• เทปติดแผล • ผา้ ปิดตา ใชส้ ำหรับการบาดเจบ็ ท่นี ัยน์ตา เชน่ กระจกตาถูกบาด ฝนุ่ ละอองเข้าตา เปน็ ต้น • เข็มกลัด ใชต้ ดิ ผา้ สามเหลีย่ ม ผ้าคล้องคอ ผ้ายดื • สำลี ไมพ้ ันสำลี ใชส้ ำหรับทายาล้างแผลรอบๆ แผล • ผา้ ยืด(อีลาสติกแบนเอด) ใช้สำหรบั พันเม่ือเกดิ การบาดเจบ็ กล้ามเนอ้ื ขอ้ เพอื่ ลดการบวม ลดการ เคลอื่ นไหว หรือใช้พันยึดกับอุปกรณ์อื่นๆ เพ่ือดามกระดกู ผ้ายดื ยังสามารถนำมาพนั ทบั ผา้ ก๊อซหรือพ ลาสเตอรต์ ดิ แผลเพ่ือหา้ มเลือด แต่หา้ มพนั แนน่ จนเกนิ ไปเพราะทำให้อวัยวะสว่ นปลายเกดิ การบวม และขาดเลือดมาเล้ียงได้ • ผ้าสามเหล่ียมคล้องแขน ปัจจุบนั ใช้ผ้าคล้องแขนแทนเพราะสะดวกและงา่ ยต่อการใช้งาน • ถุงพลาสติก 1 ใบ สำหรับใส่เศษขยะ เช่น ผา้ เปือ้ นเลอื ด เปน็ ต้น ยาฉุกเฉนิ สำหรบั รับประทาน โดยกลอ่ งบรรจยุ านต้ี ้องปดิ มิดชดิ และมขี ้อความระบุขา้ งกลอ่ งชัดเจนวา่ เปน็ ยา สำหรับรับประทาน ควรมยี าเฉพาะทจี่ ำเปน็ เท่านน้ั อาทิ ยาลดไขแ้ กป้ วด ผงเกลือแรส่ ำหรบั การบาดเจ็บท่ีมี การเสียเลอื ดมาก หรือบาดแผลพพุ องจากความร้อนทม่ี บี ริเวณกว้าง หรือผู้ที่มีอาการอาเจยี นและท้องเสีย วธิ ีชว่ ยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีตา่ งๆ ผทู้ ่ีรับผิดชอบฝา่ ยน้ี ควรเป็นบคุ ลากรที่มคี วามเชยี่ วชาญ และได้รับการฝกึ อบรมใหส้ ามารถรบั มอื กับสถานการณ์การบาดเจบ็ ต่อไปนไ้ี ด้ o การเข้าเฝือกช่ัวคราว o การหา้ มเลือด o การนวดหวั ใจ o การจมน้ำ ทุก ๆ ปี สถานศึกษาควรทบทวนและปรับปรงุ แผนบรหิ ารจัดการภัยพิบตั ใิ นสถานศึกษา และตดิ ตาม ความก้าวหนา้ ในการดำเนินงานในประเด็นต่อไปนี้ • ทบทวนและประเมนิ สถานการณ์ความเสยี่ งของสถานศกึ ษา • ปรับปรุงแผนที่ความเสยี่ งและภัยหากจำเปน็ • ทบทวนมาตรการลดความเสี่ยงและความเป็นไปไดใ้ นทางปฏบิ ตั ิ วเิ คราะหป์ ญั หาอุปสรรคท่ไี มส่ ามารถ ดำเนนิ การตามมาตรการได้ • ทบทวนแผนเตอื นภัยและอพยพ ตรวจสอบสถานทป่ี ลอดภัย ตรวจสอบปา้ ยบอกเสน้ ทางหนภี ยั ปา้ ย จดุ รวมพล ไฟฉุกเฉนิ เส้นทางหนภี ยั ประตหู นีภัย เปน็ ตน้ • ตรวจสอบปรบั ปรุงหมายเลขโทรศัพท์ฉกุ เฉนิ และผปู้ ระสานงานหน่วยงานภายนอกให้เป็นปัจจุบัน • ตรวจสอบอปุ กรณ์เตอื นภัย อุปกรณ์กู้ภยั ชว่ ยชวี ิตและชดุ ปฐมพยาบาล (เชน่ วทิ ยุส่อื สาร เคร่ืองขยาย เสียง ไฟฉาย แบตเตอร่ี เชอื ก เสือ้ ชูชีพ เรอื ชุดปฐมพยาบาล ตลอดจนอุปกรณ์ดับเพลิง) • ทบทวนและประเมินผลการจัดซอ้ มหนภี ัยและปรบั ปรงุ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิท่จี ำเป็น • ทบทวนว่าแผนการจัดการศึกษาตอ่ เน่ือง (Education Continuity Plan) ตรวจสอบสถานทเ่ี ลือกเป็น หอ้ งเรียนชว่ั คราวยงั เปน็ สถานที่ปลอดภัยอยูห่ รือไม่สำรวจความเสียหาย จดั ทำเร่อื งขอความช่วยเหลอื และงบประมาณเพื่อรายงานไปยังตน้ สงั กดั
ลักษณะภัย บทที่ 3 การจัดการภยั พบิ ตั ิในสถานศกึ ษา พรอ้ มกับ สายน้ำ มาตรฐานการปฏิบตั ิเมื่อเกิดภัยต่างๆ ขอ้ ควรจำ มสี ายนำ้ ไหลมาอย่างรวดเรว็ รนุ แรง มีนำ้ ท่วมฉบั พลัน อาจมีดนิ โคลนและท่อนซุง ไหลมา น้ำมาให้ขนึ้ ท่ีสูง ตดั ไฟฟ้าเพื่อป้องกนั ไฟฟ้าดูด ก่อนเกิดน้ำท่วม ขณะเกิดน้ำทว่ ม หลงั เกิดน้ำทว่ ม ตรวจสอบกบั ชุมชนรอบสถานศกึ ษา หากจำเป็น ให้อพยพไปอยทู่ ี่สูงท่ี ตรวจสอบพนื้ ผนัง และหลังคา ว่าอย่ใู นสภาพท่ีปลอดภยั หาก ดวู า่ เคยเกดิ นำ้ ทว่ มสูงท่ีสุดแค่ไหน ปลอดภยั ให้เร็วสดุ ไมแ่ นใ่ จใหต้ ามชา่ งมาตรวจสอบ ก่อน เพื่อหาพื้นท่ีท่ปี ลอดภยั กำจดั น้ำและโคลนออกจาก ตรวจสอบว่ามีวธิ กี ารเตือนภัยจากที่ ให้ปดิ ทอ่ น้ำทิ้งในห้องนำ้ ท่อ โถ อาคาร ทำความสะอาดห้องเรียนทีน่ ้ำ ไหน และอย่างไรบ้าง เชน่ การแจ้ง สว้ มท่ีนำ้ สามารถไหลเขา้ อาคาร ท่วม จากชุมชน ทั้งหมด ไมจ่ ับหรือเสียบปลั๊ก เคร่อื งใช้ไฟฟ้า และไมเ่ ปิดไฟ ยา้ ยสวิทซ์ ปล๊กั ไฟ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ปดิ สะพานไฟฟา้ (คทั เอาท์) จนกวา่ จะมั่นใจวา่ ปลอดภัย และสะพานไฟให้อยู่สงู กวา่ ระดบั ท่ี และแก๊ซ ประเมนิ ความเสยี หายและขอ งบประมาณซ่อมแซม คาดวา่ น้ำจะทว่ มถึง ลอกท่อระบายนำ้ ตรวจสอบรางนำ้ ระมัดระวงั เศษวัสดุ ซากกงิ่ ไม้ ไมใ่ หม้ สี ่งิ อดุ ตนั ทีท่ ำใหน้ ำ้ ไหลไม่ ของมคี ม หรือสารเคมตี ่างๆท่ี สะดวก เตรียมกระสอบทรายไวก้ ั้น อาจจะไหลหรือปนเปื้อนมากับ นำ้ กระแสน้ำ จดั พ้นื ทเี พื่อป้องกันความเสยี หาย เคล่อื นย้ายอปุ กรณ์ทอ่ี าจจะ เชน่ ควรยา้ ยเอกสาร สมดุ หนงั สอื เสียหายจากน้ำท่วมข้นึ ชั้นบน ไปไว้ชั้นสอง สอนนักเรียนใหร้ ูจ้ กั ทกั ษะในการ ติดตามข่าวหรือประกาศเพอื่ ปอ้ งกันตวั เมอื่ เกิดเหตุ ปฏิบัติตามคำแนะนำ ทำแผนและซ้อมแผนพื่อใหท้ ุกคน รู้จักสญั ญาณเตือนภยั เสน้ ทาง อพยพ ท่ปี ลอดภัย ติดตามการประกาศเตือนภัยจาก สถานวี ทิ ยุทอ้ งถ่นิ โทรทศั น์
ลกั ษณะภัย ลมแรง ฝนตกหนัก นำ้ ทว่ มฉบั พลัน มีคลน่ื สงู และน้ำทว่ มชายฝั่ง ขอ้ ควรจำ • เมอื่ มีการแจง้ เฝา้ ระวัง หมายถงึ พายุจะมาถึง ภายใน 36 ชั่วโมง • เมือ่ มีการแจง้ เตือนภัย หมายถึง พายจุ ะมาถึง ภายใน 24 ช่วั โมง • เมอ่ื เกดิ พายุ จะมฝี นตกหนัก และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลนั • เมอ่ื เกดิ พายุแลว้ แต่มลี มสงบฉับพลัน หมายถงึ เราอยใู่ นศูนย์กลางของพายแุ ละจะมีพายุตามมาอีกครั้ง กอ่ นเกดิ พายุ ขณะเกิดพายุ หลงั เกิดพายุ ซอ่ มแซมอาคารให้แขง็ แรง ติดตง้ั ปดิ ประตหู นา้ ตา่ งใหแ้ น่นหนา พร้อม ตรวจสอบส่ิงทไ่ี ดร้ บั ความเสยี หาย อุปกรณ์เสรมิ ความแขง็ แรงของประตู ปดิ เทปตามแนวประตูหนา้ ตา่ ง และอาจจะหักโค่นลงมาได้ เช่น หนา้ ตา่ ง เชน่ ขอสบั เพ่ือป้องกันไม่ให้ หลังคาบ้าน ตน้ ไม้ ป้ายโฆษณา ลมพัดกระแทกปิด เสาไฟฟ้า และดำเนินการซ่อมแซม ยดึ สว่ นประกอบอาคาร เชน่ หลงั คา หลีกเลี่ยงการอยู่นอกอาคารหรือที่ ตรวจสอบอาคารและส่วนประกอบ รางน้ำ สายไฟใหแ้ น่นหนา โล่ง เพราะอาจจะมเี ศษวสั ดุ ก่งิ ไม้หกั อาคารว่ายงั อยใู่ นสภาพที่แข็งแรง ปลิวมาตามแรงลม และปลอดภยั ประตหู นา้ ต่างที่เป็นบานกระจกควร ออกหา่ งหนา้ ต่าง ประตทู ี่มีบาน มกี ารติดฟิล์มหรือมีการป้องกันไมใ่ ห้ กระจกเพ่ือปอ้ งกนั ไมใ่ ห้เกิดอันตราย กระจกแตกกระจายจากแรงลม หากกระจกแตกเพราะแรงลม ปอ้ งกนั ระบบน้ำ ระบบไฟ ติดตง้ั งดใช้อปุ กรณไ์ ฟฟ้า คอมพิงเตอร์ ระบบตัดไฟ อุปกรณ์ป้องกนั ฟ้าผา่ และโทรศัพท์ หรือถอดปลั๊กออก ตดั ต้นไม้สงู ไมใ่ ห้ล้มทับอาคาร หลกี เลยี่ งท่ีตำ่ ท่ีเกิดน้ำท่วมฉับพลนั ได้ สอนนักเรยี นให้รู้จกั ทกั ษะในการ ออกห่างจากวตั ถทุ เ่ี ป็นสื่อไฟฟ้าทุก ป้องกันตัวเมื่อเกิดเหตุ และเส้นทาง ชนิด อพยพ จดุ รวมพล ติดตามขา่ วสาร การพยากรณ์และคำ อย่ารีบออกจากที่กำบังจนกวา่ จะ เตือนจากทางราชการอยา่ งใกล้ชิด แนใ่ จหรือไดร้ ับข้อมลู สถานการณ์ ปลอดภยั
ลกั ษณะภยั แผน่ ดินเกิดการส่นั สะเทือนอย่างรุนแรง โดยไมม่ ีสงิ่ บอกเหตุล่วงหน้า ข้อควรจำ เมือ่ เกิดแผน่ ดนิ ไหวอย่างรุนแรง มกั มแี ผ่นดินไหว ตามมาอีกหลายครงั้ อาจเกดิ แผ่นดนิ แยก แผ่นดินถล่ม และอาคารอาจไม่พังทลายในทนั ทแี ตอ่ าจะพงั ทลายภายหลงั ก่อนเกดิ แผ่นดนิ ไหว ขณะเกิดแผ่นดนิ ไหว หลงั เกิดแผน่ ดนิ ไหว ตรวจสอบอาคารเรียน อาคาร อยา่ ต่ืนตกใจ พยายามควบคุมสติ ตรวจสอบตัวเองและคนข้างเคยี ง ประกอบ ระบบสาธารณูปโภค ให้ หาที่หลบกำบงั ในบริเวณที่ปลอดภัย วา่ ไดร้ ับบาดเจ็บหรอื ไม่ อยู่ในสภาพมั่นคงแขง็ แรง เชน่ บรเิ วณอาคารที่มีโครงสรา้ ง แลว้ ทำการปฐมพยาบาลข้นั ต้น แข็งแรง ตรวจสอบเครอ่ื งมอื ดับเพลิงให้ หมอบบริเวณใต้โต๊ะทใ่ี ช้มือกำบงั เม่ือแผ่นดนิ ไหวหยุดลง ให้รบี ออก พร้อมใช้งานอย่เู สมอ ศีรษะและลำคอ จากอาคาร ห้ามใชล้ ฟิ ต์ และบันได หนไี ฟ ตรจสอบให้รตู้ ำแหนง่ ของวาล์วปิด หากอย่ใู นทโ่ี ลง่ แจ้ง ใหอ้ ยหู่ ่างจาก ปิดวาล์วถงั แก๊ส ยกสะพานไฟ น้ำ เสาไฟฟา้ และสิ่งห้อยแขวนต่างๆ (สบั คทั เอาท)์ อยา่ จดุ ไมข้ ดี ไฟหรือ วาลว์ ปิดกา๊ ซ สะพานไฟ (คทั กอ่ ไฟจนกวา่ จะแน่ใจ ว่าไมม่ ีแก๊ส เอาท)์ รัว่ ไม่วางสงิ่ ของหนกั บนชนั้ หรอื หิง้ อยหู่ า่ งจากประตูหน้าต่างที่เป็น ออกจากบรเิ วณทีส่ ายไฟขาด สูงๆ กระจก ยดึ ตดิ อปุ กรณ์และเฟอร์นิเจอร์ เม่ือออกจากอาคารแล้ว ไมใ่ ห้กลบั ใส่รองเทา้ หุ้มสน้ เสมอ เพราะอาจ ตา่ งๆ กบั พ้ืนหรือผนังอย่างแนน่ เขา้ ไปอกี เพราะอาจเกดิ อาฟเตอร์ มีเศษแก้วหรือวสั ดแุ หลมคมอ่ืนๆ หนา ช็อคและอาคารถล่ม ที่หกั พัง อาจท่ิมแทงได้ เตรียมกระเปา๋ ฉกุ เฉนิ ท่ีมียา หากกำลงั ขบั รถ ใหห้ ยดุ รถในทีโ่ ล่ง สำรวจดคู วามเสยี หายของอาคาร ถา่ นไฟฉาย อุปกรณ์ปฐมพยาบาล หา้ มหยดุ รถใต้สะพาน ทางดว่ น เรยี น อาคารประกอบและระบบ และรายชื่อนักเรยี นไวใ้ นห้องเรยี น ปา้ ยโฆษณา และต้นไมข้ นาดใหญ่ สาธารณปู โภค สอนนักเรียนให้ร้จู ักทกั ษะในการ อพยพไปยังจดุ ปลอดภยั และ จัดพื้นทส่ี ำหรับเปน็ ห้องเรยี น ปอ้ งกนั ตวั เมือ่ เกดิ เหตุ และ ตรวจสอบรายช่ือนกั เรยี นทบ่ี าดเจบ็ ชั่วคราวในกรณที ไี่ ม่แนใ่ จในความ เสน้ ทางอพยพ จุดรวมพล สูญหาย และแจง้ เจ้าหน้าท่ีกู้ภัย ปลอดภยั ของอาคารเรียน ค้นหา
ลกั ษณะภยั กลุ่มของคล่ืนขนาดใหญท่ สี่ ร้างความเสียหายรุนแรงต่อพ้ืนที่ บรเิ วณชายฝงั่ และอาจเกิดขึ้นได้ โดยไมม่ ีสิ่งบอกเหตลุ ่วงหน้า ข้อควรจำ • คลน่ื สนึ ามจิ ะไมเ่ กิดเพียงระลอกเดียว เกิดขึน้ ได้หลายระลอก และคลื่นลูกหลงั อาจใหญ่กวา่ คลน่ื ลกู แรก • เม่ือนำ้ ทะเลลดลงหรือเพมิ่ ขึ้นอยา่ งรวดเร็วผิดปกตใิ ห้คาดว่าอาจเกดิ สนึ ามิ • สึนามมิ ักเกิดหลังแผน่ ดนิ ไหวขนาดใหญ่ในทะเล และหากอยบู่ ริเวณชายฝ่ังจะเปน็ อันตราย กอ่ นเกดิ สึนามิ ขณะเกิดสึนามิ หลงั เกิดสึนามิ ตรวจสอบดวู า่ ท่อี าคารเรียน ตดิ ตามข้อมลู ทางวทิ ยุ โทรทัศน์ ถา้ กลับสู่สถานศึกษา หรือส่งนักเรยี น อยูใ่ นเขตพืน้ ทเี่ สีย่ งภยั สนึ ามิ มีประกาศเกิดสนึ ามใิ ห้อพยพทันที กลับบ้านเม่ือมปี ระกาศจากทาง หรือไม่ ราชการวา่ ปลอดภัยเทา่ น้ัน จัดทำแผนเตือนภยั อพยพหนีภยั อพยพตามแผนท่วี างไว้ และหาก สำรวจดูความเสียหายของอาคาร ตรวจสอบขอ้ มลู เพื่อระบุพ้ืนที่ ต้องหนีภยั ไปนอกสถานศึกษา ควร เรียน อาคารประกอบและระบบ ปลอดภยั ทีใ่ กล้ที่สุด เดนิ เท้าเพื่อหลีกเลีย่ ง จราจรติดขดั สาธารณูปโภค ซ้อมแผนและตรวจสอบ ดำเนนิ การซ่อมแซมอาคาร ส่ิงของ ความสามารถในการอพยพ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใชแ้ ละอุปกรณ์ นกั เรียนไปยงั ทีป่ ลอดภัย สอนนักเรียนใหท้ ำความคนุ้ เคยกับ สญั ญาณเตือนภัยสนึ ามแิ ละป้าย สอนทักษะในการสังเกต สถานการณ์ การเอาตัวรอดเมื่อ เกดิ เหตุ เตรยี มกระเป๋าฉกุ เฉินไวใ้ น ห้องเรยี น แจ้งผ้ปู กครองใหท้ ราบถงึ แผนของ สถานศกึ ษาและจุดปลอดภยั ที่จะ ไปรับบุตรหลาน
ลักษณะภยั หนิ ดิน ทราย โคลน ซ่งึ อยู่บนที่ลาดชันสงู เลอื่ นไถลมายังทีต่ ่ำ ข้อควรจำ เมอ่ื เกดิ ฝนตกหนกั หรอื เกดิ แผน่ ดนิ ไหว มกั เกดิ ดนิ ถล่มตามมา ก่อนเกิดดินถล่ม ขณะเกดิ ดนิ ถล่ม หลังเกดิ ดนิ ถล่ม ศึกษาดปู ระวัติ สภาพดินและร่องน้ำ เม่อื ไดร้ บั คำส่งั ให้อพยพ อยา่ ลังเล ตดิ ตามฟังข่าวพยากรณ์อากาศ รอบพื้นท่รี อบสถานศึกษา ให้พานักเรยี นไปยงั จดุ ปลอดภัย เพือ่ ทราบสภาพสถานการณ์ของ ว่าเคยเกดิ เหตุดินถล่มหรือไม่ ภาวะฝนตกหนกั หรือน้ำปา่ ไหล หลาก หลกี เล่ียงการสรา้ งอาคารในบรเิ วณที่ หากไม่สามารถอพยพไดท้ ัน ใหห้ า กลบั สูส่ ถานศกึ ษา หรอื ส่งนักเรยี น เคยมีเหตกุ ารณ์ดนิ ถล่ม พ้นื ทแี่ ข็งแรงปลอดภัยเพ่ือหลบ กลบั บ้านเมื่อมปี ระกาศจากทาง ภยั ในอาคาร ราชการว่าปลอดภัยเท่าน้นั เตรียมแผนอพยพ เส้นทางหนีภัย หากพลดั ตกไปในกระแสนำ้ ห้าม สำรวจดคู วามเสยี หายของอาคาร และซอ้ มอพยพ วา่ ยนำ้ หนีเปน็ อันขาด เพราะอาจ เรยี น อาคารประกอบและระบบ โดนซากตน้ ไม้ และก้อนหนิ ท่ีไหล สาธารณูปโภค ปลูกพชื ยึดหนา้ ดินบริเวณเชิงเขา มากับโคลนกระแทก จนเป็น ดำเนนิ การซ่อมแซมอาคาร สิ่งของ และพน้ื ท่ีลาดชัน เพ่อื ลดความเสี่ยง อตั รายถงึ ตายได้ เคร่อื งมือเครอื่ งใชแ้ ละอุปกรณ์ ดนิ ถลม่ เข้าร่วมเครือขา่ ยเฝา้ ระวงั หรือ ประสานงานกบั ชุมชนใกล้เคียงทม่ี ี ระบบการเฝ้าระวังเพ่ือติดตาม สถานการณ์ สอนนักเรยี นให้รู้จักการสงั เกต กระแสน้ำ ดนิ โคลนถล่มและการเอา ตวั รอดในสถานการณว์ ิกฤติ เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินและอุปกรณ์ยัง ชพี ให้พร้อมอพยพ
ลักษณะภัย สภาวะความแหง้ แลง้ ผดิ ปกตขิ องอากาศเป็นเหตุให้ความชืน้ ในอากาศ และในดินน้อยลง ขอ้ ควรจำ ภัยแลง้ มีผลต่อปรมิ าณนำ้ เพ่ืออปุ โภค บริโภค และการเกษตรขาดแคลน ภยั แลง้ มโี อกาส เกิดไฟปา่ ก่อนเกิดภยั แลง้ ขณะเกิดภยั แลง้ หลงั เกดิ ภยั แลง้ เตรียมกกั เกบ็ นำ้ สะอาดเพ่ือบรโิ ภคให้ ตรวจสอบและแกไ้ ขท่อน้ำเพ่ือลด ตรวจสอบและประเมนิ ความ เพยี งพอ การสญู เสยี โดยเปลา่ ประโยชน์ เสียหาย และความต้องการใน เบ้ืองต้น สำรวจระบบน้ำ ทอ่ นำ้ ระบบกกั เก็บ ลดการใช้นำ้ ทีไ่ มส่ มควรและไม่ เตรียมหลักฐานเพื่อขอรบั ความ น้ำ ใหอ้ ยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน จำเป็น ช่วยเหลือและฟืน้ ฟู วางแผนใชน้ ำ้ อยา่ งประหยัด นำนำ้ ที่ใชช้ ำระรา่ งกายไปใช้ต่อทาง เพื่อใหม้ นี ำ้ ใชต้ ลอดช่วงหน้าแล้ง การเกษตร สอนใหน้ กั เรียนรู้จักการดูแลสุขภาวะ กำจดั วัสดุเช้อื เพลงิ รอบสถานศกึ ษา ในชว่ งฤดูแล้งเพ่ือป้องกันโรคระบาด และนอกรวั้ สถานศึกษาเพ่ือป้องกนั ทีอ่ าจจะมากับภาวะนำ้ แลง้ และนำ้ การเกดิ ไฟป่าและการลุกลาม ปนเปื้อน เตรยี มหมายเลขโทรศัพท์ฉกุ เฉนิ เม่อื พบเหน็ ไฟป่าให้แจ้งหน่วย เพื่อการขอนำ้ บรโิ ภค และการดับ รบั ผิดชอบดำเนนิ การดบั ไฟทันที ไฟป่า
บทที่ 4 การจดั เรียนการสอน วัตถปุ ระสงค์ • เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจเน้ือหาการจัดการเรียนร้ตู ามหลักสตู รการลดความเสย่ี งภยั พิบัตแิ ละการปรับตวั เขา้ กับ สภาพอากาศเปลยี่ นแปลง • เพื่อใหค้ รูผสู้ อนและครผู ้ชู ่วยสามารถจัดกจิ กรรมเสริมหลกั สูตรและพฒั นานักเรยี น • เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจกระบวนการพัฒนาสอ่ื การเรียนการสอนและส่ือรณรงค์ หัวข้อการเรียนรู้ 1. หลกั การจดั การเรยี นร้เู ร่อื งการลดความเส่ยี งภัยพบิ ัติ 2. การจัดการเรียนการสอนเรอ่ื งจดั การภัยพิบัติในหลกั สตู รแกนกลางฯ 2.1 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 2.2 ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4-6 2.3 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 2.4 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 2.5 แหลง่ ขอ้ มลู และเนื้อหาเกีย่ วกับภัยพิบตั ิธรรมชาติ 2.6 การประเมนิ และวดั ผลการจดั การเรียนการสอน 3. การจัดกจิ กรรมเสริมสตู รและพฒั นาผเู้ รยี น 3.1 ทกั ษะชีวิต life skill good practice 3.2 แนวทางจดั กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร 3.3 ตวั อย่างกิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร 4. บทบาทอาสาสมัครในสถานการณภ์ ยั พบิ ัติ 5. แนวทางการพฒั นาส่ือการเรียนการสอนและส่ือรณรงค์
บทท่ี 4 การจัดเรียนการสอน การจดั การเรยี นการสอนเร่ืองจดั การภยั พบิ ัตใิ นหลักสตู รแกนกลางฯ หลักการจัดการเรยี นรเู้ ร่ืองการลดความเส่ียงภัยพิบตั ติ ้องมีองคป์ ระกอบ 5 มติ ิ ไดแ้ ก่ 1. ความเข้าใจทางวทิ ยาศาสตร์และกลไกการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ท้งั การศึกษาจากตำรา วชิ าการและการศกึ ษาจากสภาพแวดล้อมจรงิ นอกหอ้ งเรียน 2. การเรยี นรู้และฝกึ ฝนทกั ษะและข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิเพอื่ ความปลอดภยั ในบรบิ ทของภัยต่างๆ 3. ความเขา้ ใจปัจจัยผลกั ดนั ท่ที ำใหเ้ กดิ ความเสย่ี งและกลไกที่ทำให้ภยั ธรรมชาติกลายเป็นภยั พิบัติ 4. สรา้ งศกั ยภาพในการลดความเสยี่ ง ไมว่ ่าจะเปน็ สถานศึกษา ชมุ ชน และกลุม่ สงั คมตา่ งๆ 5. สรา้ งวัฒนธรรมแห่งความปลอดภัย (culture of safety) และการรูร้ บั ปรับตัว (resilience) ใน สถานศกึ ษา เพ่ือใหส้ ถานศึกษามีการจดั การเรยี นการสอนเรื่องการลดความเส่ยี งภยั พบิ ัตแิ ละการปรับตวั ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ทั้งในและนอกหลักสตู ร จึงได้มีการบรรจุเนื้อหาเรื่องการจัดการภัยพบิ ัติไว้ในหลกั สตู รแกนกลางขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ซ่งึ ไดม้ ีการปรับเน้ือหาตลอดจนบรบิ ทให้สอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหา ความต้องการ ของชุมชนและภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น โดยจดั เปน็ รายวิชาพน้ื ฐาน มกี ารสอดแทรกเน้ือหาด้านการลดความเส่ยี งภยั พบิ ัตแิ ละการรบั มือกับการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศไวใ้ นกลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ สุขศกึ ษาและ พลศึกษา สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม และสามารถบรู ณาการข้ามกลุ่มสาระ และจดั เปน็ รายวชิ า เพ่มิ เติม โดยมีวตั ถปุ ระสงค์และขอบเขตดังนี้ วตั ถุประสงค์การเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ • ใหน้ กั เรยี นมีความรู้ และความเข้าใจถึงอนั ตรายของภัยพบิ ัตแิ ละการรักษาชีวิตของตนเอง • ใหน้ กั เรียนเรียนรวู้ ธิ กี ารแจง้ เหตใุ หค้ รหู รือผปู้ กครองทราบ • ใหน้ ักเรียนร้จู กั การสงั เกตการเปล่ยี นแปลงของสภาพอากาศ • ให้นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการปรบั สภาพแวดลอ้ มในท้องถ่ิน กลุม่ สาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตวั ชี้วดั เรียนรู้ - พน้ื ฐานการป้องกันและการหลกี เลี่ยง - ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า ข้อตกลงและตามคำแนะนำ สขุ ศกึ ษา จากภยั (พ 3.2 ป.1/2) - การตระหนกั รสู้ ง่ิ ทป่ี ลอดภยั และไม่ - ระบุสงิ่ ทท่ี ำใหเ้ กดิ อันตรายทีบ่ ้าน โรงเรียน และการ ปลอดภยั ป้องกนั (พ 5.1 ป.1/1) - การระมัดระวงั ตนจากส่งิ ทีเ่ ปน็ - ปฏบิ ัติตนในการปอ้ งกันอุบัติเหตทุ อ่ี าจเกดิ ขึน้ ทางนำ้ อนั ตรายและสถานที่อันตราย และทางบก(พ5.1 ป.2/1) - การปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสมท้ัง ใน - ปฏิบัติตนตามสัญลักษณ์และปา้ ยเตือนของสิง่ ของ การซ้อมอพยพ และเวลาเกดิ เหตุการณ์ หรอื สถานท่ที ี่เปน็ อันตราย (พ 5.1 ป.2/4) ฉุกเฉิน - อธิบายสาเหตุอันตรายวิธีปอ้ งกนั อคั คีภยั และแสดง - การขอความชว่ ยเหลอื ดว้ ยวิธกี าร การหนีไฟ (พ 5.1 ป.2/5) ตา่ งๆ - ปฏิบตั ิตนเพอื่ ความปลอดภัยจากอุบัตเิ หตุในบา้ น - การปฐมพยาบาลเบื้องตน้ โรงเรียนและการเดนิ ทาง(พ 5.1ป.3/1) - แสดงวิธขี อความชว่ ยเหลอื จากบุคคลและแหลง่ ต่างๆ
เมื่อเกิดเหตุรา้ ยหรอื อบุ ัติเหตุ (พ 5.1ป.3/2) - แสดงวิธปี ฐมพยาบาลเมือ่ ได้รบั บาดเจ็บ (พ 5.1ป. 3/3) ภาษาไทย - การถ่ายทอดเรอื่ งราว - พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรือ่ งท่ีฟัง สังคมศึกษา แสดงความคดิ เห็นและความรู้สกึ หรือด(ู ท3.1 ป.1/3, ป.2/5, ป.3/4) วิทยาศาสตร์ ในเหตกุ ารณ์ท่ีพบเห็น - พูดสอื่ สารได้ชดั เจนตามวัตถุประสงค์ (ท 3.1ป.1/4, - การเรยี นรปู้ า้ ยประกาศสญั ลกั ษณ์การ ป.2/6,ป.3/5) เตือนภัยอนั ตราย - บอกความหมายของสญั ลกั ษณท์ ่ีพบเห็นใน ชวี ิตประจำวนั (ท 1.1ป.1/ 7) - ธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของ - มสี ่วนร่วมในการจัดระเบยี บสิ่งแวดลอ้ มท่ีบา้ นและชัน้ สภาพภมู อิ ากาศ เรยี น (ส 5.2ป.1/3) - การวิเคราะหป์ ัญหาที่เปน็ สาเหตกุ าร - สังเกตและบอกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศใน เกดิ ภัยพิบัติธรรมชาติในท้องถ่ิน รอบวัน (ส 5.1ป.1/5) - การทำกจิ กรรมทำแผนทีเ่ ส่ียงภยั - แยกแยะสง่ิ ตา่ งๆรอบตัวทีเ่ กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ - พ้นื ฐานการบำเพ็ญตนใหเ้ ป็น และทม่ี นุษยส์ ร้างข้ึน (ส 5.1 ป.1/1) ประโยชน์ต่อสังคม - บอกสิ่งตา่ งๆทเ่ี กดิ ตามธรรมชาติ ทสี่ ง่ ผลต่อความ - ความเข้าใจและการปฏิบตั ติ นเปน็ เปน็ อยู่ของมนุษย์ (ส 5.2 ป.1/2) พลเมืองดี - ตระหนกั ถงึ การเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดล้อมในชุมชน (ส 5.2 ป.3/5) - มีส่วนร่วมในการฟ้ืนฟูปรับปรงุ สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และชุมชน ( ส 5.2 ป.2/4) - ระบุบทบาทหน้าท่ีของคนในชมุ ชนในการมสี ว่ นร่วม ในกิจกรรมต่างๆ (ส 2.2 ป.3/1) - เขียนแผนผงั งา่ ยๆ เพื่อแสดงตำแหน่งทต่ี ั้งของสถานที่ สำคัญในบริเวณโรงเรยี นและชมุ ชน (ส 5.2 ป.3/2) - การรณรงค์เร่ืองการใชท้ รัพยากรใน - ระบุการใชท้ รัพยากรธรรมชาตทิ ่กี ่อให้เกิดปญั หา ทอ้ งถ่นิ สง่ิ แวดล้อมในท้องถิน่ (ว 2.2 ป.3/2) - กระบวนการเปลีย่ นแปลง สถานะของ - ทดลองและอธิบายผลของการเปลีย่ นแปลงท่ีเกิด อุณหภมู ิโลกท่ีกอ่ ใหเ้ กิดสภาวะโลกร้อน ข้นึ กับวัสดเุ ม่ือถกู แรงกระทำหรอื ทำให้ร้อนขึ้นหรือเย็น และปรากฏการณต์ า่ งๆ เชน่ การไหล ลง (ว 3.2 ป.3/1) ของกระแสน้ำและความเส่ียงภัยพิบตั ิ วตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ ได้แก่
• ให้นกั เรียนเรยี นมีการปฏบิ ตั ติ นได้อย่างเหมาะสม สามารถป้องกนั ตนเอง ดแู ลตนเองและผอู้ ืน่ ให้ ปลอดภยั ไดเ้ มื่อเกิดเหตกุ ารณ์ฉุกเฉนิ • ใหน้ กั เรียนมสี ว่ นรว่ มรณรงค์ในการใชท้ รพั ยากรเพือ่ พทิ ักษ์สิ่งแวดลอ้ ม • ใหน้ ักเรียนศึกษาสาเหตุการเกิดภัยธรรมชาติและรู้จกั การเตรยี มพรอ้ ม กลมุ่ สาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตัวช้ีวดั เรียนรู้ สงั คมศึกษา - การวเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลง - อธบิ ายการเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในท้องถ่นิ และ สภาพแวดล้อม ผลกระทบของการ ผลจากการเปลย่ี นแปลง (ส 5.2 ป. 4/2) เปลี่ยนแปลง และการนำเสนอแนวคดิ - มีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์สิง่ แวดล้อมในจงั หวดั (ส 5.2 การอนรุ ักษ์ ป. 4/3) - การมสี ่วนร่วมในการอนรุ ักษ์ - นำเสนอตัวอย่างทสี่ ะท้อนให้เห็นผลจากการรักษา ส่งิ แวดล้อมในท้องถน่ิ และการทำลายสภาพแวดล้อมและเสนอแนวคิดในการ - การวเิ คราะหส์ าเหตุการเกิดภัยพบิ ตั ิ รักษาสภาพแวดล้อมในภูมิภาค (ส 5.2 ป. 5/3) ธรรมชาตใิ นทอ้ งถิน่ - อธิบายโครงสรา้ ง อำนาจ หน้าท่ี และความสำคัญของ - การขอความชว่ ยเหลอื ในขณะเกิดภยั การปกครองส่วนท้องถนิ่ ในการช่วยเหลือและฟ้นื ฟู หรือภายหลังเกิดภยั สภาพภายภายหลังการเกดิ ภัย (ส 2.2 ป. 5/1) - การทำแผนท่ีเส่ยี งภยั แสดงบริเวณท่ี - ใช้เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ เชน่ แผนท่ี ระบุลักษณะ ปลอดภยั และไม่ปลอดภยั สำคัญทางกายภาพและสังคมของประเทศและอธิบาย - กจิ กรรมอาสาสมคั รในโรงเรียน ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งลักษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตขิ องประเทศ (ส 5.1 ป. 6/1,2 ) วทิ ยาศาสตร์ - สาเหตุการเกิดดนิ ถล่ม - อธบิ ายและจำแนกประเภทของหิน โดยใชล้ กั ษณะ - กระบวนการเปลย่ี นแปลงของผิวโลก ของหิน สมบัติของหนิ เป็นเกณฑแ์ ละการเปลีย่ นแปลง และภายในโลกท่ีเปน็ สาเหตุของธรณี ของหนิ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ (ว 6.1ป. พบิ ัติ 6/1) - กระบวนการไหลของกระแสน้ำและ - สบื ค้นและอธิบายธรณีพิบตั ิทีม่ ีผลตอ่ มนุษย์และ ความเสย่ี งในการเกดิ อทุ กภัย สภาพแวดล้อมในท้องถนิ่ (ว 6.1ป. 6/3) - ทดลองและอธบิ ายการเกดิ วัฏจกั รนำ้ (ว 6./2 ป.5 /2) สุขศึกษา - ทักษะในการป้องกนั ตวั และเห็นคุณค่า - แสดงพฤติกรรมในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา ของความปลอดภัย สงิ่ แวดล้อมทีม่ ผี ลต่อสุขภาพ (พ 4.1ป. 6/1) - การหลกี เลยี่ งปัจจัยเสีย่ งทีท่ ำใหเ้ กิด - วิเคราะห์ผลกระทบจากความรนุ แรงของภยั ธรรมชาติ อันตราย และระบวุ ธิ ีปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาติ (พ 5.1ป. 6/1,2) ในระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนต้น ตอ้ งเพิ่มรายละเอยี ดเน้ือหามากยิ่งขนึ้ และรปู แบบการเรียนการสอน ตอ้ งมีความเป็นรปู ธรรมมากข้ึน ในระดบั นี้ควรมเี ป้าหมายที่ส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นมีการปฏบิ ัติตนในการชว่ ยเหลอื
สังคม เชน่ กจิ กรรมอาสาสมัคร กจิ กรรมพีส่ อนนอ้ ง การสร้างแบบจำลองภัยพิบตั ิ การเตรียมความพร้อมรบั มอื กบั ภยั อย่างเหมาะสม ทกั ษะการปฐมพยาบาลเบ้อื งต้น กลุม่ สาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตวั ช้ีวัด เรียนรู้ • การมสี ่วนรว่ มและบทบาท • เห็นคณุ ค่าในการปฏบิ ตั ิตนตามสถานภาพ สังคมศึกษา ในกจิ กรรมพัฒนาสังคม บทบาทหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีตามวถิ ี ประชาธิปไตย (ส 2.1 ม. 2 / 2) • การวเิ คราะห์และสรปุ เหตกุ ารณภ์ ยั พิบัติโดยใช้ • วิเคราะหเ์ ชอื่ มโยงสาเหตุแนวทางป้องกนั ภยั ขอ้ มลู สารสนเทศ ธรรมชาตแิ ละการระวงั ภยั ทีเ่ กิดขน้ึ ในประเทศ ไทย ทวปี เอเชีย ฯลฯ (ส 5.1ม. 1 / 3) • ประวตั ทิ างธรณวี ทิ ยาและ การเกิดภัยในอดตี • วเิ คราะห์เรือ่ งราวเหตุการณ์สำคัญทาง ประวตั ิศาสตร์ได้อยา่ งมเี หตุผลตามวิธกี ารทาง วทิ ยาศาสตร์ • สาเหตุการเกดิ การเกิดเปน็ ประวตั ศิ าสตร์ (ส 4.1 ม. 3 /1) ภัยพบิ ตั ิ ดินถล่มหรอื หินพัง • สงั เกต วเิ คราะหแ์ ละอภปิ รายการเกิด • ทกั ษะในการสบื คน้ ปรากฏการณ์ทางลมฟา้ อากาศทีม่ ผี ลต่อ มนุษย์ กระบวนการ การเกดิ เป็นภัยพิบัติ (ว 6. ม. 1 / 3) ต่างๆ ท่ีมีผลต่อการเปล่ยี นแปลง • ทดลองและอธบิ ายความสำพันธร์ ะหวา่ งอณุ หภูมิ ภูมิอากาศและภูมิประเทศ ความชน้ื และความกดอากาศทมี่ ผี ลตอ่ ปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศ (ว 6.1ม. 1 / 2) • การสือ่ สารสิ่งทเี่ รยี นรู้และ การจัดทำสือ่ การเรียนรู้ • สืบค้น สร้างแบบจำลองและอธบิ ายกระบวนการ ผพุ ัง การกร่อน การพัดพาและผลของ สุขศกึ ษา • ทกั ษะในการลดความเส่ียง กระบวนการดังกลา่ ว (ว 6.1ม. 2 / 9,10) จากภัยพบิ ัติ • อธบิ ายวธิ ีการหลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมเสย่ี งและ • ทักษะการปฐมพยาบาล สถานการณ์เสยี่ ง (พ 5.1 ม. 2 / 2) เช่น วธิ ีหา้ มเลอื ด พันแผล และปัม๊ หัวใจ • แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลและเคลื่อนยา้ ยผปู้ ว่ ยอยา่ ง ปลอดภัย (พ 5.1ม. 1 / 1) • ทักษะในการเตรยี มความ พร้อมรบั มอื กับภยั • ใชท้ ักษะชวี ิตในการป้องกันตนเองและหลกี เลีย่ ง สถานการณ์คบั ขันทอ่ี าจนำไปสอู่ นั ตราย (พ 5.1 ม. 2 / 3) วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ ไดแ้ ก่ • ส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในกิจกรรมเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัตโิ ดยใชท้ ักษะในเชิงเทคนิค เชน่ การกู้ภยั การแจ้งเตือน เป็นตน้ • การปฏบิ ัตติ นเปน็ ส่วนหน่ึงของครอบครวั โรงเรยี นและชมุ ชนในการดแู ลและเฝา้ ระวังในความ ปลอดภยั กลุ่มสาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตวั ชวี้ ดั เรียนรู้
สงั คมศึกษา - ความรดู้ า้ นอุตนุ ิยมวทิ ยา - วเิ คราะห์อิทธิพลของสภาพภมู ิศาสตร์ท่ีทำให้เกิด วิทยาศาสตร์ สขุ ศึกษา - การวเิ คราะห์ประวตั ิการเกิดภัย ปญั หาทางกายภาพหรือภัยพิบัตทิ างธรรมชาติในประเทศ - การรณรงคแ์ ก้ไขปัญหา ไทยและภูมิภาคตา่ งๆ (ส 5.1ม.4 - 6 /2) สิ่งแวดลอ้ ม - ประเมินการเปลีย่ นแปลงของโลกว่าเป็นผลจากการ กระทำของมนุษยห์ รือธรรมชาติ (ส 5.1ม.4 - 6 /4) - มีส่วนรว่ มในการแกไ้ ขปญั หาและดำเนินชวี ิตตามแนว ทางการอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม(ส 5.2ม.4 - 6 /5) - เพอ่ื ศึกษาสาเหตุการเกิดภยั พิบัติ - วิเคราะหส์ าเหตขุ องปัญหาส่ิงแวดล้อมและ - มีทกั ษะในการสบื ค้นและการทำ ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิน่ ระดบั ประเทศ และ โครงงานด้านการเปลีย่ นแปลงทาง ระดับโลก (ว 2.2 ม.4 - 6 /1) ธรณีวทิ ยา เพ่ือส่ือสารส่ิงท่เี รียนรู้ - อภปิ รายแนวทางในการปอ้ งกันแก้ไขปัญหาปญั หา ใหเ้ หน็ เป็นรูปธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม(ว 2.2 ม.4 - 6 /2) - วางแผนและดำเนนิ การเฝา้ ระวัง อนรุ กั ษ์และพฒั นา สงิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต(ิ ว 2.2 ม.4 - 6/3) - สบื คน้ ทดลอง เลียนแบบ และอธิบายกระบวนการ เปล่ยี นแปลงทางธรณภี าคของโลก (ว 6.1 ม.4 - 6 /3,4) - ทักษะในการจัดทำแผนลดความ - วางแผน กำหนดแนวทางลดอบุ ัตภิ ยั และการสร้างเสรมิ เสย่ี งจากภัยพิบตั ิ ความปลอดภยั ในชุมชน (พ 5.1 ม.4 - 6 /4) - ทักษะและความสามารถในการ - มีสว่ นรว่ มในการสรา้ งเสริมความปลอดภัยในชุมชน (พ เผชญิ กับสถานการณภ์ ยั พบิ ัติ 5.1 ม.4 - 6 /5) - ทกั ษะการปฐมพยาบาล เชน่ วิธี - ใช้ทกั ษะชีวิตในการตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์ ห้ามเลือด พันแผล และปั๊มหัวใจ เสยี่ งและความรนุ แรง (พ 5.1ม.4 - 6 /6) - แสดงวิธกี ารช่วยเหลอื ชีวติ คนอยา่ งถูกวธิ (ี พ 5.1 ม.4 - 6 /7) นอกเหนอื จากเนือ้ หาในหลกั สตู รแกนกลางแลว้ ครผู ู้สอนสามารถสืบค้นเนอื้ หาสาระเพ่มิ เตมิ ไดจ้ าก แหล่งข้อมูลต่อไปนี้ หนว่ ยงาน • กรมอตุ ุนยิ มวทิ ยา https://www.tmd.go.th/ • TK Park สอ่ื การเรียนร้อู ิเลก็ ทรอนิกสใ์ นรูปแบบ E-book Audio book และ Application https://www.tkpark.or.th/tha/digital_content • ศนู ยเ์ ตอื นภยั พิบตั ิแหง่ ชาติ คลังความรูเ้ พ่ือการเตือนภัย http://www.ndwc.go.th/ • กรมทรัพยากรธรณี สื่อเผยแพรค่ วามรู้ธรณีพบิ ตั ิ ภยั http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=6816 • กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั หนงั สือชดุ เรยี นรสู้ าธารณภยั (http://122.155.1.141/inner.PRDPM-6.53/cms/menu_1762/603.1/) หนังสอื อ้างอิง
• หนงั สอื แนวทางการจัดการเรียนรูเ้ ร่อื งการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัติและการรับมือกับความ เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (อา่ นเพ่มิ เตมิ ) • หนังสอื จากเวบไซต์ทักษะชีวิตของ สพฐ.เรื่องภยั พบิ ตั ธิ รรมชาติ (อ่านเพ่ิมเตมิ ) • สารานกุ รมไทยสำหรบั เยาวชน (อ่านเพมิ่ เติม) สือ่ วิดีทัศน์ คลงั ส่ือการสอนของ สพฐ. (DLIT Resources) ซ่งึ เปน็ วดิ ีโอการสอนหัวข้อทีย่ ากของ 5 กลุม่ สาระฯ ตอนละ 50 นาที สำหรับหอ้ งเรียนท่ขี าดครูตรงกลุม่ สาระฯ และนักเรียนท่ตี อ้ งการทบทวน • หอ้ งเรยี นแหง่ คุณภาพ (DLIT Classroom) (อา่ นเพมิ่ เตมิ ) • ส่ือวิดีทศั นใ์ ห้ความรูเ้ ก่ียวกบั การรบั มอื อทุ กภัยจากองคก์ รช่วยเหลอื เดก็ เรอื่ งตุ่นน้อยตื่นตัว จาก องค์กรชว่ ยเหลือเดก็ ตามคู่มือการจดั หลกั สตู รการเรียนการสอนเร่ืองภัยพบิ ัตแิ ละการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของ สพฐ ได้ กำหนดตัวชวี้ ดั คุณภาพนักเรยี นไว้ดงั นี้ 1. ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ ประเมินผลจากการตอบคำถามและการทำงานกลุ่ม 2. ดา้ นทักษะ ประเมนิ ผลจากผลงาน กระบวนการหรือขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ พฤติกรรมในการทำงานกลมุ่ และการนำเสนอผลงาน โดยพจิ ารณาเนื้อหา ความถูกต้อง ความสอดคล้อง ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการนำเสนอ 3. ด้านเจตคติ ประเมินจากความรบั ผดิ ชอบ ความเสียสละ ความมรี ะเบยี บ การตรงต่อเวลา การมีส่วน รว่ มในกระบวนการกล่มุ ตัวชว้ี ัดคณุ ภาพครูท่จี ดั การเรียนการสอนเรื่องภัยพบิ ตั ิฯ มีดงั น้ี 1. ครมู คี วามรเู้ ก่ียวกับการลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตแิ ละการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. ครูใช้เทคนิคท่ีหลากหลายในการจดั การเรียนรู้ โดยเฉพาะวิธีการทใ่ี หเ้ ด็กเป็นศนู ย์กลางและมสี ว่ นร่วม 3. ครสู ามารถแลกเปลี่ยนประสบการณใ์ นการจัดการเรียนรูก้ ับสถานศกึ ษาอน่ื ๆ ตวั ชว้ี ัดคณุ ภาพผ้บู รหิ ารในการบรหิ ารจดั การความปลอดภัยรอบดา้ นในสถานศึกษา มดี ังนี้ 1. ผบู้ รหิ ารมวี ิสัยทัศนใ์ นการจดั การศกึ ษาเรื่องการการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิและการรับมอื กับการ เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. ผบู้ ริหารมีความสามารถในการบริหารจดั การภัยพบิ ตั ิภายใต้สภาวการณก์ ดดันอย่างมีประสิทธภิ าพ 3. ผู้บรหิ ารมีความสามารถในการประสานภาคเี ครือข่ายเพื่อความร่วมมือในการจดั การเรียนรู้ (เช่น สถานศึกษา องคก์ รเอกชน หนว่ ยงานราชการ ฯลฯ) ผบู้ รหิ ารมคี วามสามารถในการนิเทศติดตามผลการดำเนนิ งาน บทที่ 4 การจดั เรยี นการสอน การจดั กิจกรรมเสริมสตู รและพฒั นาผู้เรียน
ทักษะชีวิต เรื่องภัยพิบัตธิ รรมชาติ (อา่ นเพ่ิมเตมิ ) การศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21 เปน็ การศกึ ษาที่มจี ุดเนน้ อยู่ตรงการสรา้ งใหเ้ ยาวชนมีทักษะชวี ิต ทกั ษะการเรียนรู้ และทักษะการทำงานร่วมกบั ผู้อืน่ เพือ่ ท่วี ่าพวกเขาจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้ทา่ มกลางวิกฤตการณ์ ของโลก ทงั้ ทีเ่ กิดจากปญั หาทางสงั คมและภยั พบิ ัติทางธรรมชาตทิ ่ีนบั วนั ก็มแี ต่จะทวีความรุนแรงยิ่งข้นึ ทุกวัน การสรา้ งนวตกรรมการเรียนรู้ทสี่ ง่ เสรมิ ทักษะชีวิตจึงเป็นทางเลอื กหนง่ึ ในการสร้างเด็กและเยาวชนที่รูเ้ ท่าทนั ภยั และอยรู่ อดปลอดภัย ปจั จยั แหง่ ความสำเรจ็ นำนวัตกรรมการเรียนรู้เก่ยี วกับภยั พบิ ตั ิไปใช้สำคญั 3 ประการ คือ • ก่อนการนำไปใช้ ครูสอนต้องหาความรอู้ ยา่ งลึกซึง้ และละเอียด และหากเปน็ ไปได้ ผู้เรียนควรได้ เรียนรู้ประสบการณ์ของผปู้ ระสบภัยโดยตรง • การออกแบบการเรียนรตู้ ้องเป็นไปอย่างสนุกสนาน นกั เรยี นจะมคี วามยินดใี นการเรยี นรู้เรือ่ งเดมิ ได้ บ่อยครง้ั • ส่ือประกอบการเรียนรู้ตอ้ งออกแบบให้น่าสนใจและง่ายต่อการจดจำ ตวั อยา่ งเชน่ ผูส้ อนสามารถสร้างการเรยี นร้ใู นหัวข้อผ้ปู ระสบภัยใช้เทคนคิ อะไรในการรบั มือภยั พบิ ตั ิบ้าง แลว้ นำมาทำให้นา่ สนใจโดยประมวลออกมาเปน็ เกม ละครหรือกลายเปน็ ส่ือในการเรยี นการสอนตา่ งๆ ที่จะช่วยให้ ผูเ้ รยี นเกดิ การสง่ั สมความรเู้ ร่ืองการใชช้ ีวติ ระหวา่ งประสบภยั พบิ ตั ิก่อนที่จะได้เผชญิ หน้ากับเหตุการณจ์ ริง โดย โรงเรียนมหี นา้ ท่ีหลักในการเช่อื มโยงความรู้พ้นื ฐานเขา้ กับความสามารถในการจัดการเมือ่ เกดิ เหตกุ ารณภ์ ัย พิบัติ เชน่ การนับจำนวนผู้บาดเจบ็ การทำแผนท่ีเสย่ี งภยั ของโรงเรียน การทำกราฟ การซ้อมอพยพ เป็นต้น ในการจดั กิจกรรมหลักและกิจกรรมเสริมเรือ่ งการลดความเส่ยี งภัยพิบตั ิและการรบั มือกับการเปลย่ี นแปลง สภาพภมู ิอากาศควรเนน้ การมีส่วนร่วมและการใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ของนักเรยี นในการสรา้ งกจิ กรรม เน้น การใช้ความคิดเชงิ วิเคราะห์เพื่อจะทำให้เดก็ และเยาวชนเกิดความตระหนักในประเด็นปัญหา คิดค้นการแก้ไข ปัญหาทถ่ี ูกต้องเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสร้างภาวะผนู้ ำ กิจกรรมเสริมหลักสูตร เชน่ กิจกรรม อาสาสมคั รก็สามารถใช้เปน็ ส่วนหนึ่งในการชว่ ยสร้างเครือข่าย ระดมทรัพยากร ความรู้ จากชมุ ชน มาชว่ ยใน การลดความเสยี่ งภัยพิบัติ สำหรับวธิ กี ารจดั กจิ กรรมน้นั อาจจะเปน็ การนำประเดน็ เรอื่ งภัยพบิ ัติเขา้ ไปสอดแทรกในกิจกรรมเดิมท่ีมีอยู่ แล้ว เช่น ในงานกีฬาสี งานนิทรรศการ กิจกรรมชมรม กลุ่มอาสาสมัคร การทำโครงการระยะสน้ั การจัดเวที เผยแพร่ความรใู้ นชว่ งพักกลางวนั การสอดแทรกทักษะการเอาตัวรอดในวชิ าลกู เสอื เนตรนารี เปน็ ต้น โดยครู
มหี นา้ ท่ชี ่วยชใี้ ห้เห็นถงึ ความสอดคล้องของกจิ กรรมนัน้ ๆกับประเด็นดา้ นการลดความเสี่ยงภยั พบิ ตั แิ ละการ รบั มือกบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นท่ีสามารถสอดแทรกไปในการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมเสริมหลกั สตู ร ได้แก่ • การสำรวจชมุ ชนรอบสถานศึกษา เพ่ือความเข้าใจทางสังคมและการระบุประเด็นปัญหาความเสยี่ งภยั • การชว่ ยกันสอดส่องค้นหาจดุ เส่ยี งภัย เชน่ บอ่ น้ำ ทางลาด ถนนท่ีมหี ลมุ บ่อ ทางอับสายตา จดุ ท่ี อาจจะเกดิ เพลงิ ไหม้ • การทำโครงการขยะแลกสงิ่ ของ เช่น ต้นไม้ ไขต่ ้ม ทำโครงการธนาคารรไี ซเคิล วสั ดุเหลือใช้ • การประหยัดนำ้ การช่วยกนั สอดส่องดูแลก๊อกนำ้ ท่อนำ้ ท่อประปา ถังเก็บน้ำ • การใช้ความคิดประดิษฐส์ ง่ิ ของต่างๆเพอ่ื ช่วยประหยัดพลังงาน • การปลกู ตน้ ไม้ พชื คลุมดนิ เพ่ือปอ้ งกันการเสียหายพังทลายของหนา้ ดนิ • การทำสวนครัวลอยน้ำในพนื้ ทน่ี ำ้ ท่วม การปลูกพชื อาหารเพ่อื ใช้เปน็ แหล่งอาหารเวลาเกิดอทุ กภยั • การลดการใช้สารเคมี ถุงพลาสติค • การฝกึ ให้ลา้ งมืออยา่ งถูกต้องและมนี ิสยั รกั ความสะอาด มีสุขอนามัยทด่ี ี • การฝกึ ฝนข้ันตอนการปฏบิ ัติเมอ่ื เกิดเหตุฉุกเฉินตามแผนจดั การภยั พิบัติของสถานศึกษา • การส่งเสรมิ ความสามัคคี ช่วยเหลือผอู้ น่ื เชน่ วธิ ีการชว่ ยเหลอื คนพิการ การนำทางคนตาบอด • การฝกึ ปฐมพยาบาล การฝกึ การเคลอ่ื นยา้ ยผู้บาดเจบ็ • การจัดเตรยี มกระเปา๋ ฉุกเฉนิ สำรองสำหรบั หอ้ งเรียน • การฝึกดบั เพลิง • การสำรวจเสน้ ทางอพยพและเก็บสงิ่ ของให้เป็นระเบยี บตามเส้นทางทใ่ี ช้อพยพ • การจราจรและการป้องกันอบุ ัตเิ หตุ • การจัดกจิ กรรมชว่ ยชวี ิต การปรับตัวในวิชาลูกเสือ เนตรนารี • มกี ิจกรรมการประกวดโครงการวิทยาศาสตร์ของระดับปฐมวยั และมหี ้องเรยี นวิทยาศาสตร์ เพ่อื จงู ใจ ใหเ้ ด็กสนใจเรยี นและสนุกกับการเรยี น ประกอบไปด้วย ห้องดิน ใหค้ วามรเู้ กี่ยวกบั ภัยพบิ ัติท่ีเกดิ ข้นึ จากดิน เช่น ดินสไลด์ แผ่นดนิ ไหว ประเภทและ ชนิดของดิน ชัน้ ดนิ ชนดิ ต่างๆ สาเหตขุ องภัยพิบัติทเี่ กิดจากดิน การตรวจสอบสภาพของดิน การ อนุรักษ์ดิน และการป้องกนั ภัยพบิ ตั ทิ ่เี กิดจากดิน เป็นต้น
ห้องน้ำ ให้ความร้เู กี่ยวกับภยั พบิ ตั ทิ ่เี กิดจากนำ้ เช่น น้ำทว่ ม นำ้ ป่าไหลหลาก ฝนตก นำ้ เนา่ เสีย ทางน้ำไหล ตน้ น้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แหล่งกำเนดิ ของนำ้ การเฝา้ ระวังสงั เกตระดับนำ้ และให้ความรู้ เรื่องการป้องกันภยั พิบัตจิ ากนำ้ เช่น การทำฝาย การไมต่ ัดตน้ ไม้ การปลกู ต้นไม้ทดแทน เป็นตน้ รวมถงึ วธิ กี ารเอาตัวรอดเมื่อเกดิ ภัยพิบตั ิทางนำ้ ดว้ ย ห้องลม ให้ความรูเ้ ก่ยี วกบั ภยั พิบตั ิทีเ่ กดิ จากลม เชน่ ลมพายุ ลมประจำฤดู การสำรวจทศิ ทาง ของลม ความเสยี หายที่เกดิ จากลม และการรับมือเมื่อเกดิ ภัยพิบตั ิจากลม ห้องไฟ ให้ความรูเ้ กีย่ วกบั ภยั ธรรมชาตทิ ่เี กดิ จากไป เช่น ไฟป่า ไฟท่ีเกดิ จากฝีมือมนุษย์ ผลกระทบของไฟ และวิธกี ารเอาตัวรอดเมื่อเกดิ ไฟไหม้ เจแปนฟาวน์เดชัน่ กรุงเทพฯ (The Japan Foundation, Bangkok) ร่วมกบั กลุ่ม “รู้แล้วรอด” Design for Disaster (D4D) และเอน็ พีโอ พลัส อารต์ (NPO Plus Arts) ประเทศญปี่ นุ่ จดั กจิ กรรม “Red Bear Survival Camp in Thailand” เพ่ือใหค้ รู นักเรียน และ อาสาสมคั รป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยได้เรียนรู้ และสร้างเสริมประสบการณ์การเอาตัวรอดเม่อื เกิดภยั พบิ ัติแบบต่าง ๆ อาทิ นำ้ ทว่ ม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ดนิ โคลนถลม่ โดยมีกิจกรรมฐานการเรียนรู้ทง้ั หมด 13 ฐาน ซึ่งในแต่ละฐานจะมีกิจกรรมการเรียนรทู้ ีแ่ ตกตา่ งกัน ออกไป แตล่ ะกิจกรรมจะเป็นการเสริมสร้างสติปญั ญาท่จี ะแก้ไขปญั หาในภาวะฉุกเฉนิ สรา้ งความสามัคคี และ สามารถช่วยเหลอื ตนเองและผอู้ นื่ ในสถานการณ์ภยั พบิ ตั ติ ่าง ๆ ท่อี าจเกิดข้ึนได้ ทม่ี า: เจแปนฟาวน์เดชนั่ กรุงเทพฯ, 2557 • กรณีศึกษา โรงเรียนวดั ถนน ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
“เรื่องภัยพิบัติถือว่าเปน็ หนา้ ทห่ี ลกั ของโรงเรยี นและครอู ยู่แลว้ ในการดูแลความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน ของนักเรยี น อันหน่งึ ถือว่าเป็นการปฏบิ ตั โิ ดยหนา้ ที่ และสองถือว่าเป็นการปฏบิ ัติโดยสามัญสำนึกของความ เปน็ ครทู ีจ่ ะต้องดูแลเร่ืองเหล่านี้” (นายวทิ ยา รัตนธารากร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดถนน จ. อ่างทอง, 2560) • กจิ กรรมสอนว่ายนำ้ กิจกรรมสอนให้นกั เรยี นทุกคนวา่ ยน้ำ เมือ่ ปี 2538 มเี หตกุ ารณน์ ำ้ ท่วม ใหญ่ เน่อื งจากโรงเรยี นและชุมชนเป็นพ้ืนทีท่ ่ีอยู่ตดิ แม่นำ้ เจ้าพระยาแตเ่ ดมิ เด็กทุกคนจะว่ายน้ำเป็น เพราะบ้านอยู่ตดิ แม่น้ำ แต่เมื่อปี 2538 เหตกุ ารณน์ ำ้ ท่วมดงั กล่าวทำให้มีเดก็ จมน้ำเสียชวี ิต ทำให้ ผปู้ กครองเด็กส่วนใหญ่ไมก่ ล้าท่จี ะให้เด็กลงเล่นน้ำ ทำให้เด็กจำนวนมากว่ายนำ้ ไมเ่ ปน็ ถงึ แมจ้ ะมีบา้ น อยตู่ ิดริมแม่น้ำก็ตาม และเมื่อปี 2554 เกดิ เหตกุ ารณน์ ำ้ ท่วมหนกั อกี ครง้ั ทำใหช้ าวบ้านจำนวนมาก อพยพครอบครัวหนนี ำ้ โดยใชเ้ รือ ทำใหเ้ กิดเหตกุ ารณเ์ ร่อื ล่มมเี ด็กเสียชีวิต จึงทำใหเ้ ด็ก ๆ ในชุมชน แหง่ น้ไี ม่กลา้ ทีจ่ ะลงเล่นน้ำส่งผลใหเ้ ด็กส่วนใหญม่ ากถงึ 70% ว่ายน้ำไมเ่ ป็น ทางโรงเรยี นจงึ ได้ทำ กิจกรรมสอนใหเ้ ดก็ นักเรียนว่ายน้ำเปน็ โดยพาเด็กไปฝกึ ว่าน้ำที่สวนนำ้ จ. อยุธยา ทำให้เด็ก ๆ สนกุ และชอบกิจกรรมน้ีมาก และยังเป็นประโยชนต์ ่อตัวเด็กเวลาเกิดภยั พบิ ตั ิน้ำท่วมกจ็ ะสามารถเอาตัว รอดได้ • การบรู ณาการหลักสตู รการเรียนรู้เก่ยี วกบั ภยั พบิ ัติ
“ทางโรงเรียนได้บูรณาการการเรยี นร้เู กย่ี วกบั ภัยพบิ ัตใิ นรายวิชาท่เี กี่ยวข้องและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น” (ดร. ทองระย้า นัยชติ , 2560) ความรู้เรอ่ื งภยั พิบตั ิ มกี ารบูรณาการเขา้ กับทุกกลุม่ สาระการเรียนรู้ เชน่ วิชา คณติ ศาสตร์ ภาษาไทย สงั คม สุขศึกษา เป็นต้น วิชาคณิตศาสตร์ ครูสอนโดยกำหนดโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับภยั พิบตั ิ วชิ าวิทยาศาสตร์ จะเรยี นรเู้ กยี่ วกับกระบวนการเปล่ียนแปลงของ โลกท่สี ่งผลกระทบทำใหเ้ กิด ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม ฯลฯ วชิ า สุขศกึ ษาจะให้ความรู้เก่ยี วกับชีวติ ปลอดภยั การเอาตัวรอด เมือ่ เกดิ ภยั พิบัติ วิชาภาษาต่างประเทศ ครจู ะสอน คำศัพท์ตา่ งๆ เกี่ยวกับภยั พบิ ัติ วชิ าการงานพนื้ ฐานอาชพี และเทคโนโลยีมกี ารสอนให้นักเรียน ทาเส้ือชชู พี จาก ขวดนำ้ พลาสติกทเ่ี หลอื ใช้ รองเทา้ บูททำจากถงุ ดำ เปน็ ต้น • การซอ่ มแซมอาคารสถานที่และสรา้ งแนวคนั ดิน เนอ่ื งจากทางโรงเรยี นมีพน้ื ที่ติดกับแมน่ ำ้ เวลามฝี นตกหนักนำ้ ไหลหลากก็จะทำให้น้ำลน้ ตลิง่ เขา้ มาใน โรงเรียน ทางโรงเรียนไดง้ บประมาณมาชว่ ยเหลอื จากองค์การบรหิ ารสว่ นตำบลเรอ่ื งภยั พิบตั ิอทุ กภยั แตท่ าง โรงเรยี นไม่ได้นำเงินไปสร้างอาคารส่ิงก่อสร้าง แต่ได้นำงบประมาณทีไ่ ด้มาสร้างคนั ดนิ เป็นแนวกนั น้ำทว่ มตลอด แนวฝงั่ แม่นำ้ ทำให้มีการขยายผลสร้างคนั ดนิ กัน้ น้ำริมแม่นำ้ ตลอดสายท้ังชมุ ชน ทำให้สามารถแก้ไขปญั หาน้ำ ท่วมของโรงเรยี นและชุมชนได้เปน็ อยา่ งดี
• เสียงสะท้อนจากนักเรยี น จากการสมั ภาษณ์พบวา่ นกั เรียนมีความเขา้ ใจในแนวทางการเตรยี มความพร้อมกบั ภยั พิบตั ทิ อ่ี าจต้อง เผชญิ ตัวอย่างความเห็นของนกั เรยี นเมอ่ื ตอ้ งประสบภยั พิบตั ิ ดงั นี้ “ถา้ เกิดน้ำทว่ ม ใหเ้ กบ็ ของข้ึนทสี่ งู จับราวบนั ไดอย่างช้าๆ ไมว่ งิ่ เชค็ เพื่อนในห้องวา่ ครบมัย้ แล้วไปทีจ่ ุดรวม พล ครโู ทรแจง้ ผปู้ กครอง” “หากมีคนจมน้ำ ใหค้ นเห็นคนตกน้ำตะโกน “ชว่ ยดว้ ยๆ! มีคนจมน้ำ ไม่ตอ้ งตกใจ ตีขาไว้ เตะขาไว้ มคี นมา ชว่ ยแลว้ ” แลว้ ชว่ ยเหลอื ปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ เช่น mount to mount โดยยกคางข้นึ เล็กน้อยใหห้ ายใจ สะดวกขึน้ เรยี กชื่อเรือ่ ยๆจนกวา่ จะฟน้ื และรีบพาไปโรงพยาบาล ” “ถา้ เกดิ ไฟไหม้ ให้หิว้ น้ำเป็นทอดๆแล้วคนสุดทา้ ยก็เอาน้ำมาสาดเพื่อดบั ไฟ” โรงเรียนบา้ นผาเดอื่ ตำบลแมส่ ลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โรงเรยี นบ้านผาเด่อื ต้งั อยู่เลขท่ี 111 หมู่ 6 ตำบลแมส่ ลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวดั เชียงราย มี เนือ้ ทป่ี ระมาณ 15 ไร่ พนื้ ทต่ี ้ังอยใู่ นเขตป่าสงวนแหง่ ชาติ เป็นป่าอนรุ กั ษ์ตน้ นำ้ ลุ่มแมน่ ้ำจนั แต่เดมิ เป็นศนู ย์ พัฒนาเดก็ ก่อนวัยเรียน ของศูนยพ์ ฒั นาชาวเขาจงั หวดั เชยี งราย มนี ักเรยี น 65 คน ปจั จุบนั พฒั นามาเปน็ โรงเรยี น และจัดการเรยี นการสอนตง้ั แตร่ ะดบั ปฐมวัย จนถึง ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 มนี ักเรยี นมากกว่า 100 คน เด็กนักเรยี นทัง้ หมดเป็นชาวเขา 100% ชุมชนบา้ นผาเดือ่ เป็นชุมชนชาวเขาดั้งเดมิ อาศยั อยู่ในสภาพภมู ิ ประเทศเปน็ ทร่ี าบสงู อดีตพนื้ ทีบ่ รเิ วณนีเ้ คยเป็นปา่ อุดมสมบรู ณ์ ปัจจุบันป่า ไม้ได้ถูกทำลายไปเปน็ จำนวนมาก แปรสภาพเป็นพนื้ ท่ีการเกษตร ส่งผลให้ เกิดปัญหาภัยพบิ ัตใิ นพนื้ ท่ตี า่ งๆ มากมาย และปญั หาทพ่ี บมากท่สี ุดได้แก่ ไฟ ปา่ ดินถล่ม น้ำท่วมขัง ปัญหาการใชส้ ารเคมี และปญั หาแผ่นดินไหวเพราะอยู่ ชว่ งรอยเล่ือนแม่จัน ปัญหาดังกลา่ วในอดีตยงั ไม่มีหนว่ ยงานใดเข้ามาให้ ความรกู้ บั ชาวบา้ น ซึ่งทางโรงเรยี นเป็นหน่วยงานแรกทต่ี ระหนักถงึ ความสำคญั ของปัญหาภัยพบิ ัติ
ทางโรงเรียนจึงได้คิดแผนปฏิบตั กิ ารเพ่ือจดั การกับภัยพิบัติ โดยใช้ชือ่ แผนว่า Safe School เปน็ การ จดั การเรียนการสอบแบบบรู ณาการในหลักสูตร เฉพาะระดับปฐมวยั โดยเนน้ การสอดแทรกใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ภัยพบิ ัติ มกี ารจัดทำหลักสตู รภาษาเย้า เนอ่ื งจากนกั เรยี นท้งั หมดเปน็ ชาวเขาเผาเยา้ (อิวเมี่ยน) และมี ภาษาทใี่ ชส้ ่อื สารเป็นของตัวเอง ทำให้มีอปุ สรรคในการส่ือสารระหว่างผสู้ อนและผ้เู รียน เนือ่ งจากครผู ้สู อนใช้ ภาษากลางไมม่ ีความเขา้ ใจในภาษาเยา้ และผ้ปู กครองของเด็กนักเรียนทั้งหมดใชภ้ าษาเย้าเป็นภาษาหลกั ใน การส่อื สาร ไม่มีความเข้าในภาษากลางเช่นกนั โดยคุณครเู มธญิ า ยะขาว ไดจ้ ัดทำหนงั สือภาพชุดภยั พิบัติใน ชมุ ชนสำหรับเด็กปฐมวัยกลุ่มชาติพันธ์ุชนเผา่ เย้า (อวิ เม่ียน) ซง่ึ ภายในหนังสอื จะมีภาษาคาราโอเกะเป็นภาษา ชนเผา่ เยา้ (อวิ เมีย่ น) และมีคำแปลเปน็ ภาษากลาง ซึ่งทำให้สามารถใช้ในการจัดการเรยี นการสอนให้เด็กเขาใจ ได้เปน็ อย่างดี โดยเน้นคำศัพทเ์ ก่ียวกบั ภยั พบิ ัติ และประโยคสนทนาเกยี่ วกบั ภัยพบิ ตั ิ เพื่อให้เป็นประโยชนต์ ่อ ผู้ปกครองและเด็กที่ไมเ่ ข้าใจภาษากลางทำให้เขา้ และสามารถส่อื สารกันเข้าใจงา่ ยมากย่ิงขึ้น ถือวา่ เป็นการชว่ ย ชมุ จัดการภยั พิบัติไดเ้ ป็นอยา่ งดี (ท่ีมา รายงานการถอดบทเรียน โครงการการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานภาคการศึกษาและหน่วยงาน เกี่ยวข้องดา้ นการลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ใิ นประเทศไทยเรอ่ื งความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียนของ องค์การช่วยเหลอื เดก็ ) บทที่ 4 การจดั เรยี นการสอน บทบาทอาสาสมคั รในสถานการณภ์ ัยพิบตั ิ ค่มู อื อาสาสมัครในสถานการณภ์ ัยพิบัติ (อา่ นเพ่ิมเตมิ )
การมุ่งเน้นปลูกฝังใหเ้ ยาวชนมจี ิตสาธารณะพร้อมท่จี ะช่วยเหลือสังคมนั้นสอดคล้องกบั จุดมุ่งหมายของการ จดั การศึกษาข้ันพื้นฐานพทุ ธศักราช 2551 ในด้านการพัฒนาคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผูเ้ รยี นดา้ นจิต สาธารณะ การปลกู จติ สำนึกด้านจิตสาธารณะ ( Public Mind ) ให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสงั คม เปน็ การสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรมจากภายใน ใหบ้ ุคคลรู้จักเสยี สละ รว่ มแรงรว่ มใจและ รว่ มมือในการทำกิจกรรมที่ เป็นประโยชน์เพื่อสว่ นรวม การเปน็ อาสาสมัครในสถานการณภ์ ยั พบิ ัตนิ ัน้ มีหนา้ ทีร่ บั ผดิ ชอบท่ีสามารถทำได้ ต้งั แตก่ ่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลงั จากเกิดเหตุไปแลว้ ครจู ะตอ้ งสอนใหน้ ักเรยี นมีทศั นคติท่ีถูกต้อง มี การเตรียมพรอ้ มทง้ั รา่ งกาย จิตใจ มีความร้เู ก่ยี วกับภัย และมีทักษะในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย เชน่ • รู้จกั ประเมนิ ขดี จำกัดของตัวเอง ทั้งในด้านพละกำลัง จิตใจ รวมไปถึงทักษะความเชย่ี วชาญ • ทำความเข้าใจในงานกับเจ้าหนา้ ทก่ี ่อนปฏบิ ัตงิ าน และเขา้ ฝึกอบรมให้ครบตามข้อกำหนด • แตง่ กายใหเ้ หมาะสมกบั งาน และรจู้ ักใช้อปุ กรณ์ทชี่ ว่ ยป้องกันหรอื รักษาความปลอดภยั อย่างเครง่ ครดั • รับประทานอาหาร ด่ืมน้ำและพักผ่อนให้เพยี งพอ • อยา่ นำพาตวั เองไปอยูใ่ นสถานการณท์ ี่สุม่ เสยี่ งหรอื อันตราย • รบั ทราบและวางแผนถงึ ช่องทางการติดต่อขอความชว่ ยเหลือ หากเกิดกรณีฉกุ เฉิน • ในกรณีท่ีต้องเผชญิ เหตุการณ์อนั ตราย ควรรบั มืออยา่ งมีสติ • รู้จักภัย ลักษณะการเกดิ และผลกระทบ • หากต้องใหค้ วามช่วยเหลือคนพกิ าร ให้สอบถามความต้องการของคนพิการหรอื ผ้ดู ูแลกอ่ นเสมอ ไม่สรา้ งปัญหาใหมใ่ ห้กบั ผู้ประสบภัย หรือผ้ปู ฏบิ ตั ิงานในพื้นที่ บทท่ี 4 การจัดเรยี นการสอน แนวทางการพัฒนาส่ือการเรียนการสอนและสอ่ื รณรงค์ ค่มู อื “พลังเด็กและเยาวชนลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ ในโรงเรียนและชมุ ชน”จดั ทำโดยองค์การชว่ ยเหลอื เด็ก (2008) มีขัน้ ตอนการจดั อบรมให้เด็กและเยาวชนจัดทำส่ือรณรงค์เพื่อลดความเส่ียงภัยพบิ ตั ไิ ด้ โดยการสรา้ ง ความตระหนักในโรงเรยี นและชมุ ชนสามารถทำไดห้ ลายช่องทาง เชน่ การจัดรณรงค์ การเดิน วทิ ยชุ ุมชน การ จดั นทิ รรศการ เปน็ ต้น หลักการเบอ้ื งต้นในการจดั ทำสอื่ รณรงค์ • สอื่ รณรงค์มีเป้าหมาย 3 ขั้นตอน คือ เพือ่ ให้ความรู้ เปลย่ี นทัศนคติ เปลีย่ นพฤติกรรมหรอื ทั้ง 3 อยา่ ง • สอ่ื รณรงคม์ หี ลากหลายรูปแบบ เช่น ละคร รายการวิทยุ โปสเตอร์ แผน่ พับ ฯลฯ การรณรงค์ในเรื่อง ใดเร่ืองหน่ึง สามารถเลือกใช้สื่อได้มากกว่า 1 ประเภท นอกจากนี้ยังตอ้ งคำนงึ ถึงการจดั ทำส่ือรณรงค์ ที่เข้าถึงคนพิการทุกประเภท เช่น การใชเ้ ทคโนโลยีเพอื่ ช่วยเหลอื การเรยี นรู้สำหรับเดก็ นักเรียนที่มี ความพิการทางสายตา การใช้ส่ือภาษามือทถ่ี ูกต้องสำหรบั เดก็ ท่ีพกิ ารทางการไดย้ ิน การใชล้ ่ามภาษา มือ การผลิตสอ่ื ทางการเหน็ ค์สำหรับเด็กพิการทางการได้ยิน ตลอดจนการเลอื กใชช้ ่องทางการเรียนรู้ ทีเ่ หมาะสมกบั ความพิการ • การจดั ทำสือ่ รณรงค์ต้องมีกลุ่มเปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์ที่ชดั เจน เพือ่ ใหเ้ น้ือหาและรูปแบบของ สือ่ ชัดเจนและเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย o มงุ่ เนน้ ไปท่กี ลุม่ เปา้ หมายหนึง่ โดยเฉพาะ เชน่ ผูห้ ญิง แมบ่ ้าน เด็ก เด็กพกิ าร ผู้ดูแลคนพิการ ผู้ชาย ผู้ชายวัยรนุ่ เปน็ ต้น o มีวัตถุประสงค์ท่ชี ัดเจนวา่ การรณรงค์นนั้ เพ่อื เปลี่ยนแปลงอะไร : ความรู้ ทศั นคติ หรอื พฤติกรรม
การจัดทำส่ือรณรงค์เพ่ือให้ความร้เู กยี่ วกบั ภัยพิบตั ิ ต้องทำความเขา้ ใจในเร่ืองต่อไปนี้ • สถานการณเ์ ดิมก่อนจัดทำส่ือรณรงค์ เชน่ ชุมชนหนึ่งซง่ึ มคี วามเสี่ยงตอ่ ภัยน้ำทว่ ม ผ้ชู ายมกั ยืนยนั จะ อยบู่ ้าน ไม่ยอมอพยพหนี • ความรู้ พฤติกรรม หรอื ทัศนคตขิ องกล่มุ เปา้ หมายทน่ี ำไปสู่ความเสยี่ ง เช่น เมอ่ื วิเคราะห์แลว้ พบว่า พฤติกรรมที่ไม่ยอมอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเม่ือเกิดนำ้ ท่วมอย่างรุนแรง นำไปสูค่ วามเสี่ยงต่าง ๆ เชน่ การบาดเจบ็ สญู เสียชีวติ เป็นตน้ ความเปลีย่ นแปลงท่ีอยากให้เกดิ ข้ึนหลงั จากเผยแพรส่ ื่อรณรงค์ เช่น ต้งั เปา้ หมายไว้วา่ เมื่อเผยแพรส่ ือ่ รณรงค์ ไปแล้ว กลุ่มเป้าหมายมีความร้มู ากขนึ้ (ว่าการไมอ่ พยพหนีออกจากบ้านในชว่ งน้ำท่วมอาจก่อให้เกิดความ เสยี หาย) ปรับเปลีย่ นทศั นคติ (ว่าชีวติ สำคัญกวา่ ทรพั ยส์ ิน ควรหนเี อาตวั รอดก่อน) และนำไปสกู่ ารปรบั เปลี่ยน พฤติกรรม (จดั ทำแผนเตรียมการเพ่ืออพยพในกรณีทเ่ี กิดน้ำท่วม) เป็นต้น ข้นั ตอนการจัดทำส่ือรณรงค์ ขัน้ 1 การประเมิน คอื การวเิ คราะหว์ า่ ชมุ ชนมีความเส่ยี งตอ่ ภัยชนิดใด ใครคือกล่มุ เปา้ หมายท่เี ราต้องการจะ สถานการณ์ สอื่ สารดว้ ย และสือ่ สารว่าอะไร ขน้ั 2 การวางแผนทำ สอื่ รณรงค์ คือการจดั ออกแบบกระบวนการรณรงคใ์ ห้ความรูเ้ พ่ือใหเ้ ข้าถึงกล่มุ เป้าหมายใหม้ ากทีส่ ดุ โดยประเมินว่าใครเปน็ กลมุ่ เป้าหมายหลัก กลมุ่ เปา้ หมายรอง กำหนดวัตถุประสงค์ของ ขัน้ 3 การผลติ สอ่ื การสอ่ื สาร กำหนดสารหลกั เลือกสือ่ ท่เี หมาะสมสำหรับถ่ายทอดสารและวางแผน รณรงค์ ปฏบิ ตั ิการรณรงค์และงบประมาณ ข้นั 4 การทดสอบส่ือ เป็นข้ันตอนการผลติ สื่อตามแผน โดยส่ือรณรงค์ และสารท่ีได้รับการออกแบบต้องชัดเจน ขน้ั 5 การประเมินผล และเผยแพร่ในช่องทางท่ีเหมาะสม ส่อื รณรงค์ คอื การนำส่อื รณรงคท์ ่ีออกแบบไว้ไปขอความเห็นจากผูเ้ ช่ยี วชาญและกล่มุ เปา้ หมายว่า สอ่ื น้ันมีข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ชัดเจนหรือไม่ และนำเสนอสารตามทีต่ ้องการหรือไม่ หาผลลพั ธจ์ ากการเผยแพรส่ อื่ เกดิ ขนึ้ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ที่ตงั้ ไว้หรอื ไม่ และช่วยให้เรา แก้ไขข้อบกพรอ่ งและขอ้ ผิดพลาดท่ีเกดิ ขนึ้
แบบทดสอบ ก่อนเรยี น - หลังเรยี น
แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน บทท่ี 1 ความเส่ยี งภยั ธรรมชาตแิ ละการประเมนิ ความเส่ียง 1. ข้อใดไมใ่ ช่บทบาทหน้าที่ของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารตามแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั พัฒนาหลกั สูตรปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ใหน้ กั เรียน นกั ศึกษา ส่งเสริมใหค้ วามรู้และสร้างจิตสำนึกในการลดความเสี่ยงภัยพบิ ตั แิ กน่ กั เรียน นกั ศกึ ษา ประชาชน จดั กจิ กรรมเสริมสรา้ งทักษะชวี ิตแก่ลกู เสอื เนตรนารี เช่น วธิ ปี ฐมพยาบาล เป็นตน้ สง่ เสรมิ ให้ความรแู้ ก่ประชาชนเร่อื งการเรยี กรอ้ งสิทธิตามกฎหมาย 2. การสรา้ งความตระหนกั ในการลดความเส่ียงจากภยั พิบัตใิ นสถานศึกษาควรเร่มิ ตน้ อยา่ งไร ใหค้ วามรู้และปรับทศั นคตขิ องครู นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาเรื่องการจัดการภัย พบิ ตั ิ ดำเนนิ มาตรการและวธิ ีการปฏิบัติทุกอย่างตามกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย การดูแลโครงสรา้ งพ้ืนฐานให้ปลอดภยั สร้างความสามารถในการฟน้ื ตัวได้ 3. สามเสาหลกั ภายใตก้ รอบการทำงานด้านความปลอดภยั รอบด้านในสถานศึกษามีเน้ือหาหลักเรื่องอะไร ผอู้ ำนวยการ ครู นักเรยี น ความล่อแหลม ความเปราะบาง และความสามารถในการรบั มือ อาคารสถานที่ การบริหารจัดการภยั พบิ ตั ิ การจดั การเรยี นการสอนเร่ืองการลดความเส่ียง บา้ น วัด โรงเรียน 4. ข้อใดแสดงให้เหน็ ถึงความเขา้ ใจต่อการลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ัติ ผอู้ ำนวยการสง่ั ให้ขยายทางระบายนำ้ รอบโรงเรยี นเพ่ือไม่ให้นำ้ ทว่ มขัง ครูสอนใหน้ กั เรยี นร้จู ักวิธีตะโกน โยน ยื่น เพื่อชว่ ยคนจมน้ำ ภารโรงตรวจสอบถงั ดับเพลงิ สมำ่ เสมอตามวิธีท่เี จ้าหน้าที่เทศบาลสอนไว้ ถูกทกุ ข้อ 5. กรอบเซนได(Sendai Frame work) ทีจ่ ะใชใ้ นปี 2558-2573 เน้นการทำงานดา้ นใด การคุ้มครองเด็ก สตรี และคนชราในสถานการณ์ภัยพิบตั ิตามหลักสากล แนวทางการลดความเส่ียงจากภัยพิบตั ิทีเ่ ป็นมาตรฐานสากล การให้ความชว่ ยเหลือกลมุ่ เปราะบางในการอพยพจากสถานการณภยั พบิ ัติ ความรว่ มมอื ระหวา่ งอาเซียนในการลดความเสีย่ งภยั พบิ ตั ิ 6. ภยั (Hazard) ความล่อแหลม (Exposure) ความเปราะบาง (Vulnerability) และความสามารถใน การรบั มอื (Coping Capacity) เปน็ องคป์ ระกอบของอะไร กรอบการทำงานเซนได ความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพบิ ัติ แผนปอ้ งกันภัยพิบัติ ปฏทิ นิ ฤดกู าล
7. คำว่า ภัย ตา่ งจากคำวา่ ภัยพิบตั ิหรือไม่ อยา่ งไร ตา่ งกนั เพราะภยั หมายถึงสภาวะทีเ่ กดิ ตามธรรมชาติของโลก เช่น ฝนตก นำ้ ท่วม พายุ หรอื สภาวะอันตรายจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การก่อการร้าย และภัยธรรมชาติจะกลายเปน็ ภัย พิบตั ิเมื่อชมุ ชนหรือสงั คมไม่สามารถต้านทานภัยน้นั ๆได้ด้วยความสามารถและทรัพยากรของตน จนทำใหเ้ กดิ ความเสียหายแก่ชีวติ และทรพั ยส์ ินอย่างมาก และทำให้กจิ กรรมตา่ งๆในระบบสงั คม เชน่ การศกึ ษา การคา้ คมนาคม การบริการทางการแพทย์ และอื่นๆต้องหยุดชะงัก ต่างกัน เพราะภยั พิบตั ิหมายถงึ ความเปราะบางของสถาบันการศึกษา เช่น อาคารไม่แข็งแรง ทำใหอ้ าคารถลม่ เวลาเกิดแผ่นดินไหว ครูไม่มแี ผนการสอนเรือ่ งการลดความเสยี่ งท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ ส่วนภยั คือการไมท่ ำแผนบรหิ ารจดั การภัยพิบตั ิทำให้เกิดการสูญเสยี ทรัพยส์ นิ การเรยี นการสอน ตอ้ งหยุดชะงัก เดก็ ตอ้ งออกจากโรงเรียน ตา่ งกัน เพราะภยั คือสิง่ ทีส่ ่งมาจากพระเจ้า เป็นโชคชะตาท่ีลขิ ติ ไว้แลว้ ส่วนภัยพิบัตคิ อื การ ปรบั ตวั ของโลกให้เกดิ สมดุลย์เพือ่ ใหโ้ ลกดำเนินต่อไปได้ เหมอื นกัน เพราะเป็นคำท่ีใชแ้ ทนกนั ได้ 8. บทบาทหนา้ ทีข่ องสถานศึกษาในการจดั การภยั พบิ ัติคอื อะไร จัดทำแผนรับมือภยั พิบัติและมีการซ้อมแผนอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครงั้ มกี ารแจ้งเตือนภัยพิบัติในแต่ละช่วงใหบ้ คุ ลากรทราบ จดั ให้มเี ด็กท่ีมีความต้องการพิเศษอยใู่ นการซ้อมแผนดว้ ย ถูกทกุ ขอ้ 9. หากต้องการกำหนดเสน้ ทางหนีภัยและจุดปลอดภยั ควรใชเ้ คร่ืองมืออะไร แผนผังโรงเรียน แผนทีเ่ สยี่ งภยั Venn Diagram การจดั ลำดับภยั 10. การระดมความคดิ เพ่อื วิเคราะห์หาความสัมพนั ธ์ของผทู้ ่เี กยี่ วขอ้ ง (stake holder mapping) ควร ใชเ้ คร่ืองมืออะไร แผนผังโรงเรยี น แผนท่ีเส่ยี งภยั Venn Diagram การจดั ลำดบั ภยั
แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรยี น บทที่ 2 อาคารสถานท่ีปลอดภยั 1. เหตใุ ดจงึ ตอ้ งมกี ารประเมินโครงสร้างอาคารและสถานที่ของสถานศกึ ษา เพราะสถานศกึ ษาทป่ี ลอดภัยจะส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้ เพราะการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพและภูมิอากาศสามารถทำให้เกดิ ความเสยี่ งภยั พิบัติใหม่ ได้ จงึ ตอ้ งมีการประเมนิ สถานท่ตี ั้งสมำ่ เสมอ เพราะเป็นสง่ิ ท่ีควรทำเพ่อื ความปลอดภยั ของทุกคน ถูกทกุ ข้อ 2. ข้อใดคอื การประเมินความปลอดภยั ภายใต้เสาที่ 1 การประเมนิ อาคารเรียนและส่งิ กอ่ สร้าง สภาพแวดล้อม เส้นทางสญั จร และสิง่ อำนวยความ สะดวกสำหรับคนพกิ าร การประเมินสภาพพืน้ ทีแ่ ละการประเมนิ วัตถอุ นั ตราย การประเมินสภาพแวดล้อม เช่น มลพษิ ทางอากาศ มลพษิ ทางนำ้ มลพิษทางสังคม การติดต้งั อปุ กรณ์เตือนภยั อุปกรณด์ บั เพลิง และปา้ ยอักษรเบรลล์ 3. ในการประเมินความเสยี งภยั พิบัติของโครงสร้างอาคารเรียน จะตอ้ งพจิ ารณาปัจจัยอะไรบา้ ง สภาพโครงสร้าง ผนัง หลงั คา ตัวอาคาร ระบบไฟฟา้ และผลกระทบจากภยั โครงสรา้ งและส่วนประกอบอาคาร โครงสร้าง สภาพแวดลอ้ ม การบริหารจดั การภยั พบิ ัตใิ นสถานศกึ ษา โครงสร้างอาคาร สนามเดก็ เลน่ ระบบนำ้ ไฟ 4. ข้อใดไม่ใชก่ ารประเมนิ ความเสยี่ งวาตภัย ตรวจสอบพน้ื ที่ใกล้เคียงวา่ มีโครงหลงั คา เสาสงู เสาวิทยุ ปา้ ยโฆษณาสูง ท่ีอาจจะโค่นลม้ ลง มาทำอนั ตรายแกอ่ าคารเรยี นและนกั เรียนได้ ตรวจสอบโครงสรา้ งอาคารเรียน ผนงั เสา คาน ประตูหนา้ ตา่ งว่าทนต่อแรงลมได้ ตรวจสอบฐานรากวา่ ทนต่อแรงไหลของดนิ มกี ารยึดอปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ให้แน่นหนาเพ่ือปอ้ งกนั การตกหล่นหรือไม่ (เช่น พัดลมเพดาน ตสู้ ูง ชั้นวางของ เคร่ืองปรบั อากาศ ป้ายตา่ ง ๆ กระถาง) 5. ข้อใดไม่ใช่การจดั สภาพแวดล้อมโดยคำนงึ ถึงการลดความเสยี่ งภยั พิบัติ จดั เสน้ ทางอพยพและจดุ รวมพล จดั ประตูเขา้ ออกให้เอื้ออำนวยต่อการอพยพและการเขา้ ออกของรถพยาบาล รถดบั เพลิง จดั ให้มกี ารรกั ษาความปลอดภัยในหอพักโดยการล็อคประตูจากข้างนอกเพื่อไม่ให้ผไู้ ม่ ประสงคด์ ีเขา้ ไปทำอนั ตรายครแู ละนกั เรยี นในยามวกิ าล เกบ็ เครือ่ งมือการเกษตรและเครื่องมอื ชา่ ง เชน่ มีด จอบ พลว่ั ชะแลง สวา่ น เล่ือย ให้เป็น ระเบยี บและหยบิ ฉวยไดง้ ่ายในกรณที ี่จำเป็นต้องใชเ้ มื่อเกิดภัยพบิ ัติ 6. ขอ้ ใดไม่ใช่มาตรการลดผลกระทบในสถานศึกษา หากสถานศึกษาอยู่บนไหลเ่ ขาหรือทางลาด ควรปลูกต้นไม้ตามทางลาดเชงิ เขาเพือ่ ชะลอการ ไหลของหน้าดิน หากสถานศึกษาอยูต่ ดิ แมน่ ้ำ ควรทำเขื่อนกน้ั นำ้ หรือปลูกต้นไม้ชะลอกระแสน้ำ
ขยายท่อระบายน้ำ ติดต้ังรางนำ้ ตะแกรงกันเศษขยะ เศษดินโคลน ไม่ใหเ้ กิดน้ำทว่ มใน บรเิ วณสถานศกึ ษา หากสถานศึกษาอยูใ่ กล้นิคมอตุ สาหกรรม ควรพจิ ารณาย้ายสถานศกึ ษา 7. ขอ้ ใดเป็นกจิ กรรมลดความเส่ยี งภัยของอาคารสถานที่ทส่ี ามารถทำได้อยา่ งรวดเร็วและประหยดั ค่าใช้จา่ ย การสร้างหลุมหลบภยั การดดี อาคารเรยี นใหส้ ูงกวา่ ระดับนำ้ ทว่ ม การผูกยดึ สิง่ ของ เฟอร์นิเจอร์ในอาคาร ให้แนน่ หนาแข็งแรง การซ่อมแซมระบบนำ้ ระบบไฟ 8. ข้อใดไมค่ วรนำไปใช้ในการจัดอาคารเรยี นเพื่อการลดความเสีย่ งภัยพิบัติ จัดให้มีชอ่ งลมหรือช่องทางเดนิ ทีม่ ีการถ่ายเทอากาศไดด้ ี เปล่ียนบานหน้าต่างในห้องเรียนและหอ้ งพักครใู ห้เปน็ บานกระจกเพ่ือให้มองเห็นอันตราย จากภายนอก ทำราวจบั ตลอดทางเดินหรือบนั ไดทางข้ึนอาคาร ไมว่ างส่งิ ของเกะกะทางเดิน จดั ระเบยี บ การเดินชดิ ซา้ ยหรอื ชิดขวา ยดึ ตู้หนงั สือหรือชัน้ กบั ผนงั เพื่อป้องกนั การโคน่ ลม้ หากเกิดแผ่นดนิ ไหว 9. ขอ้ ใดเป็นการจดั สง่ิ อำนวยความสะดวกสำหรบั คนพกิ ารเพือ่ รองรบั สถานการณ์ภัยพิบตั ิ สัญญาณเตอื นภยั สำหรบั คนหหู นวก ลา่ มภาษามือ รถเขน็ นั่งสำรอง ถูกทุกขอ้
แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรยี น บทที่ 3 การจดั การภัยพิบัติในสถานศึกษา 1. ขอ้ ใดคอื บทบาทของคณะกรรมการจดั การภยั พบิ ัตใิ นสถานศึกษา ประเมนิ ความเส่ยี งภัยของโรงเรียน ตดิ ต้ังระบบเตือนภยั จัดทำแผนเผชิญเหตุ ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั เทศบาลและชมุ ชนใหม้ าช่วยดำเนนิ การตามแผน สง่ เสรมิ การมีส่วนร่วมของนักเรยี นในการต้ังศูนย์พกั พงิ ชว่ั คราว พยากรณ์อากาศ ประกาศเขตภยั พิบตั ิ จดั ฝึกอบรมกภู้ ยั สงเคราะห์ผ้ปู ระสบภยั 2. ในกระบวนการจัดทำแผนการจัดการภัยพิบตั ใิ นสถานศกึ ษา จะต้องใหค้ วามสำคัญกับสิ่งใดเปน็ อนั ดับ แรก นโยบาย งบประมาณ บคุ ลากร และองคค์ วามรู้ เครือข่ายโรงเรยี นปลอดภยั ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก การประเมนิ ความเสีย่ งภยั ความล่อแหลม ความเปราะบางและศักยภาพ สำนกั งานเขตการศึกษา ผู้อำนวยการ ผ้ปู กครอง 3. ข้อใดเปน็ การประเมนิ ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง จำนวนครูต่อจำนวนนกั เรียนที่ตอ้ งการความช่วยเหลอื โครงสรา้ งความสมั พันธข์ องสถานศกึ ษา ผูป้ กครองและชมุ ชน การเขา้ ถึงสถานศึกษา เชน่ ประตทู างเข้า ถนน อาคารเรียน รั้ว โครงหลงั คา กำแพง การประสานงานกบั หนว่ ยงานภายนอกเพ่อื ขอความชว่ ยเหลอื ในการจัดการภยั พบิ ตั ิ 4. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง การแจง้ เตือนภยั ทม่ี ีประสิทธิภาพจะต้องมีอุปกรณ์ทด่ี ีและเสน้ ทางอพยพทไี่ มม่ ีอุปสรรค แผนเผชญิ เหตุ คอื แผนปฏบิ ตั กิ ารของครใู นสถานการณว์ ิกฤติเพ่ือให้นักเรยี นปลอดภยั การแจง้ เตือนภัยสามารถทำได้หลายรปู แบบขึ้นอยู่กบั บริบทของภัยและระยะเวลาในการ เตรียมตวั เมอื่ ผู้อำนวยการสถานศึกษาไดร้ บั ข้อมูลเตือนภัยจากเทศบาล ใหร้ ีบประกาศคำส่ังอพยพ ทันที 5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับการอพยพนักเรยี น เมื่อได้รับคำสง่ั อพยพ ใหป้ ล่อยนักเรียนวิง่ ไปยังท่ปี ลอดภัยใหเ้ ร็วท่ีสดุ นกั เรียนตาบอดมกั จะใส่รองเทา้ ชา้ จึงตอ้ งแก้ปญั หาให้นักเรยี นถอื รองเท้าว่งิ ไปกบั เพื่อนที่ มอบหมายให้เป็นผู้ดแู ลก่อน ทนั ทที ่ีรู้สกึ ถึงแรงสัน่ สะเทอื นจากเหตุแผ่นดินไหว ใหค้ รปู ระจำชน้ั พานักเรียนออกจาก ห้องเรยี นไปยังที่ปลอดภัยโดยเรว็ ระหวา่ งอพยพไปท่ปี ลอดภัย นกั เรียนต้องไม่วิ่ง ไม่พูดคุย ไม่ผลกั ดนั ไมย่ ้ือแย่ง และต้องต้ังใจ ฟงั คำสงั่ อย่างเคร่งครัด 6. ข้อใดไม่ถูกต้องในการจัดซ้อมเตอื นภัยและอพยพในสถานศึกษา เป็นการเตรยี มความพร้อมด้านบคุ ลากร ทรัพยากร และระบบการปฏิบัติการตามบทบาท หนา้ ท่ี ท่ไี ด้กำหนดไว้ในแผนการจดั การสาธารณภยั ในโรงเรยี น การซ้อมแผนจะชว่ ยประเมนิ ความตอ้ งการหรือความจำเป็นในการฝกึ อบรมทักษะเพิม่ เติม
การจดั ซอ้ มแผนเป็นช่องทางในการสร้างการมีส่วนร่วมของชมุ ชนในการจัดการสาธารณภยั ในสถานศกึ ษา สถานศึกษาไม่สามารถซ้อมแผนเองได้ จำเปน็ ตอ้ งใหห้ นว่ ยงานที่เช่ียวชาญด้านการป้องกัน ภยั มาจัดกระบวนการซอ้ มให้ 7. สิง่ ทจ่ี ำเป็นต้องประเมนิ หลงั การซ้อมแผนเตอื นภัยและอพยพในสถานศึกษา อปุ สรรคในการสงั่ การ การปฏิบัตหิ น้าท่แี ละการประสานงานระหวา่ งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ พฤติกรรมความปลอดภัยที่พึงประสงค์ของนักเรียน ถกู ทกุ ข้อ 8. ในสถานการณ์ฝนตกหนกั และเร่มิ มนี ำ้ ปา่ ไหลหลากตามถนนหนทาง ครูไม่สามารถปล่อยนักเรียนกลับ บา้ นได้ คณะกรรมการจัดการภัยพิบตั ใิ นสถานศึกษาควรตดั สนิ ใจอย่างไร โทรแจ้งผปู้ กครองใหม้ ารบั นักเรยี น (Safe family reunification) ใหห้ ลบภยั และพักพงิ ในอาคารเรียน (Shelter-in-place) ใหอ้ พยพออกจากอาคาร ((Building evacuation) การปดิ การเข้าออกเพื่อป้องกันเหตุรา้ ย (Lockdown) 9. หน่วยงานใดทส่ี ถานศึกษาจะขอความช่วยเหลือในการเผชิญเหตฉุ กุ เฉนิ เป็นอันดับแรก หน่วยแพทยฉ์ กุ เฉิน ในฐานะผเู้ ชี่ยวชาญด้านการช่วยชวี ติ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ในฐานะผอู้ ำนวยการกองปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ศนู ยป์ อ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ในฐานะหน่วยงานหลักในการป้องกนั ภัย สภากาชาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักในการบรรเทาทุกข์ 10. แนวทางในการจดั ต้งั ศูนย์พกั พงิ ชวั่ คราวในสถานศึกษา ไดแ้ ก่ กระทรวงศึกษาธิการไม่อนญุ าตใหใ้ ช้สถานศึกษาเป็นศูนย์พักพิงช่ัวคราวแตจ่ ัดทำแผนจัดการ ความเสย่ี งภยั พบิ ตั ิในชมุ ชนและโรงเรียนแทน หากชุมชนจำเปน็ ต้องใช้สถานศกึ ษาเปน็ ศนู ย์พักพิงชว่ั คราว ควรออกแบบการใช้พ้ืนทีต่ าม มาตรฐานสากลและจัดหาวสั ดอุ ุปกรณ์ทจี่ ำเป็นโดยไมเ่ บียดบงั งบประมาณสำหรับการศกึ ษา การจดั ตั้งศูนย์พักพงิ ช่วั คราวจำเป็นจะตอ้ งมีผู้อำนวยการสถานศึกษา ครแู ละบุคลากรของ สถานศึกษาเปน็ คณะกรรมการบริหารจัดการศูนย์เพราะเป็นเจา้ ของสถานท่ี เมอ่ื ใช้สถานศึกษาเปน็ ศนู ย์พักพิงชว่ั คราว จะต้องงดการเรียนการสอนเพือ่ ความปลอดภัย ของนักเรยี น 11. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจัดพ้ืนท่ใี ชส้ อยของศูนยพ์ ักพงิ ชว่ั คราวในสถานศกึ ษา ก. พน้ื ทส่ี ำหรับปฐมพยาบาลในศนู ยพ์ ักพิงช่วั คราวจะตอ้ งมีการกน้ั ห้องหรือมฉี ากกั้น และมี การแยกพนื้ ทน่ี อนพักระหวา่ งเดก็ และผูใ้ หญ่ ผู้ชายและผู้หญิง ข. มาตรฐานสำหรบั พื้นทนี่ อนพกั ผ่อนต่อคนคือ 4*3.5 เมตร ค. ควรจดั พ้นื ที่ใหค้ นชราและคนพกิ ารอย่รู วมกันเพ่ือความสะดวกในการดูแลของแพทย์และ พยาบาล ง. ควรจัดสรรพืน้ ที่ให้ผู้ประสบภยั ตามลำดบั การลงทะเบยี น
12. ข้อใดเป็นการดำเนนิ การตามมาตรการคุ้มครองเด็กในสถานการณภ์ ยั พิบัติ ก. แม้วา่ จะเกดิ นำ้ ท่วมในชมุ ชน คณุ ครูสมชายก็จดั การเรยี นการสอนอย่างต่อเนอื่ งเพื่อ ปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ ด็กต้องตกอยู่ในสภาวะอันตราย เช่น ถกู ล่อลวง ถูกเอาเปรยี บ ถูกใช้แรงงาน ข. คุณครูสมศรีสนับสนนุ ให้เดก็ นกั เรียนชนั้ ป. 6 มีสว่ นร่วมในการจัดการศูนย์อพยพ ทั้งการ วิเคราะห์ปญั หาและการแสดงความเหน็ ในการแก้ไขปญั หา เพอ่ื สร้างความรูส้ ึกที่ดแี ละความภมู ใิ จ ในบทบาทของตน ค. คุณครูสมหญงิ สอนนกั เรยี นเรอ่ื งการดูแลสุขอนามัย ความเส่ยี งภัยท่ีเกดิ ข้นึ การดแู ล ตวั เองให้ปลอดภัยจากภยั สงั คม ง. ถกู ทกุ ข้อ 13. แนวทางแกไ้ ขความเครียดของเดก็ ในภาวะฉกุ เฉินท่ีครูสามารถทำได้ คอื ก. ใหผ้ ู้ปกครองดูแลเดก็ อยา่ งใกล้ชิด ไมใ่ ห้ออกนอกบ้าน ข. ใหเ้ ด็กระบายอารมณ์หรือแสดงออกกบั เพ่ือนนักเรียน ค. รับฟงั ความรูส้ กึ และการแสดงออกของเด็กอยา่ งต้ังใจ ไม่ตดั สนิ หรอื บงั คบั ง. ให้เดก็ พกั การเรียนชว่ั คราวเพอ่ื สงบสติอารมณ์ 14. วิธีการใดเปน็ การจดั การเรียนการสอนอยา่ งต่อเนอื่ งในสถานการณภ์ ัยพิบตั ิ ก. เปลี่ยนวธิ กี ารเรยี น เปลี่ยนปฏทิ ินการศกึ ษา เปล่ียนสถานท่ีเรยี น ข. ใช้วธิ กี ารเรยี นการสอนอน่ื แทนการเข้าชน้ั เรยี น เช่น ให้เรยี นทบี่ า้ น การเรยี นด้วยตนเอง และทำการบ้านทดแทน ค. ถกู ทกุ ขอ้ ง. ผดิ ทุกข้อ 15. ข้อใดเป็นทกั ษะในการเอาตวั รอดจากวาตภยั ก. หมอบ ปอ้ ง เกาะ ข. ออกหา่ งหน้าต่างประตทู ่ีมีบานกระจก ค. น่งั ยองๆ ก้มหวั เอามือปิดหู ง. ก้มต่ำ เอาผา้ อดุ จมูกแลว้ คลานออกมาตามทางเดิน
แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน บทที่ 4 การจัดการเรียนการสอน 1. ข้อใดเป็นเปา้ หมายสูงสดุ ในการจดั การเรยี นรู้เร่อื งการลดความเสีย่ งภัยพบิ ัติธรรมชาติ ความเข้าใจทางวทิ ยาศาสตร์และกลไกการเกดิ ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ ทงั้ การศึกษาจากตำรา วิชาการและการศกึ ษาจากสภาพแวดล้อมจรงิ นอกห้องเรยี น การเรียนรู้และฝกึ ฝนทักษะและข้นั ตอนการปฏิบตั เิ พอื่ ความปลอดภยั ในบรบิ ทของภัยตา่ งๆ ความเข้าใจปจั จัยผลกั ดนั ทท่ี ำใหเ้ กดิ ความเสย่ี งและกลไกที่ทำให้ภยั ธรรมชาตกิ ลายเปน็ ภัย พิบัติ การสรา้ งศกั ยภาพในการลดความเสยี่ งภัยและการสรา้ งวัฒนธรรมแหง่ ความปลอดภยั 2. ข้อใดเปน็ นา่ จะเปน็ เนอื้ หาเรอ่ื งการลดความเส่ยี งภยั พิบตั ใิ นวชิ าสงั คมศกึ ษา กระบวนการเปล่ียนแปลงของผวิ โลกและภายในโลกที่เป็นสาเหตุของธรณีพิบัติ การมสี ว่ นรว่ มในการปลกู หญ้าแฝกรมิ ตลง่ิ และการเปน็ อาสาสมคั รในชุมชน ทกั ษะการปฐมพยาบาล เช่น วิธีหา้ มเลอื ด พันแผล และป๊ัมหวั ใจ ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกบั อตุ นุ ิยมวิทยา 3. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ป็นตวั ช้ีวัดของครใู นการจดั การเรยี นการสอนเรอ่ื งการลดความเสีย่ งภยั พบิ ัติ มคี วามรู้เกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิและการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ ใชเ้ ทคนคิ ทห่ี ลากหลายในการจดั การเรยี นรู้ โดยเฉพาะวธิ กี ารทใี่ ห้เด็กเป็นศนู ย์กลางและมี สว่ นร่วม ครสู ามารถแลกเปล่ียนประสบการณใ์ นการจัดการเรยี นรกู้ ับสถานศึกษาอน่ื ๆ มวี สิ ัยทศั น์ในการจัดการศึกษาเรือ่ งการการลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติและการรับมือกับการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4. ข้อใดเป็นหลักในการเรยี นรูท้ ักษะชีวติ ดา้ นการลดความเสีย่ งภยั พิบัติ ครสู อนตอ้ งหาความรู้อยา่ งลึกซ้ึงและละเอยี ด และได้เรยี นรปู้ ระสบการณ์ของผปู้ ระสบภัย การออกแบบการเรยี นรูเ้ น้นสนกุ สนานและมสี าระ เพราะผเู้ รียนจะมคี วามยนิ ดีในการเรียนรู้ เร่ืองเดิมบ่อยแค่ไหนกต็ าม ส่อื การเรียนรู้ต้องออกแบบให้นา่ สนใจ และง่ายต่อการจดจำ ถกู ทุกขอ้ 5. ข้อใดถูกต้องในการสอนนักเรียนในการมบี ทบาทเป็นอาสาสมคั รด้านภัยพิบตั ิ การรจู้ ักประเมนิ ขดี จำกดั ของตัวเอง ทง้ั ในดา้ นพละกำลัง จติ ใจ และทักษะความชำนาญ จรรยาบรรณของการเปน็ จิตอาสา ได้แก่ อดทน เสยี สละ ท่มุ เทแรงกายแรงใจอยา่ งเตม็ ท่ี การตดั สินใจให้ความชว่ ยเหลือตามสัญชาติญาณของจิตอาสา การเลือกผปู้ ระสบภยั ทีต่ ้องการความช่วยเหลือ เช่น หากมีผู้บาดเจ็บหลายคน ใหร้ บี ช่วยเหลือผบู้ าดเจบ็ ทีเ่ ป็นคนพกิ ารก่อน
6. ขอ้ ใดเปน็ การจดั กิจกรรมลดความเสยี่ งภยั พบิ ตั ิทเี่ หมาะสำหรบั เดก็ ชั้นประถมปีที่ 1 ฝึก “หมอบ ป้อง เกาะ” เกมคน้ หาจดุ เสี่ยงภยั ในโรงเรียน เล่นบทบาทสมมติ เช่น การพดู ขอความชว่ ยเหลือจากผ้อู ่ืน การโทรศพั ท์แจ้งเหตุ ทำไดท้ ุกข้อ 7. ข้อใดเป็นกจิ กรรมเสริมหลักสตู รที่เหมาะกับนกั เรยี นชั้นมัธยม ฝึกการใชถ้ งั ดับเพลงิ ประกวดนวตกรรมเอาตวั รอดในสถานการณ์ภยั พิบตั ิ การประเมนิ ความเสย่ี งภยั ของโรงเรียนและชุมชน ทำได้ทุกข้อ 8. การดำเนินการใดตอ่ ไปนีช้ ่วยใหค้ ณุ ครูสามารถจัดกิจกรรมเสรมิ หลักสูตรการจัดการภัยพิบัติให้เขา้ กบั บรบิ ททางวัฒนธรรม การสอนทักษะชีวิตในวิชาสขุ ศกึ ษา ค้นหาเด็กในชุมชนท่ีมภี าวะผ้นู ำมาเปน็ ตน้ แบบ การขอความร่วมมือจากหนว่ ยงานในพน้ื ทใ่ี ห้มาช่วยซอ้ มอพยพ การสำรวจชุมชนรอบสถานศึกษา เพ่ือความเข้าใจประเด็นปัญหาและพฤติกรรมความเสี่ยง ภยั 9. ขอ้ ใดเปน็ ขั้นตอนสำคญั ในกระบวนการทำส่อื รณรงค์ ประเมนิ สถานการณ์และพฤติกรรมทีต่ ้องการปรบั เปลี่ยน วางแผนรูปแบบส่ือ กำหนดกล่มุ เปา้ หมาย ออกแบบส่ือ 10. ข้อใดสะท้อนให้เหน็ เป้าหมายของการทำสือ่ รณรงค์ไดช้ ดั เจนท่ีสดุ โรงเรยี นทำป้ายประชาสัมพันธก์ ารซอ้ มแผนอพยพของโรงเรยี น สภากาชาดไทยทำโปสเตอรส์ อนขัน้ ตอนการล้างมอื ใหถ้ กู ต้องเพ่ือติดในหอ้ งน้ำ หา้ งสรรพสนิ ค้าทว่ั ประเทศ รถกระจายเสียงของเทศบาลประกาศเชิญชวนให้ประชาชนบริจาคสิง่ ของบรรเทาทุกข์ กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั สร้างตวั การ์ตูนชือ่ มิสเตอรเ์ ตือนภัย
Search