Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มัทนะพาธา

มัทนะพาธา

Published by Natthida Promrak, 2023-03-09 07:56:05

Description: “มัทนะพาธา” แปลว่า “ความเจ็บปวดหรือความเดือดร้อนเพราะความรัก” เหมือนดังคำประพันธ์ที่ว่า

Search

Read the Text Version

สารบัญ หน้า ก เรื่อง 1 บรรณาธิการ 2 ประวัติผู้แต่ง 3-4 ความเป็นมา 5 แนะนำตัวละคร 6-7 เนื้ อเรื่อง 8 ลักษณะคำประพันธ์ วรรณศิลป์

ก บรรณาธิการ หากกล่าวถึงดอกกุหลาบในฐานะดอกไม้แห่งความรัก เชื่ อแน่ว่าคนไทยหลายคนไม่เพียงแต่รับรู้คตินิยมเกี่ยวกับ ดอกไม้ชนิดนี้ในวัฒนธรรมตะวันตกเท่านั้น แต่น่าจะนึกไปถึงพระราชนิพนธ์เรื่อง “มัทนะพาธา” หรือที่รู้จักกันเป็นอย่าง ดีในชื่ อตำนานดอกกุหลาบ วารสารฉบับนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับวรรณคดีเรื่องมัทนะพาธามากยิ่งขึ้น “มัทนา” หรือ “มทน” หมายถึง ความลุ่มหลงหรือความรัก “มัทนะพาธา” แปลว่า “ความเจ็บปวดหรือความเดือดร้อนเพราะ ความรัก” เหมือนดังคำประพันธ์ที่ว่า ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด กำลังคึกผิขังไว้ ความรักเหมือนโคถึก บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ก็โลดออกจากคอกไป ก็ดึงไปด้วยกำลัง บ่ หวนคิดถึงเจ็บกาย ถึงหากจะผูกไว้ ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง โดยกองบรรณาธิการหวังว่าบทความฉบับนี้จะสื่ อให้ผู้อ่านได้เข้าถึงถ้อยคำที่ สื่ ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครตลอดจนมีการวางโครงเรื่องชวนให้ติดตาม ทั้งยังสอดแทรกคติสอนใจเรื่องความรัก ความลุ่มหลง เเละทุกข์ระทมเพราะรักได้อย่างซาบซึ้ งกินใจอีกด้วย ที่ ปรึกษา บรรณาธิการ ครูณชนก สุวรรณหลิ่ม ณัชชา เดชอยู่เอี่ยม ปริญญา ดิษฐรักษ์ กองบรรณาธิการนักเรียนชั้ นมัธยมศึ กษาปีที่ ๕/๗ ปี ๒๕๖๕ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ๑๒๕ ถนนพิพิธภักดี ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ๙๕๐๐๐

1 ประวัติผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ มีพระนามเดิมว่า มหาวชิราวุธ เป็นโอรสองค์ที่ ๒๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๒๓ ทรงศึกษาในประเทศไทยจนพระชนมายุได้ ๑๔ พรรษา ก็เสด็จไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาเสด็จนิวัติ ประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๓๘ เพื่อรับการ สถาปนาเป็นเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสยามมกุฎราชกุมาร ( ผู้ที่จะได้เป็นพระมหากษัตริย์องค์ต่อไป ) และทรงกลับไปศึกษาวิชาทหาร ณ โรงเรียน ทหารบกที่แซนด์เฮิซต์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้เข้าศึกษาวิชาประวัติศาสตร์และวิชากฎหมาย ณ มหาวิทยาลัย ออกซฟอร์ด แต่ทรงพระปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์เป็นพิเศษ จนแต่งบทละครเป็นภาษาอังกฤษได้ เมื่อสำเร็จการศึกษา พระองค์ทรงเสด็จประพาสยุโรปก่อน แล้วจึงเสด็จนิวัติประเทศไทย เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ขณะมีพระชนมายุ ๓๐ พรรษา สวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ (ครองราชย์ ๑๕ ปี พระชนมายุ ๔๕ พรรษา) วัตถุประสงค์ในการพระราชนิพนธ์เรื่อง มัทนะพาธา ทรงตั้ง พระทัยเพื่อเป็นหนังสืออ่านกวีนิพนธ์ที่สนุกสนานในด้านเนื้อหา และเป็นคติสอนใจให้เห็นถึงอานุภาพของ ความรัก

มัทนะพาธาเป็นบทละครพูดคำฉันท์ ๕ องค์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๖ ขณะทรงพระ ประชวรประทับอยู่ ณ พระราชวังพญาไท และเมื่อเสด็จไปประทับแรมที่ต่าง ๆ ก็ทรงพระราชนิพนธ์ไปด้วยจนจบสมบูรณ์เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ ได้ทรงแปลวัฒนธรรมขึ้นเป็นร้อยแก้วภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยอภิธานศัพท์ มัทนะพาธาเป็นบทละครพูดที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคิด เรื่องขึ้นมาเอง โดยสรรหาคำบาลี-สันสกฤต จึงทรงเลือกใช้คำว่า มัทนา มาจาก ศัพท์ มัทน แปลว่า “ความลุ่มหลงหรือความรัก” เมื่อทรงพบศัพท์ “มัทนะพาธา” ซึ่ งแปลว่าความเจ็บปวด หรือเดือดร้อนแห่งความรัก ซึ่ งได้ตรงกับแก่นเรื่องของบท ละคร บทละครพูดเรื่องมัทนะพาธาเป็นเนื้อเรื่องที่สมมุติว่า เป็นจุดกำเนิดของต้น กุหลาบ มีการผูกเรื่องให้เกิดความขัดแย้งกันซึ่ งเป็นปมปัญหาของเรื่อง โดยสุเทษม์เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ หลงรักนางมัทนา แต่นางไม่รักตอบ จึงสาปให้มัทนา เกิดเป็นดอกไม้ที่โลกมนุษย์ และนางมัทนาได้มีความรักกับท้าวชัยเสนพระนางจันที่ ซึ่ งเป็นพระมเหสีก็ไม่พอพระทัย และกลั่นแกล้งให้มีอันต้องจากกัน บทละครเรื่องนี้ แต่งเพื่อให้มุ่งเน้นสัจธรรมของความรักดั่งคำนิยามว่า “ที่ ใดมีรักที่ นั่ นมีทุกข์”

แนะนำตัวละคร 3 มัทนา เป็นหญิงซื่ อสัตย์ นิสัยตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พูด อย่างนั้น ไม่รักก็บอกตรง ๆ ไม่พูดปดหลอกลวง ไม่มี เล่ห์เหลี่ยม พูดแต่ความจริง แต่ความจริงที่นางพูดทำให้ นางต้องได้รับความลำบากทุกข์ระทมใจ สุเทษณ์ เป็นเทพบุตรที่หมกมุ่นในตัณหาราคะ เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตนเอง และไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น มายาวิน ผู้มีวิชาอาคมใช้เวทย์มนต์เรียกนางมัทนามาพบสุเทษณะเทพบุตร์ ทั้ง ๆ ที่ยังหลับไหล อันเป็นบ่อเกิดแก่โทสะของสุเทษณะเทพบุตร์ ต่อนางมัทนา

แนะนำตัวละคร 4 ท้าวชัยเสน เป็นผู้ชายที่มีรูปงามกริยาสง่าและมีความรู้ความเชี่ ยวชาญใน วิชาการอย่างกว้างขวาง มีวาจาไพเราะอ่อนหวาน เชื่อคนง่าย ใช้อารมณ์ขาดเหตุผล มีความมั่นคงในความรัก มีความหึง หวงมากจนทำให้ขาดสติ และเป็นคนหูเบา นางจัณฑี เป็นผู้มีความอิจฉา ริษยา รักด้วยความลุ่มหลง เห็น ผิดเป็นชอบจากการคิดทำเสน่ห์ ขาดคุณสมบัติของ หน่อกษัตริย์ ฤาษีกาละทรรศิน จิตระรถ จิตระเสน เป็นฤาษีที่มีจิตใจดีมีความเอื้อเฟื้ อเผื่อแผ่ มีความ เมตตากรุณายินดี เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสมอและยื่น เป็นผู้รับใช้ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเจ้านาย ทั้ง เสาะแสวงหาหญิงงามมาให้สุเทษณ์ อีกทั้งยัง มือเข้าไปช่วยเหลือ ให้มายาวินใช้มนตร์สะกดนางมัทนามาหาเจ้า นายโดนำม่คำนึงถึงความถูกต้อง

5 เนื้ อเรื่อง กล่าวถึงสุเทษณ์เทพบุตร ซึ่งในอดีตกาลเป็นกษัตริย์ครองแคว้นปัญจาล มัทนาเป็นพระธิดากษัตริย์ของแคว้นสุราษฎร์ สุเทษณ์ได้ส่งทูตไปสู่ขอนาง แต่ ท้าวสุราษฎร์พระบิดาของนางไม่ยอมยกให้ สุเทษณ์จึงยกทัพไปรบทำลายบ้าน เมืองของท้าวสุราษฎร์จนย่อยยับ และจับท้าวสุราษฎร์มาเป็นเชลย และจะ ประหารชีวิต แต่มัทนาขอไถ่ชีวิตพระบิดาไว้ โดยยินยอมเป็นบาทบริจาริกาของ สุเทษณ์ ท้าวสุราษฎร์จึงรอดจากพระอาญา จากนั้นมัทนาก็ปลงพระชนม์ ตนเอง และไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์นามว่า มัทนา ส่วนท้าวสุเทษณ์ก็ทำ พลีกรรมจนสำเร็จ เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ไปบังเกิดบนสวรรค์เช่นกัน ด้วยผลกรรม ที่เคยได้นางมาเป็นคู่ทำให้มีโอกาสได้พบกันอีกบนสวรรค์ แต่นางมัทนาก็ยัง ไม่มีใจรักสุเทษณ์เทพบุตรเช่นเดิม ณ วิมานของสุเทษณ์ ได้มีคนธรรพ์เทพบุตร เทพธิดาที่เป็นบริวารต่างมา บำเรอขับกล่อมถวาย แต่ถึงกระนั้นสุเทษณ์เทพบุตรก็ไม่มีความสุขเพราะรัก นางมัทนา แต่ไม่อาจสมหวัง เพราะผลกรรมที่ทำไว้ในอดีต จึงให้วิทยาธรชื่อ มายาวินใช้เวทมนตร์คาถาไปสะกดให้นางมายังวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร ฝ่ายมัทนาเมื่อถูกเวทย์มนตร์สะกดมา สุเทษณ์จะตรัสถามอย่างไรนางก็ทวน คำถามอย่างนั้นทุกครั้งไป จนสุเทษณ์เทพพระบุตรขัดพระทัย รู้สึกเหมือนตรัส กับหุ่นยนต์ จึงให้มายาวินคลายมนตร์สะกด เมื่อนางรู้สึกตัวก็ตกใจกลัวที่ล่วงล้ำ เข้าไปถึงวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร สุเทษณ์เทพบุตรถือโอกาสฝากรัก มัทนา แสดงความจริงใจว่า นางไม่ได้รักสุเทษณ์เทพบุตรจึงไม่อาจรับรักได้ เมื่อได้ยิน ดังนั้นสุเทษณ์เทพบุตรรู้สึกกริ้วนางมัทนาเป็นที่สุด จึงสาปให้มัทนาจุติจาก สวรรค์ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบในป่าหิมาวันในโลกมนุษย์ และเปิดโอกาสให้นาง กลายร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อถึงคืนวันเพ็ญเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านั้นเมื่อใด ที่นางมีรักเมื่อนั้นจึงจะพ้นคำสาป และกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างปกติ หากเมื่อใดที่นางมีทุกข์เพราะความรักก็ให้นางอ้อนวอนต่อพระองค์จึงจะยก โทษทัณฑ์ให้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สาเหตุของปมขัดแย้งในเรื่อง คือ สุเทษณ์รัก นางมัทนาแต่นางไม่รักตอบ

6 ลักษณะคำประพันธ์ บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ประกอบด้วยคำประพันธ์หลายชนิดดังนี้ ๑. กาพย์ ๓ ชนิด คือ กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ และกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ๒. ฉันท์ ๒๑ ชนิด เช่น วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ อุปชาติฉันท์ ๑๑ ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ อินทวงศ์ฉันท์ ๑๒ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ เป็นต้น ตัวอย่าง เช่น อ้ามัทนาโฉมฉาย เฉิดช่วงดังสาย วิชชุประโชติอัมพร ไหนไหนก็เจ้าสายสมร มาแล้วจะร้อน จะรนและรีบไปไหน? ไม้เรียกผะกากุพฺ ชะกะสีอรุณแสง ปานแก้มแฉล้มแดง ดรุณี ณ ยามอาย ดอกใหญ่และเกสร สุวคนธะมากมาย อยู่ทน บ วางวาย มธุรสขจรไกล กาพย์สุรางคนางค์ 28 แน่ะมายาวิน เหตุใดยุพิน จึ่งเป็นเช่นนี้ ดูราวมะเมอ เผลอเผลอฤดี ประดุจไม่มี ชีวิตจิตใจ คราใดเราถาม หล่อนก็ย้อนความ เหมือนเช่นถามไป ดังนั้นจะยวน ชวนเชยฉันใด ก็เปรียบเหมือนไป พูดกับหุ่นยนต์

ครุ ลหุ 7 คำครุ แปลว่า เสียงหนัก สัญลักษณ์ “ อั “ ประกอบด้วย พยางค์ที่มีสระเสียง ยาวไม่มีตัวสะกด เช่น มาหา พารา พยางค์ที่มีตัวสะกดทั้ง 8 แม่ เช่น รัก ชิด ชอบ ฯลฯ พยางค์ที่มีสระ อำ ไอ ใอ เอา เช่น เรา จำ ใจ ไป คำลหุ แปลว่า เสียงเบา สัญลักษณ์ “ อุ “ ประกอบด้วย พยางค์ที่มีสระเสียงสั้ น ไม่มีตัวสะกด เช่น มะลิ ชิชะ ก็ เถอะ พยางค์ที่มีตัวพยัญชนะตัวเดียว เช่น ณ บ ธ ตัวอย่าง ที่ พันผูกจิต อยู่บัดนี้ นา อันเวทอาถรรพณ์ จากจิตกัญญา แห่งนางมิ่งมิตร สวัสดีสวาหาย จงเคลื่อนคลายฤทธิ์ คลายคลายอย่าช้า ตัวอย่าง ดูก่อนสุชาตา มะทะนาวิไลศรี ยามองค์สุเทษณ์มี วรพจน์ประการใด, นางจงทำนูลตอบ มะธุรส ธ ตรัสไซร้ ; เข้าใจมิเข้าใจ ฤ ก็ตอบพะจีพลัน. ตัวอย่าง สุเทษณ์ ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย. มัทนา ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤ จะหายเพราะเคลียคลอ? สุเทษณ์ โอ้โอ๋กระไรนะมะทะนา บ มิตอบพะจีพอ? มัทนา โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอ ดี! สุเทษณ์ เสียแรงสุเทษณ์นะประดิพัทธ์ มะทะนา บ เปรมปรีดิ์. มัทนา แม้ข้า บ เปรมปฺริยะฉะนี้ ผิจะโปรดก็เสียแรง.

วรรณศิ ลป์ 8 รสทางวรรณคดี สั ลปังคพิสั ย โอ้โอ๋ละเหี่ยอุระสดับ วรศัพทะท่านทรง อ้อยอิงแสดงวรประสง- คะณตัวกระหม่อมฉัน แสดงความรู้สึกเศร้าโศกของนางมัทนา พิโรธวาทัง มะทะนาชะเจ้าเล่ห์ ชิชิช่างจำนรรจา ตะละคำอุวาทาฤกระบิคกระบวนความ แสดงความรู้สึกโกรธของสุเทษณ์ คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์ 1) มีการใช้ภาษาที่สละสลวย ตอนใดที่ต้องการดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว ก็ใช้ร้อยแก้ว ตอน ใดที่ต้องการจังหวะเสียง และความคล้องจองก็ใช้กาพย์ หรือตอนใดที่เน้นอารมณ์มากก็มัก ใช้ฉันท์ 2) มีการใช้ศิลปะการประพันธ์ที่ไพเราะ แสดงกวีโวหาร และมีการเล่นคำ เล่นอักษรอย่าง แพรวพราว คุณค่าด้านสั งคม 1) สะท้อนแง่คิดให้คนในสังคมได้เข้าใจพุทธวัจนะ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ว่า เมื่อมีความรัก ต้องรักอย่างมีสติ ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ 2) สะท้อนให้เห็นค่านิยมเกี่ยวกับการครองรักระหว่างหญิงชายต้องเกิดจากความพึงพอใจ ทั้งสองฝ่าย มิใช่เกิดจากการบังคับขู่เข็ญให้รับรัก จึงจะเกิดความสุขในชีวิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook