ดอกไม้.flower333

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดอกไมน้ า่ ชม นายไรวนิ ทร์ ชินสขุ คีรี รหสั 61941900521 สาขาประกาศนียบตั รวชิ าชพี ครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฎั ลาปาง

คานา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง ดอกไม้น่าชม ได้จัดทาข้ึนเพื่อใช้ในการ เรียนการสอนสาหรับเด็กปฐมวัย ตลอดจนผู้สนใจ ผู้พัฒนาได้แบ่งเน้ือหาของ หนังสอื อิเลก็ ทรอนกิ สน์ ี้ไว้ 5 หวั เรื่อง ไดแ้ ก่ 1. สว่ นประกอบของดอกไม้ 2. ประเภทของดอกไม้ 3. การปลูกและการดูแลรกั ษา 4. การจดั แจกันดอกไม้ 5. ประโยชน์ของดอกไม้ ผู้พัฒนาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื้อหาสาระของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เลม่ นี้ จะเปน็ ประโยชนแ์ ละให้คุณค่าแก่ผ้เู รียนผู้สนใจทั่วไป นายไรวนิ ทร์ ชินสุขครี ี หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ครู คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ลาปาง 25 กุมภาพนั ธ์ 2562

สารบญั ส่วนประกอบของดอกไม้ ………………………………………………….. 6 - 11 ประเภทของดอกไม้ …………………………………………………………. 12 - 14 การปลกู และการดูแลรกั ษา …………………………………………………… 15 การจดั แจกนั ดอกไม้ ……………………………………………………………... 16 ประโยชน์ของดอกไม้ ………………………………………………………… 17 - 21 สรปุ เนอื้ หา ………………………………………………………………………….. 22 กจิ กรรม ……………………………………………………………………………… 23 บรรณานุกรม ………………………………………………………………………. 24 ผู้จดั ทา …………………………………………………………………………………. 25

แนวคิด ดอกไม้มีหลากหลายชนิด หลากหลายพันธ์ุ ดอกไม้เป็น ส่วนหนึ่งของต้นไม้ซ่ึงนิยมนามาประดับตกแต่งบ้านและใช้จัด ตกแต่งเพอ่ื เพิ่มความสวยงามในวาระต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน นาไป ถวายพระ ตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงาม ใช้ประกอบอาหาร รับประทาน ใช้ทาขนม และการดแู ลรักษาตน้ ไม้ ดอกไม้สามารถทา ได้ง่าย เช่น รดน้า พรวนดิน ถอนวัชพืช ใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้เพื่อให้ออก ดอก ไม่เด็ดหรอื ทาลายดอกไม้

จดุ ประสงค์ 1. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถแยกส่วนประกอบของดอกไมไ้ ด้ 2. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถจดั ประเภทของดอกไม้ชนดิ ตา่ งๆ ได้ 3. เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถปลกู และดแู ลรกั ษาต้นไม้ได้ 4. เพ่ือให้เด็กไดจ้ ัดดอกไมด้ ้วยตนเองได้ 5. เพือ่ ให้เดก็ ได้ร้อยพวงมาลยั ดอกไมด้ ว้ ยตนเอง

ส่วนประกอบของดอกไม้ ดอกไม้แต่ละดอกมีส่วนประกอบท่ีสาคัญ คือ กลีบดอก เกสร กลีบ เล้ียง ฐานรองดอก ก้านและใบ ดอกไม้บางชนิด อาจมีส่วนประกอบครบทุก ส่วน บางชนิดอาจมีส่วนประกอบเพียงบางส่วนเท่านั้น พืชมีอยู่หลายชนิด หลายพันธ์ุ ดอกของพืชดอกจึงมีลักษณะขนาดและสีที่ ต่างกันออกไป แต่ ไมว่ ่าจะเปน็ พืชชนดิ ใด ดอกจะมสี ว่ นประกอบทส่ี าคัญ ดังนี้

1. กลีบเลี้ยง เป็นกลีบเล็กๆ สีเขียว อยู่ล่างสุดของดอกในระยะที่ ดอก เร่ิมผลิดอกออกมาใหม่ๆ เราจะเห็นดอกตูมสีเขียว เมื่อดอกตูมขยายโต ขึ้น สีเขียวที่หุ้มดอกจะแยกออกมารองรับกลีบดอกกลีบสีเขียวน้ันคือกลีบ เลยี้ งนนั่ เอง กลบี เลี้ยงจะทาหนา้ ทห่ี อ่ ห้มุ ดอกตูม และป้องกันอันตรายให้กลีบ ดอกในขณะทย่ี งั ออ่ นอยู่

2. กลีบดอก เป็นส่วนที่อยู่เหนือข้ึนมาจากกลีบเลี้ยง กลีบดอกส่น ใหญ่ จะมีสีสวยสะดุดตา หลายชนิดมีกลิ่นหอม ความสวยงามของดอกจะ ข้ึนอยู่กับสี ลักษณะและจานวนของกลีบดอกเป็นสาคัญ กลีบดอกเป็น สว่ นประกอบของ ดอกท่ีบอบช้าง่ายและร่วงโรยเร็วกว่าส่วนประกอบอื่น อยู่ ถัดจากวงกลีบเลียงเข้าไป ลักษณะบางกว่ากลีบเลี้ยง มีสีสันต่างๆ พืชบาง ชนิดมีกลีบดอกแยก บางชนิดมีกลีบดอกเช่ือมต่อกัน การเชื่อมกันของกลีบ ดอกมีหลายแบบ ดังน้ี

3. เกสรตวั ผู้ มลี กั ษณะทว่ั ไปเปน็ คล้ายหลอดอันเล็ก ๆ มักมีสีขาว ปลาย หลอดจะมีอบั ใสล่ ะอองเกสร รปู รา่ งคอ่ นข้างกลมเกสรตวั ผ้จู ะอยู่ถดั จากกลีบดอกเข้า มาข้างในดอก กา้ นของเกสรตัวผู้อาจจะติดกบั กลีบดอก หรอื แยกออกมาต่างหาก กไ็ ด้ แลว้ แตช่ นิดของพชื ดอกไม่ดอกหนึง่ ๆ อาจ มเี กสรตวั ผตู้ ัง้ แต่หนง่ึ อันไปจนถึง หลาย ๆ อัน 4. เกสรตัวเมีย เปน็ ส่วนที่อย่ตู รงกลางของดอด อาจจะมอี นั เดียว หรือ หลายอันกไ็ ด้ เกสรตัวเมยี โดยทว่ั ไปจะประกอบด้วยรังไขท่ อ่ี ยู่ ลา่ งสุด บริเวณฐาน รองดอก ภายในรงั ไขจ่ ะบรรจุไข่อ่อนเล็ก ๆ ไว้ เหนือ รังไข่จะเป็นทอ่ ยาวขน้ึ มา เรยี กวา่ ก้านชเู กสร ในทอ่ ของกา้ นชเู กสรจะมี เหนียว ๆ อยู่ เพ่ือนาเชอ้ื ตัว ผู้ลงมาผสมกบั เช้ือตวั เมยี ในรังไข่ และบนสุด เปน็ ยอดเกสรตัวเมยี ซึ่งมีนา้ เหนียวๆ อย่เู ช่นกนั นา้ เหนยี วๆ นี้จะช่วยยดึ เกาะเกสรตัวผ้ใู ห้เข้ามาผสมกับเกสร ตัวเมยี ได้ดขี นึ้



5. ฐานรองดอก เป็นส่วนประกอบท่ีทาหน้าที่รองรับส่วนอ่ืน ๆ ของ ดอก ฐานรองดอกเป็นที่เจริญเติบโตแผ่ขยายต่อออกมาจาปลายก้านดอก มกั จะมกี ลบี เลยี้ งหุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง ฐานรองดอกของพืชบางชนิดอาจจะหุ้มรัง ไขไว้ทั้งหมด เม่ือรังไข่เจริญข้ึน ฐานรองดอกก็เจริญด้วย และฐานรองดอก ของพชื บางชนิด กลายเป็นเน้ือของผลที่ใช้รับทานได้เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แอปเปิล สาลี่ เป็นต้น

ประเภทของดอกไม้ ดอกไม้มีหลายชนิด มีลักษณะแตกต่างกัน ลักษณะการออกดอก คือ 2 ประเภท ดอกเดย่ี ว และดอกชอ่

1. ดอกเดี่ยว มีก้านเดียวดอกเดียว มีดอกเดียวบนก้านชูดอกก้าน เดยี ว เชน่ ดอกมะเขือ,ชบา,กุหลาบ

2. ดอกช่อ คือ หน่ึงก้าน มีดอกย่อยรวมกันหลายดอกมีหลายดอก บนก้านชูดอกเดียวกัน เช่น ดอกผกากรอง หางนกยูง ดอกทานตะวัน ดอก เขม็

การปลกู และการดแู ลรักษา เราสามารถปลูกดอกไม้ง่ายๆ แต่หลังจากเราปลูกแล้ว ต้องมีการ ดูแลรักษา ซ่ึงมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูก คือ ดิน น้า กระถาง ช้อนปลูก จอบ และอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการดูแลรกั ษา คอื สอ้ มพรวนดนิ บัวรดนา้

การจัดแจกนั ดอกไม้ ดอกไม้มีความสวยงามและมีประโยชน์ในการทามาตกแต่งสถานที่ ต่างๆ นามามอบให้กันในโอกาสสาคญั มีการจดั ช่อ มอบแสดงความยินดี การนามาจัดใส่แจกัน วางไว้ในที่ต่างๆ ดอกไม้ที่นิยมมาจัดแจกัน ส่วนมากนิยมดอกไม้ท่ีมีก้านค่อนข้างแข็งและยาวเพ่ือสะดวกในการจัด แจกนั ดอกไมไ้ ดท้ ุกรูปแบบ

ประโยชนข์ องดอกไม้ 1. ใช้ไม้ดอกไม้ประดับเพื่อก่อให้เกิดความสวยงาม เช่น ร้อย พวงมาลยั ตกแต่งอาคารสถานท่ี 2. ใช้ไม้ดอกไม้ประดับเพื่อความสดช่ืน สบายใจ หรือฟ้ืนฟูสภาพจิตใจ เช่น การจัดกระเชา้ ดอกไม้หรอื จดั แจกนั ใหผ้ ู้ป่วยเกดิ ความสดชื่น 3. ช่วยลดการเกิดวัชพืช ไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดสามารถปลูกคลุมดินได้ เปน็ อยา่ งดี ชว่ ยรักษาระดบั อณุ หภูมแิ ละความชนื้ ภายในดนิ

4. การใช้ประโยชนจ์ ากไม้ดอกไม้ประดบั เพอื่ เปน็ ยารกั ษาโรค เชน่ ดอกบวั ดอกพิกลุ ฯลฯ ดอกบัวหลวง เกสร เกสรบัวหลวง เปน็ สมุนไพรชนดิ หน่ึงในพิกดั เกสรท้งั ห้า ใชผ้ สมในยาหอมบารุงหัวใจ บารงุ กาลัง แก้อาการหนา้ มดื วงิ เวียนศรี ษะ

5. การใช้ประโยชน์จากไม้ดอกไมป้ ระดับในการประกอบอาหาร เช่น การใช้สี จากใบเตย ดอกอัญชัน ฯลฯ

6. การใช้ประโยชน์จากไม้ดอกไม้ประดับในงานพิธีต่างๆ เช่น วันเกิด วัน แหง่ ความรัก งานแต่งาน ฯลฯ

7. ใช้แสดงความยินดีและใช้โอกาสต่างๆ เช่น การได้เล่ือนตาแหน่งใหม่ รับ ปรญิ ญา ฯลฯ

สรปุ เน้ือหา ดอกไมม้ หี ลากหลายชนดิ หลากหลายพันธุ์ ดอกไม้เป็นส่วนหน่ึงของ ต้นไม้ซึ่งนิยมนามาประดับตกแต่งบ้านและใช้จัดตกแต่งเพื่อเพิ่มความ สวยงามในวาระต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน นาไปถวายพระ ตกแต่งบ้านเรือนให้ สวยงาม ใช้ประกอบอาหารรับประทาน ใช้ทาขนม และการดูแลรักษาต้นไม้ ดอกไม้สามารถทาได้ง่าย เช่น รดน้า พรวนดิน ถอนวัชพืช ใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ เพอื่ ให้ออกดอก ไม่เด็ดหรือทาลายดอกไม้

กจิ กรรม คาอธิบาย ให้เดก็ ๆทาเครื่องหมายวงกลม ทบั คาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 1. ขอ้ ใด คอื ส่วนประกอบของดอกไม้ 1. เกสรตัวผู้ ตัวเมีย 2. ราก 2. ดอกเดี่ยว มลี ักษณะกา้ นเดียว ดอกเดี่ยว ได้แก่ ดอกอะไร 1. ดอกชบา 2. ดอกเขม็ 3. ดอกช่อ คอื หนง่ึ ก้าน มีดอกยอ่ ยรวมกนั หลายดอกมีหลายดอกบนกา้ นชู ดอกเดียวกนั 1. ดอกกหุ ลาบ 2. ดอกทานตะวัน 4. การดแู ลดอกไม้ทถี่ กู ต้อง คือขอ้ ใด 1. รดน้าพรวนดนิ สม่าเสมอ 2. ฉีดสารเคมเี ปน็ ประจา 5. ใหเ้ ด็กๆ บอกประโยชน์ของดอกไม้ 1. ใช้เปน็ ของเล่น 2. จดั แจกนั ดอกไม้

บรรณานุกรม https://trianglify.io/ https://www.dek-d.com/board/view/3318161/ https://th.pngtree.com/freepng/flowers_605001.html https://www.remove.bg/วิน https://sites.google.com/site/it25575620114010dida/swn- prakxb-khxng-dxkmi https://sites.google.com/site/puysaowapha/swn-prakxb-khxng- dxk https://www.google.com/search?q=%E0%B8%94%E0%B8%AD %E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD&hl=th& authuser=0&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwiul6Pj oebgAhUbSX0KHWKhA84Q_AUIDigB&biw=1366&bih=608#imgdii =MjTW7Id4-j6YnM:&imgrc=B2y1HmuA8q4qXM:

ขอ้ มลู ผู้จดั ทา ช่ือ นายไรวนิ ทร์ ชินสขุ คีรี ช่ือเลน่ วิน เกดิ วันท่ี 19 ธนั วาคม 2533 หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ครู คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎลาปาง