1 ใบความรู้ท่ี 1 หน่วยท่ี 1วชิ าโปรแกรมมลั ตมิ ีเดยี เพื่อการนาเสนอ 2204-2106 สอนครัง้ ท่ี 1ช่ือหนว่ ย ความรู้เบอื ้ งต้นเกี่ยวกบั ส่ือมลั ตมิ ีเดยี คาบรวม 4 คาบ (240 นาที)ช่ือเร่ือง ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกบั สื่อมลั ตมิ ีเดีย จานวน 4 คาบ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม รายการสอน1. บอกความหมายของส่ือมลั ตมิ ีเดยี ได้ 1. ความหมายของส่ือมลั ตมิ ีเดีย2. อธิบายรูปแบบของสื่อมลั ติมีเดยี ได้ 2. รูปแบบของสื่อมลั ตมิ ีเดยี3. อธิบายสื่อมลั ตมิ ีเดียในการศกึ ษาได้ 3. สื่อมลั ตมิ ีเดยี ในการศกึ ษา4. บอกประโยชน์ของส่ือมลั ติมีเดยี ได้ 4. ประโยชน์ของส่ือมลั ตมิ ีเดีย5. บอกบทบาทและคณุ ลกั ษณะสื่อมลั ตมิ ีเดีย 5. บทบาทและคณุ ลกั ษณะส่ือมลั ตมิ ีเดยีได้ 6. เทคนิคการนาเสนอและคณุ สมบตั ิ6. อธิบายเทคนิคการนาเสนอและคณุ สมบตั ิ ของผ้นู าเสนอของผ้นู าเสนอได้เนือ้ หาสาระ1. ความหมายของส่ือมัลตมิ ีเดยี การพฒั นารูปแบบของมลั ติมีเดียให้สอดคล้องกบั ทฤษฏีการเรียนรู้ เพื่อพฒั นาการเรียนการสอน เป็ นส่วนหนึ่งของรูปแบบบทเรียนท่ีอานวยความสะดวกให้ กับผู้เรียนและผู้สอนนอกจากนนั้ ยงั ได้รวบรวมเนือ้ หาท่ีเข้าใจยาก และเป็ นการกระต้นุ ให้ผ้เู รียนเกิดการคิดค้น สืบค้นรู้จกั สร้างพฒั นาและออกแบบรูปแบบการเรียนของตนเองตามความสนใจ ส่ือมลั ติมีเดีย คือ ระบบสื่อสารข้อมลู ข่าวสารหลายชนิด โดยผ่านส่ือทางคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ฐานข้อมูล ตวั เลข กราฟิ ก ภาพเสียง และวีดิทัศน์ (Jeffcoate. 1995) ส่ือมลั ติมีเดีย คือ การใช้คอมพิวเตอร์สื่อความหมายโดยการผสมผสานส่ือหลายชนิด เชน่ข้อความ กราฟ ภาพศิลป์ (Graphic Art) เสียง ภาพเคล่ือนไหว (Animation) และวีดิทศั น์ เป็ นต้นถ้าผ้ใู ช้สามารถควบคุมสื่อเหล่านีใ้ ห้แสดงออกมาตามต้องการได้ ระบบนีจ้ ะเรียกว่า มลั ติมีเดียปฏิสมั พนั ธ์(Interactive Multimedia) (Vaughan. 1993)
ส่ือมลั ตมิ ีเดยี คือ โปรแกรมซอฟต์แวร์ท่ีอาศยั คอมพิวเตอร์เป็ นสื่อในการนาเสนอโปรแกรมประยุกต์ซ่ึงรวมถึงการนาเสนอข้อความสีสัน ภาพกราฟิ ก (Graphicimages)ภาพเคล่ือนไหว (Animation)เสียง (Sound) และภาพยนตร์วีดทิ ศั น์ (Full motion Video) สว่ นมลั ตมิ ีเดียปฏิสมั พนั ธ์ (InteractiveMultimedia) จะเป็ นโปรแกรมประยุกต์ที่รับการตอบสนองจากผู้ใช้คีย์บอร์ด (Key board) เมาส์(Mouse) หรือตวั ชี ้(Pointer) (Hall. 1996) สรุป ความหมายของสื่อมลั ติมีเดีย คือการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกบั โปรแกรมซอฟต์แวร์ในการสื่อความหมายโดยการผสมผสานส่ือหลายชนิด เช่นข้ อความ กราฟิ ก ( Graphic)ภาพเคล่ือนไหว (Animation) เสียง (Sound) และวีดทิ ศั น์ (Video) เป็ นต้น และถ้าผ้ใู ช้สามารถท่ีจะควบคมุ สื่อให้นาเสนอออกมาตามต้องการได้จะเรียกว่าส่ือมลั ติมีเดียปฏิสมั พนั ธ์ (InteractiveMultimedia) การปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้สามารถจะกระทาได้โดยผ่านทางคีย์บอร์ด (Keyboard)เมาส์ (Mouse) หรือตวั ชี ้ (Pointer) เป็ นต้น การใช้ส่ือมลั ตมิ ีเดียในลกั ษณะปฏิสมั พนั ธ์เพื่อช่วยให้ผ้ใู ช้สามารถเรียนรู้หรือทากิจกร
เนือ้ หาสาระ1. ความหมายของส่ือมัลตมิ ีเดยี การพฒั นารูปแบบของมลั ติมีเดียให้สอดคล้องกบั ทฤษฏีการเรียนรู้ เพ่ือพฒั นาการเรียนการสอน เป็ นส่วนหนึ่งของรูปแบบบทเรียนที่อานวยความสะดวกให้ กับผู้เรียนและผู้สอนนอกจากนนั้ ยงั ได้รวบรวมเนือ้ หาที่เข้าใจยาก และเป็ นการกระต้นุ ให้ผ้เู รียนเกิดการคิดค้น สืบค้นรู้จกั สร้างพฒั นาและออกแบบรูปแบบการเรียนของตนเองตามความสนใจ ส่ือมลั ติมีเดีย คือ ระบบสื่อสารข้อมลู ข่าวสารหลายชนิด โดยผ่านส่ือทางคอมพิวเตอร์ซ่งึประกอบด้วย ข้อความ ฐานข้อมูล ตัวเลข กราฟิ ก ภาพเสียง และวีดิทัศน์ (Jeffcoate. 1995) ส่ือมลั ติมีเดีย คือ การใช้คอมพิวเตอร์ส่ือความหมายโดยการผสมผสานส่ือหลายชนิด เชน่ข้อความ กราฟ ภาพศลิ ป์ (Graphic Art) เสียง ภาพเคลื่อนไหว (Animation) และวีดิทศั น์ เป็ นต้นถ้าผ้ใู ช้สามารถควบคมุ ส่ือเหล่านีใ้ ห้แสดงออกมาตามต้องการได้ ระบบนีจ้ ะเรียกว่า มลั ติมีเดียปฏิสมั พนั ธ์(Interactive Multimedia) (Vaughan. 1993) สื่อมลั ตมิ ีเดยี คือ โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่อาศยั คอมพิวเตอร์เป็ นส่ือในการนาเสนอโปรแกรมประยุกต์ซึ่งรวมถึงการนาเสนอข้อความสีสัน ภาพกราฟิ ก (Graphicimages)ภาพเคล่ือนไหว (Animation)เสียง (Sound) และภาพยนตร์วีดทิ ศั น์ (Full motion Video) สว่ นมลั ตมิ ีเดยี ปฏิสมั พนั ธ์ (InteractiveMultimedia) จะเป็ นโปรแกรมประยุกต์ท่ีรับการตอบสนองจากผู้ใช้คีย์บอร์ด (Key board) เมาส์(Mouse) หรือตวั ชี ้(Pointer) (Hall. 1996) สรุป ความหมายของส่ือมลั ติมีเดีย คือการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ในการส่ือความหมายโดยการผสมผสานส่ือหลายชนิด เช่นข้ อควา ม กราฟิ ก (Graphic)ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เสียง (Sound) และวีดิทศั น์ (Video) เป็ นต้น และถ้าผ้ใู ช้สามารถที่จะควบคมุ ส่ือให้นาเสนอออกมาตามต้องการได้จะเรียกว่าส่ือมลั ติมีเดียปฏิสมั พนั ธ์ (InteractiveMultimedia) การปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้สามารถจะกระทาได้โดยผ่านทางคีย์บอร์ด (Keyboard)เมาส์ (Mouse) หรือตวั ชี ้ (Pointer) เป็ นต้น การใช้ส่ือมลั ติมีเดียในลกั ษณะปฏิสมั พนั ธ์เพ่ือช่วยให้ผ้ใู ช้สามารถเรียนรู้หรือทากิจกร
รม รวมถงึ ดสู ่ือตา่ งๆ ด้วยตนเองได้ สื่อตา่ งๆ ท่ีนามารวมไว้ในสื่อมลั ตมิ ีเดยี เชน่ ภาพ เสียง วีดทิ ศั น์จะช่วยให้เกิดความหลากหลายในการใช้คอมพิวเตอร์อนั เป็ นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในแนวทางใหมท่ ่ีทาให้การใช้คอมพิวเตอร์นา่ สนใจ และเร้าความสนใจ เพ่ิมความสนกุ สนานในการเรียนรู้มากยง่ิ ขนึ ้ 2. รูปแบบของส่ือมัลตมิ ีเดีย 2.1 สื่อมลั ติมีเดียที่ไม่สามารถโต้ตอบกับผ้ใู ช้ได้ (Multimedia) การนาสื่อหลายชนิดมาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็ นตัวจัดการ และควบคุมให้ส่ือต่างๆแสดงผลออกมาทางหน้าจอและลาโพงของคอมพวิ เตอร์ สื่อมลั ตมิ ีเดีย (Multimedia) เป็นส่ือมลั ตมิ ีเดียท่ีใช้โดยการนาส่ือหลายประเภท มาใช้ร่วมกันในการเรียนการสอน เช่น นาวีดิทัศน์ มาสอนประกอบการบรรยายของผู้สอน โดยมีสื่อสิ่งพิมพ์ประกอบด้วย หรือสื่อมลั ติมีเดียในชุดการเรียน หรือชุดการสอน การใช้ ส่ือมัลติมีเดียนี ้ผู้เรียนและส่ือจะไม่มีปฏิสัมพนั ธ์โต้ตอบกัน และจะมีลกั ษณะเป็ น \" สื่อหลายแบบ \" ตามศพั ท์บญั ญตั ขิ องราชบณั ฑิตยสถาน 2.2 สื่อมัลติมีเดียที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ (Interactivity Multimedia) กล่าวคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถจัดการกับข้อมูลภาพและเสียง ให้แสดงผลบนจอในลักษณะท่ีโต้ตอบกบั ผ้ใู ช้ได้ ไม่ใช่การแสดงผลรวดเดียวจบ (run through) แบบวีดิทศั น์ หรือภาพยนตร์และไมใ่ ชก่ ารสื่อสารทางเดียว (one-way communication) คือ ผ้ชู มเป็นผ้ดู ฝู ่ ายเดียวอีกตอ่ ไป สื่อมลั ตมิ ีเดีย ( Multimedia ) เป็นส่ือมลั ตมิ ีเดียท่ีใช้คอมพวิ เตอร์เป็นฐานในการเสนอสารสนเทศ หรือการผลติ เพื่อเสนอข้อมลู ประเภทตา่ ง ๆ เชน่ ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว ตวั อกั ษร และเสียง ในลกั ษณะของส่ือหลายมิติ โดยที่ผ้ใู ช้มีการโต้ตอบกบั สื่อโดยตรง โดยการใช้คอมพิวเทอร์ ในสื่อมลั ตมิ ีเดยี ใช้ได้ในสองลกั ษณะ คือ 2.2.1 การใช้คอมพิวเตอร์เป็นฐานในการเสนอสารสนเทศโดยการควบคมุ อปุ กรณ์ร่วมตา่ ง ๆ ในการทางาน เชน่ ควบคมุ การทางานของอปุ กรณ์ในสถานีงานสื่อมลั ตมิ ีเดยี ควบคมุ การเสนอภาพสไลดม์ ลั ตวิ ชิ นั่ และการเสนอในรูปแบบของแผ่นวีดทิ ศั น์เชิงโต้ตอบ (Interactive Video)การใช้ในลกั ษณะนีค้ อมพิวเตอร์จะเป็ นตวั กลางในการควบคมุ การทางานของเครื่องเลน่ แผน่ วีดิทศั น์ และเครื่องเลน่ ซีดีรอม ให้เสนอภาพน่ิง และภาพเคล่ือนไหวตามเนือ้ หาบทเรียนที่เป็นตวั อกั ษรท่ีปรากฏอย่บู นจอภาพคอมพิวเตอร์ รวมถงึ ควบคมุ เครื่องพิมพ์ในการพิมพ์ข้อมลู ตา่ ง ๆของบทเรียน และผลการเรียนของผ้เู รียนแตล่ ะคนด้วย
2.2.2 การใช้คอมพิวเตอร์เป็ นฐานในการผลิตแฟ้ มสื่อมลั ติมีเดียโดยการใช้โปรแกรมสาเร็จรูปตา่ ง ๆ เชน่ Tool Book และ Author ware และนาเสนอแฟ้ มบทเรียนที่ผลิตแล้วแก่ผ้เู รียนโปรแกรมสาเร็จรูปเหลา่ นีจ้ ะชว่ ยในการผลิตแฟ้ มบทเรียน ฝึ กอบรม หรือการเสนองานในลกั ษณะของส่ือหลายมิติ โดยในแต่ละบทเรียนจะมีเนือ้ หาในลักษณะของตัวอักษร ภาพกราฟิ กภาพกราฟิ กเคล่ือนไหว ภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิทศั น์และเสียงรวมอย่ใู นแฟ้ มเดียวกัน บทเรียนที่ผลติ เหลา่ นี ้เรียกวา่ \" บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน \" หรือ \"CAI\" นน่ั เอง การนาเสนอข้อมลู ของส่ือมลั ตมิ ีเดยี นี ้ จะเป็นไปในลกั ษณะส่ือหลายมิติที่เน้นเชิงโต้ตอบ ซงึ่ ชว่ ยให้ผ้ใู ช้สามารถดขู ้อมลู บนจอภาพได้หลายลกั ษณะ คอื ทงั้ ตวั อกั ษร ภาพ และเสียงและถ้าต้องการจะทราบข้อมลู มากกวา่ นี ้ ผ้ใู ช้ก็เพียงแตค่ ลิกท่ีคาหรือสญั ลกั ษณ์รูปท่ีทาเป็นป่ มุ ในการเช่ือมโยงก็จะมีภาพ เสียง หรือข้อความอธิบายปรากฏขนึ ้ มา 2.2.3 ประสมส่ือท่ีเป็นวสั ดุ อปุ กรณ์และกระบวนการเข้าร่วมกนั นามาใช้สาหรับการเรียนการสอนปกติทวั่ ๆ ไปเชน่ ชดุ อปุ กรณ์ ชดุ การเรียนการสอน บทเรียนแบบโปรแกรม โปรแกรมสไลด์ ศนู ย์การเรียน เป็นต้น ส่ือมลั ตมิ ีเดยี แตล่ ะชนดิ ท่ีจดั อยใู่ นประเภทนีม้ ีหลกั การและลกั ษณะเดน่ แตกตา่ งกนั ออกไป คือ 1) สามารถให้ผ้เู รียนได้ประสบการณ์ด้วยตนเอง คือ มีสว่ นร่วมในการกระทาหรือปฏิบตั กิ ิจกรรมเป็นการเร้าใจแก่ผ้เู รียน เชน่ ศนู ย์การเรียน บทเรียนโปรแกรม ชดุ อปุ กรณ์ เป็นต้น 2) สามารถให้ผ้เู รียนได้เรียนรู้ตามความรู้ความสามารถ และความแตกตา่ งของแตล่ ะบคุ คล เชน่ บทเรียนโปรแกรม ชดุ การสอน เป็นต้น 3) สามารถให้ผ้เู รียนใช้เรียนด้วยตนเองหรือใช้เมื่อขาดครูได้ เชน่ บทเรียนแบบโปรแกรม ชดุ การสอนรายบคุ คล เป็นต้น 4) สามารถให้ผ้เู รียนได้รับผลตอบกลบั ทนั ที และได้รับความรู้สกึ ภาคภมู ใิ จในความสาเร็จ เชน่ ศนู ย์การเรียน การสอนแบบจลุ ภาค เป็ นต้น 5) สามารถใช้ประกอบการศกึ ษาทางไกลให้ดาเนนิ ไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพเชน่ ชดุ การสอนทางไกลสาหรับการศกึ ษาเพื่อมวลชน เป็ นต้น 6) สามารถใช้สง่ เสริมสมรรถภาพของครู เช่น ชดุ การสอนประกอบคาบรรยายเป็ นต้น 7) สามารถให้ผ้เู รียนได้ฝึกความรับผิดชอบและการทางานเป็นกลมุ่ เชน่ ศนู ย์การเรียน กลมุ่ สมั พนั ธ์ เป็นต้น
2.2.4 ประสมส่ือประเภทฉาย เป็ นการประสมโดยมีข้อจากัดท่ีความสามารถและคุณสมบัติเฉพาะตัวของอุปกรณ์เครื่องฉายเป็ นสาคัญ เช่น สไลด์ประกอบเสียงและวีดิทัศน์ประกอบเสียง สไลด์และแผ่นโปร่งใส วีดิโออิมเมจ เป็ นต้น และฉายบนจอตงั้ แต่ 2 จอขึน้ ไป เป็ นการใช้ฉายกับผ้ชู มเป็ นกลุ่มสื่อมลั ติมีเดียประเภทฉายนี ้ สามารถใช้ประกอบการศึกษาและการเรียนการสอนโดยเฉพาะสาหรับผ้เู รียนที่ชอบการเรียนรู้จากการอา่ นภาพ การเสนอด้วยสื่อประเภทฉายนีแ้ ม้ว่าในบางครัง้ ราคาการผลิตอาจจะสงู และการผลิตซบั ซ้อนกวา่ การผลติ สื่อมลั ตมิ ีเดียบางชนิดในประเภทแรก แต่ผลท่ีได้รับจากการเสนอด้วยสื่อมัลติมีเดียประเภทฉายให้ผลตรงที่มีคณุ สมบตั ิเฉพาะตวั ที่ส่ืออื่นไม่สามารถทาได้คือผลในความรู้สึกอารมณ์และสนุ ทรียภาพแก่ผ้ชู มทงั้ ยงั ช่วยดงึ ดดู ความสนใจให้ผ้ชู มได้ติดตามอย่างตื่นตาต่ืนใจและมีประสิทธิภาพเป็ นการช่วยในการเรียนการสอน ส่ือมลั ติมีเดียประเภทนีม้ ีคณุ สมบตั ิเหมาะแก่การนามาใช้ในการเรียนการสอนได้แก่ 1) ใช้เมื่อเสื่อมีการเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกัน เป็ นการง่ายสาหรับผ้เู รียน ในการสงั เกตและเรียนรู้ส่ิงท่ีคล้ายคลงึ กนั จากส่ือตา่ ง ๆ เม่ือภาพของสง่ิ นนั้ ๆ ปรากฏบนจอพร้ อมกนั 2) ใช้สอนให้เห็นความแตกตา่ ง และการตดั กนั เมื่อภาพหลาย ๆ ภาพปรากฏพร้อมๆ กนั 3) ใช้มองสิง่ หนง่ึ สงิ่ ใดจากมมุ ที่ตา่ งกนั เชน่ ภาพสถานท่ีหรืออาคารสถานที่โดยภาพปรากฏพร้อมกนั จากการมองในแงม่ มุ ที่ตา่ งกนั 4) ใช้แสดงภาพซงึ่ ดาเนินเป็ นขนั้ ตอน และสามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวได้ 5) ใช้แสดงส่ิงท่ีเกิดขนึ ้ ตามลาดบั กอ่ นหลงั เกิดความตอ่ เนื่องท่ีดีมีความสมั พนั ธ์กนั ระหวา่ งภาพและเวลา ประกอบกบั การจดั ภาพและจอให้มีขนาดตา่ งกนั เป็นการงา่ ยตอ่ การจดจา 6) ใช้เน้นจดุ ใดจดุ หนง่ึ โดยตรงได้ โดยการกาหนดจดุ สนใจท่ีต้องการให้อยู่ในตาแหนง่ และรูปแบบที่ตา่ งกนั หรืออาจทาโดยการใช้ภาพที่ซา้ ๆ กบั ปรากฏบนจอพร้อม ๆ กนั 7) ใช้ยืดเวลาการเสนอจดุ หรือส่วนท่ีสาคญั ของเนือ้ หา เชน่ บางครัง้ ภาพท่ีสาคญั สามารถปรากฏอยบู่ นจอตอ่ ไปขณะท่ีรายละเอียดหรือสว่ นที่เกี่ยวข้องได้เปล่ียนไปในจอถดั ไป
8) ใช้แสดงการเคลื่อนไหว โดยใช้หลกั การฉายภาพน่ิงหลาย ๆ ภาพตอ่ เนื่องกนั อยา่ งรวดเร็วหรือใช้ความสามารถของวีดิทศั น์ 9) ใช้รวมส่ือภาพน่ิง สไลด์ และวีดทิ ศั น์ ในขณะที่แสดงภาพน่ิงอาจจะมีการฉายวีดทิ ศั น์ประกอบบนจอถดั ไป 10) ใช้แสดงภาพที่เห็นได้กว้าง (Panorama) บนจอท่ีตดิ กนั 11) ลกั ษณะพเิ ศษประการสดุ ท้ายที่เดน่ ของส่ือมลั ตมิ ีเดียประเภทนี ้คือสามารถแสดงเนือ้ หาได้มากในระยะเวลาท่ีจากดั ลกั ษณะพเิ ศษนีผ้ ้สู อนอาจใช้สื่อมลั ตมิ ีเดียนีใ้ นการทาเป็ นบทนาหรือบทสรุปได้ 2.2. 5 ส่ือมัลติมีเดียระบบการสื่อสารกับเทคโนโลยีสารสนเทศโดยการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกบั อปุ กรณ์อ่ืน เช่น เครื่องเลน่ ซีดี - รอม เคร่ืองเสียงระบบดจิ ิตอล เคร่ืองเล่นแผน่วีดทิ ศั น์ เป็ นต้น เพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานคานวณค้นหาข้อมลู แสดงภาพวีดทิ ศั น์และมีเสียงตา่ ง ๆ การทางานของส่ือหลาย ๆ อยา่ งในสื่อมลั ตมิ ีเดยี ประกอบด้วยการทางานของระบบเสียง (Sound)ภาพเคล่ือนไหว(Animation) ภาพน่ิง (Still Images) วีดทิ ศั น์ (Video) และไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext)ซึ่งข้อมลู ท่ีใช้ในไฮเปอร์เท็กซ์จะแสดงเนือ้ หาหลกั ของเรื่องราวท่ีกาลงั อ่านขณะนนั้ โดยเน้นเนือ้ หาถ้าคาใดสามารถเช่ือมจากจดุ หน่งึ ในเนือ้ หาไปยงั เนือ้ หาอื่นได้ก็จะทาเป็ นตวั หนาหรือขีดเส้นใต้ไว้เม่ือผ้ใู ช้หรือผ้อู า่ นต้องการจะดเู นือ้ หาก็สามารถใช้เมาส์คลิกไปยงั ข้อมลู หรือคาเหล่านนั้ เพื่อเรียกมาดรู ายละเอียดของเนือ้ หาได้ ส่ือมลั ตมิ ีเดียในลกั ษณะนีน้ บั วา่ เป็นเทคโนโลยีใหม่ กาลงั ได้รับความสนใจอยา่ งกว้างขวาง เพราะเป็นเทคโนโลยีท่ีทาให้เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการแสดงข้อมลู ได้หลากหลายรูปแบบ ดงั นนั้ ส่ือมลั ตมิ ีเดียจะต้องมีคณุ สมบตั สิ าคญั ประการหนงึ่ คอื ความสามารถในการโต้ตอบ (Interactivity) อปุ กรณ์ท่ีตอบสนองความสามารถนีไ้ ด้คือคอมพวิ เตอร์นนั่ เอง 3. ส่ือมัลตมิ ีเดยี ในการศึกษา การใช้สื่อมลั ตมิ ีเดยี ในการศกึ ษาจะชว่ ยเพ่ิมประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเรียนการสอนได้อย่างมาก โดยใช้ในลักษณะของการสอนใช้คอมพิวเตอร์ (CAI) รูปแบบต่าง ๆ เช่นสถานการณ์ลาลอง เกม การทบทวน ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบนั มีผ้ผู ลิตบทเรียนลงแผน่ ซีดีออกจาหน่ายมากมายหรือผู้สอนจะจัดทาบทเรียนเองได้โดยใช้โปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ ช่วยในการจัดทาตวั อย่าง เช่น วงการแพทย์สามารถใช้สถานการณ์จาลองของการผา่ ตดั โดยใช้ ส่ือมลั ตมิ ีเดียเพ่ือให้ผู้เรียนทาการผ่าตัดกับคนไข้เสมือนจริง หรือด้านวิศวกรรมศาสตร์ใช้ สื่อมัลติมีเดียของการ
ออกแบบวงจรไฟฟ้ า เพื่อให้ผู้เรียนฝึ กการออกแบบ ทดสอบ และใช้วงจรนนั้ ได้ หรือแม้แต่เด็กนกั เรียนในโรงเรียนประถมศกึ ษาก็สามารถใช้ส่ือมลั ติมีเดียในการเสนอเรียงความแก่ครูผ้สู อนและเพื่อนร่วมในชนั้ ได้เช่นกนั การใช้ส่ือมลั ตมิ ีเดียในการศกึ ษาจะมีประโยชน์มากมายหลายด้าน อาทิเชน่ 3.1 ดงึ ดดู ความสนใจ บทเรียนส่ือมลั ตมิ ีเดียในลกั ษณะสื่อหลายมิตทิ ี่ประกอบด้วยภาพ กราฟิก ภาพเคล่ือนไหวแบบวีดทิ ศั น์ และเสียง นอกเหนือไปจากเนือ้ หาตวั อกั ษร จะดงึ ดดูความสนใจของผ้เู รียนได้เป็นอยา่ งดี และชว่ ยในการส่ือสารระหวา่ งผ้สู อนและผ้เู รียนด้วย 3.2 การสืบค้นเชื่อมโยงฉบั ไว ด้วยสมรรถนะของการเช่ือมโยงหลายมิตทิ าให้ผ้เู รียนสามารถเรียนรู้ในส่งิ ตา่ ง ๆ ได้กว้างขวางและหลากหลายได้อยา่ งรวดเร็วโดยไมจ่ าเป็นเรียนไปตามลาดบั เนือ้ หา 3.3 การโต้ตอบระหวา่ งสื่อและผ้เู รียน บทเรียนส่ือมลั ตมิ ีเดียจะมีจดุ เชื่อมโยงหลายมติ ิเพื่อให้ผ้เู รียนและส่ือมีปฏิสมั พนั ธ์กนั ได้ในลกั ษณะส่ือมลั ตมิ ีเดยี เชิงโต้ตอบ 3.4 ให้สารสนเทศหลากหลาย ด้วยการใช้ซีดีและดีวีดีในการให้ข้อมลู และสารสนเทศในปริมาณที่มากมายและหลากหลายรูปแบบเกี่ยวกบั เนือ้ หาบทเรียนท่ีสอน 3.5 ทดสอบความเข้าใจ ผ้เู รียนบางคนอาจจะไมก่ ล้าถามข้อสงสยั หรือตอบคาถามในห้องเรียน การใช้สื่อมลั ตมิ ีเดียจะชว่ ยแก้ปัญหาในสิ่งนีไ้ ด้โดยการใช้ในลกั ษณะการศกึ ษารายบคุ คล 3.6 สนบั สนนุ ความคดิ รวบยอด สื่อมลั ตมิ ีเดียสามารถแสดงสารสนเทศเพ่ือสนบั สนนุ ความคดิรวบยอดของผ้เู รียน โดยการเสนอสงิ่ ที่ให้ตรวจสอบย้อนหลงั และแก้ไขจดุ ออ่ นในการเรียน4. ประโยชน์ของส่ือมัลตมิ ีเดีย ส่ือมลั ตมิ ีเดยี มีประโยชน์ดงั นี ้ 1.1 เสนอสิง่ เร้าให้กบั ผ้เู รียน ได้แก่ เนือ้ หา ภาพนิ่ง คาถาม ภาพเคลื่อนไหว 1.2 นาเสนอขา่ วสารในรูปแบบที่ไมจ่ าเป็นต้องเรียงลาดบั เชน่ บทเรียนมลั ตมิ ีเดีย 1.3 สร้างส่ือเพื่อความบนั เทิง 1.4 สร้างส่ือโฆษณา หรือประชาสมั พนั ธ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: