ป.3 สุวัจนี การแก้ปัญหาทักษะการอ่านผันวรรณยุกต์โดยใช้ตารางไตรยางศ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

รายงานการวิจยั ในช้นั เรียน เรื่อง การแก้ปัญหาทักษะการอ่านผันวรรณยกุ ต์ โดยใชต้ ารางไตรยางศข์ องนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 นางสาวสุวจั นี มุตาปิน ตาแหน่ง ครผู ู้ช่วย โรงเรยี นเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาอาเภอขุนยวม สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาแมฮ่ อ่ งสอน เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก คานา การทาวจิ ยั ในชนั้ เรียนเปน็ งานวจิ ัยที่สาคัญตอ่ การจดั การเรียนการสอนเพราะเปน็ เคร่ืองมือทค่ี รู สามารถใชเ้ พอ่ื การศกึ ษาปญั หาและแนวทางการแก้ไขปญั หาทเ่ี กิดข้นึ จากการเรียนการสอน ทาใหเ้ กดิ การ พัฒนาวธิ ีการเทคนิคการสอนท่มี ปี ระสิทธภิ าพย่ิงข้นึ และยังสามารถเผยแพรค่ วามรูเ้ ทคนคิ วิธีการ แก้ปญั หาที่ ผ้วู จิ ัยไดค้ ิดคน้ และทดลองแล้วนน้ั ให้กับคณะครู ไดใ้ ช้เป็นแนวทางแกไ้ ขหรอื พัฒนาการ จัดการเรยี นการสอน ของตนได้ การวิจัยในช้ันเรียนเปน็ การทาวิจัยไปพรอ้ มๆ กับการจัดการเรียนการสอน รูปแบบการทาวจิ ยั ไมเ่ นน้ รูปแบบการเขยี นรายงานวจิ ัยท่เี ป็นทางการมากนกั แต่จะเนน้ ในเร่อื งการทดลองเพ่อื ใช้ในการจัดการเรยี นการ สอนเป็นส่วนใหญ่ และผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนวทาง เทคนิควิธีการทาวิจัยในชั้นเรียนน้ีจะมีประโยชน์แก่ ผู้อ่าน หรือผู้ท่ีสนใจวิจัยชิ้นน้ี และจะช่วยทาให้ผู้ที่สนใจอยากจะทาวิจัยในช้ันเรียนใช้ศึกษาเป็นแนวทางทาวิจัย ในช้ันเรยี นตอ่ ไป ผู้จดั ทา นางสาวสวุ ัจนี มตุ าปิน

สารบัญ ข คานา หนา้ สารบัญ ชอื่ เรอื่ งและความเปน็ มา ก วตั ถุประสงคก์ ารวิจยั ข ขอบเขตของการวิจัย 1 ตัวแปรทีศ่ กึ ษา 1 ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ บั 1 วิธีดาเนินการวจิ ยั 2 ผลการวจิ ยั 2 สรปุ ผลการวิจัย 2 ขอ้ เสนอแนะ 2 3 ภาคผนวก 3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น เรอ่ื ง การผนั วรรณยุกต์ 5 แบบบนั ทึกคะแนนก่อนเรยี นและหลังเรียน เร่ือง การผนั วรรณยกุ ต์ 6

1 ช่อื เรื่อง การแก้ปัญหาทักษะการอ่านผนั วรรณยุกต์ โดยใชต้ ารางไตรยางศ์ของนักเรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ช่ือผวู้ ิจยั นางสาวสวุ ัจนี มตุ าปิน ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา การเรียนภาษาไทยในปจั จุบัน เรามกั จะพบเห็นปัญหาในการอา่ นและการเขยี นภาษาไทย โดยเฉพาะ ปัญหาการผนั วรรณยกุ ต์ ซง่ึ มสี าเหตุมาจากผ้เู รียนออกเสียงวรรณยุกต์ตามรูปวรรณยกุ ต์ที่ปรากฏ ซงึ่ นับวา่ เปน็ ความเขา้ ใจที่ผดิ คาในภาษาไทยนั้นอาจจะมรี ูปและเสยี งวรรณยุกตต์ รงกนั หรือไมต่ รงกันกไ็ ดข้ ึ้นอยกู่ บั พยัญชนะ ต้นว่าเป็นอกั ษรสงู อักษรกลาง หรืออักษรตา่ และคาเป็นคาตาย จงึ ทาใหน้ ักเรียนมปี ญั หาในเรอื่ งการอา่ นและ การเขียน จากการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนในระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนอา่ นออกเสียง คาศัพทท์ มี่ ีรปู วรรณยกุ ตไ์ มถ่ กู ตอ้ ง เมื่ออ่านไม่ถูกตอ้ งกจ็ ะทาให้การแปลความหมายของคา ผิด ทาใหน้ ักเรียน ขาดความสนใจและเบอ่ื หนา่ ยในการเรียน เมอื่ นกั เรียนเกดิ ความสับสน ไมเ่ ขา้ ใจ ขาดการฝึกฝน การอา่ นคาที่มี รปู วรรณยกุ ต์กากับ นกั เรียนจึงขาดทักษะทางภาษา เมอื่ นาไปใช้เขียนเพื่อสื่อความหมายจึงทาใหเ้ กิดความ ผดิ พลาดส่งผลตอ่ การเรยี นของนักเรียนเปน็ อีกสาเหตหุ นึ่งทที่ าใหผ้ ลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นร้วู ิชาภาษาไทยตา่ ดังนนั้ ผ้วู จิ ยั มีความสนใจในการหาวธิ ใี นแก้ไขปัญหาและการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมี ความรู้ ความเขา้ ใจในเนอ้ื หาและหลักเกณฑท์ างภาษาในเรอื่ งไตรยางศแ์ ละการผันวรรณยกุ ต์และการใช้รปู วรรณยกุ ตใ์ นการสอื่ ความหมาย โดยใชเ้ พลงและตารางไตรยางศ์ เพื่อใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรู้การผันวรรณยกุ ต์ได้ อยา่ งถูกต้องเหมาะสม มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวิชาภาษาไทยท่สี ูงขึน้ และเพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาการ เรยี นรูว้ ิชาภาษาไทยใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ และเกิดประโยชน์ต่อผู้เรยี นในระดบั สูงตอ่ ไป วัตถุประสงคก์ ารวิจยั เพอ่ื เปรียบเทยี บทกั ษะการอ่านผันวรรณยกุ ตโ์ ดยใชต้ ารางไตรยางศ์ของนกั เรียนจากคะแนนก่อนเรยี น และหลังเรยี น ขอบเขตของการวิจยั ในการศกึ ษาวิจยั ครัง้ นีเ้ป็นการแก้ปัญหาทกั ษะการอา่ นผนั วรรณยกุ ต์ โดยใช้ตารางไตรยางศ์ของ นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 และได้กาหนดขอบเขตการวิจยั ไว้ดงั นี ้ 1. ประชากรท่ีใช้ในการศกึ ษา คอื นักเรียนโรงเรยี นเขตพ้นื ท่ีอาเภอขุนยวม ห้องเรยี นบ้านหว้ ยฟาน ระดับประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ประจาปีการศกึ ษา 2565 จานวน ๒ คน 2. เนอื้ หาท่ีใชใ้ นการแกป้ ัญหาทักษะการอา่ นผนั วรรณยกุ ต์ โดยใชต้ ารางไตรยางศ์

2 ตวั แปรที่ศกึ ษา การใช้ตารางไตรยางศใ์ นการจดั การเรยี นรู้ ๑. ตวั แปรตน้ คือ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนภาษาไทย ๒. ตัวแปรตาม คือ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั นักเรยี นสามารถพฒั นาดา้ นทกั ษะการอ่านผันวรรณยุกต์ไดด้ ขี ้ึน วิธีดาเนนิ การวิจัย ๑. จัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง ไตรยางศ์และการผนั วรรณยุกต์ ๒. จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น ๓. นาแบบทดสอบก่อนเรียนไปวัดความร้เู ร่ืองการผนั เสยี งวรรณยกุ ต์ ๔. ดาเนินการจดั การเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ๕. เมอ่ื ดาเนินการตามแผนการจดั การเรียนรูเ้ สรจ็ ทาการทดสอบหลังเรียนดว้ ยขอ้ สอบชดุ เดยี วกัน ตรวจสอบความกา้ วหน้าและพัฒนาการทกั ษะการอ่านจากแบบฝกึ ทักษะการอา่ น ๖. นาคะแนนก่อนเรียน หลังเรียนมาเปรยี บเทยี บหาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนเรื่องการอา่ นออกเสยี ง ไตรยางศ์และการผนั วรรณยุกตแ์ ละเก็บรวบรวมขอ้ มลู และวิเคราะหข์ อ้ มูล ๗. สรุปและอภิปรายผล เพอื่ จดั ทารูปเลม่ ผลการวิจัย จากการประเมนิ ด้วยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน ซ่ึงปรากฏผลตามตารางตอ่ ไปน้ี ตาราง คะแนนจากการทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น การแก้ปญั หาทกั ษะการอ่านผนั วรรณยุกต์ โดย ใชต้ ารางไตรยางศ์ ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 กอ่ นและหลังเรยี น เลขท่ี กอ่ นเรยี น หลังเรียน ผลต่าง ผลตา่ ง เตม็ 10 คะแนน เต็ม 10 คะแนน ∑D ∑D2 14 ๙ ๕ 25 2๒ 8 6 36 รวม ๖ ๑7 xˉ 3 8.5 ∑D = 11 ∑D2 = 71 S.D. 1.41 0.71 ร้อยละ 30 80

3 สรปุ ผล อภิปรายผลการวจิ ัย การวจิ ัยครั้งน้ี มีวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือการแก้ปญั หาทกั ษะการอา่ นผันวรรณยกุ ต์ โดยใชต้ ารางไตรยางศข์ อง นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 สรปุ ผลการวิจัย จากการศึกษาและวิเคราะห์ การวิจัย เร่ืองการแก้ปัญหาทักษะการอ่านผันวรรณยุกต์ โดยใช้ตาราง ไตรยางศ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ด้วยการประเมินแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า คะแนนก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๓ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.41 และคะแนนหลังเรียน มีค่าเฉล่ีย เท่ากับ 8.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.71 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์การแก้ปัญหาทักษะการอ่านผัน วรรณยุกต์ โดยใชต้ ารางไตรยางศ์ของนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ผลทดสอบคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนน ก่อนเรยี น อภปิ รายผลการวจิ ัย การวิจัย เร่ืองการแก้ปัญหาทักษะการอ่านผันวรรณยุกต์ โดยใช้ตารางไตรยางศ์ขอ งนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้ การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง ไตรยางศ์และการผนั วรรณยกุ ต์ ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ผสู้ อนจะเหน็ ไดอ้ ย่างชดั เจนว่า ผ้เู รยี นมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากยิง่ ขึ้น โดยใชเ้ พลง ส่ือตารางไตรยางศ์ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน เรื่อง การผันวรรณยุกต์ วิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ทาให้ นักเรยี นสามารถเรยี นรจู้ ากตารางไตรยางศ์ ฝึกทักษะการอ่านผันวรรณยุกต์ได้ดีข้ึน มีผลการพัฒนาทางด้านการ อา่ นท่ีดขี ึน้ ขอ้ เสนอแนะ การพัฒนาการเรียนรูจ้ ะตอ้ งค่อยเปน็ ค่อยไป ผูส้ อนจงึ จะตอ้ งอดทนและใหเ้ วลาผู้เรียนค่อยเรียนร้แู ละ สามารถลงมือปฏิบตั ิ

ภาคผนวก

๕ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น เรื่อง การผันวรรณยกุ ต์ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนทาเคร่อื ง X ขอ้ ทีเ่ ป็นคาตอบทถี่ กู ต้องท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใด คือ ไตรยางศ์ อกั ษรสามหมู่ 6. อักษรตา่ คมู่ หี ลกั ท่องจาว่าอย่างไร ก. อักษรสงู อกั ษรเดย่ี ว อักษรตา่ ก. ผี ฝาก ถุง ข้าว สาร ให้ ฉัน ข. อักษรกลาง อกั ษรสูง อักษรเด่ียว ข. ไก่ จิก เด็ก ตาย บน ปาก โอง่ ค. อักษรสูง อักษรกลาง อักษรตา่ ค. พ่อ คา้ ฟนั ทอง ซอื้ ช้าง ฮอ่ 2. อักษรสูง มที ั้งหมดกี่ตวั 7. อักษรสงู ผนั วรรณยุกตไ์ ด้กเ่ี สยี ง อะไรบา้ ง ก. 9 ตวั ก. 3 เสยี ง เสียงสามญั เสยี งเอก เสยี งโท ข. 11 ตวั ข. 3 เสยี ง เสยี งเอก เสียงโท เสยี งจตั วา ค. 24 ตวั ค. 3 เสียง เสียงเอก เสยี งโท เสียงตรี 3. อกั ษรกลาง มีท้งั หมด 9 ตวั อะไรบา้ ง 8. อกั ษรสูงขอ้ ใดผนั เสยี งไดถ้ ูกตอ้ ง ก. ก จ ด ต ฎ ฏ ท ธ น ก. ผา ผ่า ผา้ ข. ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ ข. ผา ผ่า ผา๋ ค. ก จ ด ต ฎ ฏ ผ ฝ ศ ค. ผา ผา่ ผ๊า 4. อกั ษรสูง มีท้งั หมดกี่ตวั 9. ขอ้ ใดเป็นอักษรกลางทั้งหมด ก. 9 ตวั ก. งาน นา้ วาด ข. 11 ตวั ข. กา จา่ ย ป่า ค. 24 ตัว ค. พ่อ ฟู ซือ้ 5. อักษรตา่ มี 24 ตัว แบ่งเป็นอักษรตา่ เดย่ี ว 1. ขอ้ ใด คือ ไตรยางศ์ อกั ษรสามหมู่ ทัง้ หมดกตี่ ัว ก. 3 เสยี ง เสียงสามญั เสียงเอก เสยี งโท ข. 3 เสียง เสียงสามญั เสียงเอก เสียงจตั วา ก. 10 ตวั ค. 3 เสยี ง เสียงสามัญ เสยี งเอก เสียงโท ข. 11 ตวั ค. 14 ตวั

๖ แบบบนั ทกึ คะแนนก่อนเรียนและหลงั เรียน เร่ือง การผันวรรณยกุ ต์ เลขที่ คะแนนก่อนเรยี น คะแนนหลังเรยี น 14 9 22 8