Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนหน่วยที่-1-1

แผนการสอนหน่วยที่-1-1

Published by rodchana1516, 2018-05-09 01:06:25

Description: แผนการสอนหน่วยที่-1-1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1ช่อื วิชา อตุ สาหกรรมเกษตรเบื้องต้น สอนครั้งที่ 1-2 ชื่อหน่วย ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับอุตสาหกรรม คาบรวม 2 เกษตร จานวนคาบ 2ช่อื เรอื่ ง ความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกบั อุตสาหกรรมเกษตรหัวขอ้ เร่ือง 1. ความหมายของอตุ สาหกรรมเกษตรเบอ้ื งตน้ 2. ความสาคัญและประโยชน์ของอุตสาหกรรมเกษตร 3. เปา้ หมายของอุตสาหกรรมเกษตร 4. อตุ สาหกรรมหลกั ของประเทศไทย 5. ความแตกต่างของอตุ สาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอน่ื ๆสาระสาคัญ อุตสาหกรรมเกษตรเป็นการดาเนินการธุรกิจเกษตรเพ่ือให้เกิดผลิตผลทั้งจากการทาการเกษตรและการจัดหา เพ่ือใช้เป็นวัตถุดิบสาหรับแปรรูปโดยเคร่ืองจักรด้วยระบบอุตสาหกรรมเพ่ือให้ได้ผลิตภัณฑ์จากวตั ถุดบิ ผลติ ภณั ฑ์จากผลติ ผลพลอยได้และของเหลือจะต้องให้มกี ารสูญเปล่าน้อยท่ีสุด รวมท้ังการจัดจาหนา่ ยผลิตภัณฑท์ ี่ผลิตได้ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศ ดังน้ันจึงถือไดว้ ่าอุตสาหกรรมเกษตรมีความสาคัญกับระบบเศรษฐกิจและมนุษย์หลายประการ เช่น ช่วยให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษาและใช้ประโยชน์จากผลิตผลทางธรรมชาติและการเกษตรได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้เกิดธุรกิจการเกษตรอื่นๆ ทาให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและการเกษตรของประเทศสาเร็จผลมากย่ิงขึ้น ในการดาเนินธุรกิจเกษตรมีเป้าหมายหลัก คือ ต้องมีระยะเวลาดาเนินการผลิต 12 เดือน สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการ ขายผลิตภัณฑ์ได้หมด มีผลกาไรและสร้างความเช่ือม่ันให้กับผลิตภัณฑ์ ซ่ึงปัจจัยที่เก่ียวข้องท่ีทาให้เกิดความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอ่ืนๆ คือ วัตถุดิบ คุณภาพทางประสาทสัมผัส การควบคุมป้องกันการ เสื่อมเสียของวัตถุดิบและการจัดการ โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นอีกสาเหตุหน่ึงที่ทาให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างอุตสาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอื่นๆ อันเป็นผลทาให้ระบบอุตสาหกรรมเกษตรเกิดความลม้ เหลวสมรรถนะประจาหน่วย แสดงความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ เป้าหมาย และความแตกต่างของอตุ สาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอน่ื ๆ ตามหลักการจุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง / บูรณาการทางคุณธรรม / ตัวบ่งชี้ตามมาตรฐานภายในสถานศกึ ษา 1. เพื่อให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความหมายของอตุ สาหกรรมเกษตรเบ้ืองต้น

2. เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความสาคัญและประโยชน์ของอุตสาหกรรมเกษตรเบ้อื งต้น 3. เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับเป้าหมายของอุตสาหกรรมเกษตร 4. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอ่นื ๆ 5. มีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ วชิ าชีพและมกี ารพัฒนาลกั ษณะนิสัยทีพ่ งึ ประสงค์ในการเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง / บูรณาการทางคุณธรรม / ตัวบง่ ช้ีตามมาตรฐานภายในสถานศกึ ษา ดา้ นความรู้ 1. สามารถบอกความหมายของอตุ สาหกรรมเกษตรเบ้ืองตน้ ได้ 2. สามารถบอกความสาคญั และประโยชนข์ องอุตสาหกรรมเกษตรเบ้ืองต้นได้ 3. สามารถอธิบายเป้าหมายของการดาเนินอุตสาหกรรมเกษตรได้ 4. สามารถอธิบายความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอ่ืนๆ ได้ ด้านทักษะ สามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูลความรู้ได้ด้วยตนเอง เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มลู ดว้ ยแผนผงั ความคิดไดถ้ กู ต้องตามหลักการ ด้านคณุ ธรรมจริยธรรม พัฒนาลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์ ได้แก่ ความรับผิดชอบ การพ่ึงพาตนเอง ความสนใจใฝ่รู้กล้าแสดงออกในส่ิงที่ถูกต้อง และเป็นผู้ช่างสังเกต ประหยัด รอบคอบ และมีเหตุผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพิ่มขึ้น

เนื้อหาสาระ หน่วยที่ 1 เรือ่ ง ความรู้เบ้ืองตน้ เกย่ี วกับอตุ สาหกรรมเกษตร ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรรม แม้ว่าปัจจุบันอาชีพเกษตรกรรมได้ลดลงบ้างจากสมัยก่อน แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักของการดารงชีวิตของมนุษย์ก็ยังพ่ึงพาการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ และการประมง ลักษณะของการประกอบอาชีพเกษตรกรรมในอดีตเป็นการประกอบอาชีพเพ่ือการยังชีพ มีการผลิตผลิตผลทางการเกษตรไว้บริโภคในครัวเรือน ซ่ึงวิธีการผลิตยังเป็นแบบโบราณ มีการใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ท่ีมีอยู่ หรือประดิษฐ์ข้ึนใช้เอง ใช้เทคโนโลยีที่มีในท้องถิ่น ปัจจุบันการทาการเกษตรได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยรูปแบบการผลิตเป็นการผลิตเพ่ืออุตสาหกรรมเป็นหลักหรือเป็นการผลิตในลักษณะเกษตรอุตสาหกรรม ดังนน้ั จึงได้นาเอาวตั ถุดิบทางการเกษตรจานวนมากมาเขา้ สู่ระบบอตุ สาหกรรมเพอ่ื แปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์อาหารสาหรับบรโิ ภคเพื่อการดารงชีวิตต่อไป1. ความหมายของอตุ สาหกรรมเกษตรเบื้องต้น อุตสาหกรรม หมายถึง การผลิตสินค้าอันเน่ืองมาจากการนาเอาวัสดุ หรือสินค้าบางชนิดมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้มากขึ้น กระบวนการประกอบการอุตสาหกรรมประกอบด้วยการนาวัตถุดิบหรือสินค้ามาผ่านกระบวนการผลิต หรือแปรรูปได้เป็นสินค้าสาเร็จรูป และจาหน่ายไปยังผู้บริโภค ในข้ันตอนของกระบวนการผลิตมีปัจจัยที่เก่ียวข้องหลายประการ ตั้งแต่แรงงานเครอื่ งจักร เคร่ืองมอื เคร่อื งใช้ เงินทุน ทีด่ นิ อาคาร รวมทัง้ การบริหารจัดการ การเกษตรหรือเกษตรกรรม (Agriculture) หมายถึง การเพาะปลูกพืชต่างๆ รวมทั้งการเลี้ยงสัตวแ์ ละการประมง ผู้ที่ทาการเกษตรน้ันเรียกวา่ เกษตรกร ส่วนคาว่ากสิกรน้ันหมายถงึ ผู้ที่ทาการกสกิ รรม คือผทู้ ่ปี ลกู พชื อย่างเดยี ว เช่น ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน การเกษตรจงึ เป็นการจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน และทุน โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ เพ่ือให้ได้มาซึ่งผลผลิตจากทั้งพชื และสัตว์ ซง่ึ เรานิยมเรียกว่า ผลผลติ ทางการเกษตร ระบบอตุ สาหกรรม คือ การนาเอาวัตถดุ ิบจานวนมากมาแปรรปู ด้วยเครอ่ื งจักรและอปุ กรณ์อย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้ได้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีปริมาณ คุณภาพ ราคาต้นทุนการผลิตตามท่ีต้องการ ภายในระยะเวลาทีก่ าหนด และจดั จาหน่ายผลติ ภัณฑท์ ่ีได้ อุตสาหกรรมเกษตร (Agro – Industry) คือ การดาเนินการธุรกิจเกษตรเพ่ือให้เกิดผลิตผลท้ังจากการทาการเกษตรและการจัดหาเพ่ือใช้เป็นวัตถุดิบสาหรับแปรรูปโดยเคร่ืองจักรด้วยระบบอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้ผลิตภณั ฑ์จากวตั ถุดิบ ผลติ ภัณฑจ์ ากผลิตผลพลอยได้และของเหลืออย่โู ดยให้มกี ารสญู เปล่านอ้ ยที่สุด รวมทั้งการจดั จาหนา่ ยผลิตภณั ฑ์ที่ผลิตได้ ธุรกิจการเกษตร หมายถึง การดาเนินงานทั้งหลายท่ีเก่ียวกับการผลิตและการจัดจาหน่ายปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมการผลิตระดับไร่นา การเก็บเก่ียว การแปรรูป และการจัดจาหนา่ ยสินคา้ เกษตร และผลติ ภณั ฑท์ ท่ี าจากผลผลิตเกษตร ขั้นตอนการดาเนินการธุรกิจการเกษตร มดี ังน้ี

1) การผลิต (Production) คือ กิจกรรมการผลิตสินค้าเกษตรเพ่ือให้ได้ผลผลิตมาใช้เป็นวตั ถดุ บิ ในการผลติ เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ 2) การเก็บรักษา (Storage) คือการนาวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ท่ีได้มาเก็บรักษาก่อนการแปรรปู หรอื การจาหนา่ ยต่อไป โดยไม่ให้เกดิ การเนา่ เสีย 3) การแปรรูป (Processing) คือการนาเอาวัตถุดิบมาทาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งจากตัวของวัตถุดิบโดยตรงและจากผลพลอยได้จากวัตถุดิบนั้น โดยเครื่องจักรกลและระบบการผลิตแบบอตุ สาหกรรมเกษตร 4) การจัดจาหน่าย (Diatribution) การตลาดซ่ึงเป็นดัชนีชี้วัดความสาเร็จของผู้ผลิตผู้ผลิตต้องมีเครอื ข่ายในการจดั จาหนา่ ยให้ถงึ มอื ผบู้ ริโภค ทง้ั ในประเทศและนอกประเทศ2. ความสาคัญและประโยชนข์ องอุตสาหกรรมเกษตร ธุรกิจการเกษตรประเภทการผลิตและการแปรรูป ซึ่งประกอบด้วยการดาเนินการท้ังส่วนการผลิตคือ เกษตรกรรม เพ่ือให้ได้วัตถุดิบมาใช้เป็นวัตถุดิบ และการดาเนินงานในส่วนการแปรรูปคอื การนาเอาวัตถุดิบมาทาให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ท้ังจากตัววัตถุดิบโดยตรง และจากผลผลติ พลอยได้จากวัตถุดิบนั้น โดยอาศัยเคร่ืองจักรกลด้วยระบบการดาเนินการผลิตแบบอุตสาหกรรม รวมทั้งการจัดจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ท่ีผลิตทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ ดังน้ันจงึ ถือได้ว่าอุตสาหกรรมเกษตรมคี วามสาคญั ดังนี้ 2.1 ช่วยให้ยืดอายุการเก็บรักษาวัตถุดิบและใช้ประโยชน์จากผลิตผลทางธรรมชาติและการเกษตรได้อย่างเตม็ ที่ การใช้ประโยชน์ผลิตผลเกษตรทาได้สองทางคือ การนาไปบริโภคและผลิตเครื่องอุปโภค ท้ังในรูปของสดและผลิตภัณฑ์ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผลิตผล จาเป็นต้องใช้วทิ ยาศาสตร์ประยุกตแ์ ละเทคโนโลยีร่วมกันในการดาเนินงานอตุ สาหกรรมเกษตร ภาพที่ 1.1 ผลิตภัณฑ์จากน้ามนั มะพรา้ ว ทม่ี า : https://www.google.co.th/search?q=น้ามนั มะพร้าว 2.2 ช่วยให้เกดิ ธุรกิจการเกษตรอนื่ ๆ สร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับวัตถุดิบและสร้างงานให้ประชากรอย่างต่อเน่ืองครบวงจร เช่นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเคร่ืองจักรการเกษตร โรงงานผลิตอุปกรณ์การเกษตร โรงการผลิตปุ๋ยและสารเคมี โรงงานผลิตเคร่ืองจักรแปรรูปผลิตภัณฑ์ โรงงานฟอกหนังสัตว์ โรงงานผลิตเมล็ดพันธ์ุพืชโรงงานอตุ สาหกรรมห้องเย็น เป็นต้น

ภาพที่ 1.2 โรงงานอุตสาหกรรมผลิตเครือ่ งจักรการเกษตร ทมี่ า : www.ttfirst.co.th 2.3 ทาให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทาให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น บะหมี่กึ่งสาเร็จรูป อาหารแช่เยือกแข็ง เทคโนโลยีผลิตน้าผักผลไม้ อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง แก็สโซฮอล์ ธุรกิจอาหารฟาสตฟ์ ู้ด ผลิตภัณฑ์อาหารขบเคย้ี ว ผลิตภัณฑ์เคร่ืองปรุงรส อาหารเสรมิ สุขภาพ ผลิตภัณฑพ์ ร้อมอานวยความสะดวกในการบรกิ ารและมีมาตรฐานความปลอดภยั สาหรบั การบริโภค ภาพท่ี 1.3 เทคโนโลยีผลติ นา้ ผกั ผลไม้ ที่มา : https://sites.google.com/site/food31599/home/prawati-khxng-na- phl-mi-tipgo 2.4 ชว่ ยพฒั นาเศรษฐกจิ และการเกษตรของประเทศสาเร็จผลมากยิ่งขึน้ อุตสาหกรรมเกษตรทาให้สามารถพัฒนาไปได้อยา่ งครบวงจร รองรบั สินค้าเกษตร ลดการสูญเปล่าของสินค้าเกษตร โดยการประสานกับแผนการพัฒนาการเกษตร การพัฒนาและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเกษตร

ภาพท่ี 1.4 ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ท่มี า : http://news.mthai.com/hot-news/273917.html 2.5 ทาใหเ้ กดิ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพในการดารงชวี ิต ด้วยประชากรไทยร้อยละ 70 เป็นเกษตรกร เศรษฐกิจของประเทศจึงข้ึนกับรายได้ของเกษตรกรภายในประเทศ ภาพที่ 1.5 อุตสาหกรรมเกษตรของไทย ท่มี า : http://www.eksperyansla.info/ 2.6 ชว่ ยลดการเสียเปรยี บดลุ การค้ากับต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรสามารถส่งออกได้ในราคาท่ีสูงขึ้น เป็นการยกระดับราคาของผลิตผลทางการเกษตรจึงเกิดอานาจในการต่อรองราคากับประเทศผู้ซ้ือ และยงั ลดความผนั ผวนของราคาสินคา้ เกษตรด้วย

ภาพท่ี 1.6 โรงงานอุตสาหกรรมเกษตร ทีม่ า : http://omsschools.com/index.html 2.7 เกิดโรงงานอตุ สาหกรรมเกษตร ชว่ ยให้คนมงี านทามากขนึ้ ประชากรของประเทศมีรายไดเ้ พ่ิมขน้ึ ภาพท่ี 1.7 โรงงานผลติ เงาะกระป๋อง ทมี่ า : http://omsschools.com/index.htmlwww.cdirm.org/page/2/ 2.8 เพิ่มความมั่นคงของประเทศชาติ กองทัพเมื่อมีสงครามต้องมีอาหารสารองให้ทหารไว้บริโภค ฉะน้ันประเทศใดทม่ี ีพ้ืนท่ีสาหรับผลิตวัตถุดิบทางการเกษตรมากๆ จะทาให้เกิดปัญหาการขัดแย้งทางเศรษฐกิจและทางการเมอื ง เกิดการลา่ อาณานิคมจากประเทศอุตสาหกรรม จึงก่อให้เกิดการตกอยู่ใตอ้ ทิ ธิพลทางเศรษฐกิจ

ภาพท่ี 1.8 ชาวประมง ที่มา : http://www.trangstory.com/2015/09/15/ตรงั -ชาวประมงจับกงุ้ ขาย/3. เปา้ หมายของอุตสาหกรรมเกษตร การเพิ่มประชากรอยา่ งรวดเร็วเป็นสาเหตุที่ต้องผลิตอาหารใหพ้ อกับการบรโิ ภคและมีสารองไว้เมื่อต้องการ จึงมีการคิดค้นหาสิ่งท่ีต้องการมากขึ้น การผลิตยุคอุตสาหกรรมมุ่งท่ีจะเพิ่มปริมาณผลผลิตและสนองความต้องการในคุณภาพของผลผลิตตามท่ีผู้บริโภคต้องการ เป้าหมายของการดาเนินการอตุ สาหกรรมเกษตรพอสรปุ ไดด้ ังนี้ 3.1 ระยะเวลาดาเนินการผลติ 12 เดือน วัตถุดบิ หลักของอตุ สาหกรรมเกษตรจะมีเฉพาะฤดูกาลเปลี่ยนแปลงและเส่ือมเสียได้ง่ายตามธรรมชาติ ทั้งน้ียังขึ้นอยู่กับชนิดและคุณลักษณะของผลิตผลเกษตรกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิ ความช้ืน จึงทาให้เกิดปัญหาในการนาวัตถุดิบมาใช้ประโยชน์ได้ทันเวลาเชน่ อตุ สาหกรรมนา้ ตาล ทีม่ ีเวลาหีบออ้ ย 120-140 วนั / ปี เนื่องจากขาดวตั ถุดิบปอ้ นโรงงาน 3.2 ผลิตภัณฑ์ที่ตลาดตอ้ งการ ผลิตภัณฑ์ที่มนุษย์ใช้เป็นเคร่ืองบริโภคและอุปโภค ส่วนใหญ่ผลิตได้จากอุตสาหกรรมเกษตร ดังนั้นจะต้องมีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทางด้านความรู้สึก เช่น ทางความงามจากรูปทรงสสี ันตา่ งๆ สวยงามหรอื มีความสขุ ในการใช้ การยอมรับจากผ้บู ริโภคมากๆ เชน่ เสื้อผ้าท่ีมียห่ี ้อชั้นนาตา่ งๆ อาหารท่วี ัยรนุ่ นยิ มบริโภคก็จะทาให้ตลาดมคี วามตอ้ งการสงู 3.3 ขายได้หมดและมผี ลกาไร การดาเนินการธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมต้องมีการวางแผนการตลาด วิเคราะห์กระบวนการธุรกิจ หรือกิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพ่ือก่อให้เกิดการจาหน่ายสินค้าอันเป็นท่ีมาของรายได้และกาไร ต้องมีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ กลุ่มลูกค้า การต้ังราคาช่องทางการจาหน่าย และการส่งเสริมการขาย การดาเนินการกระจายสินค้าทันเวลาเสมอ ล้วนเป็นปัจจยั ชว่ ยในการจาหน่ายสนิ ค้า 3.4 สรา้ งความเช่ือมั่นกบั ผลติ ภัณฑ์ คงรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้เอาไว้ให้มากท่ีสุด และตรงกับความประสงค์ในการใช้ประโยชน์ ท้ังนี้เนื่องจากคุณภาพของวัตถุดิบจะมีผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ ด้านสี กลิ่น รสและการนาไปใช้ประโยชน์ได้นานที่สุด ผู้ผลิตต้องสร้างความนิยมในผลิตภัณฑ์ของตนในการแข่งกันจาหนา่ ยดว้ ยการสร้างหลักประกันความเช่ือถือในคุณภาพด้วยเครอื่ งหมายการค้าหรือใช้ชื่อเฉพาะชื่อแหลง่ ผลติ เป็นต้น

4. ความแตกตา่ งของอตุ สาหกรรมเกษตรกบั อตุ สาหกรรมอน่ื เน่ืองด้วยอุตสาหกรรมเกษตรมีระบบคล้ายกับอุตสาหกรรมอ่ืนๆ จึงทาให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอุตสาหกรรมเกษตรเหมือนกันหรือเป็นอย่างเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ความเข้าใจดังกล่าวเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีทาให้การดาเนินการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกษตรล้มเหลว อุตสาหกรรมเกษตรมีความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอ่ืนหลายอยา่ ง ซึ่งมีรายละเอียดของความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอน่ื ดงั นี้ 4.1 วัตถดุ บิ วัตถุดิบของอุตสาหกรรมเกษตรเป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพซ่ึงมีการเปล่ียนแปลงคุณภาพและการเสื่อมเสียเกิดข้ึน องค์ประกอบของวัตถุดิบมีการเสื่อมเสียตามสภาวะธรรมชาติซ่ึงส่งผลต่อคุณภาพของวัตถุดิบอย่างมาก วัตถุดิบทางการเกษตรส่วนใหญ่ได้มาจากการทาการเกษตรคือการปลูกพืชและการเล้ียงสัตว์โดยมีเกษตรกรเป็นผู้ผลิต ซึ่งการผลิตต้องพึ่งพาปัจจัยสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ดังน้ันจึงมีการเปล่ียนแปลงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพอยู่เสมอ วัตถุดิบทางการเกษตรบางชนิดผลิตได้บางช่วงฤดูและบางชนิดมีเฉพาะบางท้องถิ่นเท่าน้ัน ทาให้เกิดความไม่แน่นอนในด้านปริมาณและราคา วัตถุดิบทางการเกษตรบางส่วนนามาบริโภคได้โดยตรงหรือจาหน่ายปลีกและมีบางส่วนส่งโรงงาน จึงทาให้เกิดสภาวะการขาดแคลนวัตถุดิบ ส่งผลถึงคุณภาพและราคาของวัตถุดิบ นอกจากน้ันการเสื่อมคุณภาพของวัตถุดิบเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หลังจากท่ีเกบ็ เก่ียวจากแปลงปลูกหรอื จากการจบั หรอื ฆา่ สตั ว์ 4.2 คุณภาพของผลติ ภัณฑ์ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไดแ้ ก่ คุณภาพซ่อนเร้น เช่น คุณค่าทางโภชนาการ คณุ ภาพทางประสาทสัมผัส เช่น สี กลิ่น รสชาติ ความกรอบ ความนุ่ม ความกระด้าง ซ่ึงคุณภาพของผลติ ภัณฑ์มคี ามสาคัญต่อการตดั สนิ ใจบริโภคผลติ ภณั ฑข์ องผ้บู ริโภคแต่ละคน 4.3 การเก็บรกั ษา ภายหลังการแปรรูปแล้วผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรบางชนิดยังมีสภาพที่เป็นส่ิงมีชีวิตทางชีวภาพ คือ เส่ือมเสียได้ การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรจึงมีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น เช่น การเก็บรักษาวัตถุดิบต้องเก็บในโกดังและเก็บในอุณหภูมติ ่า แต่อยา่ งไรก็ตามผลติ ภัณฑ์จากอุตสาหกรรมเกษตรกม็ วี นั หมดอายุ 4.4 การขนสง่ การขนส่งผลิตภัณฑ์หรือการขนส่งวัตถุดิบ เช่น นม ไอศกรีม สัตว์น้าทะเลแช่แข็งอาหารแช่แข็ง ต้องอาศัยรถบรรทุกที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ ดังน้ันการป้องกันการเส่ือมเสียคุณภาพระหว่างการขนส่งเป็นส่ิงสาคัญ ซ่ึงปัจจุบันเกิดปัญหาเร่ืองการสูญเสียระหว่างการขนส่งสงู มาก โดยเฉพาะผักและผลไม้ 4.5 ของเสยี และผลพลอยได้ ของเสียที่ได้จากโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรส่วนใหญ่เป็นสารอินทรีย์ที่สามารถย่ อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ จึงมักก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นและมีสีดา ซึ่งเป็นมลพิษต่อแหล่งน้าและอากาศส่วนผลพลอยได้จากขบวนการแปรรูปสามารถท่ีจะนาไปทาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ เช่น กากน้าตาล

นาไปหมักแอลกอฮอล์ กากสับปะรดนาไปผลิตน้าส้มสายชู และน้ามะพร้าวนาไปผลิตเป็นวุ้ นน้ามะพรา้ ว กากเบยี ร์นาไปเป็นกากอาหารสตั ว์ เป็นตน้ 4.6 การจดั การ การจัดการของอุตสาหกรรมเกษตรที่สาคัญ ได้แก่ การจัดการผลิตหรือจัดหาวัตถุดิบเพื่อป้อนสายการผลิตใหเ้ พียงพอกับกาลังการผลิต ซ่ึงตอ้ งมีการวางแผนการจัดหาวัตถุดิบเป็นอย่างดีนอกจากต้องให้มีปริมาณเพียงพอแล้ว ยังต้องให้วัตถุดิบมีคุณภาพสม่าเสมออีกด้วย ดังน้ันการจัดการเก่ียวกับวัตถุดิบจึงต้องพิจารณาท้ังปริมาณและคุณภาพ การจดั การท่ีสาคัญ อีกประการหน่ึงคอื การจัดการใชป้ ระโยชน์จากของเสียและผลพลอยได้ ซึ่งทั้งสองอยา่ งยังเป็น สารทางชีวภาพหากไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือกาจัดแล้วจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจาเป็นต้องจัดการใช้ประโยชน์เพ่ือเป็นการเพ่ิมรายได้ และเป็นการลดรายจ่ายในการกาจัดทิ้งหรือจะต้องกาจัดของเสียที่ไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ เช่น การกาจัดน้าเสียและส่ิงปฏิกูลเพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษอันจะเป็นอันตรายตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม เปน็ ต้น

ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับอตุ สาหกรรมเกษตรชอ่ื …………………………………….นามสกลุ …………………………………….ชั้น………………….เลขท่ี…………1. จงบอกความหมายของอุตสาหกรรมเกษตรเบอ้ื งตน้ มาพอเขา้ ใจ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. ให้นักเรียนศึกษาการผลิตวัตถุดิบจากการเกษตรภายในวิทยาลัยฯ ของนักเรียนว่ามีการเล้ียงสตั ว์ มีการปลกู พชื และมกี ารนาไปแปรรูปเปน็ ผลิตภณั ฑ์อะไรบ้างชนดิ ของสตั ว์ การเลยี้ ง การแปรรปู เป็นผลิตภณั ฑ์ ระบุชื่อผลติ ภณั ฑ์ ไม่ไดเ้ ล้ียง เลยี้ ง ไม่มี มี ที่แปรรูปหมูไกเ่ นอื้กระต่ายปลาดุก ปลานลิกบวัวนมวัวเนอ้ืแพะ แกะนกกระจอกเทศ

ชนิดของพืช การปลูก การแปรรปู เปน็ ผลิตภัณฑ์ ระบชุ ือ่ ผลติ ภณั ฑ์ ไม่ได้ปลูก ปลกู ไมม่ ี มี ทแ่ี ปรรูปข้าวมันสาปะหลงัข้าวโพดหญ้าอาหารสัตว์ไม้ผลพืชผกั ชนิดต่างๆอ้อยขา้ วฟ่างปาล์มยางพารา3. ให้นักเรียนวิเคราะหค์ วามรู้จากการเรยี นแบบบูรณาการ วิชาอตุ สาหกรรมเกษตรเบื้องต้น วิชาทกั ษะวิชาชีพ วิชาปฏิบัติงานเกษตร และวิชาโครงการ เพือ่ ส่งเสริมการมีรายได้ระหวา่ งเรียน 3.1 นักเรียนมีเป้าหมายหรือทาโครงการหารายได้ หรือปฏิบัติงานฟาร์มวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมการมีรายไดร้ ะหว่างเรียนโดยการเลยี้ งสตั วแ์ ละการเพาะปลกู พชื หรือไมอ่ ยา่ งไร การเลย้ี งสตั ว์ การเพาะปลกู

3.2 ลักษณะผลผลติ การเกษตร หรอื วตั ถุดิบการเกษตรที่ตลาดหรอื ผ้บู ริโภคตอ้ งการเปน็ อย่างไร 1) ........................................................................................................................................... 2) ........................................................................................................................................... 3) ........................................................................................................................................... 4) ........................................................................................................................................... 5) ........................................................................................................................................... 3.3 นักเรียนมีวิธีการวางแผนส่งเสริมการจาหน่าย หรือการกระจายสินค้าที่นักเรียนผลิตได้อย่างไร 1) .......................................................................................................................................... 2) .......................................................................................................................................... 3) .......................................................................................................................................... 4) ......................................................................................................................................... 5) ......................................................................................................................................... 3.4 นักเรยี นสรา้ งความเชื่อมัน่ กบั ผลผลิตการเกษตรท่นี ักเรยี นผลติ ตอ่ ลกู ค้าได้อย่างไร 1) ........................................................................................................................................ 2) ........................................................................................................................................ 3) ........................................................................................................................................ 4) ........................................................................................................................................ 5) ........................................................................................................................................4. จงอธบิ ายความแตกต่างของอตุ สาหกรรมเกษตรกับอุตสาหกรรมอืน่……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook