Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 5หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูปัน ปัน

เล่ม 5หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูปัน ปัน

Published by punyalat suksanguan, 2019-10-05 03:20:58

Description: Inovation and instruction kru punyalat

Search

Read the Text Version

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เร่ืองที่ 5 รักษ์โลก กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรียบเรียงโดย อรอนงค์ สุขสงวน สาระชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อม ภาพ อรุณี สีใส อรณี เรืองเดช ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา คานา การดาํ รงชีวิตในสังคมโลกปัจจุบนั เป็ นยุคขอ้ มูลข่าวสาร มีความเจริญรุ่งเรืองทางวตั ถุมาก ขณะเดียวกนั สภาวะแวดลอ้ มรอบตวั ลว้ นเกิดการเปล่ียนแปลงไปเช่นเดียวกนั เกิดปรากฏการณ์ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติมากมายหลาย พ้ืนท่ีทว่ั โลก เกิดวิกฤติการณ์โลกร้อน เพราะการกระทาํ ของมนุษย์ ดงั น้นั การปลูกฝังค่านิยม การปฏิบตั ิตนที่ดีงาม และใส่ใจต่อความสําคญั ของส่ิงแวดลอ้ มให้กบั เยาวชนของชาติถือเป็ นบทบาทหน้าท่ี ของทุกคนตอ้ งช่วยเหลือกนั อยา่ งเร่งด่วน เพ่ือเยาวชนรุ่นใหม่จะไดร้ ู้คุณค่า และตระหนกั ถึงความสําคญั ต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม โลก รู้จกั ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรดิน น้าํ ป่ าไม้ อากาศ อยา่ งประหยดั และดาํ รงชีวิตอยภู่ ายใตศ้ ีลธรรมอนั ดีงาม เพราะ เยาวชนถือเป็นฟันเฟื องเล็กๆ และคอยขบั เคล่ือนเป็นกระบอกเสียงสาํ คญั ในการเผยแพร่สู่ชุมชนและชนรุ่นหลงั ต่อไป จากแนวคิดดังกล่าวประกอบกับสภาวะเหตุการณ์โลกในสังคมปัจจุบนั สะท้อนให้เห็นว่า โลกใบน้ี ค่อนข้างวิกฤติเพราะน้ํามือมนุษย์ จึงเป็ นท่ีมาของการจัดทาํ หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ สาระชีวิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม ชุด “โลกใบใหม่ของหนูนา” ผูจ้ ดั ทาํ ไดเ้ รียบเรียงและแต่งข้ึนตามความจริง และประสบการณ์ชีวิตจริง เน้ือเรื่องครอบคลุมสาระการเรียนรู้ชีวิตกบั ส่ิงแวดล้อม ทกั ษะกระบวนการคิดข้นั สูง ทกั ษะกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมนิสัย รักการอ่านให้ผูเ้ รียนไดต้ ระหนกั ถึงคุณค่า และเห็นความสําคญั ของการใชช้ ีวิตที่ตอ้ งคาํ นึงถึงส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ท้งั น้ียงั ส่งเสริมความรู้ความเขา้ ใจ สติปัญญา เจตคติท่ีเหมาะสม และส่งเสริมทกั ษะการศึกษาหาความรู้ดว้ ยตนเองให้กบั ผเู้ รียน.เพื่อเสริมสร้างการใชช้ ีวติ ดาํ รงตน ในสังคมประจาํ วนั ที่ตระหนกั และใส่ใจต่อส่ิงแวดลอ้ ม หนงั สือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุด “โลกใบใหม่ของหนูนา” จาํ นวน 5 เล่ม ให้ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ในช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ดงั น้ี เล่มท่ี 1 เร่ือง วถิ ีชีวติ ชุมชนพอเพียง เล่มท่ี 2 เรื่อง ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น เล่มท่ี 3 เรื่อง ระบบนิเวศน่าอยู่ เล่มที่ 4 เร่ือง ชีวติ มีธรรมะ เล่มที่ 5 เรื่อง รักษโ์ ลก

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ขอขอบพระคุณ นางสาวจนั ทรา เทพชุมพล ตาํ แหน่งครู วิทยฐานะครูชาํ นาญการพิเศษ สาขาภาษาไทย โรงเรียนบา้ นคะนาสามคั คี สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นหลกั สูตรและ การสอน นางนวลจนั ทร์ เดชพิมลพร ตาํ แหน่งครู วิทยฐานะครูชาํ นาญการพิเศษ สาขาวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนเกษตร ประชาตาทวด ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นการจดั การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นางสาววิเรืองไร วงศว์ รรณา ตาํ แหน่งศึกษานิเทศก์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยฐานะศึกษานิเทศกช์ าํ นาญการพิเศษ สํานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นเทคนิคการจดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ นายวารินทร์ บุญเชิญ ตาํ แหน่งผอู้ าํ นวยการ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด วิทยฐานะผูอ้ าํ นวยการชาํ นาญการพิเศษ ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นการวดั ผลประเมินผล และ อาจารย์ ดร.ราเชนทร์โกศลั วิตร รองผูอ้ าํ นวยการ (Deputy Director) ศูนยน์ วตั กรรมและเทคโนโลยที างการศึกษา ภาควิชาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี Ph. D. Anatomy The Queen’s U. of Belfast, U.K ให้ คาํ ปรึกษาหลกั การสร้างนวตั กรรมการเรียนการสอน ที่ไดก้ รุณาตรวจสอบความเหมาะสม ความถูกตอ้ ง ขอขอบคุณ เป็ นพิเศษต่อท่านผูอ้ ่าน และหวงั เป็ นอยา่ งย่งิ วา่ เรื่องราวต่างๆ ที่ไดถ้ ่ายทอดจะเป็ นประโยชน์ต่อการศึกษาเป็ นสําคญั และไดร้ ับความร่วมมือจากทุกฝ่ ายในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจนสามารถเผยแพร่สู่ ชุมชน ก่อใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดตอ่ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติสืบไป อรอนงค์ สุขสงวน

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา จุดประสงค์ของการอ่าน เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนสามารถ 1. อธิบาย ถ่ายทอดเรื่อง “รักษโ์ ลก” ได้ 2. คิดวเิ คราะห์ สรุปองคค์ วามรู้รวมจากเรื่อง “รักษโ์ ลก” ได้ 3. นาํ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเรื่อง “รักษโ์ ลก” ไปปรับประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา สารบัญ เรื่อง หนา้ คาํ นาํ ............................................................................................................................................. ข จุดประสงคข์ องการอา่ น............................................................................................................... ง สารบญั ......................................................................................................................................... จ บทนาํ ........................................................................................................................................... 1 รักษโ์ ลก ....................................................................................................................................... 2 2 ตอนท่ี 1 การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ ................................................................................... 7 ตอนท่ี 2 การทาํ ฝนเทียม.............................................................................................. 11 ตอนที่ 3 การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ ................................................................................ 16 ตอนที่ 4 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง................................................................. 19 เอกสารอา้ งอิง............................................................................................................................... 20 ภาคผนวก ..................................................................................................................................... 21 อภิธานศพั ท์.................................................................................................................................. 23 ดชั นี.............................................................................................................................................. 25 ประวตั ิผแู้ ต่ง.................................................................................................................................

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา บทนา โลกใบใหม่ของหนูนา เป็ นเรื่องราวชีวติ ของเด็กหญิงคนหน่ึงชื่อวา่ “หนูนา” เธอเกิดในตระกูลร่ํารวย มีพ่อ เป็นนายแพทยช์ ื่อดงั แม่เป็ นนกั การทูต อาศยั อยใู่ นชุมชนเมืองใหญ่ การดาํ เนินชีวิตตอ้ งประสบกบั ปัญหามลพิษทาง เสียง อากาศ และส่ิงแวดล้อมแอดอดั ในชุมชนเมืองใหญ่มีรถยนต์วิ่งตามถนนมากมาย แต่ละคันปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซดส์ ู่บรรยากาศ คนเมืองตอ้ งทนสูดดมก๊าซพิษ และสภาพความวนุ่ วายในสังคมเมืองใหญ่ มีหลาย อยา่ งในการดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั ท่ีหนูนาไมช่ อบ เวลาเดินทางไปโรงเรียนตอ้ งทนนงั่ บนรถยนตน์ านๆ เพราะมีรถติด ยาวมาก หนูนาฝันอยากมีชีวติ ในโลก ที่น่าอยกู่ วา่ ชีวิตจริงของเธอ วนั หน่ึงหนูนานอนหลบั แลว้ ฝันวา่ ไดไ้ ปท่องเที่ยว ตามท่ีต่างๆกบั เจา้ นางงามสุนขั คู่ใจที่น่ารัก และซื่อสัตยต์ ่อเธอมาก เธอฝันวา่ ไดไ้ ปชม “รักษ์โลก” ในหมู่บา้ นแห่ง หน่ึง ในชีวิตจริงเธอไม่เคยพบเห็น มีหลากหลายเร่ืองราวท่ีชวนคิดและน่าสนใจเป็ นอย่างมาก ผูเ้ รียบเรียงจดั ทาํ หนงั สือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระชีวิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม นาํ เสนอไวใ้ นความฝันของหนู นา 4 ตอน คือ ตอนที่ 1 การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ ตอนที่ 2 การทาํ ฝนเทียม ตอนที่ 3 การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ ตอนท่ี 4 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนที่ 1 การทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพ วนั หน่ึงหนูนาไดไ้ ปทศั นศึกษาดูงานร่วมกบั เพ่ือนๆ และคุณครูในชุมชนบา้ นหนองระเยียว ไดพ้ บปะกบั ผูน้ าํ หมู่บา้ น ชื่อนา้ บุญชูให้การตอ้ นรับพร้อมแนะนาํ วทิ ยากรผูใ้ ห้ขอ้ มูลเร่ืองการทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ.คือ นา้ สมหวงั เป็ นเกษตรอาํ เภอประจาํ ตาํ บล.ไดน้ าํ ชาวบา้ นทดลองทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ แลว้ นาํ ไปใส่พืชไร่ นาขา้ ว ทาํ ให้ไดผ้ ลผลิต ดกและเมลด็ สมบูรณ์ หนูนากบั เพอ่ื นๆ ไดต้ ้งั ใจจดบนั ทึกรายละเอียด แลว้ สักพกั หนูนาสังเกตพบวา่ เจา้ นางงามสุนขั ตวั โปรดกม็ าดว้ ย มนั นงั่ หมอบอยนู่ ิ่งๆ นา้ สมหวงั อธิบายถึง“ป๋ ุยชีวภาพ อีเอม็ (EM) คืออะไรEM ยอ่ มาจาก Effective Microorganisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรียท์ ี่มีประสิทธิภาพ พบความจริงเก่ียวกบั จุลินทรียว์ ่ามี 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม สร้างสรรค์ เป็นกลุ่ม จุลินทรียท์ ่ีมีคุณภาพมีประมาณร้อยละ10 กลุ่มทาํ ลาย เป็นกลุ่มจุลินทรียท์ ่ีเป็นโทษ ทาํ ใหเ้ กิดโรค มีประมาณร้อยละ10 กลุ่มเป็ นกลาง มีประมาณ ร้อยละ 80 จุลินทรียก์ ลุ่มน้ีหากกลุ่มใดมีจาํ นวนมากกวา่ กลุ่มน้ีจะ สนบั สนุนหรือร่วมดว้ ย ดงั น้นั การเพิ่มจุลินทรียเ์ หล่าน้ีจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้มีจาํ นวนมากกวา่ ซ่ึง จุลินทรียเ์ หล่าน้ีจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินใหก้ ลบั มีพลงั ข้ึนมาอีกหลงั จาก ที่ถูกทาํ ลายดว้ ยสารเคมีจนดินตาย ไป ป๋ ุยชีวภาพ จุลินทรียม์ ี 2 ประเภท ประเภทตอ้ งการอากาศ

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา (Aerobic.Gacteria).ประเภทไม่ตอ้ งการอากาศ.(Anaerobic.Bacteria).จุลินทรียท์ ้งั .2.กลุ่มน้ี.ต่างพ่ึงพาอาศยั ซ่ึงกนั และ กนั และสามารถอยรู่ ่วมกนั ได้ นา้ สมหวงั อธิบายตอ่ วา่ ไดม้ ีการนาํ เอาจุลินทรียท์ ี่ไดร้ ับการคดั และเลือกสรรอยา่ งดีจาก ธรรมชาติท่ีมี ประโยชน์ตอ่ พชื สัตว์ และสิ่งแวดลอ้ มมารวมกนั 5 กลุ่ม (Families) 10 จีนสั (Genus) 80 ชนิด (Species) ไดแ้ ก่ กลุ่มท่ี 1 เป็นกลุ่มจุลินทรียพ์ วกเช้ือราที่มีเส้นใย (Filamentous fungi) ทาํ หนา้ ที่เป็นตวั เร่งการยอ่ ยสลาย สามารถทาํ งานไดด้ ีในสภาพที่มีออกซิเจน มีคุณสมบตั ิตา้ นทานความร้อนไดด้ ี ปกติใชเ้ ป็น หวั เช้ือผลิตเหลา้ ผลิตป๋ ุยหมกั ฯลฯ กลุ่มท่ี 2 เป็นกลุ่มจุลินทรียพ์ วกสงั เคราะห์แสง (Photosynthetic microorganisms) ทาํ หนา้ ท่ีสังเคราะห์ สารอินทรียใ์ หแ้ ก่ดิน เช่น.ไนโตรเจน (N2) กรดอะมิโน (Amino acids) น้าํ ตาล (Sugar) วติ ามิน (Vitamins) ฮอร์โมน (Hormones) และอ่ืนๆ เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ดิน กลุ่มท่ี 3 เป็นกลุ่มจุลินทรียท์ ี่ใชใ้ นการหมกั (Aynogumic or Fermented microorganisms) ทาํ หนา้ ที่เป็นตวั กระตุน้ ใหด้ ินตา้ นทานโรค (Diseases resistant) ฯลฯ เขา้ สู่วงจรการยอ่ ยสลายไดด้ ี ช่วยลดการ พงั ทลายของดิน ป้องกนั โรคและแมลงศตั รูพืชบางชนิดของพชื และสตั วส์ ามารถบาํ บดั มลพษิ ในน้าํ เสีย ที่เกิดจาก สิ่งแวดลอ้ มเป็นพษิ ตา่ งๆ ได้ กลุ่มท่ี 4 เป็นกลุ่มจุลินทรียพ์ วกตรึงไนโตรเจน (Nitrogen fixing microorganisms) มีท้งั พวกที่เป็นสาหร่าย (Algae) และพวกแบคทีเรีย (Bacteria) ทาํ หนา้ ท่ีตรึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศเพื่อใหด้ ินผลิตสารท่ีเป็ นประโยชนต์ ่อ การเจริญเติบโตเช่นโปรตีน (Protein)กรดอินทรีย์ (Organic acids) กรดไขมนั (Fatty acids) แป้ง (Starch or Carbohydrates) ฮอร์โมน (Hormones) วติ ามิน (Vitamins) ฯลฯ กลุ่มที่ 5 เป็นกลุ่มจุลินทรียพ์ วกสร้างกรดแลคติก (Lactic acids) มีประสิทธิภาพในการตอ่ ตา้ นเช้ือราและ แบคทีเรียที่เป็ นโทษ ส่วนใหญเ่ ป็น จุลินทรียท์ ่ีไมต่ อ้ งการอากาศหายใจ ทาํ หนา้ ที่เปล่ียนสภาพดินเน่าเป่ื อยหรือดินก่อ โรคใหเ้ ป็นดินท่ีตา้ นทานโรค ช่วยลดจาํ นวนจุลินทรียท์ ่ีเป็ นสาเหตุของ โรคพืชที่มีจาํ นวนนบั แสน หรือให้ หมดไป นอกจากน้ียงั ช่วยยอ่ ยสลายเปลือกเมลด็ พนั ธุ์พชื ช่วยใหเ้ มล็ดงอกไดด้ ี และแขง็ แรงกวา่ ปกติอีกดว้ ย “ลกั ษณะทว่ั ไปของEM เป็นอยา่ งไรคะ”เพื่อนหนูนาถามบา้ ง EMเป็ นจุลินทรีย์ กลุ่มสร้างสรรค์ เป็ นกลุ่มที่มี ประโยชน์ หรือเรียกวา่ กลุ่มธรรมะ ดงั น้นั เวลาจะใช้ EM เป็ นส่ิงมีชีวติ EM มีลกั ษณะดงั น้ี ตอ้ งการที่อยู่ ท่ีเหมาะสม ไม่ร้อนเกินไปหรือเยน็ เกินไปอยู่ในอุณหภูมิปกติ ตอ้ งการอาหารจากธรรมชาติ เช่น น้าํ ตาล รําขา้ ว โปรตีน และ สารประกอบอ่ืนๆ.ท่ีไม่เป็ นอนั ตรายต่อสิ่งมีชีวิต.เป็ นจุลินทรียจ์ ากธรรมชาติ.ไม่สามารถใชร้ ่วมกบั สารเคมีและยาฆ่า เช้ือต่างๆ ไดเ้ ป็ นตวั เอ้ือประโยชน์แก่พืช สัตว์ และสิ่งมีชีวติ EM จะทาํ งานในที่มืดไดด้ ี ดงั น้นั ควรใชช้ ่วงเยน็ ของวนั เป็นตวั ทาํ ลายความสกปรกท้งั หลาย

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา การดูแลเก็บรักษาหวั เช้ือ EMสามารถเกบ็ ไดน้ านประมาณ1ปี โดยปิ ดฝาใหส้ นิทอยา่ ทิง้ EM ไวก้ ลางแดด.และอยา่ เก็บ ไวใ้ นตูเ้ ยน็ เกบ็ รักษาไวใ้ นอุณหภูมิปกติทุกคร้ังที่แบ่งไปใชต้ อ้ งรีบปิ ดฝา ใหส้ นิท.เพ่ือไม่ใหเ้ ช้ือโรคหรือจุลินทรียใ์ น อากาศท่ีเป็นโทษ เขา้ ไปปะปนการนาํ EMไปขยายต่อ ควรใชภ้ าชนะที่สะอาด และใชใ้ หห้ มดในระยะเวลาท่ีเหมาะสม ขอ้ สังเกตพิเศษหาก EM.เปล่ียนเป็ น สีดาํ มีกล่ินเหม็นเน่าถือวา่ EM ตายไม่สามารถใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ีก ให้นาํ EM ที่ เสียผสมน้าํ รดกาํ จดั หญา้ วชั พืชที่ไม่ตอ้ งการไดก้ รณีเก็บไวน้ านๆ จะมีฝ้าขาวเหนือผิวน้าํ แสดงวา่ EM พกั ตวั เมื่อเขยา่ ภาชนะฝ้า สีขาวจะสลายตวั กลบั ไปอยู่ในน้าํ เหมือนเดิมนาํ ไปใช้ได้ เมื่อนาํ ไปขยายเช้ือในน้าํ และกากน้าํ ตาล จะมี กลิ่นหอม และเป็ นฟองขาวๆ ภายใน 2-3วนั .ถ้าไม่มีฟองน้าํ น่ิงสนิทแสดงว่าการหมกั ขยายเช้ือยงั ไม่ไดผ้ ล การ ประยกุ ตใ์ ชจ้ ุลินทรียช์ ีวภาพ ปัจจุบนั .EM.ไดร้ ับความนิยมขยายไปสู่ชาวโลก เนื่องจากเป็ นจุลินทรียท์ ี่ไม่มีพิษภยั มีแต่ ประโยชน์ ถา้ สามารถนาํ ไปใช้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมุ่งเนน้ การไม่ทาํ ลายส่ิงแวดลอ้ มทาํ ใหก้ ารขยายการใช้ EMไปสู่ เกษตรกร และองค์กรท่ัวโลกแล้วกว่า.30 ประเทศ น้าสมหวังอธิบายต่อว่า สําหรับในประเทศไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทยก์ ระทรวงสาธารณะสุข ไดน้ าํ ไปวิเคราะห์แลว้ รับรองวา่ จุลินทรีย์ EMไม่เป็ นอนั ตรายต่อ มนุษย์ และสัตว์ จึงสามารถนาํ EMไปใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลายประการ ดงั น้ี ใชก้ บั พืชทุกชนิด ใชก้ บั การปศุสัตวใ์ ชก้ บั การประมงใชก้ บั สิ่งแวดลอ้ ม วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการใชจ้ ุลินทรียช์ ีวภาพ ลดตน้ ทุนการผลิต.ผลผลิตปลอดสารพิษ และสารเคมี รักษาส่ิงแวดลอ้ ม ผลผลิตสูงมีคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติดีสุขภาพผูผ้ ลิตและผบู้ ริโภคแข็งแรง มีพลานามยั ดี ช่วยเหลือดา้ นเศรษฐกิจ และจิตใจของผผู้ ลิต และผบู้ ริโภคพฒั นาคุณภาพชีวิต เป็ นวธิ ีง่ายๆ ใครก็ทาํ ได้ คุณครูของหนูนาถามข้ึนวา่ “วิธีใชแ้ ละประโยชน์ EM สด มีวธิ ีการทาํ อยา่ งไรคะนา้ ”สมหวงั อธิบายต่อวา่ “วิธีใชแ้ ละ ประโยชน์ EM สด คือ 1. ใชจ้ ุลินทรียน์ ้าํ กบั พชื 1.1 ผสมน้าํ ในอตั รา 1 : 1,000 (EM 1 ชอ้ นโตะ๊ กากน้าํ ตาล 1 ชอ้ นโตะ๊ : น้าํ 10 ลิตร) ใช้ ฉีด พน่ ราด พชื ตา่ งๆ ใหท้ วั่ จากดิน ลาํ ตน้ กิ่ง ใบ และนอกทรงพมุ่ 1.2 พืช ผกั ฉีด พน่ รด ราด ทุก 3 วนั 1.3 ไมด้ อก ไมป้ ระดบั เดือนละ 1 คร้ัง การใช้ จุลินทรียส์ ดในดิน ควรมีอินทรียวตั ถุปกคลุมดว้ ย เช่น ฟาง แหง้ ใบไมแ้ หง้ ฯลฯ เพอ่ื รักษาความช้ืนและเป็นอาหารของจุลินทรียต์ อ่ ไป 2. ใชใ้ นการทาํ EM ขยายจุลินทรียน์ ้าํ จุลินทรียแ์ ห้งและอ่ืนๆ 3. ใชก้ บั สตั ว์ (ไม่ตอ้ งผสมกากน้าํ ตาล) 3.1 ผสม EM 1 ชอ้ นโตะ๊ : น้าํ 200 ลิตร ใหส้ ัตวก์ ินทาํ ใหแ้ ขง็ แรง

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา 3.2 ผสม EM 1 ชอ้ นโตะ๊ : น้าํ 10 ลิตร ใชพ้ น่ คอกใหส้ ะอาด กาํ จดั กลิ่น 3.3 หากสตั วเ์ ป็นโรคทางเดินอาหารใหก้ ิน EM สด 1 ชอ้ นโตะ๊ ผสมกบั อาหารใหส้ ตั วก์ ิน 4. ใชก้ บั สิ่งแวดลอ้ ม 4.1 ใส่หอ้ งน้าํ – หอ้ งส้วม ใส่โถส้วมทุกวนั วนั ละ 1 ชอ้ นโตะ๊ (หรือสปั ดาห์ละ ½ แกว้ ) ช่วยใหเ้ กิดการยอ่ ยสลาย ไม่มีกาก ทาํ ใหส้ ้วมไม่เตม็ 4.2 กาํ จดั กล่ิน ดว้ ยการผสมน้าํ และกากน้าํ ตาล ในอตั รา ส่วน 1:1:1,000 (EM 1 ชอ้ นโตะ๊ :กากน้าํ ตาล 1 ชอ้ นโตะ๊ : น้าํ 1 ลิตร ) ฉีด พน่ ทุก 3 วนั 4.3 บาํ บดั น้าํ เสีย 1 : 10,000 หรือ EM 2 ชอ้ นโต๊ะ : น้าํ 200 ลิตร 4.4 ใชก้ าํ จดั เศษอาหารหรือทาํ ป๋ ุยน้าํ จากเศษอาหาร 4.5 แกไ้ ขท่ออุดตนั EM 1 ชอ้ นโตะ๊ ใส่ 5-7 วนั / คร้ัง 4.6 ฉีดพน่ ปรับอากาศในครัวเรือน 5. กาํ จดั กล่ินในแหล่งน้าํ 5.1 ใช้ ฉีด พน่ หรือ ราดลงไปในแหล่งน้าํ 1 ลิตร : 10 ลบ.ม. 5.2 กล่ินจากของแหง้ แขง็ มีความช้ืนต่าํ แลว้ แตส่ ภาพความแหง้ หรือ ความเหมน็ โดยผสมน้าํ 1 : 100 หรือ 200 หรือ 500 ส่วน 5.3 ขยะแหง้ ประเภทกระดาษ ใบตอง เศษอาหารใชฉ้ ีดพน่ อตั รา EM ขยาย 1 ส่วนผสมน้าํ 500 ส่วน หรือ EM ขยาย 1 ลิตร : น้าํ 500 ลิตร ป๋ ยุ ชีวภาพ การทาป๋ ุยหมัก หรือ จุลนิ ทรีย์แห้ง การทาํ จุลินทรียแ์ ห้ง หมายถึง การนาํ เอา EM มาหมกั กบั อินทรียวตั ถุ เป็นการขยายจาํ นวน จุลินทรียท์ ่ีมีประสิทธิภาพ ใหม้ ีจาํ นวนมากข้ึน แขง็ แรงข้ึน และพกั ตวั อยใู่ นอินทรียวตั ถุ เพื่อนาํ ไปใชป้ รับปรุงสภาพ ดินใหด้ ินร่วนซุย มีธาตุอาหารท่ี สาํ คญั เหมาะแก่การเพาะปลูก นอกจากน้ียงั ใชก้ บั การเล้ียงสัตวไ์ ดด้ ว้ ยส่วนผสม 1. มูลสัตวต์ า่ งๆ เช่น ไก่ สุกร เป็ด คา้ งคาว ววั ฯลฯ นาํ มาผ่งึ ใหแ้ หง้ 1 ส่วน หรือ 1 กระสอบ 2. แกลบดิบ หรือ ฟางแหง้ หรือ หญา้ แหง้ หรือ ใบไมแ้ ห้ง หรือ ผกั ตบชวาแหง้ หรือ ข้ีเล่ือย 1 ส่วน หรือ 1 กระสอบ 3. ราํ ละเอียด หรือ มนั สาํ ปะหลงั ป่ น หรือ คายขา้ ว1 ส่วน หรือ1 กระสอบ 4. EM + กากน้าํ ตาล อยา่ งละ 2 ชอ้ นโตะ๊ ผสมน้าํ 10 ลิตร หรือ 1 ถงั คนใหเ้ ขา้ กนั วธิ ีทาํ 4.1 คลุกราํ ละเอียด กบั มูลสตั วแ์ หง้ ท่ีบดหรือยอ่ ยใหเ้ ลก็ เขา้ ดว้ ยกนั

