Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.6

คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.6

Published by edtechcherry, 2022-08-17 03:47:36

Description: คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.6

Search

Read the Text Version

คำนำ การมีนิสัยรักการอ่านจะส่งผลต่อการพัฒนาเยาวชนในด้านต่าง ๆ ตามมา ทั้งด้านการเขียน และการคิดวิเคราะห์ตามลำดับ ทักษะดังกล่าวทำให้ผู้เรียนเข้าใจใน องค์ความรู้ที่ได้รับ และเปรียบเสมือนการติดอาวุธทางปัญญาที่เข้มแข็งให้กับตัวนักเรียน การอ่าน การเขียนและการคิดวิเคราะห์มีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ดังนัน้ หากเยาวชนไทยได้รับการพัฒนาทักษะเหล่านี้ กจ็ ะส่งผลต่อการพัฒนา ความสามารถในการศึกษาหาความรู้ตอ่ ไป สาขาวิชาภาษาไทย วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จัดโครงการ “ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่านการเขียนและการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน” (กิจกรรมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้าน การอา่ นการเขียนและการคดิ วิเคราะห์ของนกั เรียนในระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานในเขตพื้นที่ รับผิดชอบ) ขึ้น โดยจัดทำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “การอ่าน การเขียน และการคิด วิเคราะห์” ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เพื่อใช้กิจกรรมการเรียนรู้เสริมหลักสูตร ที่เหมาะสมกับช่วงวัย และนอกเวลาเรียนปกติ แล้วประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของพื้นท่ี จังหวัดนครนายก สร้างเป็นแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิด วิเคราะห์ โดยผู้มีส่วนสำคัญในโครงการฯ ประกอบด้วยคณาจารย์ นักศึกษาประจำ สาขาวิชาภาษาไทย และสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ร่วมกันพัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้นแบบ สำหรบั การนำไปใชใ้ นโรงเรียนต่าง ๆ ใหเ้ กิดขนึ้ อยา่ งยง่ั ยนื ตอ่ ไป สาขาวิชาภาษาไทย วิทยาลัยการฝึกหดั ครู มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร ๒๕๖๒

สำรบัญ หนา้ เร่ือง ก ข คำนำ ๑ สารบัญ ๔ มาอ่านกนั เถอะ ๕ การอ่านจบั ใจความสำคญั ๘ อกั ษร ๓ หมู่ (ไตรยางศ์) ๑๐ สระไทย ๑๔ ตารางอกั ษร ๑๖ ฉนั คือใคร ใครคอื ฉนั ๑๙ ประเอ๋ยประโยค ๒๒ คำไหนความหมายถูก ๒๕ ใหภ้ าพเล่าเรอ่ื ง ๓๑ กะทิกบั หนูแปง้ ๓๔ อินเทอร์เนต็ ๓๖ ทำลายสายตา ๓๘ ซกั ประหยัด ๔๒ สารทพวน ประเพณใี นนครนายก ๔๖ ข้ึนบ้านใหม่ของชาวไทยพวน ๕๑ คำที่หนอู ่านออกเขยี นได้ บรรณานกุ รม

มาอ่านกนั เถอะ การอ่าน เป็นพ้นื ฐานทส่ี ำคญั ของการเรียนรู้และพัฒนาสติปัญญาของคนใน สังคม การอา่ นทำให้เกิดการพฒั นาดา้ นสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรม และค่านิยมต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิต พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดี ที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง (สำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน, ๒๕๕๐: ๑) นอกจากนี้ การอา่ นยังเปน็ เครือ่ งมือ ที่สำคัญที่ใช้ในการเสาะแสวงหาความรู้ การรู้และใช้วิธีการอ่านที่ถูกต้อง จึงเป็น สิ่งจำเป็นสำหรับผู้อ่านทุกคน การรู้จักฝึกฝนอ่านอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ผู้อ่าน มีพื้นฐานในการอ่านที่ดี (สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์, ๒๕๔๓: ๑) อีกทั้งยังช่วยให้ คนเรียนเก่ง เพราะการเรียนวิชาต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัยการอ่านช่วยให้ผู้อ่าน ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ โดยการนำความรู้จากเอกสารที่ได้อ่านมา ปรับปรุงงานของตน การอา่ นทำใหไ้ ด้รบั ความบันเทิงในชีวิตมากข้นึ ทำให้ผู้อ่านเป็น ที่ยอมรับของสังคม เป็นคนที่นา่ สนใจ เนื่องด้วยการอา่ นหนังสือมากทำให้มีความคิด ลึกซึ้งกว้างขวาง สามารถแสดงความรู้ ความคิดเห็นได้ดี (ฐะปะนีย์ นาครทรรพ, ๒๕๔๕: ๒๐) การอ่านออกเสียง เป็นการอ่านที่ผู้อ่านเปล่งเสียงออกมาให้ผู้อื่นได้ยิน เป็นถ้อยคำ ประโยค หรือเรื่องราว โดยมีหลักในการอ่านออกเสียง เช่น ไม่อ่านเร็ว หรือช้าเกินไป อ่านด้วยความดังที่เหมาะสมไม่ดังหรือเบาเกินไป อ่านถูกต้องตาม อักขระวิธี แบ่งวรรคตอนในการอ่านให้ถูกต้อง อ่านให้ชัดเจน ไม่อ่านออกเสียงในที่ ทีไ่ มค่ วรอ่าน เชน่ ในหอ้ งสมดุ เปน็ ต้น แต่กอ่ นที่ จะอ่านออกเสียงได้คล่องนั้น ควรฝึกอ่านสะกด คำให้ได้เสียกอ่ น การอ่านจากคำอ่าน เป็นการอา่ นคำ จากคำอ่านซึ่งถอดเสียงจากการเขียนที่กำกับไว้ ต่อจากคำที่ให้ฝึกอ่านนั้น ๆ การเขียนคำอ่านมี ความซบั ซอ้ นหลายประการ โดยมหี ลักการเขียน คำอา่ น ดังนี้ (ปราณี ปราบรปิ ,ู ๒๕๕๙: ๒๔-๒๘) ๑

๑. พยัญชนะต้น เสียงพยัญชนะเดียวกันในกลุ่มอกั ษรเดียวกัน ใช้เสียง พยัญชนะเดยี วกนั เช่น ข ใช้ ข ค ฆ ใช้ ค ฐ ถ ใช้ ถ ฑ ฒ ท ธ ใช้ ท พ ภ ใช้ พ ผ ใช้ ผ ซ ทร ใช้ ซ ศ ษ ส ใช้ ส ตวั อย่าง ขาล = ขาน คุณภาพ = คุน - นะ - พาบ โฆษณา = โคด - สะ - นา ฐานนั ดรศักด์ิ = ถา - นนั - ดอน - สัก ถาวรวตั ถุ = ถา - วอ - ระ - วดั - ถุ ถา - วอน - วดั - ถุ ณรงค์ = นะ - รง นามธรรม = นาม - มะ - ทำ พลวตั = พน - ละ - วดั ภาพลกั ษณ์ = พาบ - ลกั ศีลธรรม = สนี - ละ - ทำ / สนี - ทำ ษมา = สะ - มา สถานภาพ = สะ - ถา - นะ - พาบ พยัญชนะต้นเสียงพยัญชนะเดียวกันในกลุ่มอักษรต่างกนั ใช้รูปของ พยัญชนะน้ัน ๆ เชน่ ขะมกั เขมน้ = ขะ - มัก - ขะ - เม่น ครุภณั ฑ์ = คะ - รุ - พนั หริ โิ อตตปั ปะ = หิ - หฺริ - โอด - ตบั - ปะ ฮอร์โมน = ฮอ - โมน ๒

๒. คำควบกลำ้ ทม่ี ี ห นำ และคำที่มอี กั ษรนำ หรอื คำที่ออกเสียงเหมือน มี ห นำ ให้มีเครื่องหมาย ฺ ที่พยัญชนะตัวแรกของพยัญชนะควบกล้ำ ที่มี ห นำ หรือที่อ่านเหมือนมี ห นำ เช่น กรมพระ = กฺรม - มะ - พรฺ ะ หลอมตวั = หฺลอม - ตัว ถลก = ถะ - หลฺ ก อนาถ = อะ - หฺนาด รงั สฤษฎ์ = รัง - สะ - หฺรดิ อุปโลกน์ = อบุ - ปะ - โหฺลก สารประโยชน์ = สา - ระ - ปรฺ ะ - โหฺยด ๓. สระที่ออกเสยี งซำ้ กัน เช่น เสียง /อำ/ ไม่วา่ จะใชร้ ูปสระ -ำ หรือ -ัม ให้เขียนเสียงอ่านเป็น -ำ เสียง /ไอ/ ไม่ว่าจะใชร้ ปู สระ ใ-, ไ-, ไ-ย, -ัย ให้เขียนคำ อ่านเป็น ไ- เชน่ กำเนดิ = กำ - เหนฺ ดิ สมั ปทาน = สำ - ปะ - ทาน อำมหิต = อำ - มะ - หดิ ภูมิใจ = พูม - ไจ (ราชบัณฑิตยส ถ าน อ่านอยา่ งไร เขียนอย่างไร หน้า ๒๖ ใช้ พมู - ใจ แตย่ อมรบั ว่าพิมพผ์ ดิ ) ไสยาสน์ = ไส - ยาด ไชยสถาน = ไช - สะ - ถาน (เชยี งใหม่) ชัยบาดาล = ไช - บา - ดาน (ลพบรุ )ี ชยั พฤกษ์ = ไช - ยะ - พฤกษ์ ๔. คำที่ใชต้ ัวสะกดหรือพยัญชนะสะกดไมต่ รงมาตรา การเขียนคำอ่าน ให้ใชต้ วั สะกดแม่น้ัน ๆ ตรงมาตรา เชน่ คุณโทษ = คุน - โทด สุขศกึ ษา = สกุ - ขะ - สกึ - สา / สกุ - สึก - สา สุนทรียภาพ = สนุ - ทะ - รี - ยะ - พาบ ๓

๕. คำที่มีตัวการันต์ จะไม่ปรากฏตัวการันต์ และเครื่องหมาย -์ (ทณั ฑฆาต) ในการเขยี นคำอ่าน เช่น ทิวทศั น์ = ทวิ - ทดั ทุนทรัพย์ = ทุน - นะ - ซับ (ทร ออกเสียง /ซ/) ๖. คำทม่ี ี รร เขียนคำอ่านตามหลักการอ่าน รร เช่น กรรไกร = กนั - ไกร เวรกรรม = เวน - กำ กรรมวธิ ี = กำ - มะ - วิ - ที กรรมาธิการ = กำ - มา - ทิ - กาน กนั - มา - ทิ - กาน การอา่ นจับใจความสำคญั การอ่านจับใจความสำคัญ คือ การอ่านที่มุ่งเน้นค้นหาสาระของเรื่องหรือ หนังสือแต่ละเล่มว่าคืออะไร ซึ่งแบ่งออกได้เป็น ๒ ส่วน (แววมยุรา เหมือนนิล, ๒๕๔๑: ๑๒) ดงั น้ี ๑. สว่ นที่เป็นใจความสำคญั ๒. สว่ นทีข่ ยายใจความสำคญั หรอื ส่วนประกอบ ผู้สอนภาษาไทยโดยทั่วไป มักแนะนำให้ใช้หลักการในการฝึกจั บใจ ความสำคัญของเรอื่ งโดยใช้หลกั ๕W๑H คอื ๑) Who: ใคร ๒) What: ทำอะไร ๓) Where: ทีไ่ หน ๔) When: เม่ือไหร่ ๕) Why: เพราะเหตใุ ด/ทำไม ๖) How: อยา่ งไร ๔

อกั ษร ๓ หมู่ (ไตรยางศ)์ ไตรยางศ์ คือ อักษร ๓ หมู่ ซึ่งจัดแบ่งพยัญชนะไทย ๔๔ ตัว ได้แก่ อักษรสูง อักษรกลาง อักษรต่ำ โดยยึดเอา__เส__ยี __ง__ของ พยญั ชนะที่ยังไม่ได้ผันวรรณยุกต์เป็นเกณฑ์ คำส่ัง ใหน้ กั เรียนเตมิ พยญั ชนะในอักษร ๓ หมใู่ ห้ครบ และ ฝึกทอ่ งวิธจี ำอกั ษร ๓ หมู่ อักษรกลาง __๙___ ตัว กจฎฏ ดตบป อ ๕

อกั ษรสูง _๑__๑__ ตวั ผฝถฐ ขฃสศ ษหฉ อักษรตำ่ (เดยี่ ว) _๑__๐__ ตวั ง ญน ย ณร วม ฬล ๖

อกั ษรต่ำ (ค)ู่ _๑__๔__ ตวั พภฟฑ ฒท ธ ค ฅฆซฮ ชฌ วธิ ีจำงา่ ย ๆ อักษรกลาง : ไกจ่ กิ เดก็ (ฎ)ตาย(ฏ)บนปากโอง่ อักษรสูง : ผฝี ากถงุ (ฐ)ขา้ ว(ฃ)สาร(ศ,ษ)ใหฉ้ นั อกั ษรต่ำ (เดีย่ ว) : งูใหญน่ อนอยู่ ณ ริมวดั โมฬีโลก อักษรตำ่ (ค)ู่ : พ(่ี ภ)แฟนเธอ(ฑ,ฒ,ท)คง(ฅ)แซว เฮยี ชั้น(ฌ) ๗

สระไทย คำสั่ง ให้นักเรียนทบทวนสระไทยที่มีทั้งหมด......๒...๑.........รูป......๓..๒........เสียง แล้วคัดลายมอื ใหส้ วยงาม โดยแบง่ เปน็ สระเสยี งส้นั และสระเสยี งยาว ดงั น้ี เสียงส้ัน เสียงยาว เสยี งสน้ั เสียงยาว -ะ -า -ิ -ี -ึ -ื -ุ -ู เ-ะ เ- แ-ะ แ- โ-ะ โ- เ-าะ -อ ๘

เสียงส้ัน เสียงยาว เ-อะ เ-อ สระประสม เ-ือะ เ-อื เ-ยี ะ เ-ยี -วั ะ -วั สระเกนิ -ำ ใ- ไ- เ-า ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ ๙

ตารางอกั ษร คำสัง่ ให้นกั เรียนเขียนคำลงในชอ่ งวา่ งให้ตรงกบั ความหมาย และเขียนคำอา่ นให้ถกู ตอ้ ง ตัวอย่าง ค ๐) สละให้, เสียสละ บ ริ จ า อา่ นวา่ บอ - ริ - จาก ๑) กระดกู ทห่ี ุม้ มนั สมอง กะ โหลก อ่านวา่ กะ - โหลก ๒) ดอกไม้ บุ ห ง า อา่ นวา่ บุ - หงา ๑๐

๓) สง่ิ ทที่ ำขึ้น ิั์ ผ ล ต ภณฑ อา่ นวา่ ผะ - หลดิ - ตะ - พัน ๔) สารประกอบอนิ ทรียท์ ส่ี งั เคราะหข์ ้นึ ใชแ้ ทนวัสดุธรรมชาติ ิ พลาสตก อา่ นวา่ พล้าด - สะ - ตกิ ๕) สทิ ธแิ ตผ่ เู้ ดียวทกี่ ฎหมายรบั รอง ิ ิ ิ์ ลขสทธ อ่านวา่ ลิก - ขะ - สดิ ๖) หมน่ั เสาะแสวงหาเพิม่ เตมิ โดยไมย่ อมอยนู่ ่ิง ข วนข ว า ย อ่านวา่ ขวน - ขวาย ๑๑

๗) วิธีการสง่ หนงั สือและหบี หอ่ ส่ิงของ ี ไ ป ร ษ ณ ย์ อา่ นวา่ ไปร - สะ - นี ๘) ที่ประทบั ชั่วคร้ังคราวสำหรับรบั รองพระเจา้ แผน่ ดินและ พระบรมราชวงศช์ ้นั สูง ั พลบพล า อา่ นวา่ พลบั - พลา ๙) แสดงออกมาให้เห็น ปร า กฏ อา่ นวา่ ปรา - กด ๑๐) ความเชื่อ, ความเลื่อมใส ั ศรทธา อ่านวา่ สัด - ทา ๑๒

เกณฑก์ ารให้คะแนน ตารางอกั ษร ประเด็น ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน การประเมิน คะแนน เขียนสะกดคำถูกตอ้ ง ๙-๑๐ คำ การสะกดคำ ๕ เขียนสะกดคำถกู ตอ้ ง ๗-๘ คำ ๔ เขียนสะกดคำถกู ตอ้ ง ๕-๖ คำ การเขยี น ๓ เขยี นสะกดคำถกู ต้อง ๓-๔ คำ คำอา่ น ๒ เขียนสะกดคำถูกตอ้ ง ๑-๒ คำ ๑ เขียนคำอา่ นถกู ตอ้ ง ๙-๑๐ คำ ๕ เขียนคำอ่านถกู ต้อง ๗-๘ คำ ๔ เขยี นคำอา่ นถกู ตอ้ ง ๕-๖ คำ ๓ เขียนคำอา่ นถูกต้อง ๓-๔ คำ ๒ เขยี นคำอา่ นถูกต้อง ๑-๒ คำ ๑ ๑๓

ฉนั คือใคร ใครคือฉัน คำสั่ง ใหน้ กั เรยี นเขียนคำจากภาพและอา่ นคำทก่ี ำหนดให้ แลว้ โยงเสน้ จับคกู่ บั ความหมายใหถ้ กู ต้อง ตวั อยา่ ง .......โ.ล..ห..ิต......... ๐. เลอื ด ๑. ......ส..ว..ร.ร..ค..์...... ก. ชื่อจังหวัดหน่ึง ๒. .....ก..า..ฬ..ส..ิน...ธ.์ุ.... ในภาคตะวันออก ๓. ....ค..อ..น..เ.ส..ิร..์ต...... เฉียงเหนอื ๔. ......ป..่พี...า.ท...ย..์ .... ๕. ......ล..า.ย..เ.ซ...น็ ...... ข. การแสดงดนตรี ต่อหน้าผ้ชู มโดย ๑๔ กำหนดรายการ แสดงท่ีแน่นอน ค. ช่อื เรียกการผสม วงดนตรไี ทย ง. โลกของเทวดา จ. ลายมอื ช่อื

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ฉนั คือใคร ใครคือฉนั ประเด็น ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน การประเมนิ คะแนน เขียนสะกดคำถูกต้อง ๙-๑๐ คำ การสะกดคำ ๕ เขียนสะกดคำถูกตอ้ ง ๗-๘ คำ ๔ เขยี นสะกดคำถกู ต้อง ๕-๖ คำ การอา่ นคำ ๓ เขียนสะกดคำถกู ต้อง ๓-๔ คำ ๒ เขียนสะกดคำถูกต้อง ๑-๒ คำ การโยงเสน้ ๑ อ่านคำถูกตอ้ ง ๙-๑๐ คำ ๕ อา่ นคำถกู ตอ้ ง ๗-๘ คำ ๔ อ่านคำถูกตอ้ ง ๕-๖ คำ ๓ อ่านคำถูกต้อง ๓-๔ คำ ๒ อ่านคำถูกต้อง ๑-๒ คำ ๑ โยงเส้นจบั คถู่ ูกต้อง ๕ คำ ๕ โยงเสน้ จบั คู่ถกู ตอ้ ง ๔ คำ ๔ โยงเส้นจบั คู่ถูกต้อง ๓ คำ ๓ โยงเส้นจบั คู่ถูกตอ้ ง ๒ คำ ๒ โยงเส้นจบั คู่ถกู ตอ้ ง ๑ คำ ๑ ๑๕

ประเอ๋ยประโยค คำสงั่ ให้นกั เรียนแต่งประโยคจากคำทกี่ ำหนดให้ ขอ้ ละ ๑ ประโยค ตวั อยา่ ง บรรพบรุ ุษ / ทาส …(ต…วั …อ…ย…่าง…)…บ…ร…ร…พ…บ…รุ ษุ…ข…อ…ง…ช…าว…ไ…ท…ยไ…ด…ร้ บั…ก.…า…รเ…ลิก…ท…า…ส… ๑. ขา้ วหลาม / กระบอก …………..…(…ต…วั …อย…า่ …ง…) …แม…่ซ…ื้อ…ข…้า…วห…ล…า…ม…๒……กร…ะ…บ…อ…ก…………… ๒. กฎจราจร / ปฏิบัติ …………..…(…ต…วั …อย…า่ …ง…) …เร…าต…อ้ …ง…ป…ฏบิ…ตั…ิต…า…ม…กฎ…จ…ร…า…จร……………… ๓. สวนสาธารณะ / พกั ผอ่ น …………..…(…ต…วั …อย…่า…ง…) …พ…อ่ พ…า…ฉ…นั …ไป…พ…ัก…ผ…อ่ …น…ท…สี่ …วน…ส…า…ธ…าร…ณ…ะ… ๔. พระมหากษวัตรยิ ์ / เทดิ ทนู …………..…(…ต…วั …อย…า่ …ง…) …ค…นไ…ท…ย…เท…ดิ …ท…ูน…พ…ระ…ม…ห…า…กษ…ตั…ร…ยิ …์ ……… ๕. บทเรยี น / ทบทวน …………..…(…ต…วั …อย…า่ …ง…) …ฉ…นั ท…บ…ท…ว…น…บ…ท…เร…ีย…น…ทุก…ค…ืน………………… ๑๖

๖. พฒั นา / หมู่บา้ น …………..………(…ต…วั …อย…่า…ง…) …เร…า…คว…ร…ช…ว่ …ยก…ัน…พ…ฒั …น…า…ห…ม…ู่บ…า้ น……… ๗. รอ้ งเพลง / เพลดิ เพลนิ …………..………(…ต…วั …อย…่า…ง…) …ฉ…นั ร…อ้ …ง…เพ…ล…ง…อย…า่ …ง…เพ…ล…ดิ …เพ…ล…ิน……… ๘. เรยี นรู้ / ส่งเสรมิ …………..………(…ต…วั …อย…่า…ง…) …กา…ร…อ…า่ น…ส…่ง…เส…ร…ิม…กา…ร…เร…ีย…น…รู้ ………… ๙. บริสทุ ธ์ิ / สดช่นื …………..………(…ต…วั …อย…่า…ง…) …ว…นั น…อ้ี…า…ก…าศ…บ…ร…สิ …ทุ …ธิ์ส…ด…ช…่ืน…………… ๑๐. ดแู ล / สม่ำเสมอ …………..………(…ต…ัว…อย…า่ …ง…) …ฉ…นั ด…ูแ…ล…ต…น้ …ไม…อ้ …ย…่าง…ส…ม…ำ่ …เส…ม…อ……… ๑๗

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเอย๋ ประโยค ประเดน็ ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนน การประเมนิ คะแนน เขียนสะกดคำถูกต้องทุกคำ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำ ผิด ๑-๓ คำ ๔ เขียนสะกดคำ ผดิ ๓-๖ คำ การแตง่ ๓ เขยี นสะกดคำ ผดิ ๗-๙ คำ ประโยค ๒ เขียนสะกดคำ ผดิ ๑๐ คำขึน้ ไป ๑ แตง่ ประโยคถูกต้องตามความหมายทกุ ประโยค ๕ แต่งประโยคไมม่ ีความหมาย หรือไมเ่ ปน็ ประโยค ๑-๒ ขอ้ ๔ แตง่ ประโยคไม่มคี วามหมาย หรอื ไมเ่ ปน็ ประโยค ๓-๔ ขอ้ ๓ แตง่ ประโยคไม่มีความหมาย หรือไมเ่ ป็นประโยค ๕-๖ ข้อ ๒ แต่งประโยคไม่มคี วามหมาย หรือไมเ่ ปน็ ประโยค ๗ ข้อข้นึ ไป ๑ ๑๘

คำไหนความหมายถูก คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ✓ หน้าคำที่ให้ความหมาย ไว้ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย  หน้าคำที่ให้ ความหมายไม่ถูกต้อง พร้อมเขียนคำอ่านให้ถูกต้อง ตัวอยา่ ง ๐.  สุนขั หมายถึง แมว ๐๐. ✓ อา่ นว่า สุ - นัก แพทย์ หมายถึง หมอรกั ษาโรค อ่านว่า แพด ๑. ✓ เกาเหลา หมายถงึ แกงมลี กั ษณะอยา่ งแกงจืด อา่ นวา่ เกา - เหลา ๒. ✓ ราษฎร หมายถงึ พลเมืองของประเทศ อา่ นว่า ราด - สะ - ดอน ๓. ✓ ปฏบิ ตั ิ หมายถึง กระทำตาม อ่านว่า ปะ - ติ - บัด ๔. ✓ ออฟฟศิ หมายถงึ สำนักงาน, ท่ีทำการ อา่ นวา่ อ๊อบ - ฟดิ ๑๙

๕. ✓ มารดา หมายถึง แม่ อ่านวา่ มาน - ดา ๖.  พฤกษา หมายถงึ ปา่ อ่านวา่ พรกึ - สา ๗. ✓ บุปผา หมายถงึ ดอกไม้ อา่ นว่า บบุ - ผา ๘. ✓ ขา้ พเจ้า หมายถงึ คำใชแ้ ทนตัวผ้พู ดู (เป็นทางการ) อ่านว่า ขา้ - พะ - เจา้ ๙. ✓ ร่นื รมย์ หมายถึง สบายใจ, บนั เทงิ อ่านวา่ ร่ืน - รม ๑๐.  จติ รกร หมายถึง น่าอัศจรรย์ อา่ นว่า จิด - ตระ - กอน คำไหนผิดบ้าง ? ........................................... ........................................... ........................................... ๒๐

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คำไหนความหมายถกู ประเด็น ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมนิ คะแนน ตอบถูก ๙-๑๐ คำ ความหมาย ๕ ตอบถูก ๗-๘ คำ ๔ ตอบถกู ๕-๖ คำ คำอา่ น ๓ ตอบถูก ๓-๔ คำ ๒ ตอบถกู ๑-๒ คำ ๑ เขียนคำอา่ นถูกทกุ คำ ๕ เขียนคำอ่านผดิ ๑-๒ คำ ๔ เขียนคำอ่านผดิ ๓-๔ คำ เขยี นคำอ่านผิด ๕-๖ คำ ๓ เขยี นคำอ่านผิด ๗ คำข้นี ไป ๒ ๑ ๒๑

ให้ภาพเลา่ เร่อื ง คำสง่ั ใหน้ ักเรยี นแตง่ เรอ่ื งตามจินตนาการจากภาพทกี่ ำหนดให้ และเลา่ ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟัง ชื่อเรื่อง ............อ..ย..ู่ใ..น..ด..ุล..พ...ิน..ิจ..ข..อ..ง..ผ..ู้ส..อ..น................... ..........................................อ..ย..ใู่..น..ด..ุล..พ...ิน..ิจ..ข..อ..ง..ผ..้สู ..อ..น................................... ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ๒๒

............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ๒๓

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ภาพเลา่ เรื่อง ประเด็น ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน การประเมนิ คะแนน เขยี นสะกดคำถกู ตอ้ งทกุ คำ การสะกดคำ ๕ เขียนสะกดคำผดิ ๑-๓ คำ ๔ เขยี นสะกดคำผดิ ๓-๖ คำ การแต่งเรือ่ ง ๓ เขยี นสะกดคำผิด ๗-๙ คำ ตาม ๒ เขยี นสะกดคำผิด ๑๐ คำขึน้ ไป ๑ มคี ำทมี่ าจากภาพ ๕ คำขนึ้ ไป จนิ ตนาการ ๕ มคี ำทม่ี าจากภาพ ๔ คำ ๔ มีคำทีม่ าจากภาพ ๓ คำ การเลา่ ๓ มคี ำท่ีมาจากภาพ ๒ คำ ออกเสยี ง ๒ มีคำที่มาจากภาพ ๑ คำ ๑ เลา่ ออกเสียงได้ถกู ต้อง ตามอกั ขรวธิ ี เสียงดังชดั เจน เวน้ จงั หวะเหมาะสม และใช้นำ้ เสยี งแสดงอารมณ์ไดไ้ พเราะ ๕ เล่าออกเสยี งได้ถูกตอ้ งตามอักขรวิธี เสียงดังชดั เจน เว้นจังหวะเหมาะสม แสดงอารมณใ์ นบางจงั หวะไดด้ ี ๔ เลา่ ออกเสยี งได้ถูกตอ้ งตามอักขรวิธี เสียงดังชดั เจน เว้นจงั หวะเหมาะสมและใชน้ ำ้ เสียงแสดงอารมณใ์ นบางจงั หวะ ๓ แต่ยงั ทำไดไ้ มด่ นี กั เลา่ ออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี เสยี งดงั ชดั เจน ๒ แต่ยังตอ้ งปรบั ปรงุ เร่ืองการเวน้ จงั หวะ เล่าออกเสียงได้ ๑ ๒๔

กะทกิ บั หนแู ปง้ คำสั่ง ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งเรือ่ ง “กะทิกับหนูแป้ง” ใหค้ ณุ ครฟู ัง แล้วตอบคำถาม กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำ หมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่า ข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกัน ชวั่ ฟา้ ดินสลาย กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาว จากผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธ แถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่กะทิไม่ว่าอะไร ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาส่ขู อหนูแป้งใหม่จนกว่าผใู้ หญ่จะใจออ่ น ฝันของกะทิพังพินาศเมื่อผู้ใหญ่บ้านยก หนูแป้ง ให้แต่งงานกับ ปลัดหนุ่มจากบางกอก กะทิรู้ข่าวจึงรีบไป หมายจะมายับย้ัง การแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านวางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุด หลุมพรางดักรอไว้ แต่หนูแป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนี ออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไมใ่ หต้ กหลุมพราง คนื นัน้ เปน็ คนื เดอื นแรม หนูแป้งวิง่ ฝา่ ความมืดออกมาเพอื่ ดักหน้า กะทิ กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ทันใดนั้น!! ๒๕

ร่างของหนูแป้งก็ร่วง หล่นลงไปในหลุมพรางของ ผู้ใหญ่บ้านผู้เป็นพ่อ ต่อหน้า ต่อตากะทิ กะทิก็รีบกระโดด ตามลงไปเพือ่ ชว่ ยเหลือหนูแป้ง ด้วยความดีใจของสมุนชาย ฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้าน จึงรีบ เข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุม มเี พียงกะทิผูเ้ ดยี ว รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อ ดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตากะทิตระกอง กอดทบั ร่างหนูแป้งลกู สาวของตน ท้ังสอง นอนตายคู่กันอย่างมคี วามสขุ เม่อื รอยย้ิม ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อ หน้าศพของลูกสาวว่า... “พอ่ ไม่น่าคดิ ทำลายความรกั ของลูกเลย” ตั้งแต่นั้น ขนมที่หอมหวานปรุงจาก แป้งและกะทิ บรรจงหยอด ลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็น สัญลักษณ์ว่า “จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป” จึงเป็นตัวแทนความรกั ของ กะทแิ ละหนูแป้ง และถกู เรยี กขานกนั ในนาม “ขนมแห่งความรัก” หรือ ขนม คน-รกั -กนั ตอ่ มาถูกเรยี กย่อ ๆ ว่า “ขนม ค-ร-ก” นนั่ เอง (ดัดแปลงจาก : ทรายขวัญ ชนะสิทธ์ิ) ๒๖

๑. จากเรื่อง “กะทกิ ับหนแู ปง้ ” ให้นักเรยี นจับใจความสำคญั ดังนี้ ๑.๑ ตัวละครมีใครบ้าง .....ก..ะ..ท..ิ..ห..น...ูแ..ป...ง้...แ..ล...ะ..ผ..ใู้..ห..ญ....บ่ ..้า..น............. ............................................................................................................ ๑.๒ ตัวละครกำลังทำอะไร ...ก..ะ..ท..กิ...บั ..ห...น...แู ..ป...ง้ .ต...ดิ..ก...บั ..ด...กั ..ข...อ..ง......... ..ผ...ู้ใ..ห..ญ....่บ...้า..น....แ..ล...ะ..เ.ส...ยี ..ช...วี ..ติ..ล...ง..ด..ว้...ย..ค...ว..า..ม...ร..กั ..ใ..น..ท...สี่..ดุ................................... ๑.๓ ตัวละครอยู่ทีไ่ หน ...ด..ง..ม...ะ..พ...ร..้า..ว..เ.ต..ยี้...................................... ................................................................................................................ ๑.๔ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อใด ...ห..ล...ัง..ว..นั...ล..อ..ย...ก..ร..ะ..ท..ง......................... ................................................................................................................ ๑.๕ เพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องน้ีขึ้น .เ..พ..ร..า..ะ..ก...ะ..ท..ิก...บั ..ห...น..ูแ..ป...ง้............ ..ร..กั..ก...ัน....แ..ต...่ผ...้ใู .ห...ญ...บ่...า้..น...ไ.ม...่เ.ต...็ม..ใ..จ..ใ..ห...ร้ ..ัก..ก...ัน.................................................. ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๑.๖ เรื่องราวเกิดขึ้นอยา่ งไร ก...ะ..ท..ิ.ก..อ..ด...ท..ับ...ร..่า..ง..ห...น..ูแ...ป...้ง..ใ.น...ก..ั.บ..ด...ัก... .ห...ล..มุ...พ...ร..า..ง..ข...อ..ง..ผ...ู้ใ.ห...ญ...่บ...้า..น....ท...้ัง..ส...อ..ง..น...อ..น...ต..า..ย...ค..ู่ก..นั...อ...ย..่า..ง..ม...คี ..ว..า..ม...ส..ขุ........... ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๒๗

๒. ถ้านักเรยี นเปน็ “กะทิ” นักเรียนจะทำอยา่ งไรให้ผใู้ หญบ่ า้ นเหน็ ใจ ..........(..ต..วั...อ..ย..า่..ง..)...พ...ย...า..ย..า..ม...ท...ำ..ง..า..น...เ.ก..บ็...อ..อ...ม..ใ..ห...ช้ ..ีว...ติ ..ม...่ัน...ค..ง....เ.พ...อื่..เ..อ..า..ช...น...ะ.. .ใ..จ..ผ...ู้ใ.ห...ญ...บ่...้า..น...ใ..ห..ไ้..ด..้..แ..ม...ต้ ..้อ...ง..ใ.ช...เ้.ว...ล..า..ก...ต็ ..า..ม................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๓. ถา้ นกั เรียนเปน็ “หนแู ปง้ ” นักเรียนจะทำอยา่ งไร เม่ือผู้ใหญ่บ้าน ไมเ่ ตม็ ใจให้รกั กับกะทิ ....................................อ..ย..ู่ใ..น..ด...ลุ ..พ...นิ...ิจ..ข..อ...ง..ผ..สู้..อ...น..................................... ................................................................................................................ ........................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๒๘

๔. จากเร่อื ง “กะทกิ ับหนแู ปง้ ” สอนให้รู้ว่าอยา่ งไรบ้าง .....(..ต..วั...อ..ย...า่ ..ง..).........๑......ต..้อ...ง..ค..ดิ...ก..่อ..น...ล..ง..ม...ือ..ท...ำ..เ..ส..ม...อ.................................... ..............................๒......ค...น..เ..ร..า..ต...้อ..ง..ร...ู้จ..ั.ก..ฟ...ัง..เ..ห...ต..ุผ...ล...ข..อ...ง..ผ..ู.้อ..ื่น.....แ..ล...ะ..ร..ู้จ...ัก... ..พ...จิ...า..ร..ณ....า..ค..ว...า..ม..ส...ม..เ..ห..ต...ุส..ม...ผ..ล...น...้นั ............................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๒๙

เกณฑ์การให้คะแนน กะทิกบั หนูแป้ง ประเดน็ ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน การประเมนิ คะแนน เขยี นสะกดคำถูกตอ้ งทกุ คำ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำ ผิด ๑-๓ คำ ๔ เขียนสะกดคำ ผิด ๓-๖ คำ การตอบ ๓ เขยี นสะกดคำ ผิด ๗-๙ คำ คำถาม ๒ เขยี นสะกดคำ ผิด ๑๐ คำขน้ึ ไป ๑ ตอบคำถามได้ครบถ้วน ตรงประเด็น ชัดเจน การอา่ น และเสนอความคิดเห็นในทางสร้างสรรค์ ออกเสียง ๕ ตอบคำถามไดค้ รบถ้วน ตรงประเดน็ ชัดเจน ตอบคำถามได้ครบถว้ น ตรงประเด็น ๔ ตอบคำถามไดค้ รบถ้วน ๓ ตอบคำถามได้ ๒ อ่านออกเสียงไดถ้ กู ต้อง ตามอักขรวธิ ี เสยี งดงั ชดั เจน ๑ เวน้ จังหวะเหมาะสม และใชน้ ้ำเสยี งแสดงอารมณ์ไดไ้ พเราะ อ่านออกเสยี งไดถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี เสียงดงั ชดั เจน ๕ เว้นจังหวะเหมาะสม แสดงอารมณใ์ นบางจงั หวะได้ดี อ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้องตามอกั ขรวิธี เสยี งดังชดั เจน ๔ เวน้ จังหวะเหมาะสมและใช้นำ้ เสียงแสดงอารมณ์ในบางจงั หวะ แต่ยังทำได้ไม่ดีนกั ๓ อา่ นออกเสยี งไดถ้ กู ต้องตามอกั ขรวธิ ี เสียงดังชัดเจน แต่ยงั ตอ้ งปรับปรงุ เรือ่ งการเว้นจังหวะ ๒ อ่านออกเสียงได้ ๑ ๓๐

อินเทอรเ์ น็ต ๏ อินเทอรเ์ นต็ เกล็ดดี มเี หลือหลาย เชน่ ซ้ือขาย ง่ายกบั ธรุ กจิ เป็นส่อื กลาง สร้างเสริม เพ่ิมพาณชิ ย์ เร็วดง่ั คิด ตดิ ตอ่ ย่อเวลา ชว่ ยสอื่ สาร ผา่ นไว ได้สรา้ งสรรค์ ส่งต่อกนั ปนั แบ่ง แหล่งศกึ ษา ใช้ถกู ทาง อย่างดี มปี ญั ญา สื่อกลางพา มาคู่ อยหู่ นา้ จอ (วัลลภ มากมี : ประพนั ธ์) คำถามชวนคดิ ๑. รอ้ ยกรองบทน้ีสอนให้ร้วู ่าอยา่ งไร ......(..ต..ัว..อ...ย..า่..ง..)...ค...ว..ร..ใ..ช..้อ...นิ ..เ..ท..อ...ร..เ์.น...ต็..ใ..ห...เ้ .ป...็น..ป...ร..ะ..โ..ย..ช...น..์ม...า..ก...ท..่สี...ดุ ................. ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๓๑

๒. นักเรยี นคดิ ว่าอนิ เทอร์เนต็ มีประโยชน์อยา่ งไรบา้ ง ......(.ต...ัว..อ...ย..า่..ง..)...๑.......ส..า..ม...า..ร..ถ..ต...ดิ..ต...อ่..ส...ื่อ..ส...า..ร..ก..บั...บ...ุค..ค...ล..อ...นื่ ..ท...ว่ั..โ..ล..ก.................. ........................๒.......ส..า..ม...า..ร..ถ..ค...้น..ห...า..ข...้อ..ม...ลู..ต...า่ ..ง...ๆ....ไ..ด...้เ.ส..ม...อื ..น...ก..บั...เ.ร..า..ไ..ป......... ......น...ั่ง.อ...ย..ู่ท...่หี ...้อ..ง..ส...ม..ดุ ...ข..น...า..ด...ใ.ห...ญ...ไ่..ด..ข้...อ้ ..ม...ูล..ม...า..ก..ม...า..ย...จ..า..ก..ท...ว่ั ..ท...กุ ..ม...ุม...โ.ล...ก....... ........................๓.......ส..า..ม...า..ร..ถ..ต...ดิ..ต...า..ม...เ.ค..ล...อื่ ..น...ไ.ห...ว..จ...า..ก..ข...า่..ว..ส...า..ร..ท...ั่ว..โ..ล..ก......... ......อ..ย...่า..ง..ร..ว..ด...เ.ร..็ว....................................................................................... ........................๔.......ส..า..ม...า..ร..ถ..ซ...้อื ..ส...นิ ...ค..้า.....โ..ด..ย..ไ..ม...่ต..อ้ ..ง..เ..ด..นิ...ท...า..ง..ไ.ป...ย..งั.............. ......ร..้า..น...ค..้า.....ซ...้ือ..ผ...่า..น..ท...า..ง..เ.ว...บ็ ...ไ.ซ...ต..์ท...ใ่ี..ห..บ้...ร..กิ...า..ร........................................... ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ............................................................................................................... ๓๒

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน อนิ เทอรเ์ นต็ ประเด็น ระดับ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมิน คะแนน เขียนสะกดคำถูกต้องทกุ คำ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำ ผดิ ๑-๓ คำ ๔ เขยี นสะกดคำ ผิด ๓-๖ คำ การตอบ ๓ เขยี นสะกดคำ ผดิ ๗-๙ คำ คำถาม ๒ เขยี นสะกดคำ ผดิ ๑๐ คำขึน้ ไป ๑ ตอบคำถามไดค้ รบถว้ น ตรงประเด็น ชัดเจน และเสนอความคดิ เห็นในทางสร้างสรรค์ ๕ ตอบคำถามไดค้ รบถว้ น ตรงประเด็น ชัดเจน ตอบคำถามไดค้ รบถว้ น ตรงประเด็น ๔ ตอบคำถามไดค้ รบถว้ น ๓ ตอบคำถามได้ ๒ ๑ ๓๓

ทำลายสายตา คำส่งั ใหน้ กั เรียนอ่านเรื่อง “ทำลายสายตา” แล้วตอบคำถาม น้อง ๆ รู้ไหม แสงสีฟ้าที่เราสัมผัสใน ชีวิตประจำวันถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่ภัยของมันส่งผล จนถึงขั้นเกิดอาการเสือ่ มของเยอื่ ช้ันในดวงตาเลยทีเดียว นะครับ แต่ไม่ต้องกลัว แค่น้อง ๆ ลดการดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ก็สามารถปอ้ งกันสายตาเราจากแสงสฟี ้าได้แล้วครับ คำถามชวนคิด อริญชย์ สงวนวงษ์ : เรยี บเรียง น้อง ๆ คิดวา่ อุปกรณ์อะไรมีแสงสฟี ้าบ้าง ....(.ต...ัว..อ...ย..่า..ง..)...๑......โ..ท..ร..ศ...พั...ท...ม์ ..ือ...ถ..ือ............................................................... .....................๒......แ...ท..บ็...เ.ล..ต็...................................................................... ......................๓.......โ.ท...ร..ท...ศั ..น...์ ...................................................................... ......................๔.......จ..อ...ค..อ...ม..พ...วิ..เ..ต..อ...ร..์ .......................................................... ......................๕.......ห..ล...อ..ด...ไ.ฟ...ฟ...า้................................................................... ๓๔

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ทำลายสายตา ประเด็น ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมิน คะแนน เขียนสะกดคำถกู ต้องทกุ คำ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๔ เขียนสะกดคำผดิ ๓-๖ คำ การตอบ ๓ เขยี นสะกดคำผิด ๗-๙ คำ คำถาม ๒ เขยี นสะกดคำผดิ ๑๐ คำข้นึ ไป ๑ ตอบคำถามไดค้ รบถว้ น ตรงประเดน็ ชดั เจน และเสนอความคดิ เหน็ ในทางสรา้ งสรรค์ ๕ ตอบคำถามได้ครบถว้ น ตรงประเดน็ ชัดเจน ตอบคำถามได้ครบถว้ น ตรงประเดน็ ๔ ตอบคำถามได้ครบถ้วน ๓ ตอบคำถามได้ ๒ ๑ ๓๕

ซกั ประหยดั คำสง่ั ให้นกั เรียนอ่านเร่อื ง “ซักประหยัด” แลว้ ตอบคำถาม ประหยัดน้ำ! เวลาซักผ้าอย่างไรดี วันนี้พี่ จ๋ามีวิธีมาแนะนำเพียงแค่น้อง ๆ ซักผ้าแบบ ซักมือ ก็ประหยัดน้ำได้แล้วค่ะ แต่ถ้าน้อง ๆ จำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้า ควรซักผ้าในปริมาณท่ี มากทส่ี ดุ เทา่ นกี้ ป็ ระหยดั น้ำได้แล้วจ้า อรญิ ชย์ สงวนวงษ์ : เรยี บเรียง คำถามชวนคิด นอ้ ง ๆ มีวิธซี ักผ้าให้คณุ พอ่ คุณแม่อย่างไรบ้าง .....................................อ...ย..ู่ใ..น...ด..ลุ ...พ...ิน..จิ ...ข..อ...ง..ผ..สู้ ...อ..น...................................... ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ................................................................................................................ ๓๖

เกณฑก์ ารให้คะแนน ซกั ประหยัด ประเด็น ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมิน คะแนน เขียนสะกดคำถกู ตอ้ งทุกคำ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำ ผดิ ๑-๓ คำ ๔ เขียนสะกดคำ ผดิ ๓-๖ คำ การตอบ ๓ เขียนสะกดคำ ผิด ๗-๙ คำ คำถาม ๒ เขียนสะกดคำ ผดิ ๑๐ คำขึน้ ไป ๑ ตอบคำถามได้ครบถ้วน ตรงประเด็น ชดั เจน และเสนอความคิดเหน็ ในทางสร้างสรรค์ ๕ ตอบคำถามได้ครบถว้ น ตรงประเดน็ ชดั เจน ตอบคำถามได้ครบถว้ น ตรงประเดน็ ๔ ตอบคำถามได้ครบถ้วน ๓ ตอบคำถามได้ ๒ ๑ ๓๗

สารทพวน ประเพณีในนครนายก คำสัง่ ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงเรอ่ื ง “สารทพวน ประเพณีในนครนายก” ให้คณุ ครฟู ัง และตอบคำถาม ประเพณีสารทพวน เป็นประเพณีหนึ่งของชาวไทยพวน เปน็ กล่มุ ชาติพันธไุ์ ทที่ใช้ภาษาพวน ซึง่ อพยพมาอย่ใู นจังหวดั นครนายก มีมากที่สุดที่อำเภอปากพลี ชาวพวนเหล่านี้ยังคงยึดถือประเพณี วฒั นธรรมทปี่ ฏิบตั ติ ่อกนั มาแต่คร้งั ยงั อยูท่ ่ีประเทศลาว ชาวไทยพวนใน อำเภอปากพลี นับถือพุทธศาสนาเช่นเดียวกับคนไทย ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ที่ชาวพวนถือปฏิบัติกันใน ๑ ปี ก็จะมีลักษณะคล้าย และต่างกับของคนไทย ซึ่งบางอย่างมีความเป็นเอกลักษณ์ของ ชาวไทยพวน ๓๘

ประเพณีวันสารทในอำเภอปากพลี จะทำบุญวันสารท ๓ ระยะ คือ สารทพวน จะทำในหมู่บ้านไทยพวน ในวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ สารทลาว จะทำในหมู่บ้านไทยลาวทุกบ้านในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ สารทไทย ในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ทุกหมู่บ้าน จะทำบุญสารทไทย รวมทั้งไทยพวนและไทยลาว ซึ่งได้ทำสารทพวน หรือสารทลาวไปแลว้ ประเพณีสารทพวนชาวบ้านจะนำกระยาสารทพร้อมอาหารคาว หวานไปทำบุญที่วัด ทางวัดจะนิมนต์พระวัดในหมู่บ้านอื่นที่ไม่ได้ทำ สารทนั้น ๆ มาร่วมด้วย เมื่อเสร็จพิธีแล้ว จะแบ่งกระยาสารท ให้กับ พระวัดอนื่ ทร่ี บั นมิ นตส์ ำหรบั ไปฉันทวี่ ดั ของตน (ขอบคุณข้อมูลจาก : พ.อ.โสภณ เครอื เพ็ชร)์ ๓๙

อา่ นจรงิ หรือเปลา่ คำส่ัง ใหน้ กั เรียนกากบาท  ทบั ตัวเลือกที่ถกู ต้องทส่ี ดุ (ข้อละ ๑ คะแนน) ตัวอย่าง ๐. “นกกระจอก” เป็นสตั ว์ชนิดใด ก. สตั วบ์ ก ข. สัตว์นำ้ ค. สตั วป์ ีก ๑. ประเพณสี ารทพวน เดิมเป็นวัฒนธรรมท่สี บื ต่อกนั มา จากประเทศใด ก. ประเทศพมา่ ข. ประเทศลาว ค. ประเทศเขมร ง. ประเทศอินเดีย ๒. ชาวไทยพวน นับถือศาสนาใด ก. คริสต์ ข. อิสลาม ค. พทุ ธศาสนา ง. พราหมณ์ – ฮินดู ๔๐

๓. สารทพวน จะทำในวนั ที่เทา่ ไหร่ ก. วนั แรม ๑๔ ค่ำ เดอื น ๘ ข. วันแรม ๑๔ คำ่ เดือน ๙ ค. วันแรม ๑๕ คำ่ เดอื น ๙ ง. วันแรม ๑๕ คำ่ เดอื น ๑๐ ๔. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. สารทไทยจะจัดขน้ึ หลงั สารทพวน ข. สารทพวนจะทำในหมู่บา้ นไทยพมา่ ค. เมอื่ เสรจ็ พธิ แี ลว้ จะแบง่ ขา้ วของเครอื่ งใชใ้ ห้ชาวบ้าน ง. ประเพณวี นั สารทในอำเภอปากพลีจะทำบญุ ๒ ระยะ ๕. ประเพณีสารทชาวบ้านจะนำส่ิงใดไปทำบุญท่วี ัด ก. ขา้ วสารพรอ้ มอาหารแหง้ ข. นำ้ ผึง้ ผัก และผลไมต้ ามฤดกู าล ค. กลว้ ยหอม ข้าวเหนยี ว และอาหาร ง. กระยาสารทพร้อมอาหารคาวหวาน ๔๑

ขึ้นบา้ นใหม่ ของชาวไทยพวน คำสง่ั ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งเรอ่ื ง “ขนึ้ บา้ นใหม่ ของชาวไทยพวน” ใหค้ ณุ ครฟู งั และตอบคำถาม ประเพณีเอาะเฮือน เป็นประเพณีขึ้นบ้านใหม่ของไทยพวน ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ที่สืบทอดประเพณี ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ยังคงปฏิบัติ สบื ทอดกนั มาจนถงึ สมยั ปัจจบุ นั วิถีชีวิตของชาวชนบทไทยพวนนั้น สังคมครอบครัวมี ความเปน็ อยทู่ ่ผี ูกพนั กนั ในหมเู่ ครอื ญาติ เม่ือมีครอบครวั ก็จะอยู่รวมกัน ในเรือนหลังเดียวกัน เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ก็จะแยกตัวออกไปปลูกสร้างเรือนใหม่ แต่หากแต่งงานแล้วยังไม่มี สมาชิกมากหรือผู้ทีแ่ ต่งงานใหม่ ก็อาจยังคงอยูร่ วมกันกับพ่อแม่ และ เ ม ื ่ อ เ ห ็ น ว ่ า ใ น ค ร ั ว เ ร ื อ น น ั ้ น ม ี ส ม า ช ิ ก ม า ก เ ก ิ น ไ ป แ ล ้ ว ห ร ื อ มี ๔๒

ความพร้อมที่จะสร้างบ้านเรือนขึ้นใหม่ก็จะแยกตัวออกไปปลูกสร้าง เรือนที่เรียกว่า “เรือนหอ” แต่ยังคงปลูกเรือนใกล้กับเรือนของ พ่อแม่นั้นเอง เมื่อสร้างบ้านเรือนเสร็จแล้วก็จะต้องทำบุญข้ึน บ้านใหม่ ประกอบพิธีตามที่เชื่อถือกันว่าเป็นสิริมงคล นำความสุข ความเจริญมาสู่คนในครอบครัว (ขอบคณุ ข้อมูลจาก : นายเพ็ชร บญุ เพื่อน) ๔๓

อ่านจริงหรือเปลา่ คำส่ัง ให้นกั เรียนกากบาท  ทับตัวเลอื กทถี่ กู ตอ้ งท่สี ุด (ข้อละ ๑ คะแนน) ตวั อยา่ ง ๐. “นกกระจอก” เปน็ สัตวช์ นิดใด ก. สัตวบ์ ก ข. สัตวน์ ำ้ ค. สัตวป์ ีก ๑. ประเพณีขนึ้ บ้านใหมข่ องไทยพวน มชี ่อื เรียกอีกอย่างหนงึ่ ว่าอะไร ก. ประเพณกี ำฟา้ ข. ประเพณบี ุญขา้ วจ่ี ค. ประเพณีเอาะเฮอื น ง. ประเพณกี วนขา้ วทพิ ย์ ๒. ถา้ ครวั เรือนนน้ั มสี มาชิกมากเกนิ ไป ก็จะให้สรา้ ง บา้ นเรอื นใหม่ ซ่งึ เรยี กอกี อยา่ งว่าอะไร ก. เรอื นใหม่ ข. เรอื นสร้าง ค. เรอื นลกู ง. เรอื นหอ ๔๔

๓. ประเพณีขน้ึ บา้ นใหมข่ องไทยพวน เกดิ ข้ึนทต่ี ำบลอะไรในจงั หวัดนครนายก ก. ท่าแดง ข. เกาะหวาย ค. ปากพลี ง. ดงละคร ๔. ขอ้ ใดอธบิ ายวิถีชวี ิตของชาวไทยพวนไดด้ ที ่สี ดุ ก. สมาชกิ ในครอบครวั จะอยรู่ ่วมกนั ในหลังเดยี วกันเสมอ ไม่มกี ารแยกบ้านใหม่ ข. ถา้ แต่งงานแล้วยังไมม่ ีสมาชิกมาก กอ็ าจจะยงั คงอยู่ รวมกนั กับพอ่ แม่ ค. สมาชิดในครอบครวั จะแยกกันอยู่ ตา่ งคนต่างมวี ิถีชวี ิต เปน็ ของตนเอง ง. เมือ่ มสี มาชกิ ในครอบครัวเพ่มิ มากขนึ้ ก็จะแยกตัว ออกไปปลูกสรา้ งเรอื นใหม่ใหไ้ กลจากพ่อแม่ ๕. การปลกู “เรือนหอ” ของชาวไทยพวน มลี ักษณะอย่างไร ก. ปลกู ในทด่ี ินของคคู่ รอง ข. ปลูกบรเิ วณท่ีมีนำ้ ไหลผา่ น ค. ปลูกเรือนใกล้กับเรอื นของพอ่ แม่ ง. ปลูกบา้ นเรยี งเป็นแถวตอ่ กบั บ้านของพอ่ แม่ ๔๕

คำท่ีหนูอา่ นออกเขยี นได้ คำสง่ั ใหน้ กั เรียนคัดลายมือคำทห่ี นอู ่านออกเขยี นไดจ้ ากใน หนงั สือเล่มนี้ อย่างนอ้ ย ๑๕ คำ .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................................. .................................. .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ......................... .............................................................................................................................................. ..................... ๔๖

................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................................. .................................. .............................................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ..................... ๔๗


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook