1ชุด สัตว์น้อยนําสํารวจ ชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อม เล่มที่ 3นกน้อยนําสํารวจ ประชากรในระบบนิเวศ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว33101 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 จัดทาํ โดย นางสาวปัญยลตั ณ์ สุขสงวน ตาํ แหน่ง ครู อนั ดบั คศ.3กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบ้านหนองเตย อาํ เภอพยุห์ จงั หวดั ศรีสะเกษสํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
2 คาํ นําผเู้ ขียนมีแรงบนั ดาลใจที่ดีต่องานเขียน มีความใฝ่ ฝันมุ่งมนั่ ที่จะเขียนถ่ายทอดเร่ืองราว เน้ือหา สาระวิชาเกร็ดความรู้ต่างๆ เพ่ือสนองตอบต่อการปฏิรูปการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นัพ้ืนฐานพุทธศกั ราช 2551 ตอ้ งยึดหลกั การจดั การเรียนรู้โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาํ คญั ท้งั น้ีผจู้ ดั การเรียนรู้ตอ้ งเชื่อวา่ ผเู้ รียนมีศกั ยภาพในการเรียนรู้มีอิสระในการคิด พร้อมลงมือปฏิบตั ิจริง ครูมีบทบาทในการอาํ นวยความสะดวก จดั สถานการณ์และบรรยากาศให้เอ้ือต่อการแสวงหาความรู้โดย มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนให้ครบท้งั ดา้ นร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสงั คมใหเ้ ป็นคนอยา่ งสมบรู ณ์ ดังน้ันขา้ พเจ้าจึงได้ผลิตส่ือ บทเรียนโปรแกรมชุดสัตว์น้อยนาํ สํารวจ ชีวิตกบั สิ่งแวดล้อมข้ึนท้งั หมดจาํ นวน 8 เล่ม ดงั น้ี เล่มท่ี 1 ชา้ งนอ้ ยนาํ สาํ รวจระบบนิเวศ เล่มท่ี 2 หมูนอ้ ยนาํ สาํ รวจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชีวติ เล่มที่ 3 นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจประชากรในระบบนิเวศ เล่มที่ 4 เสือนอ้ ยนาํ สาํ รวจการถ่ายทอดพลงั งาน เล่มที่ 5 เต่านอ้ ยนาํ สาํ รวจวฏั จกั รของสาร เล่มท่ี 6 เป็ดนอ้ ยนาํ สาํ รวจทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เล่มท่ี 7 กบนอ้ ยนาํ สาํ รวจความสาํ คญั ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เล่มท่ี 8 กระตา่ ยนอ้ ยนาํ สาํ รวจการใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม อยา่ งยง่ั ยนื เพ่ือประกอบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์รหัสวิชา ว33101เรื่อง ชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม ซ่ึงผเู้ รียนใชป้ ระกอบการเรียนรู้ร่วมกบั เพ่ือนในช้นั เรียนพร้อมเรียนรู้ดว้ ยตนเองสนองตอบต่อศกั ยภาพการเรียนรู้รายบุคคล สอดคล้องกับการพฒั นาผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21.เน่ืองจากในศตวรรษท่ี 21 เด็ก เยาวชน และพลเมืองของประเทศจาํ เป็ นต้องดํารงชีวิตอยู่ท่ามกลางกระแสการเปล่ียนแปลงท่ีเป็ นไปอยา่ งรวดเร็ว ชุดความรู้เดิมที่เคยเรียนรู้มาจึงไม่เพียงพอต่อการมีคุณภาพชีวติ ที่ดีจาํ เป็นตอ้ งพฒั นากระบวนการเรียนรู้ดว้ ยชุดความรู้ใหมท่ ี่เหมาะสมกบั สถานการณ์ เมื่อผเู้ รียนศึกษาบทเรียนโปรแกรม ครบท้งั 8 เล่ม ผเู้ รียนจะเกิดทกั ษะในการทาํ งาน การคิดอยา่ งเป็ นระบบ ท้งั ยงั สามารถนาํ หลกั การเรียนรู้ไปปรับประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั เพราะไดป้ ฏิบตั ิกิจกรรมครบทุกข้นั ตอนสร้างองคค์ วามรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง เน้ือหาสาระการเรียนรู้ส่วนใหญ่ไดม้ าจากการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์รหสั วิชา ว33101 เร่ือง ชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม และอีกส่วนหน่ึงไดจ้ ากการสืบคน้ เอกสาร ตาํ ราวชิ าการ ส่ือทางอินเทอร์เน็ต.แหล่งเรียนรู้ในทอ้ งถ่ิน ขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.กชกร ธิปัดดี คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุบลราชธานีท่ีให้คาํ แนะนาํ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของบทเรียนโปรแกรมชุดสัตวน์ ้อยนาํ สํารวจ เพื่อเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิ
3ทางการเรียน อาจารย์ ดร.ปิ ยะภรณ์ พุ่มแกว้ อาจารยม์ หาวิทยาลยั ราชภฏั อุบลราชธานีให้คาํ ปรึกษาดา้ นการวดั และประเมินผล ดร.พีระพรรณ ทองศูนย์ ผูอ้ าํ นวยการ ชาํ นาญการพิเศษ โรงเรียนบา้ นมหาราชสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1ให้คาํ ปรึกษาด้านหลักสูตรและการสอนนายสําราญ วงั นุราช ศึกษานิเทศก์ชํานาญการพิเศษ สํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1ให้คาํ ปรึกษาด้านการนิเทศและการจัดกระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ นางมะลิวรรณ พรมทอง ตาํ แหน่งครู วทิ ยฐานะเชี่ยวชาญ สาขาวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนบา้ นโพนงาม (พนู เพ่ิมวิทยาคาร) สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ผเู้ ขียนหวงั เป็ นอย่างย่ิงว่าเอกสารบทเรียนโปรแกรมชุดสัตวน์ ้อยนาํ สํารวจ เพ่ือเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เล่มท่ี 3 เร่ืองนกนอ้ ยนาํ สํารวจ ประชากรในระบบนิเวศ เล่มน้ีคงเป็ นประโยชน์อย่างดีย่ิงต่อผเู้ รียนและครูผสู้ อน (นางสาวปัญยลตั ณ์ สุขสงวน) ตาํ แหน่งครู อนั ดบั คศ. 3 โรงเรียนบา้ นหนองเตย
4 สารบญัเรื่อง หนา้ 1. คาํ นาํ …………………………………………………………………………….. ก 2. สารบญั ……………………………………………………………………..……… ค 3. บทเรียนโปรแกรมเล่มท่ี 3………………………………………………...………… ง 4. คาํ ช้ีแจง ………………………………………………………………………..…… 1 5. ขอ้ ทดสอบก่อนเรียน ………………………………………………………….…… 2 6. เฉลยแนวทดสอบก่อนเรียน ………………………………………………………... 4 7. นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจประชากรในระบบนิเวศ กรอบท่ี 1 บทนาํ ……………………………………………………………… 5 กรอบท่ี 2 พบครู ……………………………………………………………… 6 กรอบท่ี 3 ความหมายของประชากร……………………………………..……. 7 กรอบที่ 4 แบบทดสอบความเขา้ ใจ …………………………………………... 8 กรอบท่ี 5 เฉลยแบบทดสอบความเขา้ ใจ ……………………………………… 9 กรอบท่ี 6 ปัญหาท่ีเกิดจากการเพ่มิ จาํ นวนประชากร …………….……………. 11 กรอบที่ 7 แบบทดสอบความเขา้ ใจ …………………………………………… 12 กรอบท่ี 8 เฉลยแบบทดสอบความเขา้ ใจ ……………………………………… 14 กรอบที่ 9 การสาํ รวจส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม ……………………………… 15 กรอบที่ 10 แบบทดสอบความเขา้ ใจ …………………………………….…..… 17 กรอบที่ 11 เฉลยแบบทดสอบความเขา้ ใจ ……………………………..………. 18 กรอบที่ 12 เฉลยแบบทดสอบความเขา้ ใจ ……………………..………………. 16 กรอบที่ 13 ฝึกทกั ษะการคิดเรียนรู้แบบ N (Numbered Heads Together)…….… 20 กรอบที่ 14 แบบฝึกหดั …………………………………………………………. 21 กรอบที่ 15 เฉลยแบบฝึกหดั ……………………………………………………. 22 กรอบที่ 16 แบบฝึกหดั ……………………………….…………………….…… 23 กรอบที่ 17 เฉลยแบบฝึกหดั ………………………………….………………….. 24 กรอบที่ 18 แบบฝึกหดั …………………………………………………………. 25 กรอบท่ี 19 เฉลยแบบฝึกหดั ……………………………………………………. 26 ขอ้ ทดสอบหลงั เรียน……………………………………………..…... 27 8. เฉลยแนวทดสอบหลงั เรียน…………………………………………………………..…... 30 กรอบที่ 20 เชิญศึกษาเร่ือง เสือนอ้ ยนาํ สาํ รวจ การถ่ายทอดพลงั งาน ต่อไป……... 31
59. บรรณานุกรม ………………………………………………………………………. 33 ชุดสตั วน์ อ้ ยนาํ สาํ รวจ ชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ ม เล่มที่ 3 เรื่อง นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจ ประชากรในระบบนิเวศ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของประชากรในระบบนิเวศได้ 2. รู้ เขา้ ใจ องคป์ ระกอบและโครงสร้างประชากรในระบบนิเวศ 3. อธิบาย อภปิ ราย สาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ินได้ 4. คิดวางแผนแกป้ ัญหาร่วมกนั รณรงค์ ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ิน
6 สวสั ดีครับ เด็กๆ คนดีท่ีหน่ึงทุกคน วนั น้ีอากาศ ดีจงั พ่ีนกนอ้ ยเตรียมนาํ เด็กๆ ทุกคนออกสาํ รวจ ประชากรในระบบนิเวศในทอ้ งถ่ินกนั แตก่ ่อนจะออก ทุกคนตอ้ งมาเรียนรู้เกี่ยวกบั “ประชากรในระบบนิเวศ” ก่อนนะครับพนี่ กนอ้ ยขอบอกวา่ จุดประสงคท์ ่ีใหศ้ ึกษา“ประชากรในระบบนิเวศ” เพ่ือใหเ้ ดก็ ๆมีความรู้ความเขา้ ใจในเรื่อง “ประชากรในระบบนิเวศ” ไดถ้ ูกตอ้ ง ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ต่อระบบนิเวศในทอ้ งถ่ินต่อการใช้ชีวติ ประจาํ วนั นะจะ๊ พน่ี กนอ้ ยขอแนะนาํ ขอ้ ควรทาํ สาํ หรับเด็กๆ ท่ีจะศึกษา เรื่องน้ีใหบ้ รรลุจุดประสงค์ ดงั น้ี คือ 1. ศึกษาไปตามลาํ ดบั พบคาํ ถามตอบทนั ที 2. ไมศ่ ึกษาขา้ มข้นั ตอน 3. ไม่เปิ ดดูเฉลยก่อน เพราะเป็ นการไม่ซื่อสัตยต์ ่อ ตนเอง 4. อยา่ ขีดเขียนขอ้ ความในบทเรียนโปรแกรม 5. เก็บบทเรียนโปรแกรมส่งครูผสู้ อน
7 วชิ า ว33101 ขอ้ ทดสอบ เรื่อง ประชากรในระบบนิเวศ วทิ ยาศาสตร์ ก่อนเรียน เล่มที่ 3ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 เวลา 10 นาทีไดเ้ วลาเด็กๆ ทาํ ขอ้ สอบก่อนเรียนนะครับคําชี้แจง ใหผ้ เู้ รียนศึกษาและเลือกคาํ ตอบที่ถูกท่ีสุดเพียงคาํ ตอบเดียว1. ขอ้ ใดหมายถึงความหมายของประชากรที่ถูกตอ้ งท่ีสุด ก. ในเดือนเมษายนของทุกปี ตน้ มะมว่ งอกร่องจะมีลูกสุกเตม็ ตน้ ข. บนตน้ มะพร้าวมีกระรอกเจาะไชลูกมะพร้าวเสียหายเสมอ ค. ปลาทะเลจะวา่ ยรวมฝงู ในขณะท่ีปลาน้าํ จืดจะวา่ ยแยกกนั ง. ขา้ วในนาอุดมสมบรู ณ์ดี เพราะมีฝนอุดม2. ทฤษฎีประชากรของโทมสั มลั ทสั ต้งั ข้ึนมาเพือ่ ใชก้ บั ประชากรกลุ่มใด ก. คน ข. ผผู้ ลิต ค. สตั วก์ ินพืช ง. สัตวก์ ินสตั ว์3. ขอ้ ใดไม่เป็นผลกระทบต่อการเพม่ิ ข้ึนของประชากร ก. คุณภาพชีวติ ลดลง ข. สดั ส่วนประชากรต่อหน่วยพ้ืนท่ีลดลง ค. ผลผลิตพชื และสัตวจ์ ากธรรมชาติลดลง ง. มีการขยายชุมชนเมืองออกไปสู่พ้นื ท่ีชนบท4. การเพิ่มประชากรมนุษยเ์ กิดข้ึนควบคู่กบั ขอ้ ใด ก. สัดส่วนประชากรต่อหน่วยพ้ืนที่ลดลง ข. เทคโนโลยเี พ่มิ ข้ึน ค. คุณภาพชีวติ ดีข้ึน ง. มลภาวะเพิ่มข้ึน5. ในฟาร์มแห่งหน่ึงเล้ียงไก่พอ่ แมพ่ นั ธุ์รวมกนั 100 ตวั นบั ไข่ได้ 500 ฟอง นาํ ไปฟัก แตเ่ กิดความขดั ขอ้ งทางเทคนิคไดล้ ูกเจ๊ียบออกมาเพียง 400 ตวั ขอ้ ใดจะถูกตอ้ งที่สุด ก. อตั ราการเกิดร้อยละ 60 ข. อตั ราการเกิดร้อยละ 20 ค. อตั ราการเกิดร้อยละ 80
8ง. อตั ราการตายร้อยละ 206. มา้ และมา้ ลายมีจาํ นวนโครโมโซมเป็น 64 แท่ง และ 44 แทง่ ตามลาํ ดบั ลูกผสมขา้ มสายพนั ธุ์ระหวา่ งมา้กบั มา้ ลาย จะมีจาํ นวนโครโมโซมของเซลลร์ ่างกายเป็นก่ีแท่งก. 44 แท่งข. 54 แทง่ค. 64 แท่งง. 108 แท่ง7.ตาราง สายพนั ธุ์ของหอยท่ีพบในป่ าชายเลนท่ีมีความหมายหนาแน่นของตน้ ไมแ้ ตกตา่ งกนัความหนาแน่ของต้นไม้ สายพนั ธ์ุของ(จาํ นวนต้นต่อไร่) หอยทพี่ บ 979 A B C D 395 A C 125 A Dจากตาราง ถา้ ป่ ามีความหนาแน่นของตน้ ไมล้ ดลงจะส่งผลกระทบตอ่ หอยสายพนั ธุ์ใดเป็นอนั ดบั แรกก. Aข. Bค. Cง. D8. การเปล่ียนแปลงขนาดของประชากรในขอ้ ใดมีผลใหจ้ าํ นวนประชากรลดลง ก. อตั ราการเกิด < อตั ราการตาย ข. อตั ราการเกิด = อตั ราการตาย ค. อตั ราการอพยพเขา้ < อตั ราการเกิด ง. อตั ราการอพยพเขา้ > อตั ราการอพยพออก9. การเปล่ียนแปลงในขอ้ ใดมีผลทาํ ใหข้ นาดของประชากรในพ้นื ที่หน่ึง ๆ มีอตั ราเพิม่ ข้ึน ก. อตั ราการอพยพเขา้ = อตั ราการอพยพออก ข. อตั ราการอพยพเขา้ < อตั ราการอพยพออก ค. อตั ราการเกิด > อตั ราการตาย ง. อตั ราการเกิด < อตั ราการตาย
9 ในสวนแห่งหน่ึงมีพ้ืนท่ี 40 ตารางเมตร มีนกเขา จาํ นวน 100 ตวั มดแดง 200 ตวั และ... มีตน้ มะมว่ ง 160 ตน้ ........................ 10. จงหาค่าความหนาแน่นของตน้ มะมว่ งในสวนน้ี ก. 8 ตน้ /ตารางเมตร ข. 6 ตน้ /ตารางเมตร ค. 5 ตน้ /ตารางเมตร ง. 4 ตน้ /ตารางเมตรทาํ ถูกกี่ขอ้ ขอเชิญเดก็ ๆ ตรวจดูคาํ เฉลยนะคะทาํ คะแนนไดน้ อ้ ยไมต่ อ้ งตกใจ!! นะคะเพราะเป็ นคะแนนสอบก่อนเรี ยน เฉลยขอ้ สอบก่อนเรียนขอ้ 1 ก ขอ้ 2 ก ขอ้ 3 ข ขอ้ 4 ง ขอ้ 5 คขอ้ 6 ข ขอ้ 7 ข ขอ้ 8 ก ขอ้ 9 ค ขอ้ 10 ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ถูก 1-4 ขอ้ ตอ้ งแกไ้ ข เร่งทาํ ความเขา้ ใจกบั บทเรียนใหม้ ากๆ ถูก 5-7 ขอ้ พอใช้ ควรศึกษาเพิม่ เติมอีก ถูก 8-9 ขอ้ ดี ผา่ นเกณฑย์ นิ ดีดว้ ยคะแต่ ทดสอบหลงั เรียนตอ้ งรักษาระดบั หรือใหด้ ีกวา่ น้ีนะคะ ถูก 10 ขอ้ ดีมาก คุณเยยี่ มมาก ขอปรบมือให้ ทดสอบหลงั เรียนตอ้ งเป็นเช่นน้ีนะคะ
วชิ า ว33101 บทเรียนโปรแกรม 10 วทิ ยาศาสตร์ ชุดสัตวน์ กนอ้ ยนาํ สาํ รวจชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม เวลา 2 ชวั่ โมงช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 เรื่อง นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจประชากรในระบบนิเวศ พ่ีนกนอ้ ยมาแลว้ จา้ !! ทุกๆคน กาํ ลงั เดินทางไปไหน กนั จะ๊ เดก็ ๆ วนั น้ีเรามีนดั กนั น่ีนา แลว้ เธอละ แมค้ ไปกบั เพื่อนๆดว้ ยเหรอครับพน่ี กนอ้ ย สวสั ดีครับ พวกผมกาํ ลงั จะไปเขา้ช้นั เรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ของครูปัญยลตั ณ์ครับวนั น้ีครูจะจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบ N (NumberedHeads Together) ครับ ช่ือมนั แปลกดีทา่ จะสนุกนะครับ พี่นกนอ้ ย พอดีเลย พี่นกนอ้ ยกาํ ลงั มาตามทุกคนไปเขา้ ช้นั เรียน วทิ ยาศาสตร์ดว้ ยกนั ไปพบคุณครูปัญยลตั ณ์ดว้ ยกนั ครับ
11“สวสั ดีครับคุณครูปัญยลตั ณ์ ผมพี่นกนอ้ ย และเด็กๆนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ครับ ไดข้ ่าววา่ วนั น้ีคุณครูมีส่ือบทเรียนโปรแกรมมาฝากพวกผม และมีการจดั การเรียนรู้แบบ N (Numbered Heads Together)ใช่ไหมครับ” ใช่จะ๊ พวกหนูสนใจอยากเรียนรู้กนั หรือเปล่าสนใจมากเลยครับ พวกผมตื่นเตน้ ที่จะไดเ้ รียนรู้จากบทเรียนโปรแกรม สื่อที่ครูผลิตข้ึนมากๆเลยครับ ครูยนิ ดีตอ้ นรับพวกเด็กๆ ทุกคนรวมท้งั พ่ีนกนอ้ ย ดว้ ยนะคะก่อนจะเรียนแบบ แบบ Numbered Heads Together เด็กๆ ทุกคนจะมีพนี่ กนอ้ ยนาํ สาํ รวจ ประชากรในระบบนิเวศ ท่ีทุกคนจะไดเ้ รียนรู้ร่วมกนั พร้อมแจกรางวลั โบนสั สาํ หรับเด็กๆ ที่ตอบปัญหา ถูก ไดเ้ วลาแลว้ ไปทอ่ งโลกกวา้ งดว้ ยบทเรียน โปรแกรมเชิญเด็กๆทุกคนศึกษาไดเ้ ลยคะ
12ประชากร (population) หมายถึง กลุ่มของสิ่งมีชีวติ ที่เป็นชนิดเดียวกนั อาศยั อยใู่ นบริเวณ เดียวกนัในช่วงเวลาหน่ึง ซ่ึงในแต่ละบริเวณจะมีจาํ นวนประชากรที่แตกตา่ งกนัขนาดของประชากรในแหล่งที่อยแู่ ต่ละแห่งจะมีจาํ นวนกลุ่มสิ่งมีชีวติ หรือจาํ นวนประชากรแตกตา่ งกนั ไป การศึกษาขนาดหรือลกั ษณะ ความหนาแน่นของประชากรในแหล่งที่อยหู่ น่ึงๆ มีปัจจยั ดงั ภาพ อา่ นแลว้ เขา้ ใจไหมคะเด็กๆ พี่นกนอ้ ย เขา้ ใจครับครู แลว้ เด็กๆ ทุกคนกเ็ ขา้ ใจดีครับถา้ เขา้ ใจแลว้ มาทดสอบ ความเขา้ ใจนะคะ
13 แบบทดสอบความเข้าใจคําชี้แจง เม่ือผเู้ รียนศึกษาเรื่อง ความหมายของประชากรในระบบนิเวศแลว้ ลองตอบคาํ ถามของครู จากการศึกษาความหมายของประชากรใน ระบบนิเวศมีความหมายตรงกบั ขอ้ ใดมากท่ีสุด 1.กลุ่มสิ่งมีชีวติ ชนิดเดียวกนั ท่ีอาศยั อยบู่ ริเวณ เดียวกนั ในช่วงเวลาหน่ึง 2. ความหนาแน่นของประชากร ตอบขอ้ 1 เปิ ดไป กรอบท่ี 5 หนา้ 9 ตอบขอ้ 2 เปิ ดไปกรอบท่ี 5 หนา้ 10
14 เฉลยตอบขอ้ 1 ถูกตอ้ งเยย่ี มมากคะ่จากคาํ ตอบ ความหมายของประชากรในระบบนิเวศ หมายถึง กลุ่มของสิ่งมีชีวติ ท่ีเป็นชนิดเดียวกนั อาศยั อยู่ในบริเวณ เดียวกนั ในช่วงเวลาหน่ึง ซ่ึงในแต่ละบริเวณจะมีจาํ นวนประชากรท่ีแตกตา่ งกนัเช่น กลุ่มสิ่งมีชีวติ ตน้ กาบหอยแครง ดงั ภาพ พน่ี กนอ้ ย แจกโบนสั เป็นดาวแห่งความดี แก่เดก็ ๆ ที่ตอบถูก เป็นจาํ นวน 3 ดวงนะครับ เขา้ ใจแลว้ พี่นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจ ศึกษากรอบที่ 6 หนา้ 11 ตอ่ ไปเลยนะครับ
15 เฉลยตอบขอ้ 2 ไม่ถูกคะ่ อยา่ พ่งึ หมดกาํ ลงั ใจ ดูคาํ อธิบายขา้ งล่างก่อนนะคะจากคาํ ตอบ ความหมายของ ประชากรในระบบนิเวศ กลุ่มของส่ิงมีชีวติ ชนิดเดียวกนั ที่อาศยั อยใู่ นระบบนิเวศเดียวกนั ณ ช่วงเวลาหน่ึง ส่วนความหนาแน่นของประชากร จดั เป็ นขนาดของประชากรในแหล่งท่ีอยแู่ ตล่ ะแห่งจะมีจาํ นวนกลุ่มสิ่งมีชีวติ หรือจาํ นวนประชากรแตกต่างกนั ไปต่อไปมาทาํ ความรู้จกั กบั ปัญหาที่เกิดจากการเพ่มิจาํ นวนของประชากรเลยนะคะ แลว้ ไปศึกษากรอบ 6 หนา้ 11ต่อเลยคะ่ ครับ/คะ่
16การเพ่มิ ข้ึนของจาํ นวนประชากร ในขณะท่ีพ้นื ท่ีของประเทศยงั คงเท่าเดิม ทาํ ใหส้ ดั ส่วนจาํ นวน ประชากรต่อหน่วยพ้ืนที่ เพ่มิ ข้ึน ทาํ ใหเ้ กิดปัญหาตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ • การขาดแคลนพ้นื ท่ีอยอู่ าศยั จึงเกิดการขยายชุมชนเมืองออกไปสู่ชนบท ซ่ึงเป็นแหล่ง เพาะปลูกทาง การเกษตร อนั อุดมสมบูรณ์ • พ้นื ท่ีทางการเกษตรลดลง เพาะพ้นื ท่ีชนบทที่อุดมสมบรู ณ์ เป็นแหล่งอู่ขา้ วอู่น้าํ แหล่งผลิต ทาง การเกษตร • ความตอ้ งการปัจจยั ส่ีเพ่มิ ข้ึน ไดแ้ ก่ อาหาร ท่ีอยอู่ าศยั ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม ปัจจยั สี่เหล่าน้ี ไดม้ าจากทรัพยากรธรรมชาติ • เม่ือประชากรเพม่ิ มากข้ึนตอ้ งเสาะหาทรัพยากรธรรมชาติใหไ้ ดม้ ากข้ึน เพิม่ การผลิตผล ผลิตให้ ไดม้ ากและรวดเร็วโดยอาศยั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี • ผลของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาํ ใหป้ ระดิษฐค์ ิดคน้ เคร่ืองมือ เคร่ืองจกั ร และกรรมวธิ ีการ ทาํ การเกษตรกรรม สมยั ใหม่ ตลอดจนการแปรรูปผลิตภณั ฑ์ โดยเปล่ียนแปลงกระบวนการผลิต ที่ทาํ กนั ในครอบครัวเป็นการผลิตในระดบั อุตสาหกรรม • ผลจากวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาํ ใหท้ รัพยากรธรรมชาติถูกนาํ มาใชอ้ ยา่ งมากมาย และรวดเร็ว จนทาํ ใหท้ รัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่ าไม้ แร่ธาตุ น้าํ มนั เช้ือเพลิง มีปริมาณลดนอ้ งลงมาก • ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ทาํ ใหส้ ภาพแวดลอ้ มเสื่อมโทรมและเป็นพษิ เกินกวา่ ธรรมชาติ จะแกไ้ ข และบาํ บดั ให้ กลบั คืนมาเหมือนเดิมได้ เขา้ ใจมากๆเลยครับครู เดี๋ยวพน่ี กนอ้ ยพา เดก็ ๆ ไปตรวจสอบความเขา้ ใจกรอบท่ี 7 ตอ่ ไปเลย
17 แบบทดสอบความเข้าใจคาํ ชี้แจง เมื่อผเู้ รียนศึกษาเรื่อง ปัญหาที่เกิดจากการเพ่มิ จาํ นวนประชากรแลว้ ลองตอบคาํ ถามของครู จากการศึกษาตรงปัญหาที่เกิดจากการเพม่ิ จาํ นวนประชากรแลว้ การเพิ่มประชากรมนุษย์ เกิดข้ึนควบคู่กบั ขอ้ ใดมากท่ีสุด 1. มลภาวะเพิม่ ข้ึน 2. คุณภาพชีวติ ดีข้ึน ตอบขอ้ 1 เปิ ดไป กรอบที่ 8 หนา้ 13 ตอบขอ้ 2 เปิ ดไปกรอบท่ี 8 หนา้ 14
18 เฉลยตอบขอ้ 1 ถูกตอ้ งเยย่ี มมากค่ะจากคาํ ตอบ ปัญหาท่ีเกิดจากการเพ่มิ จาํ นวนประชากรแลว้ การเพม่ิ ประชากรมนุษยเ์ กิดข้ึนควบคูก่ บั มลภาวะเพิม่ ข้ึน ผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม ทาํ ใหส้ ภาพแวดลอ้ มเสื่อมโทรมและเป็นพิษ เกินกวา่ ธรรมชาติ จะแกไ้ ขและบาํ บดั ให้ กลบั คืนมาเหมือนเดิมได้ พนี่ กนอ้ ย แจกโบนสั เป็นดาวแห่งความดี แก่เดก็ ๆ ที่ตอบถูก เป็นจาํ นวน 3 ดวงนะครับ เขา้ ใจแลว้ พ่นี กนอ้ ยนาํ สาํ รวจ ศึกษากรอบท่ี 9 หนา้ 14 ต่อไปเลยนะครับ
19 เฉลยตอบขอ้ 2 ไมถ่ ูกคะ่ อยา่ พ่งึ หมดกาํ ลงั ใจ ดูคาํ อธิบายขา้ งล่างก่อนนะคะจากคาํ ตอบ ปัญหาที่เกิดจากการเพม่ิ จาํ นวนประชากรแลว้ การเพ่มิ ประชากรมนุษยเ์ กิดข้ึนทาํ ใหค้ ุณภาพชีวติดีข้ึน ไม่ใช่แน่นอน เพราะการเพิ่มข้ึนของจาํ นวนประชากร ในขณะที่พ้นื ท่ีของประเทศยงั คงเทา่ เดิม ทาํ ให้สดั ส่วนจาํ นวน ประชากรตอ่ หน่วยพ้ืนที่ เพม่ิ ข้ึน ทาํ ใหเ้ กิดปัญหาต่างๆ เช่น • การขาดแคลนพ้นื ท่ีอยอู่ าศยั จึงเกิดการขยายชุมชนเมืองออกไปสู่ชนบท ซ่ึงเป็นแหล่ง เพาะปลูกทาง การเกษตร อนั อุดมสมบูรณ์ • พ้นื ท่ีทางการเกษตรลดลง เพาะพ้นื ที่ชนบทที่อุดมสมบรู ณ์ เป็นแหล่งอู่ขา้ วอู่น้าํ แหล่งผลิต ทาง การเกษตร • ความตอ้ งการปัจจยั สี่เพม่ิ ข้ึน ไดแ้ ก่ อาหาร ที่อยอู่ าศยั ยารักษาโรค และเคร่ืองนุ่งห่ม ปัจจยั สี่เหล่าน้ี ไดม้ าจากทรัพยากรธรรมชาติ ตอ่ ไปมาทาํ ความรู้จกั กบั การสาํ รวจส่ิงมีชีวติ และ สิ่งแวดลอ้ มกนั เลยนะคะ แลว้ ไปศึกษากรอบ 9 หนา้ 15 ตอ่ เลยคะ่ ครับ/คะ่
20 การสาํ รวจองคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศจะช่วยใหเ้ ราทราบขนาดของประชากร และเขา้ ใจความสัมพนั ธ์ขององคป์ ระกอบต่างๆ ท่ีอยภู่ ายในระบบนิเวศน้นั ๆ ซ่ึงสามารถนาํ มาใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการจาํ แนกลกั ษณะและประเภทของระบบนิเวศแต่ละระบบไดก้ ารสาํ รวจองคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศแบง่ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ 1. การสาํ รวจลกั ษณะทางกายภาพ การสาํ รวจลกั ษณะทางกายภาพ เป็นการสาํ รวจเพ่ือเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ของส่ิงไม่มีชีวติ ทางดา้ นสภาพแวดลอ้ ม เช่น แสงสวา่ ง อุณหภูมิ คา่ ความเป็นกรด – เบส ความช้ืน ปริมาณแร่ธาตุ เป็นตน้ 2. การสาํ รวจลกั ษณะทางชีวภาพ การสาํ รวจลกั ษณะทางชีวภาพ เป็นการสาํ รวจเพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มลู ของสิ่งมีชีวติโดยพิจารณาจากชนิด จาํ นวน ความหนาแน่นของส่ิงมีชีวติ ต่อพ้นื ท่ีที่ทาํ การสาํ รวจ ลกั ษณะของแหล่งท่ีอยู่อาศยั ซ่ึงไดจ้ ากการสงั เกตและเกบ็ ตวั อยา่ ง แลว้ นาํ มาวเิ คราะห์เพอื่ ประเมินผลความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ แสงสว่าง แสงจากดวงอาทิตยเ์ ป็ นพลงั งานที่มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวติ ทุกชนิดบนโลก ปริมาณแสงในธรรมชาติแต่ละแห่งจะแตกต่างกันทาํ ให้ส่ิงมีชีวิตในแต่ละแห่งแตกต่างกันไป พืชต้องการแสงจากดวงอาทิตยม์ ากกว่าสัตว์ พืชใช้แสงเป็ นพลังงานในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพ่ือสร้างสารอาหารสารอาหารสร้างข้ึนจะถ่ายทอด ไปยงั สัตวใ์ นห่วงโซ่อาหาร ความตอ้ งการแสงของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างกนั พืชท่ีมีแสงสว่างส่องถึงจะมีความหนาแน่นมากกว่าบริเวณท่ีมีแสงส่องถึงนอ้ ย พืชแต่ละชนิดตอ้ งการแสงในปริมาณแตกต่างกนั แสงมีอิทธิพลต่อการดาํ รงชีวติ ของสัตว์ สัตวบ์ างชนิดตอ้ งการแสงนอ้ ยมกั อาศยั อยใู่ นร่มเงาหรือในที่มืด เช่น ตวั อ่อนของแมลงในทะเลทรายซ่ึงมีแสงมากในเวลากลางวนั สัตวจ์ ะหลบซอนตวั และจะออกหากิน ในเวลากลางคืน ในทะเลลึกจะมีแสงสวา่ งนอ้ ยมากหรือไม่มีเลย สัตวจ์ ะมีอวยั วะท่ีทาํ หนา้ ที่กาํ เนิดแสงไดเ้ อง เป็นตน้
21อุณหภูมิ สิ่ งมีชีวิตจะเลือกแหล่งที่อยู่อาศัยท่ีมีอุณหภูมิเหมาะสมกับตัวเอง อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 10-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิบนพ้ืนดินจะมีการเปล่ียนแปลงมากกว่าในน้าํ จึงทาํ ให้ส่ิงมีชีวิตบนพ้นื ดิน มีการปรับตวั ในหลายลกั ษณะ เช่น การอพยพหนีหนาวของนกนางแอ่นจากประเทศจีน มาหากินในประเทศไทย ในช่วงฤดูหนาว การจาํ ศีลของกบเพอื่ หนีร้อนหรือหนีหนาวแร่ ธาตุและก๊าซ พืชและสัตว์นําแร่ ธาตุและก๊าซต่างๆ ไปใช้ในการสร้างอาหารและโครงสร้างของร่างกาย ความตอ้ งการแร่ธาตุและกา๊ ซของส่ิงมีชีวติ จะมีความแตกต่างกนัความเป็ นกรด-เบสของดินและนํ้า สิ่งมีชีวิตจะอาศยั อยูใ่ นดินและแหล่งน้าํ ที่มีความเป็ นกรด-เบส ของดินและน้ําที่เหมาะสม จึงจะสามารถเจริญเติบโตและดาํ รงชีวิตอยู่ได้ ความเป็ นกรด-เบสของดินและน้ําจะข้ึนอยกู่ บั ปริมาณของแร่ธาตุท่ีละลายปะปนอยู่
22 แบบทดสอบความเข้าใจ คาํ ชี้แจง เมื่อผเู้ รียนศึกษาเร่ือง การสาํ รวจส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ มกนั แลว้ ลองตอบคาํ ถามของครูจากการศึกษาการสาํ รวจส่ิงมีชีวติ และส่ิงแวดลอ้ มการสาํ รวจองคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศแตล่ ะระบบแบ่งไดเ้ ป็ นกี่ลกั ษณะ 1. 2 ลกั ษณะ ทางกายภาพและทางชีวภาพ 2. 1 ลกั ษณะ ความสัมพนั ธ์ของส่ิงมีชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ ตอบขอ้ 1 เปิ ดไป กรอบที่ 11 หนา้ 18 ตอบขอ้ 2 เปิ ดไปกรอบที่ 12 หนา้ 19
