Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e book

e book

Published by Sureweii A., 2021-02-25 11:53:40

Description: e book

Search

Read the Text Version

สรุปบทท่ี 7 ฎหมายในชีวติ ประจาวนั

กฎหมายในชวี ติ ประจาวนั • ความหมายของกฎหมาย • กฎหมาย คอื กฎท่สี ถาบนั หรือผมู้ อี านาจสูงสดุ ในรฐั ตราข้นึ หรือที่เกดิ ข้นึ จากจารตี ประเพณีอนั เป็นทย่ี อมรบั นบั ถือ เพื่อใชใ้ นการบรหิ ารประเทศ เพ่อื ใช ้ บงั คบั บุคคลใหป้ ฏบิ ตั ติ าม • ความสาคญั ของกฎหมาย • เพื่อสรา้ งความสงบเรียบรอ้ ยในสงั คม กิจกรรมท่เี กิดข้นึ ในประเทศ จะมที งั้ ทางเศรษฐกิจ สงั คม และการเมอื ง • เพื่อควบคมุ พฤตกิ รรมของบคุ คลในสงั คมใหอ้ ยูใ่ นระเบียบแบบแผนทด่ี ีงาม • เพื่อปกป้องและรกั ษาชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน • ลักษณะของกฎหมาย • เป็นคาสงั่ หรอื ขอ้ บงั คบั เพื่อใหบ้ ุคคลปฏิบตั ิหรอื งดเวน้ การปฏิบตั ทิ ่ีมีผลบงั คบั ครอบคุมอยา่ งกวา้ งขวา้ งภายในอาณาเขตของรฐั แหง่ หนงึ่ ๆ • เป็นคาสงั่ หรอื ขอ้ บงั คบั ทีต่ ราข้นึ โดยรฐั • ตอ้ งมสี ภาพบงั คบั กฎหมายเมอื่ ตราออกมาหรือประกาศใชแ้ ลว้ • มีผลใชบ้ งั คบั ตลอดไป • มคี วามเสมอภาคและยุติธรรม

• ประเภทของกฎหมาย • แบง่ ตามความสมั พนั ธ์ • 1.กฎหมายเอกชน คือ กฎหมายทบี่ ญั ญตั ถิ ึงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเอกชนกบั เอกชนดว้ ยกนั • 2.กฎหมายมหาชน คอื กฎหมายทบี่ ญั ญตั ิถึงความสมั พนั ธร์ ะหว่างรฐั กบั ประชาชน • 3.กฎหมายระหวา่ งประเทศ คอื กฎหมายทบ่ี ญั ญตั ิถึงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรฐั กบั รฐั • แบง่ ตามลาดบั ศกั ดข์ิ องกฎหมาย • 1. พระราชบญั ญตั ิ คือ เป็นกฎหมายทต่ี ราข้ึนโดยฝ่ายนติ ิบญั ญตั ิ ซง่ึ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรหรือคณะรฐั มนตรีเป็นผูเ้สนอ • 2. พระราชกาหนด เป็นกฎหมายทต่ี ราข้ึนโดยฝ่ายบรหิ ารมฐี านะเทยี บเทา่ พระราชบญั ญตั ิ • การตราพระราชกาหนดทาไดเ้ฉพาะเหน็ วา่ เป็นกรณีท่ีฉกุ เฉิน ไดแ้ ก่ การกระทาเพอ่ื ประโยชนใ์ นอนั ทีจ่ ะ • (1)รกั ษาความปลอดภยั ของประเทศ • (2)รกั ษาความปลอดภยั สาธารณะ • (3)รกั ษาความมนั่ คงในทางเศรษฐกจิ ของประเทศ • (4)ป้องกนั ภยั พบิ ตั สิ าธารณะ • (5)จาเป็นตอ้ งมกี ฎหมายเกยี่ วดว้ ยภาษีอากรหรือเงนิ ตราซง่ึ จะตอ้ งไดร้ บั การพจิ ารณาโดยดว่ นและลบั เพอ่ื รกั ษาประโยชนข์ องแผน่ ดนิ

• 3. พระราชกฤษฎกี า เป็นกฎหมายทตี่ ราข้ึนโดยฝ่ายบรหิ ารเพ่อื วางระเบยี บการต่างๆ ทางบรหิ ารโดยมพี ระราชบญั ญตั ิ พระราชกาหนด หรอื รฐั ธรรมนญู ใหอ้ านาจไว ้ • 4. กฎกระทรวง เป็นกฎทต่ี ราข้ึน โดยรฐั มนตรผี ูท้ ดี่ แู ลกระทรวงนนั้ เพื่อกาหนดรายละเอยี ดต่างๆสาหรบั การนาไปปฏิบตั ิ • 5. กฎอนื่ ๆ เชน่ ประกาศ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั เป็นตน้ • แบง่ ตามลกั ษณะของการนาไปใช้ • (1)กฎหมายสารบญั ญตั ิ เป็นกฎหมายทวี่ ่าดว้ ยสิทธิ หนา้ ท่ี และความรบั ผิดชอบของบุคคล โดยจะกาหนดการกระทาทเี่ ป็นองคป์ ระกอบแหง่ ความผิดอนั จะก่อใหเ้กิดสภาพบงั คบั • (2)กฎหมายวธิ สี บญั ญตั ิ เป็นกฎหมายทวี่ า่ ดว้ ยการวางวธิ กี ารปฏบิ ตั ิสาหรบั บุคคลทจี่ ะเรยี กรอ้ งขอความคมุ ครองของกฎหมาย เมอื่ มขี อ้ โตแ้ ยง้ เกีย่ วกบั สทิ ธิและหนา้ ทเ่ี กิดข้ึน • กฎหมายแพง่ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ตนเองและครอบครวั • กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ หมายถงึ กฎหมายซงึ่ รวมเอาบทบญั ญตั เิ ก่ียวกบั เร่ืองทางแพง่ และในทางพาณิชยข์ า้ ไวด้ ว้ ยกนั • หลกั ทวั่ ไป • บุคคล หมายถึง ส่ิงทมี่ สี ิทธิและหนา้ ทต่ี ามกฎหมาย แบง่ ไดเ้ป็น 2 ประเภท คือ • บุคคลธรรมดา หมายถงึ มนุษยซ์ งึ่ มสี ภาพบคุ คลและส้นิ สุดสภาพบคุ คล โดยการตายและตอ้ งมสี ง่ิ ประกอบหรือทาใหค้ วามเป็นบคุ คลปรากฏชดั เจนข้ึน • นติ บิ คุ คล หมายถึง กลมุ่ บคุ คลหลายคนรว่ มกนั ตง้ั กลมุ่ ข้ึนโดยอาศยั อานาจในทางกฏหมายการกระทาการอย่างใดอยา่ งหนง่ึ • ความสามารถของบคุ คล • 1.ความสามารถของบคุ คลทวั่ ไป ตามกฎหมายปกติแลว้ บุคคลทุกคนมสี ิทธิทางกฎหมายเทา่ เทยี มกันแต่แตกตา่ งกนั คอื ความสามารถในการใชส้ ทิ ธิ • 2.ความสามารถของบคุ คลไรค้ วามสามารถ บคุ คลไรค้ วามสามารถ หมายถงึ บุคคลใดๆซง่ึ ไมม่ คี วามสามารถตตามกฎหมาย

• กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั ตนเอง • 1.กฎหมายเก่ยี วกบั ช่ือบุคคล • - ชื่อบคุ คล (Name) เป็นถอ้ ยคาทใ่ี ชเ้รยี กบคุ คลเพอื่ บง่ บอกถึงตวั บุคคลใด ประกอบดว้ ยช่อื ชอ่ื รอง และชื่อสกุล เพราะเป็นสิ่งทมี่ ี ความสาคญั ในการจาแนกบุคคล สว่ นช่ือรองกฎหมายไมไ่ ดบ้ งั คบั • - ชื่อตวั (First Name) เป็นชอ่ื ประจาตวั ของบคุ คลแต่ละบุคคล ซงึ่ ไดร้ บั การแต่งตงั้ จากบดิ าหรอื มารดา • - ชือ่ สกลุ (Family Name) เป็นชอ่ื ประจาวงศส์ กุลหรือประจาครอบครวั สืบเน่ืองต่อมา ชอ่ื สุกลโดยปกติจงึ เป็นชื่อทส่ี ืบทอดกนั มาตงั้ แต่ บรรพบุรุษ • - ช่อื รอง เป็นชือ่ ประกอบถดั ไปจากชือ่ ตวั มงุ่ หมายบอกลกั ษณะหรอื ตวั บคุ คลใหช้ ดั เจนยิ่งข้ึน เพราะเมอ่ื บคุ คลเกดิ ข้ึนมากๆ อาจมชี ่อื ตวั ซา้ กนั • 2.กฎหมายเก่ยี วกบั บตั รประชาชน • บตั รประจาตวั ประชาชนเป็นเอกสารทสี่ าคญั อย่างยงิ่ ที่ประชาชนทกุ คนตอ้ งมี ซงึ่ บตั รประจาตวั ประชาชนจะเสดงภมู ลิ าเนาและทีอ่ ยู่เพือ่ ความสะดวกใน การติดตอ่ ตดิ ตาม และการช่วยเหลือตา่ งๆ ไดง้ า่ ยข้ึน

• กฎหมายที่เกย่ี วกบั ครอบครวั • 1.การหมน้ั • ชายและหญงิ สามารถกระทาการหมน้ั ไดก้ ต็ ่อเม่อื มอี ายุ 17 ปีบรบิ ูรณ์ ถา้ ฝ่ายหนึง่ ฝ่ายใดอายยุ งั ไม่ถงึ 17 ปี การหมน้ั ถอื วา่ เป็นโมฆะ การหมน้ั ตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมของ บคุ คลดงั ต่อไปน้ี • - บดิ าและมารดา • - ผรู้ บั บุตรบุญธรรม • - ผปู้ กครอง • 2.การสมรส • การสมรสจะกระทาไดก้ ต็ ่อเมอื่ ชายและหญงิ มอี ายุ 17 ปีบรบิ รู ณ์ แต่กรณที ี่มเี หตอุ นั สมควรอาจจะขออนุญาตใหท้ าการสมรสกอ่ นได้ • 3.ทรพั ยส์ นิ ระหวา่ งสามีภรรยา • 3.1สนิ สว่ นตวั ไดแ้ ก่ ทรพั ยส์ นิ ท่ี • (1)ฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ มีอยกู่ อ่ นสมรส • (2)เป็นเครื่องใชส้ อยสว่ นตวั เครื่องแตง่ กาย • (3)เครอื่ งมอื เครื่องใชท้ ี่จาเป็นในการประกอบอาชพี • 3.2 สนิ รสมรส ไดแ้ ก่ ทรพั ยส์ นิ ที่ • (1) คสู่ มรสไดม้ าระหวา่ งท่สี มรส • (2) ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาระหวา่ งสมรสโดยพินยั กรรม • (3) เป็นดอกผลของสนิ สว่ นตวั

• 4.ความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั • - สามภี รรยาตอ้ งชว่ ยเหลอื อปุ การะกนั ตามความสามารถและฐานะของตน • - บตุ รมสี ิทธิใชน้ ามสกลุ ของบดิ าและมสี ิทธไิ ดร้ บั มรดกของบดิ า • - บดิ ามารดาตอ้ งอปุ การะจนกระทงั่ บุตรบรรลุนิติภาวะ ตอ้ งใหก้ ารศกึ ษาแก่บตุ ร • - บตุ รไมส่ ามารถฟ้องรอ้ งอปุ การไี ด ้ • - บคุ คลทสี่ ามารถรบั คนอนื่ เป็นลกู บญุ ธรรมได ้ ตอ้ งมอี ายมุ ากกว่า 25 ปี • - บุตรบญุ ธรรมมฐี านะไดส้ ทิ ธเิ ชน่ เดยี วกบั บตุ ร • 5.การหย่า • การหย่านนั้ จะกระทาไดโ้ดยยนิ ยอมทง้ั สองฝ่าย หรือโดยคาพพิ ากษาของศาล • 6.มรดก • มรดก หมายถึง ทรพั ยส์ นิ ทกุ ชนดิ ของผูต้ ายตลอดทง้ั สิทธหิ นา้ ทีแ่ ละความรบั ผิดชอบต่าง ๆ ดว้ ยเวน้ แตต่ ามกฎหมายหรอื โดยสภาพแลว้ เป็นการ เฉพาะตวั ของผูต้ ายโดยแท ้ โดยการไดร้ บั มรดกมสี าเหตุดงั ตอ่ ไปน้ี • 6.1เจา้ มรดกตาย • การตายของเจา้ มรดก หมายถึง การตายโดยธรรมชาติ กลา่ วคอื หวั ใจหยดุ เตน้ และสมองไมท่ างาน สว่ นสาเหตุทที่ าใหเ้จา้ มรดกตอ้ งตายนั้นอาจ เป็นเพราะสาเหตุใดกไ็ ด ้

• 7 . ทายาท • 7.1ทายาทโดยธรรม คือ บคุ คลทมี่ สี ทิ ธิรบั มรดกโดยผลของกฎหมาย • (1) ผูส้ บื สนั ดาน • (2) บิดามารดา • (3) พ่ีนอ้ งร่วมบิดามารดาเดียวกนั • (4) ป่ ู ยา่ ตา ยาย • (5) ลุง ป้ า นา้ อา • 7.2 ทายาทโดยพนิ ยั กรรม หมายถงึ ผูท้ มี่ ีสทิ ธริ บั มรดกตามท่ีพนิ ยั กรรมกาหนดไว้ • 8.พินยั กรรม • พนิ ยั กรรม คอื การแสดงเจตนากาหนดการเผื่อตายไว้ มหี ลายแบบเช่น • - แบบธรรมดาหรอื แบบทวั่ ไป • - แบบเขยี นเองทง้ั ฉบบั • - แบบเอกสารฝ่ ายเมอื ง • - แบบเอกสารลบั • - แบบทาดว้ ยวาจา • - แบบทาในตา่ งประเทศ • - แบบทาในสภาวะสงคราม

• กฎหมายแพง่ เกย่ี วกบั ความสามารถของผเู้ยาว์ • ผเู้ยาว์ คอื บคุ คลซึ่งยงั ไมบ่ รรลนุ ิติภาวะ การส้นิ สดุ ผเู้ยาวส์ ้นิ สดุ เมอ่ื • 1.อายุครบ 20 ปีบริบรู ณ์ • 2.สมรสตามกฎหมาย • กิจการทีผ่ เู้ยาวส์ ามารถทาได้ และก่อใหเ้กดิ ผลทางกฎหมายแบ่งเป็น 2 ประเภท คอื • 1.นติ กิ รรม คอื กิจการใด ๆ ท่บี คุ คลกระทาโดยชอบดว้ ยกฎหมาย • 2.นติ เิ หตุ คอื เหตุการณใ์ ด ๆ ที่นอกเหนอื จากนติ ิกรรม เกิดได้2 ทาง คอื • 2.1 เกดิ โดยธรรมชาติ • 2.2 เกดิ จากการกระทาของบุคคล • ดา้ นทรพั ยส์ นิ ของผเู้ยาว์ • - ผแู้ ทนโดยชอบธรรมของผเู้ยาว์ สามารถจดั การกบั ทรพั ยส์ นิ ของผเู้ยาวไ์ ดโ้ดยลาพงั ตามที่เห็นสมควรและประโยชนข์ องผเู้ยาว์ • - ผแู้ ทนโดยชอบทาของผเู้ยาว์ ไมส่ ามารถทาหน้ี ทาหน้โี ดยทผี่ เู้ยาวจ์ ะตอ้ งทาเองโดยไมไ่ ดร้ บั ความยนิ ยอมจากผเู้ยาวไ์ ม่ได้ • การทานิตกิ รรมใด ๆ ของผเู้ยาว์ หากปราศจากการยนิ ยอมของผูแ้ ทนโดยชอบธรรมจะถอื วา่ เป็นโมฆยี ะทง้ั ส้นิ แต่มขี อ้ ยกเวน้ ในบางกรณี ไดแ้ ก่ • 1. การทานิตกิ รรมท่ีเป็นประโยชนแ์ กผ่ เู้ยาวฝ์ ่ายเดียว • 2. การทานติ กิ รรมทผ่ี เู้ยาวต์ อ้ งทาเองเฉพาะตวั • 3. การทานิตกิ รรมเพอ่ื ดารงชีพของผเู้ยาว์

• กฎหมายแพง่ เก่ยี วกบคนไรค้ วามสามารถ • คนไรค้ วามสามารถ คอื บุคคลวกิ ลจริตซึ่งอาจเกดิ จากโรคจติ จิตฟนั่ เฟื อน • ผลของการเป็นบุคคลไรค้ วามสามารถ • 1. บุคคลท่ศี าลสงั่ ใหเ้ ป็นคนไรค้ วามสามารถนน้ั จะตอ้ งจดั อยใู่ นความอนุบาล ศาลจะสงั่ ใหอ้ ยใู่ นความอนุบาล หมายถงึ จะตอ้ งมีผูอ้ นุบาลเพื่อดแู ลจดั การทรพั ยส์ นิ ของบคุ คลท่ี ไรค้ วามสามารถ • 2. การใด ๆ อนั คนไรค้ วามสามารถไดท้ าลงตกเป็นโมฆยี ะ • การสน้ิ สดุ แห่งการเป็นคนไรค้ วามสามารถ • 1. เมื่อคนที่ไรค้ วามสามารถถงึ แกค่ วามตาย • 2. ศาลมีคาสงั่ เพิกถอนคาสงั่ ใหเ้ ป็นคนไรค้ วามสามารถ • กฎหมายแพ่งเกย่ี วกบั คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ • คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (Quasi-Incompetent) คือ บคุ คลทม่ี ีเหตุบกพรอ่ งบางสงิ่ บางอยา่ ง ไมส่ ามารถจดั การงานของตนเองได้ • ผลของการเป็นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ • 1. ตกอยใู่ นความพิทกั ษ์ • 2. ถกู จากดั ความสามารถบางชนิด • การส้นิ สดุ แห่งการเป็นคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ • 1. คนเสมอื นไรค้ วามสามารถถงึ แกค่ วามตาย • 2. ศาลสงั่ ใหเ้ ป็นคนไรค้ วามสามารถ • 3. ศาลสงั่ ถอนคาสงั่ ใหเ้ ป็นคนคนเสมือนไรค้ วามสามารถ

• กฎหมายแพง่ เก่ยี วกบนติ ิกรรมสญญา • นติ ิกรรม หมายถงึ การกระทาของบคุ คลทช่ี อบดว้ ยกฎหมายและโดยสมคั รใจ มุง่ โดยตรงต่อการผกู นิตสิ มั พนั ธ์ข้นึ ระหวา่ งบคุ คล เพอ่ื จะกอ่ ใหเ้ กดิ การเคลอ่ื นไหวแหง่ สทิ ธิตาม เจตนาของบคุ คลนน้ั • ในการทานติ ิกรรมนนั้ ขอบเขตทก่ี ฎหมายกาหนดหา้ มไวโ้ ดยวตั ถปุ ระสงคม์ ี 3 ประการ คือ • 1.นิตกิ รรมท่ีมีวตั ถปุ ระสงค์ที่เป็นการขดั ตอ่ กฎหมาย 2. นิตกิ รรมท่ขี ดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ย 3. นติ กิ รรมทมี่ วี ตั ถปุ ระสงคท์ ่เี ป็นการพน้ วสิ ยั • หน้ี • หน้ี คือ ความผกู พนั ทางกฎหมายระหวา่ งบคุ คล 2 ฝ่าย คอื • เจา้ หน้ี มีสทิ ธจิ ะเรยี กใหล้ กู หน้ชี าระหน้ี • ลกู หน้ี มหี นา้ ทีป่ ฏิบตั ิตามทต่ี กลงกบั เจา้ หน้ี • ทรพย์ • ทรพั ย์ หมายถงึ วตั ถทุ ่ีมีรูปร่าง เชน่ วทิ ยุ บา้ น ท่ดี นิ รถยนต์ และสว่ นทีไ่ มม่ รี ปู รา่ ง เช่น สทิ ธิ • ทรพั ยแ์ บ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ • 1. อสงั หารมิ ทพั ย์ 2. สงั หารมิ ทรพั ย์ • ทรพั ยส์ นิ หมายถงึ ทรพั ยแ์ ละวตั ถไุ มม่ ีรปู รา่ ง ซงึ่ อาจมีราคา ทรพั ยส์ นิ จะเกดิ ข้นึ โดยอานาจแหง่ กฎหมาย เช่น • 1. กรรมสทิ ธิ์ 2. สทิ ธิครอบครอง • 3. ภาระจายอม 4. สทิ ธอิ าศยั • 5. สทิ ธเิ หนือพ้นื ดิน 6. สทิ ธเิ กบ็ เงิน • 7. ภาระตดิ พนั ในอสงั หารมิ ทรพั ย์ 8. ทรงจาเป็น

• นิติกรรมสญั ญา ไดแ้ ก่ สัญญาซ้ือขาย สัญญาขายฝาก การเชา่ ทรัพย์ การเชา่ ซ้ือ การกยู้ ืม การค้า ประกนั การจานา และการจานอง • กฎหมายอาญา • กฎหมายอาญา คือ กฎหมายทรี่ วมเอาลกั ษณะความผิดต่าง ๆ และกาหนดบทลงโทษซง่ึ บญั ญตั ขิ ้ึนโดยมจี ดุ ประสงคท์ จี่ ะรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยภายในสงั คม การกระทา ทม่ี ผี ลกระทบกระเทอื นต่อสงั คมหรือคนสว่ นใหญ่ของประเทศ โดยถือว่าเป็นความผิดทางอาญาหากปลอ่ ยใหม้ กี ารดาเนนิ การเอง • เจตนา คือ การกระทาผิดทางอาญา ทผ่ี ูก้ ระทารอู้ ย่แู ลว้ ว่าสิง่ ทตี่ นทานน้ั เป็นความผิดแตย่ งั ทาลงไปทง้ั ๆ ทร่ี สู้ านกึ ในการทก่ี ระทา • ประมาท คือ การกระทาทผี่ ูก้ ระทามไิ ดต้ งั้ ใจใหเ้กดิ ผลรา้ ยแก่ใคร แตเ่ น่ืองจากกระทาโดยไมร่ ะมดั ระวงั ทาใหเ้กดิ ผลรา้ ยแก่ผูอ้ นื่ • ไมเ่ จตนา คือ การกระทาทผ่ี ูก้ ระทามไิ ดต้ ง้ั ใจทาเพอื่ ใหเ้กิดผลอย่างหน่งึ

• ความผิดเกีย่ วกบั ทรพั ย์ • 1. ความผิดเกีย่ วกบั การลกั ทรัพย์ เป็นความผดิ ทเ่ี อาทรัพยข์ องผอู้ ่ืนหรือทผ่ี ู้อื่นเป็นเจา้ ของรวมอยดู่ ว้ ยไปโดยทจุ ริต แมว้ า่ เจา้ ของทรพั ยจ์ ะไมต่ ิดใจเอาความแต่ความผิดเกยี่ วกบั การลักทรพั ยไ์ มส่ ามารถยอมความกนั ได้ • 2. ความผิดเก่ยี วกบั การวิ่งราวทรพั ย์ เป็นความผิดในการลกั ทรัพยข์ องผอู้ ืน่ โดยมกี ารฉกฉวยเอาไปซ่งึ หนา้ โดยไมม่ คี วาม เกรงกลัว • 3. ความผิดเกี่ยวกบั การชิงทรพั ย์ เป็นความผิดในการลกั ทรัพยข์ องผอู้ นื่ โดยมกี ารใชก้ าลงั ประทรุ า้ ยหรือขเู่ ขญ็ วา่ ทนั ใดน้นั จะใช้กาลงั ประทรุ ้าย เพ่ือใหเ้ กิดความสะดวกแกก่ ารลกั ทรพั ยห์ รือพาทรัพยน์ ้นั ไป • 4. ความผิดเกย่ี วกบั การปล้นทรัพย์ เป็นความผิดในการชิงทรพั ยท์ ี่ร่วมกนั กระทาความผิดดว้ ยกนั ต้ังแต่ 3 คนข้ึนไป • 5. ความผิดเกยี่ วกบั การกรรโชกทรพั ย์ เป็นความผิดในการใช้กาลงั ประทุร้ายหรือขเู่ ขญ็ วา่ จะทาอนั ตรายตอ่ ชวี ิตและ ร่างกาย เสรีภาพ ช่ือเสียง หรือทรัพยส์ ินกบั ผถู้ กู ประทุรา้ ย • 6. ความผิดเก่ยี วกบั การรีดเอาทรัพย์ เป็นความผิดในการขม่ ขืนใจผู้อืน่ ใหเ้ ปิ ดเผยความลับทเี่ ป็นประโยชนโ์ ดยเฉพาะอยา่ ง ยง่ิ ทรพั ยส์ ิน • 7. ความผิดเกี่ยวกบั การฉอ้ โกงทรัพย์ เป็นความผิดท่ีใชก้ ลอบุ ายเอาทรพั ยส์ ินผอู้ ่ืนโดยการหลอกลวงและปกปิ ดข้อเทจ็ จริง • 8. ความผิดเกี่ยวกบั การยกั ยอกทรัพย์ เป็นความผิดทผี่ กู้ ระทาผดิ ไดท้ รพั ยข์ องผอู้ น่ื มาครอบครองไวแ้ ลว้ เบยี ดบงั เอาทรัพย์ น้นั เป็นของตน

• ความผดิ เกย่ี วกบั ชวี ติ และร่างกาย • 1. ความผิดเกีย่ วกบั ชีวติ คือ เป็นความผิดทที่ าใหผ้ ูอ้ นื่ ถงึ แก่ความตายไมว่ ่าจะดว้ ยวิธกี ารใด เจตนาใหต้ ายหรือไม่ ซงึ่ มคี วามผดิ ทส่ี าคญั ไดแ้ ก่ • 1.1 ความผดิ ฐานฆ่าผูอ้ น่ื • 1.2 การชว่ ยยยุ งใหผ้ ูอ้ น่ื หรือเดก็ ฆ่าตนเอง • 2. ความผดิ เกยี่ วกบั ร่างกาย คอื ทารา้ ยผูอ้ นื่ จนเป็นเหตุใหเ้กิดอนั ตรายแก่กายและจิตใจ มี 4 ลกั ษณะ คือ • 2.1 ทารา้ ยร่างกายโดยไมม่ อี นั ตราย • 2.2 ทารา้ ยร่างกายโดยมอี นั ตราย • 2.3 ทารา้ ยรา่ งกายโดยไดร้ บั อนั ตรายสาหสั • 2.4 ทารา้ ยร่างกายจนถึงแก่ชีวิต • 3.ความผิดทก่ี ระทาโดยประมาทตอ่ ชวี ิตและรา่ งกาย กฎหมายไดบ้ ญั ญตั ใิ หร้ บั ผดิ ในการกระทาโดยประมาทสามารถแยกไดต้ ามความหนกั เบา คือ • 3.1 การกระทาโดยประมาทเป็นเหตุใหผ้ ูอ้ ่ืนถึงแก่ความตาย • 3.2 การกระทาโดยประมาทเป็นเหตใุ หผ้ ูอ้ นื่ รับอนั ตรายสาหสั • 3.3 การกระทาโดยประมาทเป็นเหตุใหผ้ ูอ้ นื่ รบั อนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ

• โทษทางอาญา • ลกั ษณะของกฎหมายอาญามี 4 ประการ คือ • 1. กฎหมายอาญาตอ้ งชดั เจนแน่นอน • 2. หา้ มใชก้ ฎหมายจารีตประเพณีลงโทษทางอาญาแก่บุคคล • 3. หา้ มใชก้ ฎหมายทใี่ กลเ้คยี งลงโทษทางอาญาแกบ่ ุคคล • 4. กฎหมายอาญาไมม่ ผี ลยอ้ นหลงั • โทษ คอื สภาพบงั คบั (Sanction) ของกฎหมายอาญา • 1. ประหารชีวติ • 2. จาคุก • 3. กกั ขงั • 4. ปรบั • 5. รบิ ทรพั ยส์ นิ

• โมฆกรรมและโมฆียกรรม • โมฆกรรม • โมฆกรรม หมายความวา่ การทานิติกรรมใด ๆ ที่มีผลของนติ ิกรรมที่ไดท้ าข้นึ นนั้ เสยี เปลา่ ไมม่ ผี ลผูกพนั ที่จะใชบ้ งั คบั ไดต้ ามกฎหมาย • สาเหตุของนิตกิ รรมโมฆะ 5 ประการ คือ • (1) นิตกิ รรมนน้ั มวี ตั ถปุ ระสงคไ์ ม่ชอบดว้ ยกฎหมาย • (2) นติ กิ รรมนน้ั มีวตั ถปุ ระสงคเ์ ป็นการพน้ วสิ ยั • (3) นติ ิกรรมนน้ั ทาผดิ แบบทีก่ ฎหมายกาหนดไว้ • (4) มีกฎหมายบญั ญตั วิ า่ การกระทานนั้ ๆ เป็นโมฆะ • โมฆยี กรรม • โมฆยี กรรม หมายความวา่ นิตกิ รรมซงึ่ อาจถกู บอกลา้ งหรือใหส้ ตั ยาบนั ถา้ มไิ ดบ้ อกลา้ งภายในระยะเวลาทก่ี ฎหมายกาหนดกเ็ ป็นอนั หมดสทิ ธิท่ีจะบอกลา้ ง • สาเหตขุ องโมฆยี กรรมอาจสรุปไดว้ า่ มาจากกรณตี ่อไปน้ี • (1) ผูท้ านติ ิกรรมฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ เป็นผูถ้ กู จากดั ความสามารถเนอ่ื งจากเป็นผูเ้ ยาว์ • (2) เจตนาในการทานติ ิกรรมนน้ั บกพร่องเนือ่ งจากสาคญั ผดิ ในคุณสมบตั ิของบุคคลหรอื ทรพั ยส์ นิ • (3) มีกฎหมายบญั ญตั วิ า่ การนนั้ เป็นโมฆยี ะ • ขอ้ แตกต่างระหวา่ งโมฆกรรมและโมฆยี กรรม • 1. นติ กิ รรมทีเ่ ป็นโมฆกรรมนน้ั ถอื วา่ เสยี เปลา่ มาตงั้ แตต่ น้ ไมม่ ผี ลอยา่ งใด ๆ เลย 2. โมฆกรรมนน้ั บคุ คลซ่ึงมสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี คนใดคนหนงึ่ จะยกข้นึ กลา่ วอา้ งกไ็ ด้ • 3. โมฆกรรมนน้ั ยกข้นึ กลา่ วอา้ งเมอ่ื ใดกไ็ ด้ ไม่มีกาหนดระยะเวลา

• กฎหมายอ่นื ที่สาคญั • กฎหมายภาษอี ากร • กฎหมายภาษอี ากร หมายถึง กฎหมายเกี่ยวกบั การจดั หารายไดใ้ หก้ บั รฐั โดยใชภ้ าษอี ากรเป็นเคร่ืองมอื ในการจดั เกบ็ ภาษีอากรเป็นส่ิงทร่ี ฐั บงั คบั จดั เกบ็ จากประชาชนเพอ่ื นามาใชป้ ระโยชนส์ ว่ นรวม • ภาษที เี่ ก็บโดยส่วนกลาง • 1. ภาษที เ่ี ก็บโดยกระทรวงการคลงั • 2. ภาษที เ่ี กบ็ โดยกระทรวงอน่ื • ตอ่ ไปน้จี ะนาเสนอเฉพาะกฎหมายภาษอี ากรทนี่ ่ารู้ ไดแ้ ก่ • 1. ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา คือ ภาษที จี่ ดั เกบ็ จากบุคคลทวั่ ไปทม่ี เี งินไดต้ ง้ั แต่ 150,001 บาทข้ึนไป โดยทบ่ี ุคคลนน้ั อาจมสี ถานภาพอยา่ งใดอยา่ ง หนง่ึ ดงั ต่อไปน้ี • (1) บุคคลธรรมดา • (2) หา้ งหนุ ้ สว่ นสามญั หรอื คณะบคุ คลทมี่ ใิ ชน่ ิติบคุ คล • (3) ผูถ้ ึงแก่ความตายระหวา่ งปีภาษี • (4) กองมรดกทยี่ งั ไมไ่ ดแ้ บง่

• 2. ภาษเี งินไดน้ ติ บิ ุคคล เป็นภาษอี ากรทจ่ี ดั เกบ็ จากเงนิ ไดข้ องบรษิ ทั หรอื หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ดงั ตอ่ ไปน้ี • (1) บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คลท่ตี ง้ั ข้ึนตามกฎหมายไทย • (2) บรษิ ทั หรือหา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ ุคคลท่ีตงั้ ข้นึ ตามกฎหมายระต่างประเทศ • (3) กจิ การซงึ่ เป็นการคา้ หรือการหากาไรในประเทศไทยที่ดาเนินการ • (4) กจิ การท่ีร่วมทนุ กนั คา้ หรือหากาไรระหว่างนิตบิ ุคคลต่อไปน้ี • (5) มลู นิธหิ รอื สมาคมที่ประกอบกิจการซงึ่ มรี ายได้ • 3. ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ เป็นภาษที จี่ ดั เกบ็ จากผปู ้ ระกอบการทีข่ ายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารในทางธุรกิจ อย่างไรกต็ ามกฎหมายไดก้ าหนดใหม้ กี ิจการบางประเภทท่ไี ม่ตอ้ งเสีย ภาษมี ลู ค่าเพ่ิม เชน่ • (1) การขายพืชผลทางการเกษตรภายในประเทศ • (2) การขายสตั วท์ ี่มชี วี ติ หรอื ไมม่ ชี ีวติ ภายในประเทศ • (3) การขายป๋ยุ การขายอาหารสตั ว์ • (4) การขายหนงั สอื พิมพ์ นิตยสาร • (5) การขายฉลากกินแบง่ รฐั บาล

• 4. ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีทเี่ กบ็ จากการประกอบกิจการเฉพาะอยา่ ง ดงั ตอ่ ไปน้ี • (1) การธนาคาร • (2) การประกอบธุรกิจเงินทนุ ธุรกิจหลกั ทรพั ย์ • (3) การรบั ประกนั ชีวติ • (4) การรบั จานา • (5) การขายอสงั หาริมทรพั ยเ์ พอ่ื การคา้ หรือหากาไร • 5. ภาษีป้าย • ป้าย คอื ยี่หอ้ หรอื เคร่อื งหมายทใ่ี ชใ้ นการประกอบการคา้ เพอ่ื โฆษณา โดยทาข้ึนดว้ ยวิธใี ด ๆ ทง้ั น้จี ะตอ้ งเสยี ภาษีดว้ ย • 1) ป้ายทตี่ อ้ งเสียภาษี • ป้ายทตี่ อ้ งเสียภาษี ไดแ้ ก่ ป้ายทแ่ี สดงชอ่ื ยี่หอ้ หรอื ทาเคร่ืองหมายทใี่ ชใ้ นการประกอบการคา้ เพอื่ โฆษณา หรือหารายไดไ้ มว่ า่ จะวธิ ีใดก็ตาม • 2) การยน่ื แสดงรายการเสียภาษปี ้าย • เจา้ ของบา้ นตอ้ งไปยื่นแบบแสดงรายการภาษปี ้ายต่อสานกั งานเขต เทศบาล ภายในเดอื นมนี าคมของทกุ ปี • 3) การชาระภาษปี ้าย • เมอ่ื ไดม้ กี ารยน่ื ภาษปี ้าย แลว้ ใหผ้ ูย้ ืน่ นาเงินคา่ ภาษปี ้ายไปชาระตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ไวภ้ ายใน 15 วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ บั แจง้ การประเมินจาก พนกั งานเจา้ หนา้ ที่

• กฎหมายเกยี่ วกบั การรบั ราชการทหาร • ราชการทหาร พุทธศกั ราช 2497 การรบั ราชการทหารมี 4 ประเภท คอื • 1. การรบั ราชการทหารกองเกนิ • 2. การรบั ราชการทหารกองประจาการ • 3. การรบั ราชการทหารกองหนุน • 4. การรบั ราชการทหารประจาการ • กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค • 1.การคุม้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นการโฆษณา • อานาจหนา้ ทข่ี องกฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค • 1) มีหนา้ ทใ่ี นการควบคุมดแู ลการโฆษณาสนิ คา้ หรอื บริการ • 2) มีหนา้ ท่ใี นการป้องกนั หรอื ระงบั ยบั ยงั้ ความเสยี หายหรอื อนั ตรายอนั เกดิ ข้นึ แกผ่ บู้ รโิ ภค • 3) มีหนา้ ท่ีในการตรวจขอ้ ความโฆษณา • 2. การคมุ้ ครองผบู้ ริโภคในดา้ นฉลาก • การคมุ้ ครองผบู้ ริโภคในดา้ นฉลาก เป็นเรื่องท่ีรฐั ออกกฎหมายเพอื่ ใหค้ วามคมุ้ ครองสทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภค • 3. การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นสญั ญา • 4. การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นการขายและตลาดแบบตรง

• ขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ • กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ • กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ(International Humanitarian Law : IHL) เป็นขอ้ ตกลงร่วมกนั ระหว่าง ประเทศทมี่ งุ่ ครอบครองเพ่ือนมนษุ ยจ์ ากภยั สงคราม หรอื ภยั จากการขดั แยง้ กาลงั ทหาร • กฎหมายมนษุ ยธรรมทก่ี าหนดในอนุสญั ญาเจนีวา มดี งั น้ี • อนสุ ญั ญาฉบบั ท่ี 1 วา่ ดว้ ยการปรบั ปรงุ สภาพความเป็นอยู่ของผูบ้ าดเจ็บ ในกองทพั ทอี่ ยู่ในสนามรบ • อนุสญั ญาฉบบั ที่ 2 ว่าดว้ ยการปรบั ปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผูบ้ าดเจ็บ ในทะเล • อนุสญั ญาฉบบั ที่ 3 วา่ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิตอ่ เฉลยศกึ • อนสุ ญั ญาฉบบั ที่ 4 วา่ ดว้ ยการปกป้องคมุ้ ครองบคุ คลพลเรือนในระหวา่ งสงคราม

ขอขอบคณุ ครบั กระผม นายวฒุ ภิ ทั ร ศรีบญุ ทรพั ย์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook