Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขนมไทย สูตรคุณยาย

ขนมไทย สูตรคุณยาย

Published by Guset User, 2022-01-25 04:58:53

Description: ขนมไทย สูตรคุณยาย

Search

Read the Text Version

ขนมไทย สูตรคุณยาย

ความเป็นมาของขนมไทย ขนมไทย เปน็ ของหวานทที่ ำและรับประทานกันในอาณาจกั รไทย มีเอกลกั ษณด์ ้านวฒั นธรรมประจำชาตไิ ทยคอื มี ความละเอียดออ่ นประณตี ในการเลอื กสรรวัตถุดิบ วธิ ีการทำ ทพี่ ิถพี ถิ นั รสชาติอรอ่ ยหอมหวาน สสี ันสวยงาม รปู ลกั ษณช์ วน รบั ประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณตี บรรจงของขนมแต่ละชนิด ซ่ึงยังแตกต่างกนั ไปตามลักษณะของขนม ชนดิ นน้ั ๆ สำหรับ \"เข้าหนม\" นนั้ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมืน่ จรสั พรปฏิญาณได้ทรงต้งั ขอ้ สันนิษฐานไว้วา่ \"หนม\" เพี้ยนมา จาก \"ขา้ วหนม\" เนื่องจาก \"หนม\" นัน้ แปลว่าหวาน แตก่ ลบั ไม่ปรากฏความหมายของ\"ขนม\" ในพจนานกุ รมไทย มเี พยี งบอกไว้ วา่ ทางเหนือเรยี กขนมว่า \"เขา้ หนม\" แต่ถงึ อย่างไรกไ็ มพ่ บความหมายของคำวา่ \"หนม\" ในฐานะคำทอ้ งถน่ิ ภาคเหนือเมอ่ื อยโู่ ดด ๆ ในพจนานุกรมเช่นกนั เขา้ หนม แปลว่า ข้าวหวาน เรียกส้ันๆ เรว็ ๆ กก็ ลายเปน็ ขนม ไป (คำว่า เขา้ เขยี นตามแบบโบราณ ใน ปจั จุบนั เขียนวา่ ข้าว) อีกขอ้ สนั นิษฐานหนึง่ ก็นับวา่ นา่ สนใจไมน่ อ้ ย คำว่า \"ขนม\" อาจมาจากคำในภาษาเขมรวา่ \"หนม\" ทห่ี มายถงึ อาหาร ทีท่ ำมาจากแป้ง เมอื่ ลองพิจารณาดแู ลว้ พบวา่ ขนมสว่ นใหญ่ล้วนทำมาจากแป้งทัง้ นนั้ โดยมีนำ้ ตาลและกะทิเป็นส่วนผสม ดงั นัน้ จงึ อาจกลา่ วได้ว่า \"ขนม\" เพ้ียนมาจาก \"ขนม\" ในภาษาเขมรกเ็ ป็นได้ ไม่ว่าขนมจะมีรากศพั ทม์ าจากคำใดหรือภาษาใด ขนมก็ไดเ้ ข้ามามีบทบาทสำคัญในสังคมไทยด้วยฐานะของขนมไทยอย่างเตม็ ภาคภมู ิ และคนไทยเองก็ได้ช่ือว่าเป็นชนชาตหิ นึ่ง ทีช่ อบกนิ ขนมเปน็ ชวี ิตจติ ใจ หลักฐานเกา่ แกท่ ่สี ุดท่ีแสดงถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขนมไทยกบั คนไทยกค็ ือวรรณคดีมรดกสุโขทัยเรือ่ งไตรภมู พิ ระ ร่วง ซ่งึ กล่าวถงึ ขนมตม้ ท่ีเป็นขนมไทยชนิดหนง่ึ ไว้ คำว่า ขนม มใี ช้มาหลายร้อยปยี ากจะสันนฐิ านแน่นอนได้ เช่นเดียวกบั ไมม่ ี หลกั ฐานยนื ยันแน่นอนวา่ \"ขนมไทย\" เกิดข้นึ มาต้งั แตส่ มัยใดเปน็ ครงั้ แรก แต่ตามประวัตศิ าสตร์ไทยมหี ลกั ฐานตอนหนึง่ ว่า มี การจารึกชอื่ ขนมในแทง่ ศลิ าจารึก เปน็ การจารึกแบบลายแทงสมยั โบราณ ขนมทป่ี รากฏคือ \"ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อา้ ยตอ้ื \" ถามผใู้ หญด่ ถู งึ ไดร้ ้วู า่ ไข่กบ หมายถึง เม็ดแมงลกั นกปลอ่ ย หมายถงึ ลอดชอ่ ง บัวลอย หมายถึง ข้าวตอก อา้ ยตอื้ หมายถึง ข้าวเหนยี ว ขนมทงั้ ส่ีใชน้ ้ำกระสายอยา่ งเดียวกนั คอื \"น้ำกะทิ\" โดยใชถ้ ว้ ยใส่ขนม ซงึ่ เราเรียกการเล้ียงขนม 4 อย่างน้ี วา่ \"ประเพณี 4 ถว้ ย\" ขนมไทยเร่ิมแพรห่ ลายมากขนึ้ ในสมยั อยธุ ยา ดังปรากฏขอ้ ความในจดหมายเหตหุ ลายฉบบั บางฉบบั กลา่ วถงึ \"ย่านป่า ขนม\" หรอื ตลาดขนม บางฉบับกลา่ วถงึ \"บ้านหมอ้ \" ทีม่ ีการป้นั หมอ้ และรวมไปถงึ กระทะ ขนมเบื้อง เตาและรังขนมครก แสดงใหเ้ หน็ วา่ ขนมครกและขนมเบ้อื งนน้ั คงจะแพรห่ ลายมากจนถงึ ขนาดมีการปัน้ เตาและกระทะขาย บางฉบบั กลา่ วถงึ ขนม ชะมด ขนมกงเกวยี นหรอื ขนมกง ขนมครก ขนมเบอ้ื ง ขนมลอดช่อง ยุคทองของขนมไทย ในสมัยสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชถอื ได้วา่ เป็นยคุ ทองของการทำขนมไทย เม่อื สตรชี าวโปรตเุ กสเชอื้ สายญี่ปุ่นนาม วา่ \"มารี กีมาร\"์ ผเู้ ปน็ ภรรยาเจา้ พระยาวชิ าเยนทร์ หรอื บรรดาศกั ดวิ์ ่า \"ทา้ วทองกบี ม้า\" เขา้ รบั ราชการเปน็ ต้นเครื่องขนม ของ หวานในวงั ทา่ นได้นำไข่ และ น้ำตาลทราย มาเป็นสว่ นผสมสำคัญในขนมไทยและทา่ นได้ดัดแปลงสตู รขนมต่างๆ เชน่ ขนม ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหม้อแกง ซ่ึงไดร้ บั ความนยิ มมาจนถงึ ปัจจุบันน้ี

1. บัวลอยไข่หวาน บวั ลอยสูตรขนมไทยทหี่ าทานได้ง่าย ถูกใจทุกเพศทุกวัย เพราะด้วยเนือ้ บวั ลอยแบบเหนยี วนุม่ และสสี นั ชวน รับประทาน ตัดดว้ ยนำ้ กะทหิ วานมัน กบั ไขห่ วานยิง่ ทำให้ได้รสชาติที่เขา้ กนั สว่ นผสมตัวแป้งบัวลอย 1. แป้งขา้ วเหนียว 100 กรัม 2. แปง้ มัน 10 กรัม 3. สผี สมอาหาร 4. นำ้ เปล่า ส่วนผสมนำ้ กะทิ 1. หางกะทิ 2 ถ้วย 2. หวั กะทิ 2 ถว้ ย 3. น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม 4. นำ้ ตาลทราย 80 กรัม 5. เกลือปน่ 1/4 ช้อนโต๊ะ 6. ไข่ไก่

วธิ ที ำบวั ลอยไขห่ วาน 1. เร่ิมกันท่ที ำแป้งบัวลอย ใส่แป้งข้าวเหนยี วลงในชามผสม ตามดว้ ยแปง้ มัน และสีผสมอาหาร ใน ขน้ั ตอนนหี้ ากใครต้องการทำแป้งบวั ลอยหลายสี สามารถแยกชามผสมและแบ่งเทสผี สมอาหารตามท่ี ต้องการได้เลยค่ะ 2. หลังจากนน้ั ค่อยๆ เติมนำ้ เปล่าลงไป พร้อมกับนวดแป้งไปด้วย ใส่จนครบ 8 ช้อนโตะ๊ หรอื จนรสู้ กึ วา่ เน้ือแปง้ มคี วามเนียนนุ่ม 3. นำแป้งมาป้นั เป็นกอ้ นกลมๆ ขนาดประมาณ 1 ซม. ไมค่ วรปน้ั ขนาดใหญ่มาก เพราะเม่อื แป้งสุกตัว แป้งจะขยายใหญ่ขึน้ อยแู่ ล้ว หลงั จากนน้ั นำไปต้มในน้ำท่ีเดือดจดั เม่ือแปง้ ลอยตวั ข้ึนมาใหช้ อ้ นแปง้ ข้ึนมาพักไว้ในน้ำเยน็ 4. เตรยี มทำน้ำกะทิ โดยนำหางกะทิขน้ึ ตั้งเตาโดยใช้ไฟกลาง ตามดว้ ยใส่นำ้ ตาลปบ๊ี นำ้ ตาลทราย และ เกลือ คนสว่ นผสมท้งั หมดใหเ้ ข้ากนั 5. ใสไ่ ขล่ งในกะททิ ลี ะฟอง ระวงั อย่าใหไ้ ขแ่ ตก เม่ือไขส่ กุ แล้วตักขนึ้ มาพกั ทิง้ ไว้ 6. เตมิ หวั กะทิลงไปในน้ำกะททิ ่เี ราตม้ เอาไว้แลว้ คนทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากนัน้ จึงนำแปง้ บัวลอยใสล่ ง ไปในน้ำกะทิ พรอ้ มกับต้มทิ้งไว้ใหน้ ำ้ กะทิซึมเข้าไปในแปง้ บัวลอยให้มีความหวานมนั มากข้ึน ประมาณ 15 นาที (หากอยากใหแ้ ป้งมีความเขม้ ขน้ สามารถพักทงิ้ ไว้นานกวา่ นีไ้ ด)้ 7. นำบวั ลอยพรอ้ มกับนำ้ กะทิตักขน้ึ ใส่ถว้ ย พร้อมกบั ใสไ่ ขห่ วาน และจดั เสริ ์ฟไดเ้ ลย

2 สงั ขยาฟกั ทอง ขนมทผ่ี สานผลไม้อยา่ งฟักทองกบั ความหวานของสงั ขยาอย่างลงตวั เป็นสูตรขนมไทยท่ีจะให้รสชาตหิ วาน ละมุนล้นิ แบบไม่เลี่ยน เพราะดว้ ยฟกั ทองน่ึงจะได้เนือ้ น่มุ ๆ ทานคกู่ บั สงั ขยาเนื้อเนียนหวานพอดี รับรองว่า อร่อยแบบเพลินๆ สว่ นผสมสงั ขยาฟักทอง 1. ฟกั ทอง 1 ลูก 2. กะทิ 200 มล. 3. ไข่ไก่ 2 ฟอง 4. ไข่เปด็ 2 ฟอง 5. นำ้ ตาลปี๊บ 180 กรัม 6. เกลอื 1 ช้อนชา 7. ใบเตย

วธิ ที ำสังขยาฟกั ทอง 1. เตรียมฟักทองให้พร้อม โดยนำฟกั ทองท่ีคว้านฝาแล้วมาคว้านเมล็ดออกใหห้ มด ใหเ้ หลอื เพยี งแต่ใย ดา้ นในให้เก็บเอาไว้ เพ่อื ชว่ ยยึดตวั สังขยาไม่ให้หลุดออกเวลานำไปนึง่ หลังจากน้ันล้างทำความสะอาด ฟักทองท้งั ด้านใน และดา้ นนอก และพักท้งิ ไวใ้ หฟ้ ักทองแห้ง 2. ทำสังขยาโดยการตอกทั้งไข่ไก่ และไขเ่ ป็ดลงในชามผสม ตามดว้ ยกะทิ นำ้ ตาลปีบ๊ พร้อมเตมิ กลิ่นหอม ด้วยใบเตยลงไป หลงั จากนั้นผสมสว่ นผสมทัง้ หมดให้เข้ากันด้วยวิธีการขยำ เพือ่ ให้ไดส้ ังขยาท่ีเนื้อ เนียน ใหก้ รองสว่ นผสมด้วยผา้ ขาวบาง หรือกระชอนตาถี่ แนะนำให้กรองสว่ นผสมมากกวา่ 1 คร้ัง 3. เทสังขยาลงในฟักทองในปรมิ าณที่เหลอื บรเิ วณดา้ นบนไว้เล็กน้อย เพราะเม่อื นำไปนงึ่ สังขยาจะฟูตวั ข้นึ มาอีก และหากเทแลว้ เกดิ ฟองใหต้ กั ออกจนหมดเพื่อให้ไดส้ ังขยาทีห่ นา้ เนียน 4. นำฟกั ทองสังขยาไปนึ่งประมาณ 45 นาที เพ่ือความชัวรว์ ่าสังขยาสกุ ดแี ลว้ ให้ใช้ไมจ้ ม้ิ ปลายแหลมจิม้ ลงไป ถ้าหากไม่มีเนอ้ื สงั ขยาติดขน้ึ มาตามไมจ้ ิ้มแสดงวา่ เน้ือสงั ขยาสกุ ดี แตห่ ากจ้ิมแลว้ ติดออกมาให้ นงึ่ ต่อ และใช้วธิ เี ชค็ เร่ือยๆ 5. จากน้นั ไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้ฟักทองสงั ขยาเซต็ ตวั และนำมาจัดเสริ ์ฟได้ โดยอาจจะตดั แบ่งเปน็ ชิ้นๆ ให้ รบั ประทานไดง้ า่ ยข้นึ

3. ขนมตม้ ขนมตม้ อาจจะหาทานยากหน่อยในสมัยน้ี แต่กย็ งั คงเหน็ ได้ตามงานมงคลตา่ งๆ ดว้ ยความเชอ่ื ว่าเปน็ ขนมของ เทพเจา้ ซ่ึง “ขนมต้ม” ใหร้ สสมั ผสั แบบเหนียวนุ่มที่ห่อหุ้มด้วยไส้มะพร้าว แบบหวานกลมกล่อมอยา่ งลงตวั ส่วนผสมทำไสข้ นมต้ม 1. มะพรา้ วขดู 300 กรมั (แนะนำให้ใช้เป็นมะพร้าวทึนทึก หรือมะพรา้ วกลางอ่อนกลางแก)่ 2. นำ้ ตาลปบ๊ี 200 กรัม 3. น้ำลอยดอกมะลิ หรือน้ำเปล่า สว่ นผสมแป้งขนมต้ม 1. แปง้ ข้าวเหนียว 300 กรัม 2. นำ้ ใบเตย 80 มล. 3. หวั กะทิ สว่ นผสมคลุกหนา้ ขนมต้ม 1. มะพร้าวขดู 100 กรมั 2. เกลือป่น 1/2 ชอ้ นชา

วธิ ที ำขนมต้ม 1. นำมะพร้าวขูด น้ำตาลปบ๊ี และน้ำลอยดอกมะลิ หรอื หากไม่มสี ามารถใชน้ ำ้ เปลา่ ได้ ใส่ทัง้ หมดลงใน กระทะ ดว้ ยไฟกลาง และคนจนนำ้ ตาลปบ๊ี ละลายหมด หลังจากนั้นใหใ้ ชไ้ ฟอ่อน และผดั ไส้ไปเร่ือยๆ จนแหง้ จึงยกลงจากเตา และพักไวใ้ ห้พออ่นุ 2. เมอ่ื ไส้ขนมต้มเยน็ ลงแลว้ ใหน้ ำมาปัน้ เปน็ ก้อนกลมขนาดประมาณปลายนิ้วโปง้ หากใครอยากใหข้ นม ต้มมกี ล่ินหอมสามารถนำไส้ไปอบควันเทยี นไดใ้ นขน้ั ตอนนี้ 3. จากน้นั มาทำตวั แป้งขนมต้มด้วยการผสมแป้งข้าวเหนยี ว และคอ่ ยๆ ทยอยใส่นำ้ ใบเตย และหวั กะทิ เขา้ ดว้ ยกนั ค่อยๆ นวดจนส่วนผสมทัง้ หมดเข้ากันจึงเติมน้ำใบเตย และหวั กะทิเพิ่มเขา้ ไปอีก วธิ นี ี้จะ ชว่ ยใหแ้ ป้งเหนยี วน่มุ ขึ้น 4. นำผา้ ขาวบาง หรอื พลาสติกแรป็ มาคลมุ แป้งเพ่ือพักแป้งทิ้งไวป้ ระมาณ 5 นาที 5. นำมะพรา้ วท่ีขูดไวแ้ ล้วไปนึง่ ให้สกุ แลว้ นำมาคลุกกบั เกลือ 6. มาเริม่ นำขนมไปต้มใหส้ กุ กันเลย ตัง้ กะทะดว้ ยไฟกลาง ใสน่ ้ำเปล่า พรอ้ มกบั ใบเตยลงไปเพอ่ื เพม่ิ กลิน่ หอม 7. เม่ือน้ำเดือดให้ปัน้ แป้งก้อนกลมๆ แล้วจงึ แผแ่ ปง้ ออกเป็นแผ่นบางๆ เพ่ือใส่ไสท้ ่ีเราเตรียมเอาไว้ ใหต้ วั แป้งหมุ้ ตัวไส้ใหม้ ิด หลังจากนั้นจึงปั้นแป้งเปน็ ก้อนกลมๆ 8. ใส่ลงไปในกะทะทีน่ ำ้ เดือดแลว้ รอจนตวั แป้งลอยข้ึนมาบนผิวนำ้ แลว้ จงึ คอ่ ยๆ ชอ้ นตวั แปง้ ข้ึนมา ระหว่างนั้นต้องสะเด็ดน้ำจากตวั แป้งออกให้มากทสี่ ดุ แล้วจงึ นำแปง้ ท่ีได้ไปคลกุ กบั มะพร้าวขดู ผสม เกลอื ทเี่ ตรียมเอาไว้ ทำต่อจนหมด พรอ้ มกบั นำเสิร์ฟได้เลย

4. ทองหยบิ ทองหยบิ สตู รขนมไทยทม่ี ีมายาวนาน แตด่ ว้ ยความอร่อยจงึ ทำให้ยงั มีมาถึงปจั จุบนั ความอร่อยของทองหยิบ ได้มาจากไขแ่ ดงของไขเ่ ปด็ ล้วนๆ กับส่วนผสมของน้ำเช่ือม เรียกไดว้ า่ ใครที่หลงรักความหวานจะตอ้ งหลงรัก สูตรขนมไทยทองหยิบแน่นอน สว่ นผสมทองหยิบ 1. ไขเ่ ป็ด 6 ฟอง 2. ไข่ไก่ 6 ฟอง 3. นำ้ ตาลทราย 1 กก. 4. น้ำเปล่า 1 ลติ ร 5. กลนิ่ มะลิ 1/2 ชอ้ นชา

วธิ ที ำทองหยบิ 1. นำกะทะใส่นำ้ เปล่าข้นึ ต้ังไฟกลางตามดว้ ยน้ำตาลทราย ปล่อยใหน้ ้ำตาลทราย และนำ้ เปล่าละลาย เปน็ เนือ้ เดยี วกนั โดยที่ไมต่ ้องคน (หากคนอาจจะทำให้น้ำตาลเป็นเกล็ด) จึงตามดว้ ยกลน่ิ มะลเิ พ่ือเพิ่ม กล่ินหอมให้กับทองหยอด 2. ตกั น้ำเชื่อมจากในกะทะประมาณ 1 ถ้วยตวง ออกมาเพื่อพักทิ้งไวใ้ หน้ ้ำเช่อื มเย็น ส่วนนำ้ เชือ่ มใน กะทะรอจนน้ำเชื่อมขน้ จึงปิดไฟ 3. แยกไข่ของจากไข่เปด็ และไข่ไก่ แลว้ นำไขแ่ ดงของทงั้ คู่มากรองด้วยผ้าขาวบางแลว้ จึงจำไขแ่ ดงตดี ้วย ตะกร้อจนไขแ่ ดงขน้ึ ฟู จากน้ันจงึ เตรยี มนำไปหยอดในนำ้ เชอื่ ม 4. หยอดไข่แดงลงในน้ำเชอ่ื มในกะทะ โดยยกชอ้ นใหไ้ ข่ไหลเป็นสาย และหยอดให้หมดในคร้ังเดียว โดย ไข่ที่ไดจ้ ะต้องมีขนาดใหญก่ วา่ เหรยี ญสิบ และควรหยอดแต่ละชน้ิ ให้ห่างกนั ในกะทะเพ่ือไข่จะได้ไม่ ตดิ กนั 5. เมือ่ หยอดไข่เสร็จแล้วจงึ เปิดไฟอ่อนๆ เพ่ือให้ไขส่ ุกขน้ึ หลังจากน้ันเม่ือไข่แดงสเี ข้มขึ้นให้กลับด้านไข่ เพ่อื ใหไ้ ข่สุกทั้งสองด้าน 6. ตักไข่แดงที่สุกแล้วจากในกะทะไปพกั ในนำ้ เชอ่ื มเย็นทเ่ี ราแบง่ เอาไว้เพ่ือใหไ้ ข่เยน็ ตวั ลง 7. จับจบี ไข่แดงโดยใชว้ ธิ จี บั เปน็ 3 จีบกอ่ นจะหยอ่ นลงไปในถ้วยตะไล และทิ้งไวใ้ นถว้ ยประมาณ 1 ชวั่ โมงเพ่อื ให้ขนมเซต็ ตัวเปน็ รูปทรงในถว้ ย เม่ือเซ็ตตัวดแี ล้วก็เอาออกจากถ้วย และพร้อมเสิรฟ์ ไดเ้ ลย

5. ฝอยทอง เชื่อวา่ “ฝอยทอง” เปน็ ขนมไทยสดุ โปรดของใครหลายคน เพราะดว้ ยสีสนั หนา้ ตาชวนรับประทาน ความอร่อย ทานง่าย สามารถเข้าคู่ทานกับขนมได้หลายอย่าง ทำใหป้ ัจจุบนั เปน็ สูตรขนมไทยทน่ี ำไปประยกุ ต์ทานคู่กับขนม อนื่ ๆ ได้เยอะแยะมากเลยทีเดียว ส่วนผสมฝอยทอง 1. ไข่แดงของไข่เปด็ 6 ฟอง 2. ไขแ่ ดงของไขไ่ ก่ 3 ฟอง 3. นำ้ ค้างไข่ (ไขข่ าวท่ีเป็นน้ำใสๆ ทตี่ ดิ อยู่กับเปลอื ก) 4. น้ำเปลา่ 1 ลติ ร 5. นำ้ ตาลทราย 1 กก. 6. กลน่ิ มะลิ 7. ไมป้ ลายแหลม

วธิ ที ำฝอยทอง 1. แยกไข่แดงออกจากไข่เปน็ และไข่ไก่ หลังจากนั้นกรองไข่แดงทั้งหมด และน้ำค้างไขด่ ้วยผ้าขาวบาง เพ่ือจะทำให้ไดเ้ ส้นฝอยทองท่ีสวยเนยี น แนะนำว่าหากรอบแรกกรองแล้วยงั ร้สู กึ ว่าไมล่ ะเอยี ดใหก้ รอง ซำ้ อีกรอบได้ 2. ตง้ั ไฟกลางโดยใส่น้ำตาล และน้ำเปลา่ พร้อมหยดน้ำมะลิเพื่อเพิ่มกล่ินหอม คนจนน้ำตาลละลาย เม่ือ ละลายดีแล้สให้เบาไฟลง 3. รอจนน้ำเช่อื มในกะทะมลี กั ษณะเปน็ น้ำพตุ รงกลางกระทะ แลว้ จึงใช้กรวยโรยฝอยทอง หรอื หากใคร ไม่มีสามารถใชถ้ ุงบีบมาม้วนเปน็ กรวยแทนได้ โรยไข่แดงเป็นวงกลม หากโรยในระยะสูงจะได้ฝอยทอง เสน้ เลก็ แตห่ ากโรยแบบตำ่ จะไดเ้ สน้ ใหญ่ สามารถเลือกโรยไดต้ ามใจชอบเลย โรยวนไปเร่อื ยๆ ประมาณ 20 รอบ 4. จากน้นั ใหใ้ ช้ไม้ปลายแหลมเก่ียวเสน้ ไขท่ ่ีสุกแล้วนำไปวนในนำ้ เชอ่ื ม พร้อมกบั นำเส้นฝอยทองมาพัก บนตระแกรงให้สะเด็ดนำ้ เช่อื มออก แลว้ จบั ฝอยทองให้มว้ นพอดีคำ จงึ จัดเสริ ฟ์

6.ขนมถวั่ แปบ ขนมไทยท่ใี หห้ ลากหลายรสสมั ผสั ในหนึ่งเดียว ทงั้ ความเหนยี วน่มุ จากตัวแป้ง ทม่ี ีสอดใส้ด้านในดว้ ยถั่วเขยี ว เลาะเปอื ก พร้อมกับนำ้ ตาลและงาดำ งาขาวค่วั ท่ีโรยหนา้ จงึ เขือ่ วา่ เปน็ ขนมท่ีถกู ใจใครหลายคนแนน่ อน ดงั น้นั อยากทำสูตรขนมไทยถ่วั แปบมาลองทำตามกันได้เลย! ส่วนผสมขนมถ่ัวแปบ 1. ถว่ั เขียวเลาะเปลอื ก 80 กรัม 2. แปง้ ขา้ วเหนียว 160 กรัม 3. มะพรา้ วขดู 2 ถว้ ย 4. เกลือป่น 1 ช้อนชา 5. นำ้ ตาลทราย 3 ช้อนชา 6. น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย หรอื นำ้ อื่นๆ เช่นน้ำอัญชัน 7. งาขาว งาดำ

วธิ ที ำขนมถั่วแปบ 1. นำถัว่ เขียวเลาะเปือกที่ผา่ นการนึ่งจนน่มิ มาแลว้ มาผสมกบั มะพร้าว เกลอื และนำ้ ตาลทราย จนเข้า กนั แลว้ พักทิ้งไว้ 2. นำแป้งขา้ วเหนยี วค่อยๆ ผสมกบั นำ้ ใบเตยพรอ้ มนวดให้เขา้ กนั ในข้ันตอนนีห้ ากใครอยากทำถ่ัวแปบสี อนื่ ๆ ให้เปล่ียนจากนำ้ ใบเตยเป็นนำ้ อ่นื เชน่ น้ำอัญชัน หรือนำ้ แดง 3. ปัน้ แป้งเปน็ วงกลม แลว้ จงึ กดใหแ้ ปง้ แบน 4. ตั้งไฟปานกลางนำแปง้ ลงไป รอจนแป้งสุกลอยขนึ้ มาจากหม้อ แลว้ จงึ ใชก้ ระชอนตักไปแช่ในน้ำเย็น 5. นำแปง้ มาคลกุ กับถ่วั แลว้ พยายามจับให้แป้งเปน็ ทรงเรยี วยาว จากนนั้ นำมาโรยดว้ ยนำ้ ตาลทราย งา ขาว และงาดำตามใจชอบ พร้อมจดั เสิร์ฟไดเ้ ลย

6.ขนมต้ม ขนมตม้ อาจจะหาทานยากหน่อยในสมัยนี้ แต่กย็ งั คงเหน็ ได้ตามงานมงคลตา่ งๆ ดว้ ยความเชอ่ื ว่าเปน็ ขนมของ เทพเจา้ ซงึ่ “ขนมต้ม” ใหร้ สสมั ผัสแบบเหนยี วนุ่มที่ห่อหุ้มด้วยไส้มะพร้าว แบบหวานกลมกล่อมอยา่ งลงตวั ส่วนผสมทำไสข้ นมต้ม 1. มะพร้าวขูด 300 กรัม (แนะนำใหใ้ ชเ้ ป็นมะพร้าวทึนทึก หรือมะพรา้ วกลางอ่อนกลางแก)่ 2. น้ำตาลป๊ีบ 200 กรัม 3. นำ้ ลอยดอกมะลิ หรือนำ้ เปล่า สว่ นผสมแป้งขนมตม้ 1. แปง้ ข้าวเหนยี ว 300 กรัม 2. น้ำใบเตย 80 มล. 3. หวั กะทิ ส่วนผสมคลุกหนา้ ขนมต้ม 1. มะพร้าวขดู 100 กรมั 2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วธิ ที ำขนมต้ม 1. นำมะพร้าวขูด น้ำตาลปบ๊ี และน้ำลอยดอกมะลิ หรอื หากไม่มีสามารถใชน้ ้ำเปลา่ ได้ ใสท่ ้ังหมดลงใน กระทะ ดว้ ยไฟกลาง และคนจนน้ำตาลป๊ีบละลายหมด หลังจากนน้ั ใหใ้ ชไ้ ฟออ่ น และผัดไส้ไปเรื่อยๆ จนแหง้ จึงยกลงจากเตา และพกั ไวใ้ หพ้ ออนุ่ 2. เมอ่ื ไส้ขนมต้มเยน็ ลงแลว้ ใหน้ ำมาป้นั เป็นก้อนกลมขนาดประมาณปลายน้วิ โป้ง หากใครอยากให้ขนม ต้มมกี ล่ินหอมสามารถนำไส้ไปอบควนั เทียนได้ในข้ันตอนน้ี 3. จากน้นั มาทำตวั แป้งขนมต้มด้วยการผสมแป้งข้าวเหนียว และคอ่ ยๆ ทยอยใสน่ ำ้ ใบเตย และหวั กะทิ เขา้ ดว้ ยกนั ค่อยๆ นวดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันจึงเติมน้ำใบเตย และหวั กะทเิ พม่ิ เขา้ ไปอีก วธิ นี ี้จะ ชว่ ยใหแ้ ป้งเหนยี วน่มุ ขึ้น 4. นำผา้ ขาวบาง หรอื พลาสติกแรป็ มาคลุมแป้งเพ่ือพักแป้งท้งิ ไว้ประมาณ 5 นาที 5. นำมะพรา้ วท่ีขูดไวแ้ ลว้ ไปนึง่ ให้สุก แล้วนำมาคลกุ กบั เกลือ 6. มาเริม่ นำขนมไปต้มใหส้ กุ กันเลย ตง้ั กะทะด้วยไฟกลาง ใส่นำ้ เปล่า พรอ้ มกบั ใบเตยลงไปเพอื่ เพ่ิมกลิน่ หอม 7. เม่ือน้ำเดือดให้ปัน้ แป้งก้อนกลมๆ แลว้ จงึ แผแ่ ป้งออกเปน็ แผ่นบางๆ เพ่ือใสไ่ ส้ท่ีเราเตรยี มเอาไว้ ใหต้ วั แป้งหมุ้ ตัวไส้ใหม้ ิด หลงั จากน้ันจงึ ปน้ั แป้งเปน็ ก้อนกลมๆ 8. ใส่ลงไปในกะทะทีน่ ำ้ เดือดแลว้ รอจนตัวแปง้ ลอยขน้ึ มาบนผิวนำ้ แล้วจงึ คอ่ ยๆ ช้อนตัวแปง้ ขนึ้ มา ระหว่างนั้นต้องสะเด็ดน้ำจากตวั แปง้ ออกให้มากทสี่ ดุ แล้วจงึ นำแปง้ ที่ไดไ้ ปคลุกกบั มะพร้าวขดู ผสม เกลอื ทเี่ ตรียมเอาไว้ ทำต่อจนหมด พร้อมกับนำเสริ ์ฟได้เลย

7.ทองหยอด ทองหยอดเปน็ ขนมทีม่ ักจะมาคู่เสมอกบั ทองหยิบที่ถูกเผยแพร่มาต้งั แตใ่ นสมัยอยธุ ยา แต่มจี ุดเด่นและความ อร่อยที่แตกต่างกัน โดยทองหยอดนน้ั จะมลี กั ษณะกลม สว่ นผสมทองหยอด 1. ไขแ่ ดงของไข่เป็ด 9 ฟอง 2. แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม 3. น้ำตาลทราย 500 กรัม 4. น้ำลอยดอกมะลิ 300 มล. หรอื นำ้ เปลา่

วธิ ที ำทองหยอด 1. เทน้ำลอยดอกมะลิ หรือหากไมม่ สี ามารถใช้น้ำเปลา่ ได้ ตามดว้ ยน้ำเปลา่ แลว้ จึงนำไปต้งั ไฟดว้ ยไฟแรง จนเดอื ด แลว้ เคยี่ วตอ่ อีกประมาณ 15 นาที หรือจนน้ำเชอ่ื มข้นขนึ้ ตามดว้ ยแบง่ น้ำเชอ่ื มประมาณ 1 ถ้วยตวงออกมาพักไว้ให้เย็น ส่วนท่เี หลอื ต้งั ไฟต่อไวเ้ ช่นเดิม 2. แยกไขแ่ ดงออกจากไข่ขาว โดยนำไข่แดงกรองดว้ ยผา้ ขาวบาง และตีจนขึ้นฟู ตามด้วยใส่แป้งข้าวเจา้ ลงไปผสมจนเข้ากัน 3. นำแป้งท่ีได้ไปหยอดลงในน้ำเชือ่ มที่เดือด โดยใช้ปลายช้อนตักแปง้ ข้ึนมาแล้วใชป้ ลายนิว้ โป้งดนั ลงไป ในกระทะ หรอื หากใครสะดวกแบบปั้นเปน็ ลูกกลมกส็ ามารถทำไดเ้ ชน่ เดียวกัน แล้วจึงใส่ลงไปใน น้ำเช่อื ม 4. รอจนแปง้ สกุ จะลอยขน้ึ มาเหนือนำ้ เชอ่ื ม ให้ใชก้ ระชอนตักข้นึ มาแลว้ พักไวใ้ นน้ำเช่ือมเย็นท่เี ราแบ่ง เอาไว้ พร้อมจัดเสิร์ฟได้เลย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook