ไปไหมจ๊ะ สุพรรณบุรี เที่ยวหลากรสในเมืองขุนช้างขุนแผน 10 แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดสามชุก ตลาดสามชุก เป็นห้องแถวไม้ริมแม่น้ำท่าจีน ตั้งอยู่ในอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ในอดีตตลาดสามชุกเป็นย่านการค้าสำคัญ และเป็นแหล่ง ชุมชนของชาวไทยเชื้อสายจีน จึงทำให้ที่นี่มีรากฐานทางวัฒนธรรมที่หลาก หลาย ในปี พ.ศ.2510 การคมนาคมทางบกได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ เส้นทางค้าขายทางน้ำซบเซาลง ตลาดสามชุกจึงเริ่มเงียบเหงา เนื่องจากการ สัญจรทางน้ำได้รับความนิยมน้อยลงไป การค้าขายที่ตลาดสามชุกก็ไม่คึกคัก เหมือนเดิม คนรุ่นใหม่ก็ทยอยออกไปหางานทำที่อื่น ปี พ.ศ.2543 มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุกเชิงอนุรักษ์ ขึ้น มา เพื่อฟื้นฟู ตลาดสามชุก ให้กลับมีชีวิตชีวา คืนมาอีกครั้ง และได้รับการ พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลับมาคึกคักเช่นในอดีต และยังคงอนุรักษ์หลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง ที่ล้ำค่าแห่งวิธีชีวิตของคนในตลาดสามชุก เอาไว้ ใน นาม “สามชุก ตลาดร้อยปี ตลาดมีชีวิต พิพิธภัณฑ์มีชีวา” อันเป็นแหล่ง เรียนรู้ที่เกิดจากการพัฒนาของคนในชุมชนท้องถิ่นตลาดสามชุกอย่างแท้จริง
ชุมชนบ้านแหลม ชุมชนตำบลบ้านแหลม เป็นชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นชุมชนโฮม สเตย์มาตรฐานอาเซียน กรมการท่องเที่ยวเป็นชุมชนพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตาม พรย.2556 หนึ่งใน 26 ชุมชนจากทั่วประเทศและเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่จดทะเบียนเป็น ธุรกิจนำเที่ยว โดยชุมชนเป็นชุมชนต้นแบบของ ททท.ในโครงการ Village tourism 4.0 หนึ่งในสิบของประเทศเป็นชุมชนท่องเที่ยวอุตสาหกรรม สร้างสรรค์ CIV กรมส่งเสริมอุสาหกรรม หนึ่งใน 215 ชุมชนจากทั่วประเทศ เป็นชุมชนโครงการ village thailand Academy ของกรมส่งวัฒนธรรม หนึ่งใน 22 ชุมชนจากทั่วประเทศเป็นชุมชนก้าวอย่างพอเพียงตามรอยพ่อหลวง ร.๙ ของกรมประชาสัมพันธ์เป็นชุมชนโอทอปนวัติวิถี ของกระทรวงมหาดไทยเป็น ชุมชนครอบครัวร่มเย็น ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์
หมู่บ้านมังกรสวรรค์ หมู่บ้านมังกรสวรรค์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งใหม่ตั้งอยู่ภายใน อุทยานมังกรสวรรค์ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) และพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร รูปแบบของหมู่บ้านได้จำลอง \"เมืองลีเจียง\" ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่โบราณ และมี รูปแบบที่สวยงามจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ในสาธาราณรัฐ ประชาชนจีน (ชมฟรี) ภายในหมู่บ้านที่ออกแบบได้สวยงามลงตัว เหมือนหนึ่งได้เดินเข้าไปใน หมู่บ้านโบราณของเมืองจีน ซึ่งแต่ละหลังก็เป็นสถานที่ที่ให้บริการต่างกันออก ไป มีร้านขายสินค้า และของที่ระลึก (ร้านสำเพ็ง) โรงหนัง โรงนวด โรงเตี๊ยม ร้านอาหาร ปฎิมากรรมที่งดงามอย่างเสามังกรฟ้า จากเมืองฉงอู่ สาธาราณรัฐ ประชาชนจีน และยังขึ้นไปชมวิวได้ 360 องศา บนหอคอยชมวิว ที่จะได้เห็น ทิวทัศน์โดยรอบของอุทยานมังกรสวรรค์ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพที่หนึ่งของเมืองสุพรรณ และช่วงเวลา เย็นค่ำ นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับน้ำพุและแสงสีที่สวยงาม
หมู่บ้านมังกรสวรรค์ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรีประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอ เดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชมี พื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ บึงฉวากได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2526 และในปี พ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความ สำคัญระดับชาติ ตามอนุสัญญาแรมซาร์ที่ประเทศไทยเป็นภาคี เนื่องจากความ หลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตา มอนุสัญญาแรมซาร์ คือพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชี้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มี น้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์ สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรหรือชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่ง เมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว คือ เป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1 – 3 เมตร
นาเฮียใช้ นาเฮียใช้หรือศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน จังหวัดสุพรรณบุรีที่รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในวิถี ของเกษตรกรที่ทรงคุณค่าให้ได้ศึกษาและเรียนรู้ สร้างขึ้นจากความจงรักภักดี และสำนึกในคุณงามความดีของในหลวงพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานอย่างหนัก เพื่อประชาชนคนไทย ก่อตั้งโดย คุณนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ที่มีอาชีพ เกี่ยวข้องกับชาวนาและข้าวใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีจุด ประสงค์หลักเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการของ เกษตรกร อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้สนใจได้ เข้าชม ซึ่งแต่ละโซนจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและความรู้ เกี่ยวกับโซนต่างๆอีกด้วย ไฮไลท์ในการเข้าชมภายในศูนย์เรียนรู้คือการชม แปลงนาสวยที่ปลูกให้เป็นรูปร่างต่างๆ อาทิ แผนที่ประเทศไทยหรือการปลูก ข้าวสีเขียวสลับกับต้นข้าวสีดำด้วยการแปลงเป็นอักษรรูปร่างต่าง ๆ
ตลาดเก้าห้อง เป็นตลาดห้องแถวเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน อายุประมาณ 100 ปี สร้างประมาณต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน ตั้งอยู่ ในเขตเทศบาลตำบล บางปลาม้า หมู่ที่ 2 ตำบลบางปลาม้า อำเภอ บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี จากเอกสารที่มีผู้เขียนเกี่ยวกับประวัติตลาดเก้า ห้อง และจากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุคำว่า ”ตลาดเก้าห้อง” น่าจะนำมาจาก ชื่อของบ้านเก้าห้อง ซึ่งเป็นบ้านโบราณมีประวัติสืบทอดมายาวนาน ตลาดเก้า ห้องเล่ากันว่าสร้างขึ้นโดยชาวจีนคนหนึ่งชื่อ “นายฮง“ อพยพมาจากกรุงเทพฯ มาทำมา ค้าขายอยู่บริเวณละแวกบ้านเก้าห้อง กิจการค้ารุ่งเรืองดี ในราว พ.ศ. 2424 ได้แต่งงานกับ “นางแพ” ซึ่งเป็นหลานสาวของขุนกำแหงฤทธิ์แห่งบ้าน เก้าห้อง และได้ประกอบอาชีพค้าขายที่แพซึ่งสร้างขึ้นไว้ 1 หลัง จอดอยู่ริมน้ำ หน้าบ้านเก้าห้อง ซึ่งในสมัยก่อนเป็นย่านค้าขายที่มีเรือนแพขายของสองฝั่ง แม่น้ำ นายฮง หรือที่ชาวบ้านมักนิยมเรียกว่า “เจ๊ก-รอด” ทำการค้าขายสินค้า ทุกประเภทโดยเฉพาะเครื่องบวช เครื่องมืออุปกรณ์ทำนาและเครื่องอุปโภค บริโภคทั้งหลายจนร่ำรวยและรู้จักกันในนามต่อมาว่า “นายบุญรอด เหลียงพา นิช”
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี ถือว่าเป็นพระพุทธรูปแกะ สลักหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน เป็นพระพุทธรูปปางโปรด พระพุทธมารดา หรือปางกตัญญูกตเวที ในอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) บางแบบวางบนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) จีบนิ้วพระหัตถ์ บางแบบงอนิ้วพระหัตถ์ ออกแบบให้มีขนาดหน้าตักกว้าง 25 เมตร สูง 35 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่เขต โบราณสถาน ใกล้กับวัดเขาทำเทียม ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัด สุพรรณบุรี ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของเหมืองหินเก่าที่รกร้าง จุดประสงค์ในการ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอุทยานทางพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางพระพุทธ ศาสนาของเมืองสุพรรณบุรี ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการของ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวง พ่ออู่ทอง (A Rock Buddha) ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งบริเวณด้านหลังขององค์พระ มีการเจาะอุโมงค์เพื่อ ให้สามารถลอดเข้าไปในหน้าผาได้ และด้านในอุโมงค์นั้นมีพระพุทธรูปรวมถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ประดิษฐานอยู่มากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปปฏิบัติธรรม และกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน การสร้างองค์พระแกะสลักบริเวณหน้าผาหิน นี้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่และเป็นหน้าเป็นตาของชาว สุพรรณบุรี
หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่า \"บ้าน ควาย\" จัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2545 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 70 ไร่ ติด ถนนทางหลวงหมายเลข 340 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านควาย เป็นโครงการที่สะท้อนถึงวิถีการดำรงชีวิตของชาว ไทยชนบทในสมัยก่อน ซึ่งมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับควาย สำหรับการท่องเที่ยวของหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย เน้นการท่องเที่ยว แบบเชิงอนุรักษ์ อันดับที่ 1 คือเน้นอนุรักษ์เกี่ยวกับเรื่องควาย อันดับที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องข้าว เพราะจังหวัดสุพรรณบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่น ทางด้านเกษตรกรรม คือการทำนา เป็นจังหวัดที่ผลิตข้าวติด 1 ใน 5 ของ ประเทศ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จึงเล็งเห็นความสำคัญของควาย ซึ่งอยู่คู่กับ ชาวนาไทยมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ช่วยในเรื่องของการผลิตข้าว การทำไร่ ไถนา เพื่อเป็นอาหารป้อนให้กับคนทั้งประเทศ เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากของ ชาวนาไทย ซึ่งสอดคล้องกับในยุคปัจจุบัน ถือว่าเครื่องจักรเข้ามาแทนที่ของ ควายหมดสิ้นแล้ว ควายจึงหมดภาระหน้าที่ ในการทำไร่ไถนา ซึ่งกระนั้นเอง ทำให้ควายลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว
วัดเขาดีสลัก รอยพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก บนเทือกเขาในเขตอำเภออู่ทอง มีวัดวัด หนึ่งเป็นวัดที่สวยงามสงบเงียบ และรายล้อมด้วยธรรมชาติ เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่น่าเยี่ยมชม ในความเป็นธรรมชาติ มีสิ่งก่อสร้างในความเชื่อทางศาสนา ที่ มีอายุนับพันปี ที่งดงามทั้งรูปแบบ มากด้วยคุณค่ามีเรื่องราวที่น่าศึกษาค้นคว้า ความเป็นมา ของประวัติศาสตร์ที่ยังคงปริศนา สถานที่ตั้ง ถึงแม้จะอยู่แยก ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองสุพรรณ แต่ความสวยงามก็คุ้มค่ากับ การเดินทาง รอยพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก เป็นรอยพระพุทธบาทจำลองสร้างด้วย หินทรายแดง มีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบตามที่อื่นๆ คือ เป็นรอยพระพุทธบาทนูนต่ำ ขนาดกว้างประมาณ 65.5 ซม. ยาว 141.5 ซม. นักโบราณคดีให้ความเห็นแตกต่างกันไป บางท่านว่าเป็น ศิลปะสมัยทวาราวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-16 บางท่านว่า แม้รูปแบบลวดลายจะคล้าย กับศิลปะสมัยทวาราวดี แต่ก็มีรูปแบบอื่นเข้ามาปะปน ซึ่งอาจเป็นผลงานที่ สร้างในสมัยอยุธยา ราวพุทธศวรรษที่ 19-23 ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม นั้น เป็นการสันนิษฐานจากข้อมูลเบื้องต้น ที่ต้องหาหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมถึงกำเนิด ที่แท้จริงของงานพุทธศิลปะชิ้นนี้ และนอกจากนี้ที่วัดเขาดีสลักแห่งนี้ ยังขุดค้น พบโพรงหินภายในมีพระพุทธรูปและโบราณวัตถุต่าง ๆ อีกหลายชนิด
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ป่าชุมชนบ้านพุน้ำร้อน - หินลาด สถานที่ ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ป่าเขา ผืนน้ำ ท้องฟ้า นอนนับดาว เหมาะกับการแค้ มปิ้ง กางเต้นท์ หรือจะนอนบนแพ ก็มีให้บริการ เป็นสถานที่สวยงามตาม ธรรมชาติ จนนักท่องเที่ยวเรียกกันว่า ปางอุ๋ง สุพรรณ ... เกิดจากความร่วมมือ ของชุมชน ช่วยกันพัฒนา และดูแลพื้นที่ป่าของหมู่บ้าน ให้สามารถรับนักท่อง เที่ยวแบบเรียบง่าย และเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ รายละเอียดที่พักและการเข้าเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง แพใหญ่ หลังละ 2,000 บาท (ไม่รวมอาหาร) แพเล็ก หลังละ 400 บาท (ไม่รวม อาหาร) เต็นท์ของอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หลังละ 150 บาท (ไม่รวมอาหาร) เต็นท์ที่นำมาเอง หลังละ 100 บาท (ไม่รวมอาหาร) ราคาอาหารท่านละ 200 บาท/2มื้อ เย็น,เช้า ราคาเข้าชมอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง - รถยนต์ คันละ 20 บาท - รถจักรยานยนต์ คันละ 10 บาท สามารถประกอบอาหารได้แต่ต้องไม่ ทำให้สถานที่เสียหาย ห้ามส่งเสียงดังหลังเวลา 21.00 น สามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่เช้า-ออกภายใน 6 โมงเย็น (สำหรับผู้ที่ไม่ค้างคืน)
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: