เปิดเส้นทางฝัน สู่ การเป็นนักกวีมือใหม่ จุฑาทิพย์ ไชยแก้ว
คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เปิดเส้นทางฝันสู่การเป็นนัก กวีมือไหม่ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการอ่านและเขียนร้อยกรอง เชิงสร้างสรรค์ ของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จัดทำขึ้นนเพื่อเรียบเรียงบทประพันธ์ประ เภทโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่าย ซึ่งเป็นงานเขียนที่ผู้เขียน ประพันธ์ขึ้นเอง ๙ เรื่องและงานเขียนที่ร่วมประพันธ์กับสมาชิกใน ห้อง ๒ เรื่อง รวมทั้งหมด ๑๑ เรื่องตามที่ผู้ประพันธ์ได้ระบุชื่ อผู้ แต่งไว้ด้านล่างของบทประพันธ์ ผู้ประพันธ์ขอขอบคุณอาจารย์ประจำรายวิชา การเขียนร้อย กรองเชิงสร้างสรรค์ ผศ.พิชญา สุวรรณโน ผู้ให้ความรู้และความ ช่ วยเหลือผู้จัดทำหวังว่าหนังสื ออิเล็กทรอนิกส์ ฉบับนี้ จะเป็นประ โยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย จุฑาทิพย์ ไชยแก้ว ผู้จัดทำ
สารบัญ เรื่อง หน้า กาพย์ยานี ๑๑ เรื่อง ไผ่ยามเย็น ๑ กลอนคละ เรื่อง ไอหมอกยามเช้าที่ควนนกเต้น ๒-๓ กลอนดอกสร้อย เรื่อง โรคร้ายโควิด ๔ โคลงสี่สุภาพ เรื่อง บิดาแห่งการพัฒนา ๕ โคลงสองสุภาพ เรื่อง เป็นเด็กเพียรใฝ่รู้ ๖ อินทรวิเชียร์ฉันท์ ๑๑ เรื่องราวของฉัน ๗ กลอนเปล่า เรื่อง ปริญญาของแม่ ๘ วรรณรูป เรื่อง ปริญญาข องแม่ ๙-๑๐ กาพย์ยานี ๑๑ เรื่อง ฉันชอบฉันรัก ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ เรื่อง ฉันเกลียดฉันกลัว ๑๑ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ เรื่อง วันนี้วันหน้า ๑๒ ร่ายสุภาพ เรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ ๑๓-๑๔
หน้า ๑ ไผ่ยามเย็น (กาพย์ยานี ๑๑) ยามเย็นเห็นทิวไผ่ โอนเอนไปตามสายลม ไผ่งามชั่ งน่าชม ใบร่วงหล่นดูงามตา แว่วกังวานสานภาษา ยินเสี ยงไผ่ขับขาน เกาะกิ่งไผ่ดูน่ามอง หมู่นกบินตามมา
หน้า ๒ ไอหมอกยามเช้าที่ควนนกเต้น (กลอนคละ) ไอหมอกยามเช้า พาเศร้าหนีหาย ความทุกข์ห่างกาย ผ่อนคลายชีวา (กลอน ๔) ช่างอ้างว้างอย่างหนักหนา นั่งมองป่าพนากว้าง สายลมเย็นพัดผ่านมา อุราชื่ นพาสุขใจ (กลอน ๖)
หน้า ๓ อรุณรุ่งสาดแสงเรืองรอง ละอองหมอกงามดูสดใส มองทิวทุ่งที่แสนเพลินใจ มองไม้ผลผลิดอกคู่กัน (กลอน ๗) หมอกสี จางพาดผ่านแนวทิวเขา แสงยามเช้ าพาใจให้สุข สั นต์ มองฝูงนกบินไปอย่างเร็วพลัน มองพันธุ์ไม้กลางป่าช่างน่าชม (กลอน ๘) พัทลุงถิ่น ใต้นี้มีของดี งามวิถีงามอ าชีพแสนสุขสม แหล่งท่องเที่ยวงามตามอย่างคนนิยม น่าชื่ นชมควนนกเต้นแสนสวยงาม (กลอน ๙)
หน้า ๔ โรคร้ายโควิด (กลอนดอกสร้อย) โรคเอ๋ยโรคร้าย ชีวาล้วนวายอย่างเร็วพลัน ผู้ติดเชื้ อนั้นเพิ่ม ขึ้นอยู่ทุกวัน ความสุขสั นต์ห่างกายไปแสนนาน เหล่าผู้คนนั้นให้ชื่ อว่าโควิด หลายชีวิตล้มตายน่าสงสาร หากทุกคนป้อง กันให้ทันการ อีกไม่นานโรคนั้นคงหายเอย เมนูมื้อกลางวันสุดสัปดาห์ 22-23 ตุลาคม 2562
หน้า ๕ บิดาแห่งการพัฒนา (โคลงสี่ สุภาพ) พระปรีชาท้วมท้น ทุกแดน ริเริ่มพืชทดแทน ไร่กว้าง พลิกผืนป่าตามแผน เลอค่า หลากสิ่งคอยสรรค์สร้าง เพื่อบ้านเมืองไทย
หน้า ๖ เป็นเด็กเพียรใฝ่รู้ (โคลงสองสุภาพ) ครูคอยสั่ งสอนไว้ เขียนอ่านหนูฝึกได้ อย่าทิ้งการเรียน บากบั่นและคิดสู้ เป็นเด็กเพียรใฝ่รู้ เพื่อสร้างความฝัน
หน้า ๗ เรื่องราวของฉัน (อินทรวิเชียร์ฉันท์ ๑๑) ฉันชอบวิชาการ และมิคร้านมุเล่าเรียน ฉันนั้นถนัดเขียน กิริยาก็อ่อนหวาน มนสู้ สิ ก้าวผ่าน ความฝันจะเป็นครู สติมั่นลุฝึกตน ก็เพราะหวังจะอดทน ทุกวันขยันอ่าน หฤทัยก็งดงาม ชื่ ออ้อบิดาตั้ง วาจาสุภาพล้น
หน้า ๘ ปริญญาของแม่ (กลอนเปล่า) สองเท้าเดินย่ำ...เหยียบดิน ยามอรุณรุ่งต ะวันโผล่ขึ้นฟ้า เสี ยงของแม่ดังแว่วมา โอ้......ลูกจ๋า จงตื่นเถิด ตื่นไปตามห าฝัน จงมุ่งมั่น ด้วยใจจริง อยาดเหงื่อ แม่ที่หลั่งริน หวังเพียงเจ้ านั้นเติบโต ใบปริญญา ที่เฝ้ารอ กระดาษข าวเจ้าฝันหา ขอเพียงเจ้า ได้มา แม้เหนื่อย .....แม่นั้นแสนยินดี
หน้า ๙ ปริญญาของแม่ (ว รรณรูป)
หน้า ๑๐ บทกวีในวรรณรูป สองเท้าเดินย่ำ...เหยียบดิน ยามอรุณรุ่งต ะวันโผล่ขึ้นฟ้า เสี ยงของแม่ดังแว่วมา โอ้......ลูกจ๋า จงตื่นเถิด ตื่นไปตามห าฝัน จงมุ่งมั่น ด้วยใจจริง อยาดเหงื่อ แม่ที่หลั่งริน หวังเพียงเจ้ านั้นเติบโต ใบปริญญา ที่เฝ้ารอ กระดาษข าวเจ้าฝันหา ขอเพียงเจ้า ได้มา แม้เหนื่อย .....แม่นั้นแสนยินดี
บทกวีที่ร่วมแต่งกับ เพื่อนในชั้นเรียน
หน้า ๑๑ ฉันชอบฉันรัก (กาพย์ยานี ๑๑) ฉันชอบข้าวมันไก่ ฉันชอบไปซื้ อส้มตำ ฉันชอบกินข้าวยำ ฉันชอบทำไข่เยี่ยวม้า ฉันรักธรรมชาติ ฉันรักหาดสมิหลา ฉันรักคนตกปลา ฉันรักป่าหิมพานต์ ฉันเกลีย ดฉันนกลัว (กาพย์ฉบัง๑๖) ฉันเกลียดคนที่เสแสร้ง พูดจาร้ายแรง เพราะเป็นคนตีสองหน้า บางครั้งเลิกรา ฉันกลัวใ จนี้แหละหนา ความรักล้วนอนิจจัง
หน้า ๑๒ วันนี้วันหน้า (กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘) วันนี้วันดี วันที่มั่งมี เงินทองไหลมา มีไม่ขาดสาย ได้โชคเพ ราะปลา และฝันถึงม้า เอาเลขซื้ อหวย เก็บเงินซื้ อบ๊วย วันหน้าฉันรวย ไว้แต่งเติมสวย ไว้ให้อาหมวย อวดดีจนป่วย แล้วหาคนอวย สุดท้ายเป็นบ้า ผู้ประพันธ์ กนกรดา ช่วยธรรม นิศารัตน์ สามารถ บุษศรา เพชรแดง จุฑาทิพย์ ไชยแก้ว
หน้า ๑๓ มีเด็กชายเลี้ยงแกะคนหนึ่งชอบพูดโกหกเป็นประจำ วัน หนึ่งเกิดนึกสนุกอยากแกล้งชาวบ้านจึงร้องตะโกนว่า\"ช่วย ด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะแล้ว\" ชาวบ้านต่างพากัน มาช่วย พอเด็กเลี้ยงแกะเห็นชาวบ้านวิ่งหน้าตาตื่นก็หัวเราะ ด้วยกวามชอบใจ แล้วชอบเล่นสนุกแบบนี้อีกหลายครั้งชาว ชาวบ้านก็พากันวิ่งหน้าตาตื่นมาช่วยเขาทุกครั้ง และพบว่า พวกเขาถูกหลอกอีกเช่นเคย จนวันหนึ่งหมาป่าก็มาจริง ๆ คราวนี้ เด็กเลี้ยงแกะตะโกนให้คนมาช่ วยสุดเสี ยง\"ช่ วยด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะแล้ว\" แต่ครั้งนี้กลับไม่มีชาวบ้าน ออกมาช่วยเด็กเลี้ยงแกะอีกแล้ว เพราะคิดว่าเขาคงจะไกหก อีก สุดท้ายเจ้าหมาป่าจึงกินแกะของเด็กเลี้ยงแกะ ไปที่ละ ตัว ๆ จนหมด
หน้า ๑๔ เด็กเลี้ยงแกะ (ร่ายสุภาพ) ณ หมู่บ้านชายขอบ มีเด็กชอบเลี้ยงแกะ เขาชอบแวะ แกล้งคน และมักซนเสมอ วันหนึ่งเผลอสนุก หาทุกข์ให้ผู้คน เป็นกลออกอุบาย หลากหลายเรื่องโกหก มักตลกขบขัน วันนี้ เกิดเรื่องแล้ว เสียงเจื้อยแจ้วดังมา ชาวบ้านพากันวิ่ง ทุกสิ่ง กลับพลิกผัน วันหนึ่งหมามาจริง เด็กน้อยวิงวอนว่า ไล่หมาป่า ไปที ไม่มีใครเหลียวแล ผู้คนแปรเปลี่ยนไป มิเชื่ อใจเด็กชาย เหล่าแกะตายทั้งหมด เพราะพูดปดประจำ นิทานนำค่าล้ำ คิด ก่อนพูดคอยย้ำ เรื่องนี้จงจำ หนูเอย ผู้ประพันธ์ จุฑาทิพย์ ไชยแก้ว บุษศรา เพชรแดง
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: