หนงั สอื ทร่ี ะลกึ การจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลองประจาหนว่ ย ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก
หนงั สอื ทรี่ ะลกึ การจดั สร้างการจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลองประจาหน่วยตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เนอ่ื งในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก “จดั พิมพเ์ พื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบชู า สงั ฆะบูชา” พมิ พ์คร้ังแรก : เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวนพมิ พ์ : เล่ม เรียบเรียงโดย :คณะกรรมการจดั สร้างพระพุทธชินราชจาลองประจาหน่วยตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก จดั พมิ พ์โดย:คณะกรรมการจดั สร้างหลวงพ่อพระพุทธชินราชจาลองประจาหน่วยตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก สงวนสิทธ์ิ:หา้ มคดั ลอก ตดั ตอน เปล่ียนแปลง แกไ้ ข ปรับปรุงขอ้ ความใด ๆ ท้งั สิ้น หรือ นาไปพมิ พจ์ าหน่าย หากท่านประสงคจ์ ะพมิ พแ์ จกเป็นธรรมทานโปรดติดต่อ ตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก ข้อมูลทำงบรรณำนุกรม: เอกสารจดั สร้างพระพุทธชินราชจาลองประจาหน่วยตารวจภูธรจงั หวดั พิษณุโลก เน่ืองในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก หนงั สือประวตั ิหลวงพ่อพระพทุ ธชิราช พมิ พท์ ่ี: โฟกสั ปริ้น อาเภอเมือง จงั หวดั พิษณุโลก
หนงั สอื ทรี่ ะลกึ การจดั สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลอง ประจาหนว่ ยตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เนอื่ งในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก
คาปรารภ พระพุทธชนิ ราชไดร้ บั การยกยอ่ งใหเ้ ป็นหน่งึ ในประตมิ ากรรมพทุ ธศลิ ป์ อนั สงู สดุ ของ ไทย เป็นพระพุทธรปู ปางมารวชิ ยั ใชช้ ่างจากเมอื งศรสี ชั นาลยั และเมอื งหรภิ ุญชยั หลอ่ ทองสมั ฤทธิ์ “พระพทุ ธชนิ ราช” ทว่ี จิ ติ รงดงามตามศลิ ปะสโุ ขทยั คอื เสน้ รอบนอกพระวรกายอ่อนชอ้ ย ชายผา้ สงั ฆาฏิ แยกเป็นเขย้ี วตะขาบ พระพกั ตรเ์ อบิ อมิ่ ค่อนขา้ งกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรปู เปลวเพลงิ มี ลกั ษณะพเิ ศษเรยี กวา่ ทฆี งคุลี คอื ปลายน้วิ พระหตั ถท์ งั้ สน่ี ้วิ ยาวเสมอกนั ซมุ้ เรอื นแกว้ สรา้ งจากไม้ แกะสลกั ในสมยั อยธุ ยา แกะสลกั เป็นตวั มกร ลกั ษณะลาตวั คลา้ ยมงั กร มงี วงคลา้ ยชา้ ง อย่ตู รงปลายซุม้ และมลี าตวั เหรา (คลา้ ยจระเข)้ กลางซมุ้ และมที า้ วเวสสุวรรณ และอาฬวกยกั ษ์ เทพอสุราปกป้อง พระองคอ์ ยสู่ องตน ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก มปี ระวตั คิ วามเป็นมาอนั ยาวนาน ถงึ ๘๔ ปี มกี ารยา้ ยสถานทท่ี า การหลายครงั้ จนถงึ สถานทป่ี ัจจุบนั คอื เลขท่ี ๒๓๔ หมู่ ๕ ตาบลหวั รอ อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ตงั้ แต่ ปี ๒๕๕๘ เป็นตน้ มาแลว้ แต่ยงั ไม่มพี ระพทุ ธรปู ประจาหน่วยของตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก คณะกรรมการจดั สรา้ งพระพทุ ธชนิ ราชซง่ึ ประกอบไปดว้ ยหลายหน่วย อาทิ คณะกรรมการตรวจสอบการ บรหิ ารงานขา้ ราชการตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลก ผบู้ งั คบั บญั ชา หวั หน้าสถานที ุกแห่งในสงั กดั จงึ มคี วาม ประสงคเ์ พอ่ื เป็นศริ มิ งคลและเคารพบูชาเป็นขวญั กาลงั ใจใหก้ บั กาลงั พลในหน่วยตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก จงึ นบั เป็นบุญกุศลอนั ยงิ่ ใหญ่ทผ่ี มไดม้ โี อกาสเป็นสว่ นหน่ึงในการสรา้ งพระประธานประจา หน่วยในครงั้ น้เี น่อื งในโอกาสมาดารงตาแหน่งผบู้ งั คบั การตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลกและครบรอบ ๘๔ ปีของตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ในโอกาสอนั เป็นมงคลน้ี ผมขออาราธนาคุณพระศรรี ตั นตรยั และพระพุทธานุภาพแห่งพระ พุทธชนิ ราชจงดลบนั ดาลใหค้ ณะทางาน ทงั้ ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง ทกุ ทา่ นและครอบครวั ตลอดจนพุทธศาสนิกชนผู้ มติ ศรทธา ประสบแตค่ วามสขุ ความเจรญิ ดว้ จตุรพธิ พรชยั แคลว้ คลาดปราศจาดอนั ตรายทงั้ ปวง พลตารวจตรี ( ธวชั วงคส์ งา่ ) ผบู้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก
คำนำ จากการสรา้ งพระพุทธชนิ ราช ทม่ี ปี ระวตั มิ าอย่างยาวนาน เร่อื งเล่าขานทเ่ี ลา่ ต่อกนั มา การ เปลย่ี นแปลงการพฒั นาของสภาพวดั และ สภาพแวดลอ้ มของ กาลเวลาผา่ นไปจากสภาพภูมปิ ระเทศ การพฒั นาปรบั ปรุงวดั ประเพณี วฒั นธรรม แตย่ งั คงเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถน่ิ ไว้ จากคากลา่ วทว่ี า่ วฒั นธรรม คอื วถิ ชี วี ติ ถอื เป็นทุนทางสงั คม และศกั ยภาพทส่ี าคญั ยงิ่ ของชุมชนทอ้ งถนิ่ และสงั คมไทย ท่ี ไดแ้ สดงออกในรปู แบบและวธิ กี ารตา่ งๆ ทงั้ ใน รปู แบบของขนบธรรมเนยี มประเพณี ภมู ปิ ัญญา เคร่อื งมอื เคร่อื งใชใ้ นการทามาหากนิ ความเช่อื แหล่ง วฒั นธรรม ศลิ ปวตั ถุ โบราณสถาน ทก่ี ล่าวมาน้ี สะทอ้ นให้ เหน็ ถงึ คุณคา่ และความสาคญั ของวฒั นธรรม ซง่ึ เป็นศกั ยภาพและทุนทางสงั คม สวู่ ฒั นธรรม ในการจดั ทาหนงั สอื จดั สรา้ งพระพุทธชนิ ราชจาลองประจาหน่วยตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก เน่อื งในโอกาสครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลกครงั้ น้ี ไดร้ บั การสนบั สนุนจากทุกฝ่ายจงึ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สอื เลม่ น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผสู้ นใจเรยี นรตู้ ่อไป ขอขอบคุณทุก ทา่ นทใ่ี หข้ อ้ มลู ในการ จดั ทาหนงั สอื เลม่ น้ี ทาใหก้ ารจดั ทาหนงั สอื ประสบความสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์ วฒั นธรรมจงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี จงึ หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ ว่าหนงั สอื เลม่ น้จี ะเป็นประโยชน์ต่อไป พนั ตารวจเอก ( ธนารกั ษ์ ปาระมสี า ) รองผบู้ งั คบั การตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก
สารบญั ประวตั พิ ระพุทธชนิ ราช ประวตั พิ อ่ ขนุ ศณีอนิ ทราทติ ย์ ประวตั พิ ระนเรศวรมหาราช ประวตั ติ ารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก วตั ปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งพระประธานประจาหน่วย ประมวลภาพการบวงสรวง พระพุทธชนิ ราช พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช รายนามพระเถราจารยเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง ภาพพธิ เี ททอง สรา้ งพระพุทธชนิ ราชจาลอง คาบูชาพระพุทธชนิ ราช รายนามพระเถราจารยเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ในพธิ พี ุทธาภเิ ษก ภาพพระเถราจารยเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ ในพธิ พี ุทธาภเิ ษก รายนามพระเถราจารยผ์ ทู้ รงวทิ ยาคณุ นงั่ ปรก ในพธิ พี ุทธภเิ ษก ภาพพระเถราจารยผ์ ทู้ รงวทิ ยาคณุ นงั่ ปรกอธฐิ านจติ พระพทุ ธชนิ ราชจาลอง ๒๙ น้วิ ประจาหน่วยตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก รายนามพระเถราจารยผ์ จู้ ารกึ อกั ขระในแผ่น ทอง นาก เงนิ ภาพพระเถราจารญผ์ ทู้ รงจารกึ อกั ขระ(จาน) ในแผ่น ทอง นาก เงนิ ภาพแผ่นทอง ทอง นาก เงนิ ทพ่ี ระเถราจารยเ์ มตตาจารและประสาทวทิ ยาคณุ ในการสรา้ งวตั ถุมงคล ภาพพระพทุ ธรปู พระพุทธชนิ ราช ขนาด ๙.๙ น้วิ ,ขนาด ๕.๙ น้วิ เหรยี ญพระพทุ ธชนิ ราช องคส์ มเดจ็ พระนเรศวมหาราช เหรยี ญพระพทุ ธชนิ ราช พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ ตวั อย่างการปัน้ หุ่นขผ้ี ง้ึ พระพุทธชนิ ราช ประจาหน่วย ๒๙ น้วิ ตวั อย่างการปัน้ หุ่นขผ้ี ง้ึ พระพุทธชนิ ราช ประจาหน่วย ๙.๙ น้วิ ตวั อย่างการปัน้ หุ่นขผ้ี ง้ึ พระพุทธชนิ ราช ประจาหน่วย ๕.๙ น้วิ ประมวลภาพ การจดั สรา้ ง ตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ ตวั อย่างใบโบชวั รใ์ นการจดั สรา้ งพระพุทธชนิ ราช ภาคผนวก หนงั สอื ตอบรบั ในการจดั สรา้ ง หนงั สอื ขออนุญาตแบบสรา้ งหอพระประจาหน่วย หนงั สอื สญั ญาในการวา่ จา้ งสรา้ งพระพุทธชนิ ราช คาสงั่ แต่งตงั้ คณะกรรมการและคณะทางานจดั สรา้ งพระพทุ ธรปู
๔ ประวตั ิพระพุทธชินราช พระพทุ ธชินราช ประดษิ ฐานอยู่ ณ วหิ ารดา้ นตะวนั ตก ในวดั พระศรรี ตั นมหาธาตวุ รมหาวหิ าร จงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยั ขนดใหญ่หลอ่ ดว้ ยทองสมั ฤทธิ์ ตานานการสรา้ งพระพุทธชนิ ราช ปรากฏหลกั ฐานทางโบราณคดี สนั นษิ ฐานวา่ สรา้ งขน้ึ ในปี พ.ศ. 1900 ตรงกบั รชั สมยั พระมหาธรรม ราชาท่ี 1 (ลไิ ทย) รชั กาลท่ี ๕ แห่งราชวงคพ์ ระรว่ ง พระมหากษตั รยิ แ์ หง่ กรงุ สโุ ขทยั พระพทุ ธรปู ทส่ี รา้ ง คราวเดยี วกนั มี ๓ องค์ คอื พระพทุ ธชนิ ราช พระพทุ ธชนิ สหี ์ แล พระศรศี าสดา พระพุทธชนิ ราช พระพุทธรูปหล่อทงั้ ๓ องค์ มขี นาดตา่ งกนั คอื พระพุทธชนิ ราช หน้าตกั กวา้ ง ๕ ศอกคบื ๕ น้ิว พระพุทธ ชนิ สหี ์ หน้าตกั กวา้ ง ๕ ศอกคบื ๔ น้วิ พระศรศี าสดา หน้าตกั กวา้ ง ๕ ศอกคบื ๖ น้วิ พระพทุ ธชนิ ราช ไดร้ บั การยอมรบั ว่าเป็นพระพทุ ธรูปทม่ี พี ทุ ธลกั ษณะงดงามทส่ี ดุ องคห์ น่งึ และยงั เป็นพระพุทธรปู ท่ี นยิ มจาลองกนั มากทส่ี ดุ ในประเทศไทย นอกจากน้ยี งั เป็นพระพุทธรปู ทป่ี ระชาชนชาวไทย ศรทั ธา และ นยิ มเดนิ ทางมากราบไหวม้ ากทส่ี ดุ องคห์ น่งึ ดว้ ย พระพุทธชนิ ราช ไม่ปรากฏหลกั ฐานแน่ชดั วา่ สรา้ งในสมยั ใด คงมแี ต่พงศาวดารเหนอื ซง่ึ เป็น เอกสารทเ่ี ลา่ ถงึ ตานานเมอื งเหนือเร่อื งตา่ ง ๆ สมยั กรงุ ศรอี ยุธยา ถูกเรยี บเรยี งขน้ึ ใหม่โดยพระวเิ ชยี ร ปรชี า (น้อย) ในปี พ.ศ. 2350 ทอ่ี า้ งถงึ กษตั รยิ เ์ ชยี งแสนพระนามพระเจา้ ศรธี รรมไตรปิฎกเป็นผสู้ รา้ ง พรอ้ มกบั การสรา้ งเมอื งพษิ ณุโลกและพระพทุ ธรปู อกี 2 องคค์ อื พระพุทธชนิ สหี แ์ ละพระศรศี าสดา พ.ศ. 2409 พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ไดม้ พี ระราชนิพนธเ์ พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ประวตั กิ าร สรา้ งพระพทุ ธชนิ ราช พระพุทธชนิ สหี ์ และพระศรศี าสดา ในช่อื \"ตำนำนพระพทุ ธชนิ รำช พระพุทธชนิ ศรี และพระศรศี ำสดำ\" ในหนงั สอื วชริ ญาณวเิ ศษ วา่ ”แลเป็นอนั มากกล็ งใจเหน็ ว่า พระพทุ ธชนิ ราช พระพทุ ธ ชนิ สหี ์ ๒ องคน์ ้งี ดงามนกั ไม่มพี ระพุทธรปู น้อยใหญท่ ใ่ี หน ๆ ใหมเ่ กา่ งดงามไปดกี วา่ น้ไี ดเ้ หน็ จะเป็นของ ทเ่ี ทพยดาเขา้ สงิ ชา่ ง ฤาเนรมติ เป็นมนุษยม์ าช่วยสรา้ งช่วยทาเป็นแน่” โดยใชพ้ งศาวดารเหนอื ในการ
๕ อา้ งองิ จงึ ทาใหม้ เี น้อื หาหลกั คลา้ ยคลงึ กนั แตเ่ พมิ่ เตมิ การสรา้ งพระเหลอื เขา้ ไป และมกี ารระบุศกั ราชใน การสรา้ งพระพุทธรปู ทงั้ 3 องคไ์ วด้ งั น้ี พระพทุ ธชนิ สหี แ์ ละพระศรศี าสดาหลอ่ ในปี พ.ศ. 1498 และพระ พุทธชนิ ราชหล่อขน้ึ ในปี พ.ศ. 1500 (หยอ่ นอยู่ 7 วนั ) พ.ศ. 2423 ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรม พระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์ ไดท้ รงแตง่ ตานานการสรา้ งพระพุทธชนิ ราชขน้ึ อกี สานวนหน่งึ ชอ่ื \"พงษำว ดำรเหนอื : เป็นลลิ ติ เรอื่ งนิทำนพระรว่ ง แลนทิ ำนพระเจำ้ ธรรมไตรปิฎก นิทำนพระชนิ ศรี พระชนิ รำช พระศำสดำ\" ซงึ มเี น้อื เรอ่ื งเชน่ เดยี วกบั พงศาวดารเหนือและพระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระจอม เกลา้ เจา้ อย่หู วั แตเ่ พมิ่ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างพระบรมราชจกั รวี งศก์ บั พระพุทธชนิ ราชเขา้ ไปดว้ ย สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ไดม้ พี ระดารเิ ก่ยี วกบั ประวตั กิ ารสรา้ ง พระพทุ ธชนิ ราชจากหลกั ฐานทางพุทธศลิ ป์ นามาเปรยี บเทยี บกบั พงศาวดารเหนอื ว่าพระพทุ ธชนิ ราช ถูก สรา้ งขน้ึ ในสมยั สโุ ขทยั เน่อื งจากพุทธศลิ ป์ อยา่ งพระพทุ ธรปู สุโขทยั ระคนกบั พุทธศลิ ป์ เชยี งแสนแต่มี พฒั นาการไปกวา่ พระพุทธรปู ทม่ี อี ยเู่ ดมิ และช่างผสู้ รา้ งพระพทุ ธชนิ ราชกบั พระพุทธชนิ สหี น์ นั้ เป็นช่าง เดยี วกนั หากแตพ่ ระศรศี าสดาเป็นชา่ งอ่นื จากลกั ษณะประตมิ ากรรมของพระพุทธรปู ทงั้ ๓ องคท์ ป่ี รากฏ แต่จะสรา้ งพรอ้ มกนั ทงั้ 3 องคห์ รอื ไม่นัน้ ไม่ทราบแน่ชดั และเมอ่ื พจิ ารณาชว่ งเวลาการสรา้ งแลว้ ทรงคาด วา่ พระพทุ ธรปู ทงั้ 3 องคน์ ่าจะสรา้ งในรชั สมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 1 ในปี พ.ศ. 1900 มใิ ชพ่ ระเจา้ ศรี ธรรมไตรปิฎก โดยประทานเหตุผลว่า \"พระเจำ้ แผ่นดนิ ซงึ่ ปรำกฏพระเกยี รตใิ นเรอื่ งพระไตรปิฎกนนั้ มแี ต่ พระองคเ์ ดยี วคอื พระมหำธรรมรำชำลไิ ทย...พระมหำธรรมรำชำน้เี องทพี่ งศำวดำรเหนอื เรยี กวำ่ พระเจำ้ ศรธี รรมไตรปิฎก\" นอกจากน้ยี งั มกี ารสนั นิษฐานเกย่ี วกบั ประวตั กิ ารสรา้ งพระพุทธชนิ ราชว่าน่าจะถูกสรา้ งขน้ึ ในสมยั กรุงศรอี ยุธยาโดยพชิ ญา สุ่มจนิ ดา ซง่ึ ไดก้ าหนดอายุเวลาของพระพุทธชนิ ราชขน้ึ ใหม่จากพุทธลกั ษณะ ขององคพ์ ระพุทธรปู จากรปู แบบของเรอื นแกว้ โดยเทยี บเคยี งกบั ลวดลายบนซุม้ เรอื นแกว้ ทว่ี ดั พระบรม ธาตุ จงั หวดั นครศรธี รรมราช อายเุ วลาของลวดลายดงั กล่าวอาจกาหนดไดใ้ นช่วงสมยั อยธุ ยาตอนปลาย และจากสถาปัตยกรรมของพระวหิ าร ในรชั สมยั ของสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2232) อย่างไรกต็ ามความเหน็ ทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั มากทส่ี ุด ณ ขณะน้คี อื ความเหน็ ในแนวทางเดยี วกบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทเ่ี ชอ่ื ว่าพระพทุ ธรปู ทงั้ 3 องคน์ ้ถี ูกสรา้ งขน้ึ ใน ราว พ.ศ. 1900 ในรชั สมยั ของพระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลไิ ทย) หมายเหต:ุ ซมุ้ เรอื นแกว้ รปู หล่ออาฬวกยกั ษ์และทา้ วเวสสวุ ณั เป็นประตมิ ากรรมทส่ี รา้ งขน้ึ คนละ ยุคกบั องคพ์ ระโดยเช่อื วา่ น่าจะสรา้ งขน้ึ ในสมยั อยธุ ยาโดยสงั เกตจากลกั ษณะลวดลายและลกั ษณะทาง สถาปัตยกรรม นอกจากน้ยี งั มกี ารบูรณะพระพุทธชนิ ราชโดยการเพมิ่ อุณาโลมบรเิ วณพระนลาฏในสมยั หลงั (คาดวา่ น่าจะทาขน้ึ ในสมยั อยุธยา เน่อื งจากไม่ปรากฏหลกั ฐานการบูรณะเพมิ่ เตมิ ) ลกั ษณะทางพทุ ธศิลป์
๖ พระเกศรศั มยี าวเป็นเปลวเพลงิ พระเกศาขดเป็นกน้ หอยขนาดใหญ่ วงพระพกั ตรค์ ่อนขา้ งกลมไม่ ยาวรเี หมอื นผลมะตูมเช่นพระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั หมวดใหญ่ มพี ระอณุ าโลมผลกิ อย่รู ะหวา่ งพระขนง พระวรกายอวบอว้ นมสี งั ฆายาวปลายหยกั เป็นเขย้ี วตะขาบฝังดว้ ยแกว้ น้วิ พระหตั ถท์ งั้ สย่ี าวเสมอกนั (ทฆี งคุล)ี ฝ่าพระบาทแบนราบคอ่ นขา้ งแคบเมอ่ื เทยี บกบั พระพุทธรปู สมยั สโุ ขทยั หมวดใหญ่ สน้ พระ บาทยาว มรี ปู อาฬวกยกั ษ์และรปู ทา้ วเวสสุวณั หล่อดว้ ยทองสมั ฤทธเิ์ ฝ้าอย่ทู พ่ี ระเพลาเบอ้ื งขวาและซา้ ย ขององคต์ ามลาดบั มซี ุ้มเรอื นแกว้ และสลกั ดว้ ยไมส้ กั ลงรกั ปิดทองประดบั เบ้ืองพระปฤษฎางคป์ ราณตี ออ่ นชอ้ ยชว่ ยเน้นใหพ้ ระวรกายของพระพุทธชนิ ราชมคี วามงดงามยงิ่ ขน้ึ การจดั หมวดหมู่ พระพทุ ธชนิ ราช ถูกจดั ใหอ้ ยใู่ นพระพทุ ธรปู หมวดพระพทุ ธชนิ ราช (พระพทุ ธรปู สกลุ ช่างเมอื ง พษิ ณุโลก ซง่ึ มลี กั ษณะต่างจากหมวดใหญเ่ ลก็ น้อย คอื พระพกั ตรท์ อ่ี วบอว้ นมากกว่าและทส่ี าคญั คอื การ ทาปลายน้วิ พระหตั ถท์ งั้ 4 ยาวเสมอกนั ซง่ึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของพระพุทธรปู หมวดน้)ี ถอื เป็น 1 ใน 4 หมวดของพระพุทธรปู สมยั สุโขทยั ทม่ี า:หนงั สอื นครสรสวงสองแคว เมอื งพระพศิ ณุโลกย์ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั พษิ ณุโลก :วกิ พิ เิ ดยี สารานุกรมเสรี พระพทุ ธชนิ ราช
๗ ประวตั ิ พอ่ ขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ พ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์ หรอื พระนามเตม็ กมรเตงอญั ศรอี ินทรบดินทราทิตย์ พระนามเดมิ \"พอ่ ขนุ บางกลางหาว\" เป็นปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ ราชวงศพ์ ระร่วง ตามประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ทรงครองราชยต์ งั้ แต่ พ.ศ. 1781 ตราบจนเสดจ็ สวรรคตเม่อื พ.ศ. 1811 สาหรบั พระนามแรก คอื พ่อขนุ บางกลางหาว นนั้ เป็นพระนามดงั้ เดมิ เมอ่ื ครงั้ เป็น เจำ้ เมอื ง บำงยำง เป็นทย่ี อมรบั กนั โดยทวั่ ไปวา่ พอ่ ขนุ บางกลางหาวเป็น พระนำมสมยั เป็นเจำ้ เมอื งบำงยำง โดย แทจ้ รงิ พระนามทส่ี องนนั้ เป็นพระนามแบบทางการตามอย่างราชประเพณเี ขมร เป็นพระนามทรงใชเ้ มอ่ื เขำ้ รบั พระรำชพธิ บี รมรำชำภเิ ษกแลว้ พระนาม \"ศรอี ินทราทิตย\"์ มกี ล่าวไวอ้ ยใู่ นศลิ าจารกึ หลกั ท่ี 2 วดั ศรชี มุ วา่ \"ศรอี นิ ทรปตนิ ทราทติ ย\" ซง่ึ เป็นพระนามเกยี รตยิ ศทพ่ี ระเจา้ แผ่นดนิ เขมรแตโ่ บราณสถาปนา ใหแ้ ก่พอ่ ขนุ ผาเมอื งองคร์ ชั ทายาทผคู้ รองเชลยี งสุกโขไทในราชวงศศ์ รนี าวนาถม ต่อมาภายหลงั พอ่ ขนุ ผาเมอื งทรงยกใหแ้ ก่พระสหายพอ่ ขนุ บางกลางหาวแทน พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ยเ์ มอ่ื ครงั้ ยงั เป็นพอ่ ขนุ บางกลางหาวไดร้ ่วมมอื กบั พอ่ ขนุ ผาเมอื ง เจา้ เมอื งราด แหง่ ราชวงศศ์ รนี าวนาถุม รวมกาลงั พลกนั กระทารฐั ประหารขอมสบาดโขลญลาพง โดยพอ่ ขนุ บางกลาง หาวตเี มอื งศรสี ชั นาลยั และเมอื งบางขลงั ได้ และยกทงั้ สองเมอื งใหพ้ อ่ ขนุ ผาเมอื ง สว่ นพอ่ ขนุ ผาเมอื งตี เมอื งสุโขทยั ได้ กไ็ ดม้ อบเมอื งสโุ ขทยั ใหพ้ อ่ ขนุ บางกลางหาว พรอ้ มพระขรรคช์ ยั ศรแี ละพระนาม \"ศรี อนิ ทรบดนิ ทราทติ ย\"์ ซง่ึ ไดน้ ามาใชเ้ ป็นพระนาม ภายหลงั ไดค้ ลายเป็น ศรอี นิ ทราทติ ย์ การเขา้ มาครอง สโุ ขทยั ของพระองค์ สง่ ผลใหร้ าชวงศพ์ ระรว่ งเขา้ มามอี ทิ ธพิ ลในเขตนครสุโขทยั เพมิ่ มากขน้ึ และไดแ้ ผ่ ขยายดนิ แดนกวา้ งขวางมากออกไป แตเ่ ขตแดนเมอื งสรลวงสองแคว กย็ งั คงเป็นฐานกาลงั ของราชวงศ์ ศรนี าวนาถมุ อยู่ ในกลางรชั สมยั ทรงมสี งครามกบั ขนุ สามชน เจา้ เมอื งฉอด ทรงชนชา้ งกบั ขนุ สามชน แต่ไพร่พล ของพระองค์ ไดเ้ ตลดิ หนดี งั คาในศลิ าจารกึ ว่า \"ไพร่ฟ้าหน้าใสพอ่ กู หนีญญ่ายพา่ ยจแจ๋น\"(หนี-ยอ-ย่าย-
๘ พา่ ย-จอ-แจน้ ) ขณะนนั้ พระโอรสองคเ์ ลก็ (รามราช) มพี ระปรชี าสามารถ ไดข้ บั ชา้ งแซงขน้ึ ไปชนชา้ งชนะ ขนุ สามชน ภายหลงั จงึ ทรงเฉลมิ พระนามพระโอรสว่ารามคาแหง ในยุคประวตั ศิ าสตรช์ าตนิ ิยม มคี ตหิ น่งึ ทเ่ี ชอ่ื กนั วา่ พระองคท์ รงเป็นผนู้ าชาวสยามตอ่ สกู้ บั อทิ ธพิ ลขอมในสวุ รรณภมู ิ ทรงไดช้ ยั ชนะและประกาศอสิ รภาพตงั้ ราชอาณาจกั รสโุ ขทยั ขน้ึ และทรงเป็น ปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ ราชอาณาจกั รไทย แต่ภายหลงั คตดิ งั กลา่ วไดร้ บั การพสิ จู น์แลว้ วา่ ไมจ่ รงิ เพราะ พระองคไ์ ม่ไดเ้ ป็นปฐมกษตั รยิ ์ อกี ทงั้ ยงั มพี อ่ ขนุ ศรนี าวนาถุม ครองสุโขทยั อยกู่ อ่ นแลว้ ทม่ี า:หนงั สอื พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ (พอ่ ขนุ บางกลางท่าว) พระปฐมบรมกษตั รยิ ผ์ สู้ รา้ งชาตไิ ทย สานกั งานประชาสมั พนั ธ์ จงั หวดั พษิ ณุโลก พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑ : ๒๕๕๓ :วกิ พิ เี ดยี สารานุกรมเสรี
๙ ประวตั สิ มเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช มพี ระนามเดมิ วา่ พระนเรศ หรอื \"พระองคด์ า\" เป็นพระราชโอรสใน สมเดจ็ พระมหาธรรมราชาธริ าชและพระวสิ ทุ ธกิ ษตั รยี (์ พระราชธดิ าของสมเดจ็ พระศรสี ุรโิ ยทยั และสมเดจ็ พระมหาจกั พรรด)ิ ์ เสดจ็ พระราชสมภพเมอ่ื พ.ศ. 2098 ทพ่ี ระราชวงั จนั ทน์ เมอื งพษิ ณุโลก มพี ระเชษฐ ภคนิ คี อื ”พระสุพรรณกลั ยา” มพี ระอนุชาคอื ”สมเดจ็ พระเอกาทศรถ (พระองคข์ าว) ทรงเป็นพระราชนดั ดา ของสมเดจ็ พระศรสี ุรโิ ยทยั พระนามของพระองคป์ รากฏในลายลกั ษณ์อกั ษรหลายฉบบั เชน่ พระนเรศ วรราชาธริ าช พระนเรสส องคด์ า จงึ ไม่สามารถสรปุ ไดว้ ่าพระนาม”นเรศวร” ไดม้ าจากทใ่ี ดมกี ารสนั นษิ ฐานเบอ้ื งตน้ ว่าน่าจะเพย้ี น มาจาก”สมเดจ็ พระนเรศวรราชาธริ าช”มาเป็นพระนเรศวร ราชาธริ าช เสดจ็ ขน้ึ ครองราชยเ์ มอ่ื วนั ท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ศริ ริ วมครองราชสมบตั ิ 15 ปี เสดจ็ สวรรคตเม่อื วนั ท่ี 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สริ ิ พระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เป็นพระราชโอรสในสมเดจ็ พระมหาธรรมราชา และพระวสิ ุทธกิ ษตั รยิ ์ พระราชธดิ าของสมเดจ็ พระมหาจกั พรรดแิ ์ ละสมเดจ็ พระศรสี ุรโิ ยทยั เสดจ็ พระราขสมภพเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๐๙๘ ทพ่ี ระราชวงั จนั ทร์ เมอื งพษิ ณุโลก ในขณะทรงพระเยาว์ ทรงใชช้ วี ติ อยใู่ นพระราชวงั จนั ทร์ เมอื งพษิ ณุโลก จนกระทงั่ พระเจา้ บเุ รงนอง ยกทพั มาตเี มอื งพษิ ณุโลกในสงครามชา้ งเผอื ก สมเดจ็ พระมหาธรรมราชาธริ าช เจา้ เมอื งพษิ ณุโลกยอม ออ่ นน้อมต่อหงษ์สาวดี จงึ ทาใหพ้ ษิ ณุโลกตอ้ งแปรสภาพเป็นประเทศราชของ หงสส์ าวดี ไม่ขน้ึ ตอ่ งกรงุ ศรอี ยุธยา พระเจา้ บเุ รงนองทรงขอพระเนศวรไปเป็นองคป์ ระกนั ทห่ี งสส์ าวดปี ี พ.ศ. ๒๑๐๗ ทาให้ พระองคต์ อ้ งจากบา้ นเกดิ เมอื งนอนตงั้ แต่มพี ระชนมายเุ พยี ง ๙ พรรษา ราชการสงครามในสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ทรงหลงั่ ทกั ษโิ ณทกตดั สมั พนั ธไ์ มตรกี บั หงษสาว ดแี ละกวาดตอ้ นครวั ไทย(จติ รกรรมฝาผนงั วดั สวุ รรณดาราม จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา) พระองคไ์ ด้ นิมนตม์ หาเถรคนั ฉ่องและพระสงฆม์ าเป็นสกั ขพี ยาน ทรงแจง้ คนทงั้ ปวงทม่ี าชมุ นุม ณ ทน่ี นั้ ทราบวา่ พระเจา้ หงสส์ าวดคี ดิ ประทษุ รา้ ยตอ่ พระองค์ จากนนั้ พระองคไ์ ดห้ ลงั่ น้าลงสแู่ ผ่นดนิ ดว้ ยสวุ รรณภงิ คาร
๑๐ (พระน้าเตา้ ทองคา) ประกาศแก่เทพดา ฟ้าดนิ วา่ “ ดว้ ยพระเจา้ หงษสื าวดี มไิ ดอ้ ยคู่ รองสุจรติ มติ รภาพ อนั ขตั ตริ าชประเพณี เสยี สามคั ครี สธรรม ประพฤตพิ าลทุจรติ คดิ จะทาอนั ตรายแก่เรา ตงั้ แตน่ ้เี ป็นตน้ ไป กรงุ ศรอี ยุธยาขาดไมตรกี บั หงสส์ าวดี มไิ ดเ้ ป็นมติ รร่วมสุวรรณภมู ปิ ฐพเี ดยี วกนั ดจุ ดงั ดงั แต่กอ่ นสบื ไป” เป็นเหตุการณ์ทย่ี งิ่ ใหญแ่ ละสาคญั ยงิ่ ของชาตไิ ทย พระองคไ์ ดก้ ูอ้ สิ รภาพของไทยจากการเสยี กรุงศรี อยธุ ยาครงั้ แรก และไดท้ รงแผ่อานาจของราชอาณาจกั รไทย อย่างกวา้ งใหญไ่ พศาล นบั ตงั้ แต่ประเทศ พมา่ ตอนใตท้ งั้ หมด นนั่ คอื จากฝัง่ มหาสมทุ รอนิ เดยี ทางดา้ นตะวนั ตก ไปจนถงึ ฝัง่ มหาสมทุ รแปซฟิ ิก ทางดา้ นตะวนั ออก ทางดา้ นทศิ ใตต้ ลอดไปถงึ แหลมมลายู ทางดา้ นทศิ เหนอื กถ็ งึ ฝัง่ แม่น้าโขงโดยตลอด และยงั รวมไปถงึ รฐั ไทใหญบ่ างรฐั ในปี พ.ศ.๒๑๓๕ พระมหาอปุ ราชานาทพั ทหารสองแสนสห่ี ม่นื คนมาตกี รุงศรอี ยธุ ยาหมายจะ ชนะศกึ ในครงั้ น้ี สมเดจ็ พระนเรศวรทรงทราบ จงึ ทรงเตรยี มไพรพ่ ล กาลงั หน่งึ แสนคนเดนิ ทางออกบา้ น ป่าโมกไปสพุ รรณบุรี ขา้ มน้าตรงท่าทา้ วอู่ทอง และตงั้ คา่ ยตรงบรเิ วณหนองสาหร่าย วนั จนั ทรแ์ รม ๒ ค่า เดอื นย่ี ปีมะโรง สมเดจ็ พระนเรศวรและสมเดจ็ พระเอกาทศรศทรงเครอ่ื งพชิ ยั ยทุ ธ สมเดจ็ พระนเรศวร ทรงชา้ งนามวา่ “เจา้ พระไชยยานุภาพ”สมเดจ็ พระเอกาทศรศ ทรงชา้ งนามว่า “พระเจา้ ปราบไตรจกั ร” ขณะในทาศกึ ชา้ งทรงของสองพระองคถ์ ลาเขา้ มาถงึ กลางกองทพั ตกอยใู่ นวง ลอ้ ม แต่ดว้ ยปฏพิ าลไหวพรบิ ของสมเดจ็ พระนเรศวร จงึ ไดต้ รสั เชญิ พระมหาอุปราชา วา่ “เจา้ พเ่ี ราจะยนื อยทู่ าไมในร่มไมเ้ ล่า เชญิ ออกมาทายทุ ธหตั ถดี ว้ ยกนั ใหเ้ ป็นเกยี รตยิ ศไวใ้ นแผ่นดนิ เถดิ ภายภาคหน้าไป ไม่มพี ระเจา้ แผ่นดนิ ไดย้ ุทธหตั ถกี นั แลว้ ”ในการทายธุ หตั ถสี มเดจ็ พระนเรศวรทรงฟันดว้ ยพระแสงคองา้ ว ถูกพระมหาอปุ ราชาเขา้ ทอ่ี งั วะสะขวา สนิ พระชนมอ์ ย่บู นคอชา้ ง ตงั้ แตส่ มเดจ็ พระนเรศวรประกาศอสิ รภาพเป็นตน้ มา หงสาวดไี ดเ้ พยี รสง่ กองทพั เขา้ มาหลายครงั้ แต่กถ็ ูกกองทพั กรุงศรอี ยธุ ยาตแี ตกพา่ ยไปทกุ ครงั้ เมอ่ื สมเดจ็ พระมหาธรรมราชาเสดจ็ สวรรคตเม่อื ปี พ.ศ. 2133 พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ขน้ึ ครองราชยเ์ ม่อื วนั อาทติ ยท์ ่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 เมอ่ื พระชนมายไุ ด้ 35 พรรษา ทรงพระนามว่า สมเดจ็ พระนเรศวร หรอื สมเดจ็ พระสรรเพชญ์ท่ี 2 และโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระ เอกาทศรถ พระอนุชา ขน้ึ เป็นพระมหาอุปราช แต่มศี กั ดเิ ์สมอพระมหากษตั รยิ อ์ กี พระองค์ สมเดจ็ พระนเรศวร กบั สมเดจ็ พระเอกาทศรถ เสดจ็ ยกกองทพั ออกจากพระนคร เม่อื วนั พฤหสั บดี แรม 8 ค่า เดอื นย่ี ปีมะโรง พ.ศ. 2148 เสดจ็ โดยกระบวนเรอื จากพระตาหนกั ป่าโมก แลว้ เสดจ็ ขน้ึ บนท่ี ตาบล เอกราชไปตงั้ ทพั ชยั ณ ตาบลพระหล่อ แลว้ ยกกองทพั บกไปทางเมอื งกาแพงเพชรสเู่ มอื งเชยี งใหม่ ครนั้ เสดจ็ ถงึ เมอื งเชยี งใหม่กห็ ยดุ พกั จดั กระบวนทพั อย่หู น่งึ เดอื น แลว้ ใหก้ องทพั สมเดจ็ พระเอกาทศรถ ยกไปทางเมอื งฝาง สว่ นกองทพั หลวงยกไปทางเมอื งหางหลวง ครนั้ เสดจ็ ถงึ เมอื งหางแลว้ กใ็ หต้ งั้ คา่ ย หลวงประทบั อย่ทู ท่ี งุ่ แกว้ สมเดจ็ พระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหวั ระลอก (ฝี) ขน้ึ ทพ่ี ระพกั ตร์ แลว้ กลายเป็นบาดทะพษิ พระอาการหนกั จงึ โปรดใหข้ า้ หลวงรบี ไปเชญิ เสดจ็ สมเดจ็ พระเอกาทศรถมาเฝ้า สมเดจ็ พระเอกาทศรถเสดจ็ ฯ มาถงึ ได้ 3 วนั สมเดจ็ พระนเรศวรกเ็ สดจ็ สวรรคต เม่อื วนั จนั ทร์ ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 6 ปีมะเสง็ ตรงกบั วนั ท่ี 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สริ พิ ระชนมพรรษา 49 พรรษาเศษ ดารงราชสมบตั ิ 14 ปีเศษ สมเดจ็ พระเอกาทศรถจงึ ไดอ้ ญั เชญิ พระบรมศพกลบั กรงุ ศรอี ยุธยา
๑๑ ทม่ี า:หนงั สอื มหาราชผทู้ รงกอบกเู้ อกราช กองทพั ภาคท่ี ๓ (พระราชประวตั )ิ พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑ กนั ยายน ๒๕๕๘ :วกิ พิ เิ ดยี สารานุกรมเสรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๑๒ ประวตั ิ ตารวจภูธร จงั หวดั พษิ ณุโลก ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรด กระหม่อมจดั ตงั้ ตารวจภ๔ธรมณฑลพษิ ณุโลกขน้ึ ในปี พุทธศกั ราช ๒๔๔๔ เพอ่ื ให้ เกดิ ความปลอดภยั และสงบสุขแหง่ อาณาประชาราษฎร์ ครอบคลุมพน้ื ที่ พษิ ณุโลก พชิ ยั สวรรคโลก พจิ ติ ร และ สุโขทยั ต่อมาปีพุทธศกั ราช ๒๔๘๑ พษิ ณุโลก ไดแ้ ยก ฐานะออกเป็นกองกากบั การตารวจภูธรจงั หวดั โดยมี พนั ตารวจตรหี ลวงฤทธสิ์ รไกร ดารงตาแหนง่ ผูก้ ากบั การเป็นคนแรก ต่อมาปีพุทธศกั ราช ๒๕๕๕ ไดม้ กี าร ก่อสร้างทที่ าการตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลกในทปี่ จั จุบนั เลขที่ ๒๓๔ หมู่ ๕ ตาบล หวั รอ อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก จงึ ได้ยา้ ยทท่ี าการเดมิ มาเมอื่ ปี พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ จวบจนถงึ ปจั จุบนั รวมระยะการก่อตง้ั ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก รวม ๘๔ ปี(ประวตั ยิ งั ไมส่ มบูรณ์)
๑๓ วตั ถุประสงค์ ในการสร้างพระประธานประจาหนว่ ย เพอ่ื เป็นทร่ี ะลกึ ในวาระครบรอบ ๘๔ ปี ตารวจภูธร จงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นพระประธานประจาหน่วย เป็นทยี่ ดึ เหนย่ี วจติ ใจและ เคารพสกั การะของขา้ ราชการตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลก และประชาชนทว่ั ไป เพอื่ เป็นการจดั หารายไดจ้ ดั ตงั้ กองทุนสวสั ดกิ ารช่วยเหลอื ขา้ ราชการตารวจ ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก เพอื่ เกดิ ขวญั และ กาลงั ใจในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่นการรกั ษาความปลอดภยั ใน ชวี ติ และทรพั ย์สนิ ของประชาชน
๑๔ ประมวลภาพการบวงสรวง พระพทุ ธชินราช วนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ แรม ๓ คา่ เดือน ๘
๑๕ ประมวลภาพการบวงสรวง พระพทุ ธชินราช วนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๑๖ ประมวลภาพการบวงสรวง พระพทุ ธชินราช วนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๑๗ ประมวลภาพการบวงสรวง พระพทุ ธชินราช วนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๑๘ ประมวลภาพการบวงสรวง พระพทุ ธชินราช วนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เม่อื วนั พฤหสั บดที ่ี 27 พฤษภาคม ๒๕64 แรม ๓ ค่าเดอื น ๘ พลตารวจตรธี วชั วงศส์ งา่ ผูบ้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นประธาน พรอ้ มดว้ ย คุณอรชุกร วงศส์ ง่า ประธานแม่บา้ น ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลกรอง รองผบู้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก,หวั หน้าสถานีตารวจภธู ร ผู้ กากบั การฝ่ายอานวยการพษิ ณุโลก และ คณะกรรมการตรวจและตดิ ตามการบรหิ ารงานตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลก โดย ดร.สมไทย วงษ์เจรญิ บณั ฑติ ผู้ทาพธิ ีการ ร่วมพธิ ีขอ พระราชานุญาติ จดั สร้างพระ ประธานปางชินราช หน้าตัก 29 น้ิว เพ่ือประดิษฐาน ณ หอพระหน้าท่ีทาการ ตารวจภูธรจงั หวัด พษิ ณุโลก และ เหรยี ญดา้ นหน้าพระพุทธชนิ ราช ดา้ นหลงั สมเดจ็ พระนเรศวร ดา้ นหน้าพระพุทธชนิ ราช ดา้ นหลงั พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ เน่ืองในโอกาสท่ี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ก่อตงั้ มาเป็นระยะเวลา 84 ปี โดยมวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ให้เป็นศูนย์รวมจติ ใจและเป็นท่สี กั การะบูชาของขา้ ราชการตารวจ ในจงั หวดั พษิ ณุโลก ตลอดจนประชาชนทวั่ ไป ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร, ศาลพอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ หน่วยพฒั นาการทหาร เคล่อื นท่ี 34 (โรงทอเดมิ ) และ ตาหนกั สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช พระราชวงั จนั ทร์ จงั หวดั พษิ ณุโลก
๑๙ ประมวลภาพการบวงสรวงพอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตยว์ นั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๐ ประมวลภาพการบวงสรวงพอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตยว์ นั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๑ ประมวลภาพการบวงสรวงพอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตยว์ นั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๒ ประมวลภาพการบวงสรวงพอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตยว์ นั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๓ ประมวลภาพการบวงสรวง สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๔ ประมวลภาพการบวงสรวง สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๕ ประมวลภาพการบวงสรวง สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๖ ประมวลภาพการบวงสรวง สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๗ ประมวลภาพการบวงสรวง สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๒๘ พระพุทธวิ งศมุนี (บารุง ฐานุตตโร) ดารงตาแหน่งเจ้าอาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุ วรมหาวิหาร ตาบลในเมอื ง อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก เมตตาอนุญาต ใหจ้ ดั สรา้ งพระพทุ ธชนิ ราชจาลอง รุน่ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก และเมตตาใหใ้ ชส้ ถานท่ี วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุ วรมหาวหิ าร ในพธิ เี ททองหลอ่ พระในวนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ และ พธี พี ทุ ธาภเิ ษก ในวนั ท่ี ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔
๒๙ ประมวลภาพพธิ เี ททอง หลอ่ พระ สร้างพระพุทธชนิ ราชจาลอง ในวนั ท่ี ๒๗ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก พระเทพสิทธาคม(หลวงป่ ูสาย กิตติปาโล) เจ้าอาวาสวดั ท่าไม้แดงเจ้าคณะจงั หวดั ตาก ประธานฝ่ ายสงฆ์ พลตารวจตรธี วชั วงศส์ ง่า ผ้บู งั คบั การตารวจภธู รจงั หวดั พิษณุโลก ประธานฝ่ ายฆาราวาส
๓๐ พระเถรานุจารยน์ ัง่ ปรกอธิฐานจิต พิธีเททองหลอ่ พระพทุ ชินราช พระเทพสิทธาคม(หลวงป่ ูสาย กิตติปาโล) พระรตั นโมลี(หลวงพ่อไพรินทร)์ เจ้าอาวาสวดั ท่าไม้แดงเจ้าคณะจงั หวดั ตาก พระศรีรตั นมหาธาตวุ รมหาวิหาร อาเภอ เมืองจงั หวดั พิษณุโลก อาเภอเมือง จงั หวดั ตาก หลวงพ่อยนต์ ฐิตสำโร วัดหล่ำยหนองหมี พระครบู าสมหุ ว์ รฉัตร สุจิตโต เจา้ อาวาสวดั ปาก เหมือง อาเภอสารภี จงั หวดั เชียงใหม่ อาเภอวชิรบารมี จงั หวดั พิจิตร
๓๑ พระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงป่ ทู องดี อนีโฆ) หลวงพอ่ ฉลวย วดั เมมสุวรรณารามตาบล ท่าช้าง วดั ใหม่ปลายห้วย อาเภอ สามง่าม จงั หวดั พิจิตร อาเภอพรมพิราม จ. พิษณุโลก บณั ฑิตผูท้ ำพธิ ีพรำหมณ์ ดร.สมไทย วงษ์เจริญ
๓๒ รายนามพระสงฆท์ รงสมณศกั ด์ิ จานวน ๙ รปู เจรญิ พระพุทธมนต์ธมั มจกั รกปั วตั นสูตร ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง ร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภธู ร จงั หวดั พษิ ณุโลก ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร อาเภอเมอื งพษิ ณุโลก จงั หวดั พษิ ณุโลก วนั อาทติ ย์ที่ ๒๗ มถิ ุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ***************** ๑. พระสุธรรมมุนี รองเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๒. พระมหาจกั รกฤช ปญฺญาธโร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๓. พระครูปญั ญารตั นาทร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๔. พระครรู ตั นเสนาภมิ ุข ผูช้ ่วยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๕. พนะครกู ติ ตริ ตั นานุกุล ผูช้ ่วยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๖. พระมหาธนศกั ด์ิ จนิ ตกวี ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๗. พระครปู ลดั เถรานุวตั ร ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร ๘. พระครูวนิ ยั ธรสงิ ห์ ปภากโร เรขานุการรองเจา้ คณะอาเภอเมอื งพษิ ณุโลก ๙. พระหมาราศี รตโน ผูช้ ่วยเลขานุการรองเจา้ คณะอาเภอเมอื งพษิ ณุโลก
๓๓ ประมวลภาพ ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราช วนั ที่ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก ผงั ในการเททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราชจาลอง ร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก
๓๔ ประมวลภาพ ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราช วนั ที่ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก พธิ เี ททองหล่อพระพุทธชนิ ราชจาลอง ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก พระเทพสทิ ธาคม(หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล เจ้าอาวาสวดั ท่าไม้แดงเจ้าคณะจงั หวดั ตาก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ตาก ประธานฝ่ ายสงฆ์ ได้ เมตตาจุดเทยี น..
๓๕
๓๖
๓๗
๓๘
๓๙
๔๐ พระเถรำนจุ ำรย์นัง่ ปรกอธิฐำนจิต พธิ ีเททองหล่อพระพุทชินรำช พระเทพสิทธำคม(หลวงป่ ูสำย กิตติปำโล) พระรัตนโมลี(หลวงพอ่ ไพรนิ ทร)์ หลวงพอ่ ยนต์ ฐิตสำโร
๔๑ พระเถรำนจุ ำรย์นั่งปรกอธิฐำนจิต พธิ ีเททองหล่อพระพุทชินรำช รุ่น ๘๔ ปี ตำรวจภธู รจังหวัดพษิ ณโุ ลก หลวงพอ่ ฉลวย วัดเมมสุวรรณำรำม พระพศิ ำลญำณวงศ์ (หลวงป่ ูทองดี อนีโฆ)
๔๒ พระครบู ำสมหุ ว์ รฉัตร สจุ ิตโต
๔๓ ประมวลภาพ ในพธิ เี ททองหลอ่ พระพุทธชนิ ราช วนั ที่ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก พธิ เี ททองหล่อพระพุทธชนิ ราชจาลอง ๘๔ ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก
๔๔
๔๕ วนั ท่ี 27 มถิ ุนายน.๒๕64 เวลา 07.29 น. นายรณชยั จติ รวเิ ศษ ผู้ว่าราชการจงั หวดั พษิ ณุโลก ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและตดิ ตามการบรหิ ารงานตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลก, พลตารวจตรี ธวชั วงศ์สงา่ ผู้บงั คบั การพษิ ณุโลก รอง ผบู้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ทุกท่าน คุณอรชุกร วงศ์ สงา่ ประธานแม่บา้ นตารวจภูธรหวดั พษิ ณุโลก,พลเอก ดร.ศริ ิ ทวิ ะพนั ธ์ อดตี แมท่ พั ภาค ๓ นาวาอากาศ เอกภาณุวตั ร เรอื งประยูร ผู้บงั คบั การกองบนิ ๔๖ พฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์จงั หวดั พษิ ณุโลก, คุณสุวมิ ล เกยี รตศิ รบี ุรนิ ทร์ วฒั นธรรมจงั หวดั พษิ ณุโลก, ประชาสมั พนั ธ์จงั หวดั พษิ ณุโลก, นายมนชยั ต์ ววิ ฒั ธ์ นาฒย์ นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั พษิ ณุโลก, นายแพทยไ์ กรสุข เพชระบูรณิน สาธารณสุขจงั หวดั พษิ ณุโลก , ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศเทศมนตรเี ทศบาลนครพษิ ณุโลก , พล.ต.ท.วสนั ต์ วสั สานนท์ อดตี ผบู้ ญั ชาการตารวจภูธรภาค ๖ ผชู้ ่วยศาสตราจารยช์ ุมพล เสมาขนั ธ์ อธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั พบิ ลู สงคราม พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบรุ กี ลุ อดตี ผบู้ งั คบั การตารวจภูธร จงั หวดั พษิ ณุโลก คณะกรรมการตรวจสอบและตดิ ตามการบรหิ ารงานตารวจจงั หวดั พษิ ณุโลก ประธาน คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานของสถานีตารวจในสังกัดตารวจภูธรจังหวัด พษิ ณุโลก นกั เรยี นายรอ้ ยตารวจ รุ่น ๔๕ ขา้ ราชการตารวจ ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ผกู้ ากบั การ กองกากบั การสบื สวนตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก หวั หน้าสถานีตารวจในสงั กดั ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นต้น พร้อมผู้มเี กยี รตไิ ด้ร่วมกิจกรรม เจรญิ พระพุทธมนต์ พธิ บี วงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์ เททองหล่อพระพุทธชนิ ราชจาลอง รุ่น 84 ปี ตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก ในเวลา ๐๙.๐๙ นาที และ ถวายผา้ ป่า ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตวุ รมหาวหิ าร มพี ุทธศาสนิกชนผมู้ จี ติ ศรทั ธา เขา้ ร่วมพธิ ี ภายใต้ มาตรการป้องกนั D-M-H-T-T ป้องกนั เชอ้ื โควดิ -19 อยา่ งเคร่งครดั โดยมี พระเทพสทิ ธาคม (หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล) เจ้าอาวาสวดั ท่าไม้แดงเจ้าคณะจงั หวดั ตาก อาเภอเมอื ง จงั หวดั ตาก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พลตารวจตรธี วชั วงศ์สง่า ผู้บงั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั พษิ ณุโลก เป็นประธานฝ่ ายฆาราวาส และ ดร.สมไทย วงษเ์ จรญิ บณั ฑติ ผกู้ ระทาพธิ พี รามณ์
๔๖ พธิ พี ุทธาภเิษก พระพุทธชนิ ราชจาลองร่นุ ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ที่ ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก พระพุทธวิ งศมุน(ี เจา้ อาวาสวดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร) ประธานฝ่ ายสงฆ์ พลตารวจตรี ธวชั วงศ์สงา่ ผูบ้ งั คบั การตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก ประธานฝ่ ายฆาราวาส
๔๗ รายนามพระเถราจารย์นง่ั ปรกพธิ พี ุทธาภเิษก พระพุทธชนิ ราชจาลองรุ่น ๘๔ ปี ตารวจภธู รจงั หวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ ณ วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหิ ารจงั หวดั พษิ ณุโลก ๑.พระเทพสทิ ธาคม(หลวงปู่สาย กติ ตปิ าโล) วดั ท่าไมแ้ ดง อาเภอเมอื ง จงั หวดั ตาก ๒.พระรตั นโมล(ี หลวงพอ่ ไพรนิ ทร์) วดั พระศรรี ตั นมหาธาตุวรมหาวหาร อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๓.พระพศิ ษาลญาณวงศ์(หลวงปู่ทองดี อนโีฆ) วดั ใหม่ปลายห้วย อาเภอสามง่าม จงั หวดั พจิ ติ ร ๔.พระอาจารยโ์ รจนศ์ กั ดิ์ เพชรทองทวคี ูณ(หลวงพอ่ ฉลวย) วดั เมมสุวรรณาราม อาเภอพรหมพริ าม จงั หวดั พษิ ณุโลก ๕.พระครูวมิ ลปุญญาภรณ์(หลวงพอ่ พมิ พ์ ผลปุญโญ) วดั พฤษวนั อาเภอบางบุญานาก จงั หวดั พจิ ติ ร ๖.พระครูนวิ ฐิ มณวี งศ์(หลวงพอ่ สะอาด) วดั เขา้ แกว้ อาเภอพยุหครี ี จงั หวดั นครสวรรค์ ๗.พระครูพนิ จิ สลี คุณ (หลวงพอ่ สนม อุ่นใจ)วดั ทา้ ยน้า อาเภอโพทะเล จงั หวดั พจิ ติ ร ๘.พระครพู สิ ุทธวิ รากร(หลวงพอ่ วทิ ยา)วดั บางคลาน จงั หวดั พจิ ติ ร ๙.พระครูโกวทิ พฒั นาทร (หลวงพอ่ แดง )วดั บางทราย อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๑๐. พระครูอนิ ทวรวชิ ยั หลวงพอ่ ชนะ อาคมแก้ว วดั บงึ พระ อาเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105