Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 6 - ปราชญวศิน ออกแบบภายในปี 3 สมทบ 3105

บทที่ 6 - ปราชญวศิน ออกแบบภายในปี 3 สมทบ 3105

Published by Mr. N, 2022-08-03 17:02:23

Description: บทที่ 6 - ปราชญวศิน ออกแบบภายในปี 3 สมทบ 3105

Search

Read the Text Version

วชิ า อนิ เเตอร์เน็ตและพาณชิ น์อเิ ลค็ ทรอนิคพืนฐาน นายปราชญวศิน นิลสุข รหสั นกั ศึกษา 4631071143105 ออกแบบภายในปี ที ภาคสมทบ บทที 6 เรืองความรู้พืนฐานเกยี วกบั ระบบการสือสารข้อมูล อภปิ รายและตอบคาํ ถามในหัวข้อดงั ต่อไปนี 1. จงบอกความหมายของระบบการสือสารข้อมูล ตอบ ความหมายของระบบการสือสารขอ้ มูล ระบบการสือสารขอ้ มูล คือ การโอนถ่าย หรือ แลกเปลียนขอ้ มูล (Transmission) กนั ระหวา่ งตน้ ทางกบั ปลายทางโดยผา่ นอุปกรณ์ อิเลก็ ทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ ระบบ การสือสารขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ตอ้ งอาศยั อุปกรณ์ หรือ เครืองมืออิเลก็ ทรอนิกส์ช่วยในการ ถ่ายโอนหรือเคลือนยา้ ยขอ้ มูล รวมทงั ยงั ตอ้ งอาศยั สือกลาง ในการน าขอ้ มูลจากตน้ ทางไป ยงั ปลายทาง (ฝ่ ายต าราวชิ าการคอมพิวเตอร์, 2558) คอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วร์และโปรแกรมทีใชค้ วบคุมการไหลของขอ้ มูล และบุคลากรผู้ ดาํ เนินงานจะช่วยส่ง เสริมในการปฏิบตั ิการ และจดั การในส่วนต่างๆ ทงั หมด เพือใหก้ าร สือสารขอ้ มูลเป็นไปตาม ตอ้ งการ 2. อธิบายองค์ประกอบพืนฐานระบบการสือสารข้อมูล ตอบ องคป์ ระกอบพืนฐานหลกั 4 อยา่ งในระบบสือสารขอ้ มูล (ฝ่ ายต าราวชิ าการ คอมพิวเตอร์, 2558; Forouzan, 2007) ไดแ้ ก่ 2.1 ผู้ส่งหรืออปุ กรณ์ข้อมูล (Sender) และ ผรู้ ับหรืออุปกรณ์รับขอ้ มูล (Receiver) ทงั อุปกรณ์รับและส่งขอ้ มูลอาจจะเป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวกนั กไ็ ดอ้ ุปกรณ์รับ/ ส่งขอ้ มูลมี 2 ชนิดคือ 2.1.1 Data Terminal Equipment (DTE) เป็นแหล่งก าเนิดและรับขอ้ มูล เช่น คอมพิวเตอร์ เทอร์มินลั คอมพิวเตอร์ เมนเฟรม เครืองพิมพ์ เป็นตน้

2.1.2 Data Communication Equipment (DCE) เป็นอุปกรณ์ในการรับ/ ส่ง ขอ้ มูล เช่น โมเดม็ จานไมโครเวฟ หรือจานดาวเทียม Fibrotic Infrared Wireless เป็น ตน้ 2.2 โปรโตคอล (Protocol) หรือซอฟต์แวร์ (Software) 2.2.1 โปรโตคอล คือ วธิ ีการ หรือ กฎระเบียบทีใชใ้ นการสือสารขอ้ มูลเพือให้ ผรู้ ับและผสู้ ่งขอ้ มูลเขา้ ใจกนั สามารถติดต่อสือสารกนั ได้ ตวั อยา่ งคือ x.25 SDLC TCP/IP 2.2.2 ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนทีท าหนา้ ทีในการด าเนินงานในการสือสารขอ้ มูล เป็น ไปตามทีโปรแกรมก าหนด ตวั อยา่ งคือ Windows หรือ Novell’s Netware เป็นตน้ 2.3 ข่าวสาร (Message) ข่าวสาร คือสญั ญาณอิเลก็ ทรอนิกส์ทีส่งผา่ นไปใน ระบบสือสาร บางครังเรียกวา่ สารสนเทศ (Information) รูปแบบของข่าวสารมี 4 รูปแบบ คือ 2.3.1 เสียง (Voice) 2.3.2 ข้อมูล (Data) 2.3.3 ข้อความ (Text) 2.3.4 ภาพ (Picture) 2.4 สือกลาง (Medium) เป็นสือกลางทีใชใ้ นการสือสารขอ้ มูลจากตน้ กาํ เนิดไปยงั ปลาย ทางสือกลางนีอาจจะเป็น เสน้ ลวด สายไฟ สายเคเบิล หรือสายไฟเบอร์ออปติก เป็น ตน้ หรืออาจจะเป็นคลืนทีส่งผา่ นในอากาศ เช่น คลืนไมโครเวฟ คลืนดาวเทียม หรือ คลืนวทิ ยุ เป็นตน้ 3. จงบอกการส่งสัญญาณบนสือกลางข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ตอบ สือกลางส่งขอ้ มูล ประกอบดว้ ยวสั ดุและรวมถึงการนาํ เทคนิคต่างๆ มาใชเ้ พือนาํ ส่ง สญั ญาณ โดยสือกลางส่งขอ้ มูลอาจเป็นไดท้ งั แบบมีสายสญั ญาณหรือเคเบิลต่างๆ รวมถึง สือ กลางแบบไร้สาย เช่น คลืนวทิ ยุ อินฟราเรด หรือดาวเทียม เป็นตน้ เมือมีการส่งขอ้ มูล จาก คอมพิวเตอร์สญั ญาณเหล่านีจะเดินไปตามสือกลาง และพืนฐานความเป็นจริงสือกลาง ทีน ามา ใชเ้ พือเชือมโยงบนเครือข่ายทีมีระยะทางไกลๆ อาจประกอบดว้ ยสือกลาง หลากหลายชนิดทีนาํ

มาใชง้ านร่วมกนั และอาจมีความแตกต่างกนั ตามความเหมาะสมบน พืนทีนนั ๆ ส าหรับเทคนิค การส่งสญั ญาณบนสือกลาง อาจส่งเพียงสญั ญาณเดียว หรือ มากกวา่ หนึงสญั ญาณกเ็ ป็นได้ ( โอภาส เอียมสิริวงศ์ และสมโภชน์ ชืนเอียม, 2558) 3.1 การส่งสัญญาณบนสือกลางแบบเบสแบนด์ (Baseband) เป็นการใชช้ ่องทาง การ สือสารเพียงช่องทางเดียวส าหรับการส่งสญั ญาณดิจิทลั ในแต่ละครังในช่วงเวลาหนึง โดยเครือ ข่ายคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มกั ใชก้ ารส่งสญั ญาณชนิดนี เนืองจากเป็นวธิ ีการทีไม่ ซบั ซอ้ นและ สามารถจดั การควบคุมง่าย 3.2 การส่งสัญญาณบนสือกลางแบบบรอดแบนด์ (Broadband) เป็นการใช้ ช่องทางการ สือสารหลายช่องทางเพือส่งสญั ญาณอนาลอ็ ก (Analog) โดยแต่ละครังขอ้ มูล สามารถจดั ส่งหรือ ลาํ เลียงบนช่วงความถีทีแตกต่างกนั ดงั นนั การส่งสญั ญาณชนิดนีจะมี ระบบการจดั การทียงุ่ ยาก กวา่ การส่งสญั ญาณแบบเบสแบนดม์ าก เพราะจะตอ้ งจดั การกบั จาํ นวนขอ้ มูลต่างๆ ทีลาํ เลียงอยู่ บนหลายช่องความถี บนสายส่ง สาํ หรับสือกลางขอ้ มูลที นาํ มาใชเ้ พือส่งสญั ญาณแบบ บรอดแบนดน์ นั จะรับรองความเร็ว ทีสูงกวา่ แบบเบสแบนด์ และมีตน้ ทุนสูงกวา่ โดยปัจจุบนั มกั มีการนาํ เทคโนโลยบี รอดแบนดม์ าใชง้ านตามบา้ นเรือน ทีพกั หรือองคก์ รธุรกิจมากขึน เช่น เทคโนโลยบี รอดแบนดอ์ ินเทอร์เน็ต เป็นตน้ 4. ให้นักศึกษายกตวั อย่างชนิดสือกลางส่งข้อมูลทนี ํามาใช้งานบนเครือข่ายนัน ทงั แบบสือกลาง ส่งข้อมูลแบบใช้สาย และแบบไร้สาย พร้อมทงั อธิบายการ การทาํ งาน ตอบ ชนิดของสือกลางขอ้ มูลทีน ามาใชง้ านบนเครือข่ายนนั สามารถมีไดท้ งั แบบสือกลาง ส่ง ขอ้ มูลแบบใชส้ าย และแบบไร้สาย ซึงมีรายละเอียด (โอภาส เอียมสิริวงศ์ และสมโภชน์ ชืน เอียม, 2558; Forouzan, 2007) ดงั ต่อไปนี 1. สือกลางส่งข้อมูลแบบใช้สาย สือกลางชนิดนีจะใชส้ ายเพือการลาํ เลียงขอ้ มูลระหวา่ ง กนั ซึงประกอบดว้ ย สายเคเบิลชนิดต่างๆ เช่น สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล และสายใยแกว้ นาํ แสง สาย เคเบิลทงั สามชนิดนี ปกติมนั นาํ มาใชง้ านภายในตึกส านกั งานหรือฝังไวใ้ ตด้ ิน

1.1.1 สายคู่บดิ เกลยี ว (Twisted-Pair Cable) ลกั ษณะของสายคู่บิด เกลียวแต่ละคู่ จะทาํ ดว้ ยสายทองแดง 2 เสน้ แต่ละเสน้ จะมีฉนวนหุม้ พนั กนั เป็นเกลียว เพือป้องกนั การ รบกวนจากคลืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า นอกจากนีสายคู่บิดเกลียวยงั สามารถแบ่งออกเป็น ประเภททีไม่มีฉนวนป้องกนั สญั ญาณรบกวน หรือเรียกวา่ สายยทู ีพี (UTP: Unshielded Twisted-Pair Cable) สายบิดเกลียวแบบไม่มีโลหะห่อหุม้ นิยมใชก้ บั Ethernet network ซึงมีความเร็วในการส่งขอ้ มูลประมาณ 10 Mbps กบั แบบทีมีฉนวน ป้องกนั สญั ญาณ รบกวน หรือเรียกวา่ สายเอสทีพี (STP: Shielded Twisted-Pair cable) สายบิดเกลียวแบบ มีโลหะห่อหุม้ มีความเร็วในการส่งขอ้ ม^ลสูง มีชนั โลหะทีท าหนา้ ที ป้องกนั สญั ญาณ รบกวนจากภายนอก จึงทาํ ใหม้ ีราคาแพงกวา่ สาย UTP ข้อดี - เป็นสญั ญาณทีมีราคาถูก - ง่ายต่อการนาํ ไปใช้ - มีการนาํ ไปใชง้ านอยา่ งแพร่หลาย - มีอุปกรณ์สนบั สนุนมากมาย ข้อเสีย - มีขอ้ จาํ กดั ดา้ นระยะทาง - ไวต่อสญั ญาณรบกวน (UTP) - มีความเร็วค่อนขา้ งจาํ กดั 1.1.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ลกั ษณะของสายโคแอกเซียล จะ ประกอบดว้ ยตวั น าทีใชใ้ นการส่งขอ้ มูลเสน้ หนึง อยตู่ รงกลางอีกเสน้ หนึงเป็นสายดิน ระหวา่ งตวั น าสองเสน้ นีจะมีฉนวนพลาสติกกนั สายโคแอคเชียลแบบหนาจะส่งขอ้ มูล ได้ ไกลกวา่ แบบบาง แต่มีราคาแพงและติดตงั ไดย้ ากกวา่ ข้อดี - เป็นสญั ญาณทีป้องกนั สญั ญาณรบกวนไดเ้ ป็นอยา่ งดี

- สามารถเชือมโยงไดใ้ นระยะไกลกวา่ สายบิดเกลียว - ความเร็วในการส่งขอ้ มูลสูง ข้อเสีย - ขนาดของสายสญั ญาณค่อนขา้ งใหญ่ - มีราคาสูง - การติดตงั หวั เชือมต่อตอ้ งใชค้ วามเชียวชาญ 1.1.3 สายใยแก้วนําแสง (Fiber Optic) ลกั ษณะของสายใยแกว้ นาํ แสง ทาํ จาก แกว้ หรือพลาสติกมีลกั ษณะเป็นเสน้ บางๆ คลา้ ย เสน้ ใยแกว้ จะทาํ ตวั เป็นสือในการ ส่ง แสงเลเซอร์ทีมีความเร็วในการส่งสญั ญาณเท่ากบั ความเร็วของแสง สามารถส่งขอ้ มูลทีมี ความถีสูงได้ สญั ญารบกวนจากภายนอก คือ แสงจากภายนอก ดงั นนั สายใยแกว้ นาํ แสง ที มีสภาพดีจะมีราคาค่อนขา้ งสูงและดูแลรักษายาก ข้อดี - รองรับอตั ราการส่งขอ้ มูลดว้ ยความเร็วสูง - อตั ราการลดทอนของสญั ญาณตาํ - เชือมโยงไดบ้ นระยะทางหลายกิโลเมตรโดยไม่ตอ้ งใช้ อุปกรณ์ทวนสญั ญาณ - มีความปลอดภยั ในขอ้ มูลสูง ยากต่อการดกั จบั สญั ญาณ - ปราศจากการรบกวนของสญั ญาณไฟฟ้า - สายมีหลายประเภทใหเ้ ลือกใชง้ านตามความเหมาะสม กบั สภาพแวดลอ้ ม ข้อเสีย - มีราคาแพงทีสุดเมือเปรียบเทียบกบั สายชนิดอืนๆ - การติดตงั จ าเป็นตอ้ งพึงพาผเู้ ชียวชาญโดยเฉพาะ - ตวั สายไม่สามารถโคง้ งอไดม้ าก

2. สือกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย สือกลางชนิดนีจะใชล้ าํ เลียงขอ้ มูลผา่ นอากาศ ซึงภายใน อากาศจะมีพลงั งาน คลืนแม่เหลก็ ไฟฟ้าแพร่กระจายอยทู่ วั ไป โดยคลืนดงั กล่าวจะมีทงั คลืน ความถีตาํ าและคลืน ความถีสูง ดงั แสดงรายละเอียดต่อไปนี 2.2.1 อนิ ฟาเรด (Infrared) เป็นการสือสารขอ้ มูลโดยใชแ้ สงอินฟาเรดเป็น สือ กลาง โดยในการส่งขอ้ มูลจาํ เป็นตอ้ งมีอุปกรณ์ทีท าหนา้ ทีส่งขอ้ มูลและรับขอ้ มูล เช่น เมาส์ เครืองพิมพ์ กลอ้ งดิจิทลั และโทรศพั ท์ เป็นตน้ โดยจะมี IrDA port เป็นอุปกรณ์ใน การรับส่งดว้ ยแสง ซึงเหมาะกบั การสือสารขอ้ มูลระยะใกล้ 2.2.2 สัญญาณวทิ ยุ (Radio Wave) เป็นการสือสารขอ้ มูลแบบไร้สาย ทีมี การส่ง ขอ้ มูลเป็นสญั ญาณคลืนวทิ ยไุ ปในอากาศไปยงั ตวั สญั ญาณ จึงทาํ ใหถ้ ูกสภาพแวดลอ้ ม รบกวนขอ้ มูลไดง้ ่าย ในช่วงทีสภาพอากาศไม่ดี การส่งสญั ญาณวธิ ีนีจะช่วย ส่งขอ้ มูล ระยะทางไกล หรือในสภาพภูมิประเทศทีไม่เอืออาํ นวย 2.2.3 คลืนวทิ ยุ (Cellular Radio) ลกั ษณะของระบบสือสารแบบ คลืนวทิ ยุ เป็น สือกลางการสือสารแบบไร้สายทีสามารถแพร่ไดบ้ นระยะทางไกล เช่น ระหวา่ งเมือง หรือระหวา่ งประเทศ และยงั ไม่รวมถึงการแพร่บนระยะทางสนั ๆ อยา่ งไรก็ ตาม คลืนวทิ ยนุ นั มีความเร็วค่อนขา้ งต่ า อีกทงั ไวต่อสญั ญาณรบกวน แต่ขอ้ ดี คือ มีความ ยดื หยนุ่ สูง สะดวกต่อการใชง้ าน และผใู้ ชไ้ ม่ตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่าย 2.2.4 คลืนไมโครเวฟ (Microwave) ลกั ษณะของคลืนไมโครเวฟเป็นคลืน ความถีวทิ ยชุ นิดหนึงทีมีความถีอยรู่ ะหวา่ ง 0.3GHz – 300GHz ส่วนในการใชง้ านนนั ส่วนมากนิยมใชค้ วามถีระหวา่ ง 1GHz – 60GHz เพราะเป็นยา่ นความถีทีสามารถผลิตขึน ไดด้ ว้ ยอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์เป็นสือกลางในการสือสารทีมีความเร็วสูงในระดบั กิกะ เฮิรตซ์ (GHz) และเนืองจากความของคลืนมีหน่วยวดั เป็นไมโครเมตร จึงเรียกชือวา่ “ ไมโครเวฟ” การส่งขอ้ มูลโดยอาศยั สญั ญาณไมโครเวฟซึงเป็นสญั ญาณ คลืนแม่เหลก็ ไฟฟ้าไปในอากาศ พร้อมกบั ขอ้ มูลทีตอ้ งการส่ง และจะตอ้ งมีสถานทีทาํ หนา้ ทีส่งและรับขอ้ มูล และเนืองจาก สญั ญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็นเสน้ ตรงใน

ระดบั สายตา (Line of sight transmission) ไม่สามารถเลียวหรือโคง้ ตามขอบโลกทีมี ความโคง้ ได้ จึงตอ้ งมีการตงั สถานีรับ-ส่งขอ้ มูลเป็น ระยะๆ และส่งขอ้ มูลต่อกนั เป็น ทอดๆ ระหวา่ งสถานีต่อสถานีจนกวา่ จะถึงสถานีปลายทาง หากลกั ษณะภูมิประเทศ มี ภูเขาหรือตึกสูงบดบงั คลืนแลว้ กจ็ ะทาํ ใหไ้ ม่สามารถส่งสญั ญาณ ไปยงั เป้าหมายได้ ดงั นนั แต่ละสถานีจึงจาํ เป็นตงั อยใู่ นทีสูง เช่น ดาดฟ้า ตึกสูง หรือยอด ดอยเพือหลีกเลียง การชนเนืองจากแนวการเดินทางทีเป็นเสน้ ตรงของสญั ญาณดงั ทีกล่าวมาแลว้ การส่ง ขอ้ มูลดว้ ยสือกลางชนิดนีเหมาะกบั การส่งขอ้ มูลในพืนทีห่างไกลมากๆ และ ทุรกนั ดาร 2.2.5 สัญญาณดาวเทยี ม (Satellite) ลกั ษณะของสญั ญาณดาวเทียมเป็น การรับ ส่งสญั ญาณขอ้ มูลอาจจะเป็นแบบจุดต่อจุด (Point-to-Point) หรือแบบแพร่ สญั ญาณ (Broadcast) สถานีดาวเทียม 1 ดวง สามารถมีเครืองทบทวนสญั ญาณดาวเทียม ไดถ้ ึง 25 เครือง และสามารถครอบคลุมพืนทีการส่งสญั ญาณไดถ้ ึง 1 ใน 3 ของพืนผวิ โลก เครือง ทบทวนสญั ญาณของดาวเทียมเรียกวา่ (Transponder) ไปยงั สถานีปลายทาง การ ส่ง สญั ญาณขอ้ มูลขึนไปยงั ดาวเทียมเรียกวา่ \"สญั ญาณอปั -ลิงก\"์ และการส่งสญั ญาณขอ้ มูล กลบั ลงมายงั พืนโลกเรียกวา่ “สญั ญาณ ดาวน-์ ลิงก”์ 2.2.6 สัญญาณทูธ (Bluetooth) ระบบสือสารของอุปกรณ์อิเลค็ โทรนิก แบบสอง ทาง ดว้ ยคลืนวทิ ยรุ ะยะสนั (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้ สายเคเบิล หรือ สายสญั ญาณเชือมต่อ และไม่จาํ เป็นจะตอ้ งใชก้ ารเดินทางแบบเสน้ ตรง เหมือนกนั อินฟราเรด ซึงถือวา่ เพิมความสะดวกมากกวา่ การเชือมต่อแบบอินฟราเรด ทีใช้ ในการ เชือมต่อระหวา่ งโทรศพั ทม์ ือถือ กบั อุปกรณ์ ในโทรศพั ทเ์ คลือนทีรุ่นก่อนๆ และใน การ วจิ ยั ไม่ไดม้ ุ่งเฉพาะการส่งขอ้ มูลเพียงอยา่ งเดียว แต่ยงั ศึกษาถึงการส่งขอ้ มูลทีเป็น เสียง เพือใชส้ าหรับ Headset บนโทรศพั ทม์ ือถือดว้ ย การท างานของ Bluetooth จะใช้ สญั ญาณวทิ ยคุ วามถีสูง 2.4 GHz. (กิก กะเฮิร์ซ) แต่จะแยกยอ่ ยออกไป ตามแต่ละประเทศ อยา่ งในแถบยโุ รปและอเมริกา จะใช้ ช่วง 2.400 ถึง 2.4835 GHz. แบ่งออกเป็น 79 ช่อง สญั ญาณ และจะใชช้ ่องสญั ญาณทีแบ่ง นี เพือส่งขอ้ มูลสลบั ช่องไปมา 1,600 ครังต่อ 1 วนิ าที ส่วนทีญีป่ ุนจะใชค้ วามถี 2.402 ถึง 2.480 GHz. แบ่งออกเป็น 23 ช่อง ระยะท าการ

ของ Bluetooth จะอยทู่ ี 5-10 เมตร โดย มีระบบป้องกนั โดยใชก้ ารป้อนรหสั ก่อนการ เชือมต่อ และ ป้องกนั การดกั สญั ญาณระหวา่ ง สือสาร โดยระบบจะสลบั ช่องสญั ญาณ ไปมา จะมีความสามารถในการเลือกเปลียนความถี ทีใชใ้ นการติดต่อเองอตั โนมตั ิ โดยที ไม่จ าเป็นตอ้ งเรียงตามหมายเลขช่อง ท าใหก้ ารดกั ฟัง หรือลกั ลอบขโมยขอ้ มูลท าได้ ยากขึน โดยหลกั ของบลูทูธจะถูกออกแบบมาเพือใชก้ บั อุปกรณ์ทีมีขนาดเลก็ เนืองจาก ใชก้ ารขนส่งขอ้ มูลในจ านวนทีไม่มาก อยา่ งเช่น ไฟลภ์ าพ, เสียง, แอพพลิเคชนั ต่างๆ และสามารถเคลือนยา้ ยไดง้ ่าย ขอใหอ้ ยใู่ นระยะทีก าหนดไว้ เท่านนั (ประมาณ 5-10 เมตร) นอกจากนียงั ใชพ้ ลงั งานต่ า กินไฟนอ้ ย และสามารถใชง้ าน ไดน้ าน โดยไม่ตอ้ งน าไปชาร์จไฟบ่อย ๆ ดว้ ย ส่วนความสามารถการส่งถ่ายขอ้ มูลของ Bluetooth จะอยทู่ ี 1 Mbps (1 เมกกะบิตต่อวนิ าที) และจะไม่มีปัญหาอะไรกบั ขนาดของ ไฟลท์ ีใชก้ นั บน โทรศพั ทม์ ือถือ หรือ การใชง้ านแบบทวั ไป ซึงถือวา่ เหลือเฟื อมาก แต่ถา้ เป็นขอ้ มูลทีมี ขนาดใหญ่ กค็ งจะชา้ เกินไป และถา้ ถูกน าไปเปรียบกบั Wireless LAN (WLAN) แลว้ ความสามารถของ Bluetooth คงแตกต่างกนั ซึงในส่วนของ WLAN กย็ งั มีระยะการรับ- ส่งทีไกลกวา่ แต่ขอไดเ้ ปรียบของ Bluetooth จะอยทู่ ีขนาดทีเลก็ กวา่ การ ติดตงั ท าไดง้ ่าย กวา่ และทีส าคญั การใชพ้ ลงั งานกน็ อ้ ยกวา่ มาก อยทู่ ี 0.1 วตั ต์ หากเทียบ กบั คลืนมือถือ แลว้ ยงั ห่างกนั อยหู่ ลายเท่า .จงอธิบายการหน้าทขี องอปุ กรณ์ทใี ช้ในการส่งรับข้อมูลการสือสาร มาอย่างน้อย 3 ชนิด ตอบ เราเตอร์ เป็นอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายทีทาํ หนา้ ทีเป็นตวั เชือมโยงใหเ้ ครือข่ายทีมีขนาด หรือมาตรฐานในการส่งขอ้ มูลต่างกนั สามารถติดต่อแลกเปลียนขอ้ มูลระหวา่ งกนั ได้ เราเตอร์จะ ทาํ งานอยใู่ นชนั Network หนา้ ทีของเราเตอร์กค็ ือ ปรับโปรโตคอล ( Protocol ) (โปรโตคอล เป็นมาตรฐานในการสือสารขอ้ มูลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์) ทีต่างกนั ใหส้ ามารถสือสารกนั ได้ การ์ดเครือข่าย (Network Adapter) หรือ การ์ด LAN เป็นอุปกรณ์ทาํ หนา้ ทีสือสาร ระหวา่ งเครืองต่างกนั ไดไ้ ม่จาํ เป็นตอ้ งเป็นรุ่นหรือยหี อ้ เดียวกนั แต่หากซือพร้อมๆกนั กแ็ นะนาํ

ใหซ้ ือรุ่นและยหี อ้ เดียวกนั จะดีกวา่ และควรเป็น การ์ดแบบ PCI เพราะสามารถส่งขอ้ มูลไดเ้ ร็ว กวา่ แบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆมกั จะไม่มี Slot ISA ควรเป็นการ์ดทีมีความเร็วเป็น 100 Mbpsซึงจะมีราคามากกวา่ การ์ดแบบ 10 Mbps ไม่มากนกั แต่ส่งขอมูลไดเ้ ร็วกวา่ นอกจากนีคุณ ควรคาํ หนึงถึงขวั ต่อหรือคอนเน็กเตอร์ของการ์ดดว้ ยโดยทวั ไปคอนเน็กเตอร์ ของการ์ด LAN จะ มีหลายแบบ เช่น BNC , RJ-45 เป็นตน้ ซึงคอนเน็กเตอร์แต่ละแบบกจ็ ะใชส้ ายทีแตกต่างกนั ฮับ (HUB) เป็นอุปกรณ์ช่วยกระจ่ายสญั ญาณไปยงั เครืองต่างๆทีอยใู่ นระบบ หากเป็น ระบบเครือข่ายทีมี 2 เครืองกไ็ ม่จาํ เป็นตอ้ งใชฮ้ บั สามารถใชส้ ายสญั ญาณเชือมต่อ ถึงกนั ได้ โดยตรง แต่หากเป็นระบบทีมีมากกวา่ 2 เครืองจาํ เป็นตอ้ งมีฮบั เพือทาํ หนา้ ทีเป็นตวั กลาง ในการ เลือกซือฮบั ควรเลือกฮบั ทีมีความเร็วเท่ากบั ความเร็ว ของการ์ด เช่น การ์ดมีความเร็ว 100 Mbps กค็ วรเลือกใชฮ้ บั ทีมีความเร็วเป็น 100 Mbps ดว้ ย ควรเป็นฮบั ทีมีจาํ นวนพอร์ตสาํ หรับต่อสายที เพียงพอกบั เครืองใชใ้ นระบบ หากจาํ นวนพอร์ตต่อสายไม่เพียงพอกส็ ามารถต่อพว่ งได้ แนะนาํ วา่ ควรเลือกซือฮบั ทีสามารถต่อพว่ งได้ เพือรองรับการขยายตวั ในอนาคต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook