MIND_ACTIVITY-2-65

1 แบบรายงาน การใช้สือ่ – นวตั กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความรอ้ น 1. หลกั การและเหตุผล การจดั การเรยี นรูท้ ี่มุ่งหวังให้นักเรยี นเกิดการพัฒนาตนเองอยา่ งเตม็ ศักยภาพ เป็นสง่ิ สำคัญท่ีสุด ในการจัดการเรียนรู้ การประยุกต์ เชื่อมโยงความรู้กบั ชีวติ ประจำวนั จะส่งผลให้นักเรียนได้ตระหนักถึง คณุ คา่ ของความรู้ทส่ี ามารถนำไปปรับใช้ได้จรงิ ซ่งึ จะสง่ เสริมให้นักเรียนเกิดความกระตือรือรน้ ในการเรยี น มากยิง่ ขน้ึ ในการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ 2 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ในหน่วยการ เรียนรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน เรื่องการถ่ายโอนพลังงานความร้อน เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาความรู้ ที่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้จริง แต่การประยุกต์ออกแบบ เลือกใช้และ สรา้ งอปุ กรณเ์ พอ่ื แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั โดยใช้ความรูเ้ กี่ยวกับการถา่ ยโอนความร้อนนนั้ ยงั คงเป็นเร่ืองที่ มีความท้าทายสำหรับนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบของใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีประสิทธิภาพ ที่ดีข้นึ กว่าเดมิ ซงึ่ จะทำใหน้ ักเรยี นเกิดกระบวนการคิด วเิ คราะห์ เชื่อมโยงความรู้ บูรณาการเพอื่ สร้างสรรค์ ช้ินงานให้มีประสิทธภิ าพมากที่สดุ กิจกรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมนักเรยี นให้เกิดทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อปรบั ปรุงสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพดีย่งิ ขึน้ อาศัยการบูรณาการความรู้แบบ STEM Education ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายนักเรียน ให้นักเรียนนำความรู้ พ้นื ฐานมาสร้างสง่ิ ใหม่ ที่จะสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยนกั เรยี นจะตอ้ งมีกระบวนการคิดวเิ คราะห์ มีความรู้ พื้นฐานในเรื่องสมบัติของวัสดุต่างๆ ผนวกกับความรู้เรื่องการถ่ายโอนพลังงานความร้อน ในการนำมา ออกแบบชน้ิ งานเพือ่ นำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันได้ 2. สภาพปญั หา 2.1 นักเรยี น นกั เรยี นขาดความทา้ ทายในการเรียนรู้ 3. การพัฒนา 3.1 การพัฒนาบคุ ลากร ครูผู้สอนเกดิ กระบวนการคิด วเิ คราะห์ หากจิ กรรมที่สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนเกิดทกั ษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ผนวกกับความรพู้ ื้นฐาน โดยอาศัยการบรู ณาการความรู้แบบ STEM Education รายงานผลการใช้สือ่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความรอ้ น”

2 3.2 การพัฒนางาน พฒั นาการจัดการเรยี นรูใ้ ห้มีประสิทธภิ าพมากขึ้น โดยสง่ เสริมนักเรียนใหท้ ำกจิ กรรมทมี่ ีความ ท้าทาย เพ่ือสรา้ งแรงจูงใจในการเรียน และทำให้นักเรยี นเกดิ ความสนุกในการเรยี นมากย่ิงขึ้น 4. ผลท่คี าดว่าจะไดร้ ับ 4.1 นกั เรยี นเกิดความท้าทายในการเรียน ส่งผลใหน้ กั เรียนเกิดความกระตือรอื รน้ ในการเรียน 4.2 นักเรยี นเกิดความผ่อนคลายความตงึ เครียด 4.3 นกั เรยี นมเี จตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นวทิ ยาศาสตร์ 4.4 เกดิ บรรยากาศสังคมแห่งการเรยี นรู้ รายงานผลการใช้สอื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

3 รายละเอยี ดเกยี่ วกับการใชส้ ื่อนวตั กรรมการเรียนการสอน โรงเรียนวังจนั ทรว์ ิทยา ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 1. ช่ือผลงาน กิจกรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน 2. รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ 2 รหสั วิชา ว 21102 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 3. ประเภทส่ือนวตั กรรม สอ่ื การสอน 4. ผผู้ ลติ นางสาวธนั ยาภรณ์ จุลศกั ด์ิ 5. วัตถุประสงค์ 5.1 นกั เรียนเกิดความท้าทายในการเรยี น สง่ ผลใหน้ กั เรียนเกิดความกระตือรือรน้ ในการเรยี น 5.2 นกั เรยี นเกดิ ความผอ่ นคลายความตึงเครยี ด 5.3 นักเรียนมีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนวทิ ยาศาสตร์ 5.4 เกดิ บรรยากาศสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ 6. วิธีการจัดทำส่ือนวัตกรรม 6.1 อุปกรณ์ 6.1 แก้วพลาสติก 1 ใบ 6.2 แผ่นโฟม ฟองนำ้ แผน่ อะลูมเิ นียมฟอยล์ ถงุ พลาสตกิ 1 ชิ้น กระดาษหนังสือพมิ พ์ พลาสติกแรป แก้วกระดาษ 6.3 ดินน้ำมัน 1 ชน้ิ 6.4 เคร่อื งชัง่ มวล 1 เครือ่ ง 6.5เทอร์โมมิเตอร์ 1 อนั 6.6 กรรไกร 1 เลม่ 6.7 กาว 1 ขวด 6.8 เทปกาว 1 ม้วน 6.9 อุปกรณ์อ่นื ๆ ตามท่ีออกแบบไว้ 6.2 ลำดับขน้ั ตอนการทำ 6.2.1 ศกึ ษาหนงั สือ แหล่งความรู้ท่เี กีย่ วข้องกับการถ่ายโอนพลังงานความร้อน 6.2.2 ออกแบบกิจกรรมแก้วเกบ็ ความรอ้ น สรา้ งสถานการณ์จำลอง 6.2.3 จัดทำเอกสารประกอบการสอน เป็นรปู ภาพ / จดั ทำแบบฝึกหดั 6.2.4 เขยี นแผนการจดั การเรียนรู้ 6.2.5 เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ รายงานผลการใช้ส่อื – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความรอ้ น”

4 6.3 วิธกี ารใชส้ ่ือสอน เตรยี มวัสดุ - อปุ กรณ์ ใหค้ รบ และดำเนินการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามแผน การจัดการเรียนรู้ทวี่ างแผนไว้ 7. ระยะเวลาการจดั ทำ - 8. ค่าใชจ้ า่ ย - 9. วนั เดอื นปกี ารนำเสนอส่ือนวตั กรรมประกอบการสอน มกราคม 2566 10. สรปุ ผล – ประโยชน์จากการนำไปใช้ 10.1 นักเรยี นเกิดความทา้ ทายในการเรยี นสง่ ผลให้นักเรียนเกดิ ความสนใจในการเรยี น 10.2 นักเรียนเกิดความผอ่ นคลายความตึงเครียดจากการเรยี น 10.3 นกั เรียนมีเจตคตทิ ีด่ ตี ่อการเรยี นวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 10.4 บรรยากาศในหอ้ งเรยี นน่าสนใจและเกดิ เป็นสงั คมแห่งการเรียนรู้ 11. ข้อเสนอแนะ ปรบั เวลาในการออกแบบกจิ กรรม เพือ่ ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแนวความคิด ของตนเอง ลงช่อื .................................................................. (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ดิ)์ ผู้ผลิตสือ่ รายงานผลการใช้ส่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

5 จำนวนผปู้ ระเมิน แบบสรปุ การประเมนิ สอ่ื การสอน นักเรียน 15 โรงเรียนวังจนั ทรว์ ิทยา กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความร้อน วิชา วิทยาศาสตร์ 2 รหัสวชิ า ว 21102 *************************************** ครู 5 คน คน ระดบั ความคดิ เห็น ท่ี รายการประเมนิ มาก มาก ปาน น้อย ควร X ทีส่ ุด กลาง ปรบั ปรุง 4.80 (5) (4) (3) (2) (1) 4.85 4.90 1 เปน็ สื่อท่สี อดคล้องกบั เน้ือหาและวดั ผล 16 4 0 0 0 4.85 ได้ตรงจดุ ประสงค์ 2 เปน็ สือ่ ทสี่ ามารถทำไดง้ า่ ย ประหยัด 17 3 0 0 0 3 เป็นสื่อท่ีทำใหน้ ักเรียนสนใจและ 18 2 0 0 0 เขา้ ใจบทเรียนดีขนึ้ 4 สอื่ การเรียนการสอนสง่ ผลให้นกั เรียนมี 17 3 0 0 0 ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ขึน้ สรุปผลการประเมิน จากการประเมิน สรุปไดด้ ังน้ี 1. เป็นสอื่ ทที่ ำใหน้ กั เรยี นสนใจและเข้าใจบทเรยี นดีขึ้น 2. เปน็ ส่ือทส่ี ามารถทำได้ง่าย ประหยัด, เป็นสอ่ื การเรยี นการสอนสง่ ผลให้นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นสงู ขึ้น 3. เปน็ ส่ือที่สอดคล้องกับเนอ้ื หาและวัดผลได้ตรงจุดประสงค์ ข้อควรปรับปรุง/พัฒนา - รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

6 บทสรปุ สือ่ นวตั กรรมการเรียนรู้ 1. ช่ือผลงาน คลิปวิดโี อการสอน การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร ผผู้ ลติ นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ 2. หลักการและเหตุผล การจัดการเรยี นรทู้ ่มี ุง่ หวงั ให้นักเรียนเกดิ การพฒั นาตนเองอยา่ งเต็มศักยภาพ เป็นสงิ่ สำคัญทสี่ ุด ในการจัดการเรียนรู้ การประยุกต์ เชื่อมโยงความรู้กับชีวิตประจำวันจะส่งผลให้นักเรียนได้ตระหนักถึง คุณค่าของความรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงซึ่งจะส่งเสริมให้นักเรียน เกิดความกระตือรือร้นในการเรียน มากยิ่งขึน้ ในการจดั การเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ 2 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ในหน่วย การเรยี นรู้ เรือ่ ง พลังงานความรอ้ น เรอ่ื งการถ่ายโอนพลังงานความรอ้ น เปน็ เรอ่ื งท่ีมเี น้อื หาความรู้ ที่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้จริง แต่การประยุกต์ออกแบบ เลือกใช้และ สร้างอปุ กรณเ์ พือ่ แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวันโดยใช้ความรู้เก่ียวกบั การถ่ายโอนความร้อนน้ันยงั คงเป็นเรื่องที่ มีความทา้ ทายสำหรบั นักเรยี น โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การออกแบบของใช้ในชวี ิตประจำวนั ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ ทีด่ ขี นึ้ กว่าเดมิ ซึ่งจะทำใหน้ ักเรียนเกิดกระบวนการคิด วเิ คราะห์ เชื่อมโยงความรู้ บูรณาการเพือ่ สร้างสรรค์ ชิ้นงานให้มปี ระสิทธภิ าพมากทส่ี ดุ กิจกรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมนกั เรยี นใหเ้ กิดทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อปรบั ปรุงสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพดีย่งิ ข้ึน อาศัยการบูรณาการความรู้แบบ STEM Education ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายนักเรียน ให้นักเรียนนำความรู้ พ้นื ฐานมาสรา้ งส่ิงใหม่ ทจี่ ะสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยนักเรียนจะต้องมีกระบวนการคดิ วิเคราะห์ มีความรู้ พื้นฐานในเรื่องสมบัติของวัสดุต่างๆ ผนวกกับความรู้เรื่องการถ่ายโอนพลังงานความร้อน ในการนำมา ออกแบบชิน้ งานเพือ่ นำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวันได้ 3. วตั ถุประสงค์ 3.1 นกั เรยี นเกดิ ความท้าทายในการเรยี น สง่ ผลให้นักเรยี นเกิดความกระตือรือรน้ ในการเรียน 3.2 นกั เรียนเกิดความผอ่ นคลายความตึงเครยี ดจากการเรียน 3.3 นกั เรียนมีเจตคติทีด่ ตี ่อการเรียนวทิ ยาศาสตร์ 3.4 บรรยากาศในการเรยี นเกิดเปน็ สงั คมแหง่ การเรียนรู้ 4. วิธกี ารจัดทำส่ือนวัตกรรม 1 ใบ 4.1 อุปกรณ์ 4.1.1 แกว้ พลาสติก รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

7 4.1.2 แผน่ โฟม ฟองนำ้ แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ ถงุ พลาสติก 1 ช้นิ กระดาษหนงั สือพิมพ์ พลาสติกแรป แกว้ กระดาษ 4.1.3 ดินนำ้ มนั 1 ชน้ิ 4.1.4 เคร่ืองชงั่ มวล 1 เคร่อื ง 4.1.5 เทอร์โมมเิ ตอร์ 1 อนั 4.1.6 กรรไกร 1 เล่ม 4.1.7 กาว 1 ขวด 4.1.8 เทปกาว 1 มว้ น 4.2 ลำดบั ข้ันตอนการทำ 4.2.1 แก้วพลาสตกิ 1 ใบ 4.2.2 แผ่นโฟม ฟองน้ำ แผ่นอะลูมเิ นียมฟอยล์ ถงุ พลาสติก 1 ชิ้น กระดาษหนงั สอื พิมพ์ พลาสติกแรป แกว้ กระดาษ 4.2.3 ดนิ นำ้ มนั 1 ชนิ้ 4.2.4 เครื่องชงั่ มวล 1 เคร่อื ง 4.2.5 เทอร์โมมเิ ตอร์ 1 อัน 4.2.6 กรรไกร 1 เลม่ 4.2.7 กาว 1 ขวด 4.2.8 เทปกาว 1 มว้ น 4.2.9 อุปกรณ์อ่ืนๆ ตามท่อี อกแบบไว้ 4.3 วธิ ีการใชส้ ่ือสอน เตรยี มวัสดุ - อุปกรณ์ ใหค้ รบ และดำเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแผน การจัดการเรียนร้ทู วี่ างแผนไว้ รายงานผลการใช้สื่อ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความรอ้ น”

8 บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551). ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). เอกสารชุดเทคนิคการสอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ที่ผู้เรยี น สำคัญที่สดุ การเรยี นรูเ้ พื่อพัฒนาการคดิ . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว. กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2552). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2550). คมู่ ือวดั ผลประเมนิ ผลวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: เอส.พี.เอน็ . การพิมพ์. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2563). คู่มอื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระ การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 2 ตามหลักสูตรการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพร้าว รายงานผลการใช้ส่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความร้อน”

9 ภาคผนวก รายงานผลการใชส้ ื่อ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

10 ภาคผนวก ก แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนในชวี ิตประจำวนั รายงานผลการใชส้ อ่ื – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน”

11 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว21102 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 พลงั งานความรอ้ น เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความรอ้ นในชีวติ ประจำวัน 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานในชวี ิตประจาํ วัน ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ ีเ่ กีย่ วข้อง กับเสียง แสง และคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทั้งนาํ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ช้ีวัด ตัวชี้วัด ม.1/7 ออกแบบ เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยใช้ความรู้ เกีย่ วกบั การถ่ายโอนความร้อน 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสาํ คัญ ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารท้งั สองเทา่ กนั การถ่ายโอนความร้อนมี 3 วิธี คือ การนําความร้อน การพาความร้อนและการแผ่รังสีความร้อน การนําความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนที่อาศัยตัวกลาง โดยที่อนุภาคของตัวกลางไม่เคลื่อนที่ แต่ส่ัน ต่อเนื่องกันไป การพาความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนซึ่งอาศัยตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือแก๊สโดยที่ อนุภาคของตัวกลางเคลื่อนที่ไปพร้อมกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอน ความรอ้ นทีไ่ ม่ต้องอาศยั ตวั กลาง แต่ความร้อนส่งผา่ นโดยคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า การถ่ายโอนความร้อนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การเลือกใช้วัสดุ เพอ่ื นำมาทำภาชนะบรรจอุ าหารเพ่อื เก็บความร้อน หรอื การออกแบบระบบระบายความรอ้ นในอาคาร 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกับการถา่ ยโอนความร้อนในชวี ติ ประจําวันได้อยา่ งถูกต้อง มีคะแนนสูงกว่าร้อยละ 60 รายงานผลการใช้สอ่ื – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน”

12 ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อนโดยใชค้ วามร้เู กย่ี วกบั การถา่ ยโอนความร้อนได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรอู้ ยู่ในระดบั ดี 4. คณุ ลกั ษณะผูเ้ รียน 4.1 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สัตยส์ จุ ริต  ม่งุ มัน่ ในการทำงาน  ใฝเ่ รียนรู้  มีจิตสาธารณะ  มวี ินัย  รกั ความเปน็ ไทย 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการคิด : นกั เรียนสามารถอธิบายความรู้เกยี่ วกับการถา่ ยโอนความร้อน ในชีวิตประจําวนั ได้ 6. สาระการเรียนรู้ ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารทั้งสองเท่ากัน การถ่ายโอนความร้อนมี 3 วิธี คือ การนําความร้อน การพาความร้อน และการแผ่รังสีความร้อน การนําความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนที่อาศัยตัวกลาง โดยที่อนุภาคของ ตวั กลางไม่เคลือ่ นท่ี แต่สัน่ ต่อเนือ่ งกันไป การพาความร้อนเปน็ การถ่ายโอนความร้อนซ่งึ อาศัยตัวกลางที่เป็น ของเหลวหรือแกส๊ โดยท่ีอนุภาคของตวั กลางเคล่ือนที่ไปพร้อมกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อน เปน็ การถา่ ยโอนความรอ้ นทไี่ ม่ตอ้ งอาศัยตวั กลาง แต่ความร้อนสง่ ผ่านโดยคลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ การถ่ายโอนความร้อนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การเลือกใช้วัสดุ เพือ่ นำมาทำภาชนะบรรจอุ าหารเพ่ือเก็บความร้อน หรอื การออกแบบระบบระบายความรอ้ นในอาคาร 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1) นกั เรยี นรว่ มกันดูวดิ ิทัศน์ เรอ่ื ง The Toppick - แผน่ นำ้ แขง็ ในกรีนแลนด์ 11 ล้านตันละลาย ใน 1 วัน จาก https://www.youtube.com/watch?v=DTAweNeBI7I 2) นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงของอากาศอนั เน่อื งมาจากภาวะ โลกรอ้ น จากการตอบคำถาม ดังน้ี 2.1) จากวิดทิ ัศน์ เร่ือง The Toppick - แผ่นน้ำแขง็ ในกรีนแลนด์ 11 ลา้ นตนั ละลาย ใน 1 วนั นกั เรียนคิดวา่ เป็นผลมาจากสิง่ ใด (แนวคำตอบ : ภาวะโลกร้อน, เพ่ิมข้นึ ของอุณหภูมิ ฯลฯ) รายงานผลการใช้สื่อ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

13 2.2) นักเรยี นคดิ วา่ ผลกระทบทีเ่ กิดจากภาวะโลกร้อนที่มีผลต่อสงิ่ มีชีวิต มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ : ระดบั น้ำทะเลสูงขน้ึ , อณุ หภมู ทิ ่ัวโลกสงู ขน้ึ , แก๊สเรือนกระจก, น้ำทว่ ม, พ้ืนทีป่ า่ จะตายลง ฯลฯ) 2.3) นักเรยี นคดิ วา่ เหตุการณ์ดังกลา่ วส่งผลกระทบถงึ นักเรียนหรอื ไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : สง่ ผลกระทบ เชน่ ปจั จุบันอากาศร้อนขน้ึ ) 7.2 ขนั้ ท่ี 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) 3) นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับอากาศในปจั จุบันทีม่ คี วามแปรปรวน เพ่อื ให้ไดข้ ้อสรุปดงั น้ี อากาศในปัจจบุ ันมีอณุ หภมู ิที่เพ่ิมสงู ข้นึ สง่ ผลให้น้ำเยน็ /น้ำแขง็ ทซ่ี ื้อมาเพ่ือบริโภค กจ็ ะละลายเรว็ ขน้ึ ทำ ให้คนสว่ นใหญน่ ิยมซื้อแก้วเก็บอุณหภมู ิเพ่ือรักษาให้น้ำเย็นนานขนึ้ 4) นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทำกิจกรรม “แก้วเก็บความร้อน” โดยนกั เรียนศึกษาสถานการณ์ ดงั นี้ สถานการณ์ ในวนั ทอ่ี ากาศร้อนอบอา้ ว นกั เรยี นพบว่า น้ำแขง็ ในแก้วพลาสตกิ ของนักเรยี นหลอมเหลว อยา่ งรวดเร็ว ทำใหเ้ คร่ืองด่ืมของนักเรียนเสียรสชาตไิ ป ใหน้ กั เรียนใช้ความรู้เรื่องการถา่ ยโอนความร้อนออกแบบแกว้ พลาสติกให้เปน็ แกว้ เกบ็ ความรอ้ น ท่ีสามารถรกั ษาอณุ หภมู ิของเครอื่ งด่ืมให้เปลีย่ นแปลงน้อยท่ีสดุ เงื่อนไขสถานการณ์ กำหนดให้ ขนาดของแกว้ มีขนาดไม่เกนิ (กว้าง x ยาว x สงู ) 12 เซนตเิ มตร x 12 เซนติเมตร x 12 เซนตเิ มตร มวลของแก้วไมเ่ กิน 100 กรมั สามารถบรรจุนำ้ ปริมาตร 100 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตรได้ และต้องทำใหภ้ ายในแก้วมีอุณหภมู เิ พิ่มขนึ้ น้อยที่สุด เมือ่ นำไปวางกลางแจ้งเปน็ เวลา 20 นาที วัสดุ – อปุ กรณ์ 1. แก้วพลาสติก 1 ใบ 2. แผ่นโฟม ฟองน้ำ แผน่ อะลูมเิ นยี มฟอยล์ ถงุ พลาสติก 1 ช้ิน กระดาษหนงั สือพิมพ์ พลาสติกแรป แก้วกระดาษ 3. ดนิ น้ำมัน 1 ช้ิน 4. เครือ่ งชง่ั มวล 1 เคร่ือง 5. เทอรโ์ มมิเตอร์ 1 อัน 6. กรรไกร 1 เลม่ 7. กาว 1 ขวด 8. เทปกาว 1 ม้วน 9. อปุ กรณ์อ่ืนๆ ตามทีอ่ อกแบบไว้ หมายเหตุ นกั เรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันออกแบบลงในใบกจิ กรรม พร้อมระบุ วัสดุที่เลือกใชแ้ ละเหตผุ ล ในการเลอื กใช้ และขนาดของภาพร่าง รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

14 7.3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 5) นักเรียนร่วมกนั สังเกตการเปล่ยี นแปลงของแกว้ น้ำ 2 ใบ ได้แก่ ใบท่ี 1 ใส่นำ้ เย็น ใบที่ 2 ใส่นำ้ ร้อน และร่วมกนั ตอบคำถาม ดงั น้ี 5.1) หากตงั้ แก้วน้ำทงิ้ ไว้ จะเกดิ อะไรข้ึน (แนวคำตอบ : นำ้ รอ้ นในแกว้ เม่อื เวลาผ่านไป อุณหภูมิของน้ำจะลดลง เนอ่ื งจากมีการถ่ายโอนความร้อน จากแก้วสภู่ ายนอก นำ้ เยน็ ในแกว้ เมอื่ เวลาผา่ นไป อุณหภูมิของน้ำจะสูงขน้ึ เนอ่ื งจากมีการถา่ ยโอน ความรอ้ นจากบรเิ วณโดยรอบเข้าสู่แก้ว ทีม่ ีอุณหภมู ิต่ำกวา่ ) 6) นักเรียนและครูร่วมกนั ลงข้อสรปุ โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ ในทางวิทยาศาสตร์ Heat คือ พลังงานความร้อนท่ีถา่ ยโอนจากบรเิ วณทม่ี ีอณุ หภมู ิสงู กวา่ ไปยงั บรเิ วณทม่ี ีอุณหภูมติ ่ำกวา่ จนกระท่ังอณุ หภูมิทงั้ สองบริเวณเท่ากนั 7.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 7) นักเรยี นดวู ดิ ิทัศน์ เรอื่ ง บา้ นประหยัดพลงั งาน จาก https://www.youtube.com/watch?v=SdopMzZMJvQ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นเห็นถงึ การแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั โดยใชค้ วามร้เู กีย่ วกบั การถ่ายโอนความรอ้ น 7.5 ข้ันประเมิน (Evaluation) 8) นักเรยี นทำ Exit ticket ประกอบดว้ ยคำถาม ดงั น้ี - การถ่ายโอนความร้อนเป็นการโอนความรอ้ นจากสสารทม่ี ีอณุ หภมู สิ งู กว่า ไปยงั สสารทมี่ ีอุณหภมู ติ ่ำกว่า ถูกหรอื ผิด (ถกู ) - นำ้ ร้อน เมอื่ ต้งั ท้งิ ไว้ จะมอี ุณหภมู ิเพิม่ สงู ขึน้ ถกู หรือผดิ (ผดิ ) - น้ำเย็น เมอ่ื ต้งั ท้ิงไว้ จะมีอณุ หภูมลิ ดลง ถูกหรอื ผิด (ผิด) - นักเรียนไดร้ บั ลมจากพัดลม เปน็ การถ่ายโอนความร้อนด้วยวธิ ใี ด (การพาความรอ้ น) - นักเรียนยกตัวอย่างการถา่ ยโอนความร้อนในชีวิตประจำวัน - ความร้ทู ีน่ กั เรยี นไดร้ บั ในคาบเรียนน้ี และกิจกรรมในคาบเรียนน้ีนกั เรียนมีความพงึ พอใจ ใหด้ าวก่ีดวง สูงสุด 5 ดวง 8. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - การออกแบบแกว้ เก็บความรอ้ น 9. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้ - ส่อื วดิ ทิ ศั น์ เรื่อง The Toppick - แผน่ นำ้ แขง็ ในกรนี แลนด์ 11 ลา้ นตนั ละลาย ใน 1 วนั จาก https://www.youtube.com/watch?v=DTAweNeBI7I - สอ่ื วิดิทัศน์ เรอ่ื ง บ้านประหยดั พลงั งาน จาก https://www.youtube.com/watch?v=SdopMzZMJvQ รายงานผลการใชส้ ่ือ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความร้อน”

15 - ขอ้ คำถาม Exit ticket - กจิ กรรม “การออกแบบแก้วเก็บความร้อน” 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ าย ตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้องรอ้ ยละ 60 ความรู้เก่ยี วกับการถา่ ย จาก Exit ticket โอนความรอ้ น แบบประเมินการ ออกแบบแก้วเก็บความรอ้ นโดยใช้ ในชีวิตประจาํ วนั ปฏิบตั ิกจิ กรรม ความรู้เก่ยี วกบั การถ่ายโอนความ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ร้อน โดยสามารถระบุวสั ดทุ ี่ มีคะแนนสูงกว่า เลือกใชแ้ ละเหตุผลในการเลือกใช้ ร้อยละ 60 และขนาดของภาพรา่ ง ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ดา้ นทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 นักเรียนสามารถ กจิ กรรมออกแบบ มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นรู้ ออกแบบแกว้ เก็บความ แกว้ เกบ็ ความร้อน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 รอ้ นโดยใช้ความรู้ เกย่ี วกบั การถ่ายโอน ความรอ้ นได้ 3. ดา้ นจติ พิสยั (Affective domain) นักเรียนมสี ่วนร่วม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรยี น ในกจิ กรรมการเรียนรู้ การเรียน อยใู่ นระดบั ดี แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย รายงานผลการใช้สอื่ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความร้อน”

16 วัตถุประสงค์การเรียนรู้ท่ตี ้องการวดั และความสอดคล้องด้านพทุ ธพิ ิสัย ทักษะพสิ ยั และจติ พิสยั วัตถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมิน เทคนคิ ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ พทุ ธพิ ิสยั ทกั ษะพสิ ัย จติ พสิ ัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นักเรียน 1. Exit Ticket สามารถอธบิ าย 2. แบบ ความรเู้ กยี่ วกบั ประเมนิ การ การถา่ ยโอน ตอบคำถาม ความร้อนใน 20 20 60 100 ชีวติ ประจําวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง มคี ะแนนสงู กว่า รอ้ ยละ 60 2. นักเรยี น 20 40 20 20 100 1. แบบ สามารถออกแบบ 100 20 ประเมนิ แกว้ เกบ็ ความร้อน ความสามารถ โดยใช้ความรู้ ในการ เก่ยี วกบั การถา่ ย ออกแบบ โอนความร้อนได้ 20 40 20 1. แบบสังเกต 3. นกั เรียนมี พฤติกรรม สว่ นรว่ มใน กจิ กรรมการ 20 100 การเรียน เรียนรู้ อยู่ในระดบั ดี 20 20 60 40 20 20 100 20 40 20 20 100 รวม **หมายเหตุ : ความหมายของตารางวิเคราะหก์ ารประเมิน รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความรอ้ น”

17 พทุ ธิพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย จติ พสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรับรู้สิ่งเรา้ 2 = เขา้ ใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมนิ คา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสรา้ งกลไก 4 = การจัดระบบคุณคา่ 5 = การตอบสนองที่ซับซ้อนขึน้ 5 = การสรา้ งลกั ษณะนสิ ัย 6 = การดัดแปลงให้เหมาะสม 7 = การริเร่มิ ใหม่ คำอธบิ ายประกอบการประเมิน รายงานผลการใชส้ อ่ื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

18 ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมินการตอบคำถาม คำช้ีแจง : ให้ผู้ประเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรียน ตามเกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม (ความถูกตอ้ ง) ลำดับที่ ชอ่ื - สกุล ระดบั คะแนน สรปุ การประเมิน 1 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผูป้ ระเมิน (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักด์)ิ วนั ท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเด็นที่ 5 4 ระดับคะแนน 1 0 ประเมิน 32 คำตอบ คำตอบถูกต้อง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถูกต้อง 5 ขอ้ ถูกตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง ไมถ่ กู ต้อง 4 ขอ้ ถูกตอ้ ง 2 ขอ้ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ : นกั เรยี นมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ขนึ้ ไป) คำอธิบายประกอบการประเมิน รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน”

19 ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินความสามารถในการออกแบบ คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้ประเมินทำการประเมนิ แบบประเมนิ ความสามารถในการออกแบบ ลำดับท่ี ชอื่ - สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมนิ 1 5 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ดิ)์ วันท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ เกณฑก์ ารประเมนิ การตอบคำถาม เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปนี้ ประเด็น ระดับคะแนน ทีป่ ระเมนิ 5 4 3 2 1 0 นกั เรียนสามารถ 1. การออกแบบ 1. การออกแบบ 1. การออกแบบ 1. การออกแบบ 1. การออกแบบ นักเรียน ออกแบบ เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม ไมส่ ามารถ แกว้ เกบ็ 2. การเลือก 2. การเลือก 2. การเลือก 2. การเลอื ก 2. การเลือก ปฏิบัตไิ ด้ ใช้วสั ดุ ใช้วสั ดุ ใช้วัสดุ ใชว้ สั ดุ ใชว้ ัสดุ /นักเรียน ไม่ปฏิบตั ิ ความรอ้ น 3. ความ 3. ความ 3. ความ 3. ความ 3. ความ โดยใชค้ วามรู้ สอดคล้องของ สอดคลอ้ งของ สอดคล้องของ สอดคลอ้ งของ สอดคลอ้ งของ เกีย่ วกับการถา่ ย เหตผุ ลในการ เหตผุ ลในการ เหตุผลในการ เหตผุ ลในการ เหตผุ ลในการ เลือกใชว้ สั ดุ เลอื กใชว้ ัสดุ เลือกใช้วสั ดุ เลอื กใช้วัสดุ เลือกใชว้ ัสดุ โอนความร้อนได้ 4. การกำหนด 4. การกำหนด 4. การกำหนด 4. การกำหนด 4. การกำหนด ขนาด ขนาด ขนาด ขนาด ขนาด ในแบบรา่ ง ในแบบร่าง ในแบบร่าง ในแบบรา่ ง ในแบบรา่ ง 5. อธิบายความรู้ 5. อธบิ ายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ ทเี่ กี่ยวข้อง ทีเ่ ก่ียวข้อง ท่เี กย่ี วข้อง ทเ่ี กย่ี วข้อง ทเี่ ก่ียวขอ้ ง นักเรียนปฏบิ ัติ นักเรียนปฏบิ ัติ นักเรยี นปฏบิ ัติ นกั เรียนปฏบิ ัติ นกั เรยี นปฏบิ ัติ ได้ 5 ขอ้ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ขอ้ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ขอ้ เกณฑ์การผ่านการประเมนิ : นักเรียนมีระดับคคะำแอนธนบิ า3ยขปึ้นรไะปกอ(คบิดกเาปร็นปรร้อะยเมละิน 60 ข้นึ ไป) รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเกบ็ ความร้อน”

20 ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี น คำชแ้ี จง : ให้ผ้ปู ระเมินทำการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ตามเกณฑ์การประเมนิ แบบสงั เกต พฤติกรรมการเรียน (นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้) ลำดับท่ี ชอ่ื - สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ 1 5 4 3 2 1 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 2 3 4 5 ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วนั ที่.............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น : เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางตอ่ ไปนี้ ประเด็นท่ี ระดบั คะแนน ประเมิน 54 32 1 0 นกั เรยี นมี ส่วนร่วม 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา นักเรียน ในกจิ กรรม 2. แสดงความคิดเหน็ 2. แสดงความคิดเหน็ 2. แสดงความคิดเหน็ ไมส่ ามารถ การเรยี นรู้ 2. แสดงความคิดเห็น 2. แสดงความคิดเหน็ 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม ปฏิบัติได้/ 4. ใหค้ วามร่วมมอื ใน 4. ใหค้ วามรว่ มมือ 4. ให้ความรว่ มมือ นักเรียน 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม กจิ กรรม ในกจิ กรรม ในกิจกรรม ไมป่ ฏิบัติ การเรียนรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ 4. ให้ความรว่ มมือ 4. ใหค้ วามร่วมมือใน 5. มีความรบั ผดิ ชอบ 5. มคี วามรบั ผิดชอบ 5. มคี วามรับผดิ ชอบ ในกิจกรรม กิจกรรม การเรียนรู้ การเรียนรู้ 5. มคี วามรับผิดชอบ 5. มีความรับผดิ ชอบ นกั เรียนปฏิบัติ นักเรียนปฏิบัติ นกั เรียนปฏิบตั ิ นกั เรียนปฏบิ ตั ิ นักเรียนปฏบิ ัติ ได้ 5 ขอ้ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ขอ้ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมีระดับคะแนนเฉล่ีย 3 ขึ้นไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ขึ้นไป) บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เกบ็ ความร้อน”

21 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 26 การถ่ายโอนพลังงานความรอ้ นในชีวติ ประจำวนั 1. สรุปผลการเรยี นการสอน 1. นักเรียนจำนวน..1...62..42.....คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ...1..6.2.4.2.........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.....1..0.2.0.2.......... ไม่ผา่ นจุดประสงค์.......................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................... ไดแ้ ก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive domain) .....น..ัก...เ.ร..ยี..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ...ิบ..า..ย...ค..ว..า..ม..ร..ูเ้..ก..่ีย..ว..ก...ับ...ก..า..ร..ถ..่า..ย..โ..อ..น...ค..ว..า..ม...ร..้อ..น..ใ..น...ช..วี..ติ..ป...ร..ะ..จ...ํา..ว..นั ..ไ..ด..้อ..ย...า่ ..ง.ถ...กู ..ต...้อ..ง................. ....................................................................................................................................................................... 2.2 ด้านทกั ษะพสิ ยั (Psychomotor domain) .....น...ัก..เ.ร..ยี...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..อ...อ..ก...แ..บ...บ..แ...ก..้ว..เ.ก..บ็...ค..ว...า.ม...ร..้อ..น...โ.ด...ย..ใ..ช..ค้ ..ว..า..ม...ร..เู้ .ก..่ีย...ว..ก..บั...ก..า..ร..ถ...่า..ย..โ.อ...น..ค...ว..า..ม..ร..้อ...น..ไ..ด..้................... ....................................................................................................................................................................... 2.3 ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) .......น..กั...เ.ร..ยี ..น...ม..สี...่ว..น..ร..่ว...ม..ใ..น..ก...ิจ..ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..เ.ร..ีย...น..ร..ู้ ..ส..า..ม..า..ร..ถ...อ..อ..ก..แ...บ..บ...ท...ำ..ก..จิ ..ก...ร..ร..ม..ไ..ด..้ต...า..ม..ก..ำ..ห...น...ด..เ.ว..ล...า........... .......... ....................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลงั การจดั การเรียนการสอน .........ค..ว..ร..เ.พ...มิ่...ใ.ห...้น..กั...เ.ร..ยี..น...แ..ต...ล่ ..ะ..ก...ล..ุ่ม..อ...อ..ก...ม..า..น...ำ..เ.ส..น...อ..ผ...ล..ก..า..ร..อ..อ...ก..แ..บ...บ................................................................ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด)์ิ ครผู ้สู อน ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานผลการใชส้ ่อื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

22 ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 26 เรอ่ื ง การถา่ ยโอนพลังงานความรอ้ นในชวี ติ ประจำวนั เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมคี วามคดิ เห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ัด  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้  ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไมไ่ ด้นำกระบวนการเรียนรทู้ ่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนร้ขู องผ้เู รียน  ไมส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื ..................................................... (นางรัชนี หนูนอ้ ย) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. รายงานผลการใช้สอื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน”

23 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรู้หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง พลงั งานความร้อน ในแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 26 เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนในชวี ติ ประจำวัน เรียบร้อยแล้ว โดยมีความคิดเหน็ ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชวี้ ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้  ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใช้ส่ือการเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรขู้ องผู้เรียน  ไม่สง่ เสริมการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น 5. การวดั และการประเมินผล  สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวงั จันทรว์ ิทยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............. รายงานผลการใช้สอ่ื – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

สื่อการเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 26 : 24 สือ่ วดิ ิทัศน์ The Toppick - แผ่นนำ้ แข็งในกรีนแลนด์ 11 ล้านตันละลายใน 1 วัน จาก https://www.youtube.com/watch?v=DTAweNeBI7I ส่อื วิดทิ ศั น์ เรอ่ื ง บา้ นประหยัดพลังงาน จาก https://www.youtube.com/watch?v=SdopMzZMJvQ รายงานผลการใชส้ ่ือ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

ส่อื การเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 : 25 เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ รายงานผลการใชส้ ือ่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

สื่อการเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 25 : 26 เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ต่อ) รายงานผลการใช้ส่ือ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

สื่อการเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 26 : 27 เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ต่อ) รายงานผลการใช้ส่ือ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

สื่อการเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 26 : 28 เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ (ต่อ) รายงานผลการใช้ส่ือ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความรอ้ น”

ส่ือการเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26 : 29 ใบกิจกรรม รายงานผลการใชส้ ่ือ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแก้วเก็บความร้อน”

ส่ือการเรยี นรูแ้ ผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26 : 30 Exit Ticket รายงานผลการใช้สอ่ื – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความรอ้ น”

31 ภาคผนวก ข ผลงานนักเรียน รายงานผลการใช้ส่อื – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความรอ้ น”

32 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

33 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

34 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

35 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

36 ภาคผนวก ค ภาพกิจกรรม รายงานผลการใชส้ อื่ – นวัตกรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

37 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

38 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”

39 รายงานผลการใชส้ อื่ – นวตั กรรมการสอน “กจิ กรรมการออกแบบแกว้ เก็บความร้อน”