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา 4.2 นาํ แกลบดิบ หรือวสั ดุ ที่ใชแ้ ทนตดั ส้นั ๆ จุ่มลงในถงั น้าํ ที่ผสม EM + กากน้าํ ตาลไว้ ชอ้ นเอามาคลุก กบั รํา และมูลสตั วท์ ี่ผสมไวแ้ ลว้ คลุกส่วนผสมท้งั หมดใหเ้ ขา้ กนั 4.3 ความช้ืนให้ได้ ร้อยละ 40-50 ดูไดจ้ ากการทาํ ส่วนผสมเม่ือบีบเป็นกอ้ นจะไมม่ ีน้าํ ไหลออกจากง่าม นิ้วและแตกเม่ือคลายมือออกหรือเมื่อทิง้ ลงพ้ืน แสดงวา่ ใชไ้ ด้ 4.4 นาํ ส่วนผสมไปใส่กระสอบ ถุงป๋ ุย หรือถุงอาหารสัตว์ ท่ี อากาศถ่ายเทได้ ¾ ของกระสอบ ไม่ตอ้ งกด ใหแ้ น่น มดั ปากกระสอบไวพ้ ลิกกระสอบแต่ละดา้ นทุกวนั วนั ท่ี 2-3 จบั กระสอบดูจะร้อน อุณหภูมิประมาณ 50 องศา – 60 องศา วนั ท่ี 4-5 จะคอ่ ยๆ เยน็ ลง จนอุณหภูมิปกติ เปิ ดกระสอบดู จะไดจ้ ุลินทรียแ์ หง้ ร่วนนาํ ไปใชไ้ ด้ 4.5 หากไมม่ ีกระสอบหรือทาํ ปริมาณมากเม่ือผสมกนั ดีแลว้ .ใหน้ าํ ไปกองบน กระสอบป่ าน หรือฟางแห้ง ที่ใชร้ องพ้นื หนาประมาณ1ฟุต.แลว้ คลุมดว้ ยกระสอบหรือสแลน กลบั วนั ละ1-2 คร้ัง.ใหอ้ ากาศถ่ายเททว่ั ถึงประมาณ 5-7.วนั .ดูใหอ้ ุณหภูมิปกติจุลินทรียแ์ หง้ ร่วนดี เก็บใส่ถุงไวใ้ ช”้ หนูนากบั เพ่ือนๆ.ต้งั ใจฟังพร้อมจดบนั ทึกรายละเอียด และดูการสาธิตของนา้ สมหวงั กบั ชาวบา้ นอยา่ งสนุกสนาน หนูนาเหลือบมองเจา้ นางงามมนั กาํ ลงั เดินมาคลอเคลียหนู นา คุณครูของหนูนากล่าวขอบคุณนา้ สมหวงั ที่ให้ขอ้ มูลความรู้วธิ ีการทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ พร้อมกล่าวลา ทนั ใดหนูนา ก็ตื่นนอนเพราะเสียงเห่าของเจา้ นางงามแต่เชา้ ตรู่.จึงรําพึงกบั ตวั เองวา่ ไดฝ้ ันไปอีกแลว้ เป็ นโลกของการใชช้ ีวิตของ ชาวบา้ นท่ีมีความสามารถในการผลิตป๋ ุยหมกั ชีวภาพท่ีมีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้จริงหลายด้าน และเป็ นมิตรกับ สิ่งแวดลอ้ ม ควรค่าแก่การเรียนรู้พร้อมนาํ ไปเผยแพร่ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด คาถามชวนคดิ 1. ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ EM หมายความวา่ อยา่ งไร 2. การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ EM มีข้นั ตอนวธิ ีการทาํ อยา่ งไร 3. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรจากการอ่านการทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 4. นกั เรียนสามารถนาํ หลกั การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพไปปฏิบตั ิจริงไดห้ รือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวคิดในการเผยแพร่วธิ ีการทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพในทอ้ งถิ่นของนกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนท่ี 2 การทาฝนเทียม คืนน้ีหนูนารับประทานอาหารเยน็ พร้อมครอบครัว สังเกตพบว่า อากาศนอกห้องที่มีเคร่ืองปรับอากาศ จะ ร้อนจดั หนูนาทาํ การบา้ น อ่านหนงั สือก่อนเขา้ นอน หนูนาพบวา่ ไดเ้ ดินเล่นกบั เจา้ นางงามในชุมชนแห่งหน่ึง พ้ืนท่ี โดยรอบเป็ นทุ่งนาขา้ วที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ ตน้ ขา้ วไม่มีน้าํ แช่ค่อนขา้ งแห้งแล้ง หนูนาไดเ้ ดินเขา้ ไปในกระท่อม กลางทุ่งนา ร้องเรียก.“มีใครอยไู่ หมคะ”.สกั พกั มีเสียงลุงร้องตอบ.“มาหาใครนะ”.หนูนาไหวล้ ุง พร้อมแนะนาํ ตวั และ น่งั พูดคุยกบั ลุงบุญเหลือ เจ้าของท่ีนาเคยเป็ นทหารในโครงการฝนหลวงก่อนเกษียณอายุราชการ ชีวิตบ้นั ปลาย กลบั มาทาํ นาที่บา้ นเกิดในหมู่บา้ น ห้วยราช “คุณลุงคะเหตุใดนาขา้ วลุงจึงแหง้ แลง้ เช่นน้ี แลว้ มีวิธีการอยา่ งไรจะช่วย ไดค้ ะ”ลุงบุญเหลือ เล่าวา่ “ท่ีหมู่บา้ นหว้ ยราชน้ี ฝนไม่ตกแหง้ แลง้ แบบน้ีมาหลายปี แลว้ แหละนาขา้ วไม่อุดมสมบูรณ์ เท่าท่ีควรหรอกหากไม่มีการทาํ ฝนเทียมช่วยไว้ ชาวบา้ นในหมู่บา้ นน้ีคงอดตายไปนานแลว้ อีกสองวนั ทางการจะทาํ ฝนเทียมใหห้ มูบ่ า้ นในละแวกน้ี”.หนูนาต้งั ใจฟังพร้อมถามลุงต่อวา่ .“การทาํ ฝนเทียมเป็นอยา่ งไรคะ”.“การทาฝนเทียม เป็นกรรมวธิ ีดดั แปรสภาพอากาศเพ่ือใหเ้ กิดฝน การทาํ ฝนเทียมเป็ นกรรมวธิ ีเลียนแบบธรรมชาติ โดยทาํ จากเมฆซ่ึงมี ลกั ษณะพอเหมาะที่จะเกิดฝนได้ จากน้นั จึงเร่งใหเ้ กิด

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา การควบแน่นของเมฆ ดว้ ย 3 ข้นั ตอน คือ ก่อกวน, เล้ียงให้อว้ น,.และโจมตี มกั ทาํ ใน 2 สภาวะ คือ การทาํ ฝนเมฆเยน็ เม่ือเมฆมีอุณหภูมิต่าํ กวา่ 0 องศาเซลเซียส และการทาํ ฝนเมฆอุ่น เม่ือเมฆมีอุณหภูมิสูงกว่า 0 องศาเซลเซียสการทาํ ฝนเทียมในสองสภาวะน้ีจะใช้สารในการดดั แปรสภาพอากาศท่ีแตกต่างกนั สารเคมีที่ใช้ในการทาํ ฝนเทียมแบ่ง ออกเป็ น.3 ประเภท คือสารเคมีประเภทคลายความร้อนหรือทาให้อุณหภูมิสูงขึน้ (Exothermic chemical)ปัจจุบนั น้ีมี ใช้ในการทาํ ฝนเทียมในประเทศไทย 3 ชนิด คือ แคลเซียมคาร์ไบด์ (Calciumcarbide;CaC2)แคลเซียมคลอไรด์ (CalciumChloride;CaCl2 แคลเซียมออกไซด์(CalciumOxide;CaO) สารเคมีประเภทดูดกลืนความร้อนหรือทาให้ อุณหภูมิต่าลง (Endothermic Chemicals)ปัจจุบนั มีการใช้สารเคมีประเภทน้ีอยู่ 3 ชนิด คือ ยูเรีย (Urea;CO(NH2)2) แอมโมเนียไนเตรด (Ammoniumnitrate; NH4N03) น้าํ แขง็ แหง้ (Dry ice; CO2(S))สารเคมีทท่ี าหน้าที่ดูดซับความชื้น ประการเดียว เกลือ(Sodiumchloride;NaCl) สารเคมีสูตร ท.1การทาํ ฝนเทียมน้ันใช้เพื่อประโยชน์หลากหลาย เช่น การเกษตร ดบั ไฟป่ า หรือกระทง่ั เพ่ือป้องกนั การตกของฝนในวนั ที่กาํ หนด เช่นในโอลิมปิ กฤดูร้อน 2008 ที่ประเทศ จีน เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดาํ เนินเยยี่ มพสกนิกร.เมื่อปี พ.ศ.2498 ใน ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือไดท้ รงรับทราบถึงความเดือดร้อนทุกขย์ ากของราษฎรและเกษตรกรที่ขาดแคลนน้าํ อุปโภค บริโภคและการเกษตร จึงไดม้ ีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการพระราชดาํ ริ\"ฝนหลวง\"(Artificialrain)ใหก้ บั ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิ เทวกลุ ไปดาํ เนินการ ซ่ึงต่อมาไดเ้ กิดเป็นโครงการคน้ ควา้ ทดลองปฏิบตั ิการฝนเทียมหรือฝนหลวงข้ึน ในสงั กดั สาํ นกั งานปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี พ.ศ..2512 ดว้ ยความสาํ เร็จของโครงการจึงไดต้ ราพระราช กฤษฎีกาก่อต้งั สํานักงานปฏิบตั ิการฝนหลวงข้ึนในปี พ.ศ. 2518.ในสังกดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพ่ือเป็ น หน่วยงานรองรับโครงการพระราชดาํ ริฝนหลวงตอ่ ไปการทาํ ฝนเทียมหรือฝนหลวงเป็ นกรรมวิธีการเหนี่ยวนาํ น้าํ จาก ฟ้า.ใชเ้ ครื่องบินบรรจุสารเคมีข้ึนไปโปรยในทอ้ งฟ้า.โดยดูจากความช้ืนของเมฆและสภาพทิศทางลมประกอบกนั ปัจจยั สําคญั ที่ทาํ ให้เกิดฝนคือ ความร้อนช้ืนปะทะความเย็น และมีแกนกล่ันตัวท่ีมีประสิทธิภาพในปริมาณท่ี เหมาะสม กล่าวคือ เม่ือมวลอากาศร้อนช้ืนท่ีระดบั ผิวพ้ืนข้ึนสู่อากาศเบ้ืองบน.อุณหภูมิของมวลอากาศจะลดต่าํ ลง จนถึงความสูงที่ ระดบั หน่ึง หากอุณหภูมิท่ีลดต่าํ ลงน้นั มากพอก็จะทาํ ใหไ้ อน้าํ ในมวลอากาศอ่ิมตวั จะเกิดขบวนการ กลนั่ ตวั เองของไอน้าํ ในมวลอากาศข้ึนบนแกนกลน่ั ตวั เกิดเป็ นฝนตกลงมาใฉะน้นั สารเคมีที่ใชจ้ ึงประกอบดว้ ย\"สูตร ร้อน\"ใชเ้ พื่อกระตุน้ เร่งเร้ากลไกการหมุนเวียนของบรรยากาศ\"สูตรเยน็ \"ใชเ้ พื่อกระตุน้ กลไกการรวมตวั ของละออง เมฆให้โตข้ึนเป็ นเม็ดฝน และสูตรท่ีใช้เป็ นแกนดูดซับความช้ืนเพ่ือใช้กระตุ้นกลไกระบบการกล่ันตัวให้มี ประสิทธิภาพสูงข้ึนวิธีการทาํ ฝนหลวง ตาํ ราการทาํ ฝนเทียมพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรง กาํ หนดข้นั ตอนการทาํ ฝนหลวงข้ึนใหเ้ ขา้ ใจง่ายเป็น

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ลาํ ดบั ดงั น้ี ข้ันตอนทหี่ น่ึง.:.\"ก่อกวน\".เป็ นข้นั ตอนที่เมฆธรรมชาติเร่ิมก่อตวั ทางแนวต้งั การปฏิบตั ิการในข้นั ตอนน้ี มุง่ ใชส้ ารเคมีกระตุน้ ใหม้ วลอากาศลอยตวั ข้ึนสู่เบ้ืองบน เพอ่ื ใหเ้ กิดกระบวนการชกั นาํ ไอน้าํ หรือความช้ืนเขา้ สู่ระบบ การเกิดเมฆ ระยะเวลาที่จะปฏิบตั ิการในข้นั ตอนน้ีไม่ควรเกิน 10.00 น.ของแต่ละวนั โดยการใชส้ ารเคมีที่สามารถดูด ซับไอน้าํ จากมวลอากาศได้ แมจ้ ะมีเปอร์เซ็นต์ความช้ืนสัมพทั ธ์ต่าํ .(มีค่า.critical.relativ.humidity.ต่าํ ).เพื่อกระตุน้ กลไกของกระบวนการกลน่ั ตวั ไอน้าํ ใน มวลอากาศ.(เป็ นการสร้างสภาพแวดลอ้ มให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ของเมฆดว้ ย) ทางดา้ นเหนือลมของพ้ืนท่ีเป้าหมาย เม่ือเมฆเริ่มก่อตวั และเจริญเติบโตทางต้งั แลว้ จึงใชส้ ารเคมีที่ให้ ปฏิกิริยาคายความร้อนโปรยเป็นวงกลมหรือเป็นแนวถดั มาทางใตล้ มเป็นระยะทางส้ันๆ.เขา้ สู่กอ้ นเมฆ เพ่ือกระตุน้ ให้ เกิดกลุ่มแกนร่วม.(main.cloud.core).ในบริเวณ ปฏิบตั ิการสาํ หรับใชเ้ ป็ นศูนยก์ ลางท่ีจะสร้างกลุ่ม เมฆฝนในข้นั ตอน ต่อไป ข้ันตอนที่สอง:\"เลี้ยงให้อ้วน\"เป็ นข้นั ตอนท่ีเมฆกาํ ลังก่อตวั เจริญเติบโตซ่ึงเป็ นระยะสําคัญมากในการ ปฏิบตั ิการ เพราะจะตอ้ งเพม่ิ พลงั งานใหแ้ ก่ updraft ใหย้ าวนานออกไปตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยแี ละประสบการณ์การทาํ ฝน ควบคู่ไปพร้อมกนั เพื่อตดั สินใจโปรยสารเคมีชนิดใด ณ ที่ใดของกลุ่มกอ้ นเมฆ และในอตั ราใดจึงเหมาะสม เพราะ ตอ้ งให้กระบวนการเกิดละอองเมฆสมดุลกบั ความแรงของ updraft มิฉะน้นั จะทาํ ให้เมฆสลาย ข้ันตอนท่ีสาม :\" โจมตี\" เป็ นข้นั ตอนสุดทา้ ยของกรรมวิธีปฏิบตั ิการฝนหลวง เมฆ หรือ กลุ่มเมฆฝนมีความหนาแน่นมากพอที่จะ สามารถตกเป็ นฝนได้ ภายในกลุ่มเมฆจะมีเม็ดน้าํ ขนาดใหญ่มากมาย หากเครื่องบินบินเขา้ ไปในกลุ่มเมฆฝนน้ีจะมี เม็ดน้าํ เกาะตามปี กและกระจงั หน้าของเคร่ืองบินเป็ นข้นั ตอนท่ีสําคญั ตอ้ งอาศยั ประสบการณ์มาก เพราะจะตอ้ ง ปฏิบตั ิการเพ่ือลดความรุนแรงของupdraftหรือทาํ ให้อายุของ updraft หมดไป สําหรับการปฏิบตั ิการ ในข้นั ตอนน้ี จะตอ้ งพิจารณาจุดมุ่งหมายของการทาํ ฝนหลวง ซ่ึงมีอยู่ 2 ประเด็นคือเพ่ือเพ่ิมปริมาณฝนตก และเพ่ือให้เกิดการ กระจายการตกของฝน”หนูนาถามข้ึนวา่ “เครื่องมือและอุปกรณ์สําคญั ท่ีใชป้ ระกอบในการทาํ ฝนหลวงมีอะไรบา้ งคะ และมีวธิ ีการใชอ้ ยา่ งไร” ลุงอธิบายตอ่ วา่ .“เครื่องมือและอุปกรณ์สาํ คญั ที่ใชป้ ระกอบในการทาํ ฝนหลวง ประกอบดว้ ย เคร่ืองมืออุตุนิยมวทิ ยา ใชใ้ นการตรวจวดั และศึกษาสภาพอากาศประกอบการวางแผนปฏิบตั ิการ.นอกเหนือจากแผน ที่อากาศ ภาพถ่าย ดาวเทียมท่ีไดร้ ับสนบั สนุนเป็ นประจาํ วนั จากกรมอุตุนิยมวิทยาที่มีใช้ไดแ้ ก่ เครื่องวดั ลมช้นั บน (pilot.balloon)ใชต้ รวจวดั ทิศทางและความเร็วลมระดบั สูงจากผิวดินข้ึนไปเคร่ืองวิทยุหยงั่ อากาศ (radio.sonde) เป็ น เครื่องมืออิเล็คทรอนิคส์ประกอบดว้ ยเคร่ือง ส่งวทิ ยุ ซ่ึงจะติดไปกบั บอลลูน และเครื่องรับสัญญาณวิทยุซ่ึงจะบอกให้ ทราบถึงขอ้ มูลอุณหภูมิความช้ืนของบรรยากาศ ในระดบั ตา่ งๆ.เคร่ืองเรดาร์ตรวจอากาศที่มีใชอ้ ยูเ่ ป็ นแบบติดรถยนต.์ เคล่ือนที่ไดม้ ีประสิทธิภาพ สามารถบอกบริเวณท่ีมีฝนตกและความแรง หรือปริมาณน้าํ ฝนและการเคล่ือนที่ของกลุ่ม ฝนไดใ้ นรัศมี

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา 200-400 กม..ซ่ึงนอกจากจะใชป้ ระกอบการวางแผนปฏิบตั ิการ.แลว้ ยงั ใชเ้ ป็ นหลกั ฐานในการประเมินผลปฏิบตั ิการ ฝนหลวงอีกด้วย และเครื่องมือตรวจอากาศผิวพ้ืนต่างๆ เช่นเคร่ืองวดั อุณหภูมิ เคร่ืองวดั ความเร็วและทิศทางลม เครื่องวดั ปริมาณน้าํ ฝน เป็ นตน้ เครื่องมือเตรียมสารเคมี.ไดแ้ ก่ เคร่ืองบดสารเคมีเคร่ืองผสมสารเคมี ท้งั แบบน้าํ และ แบบผงถงั และกรวยโปรยสารเคมี เป็นตน้ .เคร่ืองมือสื่อสารใชใ้ นการติดต่อสื่อสารและส่ังการระหวา่ งนกั วชิ าการบน เครื่องบินกบั ฐานปฏิบตั ิการ หรือระหวา่ งฐานปฏิบตั ิการ 2 แห่ง หรือใชร้ ายงานผลระหวา่ งฐานปฏิบตั ิงานสํานกั งานฯ ในส่วนกลางโดยอาศัยข่ายร่วมของวิทยุตาํ รวจ ศูนย์สื่อสารสํานักงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย วิทยุเกษตร และกรมไปรษณียโ์ ทรเลข เครื่องมือสื่อสารที่ใชใ้ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่วิทยุซิงเกิลไซดแ์ บนด์ วทิ ยุ FM.1, FM.5 เครื่องโทร พิมพ์ เป็ นตน้ เครื่องมือทางวิชาการอื่นๆ เช่น อุปกรณ์ทางการวางแผนปฏิบตั ิการ เข็มทิศ แผนท่ี กลอ้ งส่องทางไกล เครื่องมือตรวจสอบสารเคมี กล้องถ่ายภาพฯลฯ สถานีเรดาร์ฝนหลวง หรือ เรดาร์ดอปเปลอร์ (Doppler.radar) ใน บรรดาเครื่องมืออุปกรณ์วทิ ยาศาสตร์ภายใตโ้ ครงการวิจยั ทรัพยากรบรรยากาศประยุกตจ์ าํ นวน 8 รายการน้นั เรดาร์ด อปเปลอร์จดั เป็ นเครื่องมือท่ีมีมูลค่าสูงสุด เรดาร์น้ีใชเ้ พื่อวางแผนการทดลองและติดตาม ประเมินผลปฏิบตั ิการ ฝน หลวงสาธิต เครื่องมือชนิดน้ีทาํ งานโดยใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์(Microvax.3400) ควบคุมส่ังการเก็บบนั ทึก รวบรวม ข้อมูล.สามารถ นําข้อมูลกลับมาแสดงใหม่จากเทปบันทึกในรู ปแบบการทํางานของ IRIS(IRISSoftware) ผ่านโพรเซสเซอร์ (RUP-6) กล่าวคือ ขอ้ มูลจะถูกบนั ทึกไวใ้ นเทปบนั ทึกขอ้ มูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่สามารถ นาํ มาใช้ไดต้ ลอด ซ่ึงเชื่อมต่อกบั ระบบเรดาร์ การแสดงผล/ขอ้ มูลโดยจอภาพ สถานที่ต้งั เรดาร์ ดอปเปลอร์น้ีอยู่ท่ี ตาํ บลยางเปี ยง อาํ เภออมก๋อย.จงั หวดั เชียงใหม่”ลุงยงั อธิบายต่อวา่ “การทาํ ฝนเทียมเป็ นการแกป้ ัญหาระดบั หน่ึง แต่ถา้ อยากใหฝ้ นตกถูกตอ้ งตามฤดูกาลชาวบา้ นทุกคนตอ้ งตระหนกั ใส่ใจส่ิงแวดลอ้ มรักษโ์ ลก โลกรักษเ์ รา ร่วมกนั ปลูก ตน้ ไมม้ ากๆ มีป่ าฝนตกถูกตอ้ งตามฤดูกาล น้าํ มามาก ป่ าช่วยดูดน้าํ แลว้ คายน้าํ สู่บรรยากาศตกลงมาเป็ นฝนให้ชาว เกษตรกรไดเ้ พาะปลูกหมุนเวยี นเป็ นวฏั จกั ร”หนูนาขอบคุณลุงบุญเหลือและกาํ ลงั จะกล่าวลา ทนั ใดน้นั หนูนาไดย้ นิ เสียงนา้ สมศรีคนทาํ งานบา้ นเรียกเสียงเคาะประตูห้องดงั ปลุกให้หนูนาตื่นจากความฝันที่ไดไ้ ปท่องโลกใหม่กบั เจา้ นางงาม คาถามชวนคิด 1. การทาํ ฝนเทียม หมายความวา่ อยา่ งไร 2. การทาํ ฝนเทียม มีข้นั ตอนวธิ ีการทาํ อยา่ งไร 3. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรจากการอา่ นการทาํ ฝนเทียม 4. นกั เรียนสามารถนาํ หลกั การทาํ ฝนเทียมไปปฏิบตั ิจริงไดห้ รือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวคิดในการเผยแพร่วธิ ีการทาํ ฝนเทียมในทอ้ งถิ่นของนกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนที่ 3 การทาเกษตรทฤษฎใี หม่ หนูนานอนหลบั สนิทไดย้ นิ เสียงเจา้ นางงามเห่าโฮ่ง โฮ่ง โฮง่ สะดุง้ ต่ืนตกใจ พบวา่ ไดน้ ง่ั อยูใ่ นลานหมู่บา้ น แห่งหน่ึงทราบวา่ ชื่อบา้ นหนองตาดโตน มีผนู้ าํ ชุมชน กาํ นนั สมหวงั กาํ ลงั ใหข้ อ้ มูลกบั ลูกบา้ น หนูนาเดินเขา้ ไปทาํ ความเคารพ พร้อมทาํ ความรู้จกั กบั ผนู้ าํ ชุมชนและชาวบา้ นท่ีนง่ั ฟังกนั เรียงรายอยา่ งเป็ นระเบียบ แสงแดดส่องสวา่ ง พออบอุ่นในฤดูหนาว กาํ นนั มีกระดานดาํ ต้งั อยู่ 1 แผง มีไว้ สําหรับนาํ เสนอขอ้ มูล หนูนามีสมุดปากกาเหมือนกบั ลูกบา้ นคนอื่นๆ และกาํ ลงั ต้งั ใจฟังลุงกาํ นนั สมหวงั ใหข้ อ้ มูลเร่ืองการทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ ลุงกาํ นนั อธิบายวา่ “การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็ นแนวคิดท่ีเก่ียวกบั การเกษตรโดยคิดริเริ่มจากพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ฯซ่ึงพฒั นามาจาก การทาํ ไร่สวนผสมผสานของชาวบา้ น.โดยจดั ทาํ คร้ังแรกข้ึนท่ีอาํ เภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั ชลบุรี ภายในวดั มงคล ชัยพฒั นา.ความหมายของเกษตรทฤษฎีใหม่่.หมายถึง.การปรับปรุงและการพฒั นาการเกษตรกรรมใหม่ของ เกษตรกร.เพือ่ ใหม้ ีผลผลิตเพมิ่ ข้ึนตามแบบไร่นาสวนผสมในพ้ืนที่ประมาณ 10 - 15 ไร่.สามารถทาํ ใหม้ ีสระน้าํ เพื่อใช้ ในการเพาะปลูกไดต้ ลอดปี มีผลผลิตอยา่ งมน่ั คงถาวรแบบพอกินพอใช้ไม่อดอยาก.และไม่ตอ้ งร่ํารวยมากตามแบบ เศรษฐกิจพอเพยี ง.เกษตรทฤษฎีใหม่.มีการดาํ เนินงาน 3 ข้นั ตอน ดงั น้ีทฤษฎีใหม่ข้นั ท่ี 1.: ข้นั พ่ึงพาตนเองข้ันตอนการ ดาเนินงานมีพ้นื ที่อยา่ งนอ้ ย

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา 10 - 15 ไร่ จดั สรรที่ดิน ตามสดั ส่วน 30:30:30:10 = สระน้าํ :นาขา้ ว:พืชไร่:ท่ีอยูล่ งมือปฏิบตั ิ > เตรียมดิน > ปลูกพืชไร่ - พชื สวน > เล้ียงปลา/ไก่/หมู ฯลฯ > ทาํ นา ทฤษฎีใหมข่ ้นั ท่ี 2 : เกษตรกา้ วหนา้ >> พ่ึงพาอาศยั กนั .รวมกลุ่มจดั ต้งั เป็ น ชุมชนสหกรณ์.โดยดาํ เนินกิจกรรมดงั น้ี.ใหค้ าํ แนะนาํ ปรึกษา แบ่งปัน เมล็ดพนั ธุ์ พนั ธุ์ปลา รวมกนั ทาํ –จาํ หน่ายนาํ ผลิตผลที่ไดม้ าแปรรูปเป็นสินคา้ ไปจาํ หน่ายต่อ ทฤษฎีใหม่ ข้นั ท่ี 3.:.เกษตรยงั่ ยนื >>หาตลาด ระดมทุน.ขยายกิจการ หรือเครือข่าย.ลุงกาํ นันถามว่าใครมีขอ้ สงสัยอะไรบา้ งครับ หนูนารีบยกมือพร้อมถามว่า.“เกษตรทฤษฎีใหม่มี ประโยชน์อยา่ งไรคะ”.ลุงกาํ นนั อธิบาย ต่อวา่ “ประโยชน์ของเกษตรทฤษฎีใหม่่เป็ นแนวคิดในการดาํ เนินชีวติ แบบ เศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงทดลองดว้ ยอาชีพเกษตรกรรม พบวา่ สามารถเป็ นไปไดอ้ ย่างดีซ่ึงท้งั ดา้ นประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล เช่นการใชท้ ี่ดินทุกส่วนใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด.การกกั เก็บผา้ ไวใ้ ชอ้ ุปโภคและบริโภคไดต้ ลอดท้งั ปี .เป็ น ตน้ ทฤษฎีใหมเ่ ป็นปรัชญาชีวติ แบบวถิ ีธรรมวถิ ีไทย.ซ่ึงถึงพร้อมดว้ ยความเป็ นไทยอยา่ งสมบูรณ์แบบมีประโยชน์ใน การดาํ เนินชีวิตแบบพอเพียง.ทาํ ใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศ.มีความเขม้ แข็งข้ึนเพราะประชาชนพอมีพอกินพอใช้.ไม่ ยากจนและอดอยาก.เป็ นวิธีการพฒั นาวิธีคิดในการกกั เก็บน้าํ ไวใ้ ชเ้ พ่ือการเกษตรไดต้ ลอดปี .ช่วยใหเ้ กษตรกรพ่ึงพา ตนเองได.้ สร้างความรักสามคั คี.ใหเ้ กิดข้ึนในชุมชนและครอบครัว.แกไ้ ขปัญหาความยากจนของประเทศไดใ้ นระดบั หน่ึง.ประโยชน์และความสาคัญของเกษตรทฤษฎใี หม่.\"เกษตรทฤษฎใี หม่\".เป็นแนวทางหน่ึงซ่ึงเป็นความหวงั ท่ีจะทาํ ให้เกษตรกรไทย มีสภาพชีวิตความเป็ นอยู่ท่ีดีข้ึน และจะทาํ ให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติโดยรวม มีความ เข้มแข็งและม่ันคงตลอดไป.เนื่องจากการ เกษตรทฤษฎีใหม่เป็ นการพฒั นาการประกอบอาชีพของเกษตรกร ที่เป็ นคนส่วนใหญ่ของประเทศ.เม่ือเกษตรกรมีอาหารไวบ้ ริโภค มีงานทาํ มีรายไดเ้ พียงพอต่อการดาํ รงชีพ และ ครอบครัวอยอู่ ยา่ งอบอุ่นและมีความสุขถา้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีสภาพเช่นน้ีแลว้ ก็จะทาํ ให้ ประเทศชาติ มนั่ คงท้งั ระบบ ไม่วา่ จะเป็ น.ระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เกษตรทฤษฎีใหม่ จึงมีความสําคญั และจาํ เป็ นต่อ ประเทศชาติย่ิงความสาํ คญั ของเกษตรทฤษฎีใหม่สรุปไดด้ งั น้ี เกษตรทฤษฎใี หม่สามารถลดและแก้ปัญหาภัยแล้งได้ เป็นที่ทราบกนั โดยทวั่ ไปแลว้ วา่ .พ้ืนท่ีการเกษตรส่วนใหญข่ องประเทศไทยคือ กวา่ ร้อยละ.70.อยนู่ อกเขตชลประทาน ซ่ึงเป็ นเขตการเกษตรท่ีอาศยั น้าํ ฝนเพียงอยา่ งเดียวหรือถา้ จะกล่าวอีกนยั หน่ึงคือประเทศไทยมีระบบชลประทานท้งั ประเทศประมาณ ร้อยละ.21.ของพ้ืนที่การเกษตรเทา่ น้นั หลกั การของเกษตรทฤษฎีใหม่ก็คือ การขดุ สระน้าํ เพ่ือ กกั เก็บน้าํ ในช่วงที่มีฝนตกสาํ หรับเกบ็ ไวใ้ ชใ้ นการเกษตรยามขาดแคลนซ่ึงจะทาํ ให้เกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรใน เขตน้าํ ฝนของภาคเหนือ และภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ มีน้าํ ไวใ้ ช้ในยามที่ขาดแคลน นับว่าเกษตรทฤษฎีใหม่น้ี สามารถแกป้ ัญหาหรือลดปัญหาความแหง้ แลง้ ที่เกษตรกรประสบอยูโ่ ดยทวั่ ไปในปัจจุบนั ไดใ้ นระดบั หน่ึง เกษตร ทฤษฎใี หม่ทาให้การใช้พืน้ ทกี่ ารเกษตรมปี ระสิทธิภาพยงิ่ ขึน้ จากหลกั การ

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เกษตรทฤษฎีใหมท่ ี่มีการจดั สรรพ้นื ท่ีปลูกพชื อยา่ งเหมาะสม เช่น แบ่งเป็นพ้นื ที่ปลูกขา้ ว และปลูกพืชชนิดอ่ืนๆไดแ้ ก่ พืชไร่ไมผ้ ล พชื ผกั สมุนไพร และไมใ้ ชส้ อย รวมท้งั มีการจดั แบง่ พ้ืนที่สาํ หรับเป็นท่ีอยอู่ าศยั และในบริเวณท่ีอยูอ่ าศยั น้ีเอง.สามารถใชเ้ ป็ นที่ปลูกผกั สวนครัว เพาะเห็ด และเล้ียงสัตวไ์ วบ้ ริโภค การจดั สรรพ้ืนที่แบบน้ีจะทาํ ให้พ้ืนท่ีทุก ส่วนไดน้ าํ มาใชป้ ระโยชน์อยา่ งเต็มท่ี สามารถใชพ้ ้ืนที่ไดต้ ลอดท้งั ปี ผิดกบั เมื่อก่อนท่ีเกษตรกรส่วนใหญ่มกั จะปลูก พืชชนิดเดียว พ้ืนท่ีก็ไม่ไดน้ าํ มาใชเ้ ต็มท่ีมีการใชเ้ ฉพาะท่ีหรือบางฤดูกาลเท่าน้นั เกษตรทฤษฎีใหม่ทาให้เกษตรกรมี อาหารไว้บริโภคอย่างเพียงพอ การแบ่งพ้ืนที่ออกเป็ นส่วนๆ อนั ไดแ้ ก่ส่วนแรกประมาณร้อยละ.30.สาํ หรับขดุ สระ น้าํ สามารถใชเ้ ล้ียงปลาไวบ้ ริโภคในครัวเรือนได.้ ส่วนที่.2.ประมาณร้อยละ.30.ใชส้ ําหรับปลูกขา้ วจะทาํ ใหเ้ กษตรกร มีข้าว ซ่ึงเป็ นอาหารหลักไวบ้ ริโภคภายในครัวเรือนอย่างเพียงพอตลอดท้งั ปี .ส่วนท่ี.3.ประมาณร้อยละ.30 ใช้สําหรับปลูกพืชชนิดอ่ืนๆ.เช่น.พืชไร่ไม้ผล.พืชผกั .ผลิตผลจากพืชเหล่าน้ีก็สามารถนํามาบริโภคได้เช่นกัน นอกจากน้ี.บริเวณท่ีเป็นท่ีอยอู่ าศยั ก็สามารถใชเ้ ป็นท่ีเล้ียงสัตว.์ เพาะเห็ด.สาํ หรับใชเ้ ป็นอาหารบริโภคภายในครัวเรือน จึงถือไดว้ า่ เกษตรทฤษฎีใหม่น้ี สามารถทาํ ใหเ้ กษตรกรมีอาหารไวบ้ ริโภคอยา่ งเพียงพอตลอดท้งั ปี .เกษตรทฤษฎใี หม่ ทาให้เกษตรกรมรี ายได้เพ่ิมขึน้ เน่ืองจากเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็ นระบบการเกษตรท่ีจดั ใหม้ ีแหล่งน้าํ สําหรับการเกษตร มีการจัดสรรพ้ืนที่ สําหรับปลูกพืชหลายชนิดอย่างเหมาะสม และหมุนเวียนปลูกพืชได้ตลอดท้งั ปี เป็ นการใช้ ประโยชน์จากพ้ืนที่อยา่ งคุม้ ค่าและมีรายไดห้ มุนเวยี นตลอดท้งั ปี โดยรวมแลว้ จึงทาํ ให้เกษตรกรมีรายไดเ้ พิ่มข้ึนต่าง จากเม่ือก่อนท่ีเกษตรกรมีรายไดจ้ ากการปลูกพืชชนิดเดียวหรือมีเพยี งคร้ังเดียวในหน่ึงปี จึงไม่เพียงพอต่อการดาํ รงชีพ เกษตรทฤษฎใี หม่ทาให้เกษตรกรมงี านทาตลอดท้งั ปี โดยปกติแลว้ เกษตรกรที่อยนู่ อกเขตชลประทานน้นั จะประกอบ อาชีพหรือปลูกพืชเพียงปี ละคร้ัง มีช่วงระยะเวลาการทาํ งานในแต่ละปี ประมาณ.3-4.เดือนเท่าน้นั เวลา ที่เหลือก็เป็ น การวา่ งงานตามฤดูกาล.บางรายกต็ อ้ งเดินทางไปทาํ งานที่อ่ืน.แต่เม่ือเกษตรกรเขา้ ร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่แลว้ ทาํ ใหม้ ีงานทาํ ตลอดท้งั ปี ไม่ตอ้ งไปหางานทาํ ท่ีอ่ืน.นบั วา่ เกษตรทฤษฎีใหม่ช่วยแกป้ ัญหาการวา่ งงานในทอ้ งถ่ินที่เป็ น การว่างงานตามฤดูกาลไดเ้ ป็ นอยา่ งดี นอกจากน้ียงั เป็ นการแกป้ ัญหาการเคลื่อนยา้ ยแรงงานของประชากรในระดบั ชุมชนและระดบั ประเทศได้ เพราะถ้าหากเกษตรการมีงานทาํ มีรายได้ในทอ้ งถ่ินของตนเองแล้ว.ก็ไม่จาํ เป็ นตอ้ ง เคลื่อนยา้ ยไปทาํ งานท่ีอื่นเกษตรทฤษฎใี หม่ทาให้ปัญหาสังคมลดลงจากที่กล่าวมา นบั วา่ เกษตรทฤษฎีใหม่สามารถทาํ ใหเ้ กษตรมีอาหารไวบ้ ริโภค มีงานทาํ รายไดเ้ พียงพอต่อการดาํ รงชีพ เกษตรกรกไ็ มต่ อ้ งไปทาํ งานในภาคอุตสาหกรรม หรือบริการตามเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ ของประเทศ เพราะการที่เกษตรกรตอ้ งอพยพไปอาศยั อยตู่ ามเมืองหลวง หรือเมืองใหญ่น้นั ก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องท่ีอยูอ่ าศยั และชุมชนแออดั นอกจากน้ียงั เกิดปัญหาในดา้ นครอบครัวของ เกษตรกรเอง เพราะเม่ือเกษตรกรออกไปทาํ งานท่ีอื่น ทาํ ใหค้ รอบครัวขาด

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ความอบอุน่ สภาพเช่นน้ีทาํ ใหเ้ กิดปัญหาครอบครัวตามมามากมาย เช่น บุตรหลานไม่ไดร้ ับการอบรมเล้ียงดูจากบิดา มารดา ขาดการศึกษาติดยาเสพติด ซ่ึงล้วนแต่จะก่อให้เกิดปัญหาต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ แต่เม่ือ เกษตรกรทาํ การเกษตรทฤษฎีใหม่ จะทาํ ให้เกษตรกรมีงานทาํ อยู่กบั บา้ นมีเวลาอบรมเล้ียงดูบุตรหลานปัญหาต่างๆ เหล่าน้ีจะลดนอ้ ยลงเกษตรทฤษฎใี หม่สามารถลดการสูญเสียเงนิ ตราต่างประเทศได้ลกั ษณะของเกษตรทฤษฎีใหม่น้นั จะเนน้ การใชแ้ รงงานภายในครอบครัว ถา้ เกษตรกร มีสมาชิกภายในครอบครัว5-6 คน ก็จะสามารถมีแรงงานเพียงพอ สาํ หรับการทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ในพ้ืนที่ประมาณ.15ไร่ ไดก้ ารดาํ เนินงานก็ไม่จาํ เป็ นตอ้ งพ่ึงเคร่ืองจกั รและอุปกรณ์ จากภายนอกหรือจากต่างประเทศมากนกั อีกประการหน่ึงแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่มกั จะเนน้ การใชเ้ ทคโนโลยี และภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น เช่น การใชป้ ๋ ุยคอก ป๋ ุยหมกั ในการปลูกพืช และการใชส้ ารสกดั จากธรรมชาติหรือสมุนไพร. ในการป้องกนั และกาํ จดั แมลงศตั รูพืชเกษตรทฤษฎใี หม่ทาให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศม่ันคงย่ิงขึน้ ดงั คาํ ที่กล่าว กนั มาต้งั แต่อดีตวา่ \"ชาวนา คือกระดูกสันหลงั ของชาติ\" เกษตรทฤษฎีใหม่จะทาํ ให้เกษตรกรซ่ึงเป็ นกระดูกสันหลงั ของชาติมีความมน่ั คง เน่ืองจากมีงานทาํ มีอาหารบริโภค มีรายไดเ้ พียงพอตอ่ การดาํ รงชีพจึงทาํ ให้เกษตรกรมีกาํ ลงั ใน การจบั จ่ายใชส้ อยตามอตั ภาพ ดงั น้นั เมื่อเกษตรกร ซ่ึงเป็นฐานของประเทศมีความมน่ั คง กจ็ ะทาํ ใหป้ ระเทศชาติมนั่ คง ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศส่วนรวมก็จะมนั่ คงตามมาดว้ ย.และถา้ หากเกษตรกรไทยปฏิบตั ิ หรือทาํ เกษตรทฤษฎี ใหม่และยดึ หลกั การเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดาํ ริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ฯ มาเป็ นเวลานานแลว้ ประเทศชาติก็คงไม่ตอ้ งประสบภาวะวกิ ฤติทางเศรษฐกิจเช่นในปัจจุบนั เกษตรทฤษฎีใหม่ทาให้เกิดการพฒั นาอย่าง ยง่ั ยืนเกษตรทฤษฎีใหมต่ ามแนวพระราชดาํ ริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ฯ เป็ นทฤษฎีที่สามารถนาํ ไปปฏิบตั ิได้ อยา่ งเป็นรูปธรรม.เม่ือนาํ ทฤษฎีน้ีไปปฏิบตั ิอยา่ งจริงจงั .รวมท้งั ยดึ หลกั การพฒั นาประเทศตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง อย่างเคร่งครัดก็จะเป็ นที่มน่ั ใจไดว้ ่าประชากรจะมีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข ไม่มีปัญหาการว่างงานและขาดแคลน อาหารบริโภค ปัญหาต่างๆ ของสงั คม ก็จะลดนอ้ ยลง ประเทศชาติก็จะมน่ั คงแขง็ แรง ลดการพ่ึงพาจากภายนอกหรือ ตา่ งประเทศ ดงั น้นั การพฒั นาการประกอบอาชีพการเกษตรตามแนวพระราชดาํ ริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั น้ี จะเป็ นการพฒั นาประเทศชาติอยา่ งยง่ั ยืนตลอดไป” หนูนาบนั ทึกขอ้ มูลที่ไดเ้ รียนรู้อยา่ งละเอียด พร้อมแสดงความ คิดเห็นต่อวิถีทางในการดาํ เนินงานของผูน้ าํ ชุมชนพร้อมลูกบา้ นในชุมชนบา้ นหนองตาดโตน ท่ีมีการวางแผนการ ทาํ งานร่วมกนั อยา่ งเป็นระบบ ตระหนกั และเห็นคุณค่าใส่ใจตอ่ ความสําคญั ของการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่เป็ น อาชีพหลกั ของคนในชุมชน การดาํ รงชีวติ ภายใตค้ วามสัมพนั ธ์กบั ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั ท่ีตดั แยกกนั ไม่ขาด มนุษยต์ อ้ ง พ่ึงพาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั ท้งั สิ่งมีชีวติ มนุษย์ พชื สัตว์

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา และสิ่งไมม่ ีชีวติ น้าํ ดินอากาศเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษยต์ อ้ งใชอ้ ยา่ งประหยดั และคุม้ ค่าท่ีสุด หนูนามี ความสุข ได้มาท่องเท่ียว ในชุมชนแห่งน้ี.ลุงกาํ นนั พาลูกบา้ นและหนูนาไปเดินเที่ยวชมบา้ นตวั อย่างท่ีได้ดาํ เนินการตาม หลกั การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ที่จดั ทาํ ได้ดีเยี่ยม.เพ่ือเป็ นขอ้ มูลพ้ืนฐานการ.จุดประกายความคิดท่ีจะลงมือปฏิบตั ิ. ปฏิบตั ิจริงในพ้นื ท่ีของตนเอง.ขณะที่หนูนากาํ ลงั เดินชมอยา่ งสนุกสนานก็ไดย้ นิ เสียงพอ่ ปลุกให้ต่ืนอีกคร้ัง จึงรู้สึกตวั พบวา่ ไดฝ้ ันไปอีกแลว้ คาถามชวนคิด 1. การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ หมายความวา่ อยา่ งไร 2. การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ มีข้นั ตอนวธิ ีการทาํ อยา่ งไร 3. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรจากการอา่ นการทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ 4. นกั เรียนสามารถนาํ หลกั การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ไปปฏิบตั ิจริงไดห้ รือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวคิดในการเผยแพร่วธิ ีการทาํ เกษตรทฤษฎีใหมใ่ นทอ้ งถิ่นของนกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนที่ 4 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หนูนา.กบั เจา้ นางงามสุนขั คู่ใจกาํ ลงั วิ่งหยอกลอ้ กนั ในชุมชนแห่งหน่ึงช่ือ.ชุมชนบา้ นโคกกระเทียม หนูนา สังเกตพบว่า.ชื่อป้ายหมู่บ้านเขียนไว้ว่า ชุมชนต้นแบบด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการใช้ ชีวิตประจาํ วนั .ชาวบา้ นในชุมชนทุกครัวเรือนเป็ นชุมชนตน้ แบบดา้ นการนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ปรับประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั หนูนาเดินไปเร่ือยๆ กบั เจา้ นางงาม.จนมาถึงบา้ นหลงั หน่ึง หนา้ บา้ นมีป้าย ชื่อบอกวา่ ที่ทาํ การผูใ้ หญ่บา้ นโคกกระเทียม เจา้ นางงามคลอเคลียวิ่งพนั ขาไปมา หนูนาส่งเสียงร้องเรียก.“มีใครอยู่ ไหมคะ”.ทนั ใดน้นั หนูนาเห็น หญิงวยั กลางคนเดินออกมา หนูนารีบทาํ ความเคารพพร้อมแนะนาํ ตนเอง หนูนาได้ ทราบว่าผูใ้ หญ่บา้ นโคกกระเทียมเป็ นผูห้ ญิงชื่อ นา้ พลอยทิพย์ เป็ นผูน้ าํ ชุมชนท่ีมีความรู้ความสามารถพาลูกบา้ น ดาํ เนินชีวติ ภายใตห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจนไดร้ ับรางวลั จากผูว้ า่ ราชการจงั หวดั วา่ เป็ นชุมชนตน้ แบบ หนู นาไดข้ อความอนุเคราะห์ให้น้าํ พลอยทิพย์ อธิบายหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกบั การ ใชช้ ีวิตประจาํ วนั หนูนา มีสมุดบนั ทึกขอ้ มูลอยา่ งละเอียดพร้อมต้งั ใจฟัง นา้ พลอยทิพยอ์ ธิบายวา่ “เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่ตามแนว พระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางปฏิบตั ิของ ทฤษฎใี หม่ เป็ นแนวทางในการพฒั นาท่ีนาํ ไปสู่ความสามารถ ในการพ่ึงตนเองในระดบั ต่างๆอยา่ งเป็ น ข้นั ตอนโดยลดความเส่ียงเก่ียวกบั ความผนั แปรของธรรมชาติ หรือการ เปล่ียนแปลงจากปัจจยั ตา่ งๆ

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา โดยอาศยั ความพอประมาณและความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุม้ กนั ท่ีดี มีความรู้ ความเพียรและความอดทน สติและ ปัญญา การช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั และความสามคั คีเศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายกวา้ งกว่าทฤษฎีใหม่โดยท่ี เศรษฐกิจพอเพียงเป็ นกรอบแนวคิดที่ช้ีบอกหลกั การและแนวทางปฏิบตั ิของทฤษฎี แนวพระราชดาํ ริเกี่ยวกบั ทฤษฎี ใหม่หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ ซ่ึงเป็ นแนวทางการพฒั นาภาคเกษตรอย่างเป็ นข้นั ตอนน้ัน เป็ นตวั อย่างการใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบตั ิ ที่เป็ นรูปธรรมเฉพาะในพ้ืนท่ี ที่เหมาะสม ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาํ ริ.อาจ เปรียบเทียบกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงมีอยู่ 2 แบบ คือแบบพ้ืนฐานกบั แบบกา้ วหนา้ ไดด้ งั น้ีความพอเพียงในระดบั บุคคลและครอบครัวโดยเฉพาะเกษตรกร เป็ นเศรษฐกิจพอเพียงแบบพ้ืนฐานเทียบได้กับทฤษฎีใหม่ข้นั ที่1ท่ีมุ่ง แกป้ ัญหาของเกษตรกร ท่ีอยหู่ ่างไกลแหล่งน้าํ ตอ้ งพ่ึงน้าํ ฝนและประสบความเส่ียงจากการที่น้าํ ไม่พอเพียง แมก้ ระทง่ั สาํ หรับการปลูกขา้ วเพอ่ื บริโภค และมีขอ้ สมมติวา่ มีท่ีดินพอเพียงในการขุดบ่อเพื่อแกป้ ัญหาในเร่ืองดงั กล่าวจากการ แกป้ ัญหาความเส่ียงเร่ืองน้าํ จะทาํ ให้เกษตรกรสามารถมีขา้ วเพื่อการบริโภคยงั ชีพในระดบั หน่ึงได้ และใชท้ ี่ดินส่วน อื่นๆ.สนองความตอ้ งการพ้ืนฐานของครอบครัว.รวมท้งั ขายในส่วนท่ีเหลือ เพื่อมีรายไดท้ ่ีจะใชเ้ ป็ นค่าใช้จ่ายอ่ืนๆ ท่ีไม่สามารถผลิตเองได้ ท้งั หมดน้ีเป็นการสร้างภูมิคุม้ กนั ในตวั ให้เกิดข้ึนในระดบั ครอบครัวอยา่ งไรก็ตาม แมก้ ระทง่ั ในทฤษฎีใหม่ข้นั ท่ี.1.ก็จาํ เป็นท่ีเกษตรกรจะตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือจากชุมชน.ราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน ตาม ความเหมาะสม.ความพอเพียงในระดบั ชุมชนและระดบั องคก์ รเป็ นเศรษฐกิจพอเพียงแบบกา้ วหนา้ ซ่ึงครอบคลุม ทฤษฎีใหมข่ ้นั ที่ 2.เป็นเรื่องของการสนบั สนุนใหเ้ กษตรกรรวมพลงั กนั ในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์หรือการท่ีธุรกิจต่างๆ. รวมตวั กนั ในลกั ษณะเครือข่ายวิสาหกิจ.กล่าวคือเมื่อสมาชิกในแต่ละครอบครัวหรือองคก์ รต่างๆมีความพอเพียงข้นั พ้นื ฐานเป็นเบ้ืองตน้ แลว้ ก็จะรวมกลุ่มกนั เพื่อร่วมมือกนั สร้างประโยชน์ใหแ้ ก่กลุ่มและส่วนรวม บนพ้ืนฐานของการ ไม่เบียดเบียนกนั การแบ่งปันช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ตามกาํ ลงั และความสามารถของตนซ่ึงจะสามารถทาํ ให้ ชุมชน โดยรวมหรือเครือข่ายวสิ าหกิจน้นั ๆ.เกิดความพอเพียงในวถิ ีปฏิบตั ิอยา่ งแทจ้ ริง.ความพอเพียงในระดบั ประเทศ เป็ น เศรษฐกิจพอเพียงแบบกา้ วหนา้ ซ่ึงครอบคลุม ทฤษฎีใหม่ ข้นั ท่ี 3.ซ่ึงส่งเสริมให้ชุมชนหรือเครือข่ายวิสาหกิจสร้าง ความร่วมมือกบั องคก์ รอ่ืนๆ.ในประเทศ เช่น บริษทั ขนาดใหญ่ธนาคาร สถาบนั วจิ ยั เป็ นตน้ การสร้างเครือข่ายความ ร่วมมือในลกั ษณะเช่นน้ีจะเป็ นประโยชน์ในการสืบทอดภูมิปัญญา แลกเปล่ียนความรู้ เทคโนโลยี และบทเรียนจาก การพฒั นาหรือร่วมมือกนั พฒั นา ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทาํ ให้ประเทศอนั เป็ นสังคมใหญ่อนั ประกอบดว้ ย ชุมชน.องคก์ ร และธุรกิจตา่ งๆ ที่ดาํ เนินชีวติ อยา่ งพอเพยี งกลายเป็นเครือขา่ ยชุมชนพอเพียงท่ีเชื่อมโยงกนั ดว้ ยหลกั ไม่ เบียดเบียน.แบ่งปัน.และช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ไดใ้ นท่ีสุด\"…ขอให้ทุกคนมีความปรารถนาท่ีจะใหเ้ มืองไทยพออยู่ พอกินมีความสงบและทาํ งานต้งั อธิษฐาน ต้งั ปณิธานในทางน้ี ท่ีจะให้เมืองไทยอยแู่ บบพอกินไม่ใช่วา่ จะรุ่งเรืองอยา่ ง ยอดแตม่ ีความความพออยพู่ อกิน.

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา มีความสงบเปรียบเทียบกบั ประเทศอื่นๆ.ถา้ เรารักษาความพออยพู่ อกินน้ีไดเ้ ราก็จะยอดยิ่งยวดได…้ ฉะน้นั ถา้ ทุกท่าน ซ่ึงถือวา่ เป็น ผมู้ ีความคิดและมีอิทธิพลมีพลงั ที่จะทาํ ใหผ้ อู้ ื่น.ซ่ึงมีความคิดเหมือนกนั ช่วยกนั รักษาส่วนรวมให้อยูด่ ีกิน ดีพอสมควรขอย้าํ พอควรพออยูพ่ อกิน.มีความสงบไม่ให้คนอื่นมาแยง่ คุณสมบตั ิน้ีจากเราไปไดก้ ็จะเป็ นของขวญั วนั เกิดท่ีถาวรที่จะมีคุณคา่ อยตู่ ลอดกาล\"พระราชดาํ รัสเน่ืองในโอกาสวนั เฉลิมพระชนพรรษา.23.ธนั วาคม2542หนูนาได้ เรียนรู้ขอ้ มูลมากมายสรุปไดว้ า่ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบดว้ ย ความพอประมาณ หมายถึงความ พอดี ไม่นอ้ ยเกินไป ไม่มากเกินไป หรือสุดโต่งไป ขา้ งใด ขา้ งหน่ึง และตอ้ งไม่เบียดเบียนตนเองและผูอ้ ่ืน.ความมี เหตุผล หมายถึง ทุกการตดั สินใจ การกระทาํ การลงทุน ตอ้ งเป็ นไปอยา่ งมีเหตุผลคาํ นึงถึงเหตุปัจจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง และ ผลท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนอย่างรอบคอบ ความมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว หมายถึงการเตรียมตวั ให้พร้อมที่จะเผชิญผลกระทบ และเปลี่ยนแปลงดา้ นต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดข้ึนจากท้งั ภายในและภายนอก ท้งั น้ี ตอ้ งมีเงื่อนไขสาคัญ 2.ประการ มีความรู้ คือ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั ในการนาํ ความรู้ วทิ ยาการเทคโนโลยตี ่างๆ มาใชใ้ นการวางแผนและการ ปฏิบตั ิ มีคุณธรรม คือ มีความตระหนกั มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีความอดทนมีความเพียร และใชส้ ติปัญญาในการ ดาํ เนินชีวติ .หนูนาพร้อมเจา้ นางงามไดเ้ ดินชม หมู่บา้ นเกือบทุกครัวเรือนไดใ้ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน การดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั อยา่ งกวา้ งขวาง.ทุกคนในครัวเรือนปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยา่ งที่ดี ใชช้ ีวติ โดยไม่ประมาทในการ ครองตน มีคุณธรรม นาํ สู่การปฏิบตั ิท่ีมีคุณค่าท้งั ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และส่ิงแวดลอ้ ม สะทอ้ นไดว้ า่ สังคมมี ความสงบสุข.สมาชิกในชุมชน คนในสังคมเป็ นคนดี มีวินยั ในการดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั อยา่ งสร้างสรรค”์ หนูนากล่าว ขอบพระคุณนา้ พลอยทิพย์ พร้อมจะนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ไปถ่ายทอดเผยแพร่สู่คนในยคุ โลกปัจจุบนั ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ พร้อมนาํ ไปปฏิบตั ิใหเ้ กิดในองคก์ ร ชุมชน.และประเทศชาติอยา่ งยงั่ ยนื .แลว้ หนูนาก็รู้สึกตวั ต่ืนนอนในตอนเชา้ วนั ใหม่ ท่ีตอ้ งทนอยใู่ นสงั คมเมืองใหญ่ที่มีความแออดั เร่ืองการจราจร.อากาศเป็ นพิษ ปัญหาสังคม เสื่อมโทรม. เป็นโลกในชีวติ ปัจจุบนั ของการดาํ รงตนที่หนูนาไม่ชอบและทนอยตู่ ่อไป คาถามชวนคดิ 1. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หมายความวา่ อยา่ งไร 2. การนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบตั ิ มีข้นั ตอนวธิ ีการทาํ อยา่ งไร 3. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรจากการอ่านหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4. นกั เรียนสามารถนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปปฏิบตั ิจริงไดห้ รือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวคิดในการเผยแพร่วธิ ีการนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาปฏิบตั ิ ในทอ้ งถิ่นของนกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เอกสารอ้างองิ สุวทิ ย์ มูลคาํ สุนนั ทา สุนทรประเสริฐ (2550). การพฒั นาผลงานทางวชิ าการ สู่การเลื่อนวทิ ยฐานะ. ภาพพมิ พ์ : กรุงเทพฯ. สาํ นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2553). “หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.fti.or.th. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553. . (2553). “การทาํ ฝนเทียม” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.fti.or.th. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553. . (2553). “การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.fti.or.th. สืบคน้ วนั ท่ี 28 มีนาคม 2553. อภิชาติ ดิลกโสภณ. (2553). “การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www2.oae.go. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553.

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ภาคผนวก

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา อภธิ านศัพท์ 1. การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ หมายถึง การนาํ กลุ่มจุลินทรียท์ ่ีมีประสิทธิภาพมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มจุลินทรียท์ ี่มีคุณภาพ มีประมาณร้อยละ 10 กลุ่มทาํ ลาย เป็นกลุ่ม จุลินทรียท์ ี่เป็นโทษ ทาํ ใหเ้ กิดโรคมีประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเป็นกลาง มีประมาณ ร้อยละ 80 จุลินทรียก์ ลุ่มน้ีหากกลุ่มใดมีจาํ นวนมากกวา่ กลุ่มน้ีจะสนบั สนุนหรือร่วมดว้ ย ดงั น้นั การเพ่มิ จุลินทรียเ์ หล่าน้ีจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินใหม้ ีจาํ นวนมากกวา่ ซ่ึงจุลินทรียเ์ หล่าน้ีจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินใหก้ ลบั มีพลงั ข้ึนมาเป็นประโยชน์ ตอ่ พชื ไร่ 2. จุลินทรียแ์ หง้ หมายถึง การนาํ เอา EM มาหมกั กบั อินทรียวตั ถุ เป็นการขยายจาํ นวน จุลินทรียท์ ่ีมีประสิทธิภาพ ใหม้ ีจาํ นวนมากข้ึน แขง็ แรงข้ึน และพกั ตวั อยใู่ นอินทรียวตั ถุ เพ่อื นาํ ไปใชป้ รับปรุงสภาพดินใหด้ ินร่วนซุย มีธาตุอาหารที่ สาํ คญั เหมาะแก่การเพาะปลูก 3. การทาํ ฝนเทียม หมายถึง เป็นกรรมวธิ ีดดั แปรสภาพอากาศเพือ่ ใหเ้ กิดฝน การทาํ ฝนเทียม เป็นกรรมวธิ ีเลียนแบบธรรมชาติ โดยทาํ จากเมฆซ่ึงมีลกั ษณะพอเหมาะท่ีจะเกิดฝนได้ จากน้นั จึงเร่งใหเ้ กิดการควบแน่นของเมฆ ดว้ ย 3 ข้นั ตอน คือ ก่อกวน, เล้ียงใหอ้ ว้ น, และโจมตี 4. ข้นั ตอนที่หน่ึง : \"ก่อกวน\" หมายถึง ข้นั ตอนที่เมฆธรรมชาติเริ่มก่อตวั ทางแนวต้งั การ ปฏิบตั ิการในข้นั ตอนน้ีมุ่งใชส้ ารเคมีกระตุน้ ใหม้ วลอากาศลอยตวั ข้ึนสู่เบ้ืองบน เพ่อื ให้ เกิดกระบวนการชกั นาํ ไอน้าํ หรือความช้ืนเขา้ สู่ระบบการเกิดเมฆ 5. ข้นั ตอนท่ีสอง : \"เล้ียงใหอ้ ว้ น\" หมายความวา่ ข้นั ตอนที่เมฆกาํ ลงั ก่อตวั เจริญเติบโตซ่ึง เป็นระยะสาํ คญั มากในการปฏิบตั ิการ เพราะจะตอ้ งเพม่ิ พลงั งานใหแ้ ก่ updraft ใหย้ าวนาน ออกไปตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยแี ละประสบการณ์การทาํ ฝนควบคู่ไปพร้อมกนั เพื่อตดั สินใจ โปรยสารเคมีชนิดใด ณ ที่ใดของกลุ่มกอ้ นเมฆ และในอตั ราใดจึงเหมาะสม เพราะตอ้ งให้ กระบวนการเกิดละอองเมฆสมดุลกบั ความแรงของ updraft มิฉะน้นั จะทาํ ใหเ้ มฆสลาย 6. ข้นั ตอนท่ีสาม : \"โจมตี\" หมายถึง ข้นั ตอนสุดทา้ ยของกรรมวิธีปฏิบตั ิการฝนหลวง เมฆ หรือ กลุ่มเมฆ ฝนมีความหนาแน่นมากพอที่จะสามารถตกเป็นฝนได้ ภายในกลุ่มเมฆจะมีเมด็ น้าํ ขนาดใหญ่มากมาย

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา อภธิ านศัพท์ (ต่อ) 7. เกษตรทฤษฎีใหม่่ หมายถึง การปรับปรุงและการพฒั นาการเกษตรกรรมใหม่ของเกษตรกร เพ่ือให้มี ผลผลิตเพ่ิมข้ึนตามแบบไร่นาสวนผสม ในพ้นื ที่ประมาณ 10 - 15 ไร่สามารถทาํ ใหม้ ีสระน้าํ เพื่อใชใ้ นการ เพาะปลูกไดต้ ลอดปี มีผลผลิตอยา่ งมนั่ คงถาวร แบบพอกิน พอใช้ ไมอ่ ดอยาก และไม่ตอ้ งร่ํารวยมากตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ 8. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง เศรษฐกิจพอเพียงกบั ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาํ ริ เศรษฐกิจพอเพยี งและแนวทางปฏิบตั ิของ ทฤษฎีใหม่ เป็ นแนวทางในการพฒั นาที่นาํ ไปสู่ความสามารถ ในการพ่งึ ตนเอง ในระดบั ต่างๆ อยา่ งเป็ นข้นั ตอน โดยลดความเสี่ยงเกี่ยวกบั ความผนั แปรของธรรมชาติ หรือการเปล่ียนแปลงจากปัจจยั ตา่ งๆ โดยอาศยั ความพอประมาณและความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุม้ กนั ท่ี ดี มีความรู้ ความเพยี รและความอดทน สติและปัญญา การช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั และความสามคั คี

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ดชั นี ก การทาํ ป๋ ุยหมกั ชีวภาพ 2 การทาํ ฝนเทียม 7 การทาํ เกษตรทฤษฎีใหม่ 11 เกษตรทฤษฎีใหมส่ ามารถลดและแกป้ ัญหาภยั แลง้ ได้ 12 เกษตรทฤษฎีใหมท่ าํ ใหก้ ารใชพ้ ้ืนที่การเกษตรมีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน 12 เกษตรทฤษฎีใหม่ทาํ ใหเ้ กษตรกรมีอาหารไวบ้ ริโภคอยา่ งเพยี งพอ 13 เกษตรทฤษฎีใหมท่ าํ ใหเ้ กษตรกรมีรายไดเ้ พิม่ ข้ึน 13 เกษตรทฤษฎีใหมท่ าํ ใหเ้ กษตรกรมีงานทาํ ตลอดท้งั ปี 13 เกษตรทฤษฎีใหม่ทาํ ใหป้ ัญหาสังคมลดลง 13 เกษตรทฤษฎีใหมส่ ามารถลดการสูญเสียเงินตราตา่ งประเทศได้ 13 เกษตรทฤษฎีใหม่ทาํ ใหร้ ะบบเศรษฐกิจของประเทศมนั่ คงยงิ่ ข้ึน 14 เกษตรทฤษฎีใหม่ทาํ ใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื 14 ข 11 ข้นั ตอนการดาํ เนินงาน 11 18 ค 18 18 ความหมายของเกษตรทฤษฎีใหม่่ ความพอประมาณ 18 ความมีเหตุผล ความมีภูมิคุม้ กนั ที่ดีในตวั ง เงื่อนไขสาํ คญั 2 ประการ

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ดัชนี ป 5 ป๋ ุยชีวภาพ 11 ประโยชนข์ องเกษตรทฤษฎีใหม่่ 18 ม 18 มีความรู้ 16 มีคุณธรรม 16 ศ เศรษฐกิจพอเพียงกบั ทฤษฎีใหมต่ ามแนวพระราชดาํ ริ ห หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ประวตั ผิ ู้แต่ง นางสาวอรอนงค์ สุขสงวน ตาแหน่งปัจจุบนั * ครูโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด วทิ ยฐานะครูชาํ นาญการ สาขาวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ การศึกษา พ.ศ. 2537 มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 แผนการเรียนวทิ ยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์โรงเรียนสตรีสิริเกศ จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2541 ปริญญาตรี วิชาเอกวทิ ยาศาสตร์ทว่ั ไป ค่าเฉล่ีย GPA 3.06 ครุศาสตรบณั ฑิต สถาบนั ราชภฏั อุบลราชธานี พ.ศ. 2549 ปริญญาโท สาขา หลกั สูตรและการสอน ค่าเฉลี่ย GPA 3.95 ครุศาสตรมหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุรินทร์ ประสบการณ์ ด้านบริหาร  หวั หนา้ งานบริหารการจดั การหลกั สูตรโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  หวั หนา้ งานนวตั กรรมการเรียนการสอนโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  หวั หนา้ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  เจา้ หนา้ ท่ีบริหารงานวชิ าการระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  เจา้ หนา้ ท่ีงานบริหารจดั การห้องสมุดโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  เจา้ หนา้ งานอนามยั โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  เจา้ หนา้ ที่งานการเงินโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด  เจา้ หนา้ ที่งานสหกรณ์โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด ด้านการสอน  มีประสบการณ์ในการจดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ 12 ปี  มีประสบการณ์ในการจดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษา ตอนปลาย ด้านการวจิ ัย  มีผลงานวจิ ยั จาํ นวน 9 เร่ือง

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ด้านการบริการสังคม  ใหค้ าํ ปรึกษา เป็นกรรมการคณะทาํ งานต่างๆ บรรยายและจดั อบรมใหก้ บั องคก์ รและหน่วยงานของรัฐมา 12 ปี ด้านต้นสังกดั สพป.ศก. เขต 4  ทาํ งานวจิ ยั แผนการจดั การเรียนรู้ เอกสารประกอบการอบรม เขา้ ร่วมประชุม จดั ประชุม เป็นวทิ ยากรการอบรมครูผจู้ ดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ด้านระดบั ชาติ  ทาํ งานวางแผนการจดั การเรียนรู้ สร้างแผนการจดั การเรียนรู้ เขา้ ร่วมประชุม สมั มนางานทาง วชิ าการ ของสถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยรี ะดบั ชาติอยา่ งต่อเน่ือง  ทาํ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการคิดข้นั สูง สร้างส่ือ นวตั กรรมการเรียนการสอน เขา้ ร่วมประชุมสมั มนาทาง วชิ าการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กบั ภาคีสมาชิกสาํ นกั งานส่งเสริมสงั คมแห่งการเรียนรู้และพฒั นาคุณภาพเยาวชน (สสค.) ด้านระดบั นานาชาติ  ทาํ งานวางแผนการจดั การเรียนรู้ สร้างแผนการจดั การเรียนรู้ เขา้ ร่วมประชุม สัมมนางาน ทางวชิ าการร่วมโครงการ FLEXE 2010 Ecology Unit Pilot จาก Dr. Liz Goehring และคณะนกั วทิ ยาศาสตร์ในโครงการ GLOBE ประเทศสหรัฐอเมริกา เขา้ ร่วมประชุมเชิง ปฏิบตั ิการ ร่วมกบั โครงการ GLOBE สสวท. นกั วิทยาศาสตร์ท่ีมีความรู้ความเช่ียวชาญ ในระดบั นานาชาติ และนกั วทิ ยาศาสตร์ในประเทศไทย ผลงานด้านการเขยี น  เขียนแผนการจดั การเรียนรู้ เอกสารประกอบการอบรม เอกสารประกอบการเรียน คู่มือผเู้ รียน บทเรียน โปรแกรม หนงั สือนิทานเล่มเลก็ ประมาณ 30 เล่ม  รายงานการวจิ ยั จาํ นวน 9 เร่ือง  บทความในส่ือ Internet www.//Qlf.or.th จาํ นวน 5 เร่ือง เกยี รตปิ ระวตั ิ  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กชายบุญช่วย เรืองเดช เขา้ รับการแขง่ ขนั ตอบ ปัญหาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ไดร้ ับรางวลั ชนะเลิศ ของสาํ นกั งาน การประถมศึกษาอาํ เภอกนั ทรลกั ษ์ เป็นตวั แทนแข่งขนั ระดบั จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2543

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูเกียรติยศ (Teacher Award) การปฏิรูปการเรียนรู้ดีเด่น สาขาหลกั สูตรสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สาํ นกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2545  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเด่น วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนตน้ กลุ่มโรงเรียนมธั ยมศึกษา กลุ่มท่ี 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2545  ไดร้ ับรางวลั เชิดชูเกียรติ เป็นครูครูผสู้ ร้างและส่งส่ือการสอนวทิ ยาศาสตร์ไดร้ ับรางวลั ระดบั ดี ของสาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 4 ร่วมกบั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พ.ศ. 2548  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเด่น วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2548  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นวทิ ยากรแกนนาํ การอบรมเชิงปฏิบตั ิการพฒั นาครูวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง “จุด ประกายขยายความคิดพิชิตการเปล่ียนแปลง” ของสาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 ร่วมกบั สถาบนั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2548  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2549  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอรณี เรืองเดช นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 ไดเ้ ป็นตวั แทนนกั เรียนสาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 เขา้ รับการแข่งขนั ตอบปัญหา วทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์โอลิมปิ กระดบั ประเทศ (The Third International Junior Science Olympiad) (IJSO) กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ่งเสริมนกั เรียน “รักการอ่าน” โรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลาง เดก็ หญิงอรณี เรืองเดช นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 ไดร้ ับรางวลั ระดบั ดี สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรี สะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2549  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ร้างนวตั กรรมการศึกษา ตามโครงการหน่ึงโรงเรียนหน่ึงนวตั กรรม ดา้ นการเรียนการสอน ส่งผลใหโ้ รงเรียนไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรียญเงิน ในงาน “รวมพลงั สร้างนวตั กรรม เฉลิมพระเกียรติ ครองราชย์ ๖๐ ปี ” สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2549

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ ชายรัฐเสน คาํ รัตน์ เดก็ หญิงอรวรรณ เนียมเพช็ ร เดก็ ชายเหล่าฤทธ์ิ ศิลาคาํ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทองแดง กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทส่ิงประดิษฐ์ ระดบั ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2550  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอรณี เรืองเดช เดก็ หญิงอรุณี สีใส เด็กหญิงเกษณีย์ วลิ าไดร้ ับรางวลั ชมเชย รองชนะเลิศลาํ ดบั ที่ 3 จาก 11 โรงเรียน กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์ระดบั ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2550  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2550  ไดร้ ับรางวลั ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ร้างแผนการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ไดร้ ับ รางวลั ชนะเลิศ เหรียญทอง ในการประกวดแข่งขนั การนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การเรียนรู้ใน สถานศึกษา สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2551  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กหญิงอรณี เรืองเดช เดก็ หญิงอรุณี สีใส เดก็ หญิงอารีรัตน์ ศิริชนะ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน รองชนะเลิศลาํ ดบั ที่ 1 จาก 11 โรงเรียน กิจกรรม ตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์ระดบั ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2551  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2551  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2552  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ ชายรัฐเสน คาํ รัตน์ เดก็ หญิงอรวรรณ เนียมเพช็ ร เด็กหญิงกญั ญารัตน์ เกษกลุ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง ระดบั ช่วง ช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กหญิงพรนิภา ไขแสง นกั เรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ที่ 6 ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง กิจกรรม คดั ไทย เนื่องในวนั ภาษาไทยแห่งชาติ สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียน เด็กชายอนุชา พรมชาติ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ไดเ้ ป็นตวั แทนนกั เรียน แข่งขนั การตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์ (สสวท.) สาํ นกั งาน เขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนนกั เรียน เดก็ ชายจิรพฒั น์ พณิ พงษ์ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมเล่าเรื่องตลก ระดบั ช่วงช้นั ท่ี 2 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ี การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูเครือข่ายโครงการ FLEXE 2010 Ecology Unit Pilot จาก Dr. Liz Goehring และคณะนกั วทิ ยาศาสตร์ในโครงการ GLOBE ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2552  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยยี่ ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอมรรัตน์ หอมคาํ เดก็ หญิงอรทยั ตดั โท นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 ส่งเคา้ โครงงานวจิ ยั (Research Proposal) ประกวดขอรับทุนวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ โลกท้งั ระบบ (ESS) ไดร้ ับทุนวจิ ยั จาก (สสวท.) 1 ใน 25 โรงเรียนทวั่ ประเทศ พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็น วทิ ยากรแกนนาํ การจดั ทาํ หน่วยการเรียนรู้ ในหลกั สูตรโรงเรียนตาม หลกั สูตรแกนกลางการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผเู้ ป็นศิษยเ์ ก่ารุ่นใหม่ เป็นแบบอยา่ งท่ีดีทางการศึกษา หนา้ ท่ี การงาน และการดาํ เนินชีวติ เน่ืองในงานครบรอบ 70 ปี ก่อต้งั โรงเรียนบา้ นหนองเตย อาํ เภอพยหุ ์ สาํ นกั งานเขต พ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษเขต 1 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผมู้ ีคุณงามความดี ไดร้ ับคดั เลือกผา่ นรอบแรก 1 ใน 40 คนจาก ผเู้ ขา้ รับ การประเมิน 280 คน ในการสมคั รชิงทุนการศึกษาในและ ตา่ งประเทศของ Ford Foundation International Fellowships Program USA มูลนิธิทุนการศึกษาเอเชีย (ASF) ในพระราชูปถมั ภส์ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผนู้ าํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาจดั กิจกรรมการเรียนรู้ และ พฒั นาผเู้ รียนให้รู้หลกั ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในรูปแบบการใชน้ ิทานเล่มเล็กประกอบการวจิ ยั ใน ช้นั เรียนโครงการวจิ ัยเศรษฐกจิ พอเพยี งสานักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ร่วมกบั บริษัทสยามกมั มาจลน์ ใหเ้ กียรติสัมภาษณ์และเกบ็ ขอ้ มูลเผยแพร่ผลงานและการทาํ งาน พ.ศ. 2553

หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผมู้ ีคุณงามความดีและความสามารถไดร้ ับคดั เลือกเป็นครูนวตั กรรม (Innovation Teacher) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เน่ืองในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กหญิงกญั ญารัตน์ เกษกลุ เดก็ หญิงภคั จิรา จ๋ิวนารายณ์ เด็กหญิงอภิญญา ชาภคั ดี ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ส่ิงประดิษฐ์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เนื่องในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงกญั ญารัตน์ เกษกลุ เด็กหญิงบวั ศร ก่ึงวงษ์ เด็กหญิงเสาวลกั ษ์ ศรีเนตรไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรม โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เนื่องในงานยกผลสมั ฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั กลุ่มโรงเรียนพนมดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงนิธิดา พวงลอย เด็กชายอนุชา พรมชาติ เด็กหญิงจินตนา ปัญญาพนั ธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพ ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เน่ืองในงานยกผลสมั ฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั กลุ่มโรงเรียนพนม ดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กหญิงพรรณี นาคชาติ เดก็ ชายอนุชา พรมชาติ เด็กหญิงจินตนา ปัญญาพนั ธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพ ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เน่ืองใน การแขง่ ขนั ศิลปหตั ถกรรมกีฬา วชิ าการ ระดบั กลุ่ม โรงเรียนพนมดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็น วทิ ยากรการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ “การบูรณาการการสอนโดยใช้ วทิ ยาศาสตร์เป็นแกน”เน่ืองในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ศรีสะเกษเขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553  ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นผมู้ ีความรู้ความสามารถ ไดส้ ่งโครงการพฒั นาทกั ษะการ คิดข้นั สูง (The Development high-er Thinking Skill) ประกวดไดท้ ุนสนบั สนุนการวจิ ยั เพ่ือ คุณภาพเยาวชน (สสค.) ระดบั ประเทศเป็น 1 ใน 227 โครงการจากการส่งประกวดท้งั หมด พ.ศ. 2553

จดั พมิ พ์โดย อรอนงค์ สุขสงวน ตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ สาขาวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4