23 เฉลยตอบขอ้ 1 ถูกตอ้ งเยยี่ มมากค่ะจากคาํ ตอบ การสาํ รวจองคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศแบ่งไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ การสาํ รวจลกั ษณะทางกายภาพ เป็นการสาํ รวจเพื่อเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ของสิ่งไม่มีชีวติ ทางดา้ นสภาพแวดลอ้ ม เช่น แสงสวา่ ง อุณหภูมิ ค่าความเป็นกรด – เบส ความช้ืน ปริมาณแร่ธาตุ เป็นตน้ การสาํ รวจลกั ษณะทางชีวภาพ เป็นการสาํ รวจเพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มูลของสิ่งมีชีวติโดยพิจารณาจากชนิด จาํ นวน ความหนาแน่นของส่ิงมีชีวติ ต่อพ้นื ที่ท่ีทาํ การสาํ รวจ ลกั ษณะของแหล่งที่อยู่อาศยั ซ่ึงไดจ้ ากการสงั เกตและเกบ็ ตวั อยา่ ง แลว้ นาํ มาวเิ คราะห์เพอื่ ประเมินผล พนี่ กนอ้ ยใจดี แจกดาวแห่งความดีสาํ หรับคนตอบถูก 5 ดวงเลยคะ่
24 เฉลยตอบขอ้ 2 ไม่ถูกค่ะ อยา่ พ่งึ หมดกาํ ลงั ใจ ดูคาํ อธิบายขา้ งล่างก่อนนะคะจากคาํ ตอบ 1 ลกั ษณะ ความสมั พนั ธ์ของส่ิงมีชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ เป็นเพียงความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ ประกอบดว้ ย เช่น แสงสวา่ ง อุณหภูมิ คา่ ความเป็ นกรด – เบส ความช้ืนปริมาณแร่ธาตุต่อไปเด็กๆจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั รูปแบบ N(Numbered Heads Together) ไปทาํ ความรู้จกั กนัคะ ไปศึกษากรอบ 13 หนา้ 20 ตอ่ เลยค่ะ ครับ/คะ่
25ไดเ้ วลาสู่กระบวนการเรียนรู้รูปแบบ N (Numbered HeadsTogether) กนั แลว้ นะคะเดก็ ๆ ครูปัญยลตั ณ์ใหเ้ ด็กๆออกไปสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศในทอ้ งถ่ินกบั พ่ีนกนอ้ ยชอบไหมคะ สงสยั อะไรไหมคะ เตย้ ยกมือสงสัยครับครู กระบวนการเรียนรู้รูปแบบ N (Numbered Heads Together) มนั มีข้นั ตอนยงั ไงครับ พวกผมตอ้ งทาํ หนา้ ที่อะไรบา้ งเก่งมากคะ เด๋ียวครูช้ีแจง กระบวนการเรียนรู้รูปแบบ N (Numbered Heads Together)ใหเ้ ขา้ ใจนะคะ เพื่อที่เดก็ ๆจะไดป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่ตนเองไดถ้ ูกตอ้ ง เป็ นการเรียนรู้เพ่ือพฒั นาพฤติกรรมทางสังคม (Social Skill) เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ใหผ้ เู้ รียนทาํ งานเป็นกลุ่ม โดยมีข้นั ตอนการดาํ เนินกิจกรรมดงั ต่อไปน้ีข้นั ตอนที่ 1 ครูผสู้ อนกาํ หนดประเดน็ ศึกษา ใหผ้ เู้ รียนศึกษาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลูสารสนเทศท่ีเตรียมไว้ แลว้ เลือกหวั ขอ้ พร้อมเสนอเรื่องหรือปัญหาท่ีแต่ละคนสนใจรวมกลุ่มผเู้ รียนท่ีสนใจในเร่ืองเดียวกนัข้นั ที่ 2 แต่ละกลุ่มวางแผนร่วมกนั ในการทาํ งานตามหวั ขอ้ เรื่องท่ีศึกษา สมาชิกกลุ่มวธิ ีการศึกษา แหล่งความรู้ที่ใช้ การแบ่งหนา้ ท่ีภายในกลุ่มข้นั ท่ี 3 กลุ่มดาํ เนินงานตามแผนท่ีวางไว้ โดยศึกษาจากแหล่งขอ้ มูลท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียนข้นั ท่ี 4 กลุ่มรวบรวมขอ้ มลู จากการดาํ เนินงานในกิจกรรมข้นั ตอนท่ี 3 ร่วมกนัวเิ คราะห์และประเมินผลข้นั ท่ี 5 กลุ่มนาํ เสนอผลงานตามหวั ขอ้ เร่ืองที่ศึกษาทีละกลุม่ กลุ่มอื่นๆร่วมฟังพร้อมแสดงความคิดเห็นต่อไปเด็กๆ จบั กลุ่มร่วมกนั คิด วางแผนการทาํ งาน การสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ิน ก่อนไปสาํ รวจ พร้อมบนั ทึกในแบบฝึกหดั กรอบ 14หนา้ 21 กรอบท่ี 16 หนา้ 23กรอบท่ี 18 หนา้ 25 แลว้ นาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียนตรวจผลงาน
26 แบบฝึ กหัดคําชี้แจง กิจกรรมที่ 1 ครูกาํ หนดสถานการณ์ปัญหาเป็ น 2 ฐานใหผ้ เู้ รียนเลือกที่สนใจเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่น พร้อมบนั ทึกขอ้ มลู ในแบบฝึกหดั ตอ่ ไปน้ี กิจกรรมเพื่อนใหม่ในป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ินของฉนั (คะแนนเตม็ 20 คะแนน) 1. วาดภาพป่ าชุมชนในความคิดของฉนั2. สิ่งมีชีวติ ท่ีพบในป่ าชุมชนตารางบนั ทึกผลการสาํ รวจส่ิงมีชีวติ ที่พบในป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ินของฉนั แหล่งที่พบสิ่งมีชีวติ ท่ีสาํ รวจพบ จาํ นวน ลกั ษณะที่สงั เกตได้
27 เฉลยแบบฝึ กหดัคาํ ชี้แจง ใหผ้ เู้ รียน พจิ ารณาแนวการตอบ กิจกรรมท่ี 1 ผเู้ รียนเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่นกบั พี่นกนอ้ ยนาํ สาํ รวจ พร้อมบนั ทึกขอ้ มูลในแบบฝึกหดั ต่อไปน้ี กิจกรรมเพือ่ นใหม่ในป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ินของฉนั (คะแนนเตม็ 20 คะแนน) 1. วาดภาพป่ าชุมชนในความคิดของฉนั2. ส่ิงมีชีวติ ที่พบในป่ าชุมชนตารางบนั ทึกผลการสาํ รวจส่ิงมีชีวติ ท่ีพบในป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ินของฉนั แหล่งท่ีพบสิ่งมีชีวติ ที่สาํ รวจพบ จาํ นวน ลกั ษณะท่ีสงั เกตได้ ตวั เลก็ ๆเกินไปเดินมามด ขา้ งกระทอ่ ม นบั ไมถ่ ว้ น เดินกินหญา้ควาย ริมทุ่งนา 10 ตวั กินหญา้ววั ในป่ าชุมชน 7 ตวั เดินหาอาหารกิน บินมาเกาะส่งเสียงร้องนกกระยางขาว ในหนองน้าํ กลางทุง่ นา 5 ตวั กาํ ลงั เกาะที่เปลือกตน้ ไม้นกเขา เกาะอยบู่ นตน้ ไมใ้ หญ่ 3 ตวั เป็ นดอกโผล่นดิน กาํ ลงั กดั กินใบไมบ้ นตน้ ไม้กิ้งก่า เกาะตามลาํ ตน้ ไมใ้ หญ่ 2 ตวัเห็ดโคลน ข้ึนในดินในป่ าชุมชน นบั ไม่ถว้ นแมงชา้ ง บนตน้ ไม้ นบั ไมถ่ ว้ น
28 แบบฝึ กหัดคําชี้แจง กิจกรรมท่ี 2 ครูกาํ หนดสถานการณ์ปัญหาเป็ น 2 ฐานใหผ้ เู้ รียนเลือกท่ีสนใจเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่น พร้อมบนั ทึกขอ้ มลู ในแบบฝึกหดั ต่อไปน้ี กิจกรรมเสียงดนตรีในป่ าชุมชนใหผ้ เู้ รียนนงั่ เงียบๆ ฟังเสียงต่างๆในป่ าประมาณ 10 นาที แลว้ บนั ทึกเสียงที่ไดย้ นิ(คะแนนเตม็ 20 คะแนน) 1. เสียงดนตรีในป่ า บนั ทึกเสียงท่ีไดย้ นิ ในป่ า Nw นกั เรียน E S2. ความสาํ คญั และความประทบั ในการศึกษาธรรมชาติในป่ าชุมชน ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
29 เฉลยแบบฝึ กหดัคําชี้แจง ใหผ้ เู้ รียน พจิ ารณาแนวการตอบ กิจกรรมที่ 2 ผเู้ รียนเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่นกบั พน่ี กนอ้ ยนาํ สาํ รวจ พร้อมบนั ทึกขอ้ มูลในแบบฝึกหดั ต่อไปน้ีกิจกรรมเสียงดนตรีในป่ า (คะแนนเตม็ 20 คะแนน) 3. เสียงดนตรีในป่ า บนั ทึกเสียงที่ไดย้ นิ ในป่ า N เสียงนกเขาขนั จูก้ กุ๊ กรูๆเสียงจ้กั จนั่ ร้องระงมw นกั เรียน Eเสียงนกกระจิบร้อง จิบๆ เจ้ือยแจว้ เสียงนกโพระดกร้อง ป้ ุก ป้ ุก S 4. ความสาํ คญั และความประทบั ในการศึกษาธรรมชาติในป่ าชุมชน …………การไปสาํ รวจศึกษาธรรมชาติ ประชากรส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถ่ิน ไดส้ ัมผสั กบั ภาพธรรมชาติรอบตวั โดยตรง ตาไดพ้ บเห็นส่ิงมีชีวติ รอบตวั หลากหลายชนิด มีท้งั พชื นานาพรรณ สัตวป์ ่ าชุมชนและสตั วเ์ ล้ียงของเกษตรกร…หูไดส้ ัมผสั เสียงธรรมชาติ นกร้อง ไพเราะเสนาะหู กายไดส้ ัมผสั อากาศเยน็ ชุ่มฉ่าํ ของป่ าไม้ ควรอนุรักษป์ ่ าชุมชนใหค้ งความ อุดมสมบรู ณ์อยตู่ ่อไป……………………………………………เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนทาํ ได้ 15 คะแนน คุณเยย่ี มมากทาํ ได้ 13 -14 คุณคือคนเก่งทาํ ได้ 11-12 คุณผา่ นเกณฑ์ ยนิ ดีดว้ ยครับทาํ ได้ 9 -10 คะแนน ควรศึกษาเพ่มิ เติมนะครับทาํ ได้ 1 – 8 คะแนน กลบั ไปศึกษาใหม่นะครับ
30 แบบฝึ กหัดคําชี้แจง กิจกรรมที่ 3 ครูกาํ หนดสถานการณ์ปัญหาเป็ น 2 ฐานใหผ้ เู้ รียนเลือกท่ีสนใจเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่น พร้อมบนั ทึกขอ้ มูลในแบบฝึกหดั ต่อไปน้ี กิจกรรมไลเคนเพื่อนสนิทของตน้ ไม้ (คะแนนเตม็ 20 คะแนน)1. สงั เกตบริเวณผวิ ตน้ ไมใ้ หญ่ ถา้ พบส่วนที่เป็นสีเขียวอ่อนอยบู่ นผวิ ตน้ ไมค้ ือ ส่ิงมีชีวติ กลุ่มไลเคนและสังเกตตน้ ไมบ้ ริเวณที่ไม่มีไลเคนเปรียบเทียบความช้ืน ปริมาณแสง อุณหภูมิ บนั ทึกผลปัจจยั ทางกายภาพ บา้ นไลเคน บริเวณที่ไม่พบไลเคน1.ความช้ืน2.ปริมาณแสง3.อุณหภมู ิ4.ค่า pH5.อื่นๆ2. แผนภาพแสดงตาํ แหน่งไลเคนบนผวิ ตน้ ไม้ บนผวิ ไม้ พร้อมตอบคาํ ถาม ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ไลเคนกบั ตน้ ไมใ้ หญ่เป็นอยา่ งไร ไลเคนเป็ นกลุ่มสิ่งมีชีวติ ที่ใชบ้ ่งช้ีความสมบูรณ์ของป่ าไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด แผนภาพแสดงตาํ แหน่งไลเคนบนผวิ ตน้ ไม้ตอบคาํ ถาม…………………………………………………….………………………………...………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
31 เฉลยแบบฝึ กหดัคาํ ชี้แจง ใหผ้ เู้ รียน พิจารณาแนวการตอบ กิจกรรมท่ี 3 ผเู้ รียนเตรียมตวั ออกไปสาํ รวจประชากรในระบบนิเวศป่ าชุมชนในทอ้ งถิ่นกบั พีน่ กนอ้ ยนาํ สาํ รวจ พร้อมบนั ทึกขอ้ มลู ในแบบฝึกหดั ต่อไปน้ีกิจกรรมไลเคนเพ่อื นสนิทของตน้ ไม้ (คะแนนเตม็ 20 คะแนน)1. สังเกตบริเวณผวิ ตน้ ไมใ้ หญ่ ถา้ พบส่วนที่เป็นสีเขียวอ่อนอยบู่ นผวิ ตน้ ไมค้ ือ ส่ิงมีชีวติ กลุ่มไลเคน และสงั เกตตน้ ไมบ้ ริเวณท่ีไม่มีไลเคนเปรียบเทียบความช้ืน ปริมาณแสง อุณหภูมิ บนั ทึกผลปัจจยั ทางกายภาพ บา้ นไลเคน บริเวณที่ไม่พบไลเคน1.ความช้ืน มาก นอ้ ย2.ปริมาณแสง นอ้ ย มาก3.อุณหภูมิ ต่าํ สูง4.คา่ pH กลาง เบสอ่อนและกรดอ่อน5.อ่ืนๆ ร่มร่ืน เยน็ สบาย อากาศบริสุทธ์ิ แหง้ แลง้ ร้อน2. แผนภาพแสดงตาํ แหน่งไลเคนบนผวิ ตน้ ไม้ บนผวิ ไม้ พร้อมตอบคาํ ถาม ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งไลเคนกบั ตน้ ไมใ้ หญ่เป็นอยา่ งไร ไลเคนเป็ นกลุ่มสิ่งมีชีวติ ที่ใชบ้ ่งช้ีความสมบูรณ์ของป่ าไดห้ รือไม่เพราะเหตุใด รูปดาวแทนตาํ แหน่งไลเคน แผนภาพแสดงตาํ แหน่งไลเคนบนผวิ ตน้ ไม้ตอบคาํ ถาม…ตน้ ไมใ้ หญ่กบั ไลเคนมีความสมั พนั ธ์กนั แบบภาวะอิงอาศยั หรือเก้ือกลู กนั ฝ่ ายหน่ึงไดป้ ระโยชน์ อีกฝ่ ายไม่ไดแ้ ละไมเ่ สียผลประโยชน์ (+,0) ไลเคนเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวติ ท่ีใชบ้ ง่ ช้ีความสมบรู ณ์ของป่ าไดอ้ ยา่ งดีเยย่ี ม เพราะเป็นดชั นีช้ีวดั สภาพอากาศมีความบริสทุธ์ิและอุดมสมบรู ณ์………….
32 วชิ า ว33101 ขอ้ ทดสอบ เร่ือง ประชากรในระบบนิเวศ วทิ ยาศาสตร์ หลงั เรียน เล่มที่ 3ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 เวลา 10 นาทีไดเ้ วลาเด็กๆ ทาํ ขอ้ สอบหลงั เรียนนะครับ1. มา้ และมา้ ลายมีจาํ นวนโครโมโซนเป็ น 64 แท่ง และ 44 แทง่ ตามลาํ ดบั ลูกผสมขา้ มสายพนั ธุ์ระหวา่ งมา้กบั มา้ ลาย จะมีจาํ นวนโครโมโซนของเซลลร์ ่างกายเป็นก่ีแทง่ก. 44 แทง่ข. 54 แทง่ค. 64 แทง่ง. 108 แทง่2.ตาราง สายพนั ธุ์ของหอยที่พบในป่ าชายเลนที่มีความหมายหนาแน่นของตน้ ไมแ้ ตกต่างกนัความหนาแน่ของต้นไม้ สายพนั ธ์ุของ(จาํ นวนต้นต่อไร่) หอยทพี่ บ 979 A B C D 395 A C 125 A Dจากตาราง ถา้ ป่ ามีความหนาแน่นของตน้ ไมล้ ดลงจะส่งผลกระทบต่อหอยสายพนั ธุ์ใดเป็นอนั ดบั แรกก. Aข. Bค. Cง. D3. การเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากรในขอ้ ใดมีผลใหจ้ าํ นวนประชากรลดลง ก. อตั ราการเกิด < อตั ราการตาย ข. อตั ราการเกิด = อตั ราการตาย ค. อตั ราการอพยพเขา้ < อตั ราการเกิด ง. อตั ราการอพยพเขา้ > อตั ราการอพยพออก
334. การเปล่ียนแปลงในขอ้ ใดมีผลทาํ ใหข้ นาดของประชากรในพ้นื ที่หน่ึง ๆ มีอตั ราเพิม่ ข้ึน ก. อตั ราการอพยพเขา้ = อตั ราการอพยพออก ข. อตั ราการอพยพเขา้ < อตั ราการอพยพออก ค. อตั ราการเกิด > อตั ราการตาย ง. อตั ราการเกิด < อตั ราการตายในสวนแห่งหน่ึงมีพ้ืนที่ 40 ตารางเมตรมีนกเขา จาํ นวน 100 ตวั มดแดง 200 ตวัและ... มีตน้ มะม่วง 160 ตน้ ........................5. จงหาค่าความหนาแน่นของตน้ มะม่วงในสวนน้ี ก. 8 ตน้ /ตารางเมตร ข. 6 ตน้ /ตารางเมตร ค. 5 ตน้ /ตารางเมตร ง. 4 ตน้ /ตารางเมตร6. ขอ้ ใดหมายถึงความหมายของประชากรท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด ก. ในเดือนเมษายนของทุกปี ตน้ มะม่วงอกร่องจะมีลูกสุกเตม็ ตน้ ข. บนตน้ มะพร้าวมีกระรอกเจาะไชลูกมะพร้าวเสียหายเสมอ ค. ปลาทะเลจะวา่ ยรวมฝงู ในขณะที่ปลาน้าํ จืดจะวา่ ยแยกกนั ง. ขา้ วในนาอุดมสมบรู ณ์ดี เพราะมีฝนอุดม7. ทฤษฎีประชากรของโทมสั มลั ทสั ต้งั ข้ึนมาเพ่อื ใชก้ บั ประชากรกลุ่มใด ก. คน ข. ผผู้ ลิต ค. สตั วก์ ินพชื ง. สตั วก์ ินสัตว์8. ขอ้ ใดไม่เป็นผลกระทบต่อการเพิ่มข้ึนของประชากร ก. คุณภาพชีวติ ลดลง ข. สดั ส่วนประชากรต่อหน่วยพ้ืนท่ีลดลง ค. ผลผลิตพชื และสตั วจ์ ากธรรมชาติลดลง ง. มีการขยายชุมชนเมืองออกไปสู่พ้นื ที่ชนบท
349. การเพิ่มประชากรมนุษยเ์ กิดข้ึนควบคู่กบั ขอ้ ใด ก. สดั ส่วนประชากรต่อหน่วยพ้นื ที่ลดลง ข. เทคโนโลยเี พิ่มข้ึน ค. คุณภาพชีวติ ดีข้ึน ง. มลภาวะเพิ่มข้ึน10. ในฟาร์มแห่งหน่ึงเล้ียงไก่พอ่ แม่พนั ธุ์รวมกนั 100 ตวั นบั ไขไ่ ด้ 500 ฟอง นาํ ไปฟัก แตเ่ กิดความขดั ขอ้ งทางเทคนิคไดล้ ูกเจ๊ียบออกมาเพยี ง 400 ตวั ขอ้ ใดจะถูกตอ้ งท่ีสุด ก. อตั ราการเกิดร้อยละ 60 ข. อตั ราการเกิดร้อยละ 20 ค. อตั ราการเกิดร้อยละ 80 ง. อตั ราการตายร้อยละ 20
35ทาํ ถูกก่ีขอ้ ขอเชิญเด็กๆ ตรวจดูคาํ เฉลยนะคะทาํ คะแนนใหไ้ ดม้ ากกวา่ ก่อนเรียน!! นะคะเพราะเป็นคะแนนสอบหลงั เรียน เฉลยขอ้ สอบหลงั เรียน ขอ้ 1 ข ขอ้ 2 ข ขอ้ 3 ค ขอ้ 4 ก ขอ้ 5 ง ขอ้ 6 ข ขอ้ 7 ข ขอ้ 8 ง ขอ้ 9 ค ขอ้ 10 คเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนถูก 1-4 ขอ้ ตอ้ งแกไ้ ข เร่งทาํ ความเขา้ ใจกบับทเรียนใหม้ ากๆถูก 5-7 ขอ้ พอใช้ ควรศึกษาเพิม่ เติมอีกถูก 8-9 ขอ้ ดี ผา่ นเกณฑย์ นิ ดีดว้ ยคะแต่ทดสอบหลงั เรียนตอ้ งรักษาระดบั หรือใหด้ ีกวา่ น้ีนะคะถูก 10 ขอ้ ดีมาก คุณเยย่ี มมาก ขอปรบมือให้ทดสอบหลงั เรียนตอ้ งเป็นเช่นน้ีนะคะ
36หายเหน่ือยแลว้ ใช่ไหมคะขอเชิญเรียนเร่ืองการถ่ายทอดพลงั งาน เล่มท่ี 4 พบกบัพีเ่ สือนอ้ ยนาํ สาํ รวจนะคะเด็กๆ ครับ/ค่ะ
37บรรณานุกรมกรมวชิ าการ. (2551). หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าวกระทรวงศึกษาธิการ. (2550). เรียนรู้โลกกว้าง สํารวจและเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.โกสุม งามดวงใจ. (2545). “ประชากร” (ออนไลน์) เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.school.net.th/library/create-web/10000. สืบคน้ วนั ที่ 2 มีนาคม 2558.ฝ่ ายวชิ าการ. (2537). วทิ ยาศาสตร์ ม. 3. กรุงเทพฯ : ภูมิบณั ฑิตการพิมพ.์ยพุ า วรยศและคณะ.(มปพ.). หนังสือเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น์.ศรัณย์ ศรีมี. (2558). “ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชีวติ ในระบบนิเวศ” (ออนไลน์) เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.slideshare.net/oHellJungo/ss-4675687. สืบคน้ วนั ที่ 2 มีนาคม 2558.สมนึก ภทั ทิยธนี. (2549). การวดั ผลการศึกษา. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ.์สถาบนั ส่ิงแวดลอ้ ม. (2558). “ปัญหาทเ่ี กดิ จากการเพมิ่ จํานวนประชากร” (ออนไลน์) เขา้ ถึงไดจ้ าก http://environment.ekstepza.ws/population-problem.html. สืบคน้ วนั ที่ 2 มีนาคม 2558. . (2558). “ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชีวติ กบั สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ” [ออนไลน]์ .เขา้ ถึงไดจ้ าก http://environment.ekstepza.ws/physical-environment-relationship.html. สืบคน้ วนั ท่ี 2 มีนาคม 2558.สารานุกรมสาํ หรับเยาวชน. (2558). ”ระบบนิเวศ” (ออนไลน)์ เขา้ ถึงไดจ้ าก http//kanchanapisek.or.th/kp6. สืบคน้ วนั ที่ 2 มีนาคม 2558.สุวทิ ย์ มลู คาํ . (2549). ครบเครื่องเร่ืองการคดิ . กรุงเทพฯ : หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ภาพพิมพ์สุวทิ ย์ มลู คาํ และสุนนั ทา สุนทรประเสริฐ. (2550). ผลงานทางวชิ าการสู่...การเลือ่ นวทิ ยฐานะ. กรุงเทพฯ : หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ภาพพมิ พ.์ฤทธ์ิ วฒั นชยั ยงิ่ เจริญ. (2549). ชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ มสิ่งมีชีวิตกบั กระบวนการดาํ รงชีวติ . พมิ พค์ ร้ังท่ี 1. กรุงเทพ ฯ : อกั ษรเจริญทศั น์.
38จัดพมิ พ์โดย นางสาวปัญยลตั ณ์ สุขสงวน ครูโรงเรียนบ้านหนองเตยสพป.ศรีสะเกษ เขต 1
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: