Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore clasroom

clasroom

Published by jeerawanjibjib001, 2021-04-01 13:04:28

Description: clasroom

Search

Read the Text Version

วิจยั ในช้ันเรยี น (Classroom Action Recherch) เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน เรอ่ื ง สารพนั ธกุ รรม โดยการจดั การเรียนรู้แบบสืบเสาะ(5E) ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2/3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ ชื่อผวู้ จิ ัย นางสาวจีรวรรณ ปนิ ตาใส ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ สงั กัดสำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

ชือ่ เร่ือง การรายงานผลการวจิ ัย ชอื่ ผ้วู จิ ัย การพฒั นาทกั ษะการอ่านภาษาจีน ด้วยแบบฝึกการอา่ นพินอนิ ทีผ่ สู้ อนจดั ทำขึน้ สำหรับ ปญั หา นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2/3 จำนวน 18 คน นางสาวจรี วรรณ ปินตาใส จะมวี ิธใี ดท่จี ะพัฒนาทกั ษะการอา่ นภาษาจนี นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2/3 จำนวน 18 คน ทอ่ี า่ นคำภาษาจีนไม่ไดต้ ามเพื่อนในห้อง สภาพปญั หาและเหตุ สภาพการสอนภาษาจีนในระดบั มธั ยมศึกษาในปจั จบุ ันยงั มีปัญหาอยู่ มาก เช่น ปญั หาการเรยี นการ สอนภาษาจนี ท่ีได้มาตรฐานไม่เทา่ เทยี มกันในโรงเรียนต่าง ๆ เนอื่ งจาก ยงั ไม่มตี ำ ราเรียนกลาง และมลี ักษณะ การเรียนการสอนต่างคนตา่ งทำ ซึง่ สง่ ผลโดยตรง ตอ่ นกั เรียนทเ่ี รียนภาษาจนี ในระดบั มัธยม (Manomaiwiboon, 2006) นอกจากน้ีงานวิจัยการเรยี นการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ยังแสดงว่ามีประวัติ การ จดั การเรยี นการสอนอย่างยาวนาน แตย่ ังพบปัญหาต่าง ๆ หลายประการซึง่ สว่ นหน่ึงของปัญหา ท่พี บคือ ประสิทธิผลการเรยี นตำ่ ผ้เู รียนจำนวนมากไมส่ ามารถนำ ความรไู้ ปใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ ง มีประสทิ ธภิ าพและ แบบเรยี นท่ใี ช้ในประเทศไทยขาดความเหมาะสม (Nuansri, 2015) แบบ เรียนทน่ี ยิ มใช้ไม่วา่ จะเปน็ การเรียน การสอนในระบบหรอื นอกระบบ มีการใช้แบบเรยี นทีผ่ ลิต จากประเทศจีนเสยี เป็นสว่ นใหญ่ ตลอดจนวธิ ีการ สอนไมส่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของ ผูเ้ รียน ครูผสู้ อนขาดเทคนคิ การสอนที่จะดึงดดู ใหผ้ ู้เรียนต้ังใจและ สนใจเรียนภาษาจนี การเรยี น การสอนภาษาจนี ในประเทศไทยโดยทวั่ ไปยงั ใช้ระบบเกา่ ซึ่งเน้นการท่องจำ อ่าน คดั เขียนโดย ไม่เกดิ แรงจูงใจในการท่จี ะนำ ไปใชใ้ นชีวติ จริง อีกท้ังตำ ราทใี่ ชต้ ่าง ๆ ยังมีความล้าหลัง สภาพปัญหาท่ผี สู้ อนพบในการสอนในโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์ 31 โดยเฉพาะ นกั เรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2/3 จำนวน 18 มีปญั หาทักษะการอ่านคำภาษาจีน ซงึ่ เป็นทักษะพนื้ ฐานและจำเปน็ ในการ เรยี นภาษาจนี ผสู้ อนพบปัญหา นักเรยี นดงั กล่าวจำเป็นท่ีต้องไดร้ ับการพฒั นาในจดุ น้ี เพื่อให้นักเรยี นไดก้ ้าว ขา้ มไปเรยี นร้ทู ี่มากขึ้น ไดเ้ รียนทันตามเพอ่ื นในห้อง นักเรียนจะเกิดความมนั่ ใจมากขึน้ ในการอ่าน สง่ ผลค่อไป ในการสรา้ งแรงจงู ใจในการเรียนภาษาจนี มากข้ึน ผสู้ อนคิดหาวิธใี นการพัฒนาการอา่ นคำในภาษาจีน ด้วยแบบ ฝึกการอ่านพนิ อิน

วิธกี ารแกไ้ ข 1. นักเรยี นได้เหน็ ข้อผดิ พลาดการอ่านอักษรจนี ของตนเองและพร้อมทจ่ี ะแก้ 2. นักเรียนได้ร้แู ละเข้าใจหลักการอา่ นทถี่ ูกต้องตามหลักไวยากรณภ์ าษาจีนซง่ึ มีหลักยดึ พนื้ ฐานง่ายๆ 3 ขัน้ ตามท่ีผู้สอนรวบรวมจากข้อผดิ พลาดของนักเรยี น 3. รูห้ ลกั การอา่ นพินอนิ บื้องต้น 4. นกั เรยี นจับคฝู่ กึ อา่ นโดยใช้แบบฝกึ การอ่านพินอิน ดว้ ยการชว่ ยกนั จำการอา่ นบนั ทกึ ผลการอา่ น 5. ประเมนิ การอ่านโดยใช้แบบบันทกึ ผลการประเมินประจำวนั และ แบบสังเกตการอา่ น การเก็บรวบรวมข้อมลู ใช้วิธกี ารเก็บขอ้ มูล 2 วธิ ีคือ 1. ประเมินจาก “แบบบนั ทึกผลการประเมนิ ประจำวัน” โดยให้นกั เรยี น และ เพอ่ื นเปน็ ผู้ประเมิน 2. ประเมินจาก “แบบสังเกตการอ่าน” โดยครูเป็นผู้ประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ดี การอ่านพนิ อนิ ปานกลาง อ่านผิด 1-3 จดุ ปรับปรงุ อา่ นผดิ 4-6 จุด อ่านผิด 7 จดุ เปน็ ต้นไป ชว่ งเวลาดำเนนิ การ สัปดาห์ท่ี 1 – สัปดาห์ท.่ี ........จำนวน วนั ผลการประเมิน 1. ผลการประเมินจากแบบบนั ทึกประจำวัน การอา่ นพนิ อิน (รอ้ ยละ) ดี ปานกลาง ปรับปรุง 4.65% 53.48% 41.86%

2. ผลจากการประเมนิ แบบสังเกต ดี การใช้ภาษา (รอ้ ยละ) ปรับปรุง 34.88% ปานกลาง 20.93% 44.18% สรปุ ผล จากการท่ีผสู้ อนได้ทำการวจิ ัยการพัฒนาทกั ษะการอ่านพินอินนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2/3 จำนวน 18 คน ซงึ่ เป็นกระบวนการท่ีผสู้ อนไดพ้ ฒั นามาจากการรวบรวมข้อผิดพลาดและจุดอ่อนของนักเรียนซง่ึ เปน็ ขอ้ บกพร่อง ทเี่ ปน็ ปัญหาของนักเรยี นไทยท่ีเรยี นภาษาจีนเป็นส่วนใหญ่ สรุปผลไดว้ ่า 1. ผลการวิจยั ทไ่ี ดแ้ สดงใหเ้ ห็นว่านกั เรยี นมีพัฒนาการการอ่านคำภาษาจีนทีด่ ี เป็นท่ีนา่ พอใจสำหรบั ผสู้ อน 2. นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/3 จำนวน 18 คน มที กั ษะการอ่านพินอิน 3. นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2/3 จำนวน 18 คนมที ัศนคตทิ ่ดี ีต่อการอา่ นภาษาจนี เพราะนักเรยี น มคี วามสนใจ และพงึ พอใจกับผลงานของตนเอง ไดป้ ระเมนิ งานของตนเองและเปรยี บเทียบกับ ของเพื่อน 4. การทน่ี กั เรียนไดม้ สี ่วนร่วมในการเรยี นรูร้ ว่ มกนั และประเมินผลงานของตวั เองและเพื่อน ทำให้ นกั เรียนมคี วามกระตือรือรน้ ในการปฏิบตั แิ ละเกิดการเปรียบเทยี บผลงานกบั เพื่อนและนำมา ปรับปรงุ งานเขยี นของตนเอง ข้อเสนอแนะ 1. การพฒั นาทักษะการอา่ นของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ควรมีการพัฒนาต่อเนื่องและสูงข้นึ อกี ในระดับหนึง่ เพื่อเปน็ การพฒั นาที่ถาวร 2. ในระหว่างการทำการฝึกปฏบิ ัตคิ วรมกี ารใหร้ างวัลอื่น ๆ หรอื มกี ารแขง่ ขันการอ่านเร็ว เพ่ือเป็น การกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรยี นที่เรียนชา้

รายชอื่ นักเรียนช้นั ม.2/3 (กล่มุ ทำการวิจัย) ท่ี รายช่ือ Grade 1 ด.ช. กรกช สริ พิ นิดากุล (55) 1.5 2 ด.ช. ไกรสร เมฆอรณุ กร (50) 1 3 ด.ช. ถริ วฒั น์ วิทยาวัฒนวนั ชยั (50) 1 4 ด.ช. ธนภทั ร อินตะ๊ (50) 1 5 ด.ช. ปฏภิ าณ เมษบุญเขต (50) 1 6 ด.ช. ประเพชร หนนุ ทรัพย์เงินดี (50) 1 7 ด.ช. ไมตรี ศกั ดิโ์ ชตินธิ ิกุล (55) 1.5 8 ด.ช. วรยศ แจ่มปัญญาไพรวลั ย์ 9 ด.ช. วรี ภัทร เรืองกิจขยัน 0 10 ด.ญ. กนกพร โท๊ะคำ (50) 1 11 ด.ญ. กัญญารตั น์ มรพุ งศ์ (50) 1 12 ด.ญ. ธนพร นายวรรณ (50) 1 13 ด.ญ. พรไพลนิ ลักขณาวารีไพร (50) 1 (50) 1 14 ด.ญ. พรรษชล กติ ตเิ ดชอมร 15 ด.ญ. เมธาวี มาลีวรสทิ ธ์ิ (55) 1.5 16 ด.ญ. รัตนา ภมู อิ นนั ต์พนาไพร (50) 1 (56) 1.5 17 ด.ญ. สทุ ธกิ า บรบิ ทคุณธรรม 18 ด.ญ. อภสิ รา เวนวล (50) 1 (50) 1

แบบทดสดสอบอา่ นพินอิน (ก่อน-หลงั ) 1. Jiějie 2. dìdi 3. gēge 4. mèimei 5. bàba 6. yéyé 7. nǎinai 8. mángguǒ 9. píngguǒ 10. xièxie

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นพนิ อนิ

แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นพนิ อนิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook