เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี
ระบบสารสนเทศ (INFORMATION SYSTEM)คือ ขบวนการประมวลผลข่าวสารที่มีอยู่ ใหอ้ ยูใ่ นรูปของขา่ วสารท่ี เป็นประโยชนส์ ูง สุด เพ่ือเป็นขอ้ สรปุ ทใ่ี ช้สนบั สนุนการตดั สินใจของบคุ คลระดบั บริหาร ขบวนการท่ีทาใหเ้ กดิ ข่าวสารสารสนเทศน้ีPเเครrยี oร่ือกcงeวมา่ssือกiทnาาgรงป)อรแีเะลลม็กะวทเลรรผยี อกลนวผิกธิลสีกส์วาา่ารรปสเทรนะคเมทโวนศลโลผ(ยIลnีสfoารrสmนaเtทioศnด้วย
สารสนเทศ (INFORMATION TECHNOLOGY : IT)เทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยที ่ีประกอบขึน้ ด้วยระบบจดั เกบ็ และประมวลผลขอ้ มูล ระบบสื่อสารโอสทายรรา่สคงนมมเนีปทารศคะทมสีม่ิทแกีธลาิภระาวอพาุปงแกผรณนส์ จนัดับกสานรุนแกลาระปใชฏ้งิบ่าตันิงร่วานมดก้าันน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ มอี งคป์ ระกอบสาคัญ 3 ประการ 1. ระบบประมวลผล ความซบั ซอ้ นในการปฏบิ ัตงิ านและความตอ้ งการสารสนเทศทห่ี ลากหลาย ทาให้การจดั การและการประมวลผลข้อมูลดว้ ยมอื ไม่สะดวก ชา้ และอาจ ผิดพลาด ปจั จุบันองค์การจึงต้องทาการจัดเกบ็ และการประมวลผลขอ้ มูล ดว้ ยระบบอีเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยใช้คอมพวิ เตอร์และอุปกรณส์ นบั สนนุ ในการ จัดการข้อมูล เพ่ือใหก้ ารทางานถกู ตอ้ งและรวดเรว็ ขึน้
เทคโนโลยีสารสนเทศ มีองค์ประกอบสาคญั 3 ประการ 2.ระบบสอื่ สารโทรคมนาคม การสือ่ สารข้อมูลเปน็ เร่ืองสาคัญสาหรบั การจดั การและประมวลผล ตลอดจน การใช้ ข้อมูลในการตดั สนิ ใจ ระบบสารสนเทศที่ดตี อ้ งประยุกต์เทคโนโลยี อีเลก็ ทรอนกิ ส์ในการสื่อสารข้อมลู ระหวา่ งระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ อเี ลก็ ทรอนกิ ส์ และผู้ใช้ท่อี ยู่หา่ งกัน ใหส้ ามารถสื่อสารกันไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ
ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ (MANAGEMENTINFORMATION SYSTEM : MIS) ระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ หมายถึง ระบบท่รี วบรวมและจดั เกบ็ ขอ้ มูล จากแหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ท้งั ภายใน และภายนอกองค์การอย่างมหี ลกั เกณฑ์ เพือ่ นามาประมวลผลและจัดรูปแบบใหไ้ ดส้ ารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการ ทางาน และการตดั สนิ ใจในด้านต่าง ๆ ของผูบ้ รหิ ารเพ่ือให้การดาเนินงาน ขององคก์ ารเป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ โดยทีเ่ ราจะเหน็ ว่า MIS จะประ กอบด้วยหน้าทห่ี ลกั 2 ประการ
ระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ (MANAGEMENTINFORMATION SYSTEM : MIS) 1. สามารถเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งต่าง ๆ ทัง้ จากภายในและ ภายนอกองคก์ ารมาไว้ ดว้ ยกนั อยา่ งเป็นระบบ 2. สามารถทาการประมวลผลขอ้ มูลอย่างมปี ระสิทธิภาพ เพอื่ ใหไ้ ด้ สารสนเทศที่ช่วย สนับสนุนการปฏบิ ัติงานและการบรหิ ารงานของ ผูบ้ รหิ าร
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ แเทลคะอโนุตโสลายหสีการรรสมนเธทรุ ศกมิจตบี ้อทงบกาาทรสระาบคญับสตาอ่ รกสานรเดทาศเนทนิ ม่ี งปี านระทส้งั ทิ รธะดภิ ับาพองเคพ์กอื่ ากราร ดารงอยู่และเจริญเติบโตขององคก์ าร โดยที่เทคโนโลยสี ารสนเทศจะส่วน ชวเพิธว่ ่อืยใี ชใให้งห้กาธ้ นาุรรแกทลจิ าะปงโารคนะรสมงบสีเปผร้า็นลงไสขปาออเงรยร็จะา่ บงแมบลีปสะาสรระาสสมนิทาเรธทถภิ ศแาขพง่สขาจนัมึงกาตรบั ้อถธสงรุ ทรกปุ าิจคสอว่วืน่ านใมปนเรรขะะ้าดกใจบัอถบสงึาขกอลง ระบบสารสนเทศ ได้ 3 สว่ น คือ
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 1. เคร่อื งมอื ในการสร้างระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ หมายถึง ส่วนประกอบหรอื โครงสร้างพ้ืนฐานท่ีรวมกนั เขา้ เป็น MIS และช่วยให้ระบบสารสนเทศดาเนนิ งานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โดย จาแนกเครื่องมือในการสรา้ งระบบสารสนเทศไว้ 2 สว่ น คือ
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 1.1 ฐานข้อมูล (Data Base) ฐานข้อมูล จัดเป็นหวั ใจสาคัญของระบบ MIS เพราะวา่ สารสนเทศทมี่ คี ณุ ภาพจะมาจาก ขอ้ มูลทด่ี ี เชอื่ ถอื ได้ ทันสมยั และถูกจัดเกบ็ อยา่ งเปน็ ระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้ งานได้อย่างสะดวกและรวดเรว็ ดงั น้นั ฐานข้อมูลจึงเปน็ ส่วนประกอบสาคญั ท่ชี ว่ ยให้ระบบ สารสนเทสมีความสมบูรณ์ และปฏิบัตงิ านอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.2 เคร่อื งมอื (Tools) คเปอน็ มเพคิวรอ่ืเตงอมรอื ์เปท่ใีน็ ช้จอัดปุ เกกร็บณแลห์ ะลปักรใะนมกวาลรจผัดลกขาอ้ รมข้อูลมปูลกซตึ่งิระจบะบปสระากรสอนบเดทว้ ศยจสะว่ ในชเ้สคารค่อื ญั งต่อไปนี้
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 3. การแสดงผลลพั ธ์ เมอ่ื ข้อมูลได้ผา่ นการประมวลผล ตามวิธกี ารแลว้ จะได้ สารสนเทศ หรือMIS เกดิ ข้นึ อาจจะนาเสนอในรปู ตาราง กราฟ รูปภาพ หรือเสยี ง เพือ่ ให้การนาเสนอข้อมูลมปี ระสทิ ธภิ าพ จะขึ้นอยู่กบั ลกั ษณะของขอ้ มูล และลกั ษณะของการนาไป ใชง้ าน
คณุ สมบัตขิ องระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการ ปจั จุบนั องค์การสามารถพัฒนาระบบสารสนเทศดว้ ยตนเองหรอื ให้ ผู้เชย่ี วชาญจากภายนอกเข้าดาเนินการ โดยการออกแบบและพฒั นา MIS ท่ีสอดคล้องตามหลักการ ระบบก็จะสามารถอานวยประโยชนใ์ หก้ บั องค์การได้อยา่ งเตม็ ประสิทธิภาพ โดยทก่ี ารพัฒนาระบบสารสนเทศ ตอ้ งคานึงถึงคุณสมบตั ิท่สี าคญั ของ MIS ต่อไปน้ี
คณุ สมบตั ขิ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 1. ความสามารถในการจัดการขอ้ มูล (Data Manipulation) ระบบสารสนเทศทดี่ ตี อ้ งสามารถปรบั ปรุงแก้ไขและจัดการขอ้ มูล เพอ่ื ให้เป็น สารสนเทศที่พรอ้ มสาหรบั นาไปใชง้ านอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ปรกติขอ้ มูลตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกับการดาเนนิ ธุรกิจจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลา ข้อมูลท่ี ถูกป้อนเขา้ สู่ MIS ควรท่ีจะไดร้ ับการปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นารูปแบบ เพื่อให้ ความทันสมยั และเหมาะสมกบั การใชง้ านอยู่เสมอ
คณุ สมบตั ิของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ 2. ความปลอดภยั ของข้อมูล (Data Security) บระาบงบสารสนเทศเป็นทรัพยากรท่ีสาคญั อกี อยา่ งขององค์การ ถา้ สารสนเทศ ประเภทร่วั ไหลออกไปสู่ บคุ คลภายนอก โดยเฉพาะคูแ่ ขง่ ขนั อาจทาใหเ้ กิด ครสะูญวบาเบมสเียสจทียะเ่ี มโกอีผิดกลขาึ้นโสดอทยาาจตงจกรงะาตเรกแอ่ ดิขปง่จรขาะกันสคิทหวธารภิือมาสรพเู้รท้าแง่าลไคะมวค่ถาวมงึ ากเมสาเรียปณห็น์าอยหยแรู่ขอืกอก่ธงารุ อรกกงิจอ่คกก์คารวรารม้ายตอ่
คณุ สมบัติของระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 3. ความยดื หยนุ่ (Flexibility) สภาพแวดลอ้ มในการดาเนนิ ธรุ กิจหรือสถานการณก์ ารแขง่ ขันทางการค้าที่ เปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ สง่ ผลให้ระบบสารสน เทศที่ดตี อ้ งมคี วามสามารถ ในการปรับตัว เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับการใชง้ านหรอื ปญั หาท่ีเกดิ ขึน้ โดยที่ระบบ สารสนเทศทถ่ี กู สรา้ งหรือถกู พัฒนาข้นึ ตอ้ งสามารถตอบสนองความต้องการ ของผบู้ รหิ ารไดอ้ ยู่เสมอ โดยมอี ายกุ ารใชง้ าน การบารุงรักษา และค่าใชจ้ า่ ยที่ เหมาะสม
คุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ 4. ความพอใจของผใู้ ช้ (User Satisfaction) ปรกติระบบสารสนเทศ ถูกพฒั นาขึน้ โดยมคี วามมงุ่ หวงั ให้ผูใ้ ชส้ ามารถนามา ประยกุ ต์ในงานหรือเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการทา งาน ระบบสารสนเทศที่ดี จะตอ้ งกระตนุ้ หรอื โนม้ นา้ วใหผ้ ูใ้ ช้หันมาใช้ระบบให้มากขึ้น โดยการพัฒนา ระบบต้องทาการพัฒนาใหต้ รงกับความต้องการ และพยายามทาให้ผใู้ ช้พอใจ กบั ระบบ เม่อื ผูใ้ ชเ้ กิดความไม่พอใจกับระบบ ทาใหค้ วามสาคัญของระบบลด น้อยลงไป ก็อาจจะทาให้ไม่คมุ้ คา่ กบั การลงทนุ ได้
ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการ 1. ช่วยใหผ้ ู้ใช้สามารถเขา้ ถึงสารสนเทศทต่ี อ้ งการได้อยา่ งรวดเรว็ และทนั ต่อเหตกุ ารณ์ เนอ่ื งจากข้อมูลถูกจัดเกบ็ และบริหารเป็นระบบ ทาให้ผู้บริหารสามารถจะ เขา้ ถึงข้อมูลได้อยา่ งรวดเร็วในรูปแบบท่ีเหมาะสม และสามารถนาขอ้ มูล มาใช้ประโยชน์ได้ทนั ตอ่ ความต้องการ
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ 2. ช่วยผู้ใช้ในการกาหนดเปา้ หมายกลยทุ ธ์และการวางแผนปฏบิ ัติการ โดยผูบ้ รหิ ารจะสามารถนาขอ้ มูลที่ได้จากระบบ สารสนเทศมาชว่ ยในการ วางแผนและกาหนดเปา้ หมายในการดาเนนิ งาน เนอื่ งจากสารสนเทศถูก เก็บรวบรวมและจัดการ อยา่ งเหมาะสม ทาให้มปี ระวัติของขอ้ มูลอย่าง ตอ่ เนื่อง สามารถที่จาช้ีแนวโนม้ ของการดาเนินงานไดว้ า่ น่าจะเป็นไปใน ลักษณะใด
ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ 3. ช่วยผูใ้ ชใ้ นการตรวจสอบประเมินผลการดาเนินงาน เมอ่ื แผนงานถูก นาไปปฏบิ ตั ใิ นช่วงระยะเวลาหนึง่ ผู้ควบคุมจะต้องตรวจสอบผลการ ดาเนนิ งานโดยนาข้อมูลบางส่วนมาประมวลผลประกอบการประเมนิ สารสนเทศท่ไี ดจ้ ะแสดงใหเ้ หน็ ผลการดาเนินงานว่าสอดคลอ้ งกับ เปา้ หมายทตี่ ้องการเพยี งไร
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 4. ชว่ ยผู้ใชใ้ นการศึกษาและวเิ คราะห์สาเหตุของปญั หา ผู้บรหิ ารสามารถ ใช้ระบบสารสนเทศประกอบการศึกษาและการค้นหาสาเหตุ หรือ ข้อผดิ พลาดท่เี กดิ ขน้ึ ในการดาเนินงาน ถ้าการดาเนินงานไมเ่ ปน็ ไปตาม แผนทว่ี างเอาไว้ อาจจะเรียกขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ออกมาจากระบบ เพือ่ ให้ ทราบวา่ ขอ้ ผิดพลาดในการทางานเกิดข้นึ มาจากสาเหตุใด หรอื จดั รูปแบบ สารสนเทศในการวิเคราะห์ปัญหาใหม่
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 5. ช่วยใหผ้ ูใ้ ชส้ ามารถวิเคราะห์ปัญหาหรืออปุ สรรคทเี่ กิดขึ้น เพื่อหาวธิ ี ควบคมุ ปรับปรุงและแก้ไขปญั หา สารสนเทศท่ีไดจ้ ากการประมวลผล จะช่วยใหผ้ ูบ้ รหิ าร วเิ คราะหว์ า่ การดาเนินงานในแตล่ ะทางเลอื กจะช่วย แก้ไข หรือควบคุมปัญหาทเ่ี กิดขึน้ ไดอ้ ย่างไร ธรุ กิจตอ้ งทาอยา่ งไรเพ่ือ ปรบั เปลี่ยนหรือพัฒนาใหก้ ารดาเนนิ งานเป็นไปตามแผนงานหรอื เป้าหมาย
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 6. ช่วยลดคา่ ใช้จา่ ย ระบบสารสนเทศทีม่ ีประสทิ ธิภาพ ชว่ ยใหธ้ รุ กจิ ลดเวลา แรงงานและค่าใชจ้ า่ ยในการทางานลง เนอ่ื งจากระบบสารสนเทศสามารถ รบั ภาระงานท่ตี อ้ งใช้แรงงาน จานวนมาก ตลอดจนช่วยลดขน้ั ตอนในการ ทางาน ส่งผลให้ธรุ กจิ สามารถลดจานวนคนและระยะเวลาในการประสานงาน ใหน้ อ้ ยลง โดยผลงานทอ่ี อกมาอาจเทา่ หรือดกี วา่ เดิม ซึง่ จะเป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพ และศักยภาพในการแข่งขนั ทางธรุ กิจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: