ซเี มนต์ -ผา้ ขนหนูทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ -รปู แบบของกระถางทจ่ี ะทา -ทผี่ สมปนู ซเี มนต์ -กระป๋ องสี ขน้ั ตอนการทดลอง 1.ศกึ ษาอตั ราสว่ น 2.ศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของการทากระถางตน้ ไม ้ 3.ศกึ ษาการซมึ ซบั น้าของผา้ ขนั้ ตอนการทา 1.เตรยี มผา้ ขนหนูทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ และอปุ กรณต์ า่ งๆ 2.นาปนู ซเี มนตไ์ ปผสมกบั น้า 3.นาปนู ซเี มนตท์ ผี่ สมกบั น้า แลว้ นาผา้ ขนหนูไปชบุ ปนู หรอื อาจเทปนู ลง บนผา้ ขนหนู 4.นาผา้ ทช่ี บุ ปนู ไปวางบนอปุ กรณต์ า่ งๆเชน่ ขวดน้า ถงั น้า เพอ่ื ให ้ ผา้ ขนหนูเป็ นรปู ทรง 5.นาผา้ ขนหนูไปตากแดดและรอจนผา้ ขนหนูแหง้ และแข็ง 6.ทาสตี ามทตี่ อ้ งการ

บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน จากการทดลองการทากระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนูทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ ไดผ้ ล การทดลองดงั นี้ ครง้ั ที่ 1 ปรมิ าณปนู /แกว้ ปรมิ าณทราย/แกว้ ปรมิ าณน้า/แกว้ 2 แกว้ 2 แกว้ 3 แกว สรปุ ผลการทดลอง ปนู ทน่ี าไปผสมกบั ทรายและน้า จงึ ทาใหป้ นู เหลวเกนิ ไปไมส่ ามารถทา กระถางตน้ ไมไ้ ด ้ ครง้ั ที่ 2 ปรมิ าณปนู /แกว้ ปรมิ าณทราย/แกว้ ปรมิ าณน้า/แกว้ 2 แกว้ 1 แกว้ 1/2 แกว สรปุ ผลการทดลอง ปนู ทน่ี าไปผสมกบั ทรายและน้า จงึ ทาใหเ้ กดิ ปรมิ าณปนู ทเี่ หมาะสมจงึ สามารถนาไปทากระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนูทไ่ี มใ่ ชแ้ ลว้ ผลการทดลองของผา้ ขนหนทู นี่ าไปตากแดด ครงั้ เวลาใน บรเิ วณที่ ผลการทดลอง ที่ การตาก ตาก 1 2 ชม. กลางแจง้ แหง้ ขนาด 2/4 ของขนาดกระถางตน้ ไม ้ จากผา้ ขนหนูทไี่ ปผสมกบั ปนู 2 10 ชม. กลางแจง้ กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนุทน่ี าไปผสม ปนู แหง้ และสามารภใชง้ านได ้ สรปุ ผลการทดลอง ปรมิ าณเวลาในการตากแดด โดยใชเ้ วลา 10 ชม ในทก่ี ารแจง้ ผา้ ท่ี นาไปผสมกบั ปนู เพอ่ื ทจี่ ะนาไปทากระถางตน้ ไมแ้ หง้ สนทิ และไม่ สามารถใชง้ านได ้

บทท่ี 5 สรปุ ผลการทดลอง 1.ไดร้ ปู ทรงกระถางตน้ ไมท้ เี่ ราตอ้ งการ 2.ไดป้ ระหยดั งบในการทางาน 3.สามารถปลกุ ตน้ ไมด้ ดยทรี่ ดน้าตน้ ไมไ้ ดแ้ ค่ 1ครงั้ ตอ่ วัน 4.กระถางตน้ ไมท้ ท่ี ามาจากผา้ ขนหนูจะชว่ ยซมึ วับน้าไดด้ กี วา่ กระถาง ตน้ ไมท้ วั่ ไป 5.การทจี่ ะประสบความสาเร็จในการทา เราตอ้ งใชอ้ ัตราสว่ นทพ่ี อดไี ม่ มากไมน่ อ้ ยจนเกนิ ไป

บรรณานกุ รม ตวั อยา่ งโครงงาน เรอื่ งกระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู แหลง่ ทมี่ า : http:atc.ac.th สบื คน้ วนั ท่ี 25 สงิ หาคม 2565 ตวั อยา่ งโครงงาน เรอื่ งกระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู แหลง่ ทม่ี า :http://panwasa2004.blogspot.com/2017/09/blog-post_10.html สบื คน้ วนั ที่ 25 สงิ หาคม 2565 ตวั อยา่ งรปู กระถางตน้ ไมจ้ ากผา้ ขนหนู แหลง่ ทม่ี า: http: //www.visitsk.org/?p=11284. สบื คน้ วันที่ 25 สงิ หาคม 2565

ภาคผนวก