งานชิ้นที่ 1เร่ือง องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ จัดทาโดย นาย นันธวฒั น์ โสดาปวส.1 คอมพวิ เตอร์ 1 เลขท่ี 39 เสนอ อาจารย์ ทวศี ักด์ิ หนูทิมวชิ าการประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์วทิ ยาลยั อาชีวศึกษานครศรีธรรมราช
องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์คอมพิวเตอร์ทางานอยา่ งเป็นระบบ (System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพวิ เตอร์ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบยอ่ ยท่ีมีหนา้ ท่ีเฉพาะ ทางานประสานสัมพนั ธ์กนั เพอ่ื ใหง้ านบรรลุตามเป้ าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ การท่ีมีเครื่องคอมพิวเตอร์เพยี งอยา่ งเดียว จะยงั ไม่สามารถทางานไดด้ ว้ ยตวั เอง ซ่ึงหากจะให้คอมพิวเตอร์ทางานไดอ้ ยา่ งเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแลว้ ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไปดว้ ยองคป์ ระกอบคือ1. ฮาร์ดแวร์ (HARDWARE) ฮาร์ดแวร์เป็นองคป์ ระกอบของตวั เครื่องที่สามารถจบั ตอ้ งได้ ไดแ้ ก่ วงจรไฟฟ้ า ตวั เคร่ือง จอภาพเคร่ืองพิมพ์ คีร์บอร์ด เป็นตน้ ซ่ึงสามารถแบ่งส่วนพ้ืนฐานของฮาร์ดแวร์เป็ น 4 หน่วยสาคญั 1.1 หน่วยรับขอ้ มลู หรืออินพตุ (Input Unit) ทาหนา้ ที่รับขอ้ มูลและโปรแกรมเขา้ เครื่องไดแ้ ก่ คียบ์ อรืดหรือแป้ นพมิ พ์ เมาส์ เคร่ืองสแกน เคร่ืองรูดบตั ร Digitizer เป็นตน้ 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพยี ู (CPU : Central Processing Unit) ทาหนา้ ท่ีในการทางานตามคาส่ังที่ปรากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจุบนั ซีพียขู องเครื่องพีซี รู้จกั ในนามไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหนา้ ท่ีในการประมวลผลขอ้ มูล ในลกั ษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาท่ีแน่นอน เรียกวา่ สัญญาณClockเม่ือมีการเคาะจงั หวะหน่ึงคร้ัง ก็จะเกิดกิจกรรม1คร้ัง เราเรียกหน่วยท่ีใชใ้ นการวดั ความเร็วของซีพยี วู า่“เฮิร์ท”(Herzt) 1.3 หน่วยเก็บขอ้ มลู (Storage) ซ่ึงสามารถแยกตามหนา้ ท่ีไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ1.3.1 หน่วยเก็บขอ้ มูลหลกั หรือความจาหลกั (Primary Storage หรือ Main Memory) ทาหนา้ ท่ีเก็บโปรแกรมหรือขอ้ มลู ที่รับมาจากหน่วยรับขอ้ มูลเพ่ือเตรียมส่งใหห้ น่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลพั ธ์ท่ไี ดจ้ ากการประมวลผลเพ่ือส่งออกหน่วยแสดงขอ้ มูลต่อไป1.3.2 หน่วยเกบ็ ขอ้ มูลสารอง(Secondary Storage) เป็นหน่วยที่ทาหนา้ ที่เกบ็ ขอ้ มูล หรือ
โปรแกรมท่ีจะป้ อนเขา้ สู่หน่วยความจาหลกั ภายในเคร่ืองก่อนทาการประมวลผลโดยซีพียแู ละเก็บผลลพั ธ์จากการประมวลผลน้นั ดว้ ย ปัจจุบนั รู้จกั ในนามฮาร์ดดิสก(์ Hard disk) หรือแผน่ ฟร็อปปี ดิสก์(Floppy Disk) 1.4 หน่วยแสดงขอ้ มลู หรือเอาตพ์ ุต(Output Unit) ทาหนา้ ท่ีในการแสดงผลลพั ธ์ที่ได้จากการประมวลผล ไดแ้ ก่ จอภาพ และเคร่ืองพิมพ์ เป็นตน้ ท้งั 4ส่วนจะเช่ือมตอ่ กนั ดว้ ยบสั (Bus)ereto edit.2 ซอฟต์แวร์ (SOFTWARE) ซอฟตแ์ วร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาสั่ง ที่สั่งใหฮ้ าร์ดแวร์ทางาน รวมไปถึงการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์แวดลอ้ มต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นตน้ซอฟตแ์ วร์ เป็นส่ิงที่มองไม่เห็นจบั ตอ้ งไม่ได้ แต่รับรู้การทางานของมนั ได้ ซ่ึงต่างกบั ฮาร์ดแวร์(Hardware) ท่ีสามารถจบั ตอ้ งได้ ซ่ึงแบง่ เป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ (System Software) คือโปรแกรม ที่ใชใ้ นการควบคุมระบบการ ทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ท้งั หมด เช่น การบูตเคร่ือง การสาเนาขอ้ มูล การจดั การระบบของดิสก์ชุดคาสงั่ ท่ีเขียนเป็นคาสั่งสาเร็จรูป โดยผผู้ ลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแลว้ จากโรงงานผลิต การทางานหรือการประมวลผลของซอฟตแ์ วร์เหล่าน้ี ข้ึนกบั เครื่องคอมพวิ เตอร์แต่ละเคร่ือง ระบบของ
ซอฟตแ์ วร์เหล่าน้ี ออกแบบมาเพ่ือการปฏิบตั ิควบคุม และมีความสามารถในการยดื หยนุ่ การประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบง่ ออกเป็ น 4 ประเภทคือ2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ (Operating System) เป็นโปรแกรมท่ีใชค้ วบคุมและติดต่อกบัอุปกรณ์ต่างๆของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยเฉพาะการจดั การระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบ ถา้ ขาดซอฟตแ์ วร์ชนิดน้ี จะทาใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทางานได้ ตวั อยา่ งของซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ีไดแ้ ก่ โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ Unix Linux DOS และ Windows (เวอร์ชน่ั ต่าง ๆเช่น 95 98 XP Vista ) เป็นตน้2.1.2 ตวั แปลภาษา (Translator) จาก Source Code ใหเ้ ป็น Object Code (แปลจากภาษาท่ีมนุษยเ์ ขา้ ใจ ใหเ้ ป็นภาษาท่ีเครื่องเขา้ ใจ) เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการแปลภาษาระดบั สูง ซ่ึงเป็นภาษาใกลเ้ คียงภาษามนุษย์ ใหเ้ ป็นภาษาเครื่องก่อนท่ีจะนาไปประมวลผล ตวั แปลภาษาแบ่งออกเป็ นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พที เตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาสั่งในโปรแกรมท้งั หมดก่อน แลว้ ทาการลิ้ง(Link) เพอ่ื ใหไ้ ดค้ าสงั่ ท่ีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เขา้ ใจ ส่วนอินเตอร์พทีเตอร์จะแปลทีละประโยคคาสั่ง แลว้ ทางานตามประโยคคาส่งั น้นั การจะเลือกใชต้ วั แปลภาษาแบบใดน้นั จะข้ึนอยกู่ บั ภาษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม2.1.3 ยตู ิลิต้ี โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟตแ์ วร์เสริมช่วยใหเ้ ครื่องทางานมีประสิทธิภาพ มากข้ึน เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในดิสก์ ช่วยสาเนาขอ้ มูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ ช่วยคน้ หาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เป็นตน้2.1.4 ติดต้งั และปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการติดต้งัระบบ เพือ่ ใหค้ อมพวิ เตอร์สามารถติดต่อและใชง้ านอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ที่นามาติดต้งั ระบบ ไดแ้ ก่ โปรแกรมSetupและ Driver ตา่ ง 2.2 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ (Application Software) คือ ซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมที่ทาใหค้ อมพิวเตอร์ทางานตา่ งๆ ตามที่ผใู้ ชต้ อ้ งการ ไม่วา่ จะดา้ นเอกสาร บญั ชี การจดั เกบ็ ขอ้ มูล เป็นตน้ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตส์ ามารถจาแนกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ2.2.1 ซอฟตแ์ วร์สาหรับงานเฉพาะดา้ น(Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซ่ึงเขียนข้ึนเพือ่ การทางานเฉพาะอยา่ งท่ีเราตอ้ งการ บางท่ีเรียกวา่ User’s Program เช่น โปรแกรมการทาบญั ชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซ้ือ โปรแกรมการทาสินคา้ คงคลงั เป็นตน้ ซ่ึงแต่ละโปรแกรมก็มกั จะมีเง่ือนไข หรือแบบฟอร์มแตกต่างกนั ออกไปตามความตอ้ งการหรือกฏเกณฑข์ องแตล่ ะหน่วยงานท่ีใช้2.2.2 ซอฟตแ์ วร์สาหรับงานทว่ั ไป(General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยกุ ตท์ ี่มีผจู้ ดั ทาไว้ เพ่ือใชใ้ นการทางานประเภทตา่ งๆ ทว่ั ไป โดยผใู้ ชค้ นอื่นๆ สามารถนาโปรแกรมน้ีไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ขอ้ มูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดดั แปลง หรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งเขียนโปรแกรมเอง ซ่ึงเป็นการประหยดั เวลา แรงงาน และค่าใชจ้ า่ ยในการเขียนโปรแกรม ดงั น้นั การใช้โปรแกรมสาเร็จรูปจึงเป็ นสิ่งที่อานวยความสะดวกและเป็ นประโยชน์อยา่ งยง่ิ
3 บุคลากร (PEOPLEWARE) บุคลากรจะเป็นสิ่งสาคญั ท่ีจะเป็นตวั กาหนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุม้ คา่ ในการใชง้ านคอมพิวเตอร์ ซ่ึงสามารถแบ่งบุคลากรตามหนา้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งตามลกั ษณะงานได้ 6 ดา้ น ดงั น้ี 3.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst andDesigner : SA) ทาหนา้ ที่ศึกษาและรวบรวมความตอ้ งการของผใู้ ชร้ ะบบ และทาหนา้ ท่ีเป็นสื่อกลางระหวา่ งผใู้ ชร้ ะบบและนกั เขียนโปรแกรมหรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นกั วเิ คราะห์ระบบตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ พ้นื ฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผมู้ ีความคิดริเริ่มสร้างสรรคม์ ีมนุษย์สัมพนั ธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือบุคคลที่ทาหนา้ ที่เขียนซอฟตแ์ วร์ตา่ งๆ(Software) หรือเขียนโปรแกรมเพ่ือส่งั งานใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานตามความตอ้ งการของผใู้ ช้โดยเขียนตามแผนผงั ที่นกั วเิ คราะห์ระบบไดเ้ ขียนไว้ 3.3 ผใู้ ช้ (User) เป็นผใู้ ชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะเป็นผปู้ ฏิบตั ิหรือกาหนดความตอ้ งการในการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์วา่ ทางานอะไรไดบ้ า้ ง ผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์ทว่ั ไป จะตอ้ งเรียนรู้วธิ ีการใชเ้ ครื่องและวธิ ีการใชง้ านโปรแกรม เพอ่ื ใหโ้ ปรแกรมท่ีมีอยสู่ ามารถทางานไดต้ ามที่ตอ้ งการ 3.4 ผปู้ ฏิบตั ิการ (Operator) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะตอ้ งมี
เจา้ หนา้ ที่คอมพวิ เตอร์ที่คอยปิ ดและเปิ ดเคร่ือง และเฝ้ าดูจอภาพเม่ือมีปัญหาซ่ึงอาจเกิดขดั ขอ้ ง จะตอ้ งแจง้System Programmer ซ่ึงเป็นผดู้ ูแลตรวจสอบแกไ้ ขโปรแกรมระบบควบคุมเคร่ืองอีกทีหน่ึง 3.5 ผบู้ ริหารฐานขอ้ มลู (Database Administrator : DBA) บุคคลที่ทาหนา้ ท่ีดูแลขอ้ มูลผา่ นระบบจดั การฐานขอ้ มลู ซ่ึงจะควบคุมใหก้ ารทางานเป็ นไปอยา่ งราบร่ืน นอกจากน้ียงั ทาหนา้ ท่ีกาหนดสิทธิการใชง้ านขอ้ มูล พร้อมท้งั ดูแลดาตา้ เบสเซิร์ฟเวอร์ใหท้ างานอยา่ งปกติดว้ ย 3.6 ผจู้ ดั การระบบ (System Manager) คือ ผวู้ างนโยบายการใชค้ อมพวิ เตอร์ให้เป็นไปตามเป้ าหมายของหน่วยงาน เป็นผทู้ ี่มีความหมายตอ่ ความสาเร็จหรือลม้ เหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาใชง้ านเป็ นอยา่ งมาก4 ข้อมูลและสารสนเทศ4.1 ข้อมูล (DATA)หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน แลว้ ใชต้ วั เลขตวั อกั ษรหรือสัญลกั ษณ์ ตา่ งๆ ทาความหมายแทนสิ่งเหล่าน้นั เช่น· คะแนนสอบวชิ าภาษาไทยของนกั เรียน· อายขุ องพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั· ราคาขายของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้· คาตอบที่ผถู้ ูกสารวจตอบในแบบสอบถาม4.2 สารสนเทศ (INFORMATION)หมายถึง ขอ้ สรุปต่างๆ ท่ีไดจ้ ากการนาขอ้ มูลมาทาการวเิ คราะห์ หรือผา่ นวธิ ีการท่ีไดก้ าหนดข้ึน ท้งั น้ีเพอื่ นาขอ้ สรุปไปใชง้ านหรืออา้ งอิง เช่น· เกรดเฉล่ียของวชิ าภาษาไทยของนกั เรียน
· อายเุ ฉล่ียของพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั· ราคาขายสูงสุดของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้· ขอ้ สรุปจากการสารวจคาตอบในแบบสอบถาม5 กระบวนการทางาน (PROCEDURE)องคป์ ระกอบดา้ นน้ีหมายถึงกระบวนการทางานเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามตอ้ งการในการทางานกบั คอมพวิ เตอร์ผใู้ ชจ้ าเป็ นตอ้ งทราบข้นั ตอนการทางานเพื่อใหไ้ ดง้ านท่ีถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ ซ่ึงอาจจะมีข้นั ตอนสลบั ซบั ซอ้ นหลายข้นั ตอน ดงั น้นั จึงมีความจาเป็ นตอ้ งมีคู่มือปฏิบตั ิงานเช่น คู่มือผใู้ ช้ ( user manual ) หรือคู่มือผดู้ ูแลระบบ ( operation manual ) เป็นตน้หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ระบบการทางานของคอมพวิ เตอร์ การทางานของคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเป็น 4 ส่วน ดงั น้ี1. หน่วยรับขอ้ มูล (Input Unit) ทาหนา้ ท่ีในการรับขอ้ มูลหรือคาสงั่ จากภายนอกเขา้ ไปเกบ็ ไวใ้ นหน่วยความจา เพื่อเตรียมประมวลผลขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ ซ่ึงอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการนาขอ้ มูลท่ีใชก้ นั อยตู่ ้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั น้นั มีอยู่หลายประเภทดว้ ยกนั สาหรับอุปกรณ์ท่ีนิยมใชใ้ นปัจจุบนั มี ดงั ต่อไปน้ี - Keyboard - Mouse - Disk Drive - Hard Drive - CD-Rom - Magnetic Tape - Card Reader - Scanner2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) ทาหนา้ ท่ีในการคานวณและประมวลผล แบง่ ออกเป็น 2 หน่วยยอ่ ย คือ - หน่วยควบคุม ทาหนา้ ท่ีในการดูแล ควบคุมลาดบั ข้นั ตอนของการประมวลผล และการทางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหวา่ งหน่วยประมวลผลกลาง กบัอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจาสารอง
- หน่วยคานวณและตรรก ทาหนา้ ท่ีในการคานวณและเปรียบเทียบขอ้ มูลตา่ งๆ ที่ส่งมาจากหน่วยควบคุม และหน่วยความจา3. หน่วยความจา (Memory) ทาหนา้ ที่ในการเก็บขอ้ มลู หรือคาสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเขา้ มาเกบ็ ไว้ เพ่ือประมวลผลและยงัเก็บผลที่ไดจ้ ากการประมวลผลไวเ้ พอ่ื แสดงผลอีกดว้ ย ซ่ึงแบง่ ออกเป็นหน่วยความจา เป็นหน่วยความจาที่มีอยู่ ในตวั เครื่องคอมพวิ เตอร์ ทาหนา้ ท่ีในการเก็บคาส่ังหรือขอ้ มลู แบง่ ออกเป็ น - ROM หน่วยความจาแบบถาวร - RAM หน่วยความจาแบบชวั่ คราว - หน่วยความจาสารอง เป็นหน่วยความจาที่อยนู่ อกเครื่อง มีหนา้ ท่ีช่วยใหห้ น่วยความจาหลกัสามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดม้ ากข้ึน4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทาหนา้ ท่ีในการแสดงผลลทั ธ์ท่ีไดห้ ลงั จากการคานวณและประมวลผล สาหรับอุปกรณ์ท่ี ทาหนา้ ท่ีในการแสดงผลขอ้ มลู ท่ีไดน้ ้นั มีตอ่ ไปน้ี - Monitor จอภาพ - Printer เคร่ืองพิมพ์ - Plotter เคร่ืองพมิ พท์ ี่ใชป้ ากกาในการเขียนขอ้ มลู ต่างๆ ที่ตอ้ งการลงกระดาษ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: