ตัวชี้วดั ระบุใจความสาํ คญั และรายละเอียดของขอ้ มลู ท่ีสนบั สนุน จากเร่ืองที่อ่าน (ท ๑.๑ ม. ๓/๓) อา่ นเรื่องตา่ ง ๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความและรายงาน (ท ๑.๑ ม. ๓/๔) วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินเร่ืองท่ีอา่ นโดยใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดด้ ีข้ึน (ท ๑.๑ ม. ๓/๕) ประเมินความถูกตอ้ งของขอ้ มูลท่ีใชส้ นบั สนุนในเรื่องท่ีอา่ น (ท ๑.๑ ม. ๓/๖) วจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผล การลาํ ดบั ความและ By G_Chai-in ความเป็ นไปไดข้ องเร่ือง (ท ๑.๑ ม. ๓/๗) 12/2014 วเิ คราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่าน (ท ๑.๑ ม. ๓/๘)
๑. การบอกความแตกต่างของคําท่ีมีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย คาํ ท่ีมคี วามหมายโดยตรง คือ คาํ ที่มีความหมายแปลตรงตามรูปคาํ ในพจนานุกรม ส่วนคาํ ที่มคี วามหมายโดยนยั คือ คาํ ที่มคี วามหมายแฝงอยู่ ไมไ่ ดแ้ ปล ความหมายตรงตามรูปคาํ คาํ ที่มีความหมายโดยนยั มกั เป็นคาํ ที่แสดงความคิดหรือ ความรู้สึกท่ีลึกซ้ึงมากกวา่ คาํ ที่มคี วามหมายโดยตรง คาํ ความหมายโดยตรง ความหมายโดยนยั • ดาว • ส่ิงที่เห็นเป็นดวงบนทอ้ งฟ้าเวลามืด • บุคคลท่ีเด่นในทางใดทางหน่ึง • แกว้ • หินแขง็ ใสแลลอดเขา้ ไปขา้ งในได้ • ส่ิงน้นั มีค่ามาก เป็นที่รัก หรือดีเยยี่ ม • กา • ช่ือนกชนิดหน่ึง ตวั สีดาํ ร้อง กาๆ • ความต่าํ ตอ้ ย By G_Chai-in 12/2014
เรื่อง สาวใช้คนใหม่ กาญจนา นาคนนั ทน์ “น่าเสียดายที่เธอเป็นเพียงสาวใช”้ เขาคิดตอ่ ไป “…แตเ่ ธอช่างเป็นสาวใชท้ ี่ฉลาดเฉลียวเกินธรรมดาเหลือเกิน - น่าอศั จรรยท์ ี่จะ พยายามจะเป็ นนกั ประพนั ธใ์ หไ้ ด้ ถา้ เป็นเองไม่ได.้ ..เพยี งตาํ แหน่งภรรยานกั ประพนั ธ์ เธอจะพอใจไหม” “กหุ ลาบแดงบนโตะ๊ นน่ั - หมายความวา่ กระไร เธอจะรู้บา้ งไหมหนอ แต่ท่าทางไมบ่ อกเลยวา่ เธอเขา้ ใจความหมายของมนั - เราสิ – บา้ ไปคนเดียว” “...ถา้ เราเป็นคนโง่ ๆ ไมเ่ ขา้ ใจคาํ พดู ท่าทีของเขากจ็ ะดี คงทาํ ใหเ้ ราทาํ ทา่ สนิทยงิ่ ข้ึน แต่นี่มนั รู้ เสียแลว้ จะแกลง้ ทาํ เป็นไมร่ ู้ จะไก๋ไปไดน้ านสกั เทา่ ไร” “เร็วเหลือเกิน – เราเพิง่ เผชิญหนา้ กนั เพียงเจด็ วนั ” เธอรําพึงพลางมองไปทางตึกสีชมพู “แตน่ น่ั แหละถา้ คนจะรักกนั จริง ๆ เพยี งแลเห็นคร้ังแรก เรากร็ ู้วา่ คนคนน้ีเป็นของเรา ทาํ ไมจึงช่าง เขา้ ใจกนั ไดง้ า่ ยดายนกั ก็ไมท่ ราบ” เธอกม้ ลงดม “กหุ ลาบแดงแจง้ รัก” แลว้ ก็นึกถึงเขาตอ่ ไปอยา่ งไม่รู้จบสิ้น หกมุหีสญีแลิงดาแบงลแะแดชตงาค่ ยนวทาอี่มมกีหตจอ่มากกายนจั โะดหยมนายัยจถาึงกดตอวั กอไยมา่ งช้ ทนี่ยิดกหมนา่นึงท้ี ห่ีเรมียากยชถื่อึงวคา่ วBดาyอมกรGักก_รหุ 1Cะ2ลhห/าa2บวi0-า่ 1iงn4
๒. การระบุใจความสําคญั และรายละเอยี ดของข้อมูลทส่ี นบั สนุน ใจความสาํ คญั ของเรื่อง คือ ขอ้ ความที่เป็ นสาระที่สาํ คญั ท่ีสุด ของเรื่อง ซ่ึงมีสาระคลมุ ขอ้ ความอ่ืน ๆ ในยอ่ หนา้ น้นั หรือเร่ืองน้นั ท้งั หมด ขอ้ ความอ่ืน ๆ เป็ นเพียงส่วนขยายใจความสาํ คญั เท่าน้นั ขอ้ ความหน่ึงหรือ ตอนหน่ึงจะมีใจความสาํ คญั ท่ีสุดเพียงหน่ึงเดียว ส่วนมากจะมีลกั ษณะเป็ น ประโยค ซ่ึงอาจปรากฏอยใู่ นส่วนใดส่วนหน่ึงของยอ่ หนา้ ก็ได้ จุดที่หาใจความสาํ คญั ยากที่สุด คือ ยอ่ หนา้ ท่ีไมม่ ีประโยค ใจความสาํ คญั ปรากฏชดั เจน อาจมีประโยคหรืออาจอยรู่ วมกนั ในยอ่ หนา้ กไ็ ด้ ซ่ึงผอู้ า่ นจะตอ้ งสรุปออกมาเอง By G_Chai-in 12/2014
เรื่อง วาสิฏฐี เสฐียรโกเศศและนาคะประทปี ขณะน้นั ท่านราชทูตจูงมือขา้ พเจา้ กลา่ ววาจาวา่ “มาทางน้ีลูกมาดูภูมิประเทศท่ีเราจะไปถึง” ท่านพาขา้ พเจา้ เดินออ้ มไปทางสุมทุมพมุ่ ไม้พน้ ออกไปเพยี ง ๒-๓ กา้ วเท่าน้นั กเ็ ห็นภูมิประเทศน้นั อยูเ่ บ้ืองตะวนั ออก พอขา้ พเจา้ เห็น กอ็ อกอุทาน เพราะมองไปทางหวั เล้ียวแมค่ งคา กเ็ ห็นกรุงโกสมั พีดูงดงามมาก เห็นกาํ แพงปราการบา้ นเรือนสลบั สลา้ งดูเป็นลดหลน่ั มีเชิงเทินทา่ น้าํ ทา่ เรือตอ้ งแสงแดดในเวลาอสั ดง ดูประหน่ึง วา่ เป็นเมืองทอง ส่วนยอดปราสาทเป็นทองแทก้ ส็ ่งแสง ดูดง่ั วา่ มีอาทิตยอ์ ยหู่ ลายดวง ควนั ไฟสีดาํ แดงพลุง่ ๆ ข้ึนจากลานเทวสถาน ถดั ลงไปขา้ งล่างริมฝ่ังน้าํ เห็นควนั สีเขียวออ่ นลอยข้ึนมาจากอสุภะที่กาํ ลงั เผาในลาํ น้าํ อนั ศกั ด์ิสิทธ์ิ ซ่ึงฉายเงาแห่งสถานตา่ ง ๆ ลงไป เห็นกระเพ่อื ม ๆ มีเรือนอ้ ยใหญ่นบั ไม่ถว้ น มีใบและธงทิวสีต่าง ๆ แลดูงามตาตรงทา่ น้าํ เห็นอยูไ่ กล ประชาชนอาบน้าํ อยูม่ ากมาย นาน ๆ ไดย้ นิ เสียงคนพูดดงั ห่ึง ๆ คลา้ ยเสียงผ้ึง ขอใหท้ ่านผูเ้ จริญคิดดูเถิด ขา้ พเจา้ รู้สึกคลา้ ยกบั วา่ ไดม้ องเห็นเทวโลกยิง่ กวา่ ไดเ้ ห็นเมืองมนุษย์ แทจ้ ริงลุ่มแม่น้าํ คงคาท้งั หมดน้ี มีความงามดูเป็นสรวงสวรรคอ์ นั ปรากฏใหเ้ ห็นข้ึนแกต่ าขา้ พเจา้ คเใบจว้ืคอางวมลางม่าดงสงนําา้นมัคญขัสอวคงยืทองาิวทมท่ามศันานรกาใ์เหชนทมเมูตือือไนงดไแช้ดลวเ้ หะนว็นใิถหคีชวก้ ีวาาติมมขงนาอิตมงอขผออคู้ กงนไสใปวนยรกืนรรคดุง์ูคโดกวว้ สายมกมั งาพารมีอบขธนอิบฝงา่ังกยแรรมุงาย่โนลก้าํ ะสคเงมัอคพียาดีททใ่ีต่ีเหป้งั เ้รอหียย็นบรู่ ิภมเBหาแyพมมืออ่นGนนั้าํ_เคเมป1Cง็ื2อนคh/งาa2สทi0-วี่อ1iรnย4รู่ ค์
๓. การเขียนกรอบแนวคดิ ผงั ความคดิ บนั ทึก ย่อความ และรายงานจากเร่ืองที่อ่านดงั นี้ ๓.๑ การเขยี นกรอบแนวคิด การเขียนกรอบแนวคิด คือ การเขียนสรุปรวบยอดเร่ืองที่อ่าน กรอบแนวคิดเป็นการ นาํ ใจความสาํ คญั ของเร่ืองหรือแก่นเรื่องมาเรียบเรียงใหช้ ดั เจน ครอบคลุมความท้งั หมดที่อ่าน เร่ือง การจัดเลยี้ งนํา้ ชา นิลุบล นวเรศ By G_Chai-in 12/2014
กรอบแนวคิดท่ีเป็ นโครงเร่ืองมีดงั น้ี ๑. คาํ นํากลา่ วถึงความสาํ คญั ของการจดั เล้ียงน้าํ ชาและสถานการณ์จริง ที่เป็ นประสบการณ์ของผเู้ ขียน ๒. เนื้อเรื่อง ใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั เรื่องสาํ คญั ในการจดั เล้ียงน้าํ ชาวา่ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง มีรายละเอียดที่ควรปฏิบตั ิและควรมีความรู้อยา่ งไร ต้งั แตเ่ ริ่มตน้ จนจบ ๒.๑ เรื่องของวา่ งและของหวานท่ีนิยมนาํ มาจดั เล้ยี งน้าํ ชา ตลอดจนภาชนะท่ีใชใ้ น การจดั และการเสิร์ฟ ตะโก้ ๒.๒ เรื่องการจดั ทาํ น้าํ ชา กาแฟ และวสั ดุ อปุ กรณ์ที่ใช้ ๒.๓ การเตรียมตวั ของเจา้ ภาพในการตอ้ นรับแขกใหเ้ หมาะสม ๓แล.ะสปรฏุปิบโตัดิจยรกิงาไรดเข้ ียนแผนผงั เป็ นภาพแนวคิดในการจดั เล้ียงใหเ้ ขา้ ใจดีข้Bึนy G_Chai-in 12/2014
๓.๒ การเขยี นผงั ความคดิ ผงั ความคิด (Mind Map) หมายถึง ความคิดเกี่ยวกบั เรื่องใดเรื่องหน่ึง โดยแสดงออกมาในลกั ษณะการเขียนเร่ืองตอ่ โยงของคาํ ภาพ สญั ลกั ษณ์ และสี แทน การจดยอ่ แบบเดิมท่ีเป็ นบรรทดั ๆ ขณะเดียวกนั กช็ ่วยเป็ นสื่อนาํ ขอ้ มลู จากภายนอก รูปแบบการเขียนผงั ความคดิ ๑. แผนผงั แบบกิ่งไม้ (Branching Map) ๒. แผนผงั วงจร (A Circle Map) By G_Chai-in 12/2014
รูปแบบการเขยี นผงั ความคดิ ๔. แผนผงั กา้ งปลา (A Fishbone Map) ๓. แผนผงั ใยแมงมุม (A Spider Map) ๖. แผนผงั รูปวงกลมทบั เหลื่อม ๕. แผนผงั ตารางเปรียบเทียบ (A Compare Table Map) (Overlapping Circles Map) By G_Chai-in 12/2014
๓.๓ การเขียนบนั ทึก การเขียนบนั ทึกจากการอ่านนบั เป็นเรื่องสาํ คญั ที่จะนาํ ไปใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการเรียบเรียง รายงานเร่ืองต่าง ๆ เป็นการบนั ทึกขอ้ ความสาํ คญั ของเร่ืองที่อ่าน เร่ือง สะเดากาํ จดั สารพดั แมลง สะเดา หนอนกะทู้กดั ต้น เพลยี้ กระโดดหลังขาว หนอนมวนใบข้าว By G_Chai-in 12/2014 เพลีย้ จกั จน่ั สีเขยี ว
การจดบันทึก เรื่อง สะเดากาํ จดั สารพดั แมลง สะเดาเป็นไมเ้ บญจพรรณข้ึนอยทู่ ว่ั ไปในอินเดีย พมา่ และไทย ขยายพนั ธุ์ดว้ ย การเพาะเมลด็ มอี ยู่ ๓ พนั ธุใ์ นประเทศไทย คือ สะเดาอินเดีย สะเดาชา้ ง และสะเดาไทย มีคุณสมบตั ิเป็นสมุนไพรป้องกนั และกาํ จดั ศตั รูพืชไดม้ ากมายหลายชนิด สามารถฆ่าแมลง ขบั ไล่แมลง และต่อตา้ นการดูดกิน ยบั ย้งั การเจริญเติบโตของศตั รูพชื ไดม้ ากมาย เช่น ตวั หมดั เพล้ียอ่อน มีวธิ ีการใชด้ งั ต่อไปน้ี ๑. โรยเมลด็ สะเดาตามแปลงผกั เพ่ือปรับสภาพดิน ๒. นาํ เมลด็ สะเดากะเทาะเปลือก ๑ กิโลกรัม บดใหล้ ะเอียด ห่อผา้ แช่น้าํ ๑ ปี บ ทิง้ ไว้ ๑ คืน นาํ ไปฉีดพน่ ตามใบพชื ผกั ก่อนนาํ ไปใช้ อาจผสมสบู่ ๑ ชอ้ นโตะ๊ เป็นสารจบั ใบฉีดพ่นทุก ๆ ๗ วนั ในตอนเยน็ ๓. นาํ ใบสะเดา ข่า ตะไคร้หอม อยา่ งละ ๑ กิโลกรัม สับใหล้ ะเอียด แลว้ ตาํ หรือบด รวมกนั แช่น้าํ ๑ ปี บทิ้งไว้ ๑ คืน แลว้ กรองเอาหวั เช้ือท่ีไดผ้ สมน้าํ เปล่าในสัดส่วน ๑ : ๑ ฉีดไล่ หนอนและแมลงในแปลงพชื ผกั ฉีดพ่นทุก ๆ ๗ วนั ในตอนเยน็ By G_Chai-in 12/2014
๓.๔ การเขยี นย่อความ การยอ่ ความ คือ การเรียบเรียงเน้ือหาสาํ คญั ที่ไดจ้ ากการอ่าน ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการยอ่ ความ ๑. อ่านเรื่องใหเ้ ขา้ ใจดว้ ยการพจิ ารณา โครงเร่ือง ใจความสาํ คญั และรายละเอียด ประกอบเร่ือง ๒. ใชว้ จิ ารณญาณในการอ่านดว้ ยการวเิ คราะห์วนิ ิจสารดว้ ยการใชเ้ หตุผลอยา่ งรอบคอบ ๓. เรียบเรียงขอ้ ความสาํ คญั ที่ไดจ้ ากการอ่านดว้ ยขอ้ ความที่กะทดั รัด เขา้ ใจง่าย ตวั อยา่ งการยอ่ ปาฐกถาธรรมเร่ือง ความรักของแม่ ของ ปัญญานนั ทภิกขุ จากหนงั สือเรื่อง แม่ ความรักของแม่ หนา้ ๓-๔ ความวา่ แม่เป็ นบุคคลท่มี คี วามปรารถนาดี มีนํา้ ใจ และช่วยเหลือเราด้วย ความจริงใจมากทีส่ ุด ดงั น้ัน ลกู ทุกคนต้องระลกึ ถึงบุญคุณของท่านตลอดเวลา เพราะลกู ทร่ี ะลกึ ถงึ บุญคุณของพ่อแม่จะไม่ทําความช่ัวให้แม่เป็ นทุกข์ สิ่งนี้จงึ เป็ นส่ิงกนั ภยั ไม่ให้ลกู ตกไปสู่ทางอบาย By G_Chai-in 12/2014
๓.๕ การเขยี นรายงาน รายงาน คือ การเสนอรายละเอียดต่าง ๆ ท่ีไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ รายงานจะบรรจุขอ้ มูลพ้ืนฐาน ที่ช่วยใหท้ ราบแนวทาง ขอ้ สรุป หรือประเดน็ ท่ีเป็นส่วนสาํ คญั ที่สุด จุดมุ่งหมายของการทาํ รายงาน ๑. เพอ่ื ฝึกฝนใหม้ ีนิสัยรักการเขียน ๒. เพ่ือส่งเสริมใหม้ คี วามรู้ ความคิดริเร่ิม รู้จกั แสดงความคิดอยา่ งมีเหตุผล ๓. เพ่ือส่งเสริมใหไ้ ดม้ โี อกาสศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติม ๔. เพ่อื ฝึกใหม้ ีความรู้ความสามารถในการวเิ คราะห์เร่ืองราวต่าง ๆ อยา่ งถูกตอ้ ง ๕. เพ่ือส่งเสริมและฝึกทกั ษะทางภาษา By G_Chai-in ๖. เพ่ือปูพ้ืนฐานการศึกษาคน้ ควา้ และการเขียนรายงานสาํ หรับการศึกษาในข้นั ส1ู2งข/2้ึน014
หลกั การเขียนรายงาน ๑. ควรเขียนใหส้ ้ันเอาแต่ขอ้ ความท่ีจาํ เป็น ๒. ใจความสาํ คญั ควรครบถว้ นเสมอวา่ ใคร ทาํ อะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อยา่ งไร ๓. ควรเขียนแยกเร่ืองราวออกเป็นประเดน็ ๆ ๔. เน้ือความที่เขียนตอ้ งลาํ ดบั ไม่สับสน ๕. ขอ้ มูล ตวั เลข หรือสถิติต่าง ๆ ควรไดม้ าจากการพบเห็นจริง ๖. ถา้ ตอ้ งการจะแสดงความคิดเห็นประกอบ ควรแยกความคิด ออกจากตวั ข่าวหรือเรื่องราวท่ีเสนอไปน้นั ๗. การเขียนบนั ทึกรายงาน ถา้ เป็นของทางราชการควรเป็นรูปแบบที่ใชแ้ น่นอน ๘. เม่ือบนั ทึกเสร็จแลว้ ตอ้ งทบทวนและต้งั คาํ ถามในใจวา่ ควรจะเพิม่ เตBิมyหรGือ_Chai-in ตดั ทอนส่วนใดทิ้ง หรือตอนใดเขียนแลว้ ยงั ไม่ชดั เจน กค็ วรจะแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อ1ย2/2014
การเขยี นบรรณานุกรมและเชิงอรรถ ๑. การเขยี นบรรณานุกรม เป็นการบอกแหล่งที่มาของหนงั สือที่อ่าน หนังสือ ผแู้ ต่ง. ช่ือหนังสือ. คร้ังที่พมิ พ.์ สถานที่พมิ พ์ : ผจู้ ดั พมิ พ,์ ปี ที่พมิ พ.์ ดนยั เมธิตานนท.์ บ่อเกดิ สํานวนไทย. กรุงเทพฯ : มิติใหม่, ๒๕๔๘. วารสาร ผเู้ ขียนบทความ. “ช่ือบทความ.” ช่ือวารสาร ปี ที่, ฉบบั ที่ (ปี พมิ พ)์ : เลขหนา้ . ธาดา เกิดมงคล. “วธิ ีคุมการซ่อมบา้ น.” ฟ้าเมืองไทย ๓, ๒๙ (๒๕๒๐) : ๕๐-๕๒. หนังสือพมิ พ์ ผเู้ ขียนบทความ. “ชื่อบทความ.” ช่ือหนังสือพมิ พ์ (วนั เดือน ปี ที่พิมพ)์ : เลขหนา้ .By G_Chai-in ดีพร้อม ไชยวงศเ์ กียรติ. “ทาํ ป๋ ยุ หมกั ใชไ้ ดใ้ นเวลา ๓๒ วนั .” ไทยรัฐ (๒๒ กรกฎาคม ๒๕1๒2/๔20)1:4๗.
๒. การเขยี นเชิงอรรถ เป็นการบอกแหล่งท่ีมาจากการคดั ลอกขอ้ ความเพอ่ื นาํ ไปเรียบเรียง ในรายงาน เพอ่ื เป็นขอ้ อา้ งอิงไวต้ อนล่างของกระดาษ หนังสือ ผแู้ ต่ง. ช่ือหนังสือ. (สถานท่ีพมิ พ์ : สาํ นกั พมิ พ,์ ปี พมิ พ)์ , เลขหนา้ . ดาํ รงราชานุภาพ, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา. ความทรงจาํ . (กรุงเทพฯ : โรงพมิ พเ์ จริญธรรม, ๒๔๙๕), ๘. วารสาร ผแู้ ต่ง. “ชื่อบทความ.” ชื่อวารสาร ปี ที่หรือเล่มที่ (เดือน ปี ที่พมิ พ)์ : เลขหนา้ . ชมนาด ศีติสาร. “ไก่ ในวฒั นธรรมของชาวญีป่ ่ ุน.” อกั ษรศาสตร์ ๓๕ (กรกฎาคม - ธนั วาคม ๒๕๔๙) : ๑๓๕. หนังสือพมิ พ์ ผแู้ ต่ง. “ช่ือบทความ.” ช่ือหนังสือพมิ พ์ (วนั ที่ เดือน ตามลม. “ซุปเปอร์มูน หายนะ ความเชื่อ เสริมเสน่ห์ ปหี ทรือ่ีพมิ(กพแ็ )์ต:่)เลปขรหากนฏา้ ก. ารณB์ธรyรGม_ช1Cา2ตh/aิ.2.i.0-”1in4 มตชิ น (๑๙ มีนาคม ๒๕๕๔) : ๑๒.
๑. ปกนอก ควรใชก้ ระดาษสีสุภาพ เขียนช่ือเรื่องรายงานอยา่ งเด่นชดั ๒. ปกใน เป็นตอนที่บอกลกั ษณะของรายงาน ประกอบดว้ ยช่ือเร่ือง ชื่อผทู้ าํ รายงาน ช้นั ท่ีเรียน ปี ท่ีทาํ รายงาน ประกอบการเรียนวชิ าใด ๓. คํานํา เป็นขอ้ ความแสดงจุดประสงคใ์ นการเขียนรายงาน ๔. สารบญั เป็นส่วนสาํ คญั ที่แสดงใหเ้ ห็น โครงเรื่องวา่ แต่ละเรื่องอยใู่ นหนา้ ใด ๕. เนื้อเรื่อง เป็นส่วนสาํ คญั ของรายงาน ประกอบดว้ ย เน้ือหาต้งั แต่บทแรกจนถึงบทสุดทา้ ย ๖. บรรณานุกรม คือ การบอกแหล่งที่มาจากการอ่าน ที่ไดค้ น้ ควา้ มาประกอบการเขียนรายงาน ๗. ภาคผนวก เป็นตอนท่ีเพิ่มขอ้ คBวาyมGบ_าCงอhaยiา่-งin นอกเหนือจากที่ปรากฏในรายงาน 12/2014
๔. การวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องทอ่ี ่าน การอ่านอยา่ งใชว้ จิ ารณญาณ คือ การอ่านใหเ้ ขา้ ใจแลว้ นาํ มาวเิ คราะหแ์ ยกแยะเน้ือหา วา่ มีใจความสาํ คญั และรายละเอียดตลอดจน วธิ ีการเรียบเรียงถอ้ ยคาํ สาํ นวนวา่ เป็นอยา่ งไร แลว้ จึงนาํ มาสรุปวา่ เป็นเร่ืองท่ีดีมคี ุณภาพ ควรเชื่อถือ และนาํ ไปใชใ้ หเ้ ป็นประโยชนใ์ นการดาํ เนินชีวติ ไดห้ รือไม่ By G_Chai-in 12/2014
By G_Chai-in 12/2014
๕. การประเมนิ ความถูกต้องของข้อมูลทใ่ี ช้สนับสนุนในเร่ืองทอ่ี ่าน การอ่านบทความต่าง ๆ ผรู้ ับสารจะตอ้ งสงั เกตความถกู ตอ้ งของขอ้ มูลที่สนบั สนุน ใจความสาํ คญั จากเร่ืองที่อา่ น เรื่อง หลกั ธรรม หลกั ทาํ ตามรอยพระยุคลบาท ดร.สุเมธ ตนั ติเวชกุล ...“เพราะฉะน้นั ประโยชน์ส่วนรวมตอ้ งทาํ พระองคท์ า่ นไดด้ าํ เนินการ ตลอดชีวิตของพระองค์ ๕๙ ปี ของการทรงงานอยนู่ ้นั ทรงยดึ ถือประโยชนข์ อง ส่วนรวมเป็ นท่ีต้งั โดยตลอด ไม่เคยนึกถึงพระวรกายแมแ้ ตน่ อ้ ย ไม่เคยนึกถึงประโยชน์ ของพระองคแ์ มแ้ ตน่ อ้ ย เคยเขา้ ไปขอพรพระราชทานพร บอกวนั น้ีวนั เกิดพระพทุ ธเจา้ ค่ะ ขอพระราชทานพร พระราชทานวา่ อยา่ งไร “ขอให้มีร่างกายทีแ่ ขง็ แรงเพื่อสามารถทาํ ประโยชน์ให้กบั คนอื่นเขาได้ ขอให้มี ความสุขจากการทํางาน และขอให้ได้รับความสุขจากผลสําเร็จของงานน้นั ” ไมม่ ีเลยของส่วนตวั แขง็ แรงก็ไมใ่ ช่ส่วนตวั แขง็ แรงเพื่อไปรับใชค้ นอื่นเขา ความสุขกไ็ ม่ใช่ความสุขจะไปเตน้ ดิสโกท่ีไหน เคผหลว็นาทมไ่ีสหสุดุขมสคท่ิงือ้งัทก๓่ีเราราปไทรดาํ ะร้งโัาบยนนค้นทันา้ํีคแงือามนก้คใรวหะาค้มทนสงั่ ตอุข้งื่นั แเขตาร่ ่าแงลกะาคยจวนามกสรุขะทที่เง่ั กกิดาขร้ึนกมราะมทนัาํ ขสอาํ เงรเ็รจาแไลปว้เพเรอ่ื าคมนีคBวอyาื่นมGส_ุข1C2h/a2i0-1in4
แต่พวกเราไม่นิยมหรอกความสุข ไม่ตื่นเตน้ สนุกดีกวา่ คิดดูใหด้ ีนะครับความแตกตา่ งระหวา่ ง ความสนุกกบั ความสุขน้นั แตกตา่ งกนั มากเลย ความสุขน้นั อาจจะต้งั อยบู่ นพ้ืนฐานซ่ึงอาจจะไม่ตอ้ งการอะไร สักอยา่ งเลยก็ได้ อยา่ งผมกลบั บา้ นท่ีเพชรบรุ ี ผมกน็ ง่ั เปลญวนของผม นงั่ ดูกระรอกวิง่ ผมก็มีความสุขแลว้ ความสนุกคณุ ตอ้ งไปซ้ือมนั กช็ ว่ั แลน่ เทา่ น้นั แหละ เหมือนสุภาษติ ไทยเขาบอก รักสนุกทุกขถ์ นดั ตามดว้ ยความทกุ ขอ์ ยตู่ ลอดเวลา ไปเท่ียว ถูกแทง ถกู ตีหวั อะไรสนุก แตค่ วามสุขนี่ไม่ไดก้ ่อความเดือดร้อนใหก้ บั ใครใด ๆ ท้งั สิ้น เป็นของเรา จิตของเราท้งั น้นั เพราะฉะน้นั ชาวพทุ ธ ศาสดาของเราสอนในเร่ืองท่ีสูงมากแตเ่ ราไมย่ อมทาํ ตาม ไม่ตอ้ งตะกายกระไดท่ีไหนเลย อยทู่ ่ีจิตของเรากาํ หนดนะครับ” ท่มี า : สุเมธ ตนั ติเวชกลุ . หลกั ธรรม หลกั ทาํ ตามรอยพระยคุ ลบาท. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พด์ ่านสุทธาการพิมพ,์ ๒๕๔๘. บทความทีก่ ล่าวถงึ ใจความสําคญั ว่าพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสําคญั ของ ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ด้วยการอ้างเหตผุ ลว่าแม้แต่เร่ือง พระราชทานพรกย็ งั ขอให้ ผู้รับพรมีร่างกายแขง็ แรงจะได้ทําประโยชน์ให้แก่ผู้อืน่ ได้อย่างมคี วามสุข และให้ได้รับความสุขจาก แคแลตวะากมกตาส่ารงํายกเรกนั ็จสอขุภยอา่างษงงไติารนวโ่าทด“ท่ี ยรํายักปกสรตนะวั ุกโอยทยชุก่านงข์ตค์ถ่อวนาสัดม่ว”หนนารย้ันวนมเปะด็ นท้วค่ีเยกวดินาจอมากจกจรคาิงวกทาน่เีมชยี้ สื่องั นถมือุกตี ไวัแดอล้ ยะ่คางวชาี้ใมหด้เหงี า็นมวท่าเ่ีคกวดิ าจมาสกุขคBกวyบาั มGคสว_ุขา1Cม2hส/a2นi0-ุก1inน4้ัน
๖. การวจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลาํ ดบั ความ และความเป็ นไปได้ของเร่ือง วรรณกรรมต่าง ๆ ที่อ่าน ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ สาํ คญั ของเรื่อง ซ่ึงจะตอ้ งมีความสมจริง สมเหตุสมผล โดยผอู้ ่านสามารถพจิ ารณาไดว้ า่ เกิดข้ึนในยคุ สมยั ใดได้ การวจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลาํ ดบั ความ และความเป็ นไปได้ของเรื่อง แก้วจอมซน จะเห็นวา่ ผเู้ ขียนไดว้ างโครงเรื่องเพอ่ื เสนอ ความคดิ เก่ียวกบั เร่ืองงานวนั เกิดไดอ้ ยา่ งครบถว้ น แสดงให้ เห็นถงึ ความสาํ คญั ท่ีแทจ้ ริงของการจดั งานวนั เกิด ซ่ึงจะทาํ ให้ เจา้ ของวนั เกิดไดม้ ีความสุขอยา่ งแทจ้ ริง ต่างจากคนส่วนใหญ่ ที่มกั ไม่เห็นความสาํ คญั ของการทาํ บุญใส่บาตร นึกถึงแต่เร่ือง ความสนุกสนาน ของขวญั และงานเล้ียงฉลองอยา่ งใหญ่โต เร่ืองน้ีนบั วา่ มีคุณค่ามากท่ีกลา่ วถงึ การจดั งานวนั เกิดของแกว้ ที่เป็นเรื่องดีงาม โดยเร่ิมจากการทาํ บุญ ใส่บาตร และปล่อยสัตว์ ตลอดจนการใหข้ องขวญั ที่ลว้ นแลว้ แต่เป็นสิ่งของที่ประดิษฐข์ ้ึนเองมีแนวคดิ สร้างสรรค์ มีการ คคลวาตํ ดริชบชัีว่วคติ ยววกาา่ มนชั ีเวทหติ าํมไงาามะน่มสเีอพมะอื่ดไปว้รยรแกะนโา่นรยบอชนนาํ เส์พคุขญ็นขเสรอาางธไตามนร่วณเา่อเปดงแรก็ ละหโะรยสือชงั ผนคใู้ ม์ทหี่สญว่กนเ็ สจีตยชุจีกวั ติรไนดอเ้ หกจมาือกนนก้ียนัBงั แyแสลGดะ_งท1Cใ2ุกหh/คa2เ้ หนi0-1i็นn4
๗. การวิเคราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกย่ี วกบั เร่ืองที่อ่าน เมื่อผอู้ ่านไดว้ เิ คราะหแ์ ลว้ พบวา่ เร่ืองท่ีอ่านน้นั ไม่ตรงกบั ความคิดเห็นของตน ก็โตแ้ ยง้ ได้ ถา้ มีเหตุผลประกอบการโตแ้ ยง้ เพยี งพอ By G_Chai-in 12/2014
การวเิ คราะห์เพื่อแสดงความคดิ เหน็ โต้แย้งเกยี่ วกบั เร่ืองท่ีอ่านเร่ืองดอกไม้เหลก็ จะเห็นไดว้ า่ ในยคุ ท่ีเริ่มมีการผลิตพลาสติกข้ึนน้นั เป็นที่นิยมยกยอ่ งวา่ เป็นผลิตภณั ฑ์ ท่ีดีงาม แมแ้ ต่ดอกไมพ้ ลาสติก จึงทาํ ใหร้ ้านขายดอกไมส้ ดท่ีใชศ้ ิลปะการจดั อยา่ งสูงส่งล้าํ ค่า ตอ้ งขาดทุนยอ่ ยยบั ไม่สามารถดาํ เนินกิจการต่อไปได้ จากสาระสาํ คญั ดงั กล่าวมาน้ี ถา้ ไดพ้ จิ ารณาใหล้ ึกซ้ึงแลว้ จะเห็นไดว้ า่ เป็นการหลงผดิ เพราะในเวลาต่อมาค่านิยมผลิตภณั ฑ์ ท่ีใชพ้ ลาสติกลดลงมากก็กลบั มาเห็นคุณค่าของผลิตภณั ฑจ์ ากธรรมชาติมากข้ึน ปัจจุบนั ศิลปะการจดั ดอกไมส้ ดจึงกลบั มากลายเป็นศิลปะท่ีดีงามข้ึนได้ มรี ้านจดั ดอกไมส้ ดเกิดข้ึนในสังคมปัจจุบนั มิไดเ้ หมือนท่ีกล่าวในเรื่องที่อ่าน ท้งั น้ีเป็นเพราะความคิดเห็นของคนในสังคมแต่ละสมยั ยอ่ มแตกต่างกนั ไปได้ By G_Chai-in 12/2014
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: