Best Practice โรงเรยี นสตรีวิทยา ๒ ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี สหวทิ ยาเขตนวลจันทร์ สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาเขต 2
นางสาวสรภิ รณ์ แจม่ ใส ตาแหน่ง ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
การจัดการเรยี นร้ตู ามรูปแบบ 4 MAT เพื่อ พัฒนาทกั ษะการเขยี นโปรแกรม ด้วยภาษา HTM ของนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท5่ี โดยใช้ นวตั กรรมสือ่ ประสม
1. บทสรุปหรือบทคดั ยอ่ การจัดกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน โปรแกรม โดยใช้นวัตกรรมสื่อประสมครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติ โดยกระบวนการจดั การเรียนรตู้ ามรปู แบบ 4 MAT2)เพอ่ื หาประสทิ ธิภาพของกระบวนการ เรียนรู้ โดยใช้นวัตกรรมส่ือประสม 3)เพ่ือให้นักเรียน ร้อยละ 80 ของนักเรียนท่ีได้รับการ จัดการเรียนร้ตู ามรปู แบบ 4 MAT เพอื่ พัฒนาทกั ษะการปฏบิ ัติ โดยใช้นวัตกรรมส่ือประสม ผ่านเกณฑ์การประเมินท่ีกาหนด กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 แผนการเรียนอังกฤษ –ท่ัวไป ของโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง โดยใช้หอ้ งเรยี นเปน็ หน่วยเจาะจง เป็นกลุ่มทดลอง
1. บทสรปุ หรอื บทคดั ย่อ (ต่อ) กลุ่มทดลองได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการ 4 MAT เพื่อพัฒนาทักษะการ ปฏิบัติ โดยใช้นวัตกรรมสื่อประสม ใช้เวลาในการทดลอง จานวน 16 ช่ัวโมง เครื่องมือท่ี ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาทักษะการ ปฏิบัติ โดยใชน้ วัตกรรมสอ่ื ประสม จานวน 1 แผน เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบทดสอบวัดความสามารถในการออกแบบเว็บเพจ ด้วยภาษา HTML มีค่าความ เช่ือม่ันเท่ากับ 0.71 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ประสิทธิภาพของนวัตกรรม ค่า รอ้ ยละ ค่าเฉลีย่ X ̅ คา่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D และการทดสอบค่าที t – test แบบ Purposive Sampling
1. บทสรปุ หรอื บทคัดย่อ (ต่อ) และมผี ลการดาเนนิ งาน ดังน้ี 1. นักเรียนทไ่ี ดร้ บั การจดั การเรยี นรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ 4 MATเพอ่ื พฒั นา ทกั ษะการปฏบิ ัติ โดยใชน้ วตั กรรมส่อื ประสม มที กั ษะการปฏบิ ตั ิ ในระดับ ดมี าก 2. นักเรยี นท่ีไดร้ ับการจัดการเรยี นร้ตู ามรูปแบบการเรียนรู้ 4 MAT เพื่อพฒั นา ทกั ษะการปฏิบตั ิ โดยใชน้ วตั กรรมสอ่ื ประสม มคี า่ คานวณประสิทธภิ าพ 82/85 ซึง่ ไดค้ ่า ประสทิ ธภิ าพสงู กวา่ เกณฑท์ ีก่ าหนด 3. นักเรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนร้ตู ามรูปแบบ 4 MAT เพอื่ พฒั นาทักษะการ ปฏบิ ัติ โดยใช้นวตั กรรมสื่อประสม รอ้ ยละ 94 ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
2. ช่อื เร่อื งวธิ ปี ฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice)
3. ความเป็นมาและความสาคญั ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ให้ความสาคัญ เก่ียวกับการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียน ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและถือว่าผู้เรียนมี ความสาคัญท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาตแิ ละเตม็ ศกั ยภาพ โดยเน้นความสาคญั ทัง้ ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดบั การศกึ ษา
3. ความเป็นมาและความสาคัญ (ตอ่ ) กล่มุ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ดาเนินการประชุม PLC โดยร่วมเสนอปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการ สอน จดั กลมุ่ ปญั หา จัดลาดับความจาเป็นเรง่ ดว่ นแล้วเลือก 1 ปญั หาโดยพิจารณาร่วมกัน มติที่ประชุมเลือกปัญหานักเรียนติด 0 ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการนาเสนอการ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยการจัดทาแบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน จัดทาชุด กิจกรรมสอนเสรมิ สาหรับนักเรียนเรียนเสริม กระชับเน้ือหา การปรับปรุง ส่ือ อุปกรณ์การ เรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ 4 MAT เพ่ือพัฒนา ทักษะการปฏิบัติ โดยใช้นวัตกรรมส่ือประสม ให้ผู้เช่ียวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ให้ ขอ้ เสนอแนะ
3. ความเป็นมาและความสาคัญ (ตอ่ ) จากที่ผ่านมา ผู้สอนพบปัญหาจากการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการออกแบบ เว็บเพจ ด้วยภาษา HTML ท่ีพบมากที่สุด คือ นักเรียนขาดความอดทนในการออกแบบ เวบ็ เพจ เบ่อื หนา่ ยง่าย ขาดความสามารถในการเขียนโปรแกรม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตา่ กวา่ เกณฑท์ กี่ าหนด นักเรยี นขาดความรบั ผิดชอบต่องานท่ีตนเองได้รับมอบหมาย การ ทางานไม่เรียบร้อย นักเรียนขาดระเบียบวินัย ขาดสมาธิ ขาดการช่วยเหลือระหว่างคน เรยี นเก่งกับคนเรยี นออ่ น ไม่สนกุ กับการเรยี น ทาให้ครผู ูส้ อนในวชิ าการออกแบบเว็บเพจ ด้วยภาษา HTMLของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความสนใจท่ีจะนาวิธีการจัดการ เรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนรู้ 4 MAT เพ่ือพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม ภาษา HTML โดยใช้นวัตกรรมส่ือประสม มีเสียงเพลงประกอบ มาใช้กับนักเรียนซ่ึงเรียนใน รายวิชาการออกแบบเว็บเพจ ดว้ ยภาษา HTML ในขณะเรียน
3. ความเป็นมาและความสาคญั (ตอ่ ) โดยจัดนักเรียนอยู่รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ 4 - 5 คน เป็นรูปแบบที่สนองความ แตกต่างของบุคคลที่มีแบบการเรียนรู้แตกต่างกัน การจัดกิจกรรมเป็นการพัฒนาสมองซีก ขวาและซีกซ้ายสลับกันอย่างสมดุล ผู้เรียนมีโอกาสได้ใช้สมองทุกส่วนอย่างแท้จริง และ ครูผู้สอนได้นาเสียงเพลงท่ีนักเรียนชื่นชอบมาเปิดประกอบการเขียนโปรแกรม หลังจาก เรียนจบทฤษฎีแล้ว เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความผ่อนคลายลดความตรึงเครียดในการเขียน โปรแกรม มีความสุข สนุกกับการเรียน ทาให้ผลงานออกมาดีมีคุณภาพ เพื่อเป็นพื้นฐาน ในการเรยี นช้ันทีส่ งู ขึ้นตอ่ ไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
4. วตั ถุประสงค์และเปา้ หมายของผลงาน จดุ ประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาทกั ษะการปฏิบตั ิ โดยกระบวนการจดั การเรียนรู้ตามรปู แบบ 4 MAT 2. เพ่อื หาประสิทธภิ าพของกระบวนการเรยี นรู้ โดยใชน้ วตั กรรมสอื่ ประสม เปา้ หมาย 1. นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 รอ้ ยละ 80 มีทักษะการปฏบิ ัติงาน 2. นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมินทีก่ าหนด
นิยามคาศัพท์เฉพาะ 1. การจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนรู้ 4 MAT 2. การเขยี นโปรแกรม ดว้ ยภาษา HTML 3. นกั เรียน 4. นวตั กรรมสือ่ ประสม
5. กระบวนการพัฒนาผลงานหรือขั้นตอนการดาเนินงาน - สรปุ และประเมินผลการเรียนรู้ - รว่ มกลมุ่ PLC ค้นหาปัญหา/ความตอ้ งการวธิ กี าร/ เพ่ือปรับปรุงและพัฒนาอย่างตอ่ เน่ือง นวตั กรรม - ศกึ ษาวิเคราะห์ผู้เรียน/หลักสูตร / ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ - นาแผนการจดั การเรยี นรู้ตามรปู แบบ 4 MAT - ศึกษารปู แบบวธิ ีการสอนแบบ 4 MAT เพอื่ พฒั นาทกั ษะการปฏิบัติไปใช้ในการจัดการเรียน - ศึกษารปู แบบวิธกี ารสอนแบบทกั ษะการปฏบิ ตั ิ การสอน - ศกึ ษารูปแบบวิธีการสรา้ งสื่อผสมและการเผยแพร่บน - เรือ่ งการจดั การขอ้ ความไปใช้ในการจัดการเรียน การสอน ระบบออนไลน์ - จัดทาแผนการจัดการเรยี นร้รู ูปแบบ 4 MAT เพ่ือพฒั นาทกั ษะการปฏิบตั ิ - สรา้ งนวตั กรรมสอ่ื ผสมเร่ืองการจดั การขอ้ ความ
สรา้ งนวัตกรรมส่ือผสม เรอ่ื งการจัดการขอ้ ความ ศึกษาวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น /หลกั สูตร / ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ ศกึ ษารปู แบบวธิ ีการสอนแบบ สรปุ และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ทกั ษะการปฏบิ ัติ เพอื่ ปรบั ปรงุ และพฒั นาอยา่ งต่อเน่อื ง จดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้รปู แบบ 4 MAT เพื่อพฒั นาทักษะการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ 4MAT)
ขนั้ ตอนท่ี 1 ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ด้วยการเปิดเว็บไซต์ http://www.hispeeddesign.com สร้าง หลังจากที่นกั เรียนไดด้ ูเว็บไซตท์ ่ีอาจารยเ์ ตรยี มไว้ใหเ้ รยี บร้อยแลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะคนหาเว็บไซต์ ท่ตี นเองชนื่ ชอบและหาเหตุผลว่าเพราะเหตุใด จากน้ันนักเรียนร่วมกันแลกเปล่ียนเรียนรู้เว็บไซต์ ประสบการณ์ ตา่ ง ๆ ข้นั ตอนที่ 2 นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5 คน แลว้ ให้นักเรียนแตล่ ะคนคดิ เกยี่ วกบั การออกแบบเว็บเพจให้ วิเคราะห์ นา่ สนใจ ประมาณ ๒ – ๓ นาที (Think) จากน้นั ใหแ้ ลกเปล่ยี นความคิดเห็น ระดมความคดิ กบั ประสบการณ์ เพ่ือนในกลุ่มประมาณ ๓ – ๕ นาที (Pair) แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ การเขียน mind mapping ลงใน กระดาษ A4 พรอ้ มนาเสนอโดยวธิ กี ารถ่ายรปู mind mapping สง่ ไปในกลุ่มไลน์ของหอ้ ง นักเรยี น พร้อมทง้ั คาอธบิ ายสั้น ๆ
ขั้นตอนท่ี 3 - นักเรียนศึกษาตัวอย่างเว็บไซต์ ที่ครูนามาเป็นตัวอย่าง จากนั้นให้นักเรียนสังเกต การ ปรับ จัดรูปแบบตัวอักษร การใช้สี การใช้รูปภาพ การใช้การเคลื่อนไหว แล้วสรุปองค์ความรู้ด้วย ตนเอง ประสบการณ์ - สุ่มนกั เรยี นออกมา 3 คน เพอ่ื นาเสนอองคค์ วามรทู้ น่ี ักเรยี นได้ เปน็ ความคิด - นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปถึงหลักการ ของการจดั รูปแบบตัวอักษร การใช้สี การใชร้ ูปภาพ การใช้ การเคลื่อนไหว ตา่ ง ๆ โดยครคู อยให้คาแนะนาในการอภิปราย รวบยอด ข้นั ตอนท่ี 4 นักเรียนศึกษาใบความรูจ้ ากแบบเรยี น “พิกลุ ออนไลน์” และส่ือ วดี โี อ เร่อื งการจดั การขอ้ ความ พัฒนา ด้วยตนเอง พร้อมจดบันทึกเนื้อหาลงในสมุด ความคดิ รวบ ยอด
ขน้ั ตอนท่ี 5 - นักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาและเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามข้อสงสัยเก่ียวกับบทเรียน และ ลงมอื ปฏิบัติ แสดงความคิดเห็น เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้และส่งเสริมให้นักเรียนกล้าแสดงออก โดยครูแนะนา จากกรอบ และอานวยความสะดวกในการสอบถามข้อสงสยั แนวคดิ ที่ กาหนด
ข้ันตอนที่ 6 - ตวั แทนนกั เรยี น 1 คน เลา่ ถึงการทาความดขี องตนเอง เพอื่ ขอเพลง โดยเพ่อื นในห้อง พัฒนา ต้องสามารถยนื ยนั วา่ ส่ิงท่ีเขาเลา่ เป็นเรือ่ งจริง แล้วใหเ้ พ่อื นในหอ้ งลงมติ วา่ จะเปิดเพลง ตามท่ีเขาขอหรือไม่ โดยวิธีการโหวต (เปดิ เพลงใหน้ ักเรยี นฟังในขณะท่ที า Workshop 2 ความคดิ รวบ เพือ่ ให้ผเู้ รียนเกิดสมาธใิ นการเขยี นโปรแกรม มคี วามสุข สนกุ กบั การเรยี น ทาให้ผลงาน ยอด ออกมาดมี คี ุณภาพ) - ครชู ี้แจงเกณฑก์ ารประเมนิ ก่อนใหน้ กั เรยี นลงมือทากิจกรรม - นกั เรยี นเขียนโปรแกรมโดยใชช้ ดุ คาสั่ง พร้อมกับจดบันทึกผลท่ไี ดจ้ ากการปฏบิ ตั ิตามใบ งานกิจกรรม Workshop 2 - ในขณะทน่ี กั เรยี นปฏบิ ัตกิ ารเขยี นโปรแกรมนน้ั ครูผู้สอนเดินสงั เกตการทางานและคอย ใหค้ าแนะนา นักเรียนที่มขี อ้ สงสยั ในบทเรียน
ข้นั ตอนที่ 7 นักเรียนวิเคราะหช์ ้ินงาน การออกแบบเวบ็ เพจหรือขอ้ ความในเว็บเพจ เปน็ สิง่ ที่สาคัญมากในการ วเิ คราะห์ ออกแบบเว็บเพจ ซึ่งจะดูน่าสนใจ จูงใจ ให้ผู้ใช้เข้ามาอ่าน โดยการตกแต่งด้วยแท็กต่าง ๆ ใน คุณคา่ และ ภาษา HTML เช่น รูปแบบของตัวอักษร สีของตัวอักษร สีพื้นของเว็บเพจ และการเคล่ือนไหว ประยกุ ต์ใช้ ของตัวอักษร ชน่ื ชมกบั ความสาเร็จ และวพิ ากษว์ จิ ารณ์ผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ เพื่อปรับปรุงงาน ของตนใหด้ ีขึน้ และนาไปประยกุ ต์ใช้ตอ่ ไป ขนั้ ตอนที่ 8 นกั เรียนนาผลงานของตนเองแสดงบนหนา้ จอโปรเจคเตอรห์ น้าชัน้ เรียนและร่วมกันแลกเปลย่ี น แลกเปลย่ี น เรียนรู้ แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั การจัดการข้อความ โดยนักเรยี นวิพากษ์วจิ ารณ์อย่าง ประสบการณ์ สรา้ งสรรค์และยอมรบั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื กบั ผู้อ่นื
6. ผลการดาเนนิ การ/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ จากการดาเนินการจัดการเรียนรู้รูปแบบ 4 MAT เพ่ือพัฒนาทักษะการปฏิบัติ โดยใช้ นวตั กรรมสอ่ื ประสม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทาให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/5 ร้อยละ 80 มที ักษะในการปฏิบตั ิ ประสิทธิภาพของนวัตกรรมท่ีกาหนด 80/80 ได้ค่า คานวณประสิทธิภาพ 82/85 ได้ค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนด นักเรียนมี ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนดีข้ึน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/5 ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การ ประเมนิ ที่กาหนด
6. ผลการดาเนนิ การ/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชนท์ ี่ได้รบั (ตอ่ ) กระบวนการจัดการเรียนร้แู บบ 4 MAT เพือ่ พฒั นาทกั ษะการปฏิบตั ิ โดยใช้นวัตกรรมสอ่ื ประสม เป็นการ จัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ นกั เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ นักเรียนจะได้ประสบการณ์จากการเรียนรู้ มี การทางานร่วมกนั ระดมความคดิ และนาเสนอ นักเรียนสามารถสบื คน้ ศึกษาดว้ ยตนเอง มีการสังเกตและสรปุ องคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ทาใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้เต็มศักยภาพ นอกจากนี้ยังขยายผลการดาเนินงานโดยการ แลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพื่อนครูทั้งในและนอกโรงเรียน และบูรณาการเน้ือหากับวิชาอื่น เพ่ือการสร้างสื่อ นวตั กรรมและปรบั ปรงุ พฒั นาอย่างต่อเนื่อง
7. ปจั จัยความสาเรจ็ ครูผ้สู อนที่ตระหนกั และเห็นความสาคัญในการจดั การเรยี นรูแ้ ละมคี วามพยายามท่ี จะพัฒนาทักษะการปฏิบัติของผู้เรียนและสร้างนวัตกรรมส่ือการเรียนรู้ที่ทันสมัย น่าสนใจ โดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เพ่ือพัฒนาทักษะการปฏิบัติ โดยใช้นวัตกรรมสื่อ ประสม เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม ด้วย ภาษา HTML ใหด้ ขี ึ้น
7. ปจั จยั ความสาเร็จ (ต่อ) นอกจากนีย้ ังมีปัจจัยภายนอกที่ทาให้ประสบผลสาเรจ็ มกี ารพัฒนาอยา่ งต่อเนื่องและย่งั ยนื ไดแ้ ก่ - ผอู้ านวยการ รองผู้อานวยการ ใหค้ วามสาคญั สนบั สนนุ และมีนโยบายในการสร้างกลุ่ม เครอื ข่ายครูในกลมุ่ สาระโดยการใหป้ ระชมุ PLC เพ่อื พฒั นาครแู ละนกั เรียน - ศึกษานิเทศก์และเพ่ือนครู ให้ความช่วยเหลือ ให้คาปรึกษา แนะนาและแลกเปล่ียน เรยี นรู้ - ผู้เช่ยี วชาญใหค้ วามช่วยเหลือช้แี นะ - มกี ารนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อยา่ งเหมาะสม - นักเรยี นมคี วามม่งุ มนั่ ที่จะพฒั นาตนเอง - นักเรียนมีความสนใจอยากรู้ อยากปฏิบตั ิ และเรยี นอยา่ งมีความสขุ
8. บทเรียนท่ไี ดร้ ับ (Lesson Learned) - นักเรียนมีทักษะในการปฏิบัติงานมากข้ึน ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ 4 MAT โดยใช้นวัตกรรมสอื่ ผสม - มนี วตั กรรมส่อื ผสมท่ที นั สมัย น่าสนใจและมกี ารปรบั ปรงุ พัฒนาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
แนวทางในการพฒั นาให้สาเรจ็ มากยิง่ ข้ึน - ในขั้นขยายความรู้ควรลดเวลาในการให้ความรู้แล้วเพิ่มเวลาให้นักเรียนใน ข้ันตอนท่นี กั เรยี นคิดรวบยอด - ควรเพม่ิ ขน้ั ตอนในการรู้จกั ตนเองและมกี ารวิเคราะห์ผู้เรยี นรายบุคคล
ข้อเสนอแนะในการนาไปใช้ - ผู้สอนจาเป็นจะต้องศึกษาและทาความเข้าใจต่อทฤษฎี หลักการและข้ันตอนการจัดการ เรียนรู้อย่างละเอียด เพ่ือท่ีจะสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตรงตามหลักการพัฒนาสมอง และความแตกต่างของนักเรียนและสอดคล้องกับเน้ือหาท่ีจะสอน และก่อนการจัดการเรียนรู้ ผสู้ อนควรมีการชี้แจงรายละเอียดของการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ เพ่ือท่ีนักเรียนจะได้ ทราบถงึ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการจัดกจิ กรรมในแตล่ ะขัน้ และมเี ป้าหมายในการเรยี นมากข้ึน - ต้องจัดกิจกรรมให้มีความต่อเน่ือง เพื่อให้นักเรียนเกิดการเช่ือมโยงของสมองซีกซ้าย และซีกขวา ดังนั้น ผู้สอนจึงต้องวางแผน เร่ืองเวลาในการจัดการเรียนรู้ เพื่อที่จะไม่ใช้เวลา มากเกินไปหรือนอ้ ยเกนิ ไปในบางขัน้ ตอน - ในการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนจะต้องมีความพร้อมท้ังในด้านกิจกรรม สื่อการสอน อุปกรณ์การสอน เพ่ืออานวยความสะดวกต่อการเรยี นรขู้ องนักเรียน - ควรมีการศึกษาการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MATที่มีต่อทักษะอ่ืน ๆ เช่น การคิด สร้างสรรค์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ เปน็ ตน้
9. การเผยแพร่ผลงาน - เผยแพร่ให้นักเรียนและผู้ท่ีสนใจเข้าไปเรียนรู้ในระบบออนไลน์ ผ่านช่องทาง youtubechanal, www.facebookและกลุ่ม Line เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ตลอดเวลา มีความเข้าใจในเนื้อหาวิชาท่ีเรียน และเช่ือมโยงการเรียนรู้น้ันสู่การนาไป ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั สามารถเข้าถงึ เนอื้ หา ณ เวลาและสถานท่ีใดก็ได้ตามความ สะดวก และผู้เรียนมีช่องทางแลกเปล่ียนเรียนกับเพื่อนร่วมห้องมากขึ้น สามารถ สอบถามพูดคยุ ก่อใหเ้ กิดความสัมพนั ธ์อนั ดี - เผยแพร่ใหแ้ กค่ ณะครใู นโรงเรยี น - เผยแพร่ในการจัดกิจกรรมครูมืออาชีพ/งานวชิ าการ - ผ้บู ริหารและคณะครูในโรงเรยี นยอมรับและช่ืนชม พรอ้ มใหก้ าลงั ใจในการทางาน
รปู ภาพประกอบการจัดการเรยี นการสอน
รปู ภาพประกอบการจัดการเรยี นการสอน
รปู ภาพประกอบการจัดการเรยี นการสอน
รปู ภาพประกอบการจัดการเรยี นการสอน
รปู ภาพสื่อประกอบการจดั การเรียนการสอน
รปู ภาพสื่อประกอบการจดั การเรียนการสอน
รปู ภาพสื่อประกอบการจดั การเรียนการสอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: