หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เร่ืองท่ี 2 มนุษย์กบั สิ่งแวดล้อม กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรียบเรียงโดย อรอนงค์ สุขสงวน สาระชีวติ กบั สิ่งแวดล้อม ภาพ อรุณี สีใส อรณี เรืองเดช ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา คานา การดาํ รงชีวติ ในสังคมโลกปัจจุบนั เป็ นยคุ ขอ้ มูลข่าวสาร มีความเจริญรุ่งเรืองทางวตั ถุมาก ในขณะเดียวกนั สภาวะแวดลอ้ มรอบตวั ลว้ นเกิดการเปล่ียนแปลงไปเช่นเดียวกนั เกิดปรากฏการณ์ ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติมากมาย หลายพ้ืนท่ีทวั่ โลก เกิดวกิ ฤติการณ์โลกร้อน เพราะการกระทาํ ของมนุษย์ ดงั น้นั การปลูกฝังค่านิยม การปฏิบตั ิตนท่ีดี งาม และใส่ใจต่อความสําคญั ของสิ่งแวดลอ้ มให้กบั เยาวชนของชาติถือเป็ นบทบาทหนา้ ท่ี ของทุกคนตอ้ งช่วยเหลือ กันอย่างเร่งด่วน เพื่อเยาวชนรุ่นใหม่จะได้รู้คุณค่า และตระหนักถึงความสําคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มโลก รู้จกั ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรดิน น้าํ ป่ าไม้ อากาศ อยา่ งประหยดั และดาํ รงชีวิตอยภู่ ายใตศ้ ีลธรรมอนั ดี งาม เพราะเยาวชนถือเป็ นฟันเฟื องเล็กๆ และคอยขบั เคลื่อนเป็ นกระบอกเสียงสําคญั ในการเผยแพร่สู่ชุมชน และชน รุ่นหลงั ต่อไป จากแนวคิดดังกล่าวประกอบกับสภาวะเหตุการณ์โลกในสังคมปัจจุบนั สะท้อนให้เห็นว่า โลกใบน้ี ค่อนข้างวิกฤติเพราะน้ํามือมนุษย์ จึงเป็ นที่มาของการจัดทาํ หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระชีวิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม ชุด “โลกใบใหม่ของหนูนา” ผูจ้ ดั ทาํ ไดเ้ รียบเรียงและแต่งข้ึนตามความจริง และประสบการณ์ชีวิตจริง เน้ือเร่ืองครอบคลุมสาระการเรียนรู้ชีวิตกบั สิ่งแวดล้อม ทกั ษะกระบวนการคิดข้นั สูง ทกั ษะกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์เพ่ือส่งเสริมนิสัย รักการอ่านให้ผูเ้ รียนไดต้ ระหนกั ถึงคุณค่า และเห็นความสาํ คญั ของการใชช้ ีวติ ท่ีตอ้ งคาํ นึงถึงสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั ท้งั น้ียงั ส่งเสริมความรู้ความเขา้ ใจ สติปัญญา เจตคติท่ีเหมาะสม และส่งเสริมทกั ษะการศึกษาหาความรู้ดว้ ยตนเองให้กบั ผูเ้ รียน เพ่ือเสริมสร้างการใชช้ ีวิตดาํ รงตน ในสังคมประจาํ วนั ท่ีตระหนกั และใส่ใจตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม หนงั สือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด “โลกใบใหม่ของหนูนา” จาํ นวน 5 เล่ม ให้ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ในช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ดงั น้ี เล่มที่ 1 เรื่อง วถิ ีชีวติ ชุมชนพอเพยี ง เล่มที่ 2 เร่ือง มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม เล่มท่ี 3 เร่ือง ระบบนิเวศน่าอยู่ เล่มที่ 4 เรื่อง ธรรมะใกลต้ วั เล่มท่ี 5 เร่ือง รักษโ์ ลก
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ขอขอบพระคุณ นางสาวจนั ทรา เทพชุมพล ตาํ แหน่งครู วิทยฐานะครูชาํ นาญการพิเศษ สาขาภาษาไทย โรงเรียนบา้ นคะนาสามคั คี สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นหลกั สูตรและ การสอน นางนวลจนั ทร์ เดชพิมลพร ตาํ แหน่งครู วิทยฐานะครูชาํ นาญการพิเศษ สาขาวิทยาศาสตร์ โรงเรียนเกษตร ประชาตาทวด ให้คาํ ปรึกษาดา้ นการจดั การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นางสาววิเรืองไร วงศว์ รรณา ตาํ แหน่งศึกษานิเทศก์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยฐานะศึกษานิเทศกช์ าํ นาญการพเิ ศษ สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 ใหค้ าํ ปรึกษาดา้ นเทคนิคการจดั การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นายวารินทร์ บุญเชิญ ตาํ แหน่งผอู้ าํ นวยการ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด วทิ ยฐานะผูอ้ าํ นวยการชาํ นาญการพิเศษ ให้คาํ ปรึกษาดา้ นการวดั ผลประเมินผล และ อาจารย์ ดร.ราเชนทร์โกศลั วติ ร รองผูอ้ าํ นวยการ (Deputy Director) ศูนยน์ วตั กรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา ภาควิชาคณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี Ph. D. Anatomy The Queen’s U. of Belfast, U.K ให้ คาํ ปรึกษาหลกั การสร้างนวตั กรรมการเรียนการสอน ที่ไดก้ รุณาตรวจสอบความเหมาะสม ความถูกตอ้ ง ขอขอบคุณ เป็ นพิเศษต่อท่านผูอ้ ่าน และหวงั เป็ นอยา่ งย่ิงวา่ เรื่องราวต่างๆ ท่ีไดถ้ ่ายทอดจะเป็ นประโยชน์ต่อการศึกษาเป็ นสําคญั และไดร้ ับความร่วมมือจากทุกฝ่ ายในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจนสามารถเผยแพร่สู่ ชุมชน ก่อใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดตอ่ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติสืบไป อรอนงค์ สุขสงวน
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา จุดประสงค์ของการอ่าน เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถ 1. อธิบาย ถ่ายทอดเร่ือง “มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม” ได้ 2. คิดวเิ คราะห์ สรุปองคค์ วามรู้รวมจากเรื่อง “มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม” ได้ 3. นาํ ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากเร่ือง “มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม” ไปปรับประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา สารบัญ เรื่อง หนา้ คาํ นาํ ............................................................................................................................................. ข จุดประสงคข์ องการอา่ น............................................................................................................... ง สารบญั ......................................................................................................................................... จ บทนาํ ........................................................................................................................................... 1 มนุษยก์ บั สิ่งแวดลอ้ ม ................................................................................................................... 2 2 ตอนท่ี 1 การทาํ ปูนกินหมาก ....................................................................................... 4 ตอนท่ี 2 การร้องเพลงกล่อมเดก็ .................................................................................. 8 ตอนท่ี 3 การทอผา้ ไหม ............................................................................................... 12 ตอนที่ 4 การทอเสื่อจากตน้ กก .................................................................................... 15 เอกสารอา้ งอิง............................................................................................................................... 16 ภาคผนวก ..................................................................................................................................... 17 อภิธานศพั ท์.................................................................................................................................. 18 ดชั นี.............................................................................................................................................. 20 ประวตั ิผแู้ ต่ง.................................................................................................................................
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา บทนา โลกใบใหม่ของหนูนา เป็ นเรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงคนหน่ึงช่ือวา่ “หนูนา”เธอเกิดในตระกูลร่ํารวย มีพ่อ เป็นนายแพทยช์ ื่อดงั แม่เป็ นนกั การทูต อาศยั อยูใ่ นชุมชนเมืองใหญ่ การดาํ เนินชีวิตตอ้ งประสบกบั ปัญหามลพิษทาง เสียง อากาศ และสิ่งแวดล้อมแอดอดั ในชุมชนเมืองใหญ่มีรถยนต์วิ่งตามถนนมากมาย แต่ละคันปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ คนเมืองตอ้ งทนสูดดมก๊าซพิษ และสภาพความวนุ่ วายในสังคมเมืองใหญ่ มีหลาย อยา่ งในการดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั ท่ีหนูนาไมช่ อบ เวลาเดินทางไปโรงเรียนตอ้ งทนนงั่ บนรถยนตน์ านๆ เพราะมีรถติด ยาวมาก หนูนาฝันอยากมีชีวติ ในโลก ท่ีน่าอยกู่ วา่ ชีวติ จริงของเธอ วนั หน่ึงหนูนานอนหลบั แลว้ ฝันวา่ ไดไ้ ปท่องเท่ียว ตามที่ต่างๆกบั เจา้ นางงามสุนัขคู่ใจท่ีน่ารัก และซื่อสัตยต์ ่อเธอมาก เธอฝันว่าไดไ้ ปชม“มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม”ใน หมู่บา้ นแห่งหน่ึง ในชีวติ จริงเธอไม่เคยพบเห็น มีหลากหลายเร่ืองราวท่ีชวนคิดและน่าสนใจเป็ นอยา่ งมาก ผเู้ รียบเรียง จดั ทาํ หนงั สือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระชีวิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม นาํ เสนอไวใ้ นความฝัน ของหนูนา 4 ตอน คือ ตอนท่ี 1 การทาํ ปูนกินหมาก ตอนท่ี 2 การร้องเพลงกล่อมเดก็ ตอนท่ี 3 การทอผา้ ไหม ตอนท่ี 4 การทอเส่ือจากตน้ กก หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนท่ี 1 การทาปูนกนิ หมาก หนูนาสวดมนตก์ ่อนนอนเช่นทุกคืน เหมือนหลบั สนิท ขณะเดียวกนั ไดย้ ินเสียงเจา้ นางงามร้องครางหงิงๆ เหมือนมนั ไดเ้ จอเพอ่ื นสุนขั เพศเมียท่ีตอ้ งใจ ในบา้ นหลงั หน่ึงของชุมชนพอเพยี งทราบเป็นบา้ นป้าคาํ เบา หนูนาเขา้ ไป ทาํ ความรู้จกั ดว้ ยความนอบน้อม ป้าคาํ เบาใจดีเป็ นปราชญใ์ นทอ้ งถิ่นแห่งน้ี มีความรู้ความสามารถดา้ นการแปรรูป ทรัพยากรธรรมชาติในทอ้ งถิ่น กาํ ลงั ลา้ งเปลือกหอยจาํ นวนมาก อยูใ่ นกะละมงั ขนาดใหญ่ หนูนาสงสัย “ป้าคาํ เบาจะ นาํ เปลือกหอยที่กินเน้ือมนั แลว้ ไปทาํ อะไรคะทาํ ไมไม่ทิ้งไปเสียละคะ” ป้าคาํ เบายิม้ แลว้ ตอบหนูนา “ป้าจะนาํ เปลือก หอยไปทาํ ปูนกินหมากจะ๊ ”“ดีจงั นะคะแลว้ มีวธิ ีการทาํ อยา่ งไรคะป้า”“เดี๋ยวป้าจะทาํ ใหด้ ูหนูสังเกตและจดจาํ เอานะวธิ ี ท1่ี นาํ เปลือกหอยแครงไปลา้ งน้าํ ใหส้ ะอาดแลว้ นาํ ไปใส่ในหมอ้ ดิน ต้งั ไฟจนใหเ้ ปลือกหอยแครงสุกจนกรอบ แลว้ นาํ น้าํ ราด ให้หายร้อน จากน้นั เปลือกหอยจะละลายกลายเป็ นปูนขาววิธีท่ี 2 นาํ เปลือกหอยแครงไปลา้ งน้าํ ให้สะอาด แลว้ นาํ ไปเผาในเตาถ่าน ใหเ้ ปลือกหอยแครงสุกจนขาว จากน้นั นาํ เปลือกหอยแครงท่ีสุกแลว้ ไปลา้ งน้าํ นาํ ใส่ในถว้ ย กระเบ้ืองใส่น้าํ พอทว่ มปิ ดปากถว้ ยดว้ ยใบตอง ทิ้งไวป้ ระมาณ1-2 ชว่ั โมง ก็นาํ ไปใชป้ ระกอบการกินหมากได้ ป้าคะ ปูนกินหมากมนั สําคญั และมีประโยชน์อยา่ งไรคะ การทาํ ปูนกินหมากของชาวไทยเช้ือสายกะเหร่ียง จะใชห้ ินปูนใน แม่น้าํ มาเผาให้สุกจากน้นั นาํ มาตาํ ให้ละเอียด แลว้ ผสมดว้ ยขมิ้นแดง ใส่เกลือป่ นเล็กนอ้ ย นาํ มาทากบั ใบพลูเค้ียว ประโยชนข์ องปูนกินหมาก ใชเ้ ป็น หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ปูนกินกบั หมาก ใชท้ าํ น้าํ ปูนใสเพือ่ แช่มนั หรือฟักทองฯลฯใหแ้ ขง็ ก่อนนาํ ไปทาํ ของหวาน ใชน้ ้าํ ปูนใสลา้ งเหล็กหรือ โลหะเพื่อป้องกนั การเกิดสนิม”“มีประโยชน์มากนะคะป้านอกจากหอยแครงใชห้ อย ชนิดใดทาํ ปูนกินหมากไดอ้ ีก บ้างคะ”“ป้าเคยนําหอยนา หอยจูบ และหอยเชอร่ีมาทาํ ได้เช่นกนั จ๊ะ”ชุมชนบ้านป้าคาํ เบาน่าอยู่จังนะคะใส่ใจ ส่ิงแวดลอ้ มไมท่ ิง้ เปลือกหอยสามารถนาํ กลบั มาแปรรูปเป็น ปูนกินหมาก ไดอ้ ีกดว้ ย” ป้าคาํ เบาสรุปถึงความสัมพนั ธ์ ระหว่างมนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ มจะเห็นไดว้ า่ “มนุษย์น้ันเป็ นส่วนหน่ึงของส่ิงแวดล้อม และมนุษย์ไม่อาจแยกตัวเป็ น อสิ ระจากสิ่งแวดล้อมได้ ในเม่ือมนุษย์มีความผกู พนั กบั ส่ิงแวดล้อมอย่างแนบแน่นเช่นนี้ มนุษย์จึงไม่อาจปฏิเสธภาระ ความรับผดิ ชอบต่อการพทิ กั ษ์รักษาสภาพแวดล้อมทดี่ ใี ห้คงอย่ตู ลอดไป เพ่ือความอยู่รอดของตวั มนุษย์เอง ชุมชนหนู นามีการทาํ แบบน้ีไหมจ๊ะ”“ป้าจ๋าชุมชนท่ีหนูอยูไ่ ม่มีหรอกจ๊ะเป็ นชุมชนเมืองเจริญไปทุกอย่างท้งั สื่อ คอมพิวเตอร์ รถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินคา้ มากมาย เป็ นผลใหอ้ ากาศร้อนมากที่สุด ไม่น่าอยรู่ ่มรื่นเช่นบา้ นป้าคาํ เบาหนูนาจะนาํ ความรู้ท่ีเรียนการทาํ ปูนกินหมากจากเปลือกหอยไปเผยแพร่ต่อนะคะ”“จะ๊ ดีมากเลยหนู ป้าอยากรู้หาก ไมน่ าํ มาทาํ ปูนกินหมากเปลือกหอยที่มีมากหนูคิดวา่ ใชท้ าํ อะไรไดอ้ ีกจะ๊ ”“เปลือกหอยใชท้ าํ เคร่ืองประดบั ร้อยเป็ นโม บายไดค้ ะป้า แลว้ เพื่อนๆ คิดอยา่ งไรจะ๊ ”ทนั ใดเจา้ นางงามสุนขั คู่ใจว่ิงมาเคลา้ เคลีย เลียขาออเซาะหนูนา เหมือนมนั อยากกลบั บา้ น เสียงแม่เรียกดงั มาแต่ไกล “หนูนา หนูนา ต่ืนไดแ้ ลว้ ลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะจ๊ะ” หนูนาตอ้ งต่ืน นอนพลางราํ พงึ ในใจวา่ เราฝันไปอีกแลว้ ช่างเป็นความฝันที่งดงามเหลือเกิน คาถามชวนคิด 1. การทาํ ปูนกินหมากจากเปลือกหอยช่วยรักษาส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งไร 2. การทาํ ปูนกินหมากมีความสาํ คญั อยา่ งไร 3. วธิ ีการทาํ ปูนกินหมากทาํ ไดอ้ ยา่ งไร 4. ปูนกินหมากมีประโยชน์อยา่ งไร 5. เปลือกหอยท่ีมีมากในทอ้ งถ่ินนอกจากการทาํ ปูนกินหมาก สามารถนาํ ไปทาํ อะไรไดบ้ า้ ง
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนท่ี 2 การร้องเพลงกล่อมเดก็ หนูนานอนหลบั ฝันดีมาก เหมือนไดย้ นิ เสียงเพลงเป็นภาษาท่ีไม่คุน้ เคย แตไ่ พเราะมาก แลว้ จู่ๆ ก็พบวา่ ตวั เอง เดินตามเสียงเพลงอนั ไพเราะน้นั ไปกบั เจา้ นางงามสุนขั คู่ใจ เดินไปเร่ือยๆ จนพบบา้ น หลงั หน่ึงเป็ นบา้ นไมส้ องช้นั ใตถ้ ุนสูงมีป้าคนหน่ึงนง่ั ไกวเปลท่ีมีเด็กอ่อนราว 4- 5 เดือน นอนหลบั ป๋ ุยและกาํ ลงั ร้องเพลงอนั ไพเราะเสนาะหู หนู นากบั เจา้ นางงามเดินเขา้ ไปทกั ทายทาํ ความรู้จกั พร้อม ทาํ ความเคารพดว้ ยความอ่อนนอ้ ม ดว้ ยความสงสัยเลยถาม “ป้าสาํ ลีขบั ร้องเพลงอนั ใดทาํ ไมไพเราะเหลือเกิน”ป้าสาํ ลีเป็ นคุณครู บอกกบั หนูนาวา่ “เม่ืออยใู่ นส่ิงแวดลอ้ มเดียวกนั ยอ่ มมีขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ค่านิยม เหล่าน้ีลว้ นเป็ นส่ิงที่มนุษย์ สร้างข้ึน และมีความสําคญั ในการกาํ หนดรูปแบบวิถีการดาํ เนินชีวิตของมนุษย์ มนุษยเ์ ราเมื่ออยูร่ ่วมกนั เป็ นสังคม ยอ่ มตอ้ งมีการจดั ระเบียบทางสังคมเพื่อกาํ หนดแนวทางในการดาํ เนินชีวิต กาํ หนดพฤติกรรมที่พึงปฏิบตั ิในการอยู่ ร่วมกบั ผูอ้ ่ืน เพื่อให้มนุษยอ์ ยู่ร่วมกนั อย่างมีความสุข ดงั น้นั การร้องเพลงขบั กล่อมเด็กเป็ นค่านิยมของคนทางภาค อีสานและภาคอื่นๆ จะ๊ เพอื่ กล่อมใหเ้ ด็กหลบั กล่อมเกลาจิตใจเด็กเมื่อมีการอยูใ่ นสิ่งแวดลอ้ มท่ีดียอ่ มหมายถึง การได้ อยใู่ นที่ท่ีมีอากาศบริสุทธ์ิสาํ หรับหายใจ มีน้าํ สะอาดไวใ้ ชส้ อย
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ด่ืมกิน มีอาหารที่สะอาด ถูกหลกั โภชนาการไวบ้ ริโภค มีแหล่งพกั ผอ่ นหย่อนใจท่ีเหมาะสมและเพียงพอผูค้ นท่ี แวดลอ้ มรอบตวั เรามีจิตใจท่ีดีงาม”“แลว้ มนั เป็นอยา่ งไรคะป้า เด๋ียวป้าจะอธิบายใหฟ้ ังแตต่ อ้ งเบาๆนะจ๊ะ เดี๋ยวนอ้ งหนู ตวั เล็กต่ืน”หนูนาหันไปบอกเจ้านางงามให้เบาๆ และลูบศรีษะมันให้หลับเช่นกัน พร้อมต้ังใจฟังป้าสําลีพูด “ความหมายของเพลงกล่อมเด็ก เพลงกล่อมเด็กเป็ นวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินอยา่ งหน่ึงท่ีสะทอ้ นให้เห็นถึงความเช่ือ และ ค่านิยมของคนในทอ้ งถิ่นต่างๆ คนทุกชาติทุกภาษาในโลกมีบทเพลงกล่อมเด็กด้วยกนั ท้งั น้นั สันนิษฐานว่าเพลง กล่อมเดก็ มีววิ ฒั นาการจากการเล่านิทานใหเ้ ดก็ ฟังก่อนนอน ดงั น้นั เพลงกล่อมเด็กบางเพลงจึงมีลกั ษณะเน้ือร้องที่เป็ น เร่ืองเป็ นราว เช่น จนั ทรโครพ ไชยเชษฐ์ พระรถเสน เป็ นตน้ การท่ีตอ้ งมีเพลงกล่อมเด็กก็เพื่อให้เด็กเกิดความ เพลิดเพลินหลบั ง่าย และเกิดความอบอุ่นใจ ลักษณะของเพลงกล่อมเด็ก ลกั ษณะกลอนของเพลงกล่อมเด็กจะเป็ น กลอนชาวบา้ นไม่มีแบบแผนแน่นอนเพียงแต่มีสัมผสั คลอ้ งจองกนั บา้ ง ถอ้ ยคาํ ท่ีใชใ้ นบางคร้ังอาจไม่มีความหมาย เน้ือเรื่องจะเกี่ยวกบั ธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ มหรือเรื่องราวต่างๆ ท่ีเกี่ยวกบั ชีวติ ความเป็ นอยู่ ซ่ึงสะทอ้ น ให้เห็นความรัก ความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูก ท้งั ยงั มีการส่ังสอนและเสียดสีสังคมสามารถแยกไดด้ งั น้ี เป็ นบทร้อยกรองส้ันๆ มีคาํ คลอ้ งจองต่อเนื่องกนั ไป มีฉนั ทลกั ษณ์ไม่แน่นอนใชค้ าํ ง่ายๆ ส้ันหรือยาวก็ได้ มีจงั หวะในการร้องและทาํ นองที่เรียบ ง่าย สนุกสนาน จดจาํ ไดง้ ่าย ประเภทของเนื้อเพลงกล่อมเด็ก แสดงความรักความห่วงใย กล่าวถึงส่ิงแวดลอ้ ม เล่าเป็ น นิทานและวรรณคดี เป็ นการเล่าประสบการณ์ ลอ้ เลียนและเสียดสีสังคมความรู้เก่ียวกบั การดูแลเด็กเป็ นคติคาํ สอน เพลงกล่อมเด็กในแต่ละภาคในประเทศไทยเราน้นั มีเพลงกล่อมเด็กอยูท่ ว่ั ทุกภาคเน้ือร้องและทาํ นองจะต่างกนั ไป มี ช่ือเรียกหลายอย่าง เช่น ภาคอีสานเรียก\"เพลงนอนสาหล่า\" \"นอนสาเดอ\"ภาคกลางเรียก\"เพลงกล่อมเด็ก\" \"เพลงกล่อมลูก\"ส่วนภาคใตเ้ รียก \"เพลงชานอ้ ง\"\"เพลงเปล\"\"เพลงนอ้ งนอน\"และ\"เพลงร้องเรือ\"โดยเพลงกล่อมเด็ก เป็ นคติชาวบา้ นประเภทใชภ้ าษาเป็ นสื่อท่ีการถ่ายทอดจากปากต่อปากมาแต่โบราณเรียกวา่ \"มุขปาฐะ\"มีลกั ษณะเป็ น วฒั นธรรมพ้ืนบา้ นท่ีมีบทบาท และหน้าท่ีแสดงเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนเพลงกล่อมเด็กภาคเหนือ สําหรับ ภาคเหนือ หรือดินแดนลา้ นนาอนั สงบสวยงามมีเพลงกล่อมลูกสืบทอดเป็ นลกั ษณะแบบแผนเฉพาะของตนเองมาชา้ นาน ฉันทลกั ษณ์ของเพลงกล่อมเด็กภาคเหนือว่า \"คาํ ร่ํา\"ซ่ึงจดั เป็ นลาํ นาํ ชนิดหน่ึง หมายถึงการร่ําพรรณนา มีเสียง ไพเราะสูงต่าํ ตามสียงวรรณยกุ ตข์ องสาํ เนียงภาคเหนือ นิยมใชแ้ ต่งในการร่ําบอกไฟข้ึนร่ําสร้างวิหาร ร่ําสร้างเจดีย์ ร่ํา สร้างถนนข้ึนดอยสุเทพ และแต่งเป็ นคาํ กล่อมเด็ก คาํ กล่อมเด็กน้ี พ่อแม่ ป่ ูยา่ ตายายในภาคเหนือสมยั ก่อนมกั จะใช้ ขบั กล่อมสอนลูกหลานขณะอุม้ เดก็ นง่ั ชิงชา้ แกวง่ ไกวชา้ ๆ จนเดก็ ง่วงนอน จึงอุม้ ไปวางบน ท่ีนอนหรือในเปลแลว้ แห่ กล่อมต่อจนเดก็ หลบั สนิท คาํ กล่อมเด็กน้ีจึงเรียกวา่ \"สิกจุง้ จาโหน\" ตามเสียง
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ที่ใช้ข้ึนตน้ เพลง ลกั ษณะเด่นของเพลงกล่อมเด็กภาคเหนือนอกจากจะข้ึนตน้ ด้วยคาํ ว่าสิกจุง้ จาโหนแล้วยงั มกั จะ ข้ึนตน้ ดว้ ยคาํ วา่ \"อ่ือจา\" เป็ นส่วนใหญ่ จึงเรียกเพลงกล่อมเด็กน้ีวา่ เพลงอื่อลูก ทาํ นองและลีลาอื่อลูกจะเป็ นไปชา้ ๆ ดว้ ยน้าํ เสียงทุม้ เยน็ ตามถอ้ ยคาํ ที่สรรมาเพ่ือส่ังสอนพรรณนา ถึงความรัก ความห่วงใยลูกนอ้ ย จนถึงคาํ ปลอบ คาํ ขู่ ขณะยงั ไม่ยอมหลบั ถ้อยคาํ ต่างๆในเพลงกล่อมเด็กภาคเหนือสะทอ้ นให้เห็นสภาพความเป็ นอยู่ ส่ิงแวดล้อมและ วฒั นธรรมต่างๆ ของคนในภาคเหนือในอดีตจนปัจจุบนั ได้เป็ นอย่างดี นับเป็ นประโยชน์ทางอ้อมที่ได้รับ นอกเหนือจากความอบอุ่นใจของลูกที่เป็นประโยชน์โดยตรงของเพลงกล่อมเด็ก เพลงกล่อมเด็กภาคอีสาน ท่ีป้ากาํ ลงั กล่อมนอ้ งตวั เล็กในเปล แลว้ หนูนาไดย้ ินน้ีไงจ๊ะมนั เป็ นเพลงพ้ืนบา้ นอีสานมีลกั ษณะเด่นชดั กบั การขบั ร้องอนั เป็ น ธรรมชาติบ่งบอกความจริงใจ ความสนุกสนาน และความสอดคลอ้ งกลมกลืนกบั เครื่องดนตรีประจาํ ทอ้ งถิ่นคือ แคน แม้การขับกล่อมลูกซ่ึงไม่ใช้เคร่ืองดนตรี ใดๆ ประกอบก็ส่ือให้ผู้ฟังรู้ทันทีว่าเป็ นเพลงของภาคอีสาน ภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานเป็นดินแดนที่กวา้ งขวางและมีประชากรมากที่สุดในบรรดา 4 ภาคของไทย เพลง กล่อมลูกจึงมีหลายสาํ เนียงถา้ เป็ นอีสานตอนเหนือจะมีสาํ เนียงคลา้ ยลาวถา้ เป็ นอีสานตอนใตจ้ ะมีสําเนียง คลา้ ยเขมร แตเ่ พลงกล่อมลูกที่แพร่หลายและยอมรับวา่ เป็นเอกลกั ษณ์ของอีสานจะเป็นสาํ เนียงอีสานตอนเหนือ และมกั จะข้ึนตน้ ดว้ ยคาํ วา่ \"นอนสาหล่า\"หรือ\"นอนสาเดอ\"หรือ \"นอนสาแม่เยอ\"มีทาํ นองลีลาเรียบง่ายชา้ ๆ และมีกลุ่มเสียงซ้าํ ๆ กนั ท้งั เพลงเช่นเดียวกบั ภาคเหนือ การใชถ้ อ้ ยคาํ มีเสียงสมั ผสั คลา้ ยกลอนสุภาพทวั่ ไป และเป็นคาํ พ้ืนบา้ นท่ีมีความหมาย ในเชิงสัง่ สอนลูกหลานดว้ ย ความรักความผกู พนั ซ่ึงมกั จะประกอบดว้ ย 4 ส่วนเสมอ คือ ส่วนท่ีเป็ นการปลอบโยน การขู่ และการขอโดยมุ่งให้เด็กหลบั เร็วๆนอกจากน้ีก็จะเป็ นคาํ ท่ีแสดงสภาพสังคมดา้ นต่างๆ เช่น ความเป็ นอยู่ บรรยากาศ ในหมู่บา้ น ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็ นตน้ คุณค่าของเพลงกล่อมเด็กอีสาน จึงมีพร้อมท้งั ทางดา้ นจิตใจ และดา้ นการศึกษาของชาติ เพลงกล่อมเด็กภาคกลาง เพลงกล่อมเด็กภาคกลางเป็นท่ีรู้จกั แพร่หลาย และ มีการบนั ทึกไวเ้ ป็นหลกั ฐานมากกวา่ เพลงกล่อมเด็กภาคอื่นซ่ึงสะดวก แก่การศึกษาคน้ ควา้ การฟ้ื นฟู และการอนุรักษ์ โดยไม่มีช่ือเฉพาะสาํ หรับเรียกเพลงกล่อมเด็กภาคกลางเนื่องจากข้ึนตน้ บทร้องดว้ ยคาํ หลากหลายชนิดตามแต่เน้ือหา ของเพลง นกั วิชาการหลายท่านไดศ้ ึกษาแบ่งประเภทเน้ือหาของเพลงกล่อมเด็กภาคกลางไวค้ ลา้ ยกนั คือ ประเภท สะทอ้ นใหเ้ ห็นความรักความผูกพนั ระหวา่ งแม่กบั ลูก ดงั จะเห็นไดจ้ ากถอ้ ยคาํ ที่ใชเ้ รียกลูกวา่ เจา้ เน้ือละเอียด เจา้ เน้ือ อุ่น เจา้ เน้ือเยน็ สุดที่รักสุดสายใจ เป็นตน้ ประเภทสะทอ้ นให้เห็นความเป็ นอยูข่ องคนไทยภาคกลางในดา้ นต่างๆ เช่น ความเจริญทางวตั ถุ ประเพณี วฒั นธรรมต่างๆ ความศรัทธา ความเชื่อคุณธรรมประจาํ ใจอารมณ์ขนั และการทาํ มาหา กินของประชาชน ประเภทให้ความรู้ดา้ นต่างๆ เช่น ความรู้ทางภาษา ธรรมชาติวทิ ยา วรรณคดี นิทาน ภูมิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ แบบแผนการปกครอง และครอบครัว ลกั ษณะทาํ นองและ
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ลีลาของเพลงกล่อมเด็กภาคกลางจะเป็ นการขบั กล่อมอยา่ งชา้ ๆ เช่นเดียวกบั ภาคอ่ืนๆ กลุ่มเสียงก็จะซ้าํ ๆ เช่นกนั แต่ จะเนน้ การใชเ้ สียงทุม้ เยน็ และยดึ คาํ แต่ละคาํ ใหเ้ ช่ือมกลืนกนั ไปอยา่ งไพเราะ อ่อนหวาน ไม่ใหม้ ีเสียงสะดุด ท้งั น้ีเพ่ือ มุ่งให้เด็กฟังจนหลบั สนิทในที่สุด เพลงกล่อมเด็กภาคใต้ ในบรรดาภาษาถ่ิน ภาคใตเ้ ป็ นภาษาถ่ินท่ีคนไทยส่วนใหญ่ รู้จกั มากที่สุดเพราะมีสาํ เนียงท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์ชดั เจนที่สุด เช่นเดียวกบั เพลงกล่อมลูกภาคใตท้ ี่มีทาํ นอง และลีลาเด่น เป็นของตนเองเพลงกล่อมลูกภาคใต้ มีชื่อเรียก 4 อยา่ งคือเพลงร้องเรือ เพลงชานอ้ งหรือเพลงชา้ นอ้ ง เพลงเสภา และ เพลงนอ้ งนอนท่ีเรียกวา่ เพลงร้องเรือเพลงชานอ้ งหรือเพลงชา้ นอ้ ง เพลงเสภา และเพลงนอ้ งนอน ที่เรียกวา่ เพลงร้อง เรือสันนิษฐานวา่ น่าจะเป็นเพราะลกั ษณะของเปลที่ใชผ้ า้ ผกู มีรูปร่างคลา้ ยเรือเพลงชานอ้ งหรือชา้ นอ้ ง คาํ วา่ ชา มาจาก คาํ วา่ บูชาซ่ึงแปลวา่ สดุดีหรือกล่อมขวญั ชานอ้ งหรือชา้ นอ้ งจึงหมายถึงการสดุดีแม่ซ้ือซ่ึง เชื่อกนั วา่ เป็ นเทวดาหรือผี ประจาํ ทารกเพลงเสภาเป็ นเพลงท่ีใชโ้ ตค้ ารมกนั เป็ นบทปฏิพากยแ์ สดงปฏิภาณไหวพริบนาํ มาใชใ้ นเพลงกล่อมลูก เพลงนอ้ งนอน เป็นการมุ่งกล่อมนอ้ งหรือกล่อมลูกโดยตรงลกั ษณะเด่นของทาํ นองกล่อมลูกภาคใตไ้ ม่วา่ จะเป็ นเพลง ประเภทใดคือมกั จะข้ึนตน้ เพลงดว้ ยคาํ วา่ \"ฮา เออ้ \"หรือมีคาํ วา่ \"เหอ\"แทรกอยเู่ สมอในวรรคแรกของบทเพลงแลว้ จึงขบั กล่อมไปชา้ ๆ เหมือนภาคอ่ืนๆ”“คุณป้าสาํ ลีใหข้ อ้ มูลการร้องเพลงกล่อมเด็กไดท้ ุกภาคนะคะ หนูนาต้งั ใจฟังพร้อมจด บนั ทึกขอ้ มูลไวอ้ ยา่ งละเอียดถี่ถว้ นเลยคะป้า”นอ้ งหนูตวั เล็กคงไดเ้ วลาตอ้ ง ต่ืนนอนแลว้ เห็นนอนยมิ้ อยใู่ นเปล หนูนา กบั เจา้ นางงามตอ้ งลาคุณป้าสาํ ลีกลบั บา้ น พร้อมทาํ ความเคารพกล่าวขอบคุณป้าสําลีผใู้ จดีมีน้าํ ใจใหค้ วามรู้เรื่องเพลง กล่อมเดก็ คาถามชวนคิด 1. การร้องเพลงกล่อมเด็กในแต่ละภาคของประเทศไทยตา่ งกนั อยา่ งไร 2. การร้องเพลงกล่อมเด็กมีความสาํ คญั อยา่ งไร 3. การร้องเพลงกล่อมเดก็ มีประโยชน์อยา่ งไร 4. ในทอ้ งถ่ินของนกั เรียนมีการร้องเพลงกล่อมเดก็ หรือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวทางในการเผยแพร่องค์ความรู้เก่ียวกบั การร้องเพลงกล่อมเด็กไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั อยา่ งไร
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนที่ 3 การทอผ้าไหม คืนน้ีหนูนาสวดมนตก์ ่อนเขา้ นอน ขณะหลบั สนิทไดก้ ล่ินไอ หอมแตะจมูก ทนั ใดน้นั ก็พบวา่ หนูนากบั เจา้ นางงามสุนขั คู่ใจ ไดม้ าอยูท่ ่ามกลางผา้ สีสันสดใสสวยงามมาก พาดเต็มราวพอดีกบั ป้าคนหน่ึงทราบชื่อป้าโฮมเป็ น เจา้ ของและเชี่ยวชาญดา้ นการผลิตเครื่องนุ่งห่ม หนูนาเขา้ ไปทาํ ความเคารพดว้ ยความนอบนอ้ ม และเจา้ นางงามวงิ่ ไล่ จบั ผีเส้ือในสวนตน้ ใบหม่อนขา้ งบา้ นป้าโฮม หนูนาสงสัย “กล่ินหอมอะไรคะป้า” “ป้าโฮมบอกเป็ นกล่ินหอมของ เส้นไหมจ๊ะ” “ป้าคะหนูนาไม่เคยพบเห็นเลยมนั เป็ นยงั ไง” ป้าโฮมอธิบายว่า “ลกั ษณะอากาศจะเป็ นเครื่องกาํ หนด ลกั ษณะเครื่องนุ่งห่มของมนุษยใ์ นแต่ละพ้ืนที่โดยทางตรงลกั ษณะอากาศโดยเฉพาะอุณหภูมิจะเป็ นเคร่ืองกาํ หนด ลกั ษณะและความหนาบางของเครื่องนุ่งห่ม โดยทางออ้ ม ลกั ษณะอากาศจะมีผลต่อวตั ถุดิบที่จะนาํ มาใชใ้ นการผลิต เครื่องนุ่งห่ม เช่น ในเขตร้อน มีพืชประเภทฝ้าย ป่ าน ผคู้ นในเขตร้อนจึงนิยมใชเ้ ส้นใยจากพืชเหล่าน้ีมาผลิตและจะได้ เน้ือผา้ ซ่ึงเหมาะสมกบั ลกั ษณะอากาศ ในเขตท่ีมีอากาศหนาวเยน็ นิยมเคร่ืองนุ่งห่มท่ีมีความหนา เพ่ือให้ร่างกายรู้สึก อบอุ่นขนสัตวถ์ ูกนาํ มาเป็ นวตั ถุดิบในการผลิต เช่น ขนแกะ ขนเฟอร์ (fur) ในทะเลทรายท่ีซ่ึงมีความแตกต่างของ อุณหภูมิระหวา่ งกลางวนั และกลางคืนมาก
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เตม็ ไปดว้ ยฝ่ นุ ดินฝ่ นุ ทรายท่ีลมหรือลมพายพุ ดั มา ผูค้ นจาํ เป็ นตอ้ งแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ที่ค่อนขา้ งหนาและห่อหุ้มเกือบ ทุกส่วนของร่างกายเพ่ือป้องกนั ความร้อนในเวลากลางวนั ป้องกนั มิให้ร่างกายสูญเสียความช้ืนมากเกินไปป้องกนั ความหนาวเยน็ ในเวลากลางคืนรวมท้งั ป้องกนั ฝ่ นุ ดินฝ่ นุ ทรายมิใหท้ าํ อนั ตรายตอ่ ผิวหนงั ความเจริญกา้ วหนา้ ของผคู้ น ก็มีส่วนในการกาํ หนดลกั ษณะของเครื่องนุ่งห่ม จะพบว่า กลุ่มชนท่ีมีความเจริญน้อย จะไม่ค่อยรู้จกั การผลิต เคร่ืองนุ่งห่ม เช่น พวกบุชเมน (Bushmen) ในทะเลทรายคาลาฮารีร่างกายจะตอ้ งทนต่อการเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิ ในแต่ละช่วงเวลาหรือ แต่ละฤดูกาลผูค้ นท่ีอยู่ในเขตท่ีเจริญแล้วจะมีการผลิตเคร่ืองนุ่งห่มมากมายหลายลกั ษณะ เพื่อให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะอากาศ และเหมาะสมกบั ส่ิงอื่นๆอีกหลายประการ เช่น สถานที่ เวลา เพศ วยั ความนิยม ความเช่ือ เทศกาล เป็นตน้ แมว้ า่ โดยทว่ั ๆ ไปกลุ่มชนแต่ละหมู่ละเหล่า มกั จะมีการแต่งกาย ท่ีมีลกั ษณะเป็ นเอกลกั ษณ์ เฉพาะตวั ไม่วา่ จะเป็ นรูปแบบ ลวดลาย สีแต่ในปัจจุบนั มีแนวโนม้ ที่จะมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั มากข้ึนเนื่องจากการ คมนาคมขนส่งท่ีสะดวกรวดเร็วทาํ ใหม้ ีการติดต่อแลกเปลี่ยนวฒั นธรรมซ่ึงกนั และกนั ทาํ ใหเ้ ครื่องนุ่งห่มของแต่ละ ชนชาติน้นั มีการเปลี่ยนแปลงไป ซ่ึงก็มีท้งั ขอ้ ดีและขอ้ เสีย การแต่งกายแบบชาวตะวนั ตกน้นั มีขอ้ ดีคือใส่แลว้ มีความ คล่องตวั ในการเคล่ือนไหว แต่ตอ้ งรู้จกั ดดั แปลงให้เหมาะสม เช่น ความหนาบางของผา้ วสั ดุที่ใช้ในการตดั เย็บ รูปแบบของเส้ือผา้ ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมจะเป็ นเครื่องกาํ หนดลกั ษณะของเคร่ืองนุ่งห่มของผคู้ น อีกประการ หน่ึง เราจึงพบความหลากหลายของเครื่องนุ่งห่ม แมว้ า่ จะอยู่ในประเทศเดียวกนั ป้าโฮมบอกวิธีการทอผ้าปัจจุบนั ถึงแมว้ ่ายงั ไม่มีหลกั ฐานที่แน่ชดั บ่งบอกถึงตน้ กาํ เนิดของการ ทอผา้ แต่ก็สามารถเทียบเคียงกบั หลกั ฐานอ่ืนๆ ซ่ึงมี ความคลา้ ยคลึงกนั โดยมีเหตุผลหลายอยา่ งสนบั สนุนแนวคิดท่ีวา่ การทอผา้ มีวิวฒั นาการมาจากการ ทาํ เชือกทอเส่ือ และการจกั สาน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งลายเชือกทาบ ที่ปรากฏร่องรอยใหเ้ ห็นบนภาชนะดินเผา ซ่ึงพบเป็ นจาํ นวนมาก ตามแหล่งโบราณคดีก่อนประวตั ิศาสตร์สมยั หินใหม่ เรื่อยมาจนถึงแหล่งโบราณคดีสมยั ประวตั ิศาสตร์ ดว้ ยเหตุน้ีเอง จึงกล่าวไดว้ า่ การทอผา้ เป็ นงานหัตถกรรมที่เก่าแก่ท่ีสุดในโลกงานหน่ึง หลกั ของการทอผา้ ก็คือการทาํ ให้เส้นดา้ ย สองกลุ่มขดั กนั โดยท้งั สองพวกต้งั ฉากกนั เส้นดา้ ยกลุ่มหน่ึงเรียกวา่ ดา้ ยยนื และอีกกลุ่มหน่ึงเรียกวา่ ดา้ ยพุง่ ลกั ษณะ ของการขดั กนั ของดา้ ยพุง่ และดา้ ยยนื จะขดั กนั แบบธรรมดาท่ีเรียกวา่ ลายขดั หรืออาจจะเพ่ิมเทคนิคพิเศษเพ่ือให้ผา้ มี ลวดลาย สีสันท่ีสวยงามแปลกตา ข้นั ตอนในการทอผ้า 1. สืบเส้นดา้ ยยืนเขา้ กบั แกนมว้ นดา้ ยยืน และร้อยปลายดา้ ยแต่ละเส้นเขา้ ในตะกอแต่ละชุดและฟันหวี ดึง ปลายเส้นดา้ ยยืนท้งั หมดมว้ นเขา้ กบั แกนมว้ นผา้ อีกดา้ นหน่ึง ปรับความตึงหยอ่ นใหพ้ อเหมาะ กรอดา้ ยเขา้ กระสวย เพอื่ ใชเ้ ป็นดา้ ยพุง่
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา 2. เร่ิมการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นดา้ ยยนื ชุดท่ี1 จะถูกแยกออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวย ดา้ ยพุง่ ผา่ น สลบั ตะกอชุดท่ี 1 ยกตะกอชุดที่ 2 สอดกระสวยดา้ ยพงุ่ กลบั ทาํ สลบั กนั ไปเรื่อยๆ 3. การกระทบฟันหวี (ฟื ม)เม่ือสอดกระสวยดา้ ยพุ่งกลบั ก็จะกระทบ ฟันหวี เพ่ือใหด้ า้ ยพุง่ แนบติดกนั ได้ เน้ือผา้ ท่ีแน่นหนา 4. การเก็บหรือมว้ นผา้ เมื่อทอผา้ ไดพ้ อประมาณแลว้ ก็จะมว้ นเก็บใน แกนมว้ นผา้ โดยผอ่ นแกนดา้ ยยนื ให้ คลายออกและปรับความตึงหยอ่ นใหมใ่ หพ้ อเหมาะ การทอผ้าพื้น เป็ นการใชห้ ลกั การทอผา้ เบ้ืองตน้ ท่ีนาํ เอาดา้ ยเส้นยืนและดา้ ยเส้นพุ่งมาขดั กนั เพ่ือใหเ้ กิดเป็ นผืนผา้ โดยดา้ ยเส้น พุ่งและเส้นยืนอาจเป็ นดา้ ยสีเดียวกนั หรือต่างสีกนั หรือนาํ เอาเส้นดา้ ยที่เป็ นดิ้นเงินหรือดิ้นทองมาทอ ควบดา้ ย เพื่อให้ผา้ มีความมนั ระยบั สวยงามย่งิ ข้ึนเทคนิคพเิ ศษท่ีใช้ในการ ทอผ้า การขิด ขิด หมายถึง กรรมวธิ ีใน การทอผา้ เพือ่ ใหเ้ กิดลวดลายต่างๆ ข้ึนมาโดยวธิ ีการเพมิ่ เส้นดา้ ย พงุ่ พเิ ศษในระหวา่ งการทอเพ่ือให้เกิดลวดลายท่ีโดด เด่นกวา่ สีพ้นื วธิ ีการทาํ คือ ใชไ้ มเ้ ข่ียหรือสะกิด เพ่ือชอ้ นเส้นดา้ ยยนื ข้ึน แลว้ สอดเส้นดา้ ยพุ่ง ไปตามแนวท่ีถูกจดั ชอ้ น จงั หวะการสอดเส้นดา้ ยพุง่ ท่ีทาํ ให้เกิดเป็ นลวดลายต่างๆ การจก เป็ นเทคนิคการทอผา้ เพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆโดย เพ่ิมเส้นดา้ ยพุง่ พเิ ศษสอดข้ึนลง วธิ ีการคือ ใชข้ นเมน่ ไม้ หรือนิ้ว สอดเส้นดา้ ยยนื ข้ึน แลว้ สอดเส้นดา้ ยพุง่ พิเศษเขา้ ไป ซ่ึงจะทาํ ให้เกิดเป็ นลวดลายเป็ นช่วงๆ สามารถทาํ สลบั สีลวดลายไดห้ ลากสีซ่ึงจะแตกต่างจาก การขิดตรง ที่ขิดเป็ น การใชเ้ ส้นดา้ ยพงุ่ พิเศษเพยี งสีเดียว การทอผา้ วิธีจกใชเ้ วลานานมากมกั ทาํ เป็ นผืนผา้ หนา้ แคบใชต้ ่อกบั ตวั ซิ่น เรียกวา่ “ซิ่นตีนจก”การทอมัดหม่ี ผา้ มดั หม่ีมีกรรมวธิ ีการทอผา้ ท่ีใชเ้ ทคนิคการมดั และ การยอ้ ม เร่ิมจากนาํ เส้นดา้ ยหรือไหม มายอ้ มสีแลว้ มดั บริเวณท่ี ตอ้ งการเก็บไวเ้ มื่อนาํ ไปยอ้ มสีอ่ืนจะไดไ้ ม่ติดสี เพียงซึมเขา้ มาบางส่วนโดยยอ้ มเรียงลาํ ดบั จากสีอ่อนไปหาสีเขม้ จนครบ ตามลวดลายท่ีกาํ หนด หลงั จากน้นั จึงนาํ ดา้ ยกรอเขา้ หลอดตามลาํ ดบั แลว้ นาํ ไปทอจะ เกิดลวดลายบน ผนื ผา้ ท่ีมีลกั ษณะคลาดเคล่ือนเหล่ือมล้าํ อนั เป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะของมดั หมี่ การทอผา้ ชนิดน้ีจึงตอ้ ง อาศยั ความชาํ นาญในการมดั ยอ้ มและทอเป็ นอยา่ งมาก ผา้ มดั หม่ีมีอยหู่ ลายชนิด ไดแ้ ก่ มดั หมี่เส้นพุ่ง มดั หม่ีเส้นยืน มดั หม่ีเส้นพุง่ และเส้นยนื การทอผ้ายก เป็ นกรรมวิธีการทอใหเ้ กิดลวดลายโดยการยกตะกอแยกดา้ ยเส้นยืน และ ใน บางคร้ังการยกดอกจะมีการเพ่มิ ดา้ ยเส้น พุง่ จาํ นวนสองเส้น หรือมากกวา่ น้นั เขา้ ไปในผืนผา้ ลวดลายที่ทอจะเป็ นลาย ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั วิถีชีวิตสิ่งแวดลอ้ ม และความเชื่อทางศาสนาซ่ึงไดแ้ ก่ ลายปราสาท ลานธรรมาสน์ ลายสัตว์ ลายพืช ลายจากส่ิงของเคร่ืองใช้ และลายเรขาคณิต” ป้าโฮมเล่า ให้หนูนาฟังอยา่ งละเอียด ขณะเดียวกนั เจา้ นางงามวงิ่ มาหา หนูนาท่ีนงั่ ใตถ้ ุนบา้ นป้าโฮม มนั คงหิวแลว้ ป้าโฮมคุยใหข้ อ้ มูล เกี่ยวกบั การทอผา้ ดีมาก หนูนาสังเกตพบวา่ ป้าโฮม ทาํ งานการทอผา้ โดยอาศยั หลกั การทาํ งานดว้ ย
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ความอดทน ผสมผสานกบั การพฒั นาทกั ษะการคิดสร้างสรรคเ์ พราะบา้ นป้าโฮมมีผลงานการทอผา้ ใหเ้ ห็น มากมาย หลากหลายลวดลาย และมีสีสันสดใสสวยงามมาก หนูนาจดบนั ทึกเร่ืองราวจากคาํ บอกกล่าวของป้าโฮมไวอ้ ย่างดี เพ่ือนาํ ไปขยายผลต่อยอดให้กบั คนในยุคท่ีหนูนาอาศยั อยู่ ก่อนกลบั บา้ น ป้าโฮมไดย้ ้าํ หลกั การทอผา้ ไหมกบั หนูนา “การทอผา้ ไหมตอ้ งอาศยั เวลา ความอดทน และความประณีตละเอียดลออ ถึงจะไดผ้ า้ ไหมที่สวยงามเพ่ือนาํ มาตดั แต่ง เป็นชุดใส่ไปในงานต่างๆ ท่ีคนไทยโบราณนิยมแต่งกายใส่กนั จ๊ะ”หนูนากราบขอบคุณป้าโฮมพร้อมลา กลบั บา้ นเจา้ นางงามวงิ่ ดูมนั มีสุขเหลือเกิน คาถามชวนคดิ 1. การทอผา้ ไหมมีความสาํ คญั อยา่ งไร 2. การทอผา้ ไหมมีหลกั การ และวธิ ีทาํ อยา่ งไร 3. การทอผา้ ไหมมีประโยชน์อยา่ งไร 4. ในทอ้ งถ่ินของนกั เรียนมีการทอผา้ ไหมหรือไม่ อยา่ งไร 5. นกั เรียนมีแนวทางในการเผยแพร่องคค์ วามรู้เก่ียวกบั การทอผา้ ไหมไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั อยา่ งไร
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ตอนที่ 4 การทอเส่ือจากต้นกก หนูนานอนหลบั สนิท แลว้ จูก่ ็พบวา่ ไดว้ ง่ิ เล่นกบั เจา้ นางงามริมหว้ ย อากาศบริสุทธ์ิมาก สงั เกตพบวา่ มีป้าคน หน่ึงกาํ ลงั แบกตน้ พืชชนิดหน่ึงข้ึนจากห้วย“หนูนาพูดสวสั ดีคะป้า หนูช่ือหนูนาคะ” ป้าชื่ออะไรคะ”“ป้านะชื่อหมี จ๊ะ”“หนูนาสงสัยตน้ อะไรคะที่ป้าแบกในบ่า” ป้าหมียิ้มพร้อมตอบวา่ “มนั เป็ นตน้ กกจ๊ะ”“แลว้ ป้าจะเอาไปทาํ อะไร คะ” ป้าหมีบอก“อ๋อป้าจะนาํ ไปทอเป็นเสื่อจะ๊ ไปดูท่ีบา้ นป้าดีกวา่ เด๋ียวป้าจะสอนใหห้ นูทาํ ดว้ ยดีไหมจะ๊ ”“หนูดีใจมาก คะป้ามีน้าํ ใจงามกบั หนูเหลือเกินเดี๋ยวหนูนาช่วยป้าเขน็ ตน้ กกไปบา้ นนะคะ”พอไปถึงบา้ นป้าหมี หนูนาตอ้ งตะลึงกบั เส่ือที่ทอเสร็จแล้วหรือกาํ ลงั ทออยู่ก็มีมากมายหลากหลายลวดลาย สวยงามเหลือเกิน หนูนาฟังพร้อมจดบนั ทึก รายละเอียดจากการเรียนกบั ป้าหมีอยา่ งต้งั ใจ ป้าหมีอธิบายวา่ สิ่งแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน ก็เป็ นอีกปัจจยั หน่ึงเช่นกนั ท่ีมีความสาํ คญั ในการกาํ หนดรูปแบบวถิ ีการดาํ เนินชีวติ ของมนุษยก์ ารท่ีมนุษยม์ ีความเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นวิชาการ มากข้ึนทาํ ใหม้ นุษยห์ าทางท่ีจะใชส้ ่ิงแวดลอ้ มให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอยา่ งมีประสิทธิภาพ ทาํ ให้ชีวิตไดร้ ับความ สะดวกสบายมากข้ึน มีความเป็นอยดู่ ีข้ึน คุณภาพชีวติ ดีข้ึน
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา แต่ในขณะเดียวกันความเจริ ญก้าวหน้าทางด้านวิชาการของมนุ ษย์ก็ได้สร้างสิ่ งที่เลวร้ายให้เกิดข้ึน แก่สิ่งแวดล้อม เช่น ก๊าซพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยออกสู่อากาศ ทาํ ให้อากาศเป็ นพิษ มีสภาพ ไม่เหมาะสมแก่การหายใจของสิ่งมีชีวิตท้งั หลาย น้าํ เสียที่มีการปนเป้ื อนของสารเคมีและสารพิษจากโรงงาน อุตสาหกรรมที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้าํ ทาํ ใหน้ ้าํ เน่าเสีย มีความเป็ นพิษ สัตวน์ ้าํ ไม่สามารถดาํ รงชีวิตได้ มนุษยเ์ องก็ไม่ สามารถนาํ น้าํ มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ จริงไหมจะ๊ ”“หนูนาตอบเหมือนผคู้ นในชุมชนชุมชนเมืองบา้ นของหนูนาคะ” ป้าหมี อธิบายต่อว่า “ชุมชนท่ีป้าอยู่จะใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีมากในท้องถิ่นทาํ เป็ นเคร่ืองใช้ในครัวเรือนคือตน้ กก มีวธิ ีการทาํ ดงั น้ี ข้นั ตอนท่ี 1 การสอยต้นกก ตดั ตน้ กกสดคดั เลือกตน้ กกที่มีขนาดเท่ากนั ไวด้ ว้ ยกนั นาํ ตน้ กกที่คดั แลว้ มาสอยเป็น เส้นเลก็ โดยใชม้ ีดปลายแหลมคม (มีดแกะสลกั ) นาํ เส้นกกที่สอยแลว้ มาผ่งึ แดดใหแ้ หง้ (ถา้ เป็ นไปไดต้ อ้ ง เป็ นแดดท่ีกล้าจดั ) นาํ เส้นกกสอยท่ีตากแห้งแล้วมากมดั เป็ นมดั ๆ รอการยอ้ มสี ข้ันตอนท่ี 2การย้อมสี เลือกซ้ือสี สาํ หรับยอ้ มกกสีต่างๆ ที่มีสีสันสวยงาม เช่น สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีดาํ สีเขียว เป็ นตน้ ก่อไฟโดยไฟท่ีใชต้ อ้ ง สม่าํ เสมอนาํ ป๊ี ปหรือกระทะใส่น้าํ พอประมาณท่วมเส้นกกนาํ มาต้งั บนเตารอให้น้าํ เดือด พอน้าํ เดือด ก็ นาํ สีท่ีเลือกมา เทลง นาํ เส้นกกท่ีคดั เลือกแลว้ ลงยอ้ มจนเพยี งพอท่ีจะใชใ้ นการทอ นาํ เส้นกกที่ยอ้ มสีแลว้ ลงลา้ งในน้าํ เปล่าแลว้ นาํ ไป ตากแดดท่ีจดั จนแหง้ นาํ เส้นกกที่ยอ้ มสีตากแห้งแลว้ มากเก็บมดั รวมกนั โดยแยกเป็ นสี แต่ละสี ข้ันตอนที่ 3 การทอ เสื่อกกลายขิด ลายพื้นบ้านและลายบา กางโฮงที่ทาํ สาํ เร็จรูปแลว้ มากาง (โฮงท่ีใชข้ นาดทอคนเดียว) นาํ เชือกในลอน สําหรับทอเสื่อมาโยงใส่ฟื มจนเสร็จ ฟื มที่ใช้ตอ้ งมีขนาดเท่ากบั เส้นกก และฟื มแต่ละฟื มก็อาจจะใช้ทอลายไม่ เหมือนกนั นาํ เส้นกกที่ยอ้ มสีตามจนแหง้ แลว้ นาํ มาทอเสื่อลายขิดตามตอ้ งการซ่ึงมีหลายลายดว้ ยกนั นาํ เส้นกกที่สอย และยอ้ มสีแลว้ เลือกวา่ จะใชส้ ีใดบา้ งท่ีจะทอเสื่อ เลือกลายแลว้ เริ่มทอจนเป็ นแผน่ พอทอเสร็จก็ตดั แลว้ หลงั จากน้นั ก็นาํ ไปตากแดดเพ่ือให้สีไม่ออกหลงั จากน้นั ก็นาํ มาเก็บในที่ร่ม ข้ันตอนที่ 4 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเส่ือกกลาย ต่างๆ เส่ือที่พิมพแ์ ลว้ นาํ มาเยบ็ ต่อเป็ นผืนโดยใชจ้ กั รเยบ็ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ ออกแบบกระเป๋ าต่างๆ ออกแบบที่รอง จาน ออกแบบที่รองถาด ออกแบบท่ีรองโตะ๊ ออกแบบท่ีแขวนฝาผนงั ออกแบบกล่องใส่กระดาษทิชชูออกแบบที่รอง แกว้ นาํ กระดาษแขง็ ท่ีเตรียมไวแ้ ลว้ มาตดั แบบตามท่ีออกแบบ นาํ เสื่อท่ีทอไวแ้ ลว้ มาตดั ตามแบบท่ีออกไว้ นาํ เสื่อที่ตดั เอาไวต้ ามแบบแลว้ นาํ มาเยบ็ เป็ นผลิตภณั ฑ์ต่างๆ ที่ไดอ้ อกแบบเอาไว”้ ป้าหมีไดก้ ล่าวกบั หนูนาวา่ “มนุษยน์ อกจาก จะเป็นส่วนหน่ึงของสิ่งแวดลอ้ มแลว้ การกระทาํ ของมนุษยย์ งั มีผลโดยตรงตอ่ การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดลอ้ ม ในทาํ นอง เดียวกนั สิ่งแวดลอ้ มท้งั หลาย ก็จะมีผลโดยตรงต่อความเป็ นอยู่ของชีวิตมนุษย์ มนุษยเ์ ป็ นส่ิงแวดลอ้ มท่ีมหศั จรรย์ ประเภทหน่ึงมนุษยม์ ีขีดความสามารถเหนือส่ิงแวดลอ้ มอ่ืนๆ มนุษยส์ ามารถนาํ สิ่งแวดลอ้ มหน่ึงมาดดั แปลงให้เป็ น สิ่งแวดลอ้ มใหม่ พฤติกรรมของมนุษยม์ ีความสาํ คญั ต่อสิ่งแวดลอ้ มท้งั ทางตรงและ
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ทางออ้ มรวมท้งั ส่งผลดีและผลเสียต่อสิ่งแวดลอ้ มในขณะเดียวกนั ส่ิงแวดลอ้ มก็มีส่วนในการกาํ หนดพฤติกรรมของ มนุษย์ พฤติกรรมของมนุษยจ์ ะเป็ นไปตามสิ่งแวดลอ้ มกล่าวไดว้ า่ มนุษยแ์ ละสิ่งแวดลอ้ ม มีความสัมพนั ธ์กนั อยา่ ง ใกลช้ ิดเมื่อมีการเปล่ียนแปลง ส่ิงใดส่ิงหน่ึงยอ่ มมีผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆ ท้งั โดยทางตรงและทางออ้ ม การกระทาํ ใดๆ ท่ีมีผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม ยอ่ มมีผลตอบสนองต่อความเป็ นอยู่ของมนุษยด์ ว้ ยเสมอดว้ ยเหตุดงั น้ีเราจึงควรศึกษา และทาํ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ จะไดร้ ู้จกั ใชส้ ิ่งแวดลอ้ มใหเ้ ป็ นประโยชน์ ต่อตนเองและสงั คม เพ่อื ใหเ้ ราสามารถปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ มไดเ้ ป็นอยา่ งดี และเพ่ือมิให้เราทาํ ลายสิ่งแวดลอ้ ม ท่ีดีท้งั โดยต้งั ใจและ ไม่ต้งั ใจส่วนการทอเส่ือจากกกมีดงั รายละเอียดท่ีป้าเล่าหนูนาสงสัยอะไรไหมจ๊ะ”หนูนาเขา้ ใจ รายละเอียดต่างๆ ชดั เจนท่ีสุดคะป้าหมี หนูนากราบขอบพระคุณท่ีป้าหมีให้ขอ้ มูลความรู้กบั หนูนา ในวนั น้ี หนูนา ชอบชุมชนของป้าหมีรู้จกั นาํ พชื ในทอ้ งถิ่นมาแปรรูปใหเ้ กิดประโยชน์ หนูนารู้สึกตวั ตื่นนอนวนั รุ่งข้ึน คาถามชวนคดิ 1. การทอเส่ือจากตน้ กกมีความสาํ คญั อยา่ งไร 2. การทอเส่ือจากตน้ กกมีหลกั การ และวธิ ีทาํ อยา่ งไร 3. การทอเสื่อจากตน้ กกมีประโยชน์อยา่ งไร 4. ในทอ้ งถ่ินของนกั เรียนมีการทอเส่ือจากตน้ กกหรือไม่ อยา่ งไร 5. นักเรียนมีแนวทางในการเผยแพร่องค์ความรู้เก่ียวกับการทอเส่ือจากตน้ กกไปปรับใช้ในชีวิตประจาํ วนั อยา่ งไร
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา เอกสารอ้างองิ กานตก์ ลุ . (2553). “การทาํ ปูนกินหมาก” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.kanculture.com. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553. จนั ทวนั เบญ็ จวรรณ์. (2553). “มนุษยก์ บั สิ่งแวดลอ้ ม” เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://human.tru.ac.th/elearning. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553. ปัญญาไทย. (2553). “การร้องเพลงกล่อมเดก็ ” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.panyathai.or.th. สืบคน้ วนั ท่ี 28 มีนาคม 2553. พจนานุกรมราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. (2546). กรุงเทพฯ : นานมีบุค๊ พบั ลิเคชน่ั . สถาบนั ผา้ ไทย. (2553). “การทอผา้ ไหม” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.silkthailand.com. สืบคน้ วนั ที่ 28 มีนาคม 2553. สุวทิ ย์ มูลคาํ สุนนั ทา สุนทรประเสริฐ. (2550). การพฒั นาผลงานทางวชิ าการ สู่การเล่ือนวทิ ยฐานะ. ภาพพิมพ์ : กรุงเทพฯ. หลกั สูตรทอ้ งถิ่น. (2553). “การทอเสื่อจากตน้ กก” [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://roiet.nfe.go.th/4613/pontong. สืบคน้ วนั ท่ี 28 มีนาคม 2553.
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ภาคผนวก
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา อภธิ านศัพท์ 1. ปูนกินหมาก หมายถึง ปูนขาวท่ีทาํ จากเปลือกหอยชนิดต่างๆ 2. เพลงกล่อมเดก็ หมายถึง เป็นวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินชนิดหน่ึงสะทอ้ นใหเ้ ห็นความเช่ือ คา่ นิยม ของคนในทอ้ งถ่ินตา่ งๆ 3. การทอผา้ หมายถึง การทาํ ใหเ้ ส้นดา้ ยสองกลุ่มขดั กนั โดยท้งั สองพวกต้งั ฉากกนั กลุ่มหน่ึง เรียกวา่ ดา้ ยยนื อีกกลุ่มหน่ึงเรียกวา่ ดา้ ยพุง่ 4. การขิด หมายถึง การใชไ้ มเ้ ข่ียหรือสะกิด เพ่ือชอ้ นเส้นดา้ ยยนื ข้ึน แลว้ สอดเส้นดา้ ยพงุ่ ไปตามแนว ที่ถูกจดั ชอ้ น 5. การจก หมายถึง การใชข้ นเม่น ไม้ หรือนิ้วสอดเส้นดา้ ยยนื ข้ึนแลว้ สอดเส้นดา้ ยพุง่ พิเศษเขา้ ไป ทาํ ใหเ้ กิดเป็นลวดลายต่างๆ 6. การทอมดั หม่ี หมายถึง นาํ เส้นดา้ ยหรือไหมมายอ้ มสีแลว้ มดั บริเวณที่ตอ้ งการเก็บไว้ เม่ือนาํ ไป ยอ้ มสีอื่นจะไม่ติดสี เพยี งซึมเขา้ บางส่วน เรียงลาํ ดบั จากสีอ่อนไปสีเขม้ จนครบตามลวดลาย ที่กาํ หนด นาํ ไปกรอเขา้ หลอด แลว้ นาํ ไปทอเกิดลวดลายบนผนื ผา้ 7. การทอผา้ ยก หมายถึง การทาํ ลวดลายโดยการยกตะกอแยกเส้นดา้ ยเส้นยนื บางคร้ังยกดอก มีการ เพิ่มดา้ ยเส้น พุง่ จาํ นวนสองเส้นหรือมากกวา่ ในผนื ผา้ 8. การสอยตน้ กก หมายถึง ตดั ตน้ กกสดคดั เลือกตน้ กกท่ีมีขนาดเท่ากนั ไวด้ ว้ ยกนั นาํ ตน้ กกท่ีคดั แลว้ มาสอยเป็นเส้นเล็กโดยใชม้ ีดปลายแหลมคม(มีดแกะสลกั ) นาํ เส้นกกท่ีสอยแลว้ มาผ่งึ แดดใหแ้ หง้ (ถา้ เป็นไปไดต้ อ้ งเป็ นแดดที่กลา้ จดั ) นาํ เส้นกกสอยท่ีตากแหง้ แลว้ มากมดั เป็ นมดั ๆ รอการยอ้ มสี 9. การยอ้ มสี หมายถึง ใชส้ ีสาํ หรับยอ้ มกกส่ีตา่ งๆ ท่ีมีสีสันสวยงาม สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีมว่ ง สีดาํ สีเขียว 10. การทอเสื่อกกลายขิด หมายถึง นาํ เชือกในลอนสาํ หรับทอเสื่อมาโยงใส่ฟื มจนเสร็จ ฟื มท่ีใชต้ อ้ ง มีขนาดเท่ากบั เส้นกก และฟื มแต่ละฟื มก็อาจจะใชท้ อลายไม่เหมือนกนั นาํ เส้นกกท่ียอ้ มสีตาม จนแหง้ แลว้ นาํ มาทอเสื่อลายขิดตามตอ้ งการ 11. การแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากเส่ือกกลายตา่ งๆ หมายถึง เสื่อท่ีพิมพแ์ ลว้ นาํ มาเยบ็ ต่อเป็ นผนื โดยใชจ้ กั ร เยบ็ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ ออกแบบกระเป๋ าตา่ งๆ ออกแบบที่รองจาน ออกแบบที่รองถาด ออกแบบ ท่ีรองโตะ๊ ออกแบบที่แขวนฝาผนงั ออกแบบกล่องใส่กระดาษทิชชู ออกแบบที่รองแกว้
ก หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา การทาํ ปูนกินหมาก การร้องเพลงกล่อมเด็ก ดชั นี การทอผา้ ไหม การทอเสื่อจากตน้ กก 2 การทอผา้ พ้นื 4 การขิด 8 การจก 12 การทอมดั หมี่ 10 การทอผา้ ยก 10 การสอยตน้ กก 10 การยอ้ มสี 10 การทอเส่ือกกลายขิด ลายพ้ืนบา้ นและลายบา 10 การแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากเส่ือกกลายต่างๆ 13 13 ข 13 ข้นั ตอนในการทอผา้ 13 ค 9 ความหมายของเพลงกล่อมเด็ก 5 ท 10 เทคนิคพเิ ศษท่ีใชใ้ นการทอผา้
ป หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ประโยชน์ของปูนกินหมาก ประเภทของเพลงกล่อมเด็ก ดชั นี (ต่อ) พ 2 5 เพลงกล่อมเด็กในแตล่ ะภาค เพลงกล่อมเดก็ ภาคเหนือ 5 เพลงกล่อมเดก็ ภาคอีสาน 5 เพลงกล่อมเดก็ ภาคกลาง 6 เพลงกล่อมเดก็ ภาคใต้ 6 7 ล ลกั ษณะของเพลงกล่อมเด็ก 5 ว 9 วธิ ีการทอผา้
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ประวตั ผิ ู้แต่ง นางสาวอรอนงค์ สุขสงวน ตาแหน่งปัจจุบนั * ครูโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด วทิ ยฐานะครูชาํ นาญการ สาขาวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ การศึกษา พ.ศ. 2537 มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 แผนการเรียนวทิ ยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์โรงเรียนสตรีสิริเกศ จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2541 ปริญญาตรี วชิ าเอกวิทยาศาสตร์ทว่ั ไป คา่ เฉลี่ย GPA 3.06 ครุศาสตรบณั ฑิต สถาบนั ราชภฏั อุบลราชธานี พ.ศ. 2549 ปริญญาโท สาขา หลกั สูตรและการสอน คา่ เฉล่ีย GPA 3.95 ครุศาสตรมหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สุรินทร์ ประสบการณ์ ด้านบริหาร หวั หนา้ งานบริหารการจดั การหลกั สูตรโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด หวั หนา้ งานนวตั กรรมการเรียนการสอนโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด หวั หนา้ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด เจา้ หนา้ ที่บริหารงานวชิ าการระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด เจา้ หนา้ ที่งานบริหารจดั การห้องสมุดโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด เจา้ หนา้ งานอนามยั โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด เจา้ หนา้ ที่งานการเงินโรงเรียนเกษตรประชาตาทวด เจา้ หนา้ ท่ีงานสหกรณ์โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด ด้านการสอน มีประสบการณ์ในการจดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ 12 ปี มีประสบการณ์ในการจดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษา ตอนปลาย ด้านการวจิ ัย มีผลงานวจิ ยั จาํ นวน 9 เร่ือง
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ด้านการบริการสังคม ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ใหค้ าํ ปรึกษา เป็นกรรมการคณะทาํ งานต่างๆ บรรยายและจดั อบรมใหก้ บั องคก์ รและหน่วยงานของรัฐมา 12 ปี ด้านต้นสังกดั สพป.ศก. เขต 4 ทาํ งานวจิ ยั แผนการจดั การเรียนรู้ เอกสารประกอบการอบรม เขา้ ร่วมประชุม จดั ประชุม เป็นวทิ ยากรการอบรมครูผจู้ ดั การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ด้านระดบั ชาติ ทาํ งานวางแผนการจดั การเรียนรู้ สร้างแผนการจดั การเรียนรู้ เขา้ ร่วมประชุม สมั มนางานทาง วชิ าการ ของสถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยรี ะดบั ชาติอยา่ งต่อเน่ือง ทาํ งานโครงการพฒั นาทกั ษะการคิดข้นั สูง สร้างสื่อ นวตั กรรมการเรียนการสอน เขา้ ร่วมประชุมสมั มนาทาง วชิ าการ แลกเปล่ียนเรียนรู้ กบั ภาคีสมาชิกสาํ นกั งานส่งเสริมสงั คมแห่งการเรียนรู้และพฒั นาคุณภาพเยาวชน (สสค.) ด้านระดับนานาชาติ ทาํ งานวางแผนการจดั การเรียนรู้ สร้างแผนการจดั การเรียนรู้ เขา้ ร่วมประชุม สมั มนางาน ทางวชิ าการร่วมโครงการ FLEXE 2010 Ecology Unit Pilot จาก Dr. Liz Goehring และคณะนกั วทิ ยาศาสตร์ในโครงการ GLOBE ประเทศสหรัฐอเมริกา เขา้ ร่วมประชุมเชิง ปฏิบตั ิการ ร่วมกบั โครงการ GLOBE สสวท. นกั วทิ ยาศาสตร์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในระดบั นานาชาติ และนกั วทิ ยาศาสตร์ในประเทศไทย ผลงานด้านการเขียน เขียนแผนการจดั การเรียนรู้ เอกสารประกอบการอบรม เอกสารประกอบการเรียน คู่มือผเู้ รียน บทเรียน โปรแกรม หนงั สือนิทานเล่มเลก็ ประมาณ 30 เล่ม รายงานการวิจยั จาํ นวน 9 เรื่อง บทความในส่ือ Internet www.//Qlf.or.th จาํ นวน 5 เรื่อง เกยี รติประวตั ิ ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ ชายบุญช่วย เรืองเดช เขา้ รับการแข่งขนั ตอบ ปัญหาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ไดร้ ับรางวลั ชนะเลิศ ของสาํ นกั งาน การประถมศึกษาอาํ เภอกนั ทรลกั ษ์ เป็นตวั แทนแข่งขนั ระดบั จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2543
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูเกียรติยศ (Teacher Award) การปฏิรูปการเรียนรู้ดีเด่น สาขาหลกั สูตรสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน สาํ นกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2545 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเด่น วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนตน้ กลุ่มโรงเรียนมธั ยมศึกษา กลุ่มที่ 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2545 ไดร้ ับรางวลั เชิดชูเกียรติ เป็นครูครูผสู้ ร้างและส่งส่ือการสอนวทิ ยาศาสตร์ไดร้ ับรางวลั ระดบั ดี ของสาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 4 ร่วมกบั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พ.ศ. 2548 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเด่น วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2548 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นวทิ ยากรแกนนาํ การอบรมเชิงปฏิบตั ิการพฒั นาครูวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง “จุด ประกายขยายความคิดพิชิตการเปล่ียนแปลง” ของสาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 ร่วมกบั สถาบนั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2548 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยยี่ ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2549 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอรณี เรืองเดช นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ไดเ้ ป็นตวั แทนนกั เรียนสาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 เขา้ รับการแขง่ ขนั ตอบปัญหา วทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์โอลิมปิ กระดบั ประเทศ (The Third International Junior Science Olympiad) (IJSO) กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ่งเสริมนกั เรียน “รักการอา่ น” โรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลาง เด็กหญิงอรณี เรืองเดช นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ไดร้ ับรางวลั ระดบั ดี สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรี สะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2549 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ร้างนวตั กรรมการศึกษา ตามโครงการหน่ึงโรงเรียนหน่ึงนวตั กรรม ดา้ นการเรียนการสอน ส่งผลใหโ้ รงเรียนไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรียญเงิน ในงาน “รวมพลงั สร้างนวตั กรรม เฉลิมพระเกียรติ ครองราชย์ ๖๐ ปี ” สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2549
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กชายรัฐเสน คาํ รัตน์ เดก็ หญิงอรวรรณ เนียมเพช็ ร เดก็ ชายเหล่าฤทธ์ิ ศิลาคาํ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทองแดง กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทส่ิงประดิษฐ์ ระดบั ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2550 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอรณี เรืองเดช เดก็ หญิงอรุณี สีใส เดก็ หญิงเกษณีย์ วิลาไดร้ ับรางวลั ชมเชย รองชนะเลิศลาํ ดบั ท่ี 3 จาก 11 โรงเรียน กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์ระดบั ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2550 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2550 ไดร้ ับรางวลั ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผสู้ ร้างแผนการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดร้ ับ รางวลั ชนะเลิศ เหรียญทอง ในการประกวดแขง่ ขนั การนาํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การเรียนรู้ใน สถานศึกษา สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2551 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กหญิงอรณี เรืองเดช เดก็ หญิงอรุณี สีใส เดก็ หญิงอารีรัตน์ ศิริชนะ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน รองชนะเลิศลาํ ดบั ท่ี 1 จาก 11 โรงเรียน กิจกรรม ตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์ระดบั ช่วงช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2551 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยยี่ ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2551 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยย่ี ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2552 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเด็กชายรัฐเสน คาํ รัตน์ เดก็ หญิงอรวรรณ เนียมเพช็ ร เด็กหญิงกญั ญารัตน์ เกษกลุ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภททดลอง ระดบั ช่วง ช้นั ที่ 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงพรนิภา ไขแสง นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง กิจกรรม คดั ไทย เน่ืองในวนั ภาษาไทยแห่งชาติ สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรี สะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียน เด็กชายอนุชา พรมชาติ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ไดเ้ ป็นตวั แทนนกั เรียน แข่งขนั การตอบปัญหาอจั ฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์ (สสวท.) สาํ นกั งาน เขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนนกั เรียน เดก็ ชายจิรพฒั น์ พณิ พงษ์ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมเล่าเรื่องตลก ระดบั ช่วงช้นั ท่ี 2 สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ี การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2552 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูเครือขา่ ยโครงการ FLEXE 2010 Ecology Unit Pilot จาก Dr. Liz Goehring และคณะนกั วทิ ยาศาสตร์ในโครงการ GLOBE ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2552 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูปฏิบตั ิการสอนดีเยยี่ ม วชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา ช่วงช้นั ท่ี 3 สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงอมรรัตน์ หอมคาํ เดก็ หญิงอรทยั ตดั โท นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ส่งเคา้ โครงงานวจิ ยั (Research Proposal) ประกวดขอรับทุนวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ โลกท้งั ระบบ (ESS) ไดร้ ับทุนวจิ ยั จาก (สสวท.) 1 ใน 25 โรงเรียนทวั่ ประเทศ พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็น วทิ ยากรแกนนาํ การจดั ทาํ หน่วยการเรียนรู้ ในหลกั สูตรโรงเรียนตาม หลกั สูตรแกนกลางการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศกั ราช 2551 สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผเู้ ป็นศิษยเ์ ก่ารุ่นใหม่ เป็นแบบอยา่ งท่ีดีทางการศึกษา หนา้ ท่ี การงาน และการดาํ เนินชีวติ เนื่องในงานครบรอบ 70 ปี ก่อต้งั โรงเรียนบา้ นหนองเตย อาํ เภอพยหุ ์ สาํ นกั งานเขต พ้นื ท่ีการศึกษาศรีสะเกษเขต 1 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผมู้ ีคุณงามความดี ไดร้ ับคดั เลือกผา่ นรอบแรก 1 ใน 40 คนจาก ผเู้ ขา้ รับ การประเมิน 280 คน ในการสมคั รชิงทุนการศึกษาในและ ตา่ งประเทศของ Ford Foundation International Fellowships Program USA มูลนิธิทุนการศึกษาเอเชีย (ASF) ในพระราชูปถมั ภส์ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผนู้ าํ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาจดั กิจกรรมการเรียนรู้ และ พฒั นาผเู้ รียนให้รู้หลกั ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในรูปแบบการใชน้ ิทานเล่มเล็กประกอบการวจิ ยั ใน ช้นั เรียนโครงการวจิ ัยเศรษฐกจิ พอเพยี งสานักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ร่วมกบั บริษัทสยามกัม มาจลน์ ใหเ้ กียรติสมั ภาษณ์และเก็บขอ้ มูลเผยแพร่ผลงานและการทาํ งาน พ.ศ. 2553
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุด โลกใบใหม่ของหนูนา ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผมู้ ีคุณงามความดีและความสามารถไดร้ ับคดั เลือกเป็นครูนวตั กรรม (Innovation Teacher) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เนื่องในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงกญั ญารัตน์ เกษกุล เด็กหญิงภคั จิรา จิ๋วนารายณ์ เด็กหญิงอภิญญา ชาภคั ดี ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน กิจกรรมโครงงาน วทิ ยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เนื่องในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงกญั ญารัตน์ เกษกุล เดก็ หญิงบวั ศร ก่ึงวงษ์ เด็กหญิงเสาวลกั ษ์ ศรีเนตรไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรม โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เน่ืองในงานยกผลสัมฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั กลุ่มโรงเรียนพนมดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงนิธิดา พวงลอย เด็กชายอนุชา พรมชาติ เดก็ หญิงจินตนา ปัญญาพนั ธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญทอง รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพ ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เนื่องในงานยกผลสมั ฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั ระดบั กลุ่ม โรงเรียนพนมดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นครูผฝู้ ึกสอนนกั เรียนเดก็ หญิงพรรณี นาคชาติ เดก็ ชายอนุชา พรมชาติ เดก็ หญิงจินตนา ปัญญาพนั ธ์ ไดร้ ับรางวลั เหรียญเงิน รองชนะเลิศอนั ดบั 1 กิจกรรมตอบปัญหาอจั ฉริยภาพ ทางวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เน่ืองใน การแขง่ ขนั ศิลปหตั ถกรรมกีฬา วชิ าการ ระดบั กลุ่ม โรงเรียนพนมดงรัก สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ศรีสะเกษ เขต 4 พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็น วทิ ยากรการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ “การบูรณาการการสอนโดยใช้ วทิ ยาศาสตร์เป็นแกน”เนื่องในงานยกผลสมั ฤทธ์ิ 4 วชิ าหลกั สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ศรีสะเกษเขต 4 จงั หวดั ศรีสะเกษ พ.ศ. 2553 ไดร้ ับการยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ เป็นผมู้ ีความรู้ความสามารถ ไดส้ ่งโครงการพฒั นาทกั ษะการ คิดข้นั สูง (The Development high-er Thinking Skill) ประกวดไดท้ ุนสนบั สนุนการวจิ ยั เพ่ือ คุณภาพเยาวชน (สสค.) ระดบั ประเทศเป็น 1 ใน 227 โครงการจากการส่งประกวดท้งั หมด พ.ศ. 2553
จดั พมิ พ์โดย อรอนงค์ สุขสงวน ตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ สาขาวทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: