Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารสรุปเนื้อหาที่ต้องรู้และเก็งข้อสอบวิชาลูกเสือ รหัส สค22021

เอกสารสรุปเนื้อหาที่ต้องรู้และเก็งข้อสอบวิชาลูกเสือ รหัส สค22021

Published by natkrit.golf, 2021-08-18 13:07:04

Description: เอกสารสรุปเนื้อหาที่ต้องรู้และเก็งข้อสอบวิชาลูกเสือ รหัส สค22021

Search

Read the Text Version

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวKHAOLEAW NFE – เกรง็ ตรงเนอื้ หาทอี่ อกสอบ โดย ครู กศน. : ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวเอกสารสรปุ เน้อื หาที่ตอ งรูและคลงั ขอ สอบปลายภาคเรียน รายวิชา ลูกเสือ กศน. ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน รหสั สค 22021 หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ศูนยการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อําเภอเกา เลี้ยว สํานักงานสง เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดนครสวรรค กระทรวงศึกษาธกิ าร

คํานํา กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกระดับการศึกษา สํานักงาน กศน. ใน ฐานะผูรับผิดชอบในการจัดการศึกษาใหกับกลุมเปาหมายประชาชนท่ัวไปที่อยูนอกระบบ โรงเรียน โดยใช หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในการจัดการศึกษาใหกับ กลุมเปาหมายดังกลาว และเพ่ือเปนการตอบสนองนโยบายของ กระทรวงศึกษาธิการในการยกระดับ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผูเรียน กศน. หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ใหส ูงข้ึน ศูนยก ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอําเภอเกาเลย้ี ว จึงไดจดั ทํา สรุปเน้ือหาที่ตองรูและเก็งขอสอบ ซึ่งจะทําใหผูเรียนเขาถึงส่ือไดสะดวก รวดเร็ว อันจะสงผลใหผูเรียนมี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ดีขน้ึ สรุปเนื้อหาที่ตองรู มีเน้ือหามาจากการนําหนังสือเรียนของสํานักงาน กศน. มาสรุปเน้ือหา ประเด็น สําคัญท่ีสอดคลอ งตามผังการออกขอสอบในแตละรายวชิ าของ สาํ นกั งาน กศน. เก็งขอสอบ จัดทําข้ึนสําหรับนักศึกษา กศน.ใชเปนคูมือในการเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน สอบกลาง ภาค และสอบปลายภาค รวมท้ังใชเปนคูมือในการเตรียมตัวสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติดานการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-Net) ตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดหลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพ่ือประเมินความพรอมของนักศึกษา กอนสอบจริง นอกจากนี้นักศึกษายังไดทบทวนเน้ือหาเพ่ือเปนการเสริมสรางความรู เพ่ิมพูนความเขาใจและ ประสบการณ ทําใหนกั ศึกษาเกดิ ความม่นั ใจและพรอ มทีจ่ ะนําไปประยกุ ตใชเ พ่ือการสอบจริงไดอกี ดวย ท้ังน้ี ศูนยการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอเกาเลี้ยว หวังเปนอยางย่ิงวาจะเปน ประโยชนก ับผูเรียน กศน. หลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตาม สมควร จึงขอขอบคุณ กลุมพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ผูอํานวยการ และ ครูผูสอน และ ผูเ กยี่ วของ มา ณ โอกาสน้ี กศน.อาํ เภอเกา เลยี้ ว พ.ศ.2564 กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

สารบญั หนา คํานาํ ก สารบัญ ข คาํ แนะนาํ การใชเ อกสารสรปุ เนอ้ื หาและเกง็ ขอสอบทต่ี อ งรู ค บทท่ี 1 ประวัติและกิจการลูกเสือ เรอ่ื งท่ี 1 ประวตั แิ ละกิจการลกู เสอื โลก เรือ่ งท่ี 2 วันสถาปนาลกู เสอื แหง ชาติ เรอื่ งท่ี 3 การจดั ต้งั ลูกเสอื ในประเทศไทย บทท่ี 2 ทักษะลูกเสอื เร่อื งท่ี 1 คติพจน คาํ ปฏิญาณ และกฎของลูกเสอื เร่ืองท่ี 2 ทศิ และการใชแผนทเี่ ขม็ ทิศ เรือ่ งที่ 3 การใช Google Map เรือ่ งที่ 4 เรยี นรเู งอื่ นเชอื ก เรือ่ งท่ี 5 ความปลอดภยั ในการเขา รว มกิจกรรมลกู เสอื เรือ่ งท่ี 6 การเดนิ ทางไกล เรอ่ื งท่ี 7 การอยคู ายพักแรม เฉลยขอ สอบ กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

คาํ แนะนําการใชเ อกสาร หนังสือสรุปเน้ือหาที่ตองรูและเก็งขอสอบ รายวิชา ลูกเสือ กศน. เลมน้ี เปนการสรุปเน้ือหาจาก หนงั สือเรียน กศน. รายวิชาลูกเสอื กศน. รหัส สค 22021 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน หลักสูตรการศกึ ษานอก ระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) โดยสรุปเน้ือหาท่ีตองรู มี เน้ือหามาจากการนําหนังสือเรียนของสํานักงาน กศน. มาสรุปเนื้อหา ประเด็นสําคัญที่สอดคลองตามผังการ ออกขอสอบในแตละรายวิชาของสํานกั งาน กศน. และเก็งขอสอบ จัดทําขึ้นสําหรับนักศกึ ษา กศน.ใชเปนคูมือ ในการเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน สอบกลางภาค และสอบปลายภาค รวมท้ังใชเปนคูมือในการเตรียมตัวสอบ วดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตดิ านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-Net) ตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพ่ือประเมินความพรอมของนักศึกษากอนสอบจริง นอกจากน้ีนักศึกษายังไดทบทวนเนื้อหาเพ่ือเปนการ เสริมสรางความรู เพิ่มพูนความเขาใจและประสบการณ ทําใหนักศึกษาเกิดความม่ันใจและพรอมที่จะนําไป ประยกุ ตใชเพ่ือการสอบจริง เพื่อใหนักศึกษาไดเรียนรูและทําความเขาใจในเน้ือหาสาระและเก็งขอสอบของรายวิชาลูกเสือ กศน. รหัส สค 22021 ที่สําคัญ ๆ ไดสะดวกและสามารถเขาใจยิ่งข้ึน ในการศึกษาสรุปเนื้อหาที่ตองรูและเก็ง ขอ สอบ เลมน้ี นักศึกษาควรปฏิบัติ ดงั น้ี 1. ศึกษาเน้ือหาสาระของหนังสือสรุปเน้ือหาที่ตองรูหนังสือเรียนรายวิชาลูกเสือ กศน. รหัส สค 22021 ใหเ ขาใจอยา งถองแท 2.เม่อื ศึกษาเนื้อหาตองรเู ขาใจอยางถองแทแ ลวฝก ทําขอสอบและตรวจคาํ ตอบจากเฉลย 3. หากนักศึกษาตองการศึกษารายละเอียดเนื้อหาสาระรายวิชาลูกเสือ กศน. รหัส สค 22021 เพ่ิมเตมิ สามารถศกึ ษาคนควา ไดจากสื่ออ่นื ๆ ในหอ งสมดุ ประชาชน อนิ เทอรเนต็ หรอื ครูผูส อน กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

สรุปเน้ือหาทต่ี องรูกศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว สําหรับนกั ศกึ ษา กศน.

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

การจดั ตั้งลกู เสอื ในประเทศไทย กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเกา้ เลยี้ ว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว คตพิ จน คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือ คตพิ จนของลูกเสอื สาํ รอง \"ทําดที ส่ี ดุ \" คตพิ จนของลกู เสอื สามัญ \"จงเตรยี มพรอ ม\" คตพิ จนข องลกู เสือสามัญรุนใหญ \"มองไกล\" คตพิ จนของลูกเสือวิสามญั \"บรกิ าร\" ขาขอสัญญาวา ขอ ๑ ขา จะจงรกั ภกั ดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รย ขอ ๒ ขาจะยดึ ม่นั ในกฎของลูกเสอื สํารอง และบําเพญ็ ประโยชนตอ ผูอน่ื ทกุ วนั ขอ ๑ ลกู เสอื สํารองทําตามลกู เสอื รนุ พ่ี ขอ ๒ ลกู เสือสํารองไมทําตามใจตนเอง

ดวยเกยี รติของขา ขา ขอสัญญาวา ขอ 1 ขา จะจงรกั ภกั ดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  ขอ 2 ขาจะชว ยเหลือผอู น่ื ทกุ เม่อื ขอ 3 ขา จะปฏบิ ตั ิตามกฎของลกู เสอื ขอ 1 ลูกเสอื มเี กียรติ เชอื่ ถือได ขอ 2 ลูกเสือมีความจงรกั ภกั ดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ  และซื่อตรงตอ ผมู ี พระคณุ ขอ 3 ลูกเสอื มีหนา ท่กี ระทําตนใหเ ปน ประโยชนและชวยเหลือผูอ่ืน ขอ 4 ลูกเสอื เปนมิตรของทุกคนและเปนพีน่ องกับลูกเสืออ่ืนทว่ั โลก ขอ 5 ลูกเสือเปน ผสู ภุ าพเรียบรอย ขอ 6 ลกู เสือมคี วามเมตตากรณุ าตอ สตั ว ขอ 7 ลูกเสอื เช่ือฟง คําส่ังของบดิ ามารดา และผบู งั คบั บัญชาดว ยความเคารพ ขอ 8 ลกู เสือมใี จรา เริง และไมย อทอ ตอ ความยากลําบาก ขอ 9 ลกู เสอื เปนผมู ธั ยัสถ ขอ 10 ลูกเสอื ประพฤติชอบดว ยกาย วาจา ใจ กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

ทิศและการใชแ้ ผนทเี่ ข็มทิศ 1. ทศิ และการใช้เขม็ ทศิ ในการเดนิ ทางไปยงั สถานท่ตี า่ ง ๆ ลกู เสือจาเป็นต้องรู้จักทิศ และเรยี กช่ือทศิ ได้อย่างถูกต้อง ดงั นี้กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว ลาดบั ชอื่ ทางการ ชอื่ ภาษาไทย ชอื่ ภาษาอังกฤษ อกั ษร องศา 1 ทศิ เหนอื ยอ่ 2 ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3 ทศิ ตะวนั ออก ทศิ อุดร North N 00/3600 4 ทิศตะวันออกเฉยี งใต้ 5 ทิศใต้ ทิศอสี าน ( นอธ ) NE 450 6 ทศิ ตะวันตกเฉยี งใต้ 7 ทิศตะวนั ตก Northeast 8 ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ ทศิ บรู พา ( นอธ อสี ท ) E 900 East ทิศอาคเนย์ ( อสี ท ) SE 1350 Southeast ทิศทกั ษิณ ( เซาธ อสี ท ) S 1800 South ทศิ หรดี ( เซาธ ) SW 2250 Southwest ทิศประจิม ( เซาธ เวส็ ท ) W 2700 West ทศิ พายพั ( เว็สท ) NW 3150 Northwest ( นอธ เว็สท )

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว วิธหี าทศิ โดยใชเ้ ข็มทิศ 1. วางเขม็ ทิศใหอ้ ยู่ในแนวราบ จนลกู ศรของเขม็ ทิศอยนู่ ่งิ 2. หมุนกรอบหรือหน้าปดั ของเขม็ ทิศ ใหต้ ัวอกั ษร N อย่ตู รงกับปลายของลกู ศร พอดี (ปลายของลกู ศร คอื ด้านทีท่ าด้วยสีแดง) 3. เมอ่ื หาทิศเหนือได้แลว้ กส็ ามารถหาทศิ อื่น ๆ ที่เหลือได้ เข็มทิศซลิ วา เป็นเข็มทิศทนี่ ิยมใช้ในวงการลูกเสือ เป็นของประเทศสวีเดน มีลักษณะท่ีมี ไมโ้ พรแทรกเตอรร์ วมอยู่ด้วยกัน ซง่ึ พกติดตวั ไดส้ ะดวก และใชง้ านง่าย สว่ นประกอบของเข็มทิศซลิ วา 1. แผ่นฐานของเข็มทิศ 2. สเกลวดั ความยาว 3. เขม็ ทศิ ชท้ี าง 4. แว่นขยาย 5. ตลับเข็มทิศหมนุ บอกองศา 6. เข็มทิศและเข็มกา้ งปลา รูป เข็มทศิ ซิลวา

ขอ้ ควรปฏบิ ัติขณะใชเ้ ขม็ ทิศ 1. ควรจับถอื เขม็ ทศิ ด้วยความระมดั ระวงั เพราะหนา้ ปดั และเข็มมีความบอบบาง 2. อย่าทาเข็มทศิ ตก เพราะอาจทาให้เข็มทศิ เสยี ได้ 3. อยา่ อ่านเข็มทิศใกล้กับสิง่ ทเ่ี ปน็ เหลก็ หรอื วงจรไฟฟ้า เพราะอาจจะดงึ ดดู ให้ ปลายเข็มทิศเบย่ี งเบนชไ้ี ม่ตรงทิศ 4. อย่าใหเ้ ขม็ ทิศเปยี กนา้ เดด็ ขาด เพราะอาจทาให้เป็นสนมิ ได้ 5. อย่าวางเขม็ ทิศไวใ้ กล้ความรอ้ น เพราะจะทาใหเ้ ขม็ ทศิ บดิ งอเสียหาย 2. แผนที่ แผนท่ี คือ สง่ิ ทแ่ี สดงรายละเอียดหรอื ลักษณะภมู ปิ ระเทศบนพ้นื ผวิ โลก ไดแ้ ก่ สิ่งที่เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ และส่ิงท่มี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ โดยจาลองสง่ิ เหลา่ นไี้ ว้ บนพื้นราบให้มีขนาดเลก็ โดยใช้อัตราสว่ น ซ่ึงการแสดงรายละเอียดของภมู ิประเทศ ส่วนต่าง ๆ น้นั อาจแสดงดว้ ยเสน้ สี เครื่องหมาย หรอื สญั ลกั ษณ์ กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวการใชแ้ ผนท่ี ข้ันท่ี 1 วางแผนทลี่ งบนพื้นราบ แล้วนาเขม็ ทศิ มาวางทาบบนแผนท่ี ข้อควร ระวงั คอื ตอ้ งปลอ่ ยให้ลกู ศรของเขม็ ทิศหมนุ ได้โดยอสิ ระ จงึ ไมค่ วรนาโลหะต่าง ๆ ทีเ่ หนี่ยวนาแม่เหลก็ ได้ เช่น มดี พบั ลูกกุญแจ นาฬกิ า มาอยใู่ กล้ ๆ ปลายลูกศร เพราะจะทาใหล้ กู ศรบอกทศิ เบยี่ งเบนได้ ขั้นที่ 2 คอ่ ย ๆ หมนุ หน้าปัดของเขม็ ทิศ ใหต้ วั อกั ษร N อยู่ตรงกบั ดา้ นปลาย ลูกศรพอดี นัน่ คอื ทศิ เหนอื ขน้ั ที่ 3 เลน่ หรอื ขยบั แผนทีเ่ บา ๆ โดยให้ดา้ นบนของแผนทห่ี นั ไปในทศิ ทาง เดียวกับลกู ศรของเขม็ ทิศ หรอื ในกรณีทแ่ี ผนท่ีมเี สน้ แสดงแนวทิศเหนอื กากับไว้ ก็ หันแผนท่ีให้เสน้ นี้ตรงกับทศิ เหนือของเข็มทศิ เพ่ือแสดงวา่ แผนท่ไี ด้หนั ไปอยใู่ น ตาแหนง่ ทถี่ กู ทศิ ทางแล้ว มาตราส่วน คอื อตั ราสว่ นระหว่างระทางในแผนที่ กับระยะทางจรงิ ในภูมปิ ระเทศ ซึ่งคานวณไดด้ ังนี้ มาตราสว่ น = ระยะทางบนแผนท่ี ระยะทางในภูมปิ ระเทศจรงิ

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวเครือ่ งหมายบนแผนที่ คือ สญั ลักษณ์ รูป เส้น หรอื องคป์ ระกอบของเส้น และสี ท่ผี ู้จัดทาแผนทกี่ าหนดขึ้น เพอ่ื ใช้ทดแทนส่งิ ต่าง ๆ ทีป่ รากฏขึ้นบนพื้นผิวโลก ลงในแผนทเ่ี พือ่ ใหแ้ ผนทนี่ น้ั 1) เหมาะสมกบั การใชง้ าน 2) ทาใหอ้ า่ นและ ตีความหมายไดง้ า่ ย 3) มคี วามสวยงาม ข้อควรรู้ในการใชแ้ ผนท่ี 1. รทู้ ศิ เมื่อเราหันหนา้ ไปทางทศิ ตะวันออก แล้วกางแขนทง้ั 2 ข้าง ด้านหลัง จะเปน็ ทศิ ตะวันตก ดา้ นซา้ ยมอื เป็นทิศเหนอื ด้านขวามอื เปน็ ทิศใต้ 2. รูว้ ิธอี า่ นมาตราส่วน วา่ ยอ่ จากของจรงิ เท่าไร ทาให้สามารถคานวณหา ระยะจริงได้ 3. รวู้ ิธอี ่านแผนท่ี เชน่ ทตี่ งั้ ของประเทศไทยอยู่ทไ่ี หน อาณาเขตเปน็ อย่างไร มแี มน่ ้าสายสาคญั หรอื มภี ูเขาอะไรบ้าง

การใช Google Map การใช Google map เปนบรกิ ารเก่ยี วกับแผนที่ ผา นเวบ็ บราวเซอรข องบริษัท Google ซง่ึ สามารถเปด ผา นเครอ่ื งคอมพวิ เตอรห รอื สมารทโฟน ทีเ่ ชอื่ มตอกับระบบอนิ เทอรเ นต็ Google Map เปนแผนทท่ี ีผ่ ูใชสามารถ ซมู เขา - ออกเพื่อดรู ายละเอยี ดได สามารถคนหาช่ือ สถานที่ ถนน ตาํ บล อาํ เภอ จังหวดั ได ชวยอํานวยความ สะดวกในการเดินทาง สามารถมองไดห ลายมุมมอง เชน  มมุ มอง Map ดูในลักษณะแผนทีท่ ั่วไป  มมุ มอง Satellite ดใู นลกั ษณะแผนท่ดี าวเทยี ม ดูทีต่ ัง้ ของสถานท่ีตา ง ๆ จากภาพถายทางอากาศ  มุมมอง Hybrid ดูในลกั ษณะผสมระหวางมุมมอง Maps และ Satellite  มุมมอง Terrain ดูในลักษณะภูมิประเทศ  มมุ มอง Earth ดูแบบลูกโลก วธิ ีคนหาเปา หมายที่กาํ หนดจาก Google Map ขัน้ ตอนการใชง าน 1. สามารถเขาใชงานไดจากหนา แรกของ Google.com โดยคลกิ ท่ีแผนท่ี ดังรูป 2. เมือ่ เขา สูแผนที่ Google map แลว สามารถคน หาพืน้ ท่ีทต่ี อ งการจากชื่อสามัญหรือชอ่ื ทร่ี จู ักกนั โดยท่วั ไปไดท ่ี เคร่ืองมือคนหาของ Google map กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว3. หรอื สามารถคนหาไดโดยการขยาย ยอ และเลือ่ นแผนท่ีไปยงั พื้นที่ทต่ี องการ 4. และเมื่อคนพบจุดทต่ี อ งการทราบพิกดั แลว ใหค ลิกขวายงั จดุ นน้ั และเลือกใชคาํ ส่งั “น่ีคอื อะไร” 5. พิกัดของจุดนน้ั จะปรากฏออกมาดังภาพ

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว เรยี นรเู งื่อนเชอื ก 10 เง่อื นพื้นฐานลูกเสอื สามัญรุนใหญ ๑. เงือ่ นตะกรดุ เบด็ ( Cleve Hitch ) ประโยชน ๑. ใชผ ูกเชือกกบั เสาหรือหลกั เพ่ือลา มสัตวเล้ยี งหรอื เรือแพเพื่อปองกันไมใ หป มเชือกคลายหลุดควรเอาปลาย เชอื กผกู ขัดสอดกับตวั เชอื ก ๑ รอบ ) ๒. ใชผูกบนั ไดเชือก บันไดลิง ผูกกระหวัดไม ๓. ใชในการผูกแนน เชน ผูกประกบ ผูกกากบาท ๒. เงือ่ นพริ อด ( Reef Knot หรือ Square Knot ) ประโยชน ๑. ใชตอเชือก ๒ เสน ท่มี ีขนาดเทากนั เหนยี วเทา กนั ๒. ใชผูกชายผาพันแผล ผกู ชายผา ทาํ สลิงคลอ งคอ ๓. ใชผ ูกมัดหบี หอ และวัตถุตาง ๆ ๔. ผกู เชอื กรองเทา ( ปลายกระตุก ๒ ขาง ) และผกู โบว ๕. ใชผ กู กากบาทญ่ีปุน ๖. ใชต อ ผาเพือ่ ใหไดความยาวตามตองการเพื่อชวยคนทอ่ี ยทู ี่สูงในยามฉุกเฉนิ ( ตองเปนผา เหนยี ว ๆ )

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว๓. เงือ่ นขดั สมาธิ ( Sheet Bend ) ประโยชนของเง่ือนขดั สมาธิ ๑. ใชต อเชือกท่ีมขี นาดตางกนั ( เสน เล็กเปน เสนพันขดั ) หรือตอเชือกที่มขี นาดเดียวกันกไ็ ด ๒. ใชตอ เชอื กแขง็ กบั เชือกออ น(เสน ออนเปน เสน พันขัด) ๓. ใชตอ เชอื กท่ีคอนขางแข็ง เชน เถาวัลย ๔. ใชต อดายตอ เสน ไหมทอผา ๕. ใชผกู เชอื กกบั ขอหรือบวง (ใชเชือกเล็กเปนเสนผกู ขัดกบั บวงหรือขอ) เชน ผูกเชอื กกบั ธงเพื่อเชิญธงข้นึ - ลง ๔. เงื่อนผกู รน หรือ ทบเชอื ก (Sheepshank) ประโยชน ๑. ใชผูกรน เชอื กตรงสว นท่ชี าํ รุดเล็กนอย เพือ่ ใหเ ชือกมกี าํ ลงั เทาเดิม ๒. เปน การทบเชอื กใหเ กดิ กาํ ลังลากจงู ๓. การรนเชอื กท่ียาวมากๆ ใหส้ัน ตามตองการ

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว๕. เง่ือนกระหวัดไม (Two Haft Hitch) ประโยชน ๑. ใชผูกช่ัวคราวกบั หว ง หรือกับรั่ว กบั กิ่งไม ๒. แกงาย แตมปี ระโยชน ๓. ผูกเชือกสาํ หรบั โหน ๖. เงื่อนบว งสายธนู ( Bowline ) ใชทําเปน บว งทม่ี ีขนาดทไี่ มเ ลื่อนไมร ูด ประโยชน ๑. ทําบว งคลองกบั เสาหลักหรอื วตั ถุ เชน ผูกเรือ แพไวกับหลกั ทําใหเ รือ แพขึ้น - ลง ตามนา้ํ ได ๒. ทําบวงคลองเสาหลกั เพอ่ื ผูกลามสัตวเ ลี้ยง เชน วัว ควาย เพอื่ ใหส ตั วเดินหมนุ ไดรอบ ๆ เสาหลกั เชอื กจะ ไมพันรัดคอสัตว ๓. ใชท าํ บวงใหคนนัง่ เพื่อหยอนคนลงสทู ่ตี ํา่ หรือดึงขึ้นสทู สี่ งู ๔. ใชคลอ งคนั ธนู เพื่อโกง คนั ธนู ๕. ใชท ําบว งตอเชือกเพ่ือการลากโยงของหนัก ๆ หรอื ทาํ บวงบาศ ๖. ใชผูกปลายเชือก ผกู ถงั ตัง้ ถงั นอน

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว๗. เงอื่ กผูกรัง้ ( Tarbuck Knot ) ประโยชน ๑. ใชผูกสายเตน็ ท ยึดเสาธงกนั ลม ใชรั้งตนไม ๒. เปน เงอ่ื นเล่ือนใหต ึงหรือหยอนตามตอ งการได ๘. เงื่อนประมง ( Fishirman's Knot ) ประโยชน ๑. ใชตอเสนดา ยเล็ก ๆ เชน ดายเบด็ ตอ เสน เอน็ ๒. ใชตอเชือก ๒ เสนทม่ี ีขนาดเดียวกนั ๓. ใชผูกคอขวดสําหรบั ถือห้วิ ๔. ตอ เชอื กขนาดใหญท ล่ี ากจงู ๕. ใชตอสายไฟฟา ๖. ใชผกู เรือแพกับทาเรือหรือกับหลกั หรือหวง ๗. เปนเงอ่ื นท่ผี ูกงา ยแกง าย

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว๙. เงือ่ นผูกซุง ( A Timber Hitch ) ประโยชน ๑. ใชผ ูกวตั ถุทอ นยาว กอนหิน ตน ซุง เสา เพื่อการลากโยง ๒. ใชผ ูกทแยง ๓. ใชผูกสตั ว เรอื แพไวก ับทา หรือเสาหรอื ร้ัว ตนไม ๔. เปน เชือกผูกงายแกง า ย ๑๐. เงอ่ื นเกา อ้ี ( Chair Knot or ireman's Chair Knot ) ประโยชน เปน เง่อื นกูภยั ใชชว ยคนทต่ี ิดอยูบ นที่สงู ไมสามารถลงทางบันไดได หรือใชชว ยคนขึ้นจากท่ีต่ํา ใชประโยชน เชน เดยี วกบั บวงสายธนู ๒ ชนั้ ยึดกนั แนนโดยมสี งิ่ ของอยูตรงกลางภายในบว งเพ่ือดึงลากส่ิงของไประหวา งจดุ ๒ จุด

เงอ่ื นผูกแนน(Lashing ) มี ๓ ชนิด ไดแก ๑. ผกู ประกบ ( Sheer Lasning ) ๒. ผกู กากบาท ( Square Lashing ) ๓. ผูกทแยง ( Diagonal Lashing ) ผกู ประกบ มหี ลายวิธี เชน ผกู ประกบ ๒ ประกบ ๓ ผกู ประกบ ๒ ใชต อเสาหรือไม ๒ ทอนเขาดว ยกนั วิธผี กู เอาไมทจ่ี ะตอกันวางขนานกัน ใหส ว นที่จะผูกวางซอนกนั ประมาณ ๑/๔ ของความยาว ( ตอ แลว เสาจะตรง ) เอาเชือกทีจ่ ะผูกผูกดว ยเงอื่ นตะกรุดเบ็ดทีเ่ สาตนหนงึ่ เอาปลายเชอื กพันบิดเขากบั ตัวเชือก ( แตงงาน กนั ) เอาลิม่ หนาเทา เสน เชอื กค่นั ระหวา งเสาท้งั สองรปู จดั ใหเ งือ่ นอยใู กล ๆ ปลายเสาดานที่ซอนกันแลว จบั ตัว เชอื กพนั รอบเสาท้ังสองจากปลายเสาเขา ใน เรยี งเสนเชอื กใหเรียบ พนั ใหเ ทาความกวา งของเสาทั้ง ๒ ตน ดังรปู ๒ เสร็จแลว พนั สอดเชอื กเขาระหวางไมเสาทั้งสองพนั หักคอไก พนั รอบเชอื กท่ีพนั เสาทั้ง ๒ ตน ดงึ รัดใหแ นน รปู ๓ แลว ผูกดว ยตะกรดุ เบ็ดบนเสาอีกตนหนง่ึ ( คนละตนกับอนั ขึน้ ตน ) เหนบ็ ซอนปลายเชือกใหเ รียบรอย ผกู ประกบ ๓ เอาไม ๓ ทอ นมาเรยี งขนานกัน เรม่ิ ผกู ตะกรดู เบด็ ที่เสาอันกลางเอาปลายเชอื กแตงงาน กนั กบั ตวั เชอื ก แลว เอาเชอื กพนั รอบเสาทงั้ ๓ ตน เรยี งเสนเชอื กใหเรยี บรอย พนั ใหมีความกวางเทา เสาทั้ง ๓ ตน ( กอ นพนั อยา ลืมเอาลิ่มขนาดเสน เชือกค่ันระหวา งเสา ) พนั เสร็จแลวหกั คอไกร ะหวา งซอกเสาทั้ง ๓ ตน ใหแนน แลว ผกู ลงทายดว ยเงื่อนตะกรูดเบ็ดทเี สาตน รมิ ตน ใดตนหนง่ึ เกบ็ ซอ นปลายเชอื ก ใหเรยี บรอ ย ผกู กากบาท (Square Lashing ) วิธีที่ ๑ กากบาทแบบ Gilwell และแบบ Thurman กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

วิธผี ูก เอาไมห รอื เสามาวางซอนกนั เปน รูปกากบาท (กางเขน ) เอาเชือกผกู ตะกรูดเบด็ ท่เี สาอนั ตงั้ ใตเ สาอนั ขวาง เอาปลายเชือก แตงงานกับตัวเชือก รปู ๑ เอาเชอื กออมใตเสาอันขวางทางดานขวา ( ซา ยกอนกไ็ ด ) ของไมตั้งดงึ ขน้ึ เหนอื ไมอ ันขวางพันออมไปดา นหลงั ไมอนั ต้งั ไปทางซา ยของไมอันต้งั ดึงเชือกออมมาทางดา นหนา พันลงใตไม อันขวาง ดึงออมไปดานหลังไมอันตงั้ ผา นมาทางดานขวาของไมอ นั ตั้งดงึ เชือก ข้นึ พาดบนไมอันขวางทางขวาไม อนั ตง้ั แลวพันต้ังตนใหมเ หมอื นเริ่มแรก ทุกรอบตองดึงใหเ ชือกตงึ เรียงเสน เชอื กใหเ รียบดวย แลว พนั วนเร่ือย ๆ ไปประมาณ ๓ - ๔ รอบ (หรอื เสน เชือกดานกลงั ชดิ กัน ) จึงพนั หกั คอไก ๒ - ๓ รอบ แลวเอาปลายเชอื กผูก ตะกรดุ เบ็ดท่ี ไมอันขวาง ( คนละอนั กับข้นึ ตนผกู ) ผกู ทแยง (Diang Lashing ) วิธีผกู เอาเชือกพนั รอบเสาท้งั ๒ ตน ตรงระหวางมมุ ตรงขามดวยเง่ือนผูกซุง แลว ดึงตวั เชือกไมเ สาทงั้ ๒ ตน ตามมมุ ตรงขา มคแู รก ( มุมทแยง ) ประมาณ ๓ รอบ ( ทกุ รอบดึงใหเชือกตึง ) แลวดึงเชอื กพนั เปล่ียนมุมตรง ขา มคูท่ี ๒ อีก ๓ รอบ แลว ดงึ เชอื กพนั หักคอไก ( พันรอบเชือกระหวางไมเสา ท้งั สอง ) สัก ๒ - ๓ รอบ พนั เสร็จ เอาปลายเชือกผกู ตะกรดู เบด็ ทไี มเ สาตน ใดตน หน่ึง เกบ็ ซอ นปลายเชือกใหเรยี บรอย ประโยชน ๑. ใชในงานกอ สราง ๒. ใหผกู เสาหรือไมคํ้ายนั ปองกันลม ๓. ทาํ ตอมอสะพาน กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

ผกู ตอมอสะพาน ( Trestle ) อุปกรณทําตอมอสะพาน ดวยไมพลองหรือเสาเข็ม ๑. เสายาวพอสมควร จาํ นวน ๖ตน ( ใชพ ลองฝก ) ๒. เชอื กมนิลาสําหรับผกู ๙ เสน ขนาดโตพอสมควร ( ฝกดวยพลองเชือกยาว ๓ เมตร ) วิธีสรา ง ฝก ดวยไมพลอง ๑. วางไมพลอง ๒ อันขนานกนั หางกันประมาณ ๒ ใน ๓ ของความยาว เปน เสาตง้ั ( leg ) ๒. เอาไมพ ลองอกี ๒ อนั วางทับลงบนไมพ ลองคูแรก ( leg ) ใหปลายยื่นออกไปดานละ ๑/๖ หรือ ๑/๘ ๓. เอาเชือกวดั ความยาวของพลอง ทบเชือกแบงเปน ๘ และ ๑๖ สวน เล่อื นหัวเสาท้ัง ๒ อัน เขา หากันอกี ขา ง ละ ๑/๑๖ เพ่ือทาํ ใหหัวเสาสอดเขา หากัน ๔. เง่ือนทใี่ ชผ ูกใชเ งอื่ นผูกกากบาทและผกู ทแยง ( ตรงกลาง ) ประโยชน ๑. ใชตอเสาหรือไมใ หย าว ๒. ทําตอมอสะพาน เสาธงลอย ๓. ทํานงั่ ราน ทําหอคอย วธิ ีการเกบ็ เชอื ก กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวความปลอดภัยในการเขารวมกิจกรรมลกู เสอื เรอ่ื งท่ี 1 ความปลอดภัยในการเขารว มกจิ กรรมลกู เสือ 1.1 ความหมายของความปลอดภยั ในการเขารวมกจิ กรรมลูกเสอื ความปลอดภยั หมายถึง การท่รี างกายปราศจากอุบตั ิภยั อยใู นสภาวะที่ปราศจากอันตราย หรอื สภาวะทปี่ ราศจากการบาดเจ็บ เจ็บปวด เจ็บปว ย จะมากหรือนอ ยขนึ้ อยูกับการปฏิบตั ิหรอื การกระทําของ ตนเอง 1.2 ความสําคญั ของความปลอดภยั ในการเขา รวมกจิ กรรมลูกเสอื ความปลอดภยั ชวยใหเ กิดความระมัดระวงั ในการปองกันตนเอง และผูอื่นใหพนจากภัยอนั ตราย หรอื การเสยี ชีวิต โดยการใหค าํ แนะนําในการใชเ ครื่องมือ เคร่ืองใช และส่ิงอาํ นวยความสะดวกตาง ๆ เพอื่ ใหเ กิด ประโยชน และปลอดภัย เรื่องที่ 2 หลักการ วธิ ีการในการเฝาระวังเบอ้ื งตนในการเขารวมกจิ กรรมลกู เสือ ลกู เสอื ตอ งตระหนักในความสําคัญ และมีจติ สานึกตอความปลอดภัยในการรวมกจิ กรรมท่อี าจเกดิ อบุ ัตเิ หตุ เน่อื งจาก 1. ขาดความรู ความเขา ใจ ในการรว มกิจกรรมนน้ั ๆ ลกู เสอื ตองทาํ ความเขาใจในกฎ กตกิ า ของกจิ กรรมน้ัน ๆ อยา งถองแท และปฏิบตั ิตามอยางเครงครดั 2. ขาดประสบการณ และขาดความชํานาญ ลูกเสือตองขวนขวายในการหาประสบการณ และความรู ทกั ษะท่ี จาํ เปนตอการรว มกิจกรรมน้ัน ๆ 3.ขาดความพรอ มทางดานรางกายและจิตใจ ลูกเสอื ตอ งเตรยี มความพรอมทางดา นรางกายและจติ ใจกอ น 4. ขาดการตรวจสอบความสมบูรณ ความแขง็ แรงของอปุ กรณท ี่ใชใ นแตละกจิ กรรมลกู เสือตอ งตรวจสอบ อปุ กรณที่ใชในแตละกจิ กรรมใหม สี ภาพแข็งแรง พรอมใชงานอยเู สมอ การเฝา ระวังเบ้ืองตนในการเขารวม กจิ กรรมลูกเสือ เปนการฝก ตนเองของลกู เสือใหปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตุ และภัยอันตรายตาง ๆ เปน วิธีการใน การเตรียมความพรอมของลูกเสอื ทัง้ ดา นรางกายและจิตใจ ดังนี้ ดา นรางกาย ลกู เสอื ตองเตรยี มรา งกายใหพรอม โดยออกกําลังกายอยางสม่าํ เสมอ และหาเวลา พกั ผอ นใหเพียงพอ เพือ่ สขุ ภาพและรางกายจะไดแข็งแรงอยตู ลอดเวลา ดา นจิตใจ ลูกเสอื ตอ งทาํ จิตใจใหสบาย ๆ สรา งความรสู กึ ท่ีสนุกสนานกับกิจกรรมตา ง ๆ มคี วามราเรงิ พรอมรับการฝกฝน ปฏิบัติดว ยตนเอง หรือชว ยผูอ ่นื หาวธิ หี ลีกเลี่ยงอุบตั เิ หตุ อันจะเกิดขนึ้ ไดใ นขณะปฏิบัติ กจิ กรรมลูกเสือ

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวเร่ืองที่ 3 การชวยเหลือเมอื่ เกิดเหตคุ วามไมปลอดภยั ในการเขารว มกจิ กรรมลูกเสอื การเขารว มกิจกรรมลูกเสอื อาจมคี วามไมปลอดภัยในดา นรางกายขนึ้ ได ลูกเสือจึงมคี วามจําเปน ตอ ง เรยี นรูถ ึงสาเหตุท่ีทาใหเกิดความไมป ลอดภยั ในการเขา รว มกิจกรรมลกู เสือ และวิธกี ารสรา งความปลอดภัยใน การเขา รว มกจิ กรรมลกู เสือ ดังนี้ 1. สาเหตทุ ที่ าํ ใหเกิดความไมปลอดภัยในการเขา รว มกจิ กรรม มี 3 ประการ คือ 1.1 สาเหตุทเ่ี กิดจากมนษุ ย มดี ังนี้ 1) ผูปฏบิ ัตกิ จิ กรรม มคี วามประมาทโดยคิดวา ไมเ ปน ไร ลองผดิ ลองถูก หรอื รเู ทาไมถงึ การณ 2) ผปู ฏิบัติกจิ กรรม มีความเช่ือใจ ไววางใจผใู ดผหู นง่ึ ท่ไี ดร ับมอบหมายใหดําเนินการ และไมมีการ ตรวจสอบกอ น จึงอาจทาํ ใหมีขอผิดพลาดได 3) ผูปฏบิ ตั ิกจิ กรรมมสี ุขภาพไมแขง็ แรง หรอื มโี รคประจาตวั แตเ ขา รว ม กิจกรรมบางอยา งทีอ่ าจทําให เกดิ อบุ ัติเหตุได 4) ผปู ฏิบตั กิ ิจกรรมแตง กายไมเ หมาะสมในการเขา รว มบางกิจกรรม 5) ผูปฏบิ ตั ิกิจกรรมขาดการประเมินตนเอง หรอื บางครัง้ ประเมินตนเองผิดพลาด โดยคดิ วาตนเอง สามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมนนั้ ได และบางคร้ังผปู ฏบิ ัตเิ กิดความคกึ คะนองกล่นั แกลง และหยอกลอ กัน 6) ผูป ฏบิ ตั ิกิจกรรม ขาดระเบียบวนิ ัย ไมเชอ่ื ฟงผบู งั คับบญั ชา 1.2 สาเหตทุ ่ีเกิดจากเครื่องมือ หรอื อปุ กรณ มีดังนี้ 1) ขาดเคร่ืองมอื และอุปกรณในการชวยเหลือเมื่อเกดิ เหตุความไมป ลอดภัยในการเขารวมกิจกรรมท่ี เหมาะสม หรอื อปุ กรณบ างชนดิ เสื่อมสภาพไมเ หมาะทีจ่ ะนํามาใชง าน 2) ขาดความรูในการใชเ ครอื่ งมอื และอุปกรณแ ตละประเภท หรือใชเ ครือ่ งมือ และอุปกรณท ี่ใชผดิ ประเภท 3) ขาดทักษะ ความชาํ นาญ ในการใชเครอ่ื งมือ และอปุ กรณตาง ๆ 4) ขาดการตรวจสอบความสมบูรณ ความแขง็ แรงของอปุ กรณในฐานโดยละเอียด และขาดการ บาํ รงุ รกั ษาที่เหมาะสม 1.3 สาเหตุท่เี กดิ จากภยั ธรรมชาติ มีดังนี้ 1) ภัยทางนํ้า อาจเกิดความไมป ลอดภัยในขณะที่ปฏบิ ัติกิจกรรมได เชน น้าํ หลาก น้ําไหลเช่ยี วเปนตน 2) ภัยทางบก อาจเกิดความไมป ลอดภัยในขณะปฏบิ ัติกิจกรรมได เชน การสรางสะพานดว ยเชอื กทีไ่ ป ผกู กบั ตนไม ทาใหตนไมอาจหัก เปนตน 3) ภัยทางอากาศ อาจเกดิ ความไมป ลอดภัยขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมได เชน เกิดมีพายุ ลมแรง เปน ตน 2. การสรางความปลอดภัยในการเขารว มกิจกรรมลูกเสอื คือ วิธกี ารปอ งกัน กอนจดั สรา งอปุ กรณ และกอน เขา รวมกิจกรรม โดยมีอุปกรณปองกัน หรอื สรา งอปุ กรณท่ีใชในกจิ กรรมใหป ลอดภัย โดยใหความรู มมี าตรการ บงั คบั ควบคมุ การใชอุปกรณใหถ ูกกบั กิจกรรมจะชว ยสรางความปลอดภัยใหกบั ลูกเสอื ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม เชน กิจกรรมบุกเบิก กิจกรรมผจญภยั และกจิ กรรมเดนิ ทางไกล ดงั น้ี

2.1 กิจกรรมบุกเบิก 1) ลูกเสือตองเตรียมความพรอมทางรางกายและจิตใจ 2) ลูกเสือตองมีระเบียบวนิ ัย เช่อื ฟงและปฏบิ ัติตามคําแนะนาของ ผกู ํากับลูกเสือ 3) ลกู เสือตองตรวจเชค็ อุปกรณใ นฐานบกุ เบิก อยา งสม่าํ เสมอ 4) ลกู เสือตอง ไมกลน่ั แกลงเพอ่ื นขณะทํากิจกรรม 5) ลกู เสือตองเตรียมพรอมทางดา นความรู ศกึ ษากิจกรรม และทาํ ความเขาใจกอนเขา รวมกจิ กรรม 2.2 กิจกรรมผจญภัย 1) ลูกเสอื ตองการเตรยี มความพรอ มทางรางกายและจิตใจ 2) ลกู เสอื ตองมีระเบียบวนิ ัย เชือ่ ฟง และปฏิบตั ติ ามคาํ แนะนําของ ผกู าํ กบั ลกู เสือ 3) ลูกเสอื ตองตรวจเชค็ อปุ กรณในฐานบุกเบิก อยางสมา่ํ เสมอ 4) ลกู เสอื ตองไมก ลัน่ แกลงเพื่อนขณะทาํ กจิ กรรม 5) ลกู เสือตองเตรียมพรอมทางดา นความรู ศกึ ษากจิ กรรม และทําความเขา ใจกอนเขา รว มกิจกรรม 2.3 กิจกรรมเดนิ ทางไกล 1) กอนที่จะกําหนดเสนทางการเดนิ ทางไกล ลกู เสือตอ งสํารวจเสนทาง หากจาเปนตองขออนญุ าต ควรขอจากเจา ของสถานทน่ี ้นั ๆ และศกึ ษาประเพณีวฒั นธรรมในทองถน่ิ นัน้ ตามสมควร 2) ในการกําหนดเสนทางเดิน ลกู เสอื ควรเล่ยี งการเดินตามถนนใหญที่มีการจราจรคับคั่ง เพื่อปองกนั การเกดิ อบุ ัตเิ หตุ 3) ในระหวางการเดนิ ทางไกล ลูกเสอื ไมควรแขงขนั หรอื แทรกกนั เดินระหวางหมู 4) ในระหวางการเดินทางไกล ลกู เสือควรออกเดินทางเปน หมู และตองปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของ ลูกเสือ และกฎจราจรอยางเครง ครดั เพื่อความปลอดภัย กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

เรือ่ งที่ 4 การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ความปลอดภยั ลกู เสือตองปฏิบตั ติ นตามหลักความปลอดภยั ดังน้ี ดา นรา งกาย ตองเตรยี มความพรอ มของรา งกาย การออกกาํ ลังกาย รักษารา งกายไมใ หเ จบ็ ปว ย พรอ มปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา ง ๆ ได ดานจิตใจ ควรศกึ ษาหาความรใู นกิจกรรมลูกเสือโดยเฉพาะลกู เสอื กศน.เปน การเตรยี มความพรอ ม ดา นหนึง่ ในการปฏิบตั ิตนเองและพรอมชว ยเหลอื ผูอืน่ ไดต ามความเหมาะสม ลูกเสือตองทําความเขาใจใน ความหมายของคาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื เพื่อนามาใชในการอยูรวมกันทั้งเวลาพบกลมุ และการเขาคาย พักแรมรวมกัน วิเคราะหส ถานการณความปลอดภัย ความไมป ลอดภยั และความเส่ยี ง วเิ คราะหขอดี ขอเสยี และนําขอบกพรองหรอื ชอ งทางท่ีจะปองกันไวเบ้ืองตน เปนมาตรการในการอยูรว มกนั และการเขา รวมกิจกรรม ดงั น้ี 1. นําขอ มูลจากการวิเคราะหจากกฎของลูกเสือ มาระดมพลงั สมองเปรียบเทียบกบั ฐานการเรยี นรู และฐานกิจกรรมทส่ี รา งข้นึ ในคา ยพักแรม และสรปุ ความเสี่ยงเพือ่ ปองกันไมใหเกิดเหตหุ รอื ภยั ตาง ๆ ไว ลวงหนา 2. นําเสนอผลการจัดทาํ มาตรการในการอยูรวมกัน ท้งั การพบกลมุ และการอยูคา ยพักแรม เพือ่ กําหนดมาตรการใหใ ชรว มกนั อยางเหมาะสม 3. ทดลองนําขอบกพรองของกระบวนการผลติ ที่มีความเส่ียงในการปฏบิ ตั ิ มานําเสนอและแสดง บทบาทสมมุติ (Role play) เพ่อื ฝกปฏิบตั ิ เปน การเตรียมความพรอม เพ่ือเตรยี มการกอนผลิตส่ือหรือสรา ง คายกิจกรรมลูกเสอื กศน. กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว การเดินทางไกล 1.1 ความหมายของการเดนิ ทางไกล การเดินทางไกล หมายถึง การเดินทางของลกู เสือจากกองหรอื กลมุ ลูกเสือเพื่อไปทํากิจกรรมทีใ่ ดทหี่ น่ึง โดยมี ผกู าํ กับและนายหมูลูกเสือเปนผกู าํ หนดรวมกนั เพ่ือนําลกู เสือไปฝกทักษะวิชาการลูกเสอื เพิ่มเตมิ ใหรูจัก การใชชวี ติ กลางแจงและสัมผัสกับธรรมชาตอิ ยา งใกลช ดิ โดยลกู เสอื ไดใชค วามสามารถของตนเอง การเดนิ ทางไกลของลูกเสอื สามารถเดินทางดวยเทา เรือ หรือจักรยานสองลอ รวมถึงรถยนตอกี ดวย 1.2 วัตถปุ ระสงคของการเดนิ ทางไกล มดี ังน้ี 1) เพื่อฝกความอดทนความมีระเบียบวินัยและเสรมิ สรา งสุขภาพอนามยั ใหแกล กู เสือ 2) เพ่ือใหล ูกเสือมเี จตนารมณ และเจตคติท่ีดรี จู กั ชว ยตนเองและรูจ กั ทํางานรวมกับผอู ่นื 3) เพ่ือใหมโี อกาสปฏบิ ัตติ ามคติพจนของลูกเสอื และมโี อกาสบริการตอ ชมุ ชนที่ไปอยูคายพักแรม 4) เพื่อเปนการฝกและปฏิบตั ิตามกฎของลกู เสือ 1.3 หลกั การของการเดินทางไกล การเดนิ ทางไกล ใชระบบหมู เพือ่ ฝกความอดทน ความสามคั คี ความมีระเบียบวินยั การชวยเหลือซึ่ง กนั และกันรูจกั การระมัดระวังตวั จากอบุ ตั ิเหตุขณะเดนิ ทาง และการเตรยี มตวั ในการเดนิ ทางใหไดใชชีวิต กลางแจง 1.4 การบรรจเุ ครอื่ งหลังสาํ หรับการเดินทางไกล เปนกิจกรรมหน่ึงของลูกเสือ ซงึ่ ลูกเสอื จะตองมีการเตรียมการเรื่องเครื่องหลงั ใหพรอ มเหมาะสมกบั เดินทางไกลไปแรมคืน ซงึ่ อุปกรณทจี่ ะจดั เตรยี ม คือ อปุ กรณเฉพาะบุคคลหรอื อุปกรณป ระจาํ ตัวทจี่ าํ เปน จะตอ งเตรยี มพรอ มกอนกําหนดเดินทางควรมนี ้ําหนกั ไมมากนักมีดังน้ี 1) เครอ่ื งแตงกาย ไดแก เครื่องแบบลูกเสอื และเคร่ืองหมายประกอบเคร่ืองแบบคอื หมวก ผาผูกคอ เสอ้ื กางเกงหรอื กระโปรง เข็มขัด ถงุ เทา รองเทา หรือชุดลําลอง หรือชดุ สุภาพชดุ กีฬา ชดุ นอน 2) เคร่อื งใชป ระจําตวั ไดแก สบู แปรงสีฟน ยาสฟี น ผา เช็ดตวั ผาขาวมา ผาถุงไฟฉาย ขนั นาํ้ รองเทา แตะ จาน ชาม ชอ น ยากนั ยุง ยาขัดโลหะ เชือก หรือยาง สําหรบั ผูกหรือรดั อุปกรณเ ล็ก ๆ นอย ๆ ถุงพลาสติก สาํ หรับใสเสอื้ ผา ท่ใี ชแลวหรือเปยกช้ืน 3) ยาประจาํ ตวั หรืออปุ กรณปฐมพยาบาล 4) อุปกรณประกอบการเรียนรู และการจดบันทึกกิจกรรม เชน สมดุ ปากกา ดนิ สอ แผนที่ เข็มทิศ 5) อปุ กรณท่ีจาํ เปน ตามฤดกู าล เชน เสอ้ื กันฝน เส้ือกนั หนาว 6) อปุ กรณเ ครื่องนอน เชน ผา หม ถงุ นอน 7) อุปกรณทป่ี ระจํากายลกู เสือ เชน ไมงา ม กระติกนํา้ เชือกลูกเสอื

ขอ แนะนาํ ในการบรรจุเครื่องหลัง เคร่ืองหลัง คือ ถงุ หรอื กระเปาสําหรับใสส่ิงของตาง ๆ และใชสะพายหลัง เพอื่ ใหส ามารถนําสิ่งของไป ยงั สถานทตี่ าง ๆ ไดอยา งสะดวก เคร่ืองหลังจึงเปนสงิ่ สาํ คญั และมีความจําเปนมากสําหรับกิจกรรมการเดนิ ทางไกล เพราะลูกเสือตองใชบรรจอุ ุปกรณประตัว อปุ กรณประจําหมู ซ่ึงตองนําไปใชในการอยคู ายพกั แรม การ บรรจสุ ิ่งของลงในถุงเคร่ืองหลัง หรอื กระเปา มีขอแนะนาํ ดังนี้ 1) ควรเลือกเคร่อื งหลังทม่ี ีขนาดพอเหมาะไมเ ล็กหรอื ใหญจนเกินไป 2) ควรบรรจุสิ่งของทมี่ นี ํ้าหนกั มากหรือสิ่งของท่ีใชภ ายหลงั ไวข างลาง สวนสิง่ ของทใ่ี ชกอนหรอื ใช รีบดว น เชน ไฟฉาย เส้ือกันฝน ไมข ีดไฟ ใหไวขา งบนสุดของเคร่ืองหลังซง่ึ สามารถนาํ ออกมาใชไ ดอยางสะดวก 3) ควรบรรจุสิ่งของนุม ๆ เชน ผาเชด็ ตวั ผา หม เส้อื ผา ใสในเครอ่ื งหลังตรงสวนทจ่ี ะสัมผัสกับหลงั ของ ลูกเสอื เพื่อจะไดไมเจ็บหลงั ขณะเดินทาง 4) สิ่งของบางประเภท เชน ยารักษาโรค ขา วสาร เปน ตน ควรใสถ ุงผา หรือถงุ พลาสติกกอน แลวจึง บรรจลุ งเครอ่ื งหลัง 5) ในกรณที ่ีถุงนอน และผา หม บรรจุเครื่องหลงั ไมได ใหผ ูกถงุ นอนและผา หมนอนของลูกเสือไวน อก เครอื่ งหลงั คลมุ ดว ยพลาสตกิ ใสเพือ่ กนั เปยกนํ้า 6) เคร่ืองหลงั ทีล่ ูกเสือนําไปตองไมห นักจนเกนิ ไป เพราะถา หนกั เกนิ ไปจะทําใหล กู เสอื เหน่ือยเรว็ น้ําหนักของเครื่องหลงั ควรหนักไมเ กิน 1 ใน 5 ของน้าํ หนักตวั ลกู เสอื เชน ถาลกู เสอื หนัก 50 กโิ ลกรัม เครอ่ื ง หลังควรหนักไมเกิน 10 กิโลกรมั เปนตน ปจ จุบนั เครอ่ื งหลังทใ่ี ชบรรจสุ ่ิงของนน้ั มีหลายชนดิ แลวแตล กู เสอื จะ เลอื กใช เชน กระเปา ยาม หรอื เป ลูกเสอื ควรเลือกใชเครื่องหลังท่มี ีลักษณะคลา ยเป เพราะมชี องสําหรับบรรจุ ส่งิ ของหลายประเภท กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

เนื้อหา 1. การอยู่ค่ายพกั แรม ลูกเสือไดฝ้ ึ กการอยคู่ ่ายพกั แรมในระดบั ลูกเสือโทมาแลว้ 12 วนั ซ่ึงไดท้ ้งั ความรู้และ ประสบการณ์ในการใชช้ ีวิตกลางแจง้ ดว้ ยการฝึ กทกั ษะต่าง ๆ ทางลูกเสือ ดงั น้นั ในลูกเสือเอกจะ ไดท้ บทวนหลกั สาคญั ที่เป็ นขอ้ เตือนใจให้ลูกเสือจดจา และนาไปปฏิบตั ิเม่ือจะตอ้ งออกไปอยคู่ ่าย พกั แรมอีกคือ 1.1 หลกั ปฏิบัติก่อนการไปอย่คู ่ายพกั แรม มีดงั น้ี :- 1. จะไปเมอ่ื ไร การไปอยคู่ า่ ยพกั แรมลูกเสือจะตอ้ งทราบวา่ ผกู้ ากบั ไดก้ าหนดนดั หมายวนั เดินทางไปและกลบั เม่ือไร พร้อมท้งั ไดแ้ จง้ ให้นายหมู่ รองนายหมู่ และเพ่ือนทุกคนได้ทราบ ตรงกนั หรือยงั เพอ่ื ที่ลูกเสือจะไดแ้ จง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบและเตรียมตวั ไดท้ นั เวลา 2. ไปทาอะไร ผกู้ ากบั จะไดแ้ จง้ ใหท้ ราบวา่ การเดินทางไปอยคู่ ่ายพกั แรมเรามีจุดประสงค์ จะไปทาอะไร เช่น การสารวจ การใช้แผนที่เข็มทิศ การสะกดรอยหรือการชุมนุมรอบกองไฟ เป็นตน้ และลูกเสือจะตอ้ งนาอะไรติดตวั ไปบา้ ง 3. ไปทไี่ หน การไปพกั แรมนอกสถานท่ี ผกู้ ากบั จะเลือกสถานที่ที่ลูกเสือควรไดร้ ับความ สะดวกบา้ งตามสมควร เช่น ถา้ ไปพกั ตามค่ายลูกเสือกจ็ ะสะดวกในเรื่องของวสั ดุอุปกรณ์ท่ีไม่ตอ้ ง ขนติดตวั ไปมาก แต่ถา้ ไปอยตู่ ามป่ าเขา ลูกเสือก็จะตอ้ งนาอุปกรณ์ที่จาเป็นติดตวั เพิม่ ข้ึน 4. ไปอย่างไร การเดินทางอาจไปโดยรถยนต์ รถไฟ เรือ จกั รยานหรือเดินไป ผกู้ ากบั จะ ไดช้ ้ีแจงใหล้ ูกเสือทราบ เพอื่ จะไดส้ ะดวกไม่เสียเวลาหรือเกิดพลดั หลง กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว1.2 การเตรียมอปุ กรณ์ก่อนไปอย่คู ่ายพกั แรม ลูกเสือจะต้องเตรียมการต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนการเดินทางในวนั รุ่งข้ึนหรือก่อน กาหนดการเดินทาง และการเตรียมเฉพาะสิ่งท่ีจาเป็นเท่าน้นั ดงั น้ี เครื่องใช้ประจาตวั 1. กระติกน้าลา้ งใหส้ ะอาด เติมน้าใหเ้ ตม็ 2. ตรวจเครื่องใช้ เช่น สบู่ ผา้ เช็ดตวั แปรงสีฟัน ผา้ ขาวมา้ เขม็ ซ่อนปลาย เขม็ เยบ็ ผา้ - ดา้ ย เส้ือ กางเกง มีด รองเทา้ แตะ ขนั ลา้ งหนา้ ผา้ ปทู ี่นอน เชือกผกู เง่ือน 3. เคร่ืองแบบและเครื่องประกอบเครื่องแบบ 4. ไฟฉาย ชอ้ นส้อม จานขา้ ว 5. ยาประจาตวั และยาปฐมพยาบาลแผลเล็ก ๆ นอ้ ย ๆ 6. ตรวจเครื่องใชใ้ หอ้ ยใู่ นสภาพที่ใชง้ านได้ 7. ตรวจเคร่ืองใชใ้ หอ้ ยใู่ นสภาพที่ใชง้ านได้ 8. รองเทา้ -ถุงเทา้ ใหอ้ ยใู่ นสภาพดี ไมค่ วรใชร้ องเทา้ ใหม่เพราะอาจกดั เทา้ ได้ 9. แผนที่-เขม็ ทิศ 10. ผา้ ห่มนอน เตน็ ท์ 11. เส้ือกนั ฝน 12. ไมพ้ ลอง เครื่องใช้ประจาหมู่ ตอ้ งเป็นไปตามความจาเป็นและตอ้ งแบง่ หนา้ ที่ความรับผดิ ชอบที่ลูกเสือจะตอ้ งรับภาระใน การดูแลและขนของเหล่าน้ี คือ 1. ตะเกียง 2. เครื่องครัว 3. อาหารแหง้ 4. มีด ขวาน 5. กระเป๋ ายา 6. ถงั ตกั น้า 7. ไมข้ ีดไฟ 8. ธงหมู่

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว 1.3 วนั สุดท้ายของการอย่คู ่ายพกั แรม 1. ก่อนกลบั ลูกเสือตอ้ งตรวจและจดั สิ่งของที่จะส่งคืนหรือทาการขนส่ง ของบางอยา่ งท่ี ควรเก็บหรือกลบตอ้ งจดั การให้เรียบร้อย เช่น ขยะมูลฝอย หลุมขยะต่าง ๆ ของบางอย่างให้ทา ความสะอาดใหเ้ รียบร้อย เช่น จาน ชอ้ น ชาม แลว้ บรรจุเขา้ ท่ี 2. ร้ือเต็นท์ เมื่อจวนจะกลบั จึงร้ือและเก็บเต็นท์ เพื่อปล่อยให้เต็นทถ์ ูกแดดและลม การ เก็บบริเวณท่ีพกั ตอ้ งแบ่งงานกนั ทา เพราะจะมีเต็นท์อย่างอ่ืนด้วย เช่น เต็นท์เก็บพสั ดุ เต็นท์ พยาบาล ทุกอยา่ งตอ้ งทาใหส้ ะอาด ขอ้ สาคญั คือตอ้ งดบั ไฟท่ีก่อใหด้ บั สนิท 3. ถา้ เป็นคา่ ยลูกเสือจะตอ้ งขอบคุณเจา้ ของสถานที่และผมู้ ีอุปการคุณ 2. การรักษาสุขภาพ หลักสาคญั ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมของลูกเสือ คือ การปฏิบตั ิกิจกรรมกลางแจง้ เช่น ทกั ษะต่าง ๆ กิจกรรม การเดินทางไกล ผจญภยั สะกดรอย ซ่ึงลูกเสือจะตอ้ งปฏิบตั ิดว้ ยความมานะ อดทน ตรากตรา การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศจะมีอยตู่ ลอดเวลา โดยเฉพาะเร่ืองของความ ร้อนจากแสงแดด และสายฝน หรือรวมถึงอากาศที่หนาวเยน็ ขณะปฏิบตั ิกิจกรรมจะเป็ นสาเหตุท่ี ทาให้ลูกเสือเกิดการเจ็บป่ วยไม่สบาย ไม่สามารถเขา้ ร่วมกิจกรรมต่อไปได้ และเพื่อไม่ให้เกิด อาการเจบ็ ป่ วย ลูกเสือควรปฏิบตั ิดงั น้ี การหลกี เลยี่ งอนั ตรายทจี่ ะเกดิ กบั สุขภาพ 1. ไมค่ วรปฏิบตั ิกิจกรรมกลางแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ ติดตอ่ กนั 2. ไม่ควรออกกาลงั กายดว้ ยการวงิ่ กลางแสงแดดเป็นระยะทางไกล ๆ 3. การเดินทางไกลควรหยดุ พกั เป็นระยะและด่ืมน้า 4. ไมค่ วรปฏิบตั ิกิจกรรมกลางสายฝน 5. ขณะเหนื่อยมากไม่ควรด่ืมน้าหรือน้าแขง็

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว การป้ องกนั รักษาสุขภาพ 1. การปฏิบตั ิกิจกรรม หากเป็นไปไดค้ วรทาใตร้ ่มไม้ 2. ควรสวมหมวกเม่ือตอ้ งปฏิบตั ิกิจกรรมกลางแดด 3. ควรด่ืมน้าสะอาดและหลีกเล่ียงการดื่มน้าอดั ลม 4. ควรใส่เส้ือผา้ ที่ไมเ่ ปี ยกหรืออบั ช้ืน 5. ควรหยดุ พกั การปฏิบตั ิกิจกรรมขณะฝนตก 6. ควรใส่เส้ือผา้ ท่ีใหค้ วามอบอุน่ ขณะอยคู่ า่ ยพกั แรม 7. เมื่อรู้สึกผดิ ปกติทางร่างกายใหแ้ จง้ ผกู้ า 3. การสร้างทพ่ี กั แรมช่ัวคราว การสร้างที่พกั แรมชวั่ คราวเป็นการสร้างโดยอาศยั วสั ดุท่ีหาไดใ้ นทอ้ งถ่ิน เช่น ไมไ้ ผม่ าทา เป็นโครงหลงั คาหนา้ จวั่ ดว้ ยการผกู ดว้ ยเง่ือนกากบาท ใชไ้ มไ้ ผท่ ี่ผา่ แลว้ มดั ติดท่ีหลงั คาเพื่อสะดวก ในการมุงหลงั คา อาจเป็ นจาก แฝก หรือฟางก็ได้ การมุงหลงั คาจะตอ้ งทาจากขา้ งล่างข้ึนไป บริเวณพ้นื ใหป้ ูดว้ ยฟางหรือหญา้ แหง้ ก่อนใชผ้ า้ ปูทบั 4. การออกสารวจขณะอยู่ค่ายพกั แรม ขณะท่ีลูกเสืออยคู่ ่ายพกั แรมใหล้ ูกเสือออกทาการสารวจสภาพแวดลอ้ มของทอ้ งถิ่นอาจไป 2 คน หรือหมู่ของตน หรือร่วมกบั กองลูกเสือในทอ้ งถ่ิน อาจเป็ นโบราณสถาน การทามาหากิน กิจการของสถานพยาบาล ท่ีทาการของอาเภอ ไปรษณีย์ วดั หรือโรงงานอุตสาหกรรม แลว้ กลบั มา รายงานวา่ ลูกเสือท่ีไปสารวจไดพ้ บกบั ใคร มีอะไรบา้ งที่ให้ความรู้เก่ียวกบั ชีวิตในทอ้ งถ่ิน ความ สะดวกสบาย ความยากลาบากในการดารงชีวติ โดยลูกเสือรายงานต่อผกู้ ากบั ลูกเสือดว้ ยวาจาแต่ สิ่งสาคญั กนั ลืม ลูกเสือจาเป็นตอ้ งใหค้ นใดคนหน่ึงเป็ นผบู้ นั ทึกวา่ ไปที่ไหน พบเห็นอะไร ลูกเสือ คิดอยา่ งไรกบั สิ่งท่ีไดเ้ ห็น

ใบบนั ทกึ การออกสารวจ สถานที่ สิ่งท่ีได้พบเห็น ได้ทาอะไร - มีความเห็นอย่างไร กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว ลงชื่อ……………………..ผบู้ นั ทึก ออกสารวจเมื่อ วัน……เดือน..……….. พ.ศ……… 5. การสารวจสถานทท่ี ส่ี าคญั สถานทสี่ าคญั ในการไปเยือนสถานท่ีสาคญั ในทอ้ งถิ่นเพื่อการศึกษา ลูกเสือจะตอ้ งพยายามศึกษาถึง ความสาคญั ความเป็ นมาของสถานท่ีแห่งน้นั โดยละเอียด แลว้ จึงนามาเขียนสรุปเพ่ือรายงานต่อผู้ กากบั ลูกเสือ โดยเรียงลาดบั หวั ขอ้ ดงั น้ี 1. ชื่อสถานที่ท่ีไปเยอื น 2. ท่ีต้งั 3. ความสาคญั และความเป็นมา 4. ระเบียบปฏิบตั ิของสถานท่ีแห่งน้นั 5. ผดู้ ูแลรักษา 6. ขอ้ เสนอแนะหรือความเห็นของลูกเสือเก่ียวกบั สถานท่ีแห่งน้นั

การสารวจบริเวณเลก็ ๆ ในท้องถนิ่ การไปสารวจบริเวณเล็ก ๆ ในทอ้ งถิ่นในละแวกบา้ นของตนบริเวณสองฝั่งลาคลองหรือ แม่น้าเป็ นระยะทาง 800 เมตร พร้อมกนั น้นั ลูกเสือจะตอ้ งทาแผนผงั ของบริเวณดงั กล่าวโดย ลูกเสือควรปฏิบตั ิดงั น้ี 1. การเดินทางสารวจ อาจเดินเรียบลาคลองหรือพายเรือไปเองหรือไปกบั เพ่ือนๆ ลูกเสือ ดว้ ยกนั กไ็ ด้ 2. ขณะเดินทางจะตอ้ งทาแผนผงั การเดินทางและสิ่งท่ีไดพ้ บเห็นตลอดเส้นทางและบนั ทึก ลงแผนผงั เช่น ทา่ เรือ โรงงานท่ีอยรู่ ิมคลอง วดั ฯลฯ 3. การส่งรายงาน เม่ือกลบั มาแลว้ ใหล้ ูกเสือส่งรายงาน คือแผนผงั การเดินทางพร้อมสิ่งที่ ไดพ้ บเห็น ซ่ึงไดบ้ นั ทึกลงในแผนผงั ใหผ้ กู้ ากบั ลูกเสือไดท้ ราบ กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว

เกง็ ขอสอบกศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว สาํ หรับนักศกึ ษา กศน.

แนวขอสอบ สาระความรพู น้ื ฐาน วิชาลูกเสือ กศน. รหสั สค 22021 (ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน) ************************** 1. ขอใดไมใชค ําปฏญิ าณของลูกเสอืกศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว 6. การพัฒนาศกั ยภาพของบคุ คลของขบวนการ ก. ขา จะชว ยเหลือผูอืน่ ทุกเมื่อ ลกู เสอื ท่วั โลก คือขอ ใด ข. ขา จะปฏิบตั ติ ามกฎของลกู เสือ ก. การพฒั นาการดา นรา งกาย ค. ขา จะประพฤติชอบดวยกาย วาจาใจ ข. การพฒั นาดา นรางกายจิตใจอารมณ ง. ขา จะจงรกั ภักดีตอ ชาติ ศาสนา และ ค. การพฒั นาทางดา นสังคมและสง่ิ แวดลอ ม พระมหากษัตรยิ  ง. ถกู ทกุ ขอ 2. ขอใดคือวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระ 7. กฎของลูกเสอื ขอใดทส่ี ามารถนํามาใชใ น ปรเมนทรมหาวชิราวธุ พระมงกุฎเกลา เจาอยูห ัว ชวี ติ ประจาํ วนั ได รชั กาลท่ี 6 ก. ลูกเสือเปน ผูมธั ยสั ถ ก. 1 มกราคม พ.ศ. 2420 ข. ลกู เสือเปนผูสภุ าพเรียบรอย ข. 1 มกราคม พ.ศ. 2421 ค. ลกู เสอื มคี วามเมตตา กรุณาตอสตั ว ค. 1 มกราคม พ.ศ. 2422 ง. ถูกทกุ ขอ ง. 1 มกราคม พ.ศ. 2423 8. ความเปนพลเมืองดีในทัศนะของลูกเสือ คือขอ ใด 3. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชิราวธุ พระ ก. การพฒั นาความรอบรูทางวิชาการ มงกุฎเกลา เจาอยูหวั รัชกาลที่ 6 เสด็จขนึ้ ข. การพัฒนาความรับผิดชอบตอครอบครัว ครองราชยเม่ือใด ค. การพัฒนาความคิด คดิ ดี ทาํ ดี มีจิตสาธารณะ ก. 22 ตลุ าคม พ.ศ. 2453 ง. การพฒั นาความรักชาติ ศาสนา ข. 23 ตลุ าคม พ.ศ. 2453 พระมหากษัตริย ค. 24 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ง. 25 ตลุ าคม พ.ศ. 2453 9. ขอใดเปน วนิ ัยภายใน ก. การปฏิบตั ิตามกฎและขอบงั คับ 4. กองลูกเสอื กองแรกของโลกต้ังขึ้นที่ประเทศใด ข. การแตงกายใหเปนระเบียบเรยี บรอ ย ก. ประเทศอังกฤษ ค. รูจกั ควบคุมอารมณและจิตใจของตนเอง ข. ประเทศรัสเซีย ง. การรักษาความสะอาดของสถานที่ทํางาน ค. ประเทศฝรั่งเศส ง. ประเทศฮอลันดา 10.บุคคลใดแสดงใหเ ห็นถงึ การขาดวินัย ก. จอม เขา แถวซือ้ ตว๋ั ดูหนัง 5. ในการชมุ นุมลกู เสือโลก ครั้งท่ี 1 บ.ี พ.ี ไดร บั การ ข. แกว ขา มถนนในทางขา ม ยกยองและแตงตัง้ ใหร บั ตาํ แหนงใด ค. หนอ ย ขายของบนทางเทา ก. ประมุขของคณะลูกเสือโลก ง. อร ขน้ึ ลงรถโดยสารตามกอนหลัง ข. ผแู ทนคณะลูกเสือโลก ค. ผูใหกาํ เนดิ ลกู เสอื โลก ง. ผนู ําคณะลกู เสือโลก

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว11.การพฒั นาสัมพนั ธภาพตอสิ่งแวดลอม หมายถึงขอ17.ขอใดเปน หลกั การสาํ คัญของการสรา ง ใด อุดมการณของความเปน พลเมอื งในทศั นะของ ก. ใหความเห็นใจตอขอขัดแยงทางสังคม ลูกเสือ ข. ใหค วามม่ันใจในกจิ กรรมทางวฒั นธรรม ก. การนําหลกั คาํ สอนของทกุ ศาสนามาปรับใช ค. ใหความเอาใจใสในการเปลีย่ นแปลงของความ ในการพฒั นาตนเอง เปนอยู ข. การนํากฎหมาย ขอ บงั คบั กติกาทางสงั คม ง. ใหความสนใจและรว มมืออนุรักษทรัพยากรและ มาปรับใชใ นการพฒั นาตนเอง สง่ิ แวดลอ ม ค. การนําคาํ ปฏญิ าณ กฎ และคติพจนของ ลูกเสอื เปน แนวทางการพัฒนาตนเอง 12.ขอใดแสดงใหเห็นถึงความสาํ คัญของลกู เสือ กศน. ง. การนาํ ความรกั ความเขาใจเก่ียวกบั การ ในการพฒั นาชุมชน พฒั นาชุมชนมาปรบั ใชใ นการพัฒนาตนเอง ก. เขารว มกจิ กรรมขบั ไลผ ูม ีอิทธพิ ลในชุมชน ข. เขา รว มกิจกรรมตอตานการใชความรนุ แรงใน 18.ถา ผูเ รียนจะเดนิ ทางไปหาเพ่อื นตางหมบู าน ชมุ ชน แตหาบา นเพอ่ื นไมพบ ผเู รยี นจะใชอุปกรณ ค. เขารวมกิจกรรมเสริมสรางศักยภาพของคนใน ชนิดใดในการชวยคนหาบานเพื่อนโดยใช ชมุ ชน โปรแกรม Google Map ง. เขารว มกจิ กรรมพัฒนาสมั พนั ธภาพทางสงั คม ก. Computer และสงิ่ แวดลอ ม ข. Tablet ค. Smart Phone 13.คติพจนของลูกเสือทีเ่ ปนการแสดงออกของความ ง. ถูกทกุ ขอ เปนผูม ีจติ อาสา หมายถงึ ขอใด ก. บรกิ าร 19.เชือกไนลอนไมเหมาะสําหรบั นํามาใชผูกแนน ข. มองไกล ในกิจกรรมลูกเสอื เพราะเหตใุ ด ค. ทาํ ดที ่ีสดุ ก. ผกู แลว เจบ็ มอื ง. จงเตรียมพรอม ข. ผกู แลว แกย าก ค. ผูกแลวปมหลดุ งา ย 14.ทําไมลูกเสอื จงึ ควรเชอ่ื ฟง คําส่ังของผูบังคบั บญั ชา ง. ผกู แลวงง เพราะสีเหมอื นกัน ก. เพ่อื ใหคนทว่ั ไปยกยองลกู เสือ ข. เพ่อื สรา งวินยั และความเปนระเบียบ 20.เงอ่ื นที่ชว ยผูกคนใหล งจากที่สงู มชี ือ่ เรยี กวา ค. เพือ่ ทําใหไดคะแนนความประพฤติมากขนึ้ เง่ือนอะไร ง. เพ่อื ความเปนคนออนนอม เนอื่ งจากมีอายุ ก. เกา อี้ มากกวา ข. ผกู ซุง ค. กระหวัดไม 15.คตพิ จนของลูกเสอื วิสามัญ คือขอใด ง. ตะกรดุ เบ็ด ก. บรกิ าร ข. มองไกล 21.ขอ ใดตรงกับความหมายของความปลอดภัยใน ค. ทําดีท่ีสดุ การเขารว มกจิ กรรมลูกเสือทถี่ ูกตอง ง. จงเตรยี มพรอม ก. ปต ิ หลดุ พนจากการเขารวมกจิ กรรมลกู เสือ ข. เพชร เดินปาหยอกลอ กับหมขู องตนเอง 16.ขอ ใดกลาวถึงผูใหกําเนิดลกู เสือไทย ไดอยาง อยา งสนุกสนาน ถูกตอง ค. สมหมาย ปว ยเปนหวัดแตรว มเดินทางไกล ก. รชั กาลท่ี 4 กบั ผเู ขา รวมกจิ กรรมอื่น ข. รัชกาลท่ี 5 ง. มานะ เดนิ ทางไกลโดยไมไ ดร บั อนั ตรายจาก ค. รัชกาลที่ 6 การเขารวมกิจกรรมลูกเสือ ง. รัชกาลท่ี 7

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว22.ขอ ใดตรงกับความหมายของความปลอดภัยใน27.ขอ ใดคือองคประกอบของสัญญาณชพี การเขารวมกจิ กรรมลูกเสือทถ่ี ูกตอง ก. มานตา อตั ราการหายใจ อุณหภมู ริ า งกาย ก. เตรยี มอุปกรณ เคร่ืองใชป ระจาํ ตัวและ ความดนั โลหิต เตรยี มพาหนะในการเดินทางใหพ รอม ข. ชพี จร อัตราการหายใจ อุณหภูมริ างกาย ข. ไมควรศกึ ษาเสน ทางเดินทางไกลลวงหนา ความดนั โลหติ เพราะจะทําใหไ มต ืน่ เตน ค. ชพี จร อตั ราการหายใจ อณุ หภมู ริ างกาย ค. เตรียมอุปกรณท ่จี ะใชในการปรุงอาหารไป มา นตา ใหม ากทส่ี ุด ง. ชพี จร อตั ราการหายใจ มานตา ความดัน ง. ถูกทั้ง 3 ขอ โลหิต 23.ขอ ใดตรงกับความหมายของความปลอดภัยใน 28.กจิ กรรมใดทีป่ ลอดภัยทสี่ ุด การเขา รวมกิจกรรมลูกเสือทีถ่ ูกตอง ก. การรวมกจิ กรรมบกุ เบิกและเดินทางไกล ก. เพือ่ ใหเ กิดความสวยงาม ข. วาดภาพกิจกรรมยามวาง ข. เพือ่ ใหเ กิดความคลองตัว ค. การสรางคายพักแรม ค. เพือ่ ใหเ ปน ไปตามระเบียบ ง. การประกอบอาหารชาวคา ย ง. เพื่อความเปนอันหน่ึงอันเดียวกัน 29.กจิ กรรมลูกเสือทเ่ี สยี่ งตอ ความไมปลอดภยั 24.เมื่อประสบอุบตั ิเหตุ ควรตดิ ตอ ขอความ มากทสี่ ุด คอื ขอใด ชว ยเหลือท่หี มายเลขใด ก. การขจ่ี กั รยานตามทางของชุมชน ก. โทร 1966 ข. การเดินทางไกล ตามรางรถไฟทส่ี ้นั และตัด ข. โทร 1669 ตรง ค. โทร 1996 ค. การเดินทางไกลตามภมู ิประเทศทพ่ี ื้น ง. โทร 1699 ธรรมชาติ ง. การหาก RC ท่ีเปนสญั ลกั ษณของลูกเสือ 25.ข้นั ตอนในการชว ยฟนคืนชีพ ในขอใดถูกตอ ง ประเภทอื่น ๆ ที่สุด ก. ประเมินความรสู กึ ตัว ขอความชวยเหลือ 30.ส่งิ ท่ีทาํ ใหล กู เสอื กศน. รูส ึกปลอดภัยในการ ประเมนิ การหายใจ อยูคายพกั แรม คือขอใด ข. ขอความชว ยเหลอื ประเมนิ การหายใจ ก. มาตรการทเ่ี ปนมาตรฐาน ค. ประเมนิ ความรสู ึกตัว ขอความชวยเหลอื ข. ตองมเี กมใบและรอบกองไฟ ง. ประเมนิ ความรูสกึ ตัว ขอความชว ยเหลอื ค. ควรมีการเปด ประชมุ กองทุกวนั ประเมินการหายใจ คลาํ ชีพจร ชว ยหายใจ 2 ง. ใหมีเวรยามรกั ษาความปลอดภัย ครงั้ ตอ การกดหนาอก 30 ครง้ั 31.สง่ิ ใดจาํ เปนที่สดุ เมือ่ เราหลงปา อยูกลางปา 26.อณุ หภูมปิ กติของคนท่ัวไป คอื ขอใด คอื ขอ ใด ก. 35 องศาเซลเซียส ก. อาหาร ข. 36 องศาเซลเซยี ส ข. น้าํ ดม่ื ค. 37 องศาเซลเซยี ส ค. แผนท่ี ง. 38 องศาเซลเซยี ส ง. เข็มทิศ

32.ประเทศทีค่ น พบพลงั แมเ หลก็ แลวพฒั นามากศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว38.เชอื กที่ใชในกจิ กรรมบกุ เบิก คือขอใด เปน เข็มทศิ ในปจ จบุ ัน คือขอ ใด ก. เชือกปา น แนน เหนยี ว ก. กรกี ข. เชอื กมนิลา แขง็ แรงทนทาน ข. โรมนั ค. เชือกไหมญปี่ นุ สีขาว เหนียวคงทน ค. อยี ิปตโ บราณ ง. เชือกไนลอน เหนียวรบั นาํ้ หนกั มาก ง. จนี 39.สาํ หรับลกู เสอื แลว “เชือก” มีประโยชนอ ะไร 33.ทกั ษะทส่ี ําคญั ของผใู ชเข็มทิศคือขอใด ก. เอาไวลาสตั ว ก. การใชเ ขม็ ทศิ กําหนดเปาหมาย ข. เอาไวใชปฐมพยาบาล ข. การคน หาทิศเหนือโดยไมใชเ ข็มทิศ ค. เอาไวสรางฐานผจญภยั ค. การจบั เข็มทิศและการเคล่ือนที่พรอมเขม็ ทศิ ง. เอาไวท าํ กจิ กรรมเง่อื นเชอื ก ง. การอา นมุมจากเข็มทิศและการปรบั มมุ ท่ี ถูกตอง 40.กอ นทจี่ ะไปตง้ั คา ยพักแรมนั้น ควรจะไดมี การศกึ ษาลักษณะพ้นื ที่ภมู ิประเทศ ใหด ี 34.เม่ือกาํ หนดเปา หมายปลายทางจากมุมที่เราต้งั เสยี กอน โดยพิจารณาความเหมาะสมจากสง่ิ ไวกับเขม็ ทิศแลว เราจะเดินโดยอาศยั ตอ ไปนี้ เครอ่ื งหมายอะไรบนเข็มทิศ ก. อยูบ นทีส่ งู หรือเชิงเขา เวลาฝนตกมที าง ก. ลูกศรชที้ าง ระบายนํา้ ออกอยางรวดเรว็ ข. เข็มทศิ เหนอื ข. ไมควรอยูใกลสถานทที่ ี่มีคนพลุกพลาน ค. เข็มกางปลาท่ชี ้ไี ป ค. สถานท่ีตงั้ คาย ควรมนี ํ้าดื่มน้าํ ใชเพยี งพอ ง. ทศิ ทเี่ ขม็ กางปลาซอนกับเข็มทิศ แตไมค วรอยูใกลแมน ้าํ ลาํ คลอง ง. ถกู ทกุ ขอ ทก่ี ลาว 35.หากเราจะผูกปากถงุ ขยะ ควรใชเ งือ่ นใด ก. เง่อื นพิรอด 41.ขอใดตอไปนี้ไมใชสว นประกอบของเตน็ ท ข. เงื่อนขัดสมาธิ สาํ เรจ็ รปู ในการเขาคา ยพักแรม ค. เงื่อนตะกรุดเบด็ ก. ผาเตน็ ท ง. เง่ือนบว งสายธนู ข. เสาเต็นท ค. สมอบก 36.เงือ่ นเชือกทเี่ ปนสญั ลกั ษณใ นเคร่ืองหมาย ง. เชอื กฟาง ลกู เสือโลก คอื ขอใด ก. เงอ่ื นพิรอด 42.ขอ ควรคาํ นงึ ในการสรางมาตรการปองกนั ข. เงื่อนขัดสมาธิ ความปลอดภยั ใหผอู ยคู ายพักแรม คอื ขอ ใด ค. เงื่อนตะกรดุ เบ็ด ก. อุบัตเิ หตุจากการเดนิ ทางบนพ้ืนทลี่ าดเอียง ง. เง่ือนบวงสายธนู ข. ความปลอดภัยเมอื่ อยูใกลต น ไมใหญ ค. ระยะเวลาและฤดูกาลในการทจ่ี ะเขา คายพัก 37.มมุ มอง 2D บนโปรแกรม Google Earth ได แรม ภาพทีเ่ หมอื นมุมมองใด บน Google Map ง. ควรคาํ นึงถึงขอมลู ทกุ ขอทงั้ ก ข และ ค ก. Google Map hybrid ข. Google Map satellite ค. Google Map terrain ง. Google Map

43.ขอใดตรงกับความหมายของความปลอดภัยใน 48. การทาํ ความเคารพดว ยทามอื เปลา ทํามมุ ก่ี การเขารวมกจิ กรรมลูกเสือทถ่ี ูกตอง องศา ก. อว น หลุดพน จากการเขา รว มกิจกรรมลูกเสือ ข. วธุ เดนิ ปา หยอกลอกับหมขู องตนเองอยา ง ก. ทํามุม 30 องศา สนุกสนาน ข. ทํามมุ 35 องศา ค. หมาย ปวยเปน หวดั แตร วมเดนิ ทางไกลกบั ค. ทาํ มมุ 40 องศา ผูเขา รว มกิจกรรมอนื่ ง. ทาํ มมุ 45 องศา ง. ตุม เดนิ ทางไกลโดยไมไดรับอนั ตรายจาก 49. คติพจน หมายถึงอะไร การเขารว มกิจกรรมลูกเสือ ก. ถอ ยคาํ หรอื ขอความที่เปนคติ ข. ถอ ยคาํ ทมี่ าจากสัจจะเปนสาํ คญั 44.ขอ ใดชว ยใหการเดนิ ทางไกลของลูกเสือมีความ ค. ถอยคําท่มี าจากผูม ีอายุนอ ยกวา ปลอดภยั ง. ถอ ยคาํ ท่เี ตรียมพรอมทง้ั รางกายและจติ ใจ ก. เตรยี มอุปกรณ เคร่ืองใชป ระจําตวั และ 50. คติพจนของลูกเสอื สามัญรนุ ใหญ คอื ขอใด เตรียมพาหนะในการเดนิ ทางใหพ รอม ก. บรกิ าร ข. ไมค วรศกึ ษาเสน ทางเดินทางไกลลวงหนา ข. มองไกล เพราะจะทําใหไ มตน่ื เตน ค. ทาํ ดีทส่ี ุด ค. เตรยี มอุปกรณทจ่ี ะใชใ นการปรุงอาหารไปให ง. จงเตรียมพรอม กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยวมากท่สี ดุ ง. ถูกท้งั ขอ ก ข.และ ค 45.เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งแตงกายใหรัดกุมกอ น รว มกจิ กรรมผจญภัยทางบก ก. เพ่ือใหเ กิดความสวยงาม ข. เพ่อื ใหเ กิดความคลองตัว ค. เพ่อื ใหเปน ไปตามระเบียบ ง. เพอื่ ความเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน 46. การทําความเคารพดวยทา วนั ทยหตั ถค วร ปฏบิ ัติอยา งไร ก. ใชมือขวาวันทยหตั ถน ิ้วชี้ชิดคว้ิ ข. ใชม ือซา ยวันทยหตั ถน ้วิ ช้ชี ดิ คิ้ว ค. ใชม ือขวาวนั ทยหตั ถนวิ้ กลางชิดค้ิว ง. ใชมอื ซา ยวันทยหัตถนิว้ กลางชิดคิ้ว 47. บรกิ าร เปนคติพจนของลูกเสือในขอใด ก. ลูกเสอื สํารอง ข. ลกู เสอื สามญั ค. ลกู เสอื วสิ ามัญ ง. ลูกเสอื สามญั รนุ ใหญ

กศน.อําเภอเ ้กาเ ีล้ยว เฉลยขอสอบ วชิ า ลกู เสอื กศน. รหัสวชิ า สค 22021 1. ขอใดไมใชค ําปฏญิ าณของลูกเสือ ค. ขา จะประพฤติชอบดว ยกาย วาจาใจ 2. ขอใดคอื วันพระราชสมภพของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าวุธ พระมงกุฎเกลาเจาอยหู วั รชั กาลที่ 6 ง. 1 มกราคม พ.ศ. 2423 3. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชิราวธุ พระมงกุฎเกลาเจาอยหู ัว รชั กาลที่ 6 เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยเม่ือใด ข. 23 ตลุ าคม พ.ศ. 2453 4. กองลูกเสอื กองแรกของโลกต้ังขึน้ ท่ปี ระเทศใด ก. ประเทศองั กฤษ 5. ในการชุมนมุ ลกู เสือโลก คร้งั ที่ 1 บ.ี พ.ี ไดร บั การยกยองและแตงตัง้ ใหร ับตําแหนง ใด ก. ประมขุ ของคณะลูกเสือโลก 6. การพฒั นาศักยภาพของบุคคลของขบวนการลกู เสอื ทัว่ โลก คือขอใด ง. ถกู ทกุ ขอ 7. กฎของลูกเสือขอใดทีส่ ามารถนํามาใชในชวี ิตประจําวันได ข. ลกู เสือเปน ผูส ุภาพเรยี บรอ ย 8. ความเปน พลเมืองดีในทศั นะของลูกเสือ คือขอใด ค. การพฒั นาความคิด คดิ ดี ทาํ ดี มจี ิตสาธารณะ 9. ขอ ใดเปน วินยั ภายใน ค. รจู กั ควบคุมอารมณและจิตใจของตนเอง 10.บุคคลใดแสดงใหเห็นถึงการขาดวนิ ยั ค. หนอย ขายของบนทางเทา 11.การพัฒนาสัมพนั ธภาพตอสงิ่ แวดลอม หมายถึงขอใด ง. ใหค วามสนใจและรว มมืออนรุ ักษท รัพยากรและสง่ิ แวดลอม 12.ขอใดแสดงใหเ หน็ ถึงความสาํ คัญของลูกเสือ กศน.ในการพัฒนาชมุ ชน ง. เขา รวมกิจกรรมพฒั นาสมั พันธภาพทางสังคมและส่งิ แวดลอ ม 13.คตพิ จนของลูกเสอื ท่เี ปน การแสดงออกของความเปน ผมู จี ิตอาสา หมายถึงขอใด ก. บริการ 14.ทําไมลูกเสอื จงึ ควรเชื่อฟงคําส่ังของผบู งั คบั บญั ชา ข. เพอื่ สรา งวนิ ยั และความเปนระเบียบ 15.คติพจนข องลูกเสือวสิ ามญั คือขอใด ก. บรกิ าร 16.ขอ ใดกลา วถงึ ผูใหกาํ เนิดลกู เสือไทย ไดอยา งถูกตอง ง. รัชกาลที่ 7 17.ขอใดเปนหลกั การสําคัญของการสรา งอุดมการณของความเปน พลเมืองในทัศนะของลูกเสือ ง. การนาํ ความรกั ความเขาใจเกี่ยวกบั การพฒั นาชุมชนมาปรบั ใชใ นการพฒั นาตนเอง