ระบบย่อยอาหาร จดั ทาโดย นายณฐั วฒุ ิ ศรีใจ โรงเรียนเทพนารี อ.สูงเม่น จ.แพร่
คานา หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ เรื่องระบบยอ่ ยอาหาร สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 เล่มน้ี จดั ทาข้ึนสาหรับใชป้ ระกอบการเรียนการสอน ดาเนินการ สอดคลอ้ งตามกรอบของหลกั สูตรทุกประการ โดยจดั ทาข้ึนในรูปแบบส่ือ อิเลก็ ทรอนิกส์มาตรฐานหรือ EPUB ประกอบดว้ ยเน้ือหาและมลั ติมีเดีย เพ่อื ลด ขอ้ จากดั ในการเขา้ ถึงบทเรียนของผเู้ รียนท่ีมีความแตกต่าง ส่งเสริมการสืบเสาะหา ความรู้ และกระบวนการคิด เน้ือหาในหนงั สือเล่มน้ีประกอบดว้ ยเรื่อง ประเภทของกระบวนการยอ่ ย อาหาร อวยั วะท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การยอ่ ยอาหาร และกระบวนการยอ่ ยอาหาร หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ระบบยอ่ ยอาหาร สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 เล่มน้ีจะอานวยประโยชนต์ ่อผเู้ รียน ผสู้ อน และผทู้ ี่สนใจนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนรู้ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
สารบญั ประเภทกระบวนการย่อยอาหาร อวยั วะที่เก่ียวข้องกบั การยอ่ ยอาหาร ปาก ตอ่ มนา้ ลาย หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลาไส้เลก็ นา้ ยอ่ ยในลาไส้เลก็ ตบั ตบั อ่อน
กระบวนการย่อยอาหาร แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท 1. การยอ่ ยเชิงกล (Mechanical Digestion) เป็นข้นั ตอนที่อาหาร ชิ้นใหญ่ถูกทาใหเ้ ป็นชิ้นเลก็ ลง โดยการ บดเค้ียวดว้ ยฟัน หรือ การบีบตวั ของทางเดินอาหาร
2. การยอ่ ยทางเคมี (Chemical Digestion) เป็นข้นั ตอนท่ีโมเลกลุ ของสารอาหารโมเลกลุ ใหญ่ ถูกเปล่ียนสภาพใหม้ ีโมเลกลุ เลก็ ลง โดยใชเ้ อนไซม(์ Enzyme)เป็นสารประเภทโปรตีนช่วยเร่ง ปฏิกิริยา
กระบวนการย่อยอาหาร • การยอ่ ยทางเคมีจะเกิดข้ึนไดต้ อ้ งใชน้ ้ายอ่ ยเฉพาะอยา่ งปฏิกิริยา เคมีท่ีเกิดข้ึนน้ี จะตอ้ งมีน้าเขา้ มาร่วมในกระบวนการแตกสลาย สารโมเลกลุ ใหญ่ใหม้ ีโมเลกลุ เลก็ ลง เราเรียกกระบวนการแตก สลายสารอาหารที่มีโมเลกลุ ใหญ่ ใหม้ ีโมเลกลุ เลก็ ลงโดยอาศยั น้าวา่ ไฮโดรไลซีส (Hydrolysis) ดงั สมการ เอนไซม์ซเู ครส • C12H22O11 + H2O C6H12O6 + C6H12O6
อวัยวะท่เี ก่ียวข้องกบั การย่อยอาหาร ปาก 1. การยอ่ ยเชิงกล โดยการบดเค้ียวอาหารดว้ ยฟัน 2. การยอ่ ยทางเคมีโดยเอนไซมอ์ ะไมเลส (Amylase)หรือไทยาลิน (Ptyalin ) จะยอ่ ยแป้งใหเ้ ป็น Dextrin ซ่ึงเป็นคาร์โบไฮเดรตที่เลก็ กวา่ แป้ง แต่ใหญ่ กวา่ โมเลกลุ ของน้าตาล และอาจถูกยอ่ ยไปถึงโมเลกลุ เชิงคู่ คือ มอลโทส ได้
เอนไซม์เป็ นสารประเภทโปรตนี 15 ถูก ผดิ
การย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต 15 ถูกย่อยคร้ังแรกบริเวณใดเป็ นอนั ดบั แรก กระเพาะ ปาก ลาไส้เลก็ ลาไส้ใหญ่
ต่อมนา้ ลาย (Salivary glands) สร้างน้าลายไดว้ นั ละ 1-1.5 ลิตร มี pH = 6.0-7.0 มีปริมาณแคลเซียมสูงมาก ช่วยป้องกนั ไม่ให้ แคลเซียมออกจากสารเคลือบฟัน น้าลายประกอบดว้ ย 1. เอนไซม์ อะไมเลส 2. น้า (97-99%) 3. เมือก (musin) เป็นสารคาร์โบไฮเดรตผสมโปรตีน ทาให้ อาหาร รวมกนั เป็นกอ้ นกลืนสะดวก
ต่อมนา้ ลาย (Salivary glands) ของคนมี 3 คู่ 1. ต่อมน้าลายใตล้ ิ้น (sublingual gland) มีต่อมเลก็ ๆ จานวนมาก ต่อมน้ีจะสร้างน้าเมือกมากกวา่ สร้างน้ายอ่ ย 2. ต่อมน้าลายใตข้ ากรรไกรล่าง (submandibulary gland ) มีท่อ วาร์ตนั (warton’s duct) เปิ ดสู่เพดานล่างของปาก ต่อมน้ีสร้าง น้ายอ่ ยอะไมเลส มากกวา่ สร้างเมือก 3. ต่อมน้าลายขา้ งกกหู (parotid gland ) เป็นต่อมน้าลายท่ีมีขนาด ใหญ่ที่สุด ทาหนา้ ที่สร้างน้ายอ่ ยอะไมเลส ถา้ หากมีเช้ือไวรัสเขา้ ไปในต่อมน้ี จะทาใหเ้ กิดคางทูม
น้าแป้งมีอนุภาคขนาดใหญ่จึงไม่สามารถลอดผา่ นกระดาษเซล โลเฟนได้ ซ่ึงกระดาษเซลโลเฟนเปรียบไดก้ บั เยื่อหุ้มเซลล์
หลอดอาหาร ( Esophagus ) เมื่ออาหารผา่ นลงสู่หลอดอาหาร จะทาใหเ้ กิดการหดตวั ของผนงั กลา้ มเน้ือ ติดต่อกนั เป็นลูกคลื่น ซ่ึงเรียกวา่ เพอริสตสั ซีส (Peristalsis) ไล่ใหอ้ าหารเคลื่อน ลงสู่กระเพาะ
กระเพาะอาหาร มีความ ยาวประมาณ 10 นิ้ว กวา้ ง 5 นิ้ว ขณะไม่มี อาหารขนาดประมาณ 50 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร เมื่อ กินอาหารจะขยายไดอ้ ีก 10- 40 เท่า
กระเพาะอาหารจะสร้าง เอนไซมP์ epsin และ Rennin ซ่ึงจะทางานไดน้ ้นั ตอ้ งมี กรดไฮโดรคลอริ (HCl) เป็น ตวั กระตุน้ มาย่อยโปรตนี ใหม้ ีขนาดเลก็ ลงแต่ยงั ไม่ สามารถเขา้ สู่เซลลไ์ ด้
โปรตีน + นา้ เปปซิน เพปไทด์ ( Peptide) โปรตนี ในนา้ นม + นา้ เรนนิน พาราเคซีน (paracasein) อาหารจะอยใู่ นกระเพาะอาหารนานประมาณ 3 ชวั่ โมง อาหาร ท่ีผา่ นกระเพาะจะมีลกั ษณะเหลวเละ เรียกวา่ ไคม์ (Chyme)
ลาไส้เลก็ (Small Intestine) เป็ นส่วนทยี่ าวทส่ี ุดของทางเดนิ อาหาร มีความยาว ประมาณ 6-7 เมตร แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน 1.ดูโอดีนมั (Duodenum) ยาวประมาณ 0.30 เมตร เป็นบริเวณอยู่ ต่อจากกระเพาะอาหาร สารท่ีสร้างจากตบั และตบั อ่อนจะมาที่ ส่วนตน้ ของดูโอดีนมั 2. เจจูนมั (Jejunum) ยาวประมาณ 2.5 เมตร เป็นส่วนท่ีถดั จาก ดูโอดีนมั 3. ไอเลียม (Ileum) ยาวประมาณ 4 เมตร เป็นส่วนที่ติดอยกู่ บั ลาไสใ้ หญ่ มีการยอ่ ยอาหารและดูดซึมอาหาร
ลาไส้ เลก็ ผนงั ดา้ นในของลาไส้เลก็ มีลกั ษณะ เป็นลอนตามขวาง มีส่วนยน่ื เลก็ ๆ มากมายเป็นตุม่ เรียกวา่ วลิ ลสั (Villus พหูพจนเ์ รียกวา่ Villi) ผวิ ดา้ นนอกของเซลลว์ ลิ ลสั ยงั มีส่วน ท่ียน่ื ออกไป เรียกวา่ ไมโครวลิ ไล (Microvilli) เพ่ือเพม่ิ พืน้ ทผี่ วิ ในการ ดูดซึมสารอาหาร
นา้ ย่อยจากลาไส้เลก็ มอลเทส (Maltase) ยอ่ ยมอลโทส ให้กลโู คส ซเู ครส (Sucrase)ยอ่ ยซโู ครส (นา้ ตาล) เป็นกลโู คสและฟรักโทส แล็กเทส (Lactase) ยอ่ ยแล็กโทส ให้กลโู คสกบั กาแลก็ โทส เพปทิเดส (Peptidase) ยอ่ ยเพปไทด์ ให้กรดอะมโิ น อะไมเลส ( Amylase) ยอ่ ยแปง้ ให้มอลโทส ไลเปส (lipase) ยอ่ ยไขมนั ให้เป็นกรดไขมนั และกลีเซอรอล
วลิ ลสั
เอนไซม์จากตับอ่อน ส่งมาท่ีลาไสเ้ พ่อื ช่วยยอ่ ย อะไมเลส (Amylase) ยอ่ ยแป้ง ใหเ้ ป็นน้าตาลมอลโทส ไลเปส (lipase) ยอ่ ยไขมนั ใหเ้ ป็นกรดไขมนั และกลีเซอรอล ทริปซิน (Trypsin) ยอ่ ยโปรตีน ใหเ้ ป็นกรดอะมิโน ตบั อ่อนยงั ส่งโซเดียมไบคาร์บอเนต NaHCO3 มาทาใหใ้ หเ้ กิด สภาพเบสในลาไสเ้ ลก็ นอกจากน้ียงั เป็นแหล่งผลิตฮอร์โมน อินซูลิน เพอื่ ความคุมน้าตาลในเลือด
ตบั อ่อน (pancrese)
บอกช่ือเอนไซม์ท่พี บในร่างกาย 60 Alphabet Buttons Appear Here
ใหน้ กั เรียนต่อภาพดงั ต่อไปน้ี
ภาพต่อไปน้ีเป็ นภาพอะไร
ใหน้ กั เรียนต่อภาพดงั ต่อไปน้ี
ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่ข้อความทส่ี ัมพนั ธ์กนั กระเพาะ Bile ตบั อ่อน HCl ลาไส้เลก็ Vitamin K, B12 ลาไสใ้ หญ่ Tripsin ตบั Parotid gland ต่อมน้าลาย Sucrase
ใหน้ กั เรียนเติมช่ืออวยั วะของร่างกายใหส้ มั พนั ธ์ภาพ. Alphabet Buttons Appear Here
ใหน้ กั เรียนจบั คู่ขอ้ ความที่มีความสมั พนั ธ์กนั ใหถ้ ูกตอ้ ง ตบั เรนนิน (liver) (rennin) กระเพาะ อะไมเลส (stomach) (amylase) ต่อมน้าลาย มอลเทส (salivary glands) (maltase) ลาไส้เลก็ ไลเพส (small intestine) (lipase) ตบั ออ่ น (pancreae) น้าดี (bile)
บรรณานกุ รม http://cms573.bps.in.th/group3/2014-07- 15-03-03-29 https://www.youtube.com/watch?v=0xeW hknbJv0 http://www.mwit.ac.th/~jat/contents/3010 1/%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD %E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E 0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: