Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วรรณคดีฯ ม.3 ส่วนนำ

วรรณคดีฯ ม.3 ส่วนนำ

Published by นเรศ ยิ้มโรจน์, 2021-03-19 02:14:21

Description: วรรณคดีฯ ม.3 ส่วนนำ

Search

Read the Text Version

สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

By Pratchanee P. 2/2015

ตวั ช้ีวดั สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม ทอ้ งถ่ินในระดบั ท่ียากยง่ิ ข้ึน (ท ๕.๑ ม. ๓/๑) วเิ คราะห์วถิ ีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและ วรรณกรรมท่ีอ่าน (ท ๕.๑ ม. ๓/๒) สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นชีวติ จริง (ท ๕.๑ ม. ๓/๓) By Pratchanee P. 2/2015

แผนผงั สาระการเรียนรู้ เน้ือหาของวรรณคดี วรรณกรรมทอ้ งถ่ิน การวเิ คราะห์วถิ ีไทย และวรรณกรรม และคุณค่าจากวรรณคดี การศึกษาวรรณคดี และวรรณกรรม เวบ็ ไซตแ์ นะนา และวรรณกรรม สรุปความรู้ ความรู้เพม่ิ เติม

เนื้อหาของวรรณคดีและวรรณกรรม ๑. วรรณคดเี กย่ี วกบั ศาสนา เนน้ ในเร่ืองคาสง่ั สอนใหล้ ะชว่ั ประพฤติดี นันโทปนันทสูตรคาหลวง ไตรภูมโิ ลกวนิ ิจฉัย

เนื้อหาของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. วรรณคดเี กย่ี วกบั ประเพณแี ละพธิ ีกรรม กล่าวถึงประเพณีต่าง ๆ ของไทย คาฉันท์ดุษฎสี ังเวยกล่อมช้าง

เนื้อหาของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๓. วรรณคดเี กยี่ วกบั คาสอน ใหแ้ ง่คิดสอนใจ เป็นคติในการดาเนินชีวติ หรือปฏิบตั ิตนในสงั คม โคลงโลกนิติ กฤษณาสอนน้องคาฉันท์

เนื้อหาของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๔. วรรณคดเี กย่ี วกบั เหตุการณ์ มีเน้ือหาทางประวตั ิศาสตร์ กล่าวถึงพระราชประวตั ิ ในประวตั ิศาสตร์ การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คม สามก๊ก ราชาธิราช

เนื้อหาของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๕. วรรณคดเี พ่ือความบันเทิง แต่งเพื่อแสดงมหรสพต่าง ๆ ใชใ้ นการอ่านและขบั ร้อง ละครใน อเิ หนา

เนื้อหาของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๕. วรรณคดเี พื่อความบันเทิง แต่งเพอ่ื แสดงมหรสพต่าง ๆ ใชใ้ นการอ่านและขบั ร้อง ละครนอก ไกรทอง คาวี มณพี ชิ ัย

วรรณกรรมท้องถน่ิ วรรณกรรมทอ้ งถิ่น เป็นวรรณกรรมท่ี สะทอ้ นสภาพชีวติ ของคนในสงั คมของทอ้ งถ่ิน น้นั ๆ ท้งั วฒั นธรรม ภาษา ความเช่ือ ตลอดจนวถิ ีชีวติ ความเป็นอยู่ การใช้ ยานพาหนะ เคร่ืองมือในการประกอบอาชีพ และภูมิปัญญาไทยของแต่ละทอ้ งถิ่น วรรณกรรมทอ้ งถิ่นที่แสดงภูมิปัญญา ทางภาษาถ่ินไดถ้ ่ายทอดออกมาในรูปแบบของ นิทานพ้ืนบา้ น ตานาน บทเพลง บทเห่กล่อม บททาขวญั สุภาษิต คาพงั เพย เป็นบนั ทึก ทางสังคม และสะทอ้ นใหเ้ ห็นวฒั นธรรม ประจาทอ้ งถิ่นน้นั ๆ ดว้ ย

วรรณกรรมท้องถ่นิ ๑. บทเพลงแต่ละท้องถิ่น เพลงซอ เพลงคาจอ้ ย เพลงเกี่ยวขา้ ว เพลงอีแซว ๑.๑ เพลง ๑.๒ เพลง ค่าว พ้ืนบา้ น พ้ืนบา้ น ภาคกลาง ภาคเหนือ ๑.๓ เพลง ๑.๔ เพลง กนั ตรึม พ้นื บา้ น พ้ืนบา้ น ภาคใต้ ภาคอีสาน ลาเตย้

วรรณกรรมท้องถ่นิ ๒. เพลงกล่อมเดก็ นกขมนิ้ นกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย ค่าแลว้ จะนอนท่ีตรงไหน จะนอนไหนกน็ อนได้ สุมทุมพมุ่ ไมก้ เ็ คยนอน ลมพระพายชายพดั มาอ่อนอ่อน เจา้ เคยมานอนรังเอย นอนเหีย นอนเหียลูกเนอ หลบั ตาไพอว้ ยส้วย หนั ไผมาขายกลว้ ย พอ่ จิซ้ือห้ือกิน แม่เจา้ ไพไร่ เพ่ินจิหมกไข่มาหา แม่เจา้ ไพนา เพิ่นจิหมกปลามาตอ้ น แม่เจา้ มาเถิง ค่อยต่ืนกินนม

วรรณกรรมท้องถน่ิ ๒. เพลงกล่อมเดก็ ๒.๓ เพลงกล่อมเดก็ ภาคอีสาน นอนสาเดอ นอนสาเดอหล่า หลบั ตาไว ๆ แม่เจา้ ไปไฮ่ ยงั บ่ทนั มา แม่เจา้ เมือนา ยงั บ่ทนั ฮอด ๒.๔ เพลงกล่อมเดก็ ภาคใต้ แม่เจา้ ฮอดแลว้ ยงั แอ่วกินนม น้องนอน ฮาเออ้ ...นอ้ งนอนเหอ นอ้ งนอนใหห้ ลบั หลบั พอ่ ไปขดั ตาทพั อยทู่ ่ีเมืองปัตตานี จงมีโชคมีชยั พอ่ ไปจงไดด้ ี ไปทพั เมืองตาหนี สิบปี พอ่ มา เออ้ ...เหอ...สา…

วรรณกรรมท้องถน่ิ ๓. บทร้องเล่น ใชร้ ้องประกอบ ใชภ้ าษาส้นั ๆ ง่าย ๆ การเล่นของเดก็ คลอ้ งจองกนั ตบมือชม โพงพาง ตบมือชม ผสมเปาะเปาะ หวั เราะแหะแหะ ชอบอกชอบใจ ตบมือสองคน สบั สนกนั ใหญ่ สนุกเหลือใจ เพ่ือนรักเพอื่ นเกลอ

วรรณกรรมท้องถิ่น ๔. ปริศนาคาทาย มกั ใชค้ าคลอ้ งจองกนั เป็นปริศนากระตุน้ ใหค้ ิด ใชก้ ารเปรียบเทียบ นาส่ิงมีชีวติ มาแทน ส่ิงไม่มีชีวติ บางปริศนาตอ้ งตอบดว้ ยเชาวนป์ ัญญา

วรรณกรรมท้องถ่ิน ๕. นิทานพืน้ บ้าน ภาคเหนือ ไดแ้ ก่ ค่าวซอ เรื่องเต่านอ้ ย อองคา จาปาสี่ตน้ ถ้าผานางคอย นิทานพ้ืนบา้ นของแต่ละทอ้ งถ่ิน จะอธิบายถึงความเป็ นมาของสิ่งท่ี ภาคอีสาน ไดแ้ ก่ เร่ืองทา้ วขลู ูนางอ้วั อยใู่ นทอ้ งถิ่น อาจเป็นส่ิงที่เกิดข้ึน ผาแดงนางไอ่ ก่องขา้ วนอ้ ยฆ่าแม่ ตามธรรมชาติหรือมนุษยส์ ร้างข้ึน ภาคใต้ ไดแ้ ก่ เร่ืองตาม่องล่าย เกาะหนู เกาะแมว อ่าวพระนาง เขานางหงส์ ภาคกลาง ไดแ้ ก่ เรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก หาดบางแสน พระยากงพระยาพาน ศรีธนญชยั นางสิบสองหรือพระรถเมรี

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา เน้ือหาในวรรณคดีและวรรณกรรมอาจประกอบดว้ ยฉาก ตวั ละคร บทสนทนา เหตุการณ์ต่าง ๆ สาเหตุของปัญหา แนวทางการปฏิบตั ิ ขอ้ คิด ผลสรุป การพิจารณาคุณค่าดา้ นเน้ือหาเป็นการพจิ ารณาองคป์ ระกอบของ เน้ือเรื่องวา่ มีคุณค่าหรือประโยชนอ์ ยา่ งไรแก่ผอู้ ่าน ชายขา้ วเปลือกหญิงขา้ วสารโบราณวา่ น้าพ่ึงเรือเสือพ่งึ ป่ าอชั ฌาสยั เรากจ็ ิตคิดดูเล่าเขากใ็ จ รักกนั ไวด้ ีกวา่ ชงั ระวงั การ คาประพนั ธ์น้ีมีเน้ือที่เป็นคาสอนเรื่องการปฏิบตั ิตนของ มนุษยว์ า่ มนุษยย์ อ่ มตอ้ งพ่งึ พาอาศยั กนั และกนั ควรรู้จกั ใจเขา ใจเรา และควรจะรักกนั ไว้ เน้ือหาของคาประพนั ธ์น้ีจึงมี คุณค่าใหค้ ติในการดาเนินชีวติ แก่ผอู้ ่าน

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ศิลปะการใชถ้ อ้ ยคาในวรรณคดีหรือวรรณกรรมใหเ้ กิด ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ความไพเราะงดงาม มีการเล่นคา เล่นสมั ผสั พยญั ชนะ สมั ผสั สระ การใชอ้ ุปมา อติพจน์ สทั พจน์ บุคคลวตั ๒.๑ คาเลียนเสียงธรรมชาติต่าง ๆ เรียกวา่ สทั พจน์ เช่น เสียงฟ้าร้องครืน ฝนตกจ้กั ซู่ ต้อยตะริดติ๊ดตเี่ จา้ พีเ่ อ๋ย จะละเลยเร่ร่อนไปนอนไหน เปาะแปะ! ฟ้าผา่ ดงั แอ้ออี๋ ่อยสร้อยฟ้าสุมาลยั แมน้ เดด็ ไดแ้ ลว้ ไม่ร้างใหห้ ่างเชย เปรี้ยง! ลมพดั หววิ ลว้ นเป็นการใชค้ าเลียน เสียงธรรมชาติท้งั สิ้น ๒.๒ การใชอ้ ุปมา ชาเลืองหางตา เป็ นการเปรี ยบเทียบสิ่งหน่ึงที่ เหมือนอีกส่ิงหน่ึง ซ่ึงจะมีคาวา่ จบั ระบาราร่ายส่ายหา ดุจ ดง่ั ราว เหมือน เสมือน ทาทีดงั เทพอปั สร เพยี ง เป็นขอ้ สังเกต หรือ เปรียบเทียบเพ่อื ใหเ้ กิดภาพ

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๒.๓ การใชอ้ ติพจน์ เป็นถอ้ ยคาที่กล่าวเกินจริง เช่น เสียงพลโห่ร้องเอาชยั เลื่อนลนั่ สนน่ั ใน พรรณนาเสียงโห่ร้องเอาชยั ของ พภิ พเพียงทาลาย กองทพั วา่ ดงั ราวกบั โลกจะทาลาย ๒.๔ การเล่นสมั ผสั ท้งั สมั ผสั พินาศลง พยญั ชนะและสัมผสั สระ ใชพ้ ยญั ชนะตวั เดียวกนั ฉนากอยคู่ ู่ฉนากไม่จากคู่ ข้ึนฟ่ องฟูพน่ ฟองละอองฝน เช่น แจ่ม-จา้ -เจิด-แจง้ ฝงู พมิ พาพาฝูงเขา้ แฝงวน บา้ งผุดพ่นฟองน้าบา้ งดาจร สมั ผสั พยญั ชนะตวั “จ” เหมือนกนั

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๒.๕ การใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ กิดจินตภาพเพอื่ ใหผ้ อู้ ่านมองเห็นภาพไดช้ ดั เจน อียกั ษาตาโตโมโหมาก รูปกก็ ากปากกเ็ ปราะไม่เหมาะเหมง็ นมสองขา้ งอยา่ งกระโปรงดูโตงเตง ผวั ของเอง็ เขาระอาไม่น่าชม ภาพความเคล่ือนไหว ก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจ ทาใหเ้ กิดภาพในจินตนาการ

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม บทแสดงความโศกเศร้า รสในวรรณคดไี ทย บทพรรณนาความงามของ คร่าครวญ อาลยั อาวรณ์ ๑. เสาวรจนี อาจเทียบไดก้ บั กรุณารส ตวั ละคร สถานที่ธรรมชาติ (ความสงสาร) ทาใหผ้ อู้ ่านเกิดความรู้สึก ในวรรณคดีสนั สกฤต ซาบซ้ึงในความงดงามของ ตวั ละครหรือฉาก ๔. สัลลา ๒. นารี ปังคพสิ ัย ปราโมทย์ บทโกรธ ตดั พอ้ ต่อวา่ ๓. พโิ รธวาทัง บทเก้ียวพาราสี แสดง อาจเทียบไดก้ บั เราทรรส ความรัก อาจเทียบได้ (ความแคน้ เคือง) ในวรรณคดี สันสกฤต กบั ศฤงคารรส (ความ ซาบซ้ึงในความรัก) ในวรรณคดีสนั สกฤต

การวเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๓. คุณค่าด้านสังคมและวฒั นธรรม สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความรอบรู้ของกวใี นเร่ืองต่าง ๆ เช่น วฒั นธรรม ประเพณี ความเชื่อ ค่านิยม พิธีกรรม ความเขา้ ใจในชีวติ เขา้ ใจเพื่อนมนุษย์ เขา้ ใจสภาพชีวติ ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ การบายศรีสู่ขวญั เรียกยายปลียายเปลเขา้ เคหา คร้ันพลบค่ายา่ ฆอ้ งทองประศรี ใส่ขา้ วปลาเปร้ียวหวานเอาพานรอง น้ามนั หอมแป้งปรุงฟ้งุ ท้งั หอ้ ง เยบ็ บายศรีนมแมวจอกแกว้ มา บอกวา่ ของพอ่ เจา้ แต่เยาวม์ า เทียนดอกไมไ้ ข่ขา้ วมะพร้าวพร้อม ดว้ ยหน่อเน้ือนึกรักเป็นหนกั หนา ลูกประหล่ากาไลไขออกกอง ท้งั หูตาคมสนั เป็นมนั ยบั เอาสอดใส่ใหห้ ลานสงสารเหลือ ใหน้ ง่ั ต่อต่อกนั เป็นอนั ดบั เหมือนพอ่ แผนแสนเหมือนไม่เคลื่อนคลา เจริญรับมิ่งขวญั ราพนั ไป พลางเรียกหาขา้ คนมาบนหอ บายศรีต้งั พร่ังพร้อมนอ้ มคานบั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook