เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชพี นางสาวณัชชา ขนุ ศริ ิมา สาขาวชิ าเขียนแบบเครอ่ื งกล
ระบบสารสนเทศ (INFORMATION SYSTEM) คือ ขบวนการประมวลผลขา่ วสารทม่ี อี ยู่ ใหอ้ ยูใ่ น รูปของขา่ วสารทเ่ี ปน็ ประโยชนส์ ูงสดุ เพือ่ เป็นข้อสรปุ ที่ใชส้ นบั สนุนการตดั สนิ ใจของบคุ คลระดบั บรหิ าร ขบวนการท่ที าใหเ้ กดิ ขา่ วสารสารสนเทศน้ี เรยี กวา่ การประมวลผลผลสารสนเทศ (Information Processing) และเรยี กวธิ กี ารประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมือทาง อิเลก็ ทรอนกิ สว์ ่า เทคโนโลยี
สารสนเทศ (INFORMATION TECHNOLOGY : IT) ขเึ้นทดค้วโนยโรละยบีสบาจรดั สเนกเบ็ ทแศละหปมราะยมถวึงลผเลทขค้อโนมโูลลยระที บปี่ บรสะกอื่ อสบาร โทรคมนาคม และอปุ กรณ์สนับสนนุ การปฏบิ ตั ิงานด้าน สารสนเทศทีม่ กี ารวางแผน จดั การ และใชง้ า่ นร่วมกนั อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ มอี งคป์ ระกอบสาคัญ 2 ประการ 1. ระบบประมวลผล ความซับซอ้ นในการปฏิบัติงานและความตอ้ งการสารสนเทศทหี่ ลากหลาย ทาให้การจดั การและการประมวลผลขอ้ มูลด้วยมอื ไม่สะดวก ช้า และอาจ ผดิ พลาด ปจั จบุ ันองค์การจึงต้องทาการจดั เกบ็ และการประมวลผลข้อมลู ด้วยระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณส์ นับสนุนในการ จัดการข้อมูล เพื่อให้การทางานถกู ตอ้ งและรวดเร็วขึ้น
เทคโนโลยสี ารสนเทศ มอี งคป์ ระกอบสาคญั 2 ประการ 2. ระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม การส่ือสารขอ้ มูลเปน็ เรื่องสาคญั สาหรับการจัดการและประมวลผล ตลอดจน การใช้ ข้อมูลในการตดั สินใจ ระบบสารสนเทศที่ดตี ้องประยุกต์เทคโนโลยี อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ในการส่ือสารข้อมูลระหวา่ งระบบคอมพวิ เตอร์ อุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และผูใ้ ชท้ อ่ี ยูห่ า่ งกนั ให้สามารถสอ่ื สารกันได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ (MANAGEMENT INFORMATION SYSTEM : MIS) หมายถึง ระบบทีร่ วบรวมและจัดเก็บข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ ทั้ง ภายใน และภายนอกองคก์ ารอยา่ งมหี ลกั เกณฑ์ เพื่อนามาประมวลผล และจัดรูปแบบใหไ้ ดส้ ารสนเทศทช่ี ่วยสนับสนนุ การทางาน และการตัดสนิ ใจ ในด้านตา่ ง ๆ ของผูบ้ ริหารเพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานขององคก์ ารเปน็ ไปอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ โดยท่ีเราจะเหน็ วา่ MIS จะประ กอบด้วยหนา้ ท่หี ลัก 2 ประการ
ระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ (MANAGEMENT INFORMATION SYSTEM : MIS) 1. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ท้ังจากภายในและ ภายนอกองค์การมาไว้ ดว้ ยกนั อยา่ งเป็นระบบ 2. สามารถทาการประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพ เพอื่ ใหไ้ ด้ สารสนเทศท่ีชว่ ย สนบั สนนุ การปฏบิ ัติงานและการบริหารงานของ ผูบ้ ริหาร
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ แเทลคะอโนุตโสลายหีสการรรสมนเธทรุ ศกมิจตบี ้อทงบกาาทรสระาบคญับสตาอ่ รกสานรเดทาศเนทนิ ม่ี งปี านระทส้งั ทิ รธะดภิ ับาพองเคพ์กอื่ ากราร ดารงอยู่และเจริญเติบโตขององคก์ าร โดยที่เทคโนโลยสี ารสนเทศจะส่วน ชวเพธิว่ ือ่ยีใชใให้งห้กา้ธนาุรรแกทลจิ าะปงโารคนะรสมงบสีเปผร้า็นลงไสขปาออเงรยร็จะา่ บงแมบลีปสะาสรระาสสมนิทาเรธทถภิ ศแาขพง่สขาจนัมึงกาตรบั ้อถธสงรุ ทรกปุ าิจคสอว่วืน่ านใมปนเรรขะะ้าดกใจบัอถบสงึาขกอลง ระบบสารสนเทศ ได้ 2 สว่ น คือ
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 1. เคร่อื งมอื ในการสร้างระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ หมายถึง ส่วนประกอบหรอื โครงสร้างพ้นื ฐานท่ีรวมกนั เขา้ เป็น MIS และช่วยให้ระบบสารสนเทศดาเนนิ งานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โดย จาแนกเครื่องมือในการสรา้ งระบบสารสนเทศไว้ 2 สว่ น คือ
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 1.1 ฐานข้อมลู (Data Base) ฐานข้อมูล จดั เปน็ หวั ใจสาคญั ของระบบ MIS เพราะว่าสารสนเทศท่มี คี ุณภาพจะมาจาก ข้อมูลทด่ี ี เช่ือถือได้ ทันสมัย และถูกจดั เก็บอย่างเป็นระบบ ซึ่งผูใ้ ชส้ ามารถเข้าถึงและ ใช้งานไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเร็ว ดงั น้ันฐานขอ้ มูลจึงเป็นส่วนประกอบสาคัญทีช่ ว่ ยให้ ระบบสารสนเทสมีความสมบูรณ์ และปฏิบตั งิ านอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ 1.2 เครอ่ื งมอื (Tools) เป็นเคร่ืองมอื ทใ่ี ชจ้ ัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ปกติระบบสารสนเทศจะใช้ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์เป็น อุปกรณ์หลกั ในการจดั การข้อมูล ซึ่งจะประกอบดว้ ย ส่วนสาคัญต่อไปนี้
สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ 2. การแสดงผลลัพธ์ เม่อื ข้อมูลได้ผ่านการประมวลผล ตามวิธีการแลว้ จะได้ สารสนเทศ หรือMIS เกิดขึ้น อาจจะนาเสนอในรูป ตาราง กราฟ รูปภาพ หรือเสียง เพือ่ ใหก้ าร นาเสนอขอ้ มูลมปี ระสทิ ธภิ าพ จะขึน้ อยกู่ ับลักษณะของขอ้ มูล และลักษณะของ การนาไป ใชง้ าน
คุณสมบตั ิของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ ปัจจุบนั องค์การสามารถพฒั นาระบบสารสนเทศด้วยตนเองหรอื ให้ ผู้เชีย่ วชาญจากภายนอกเข้าดาเนนิ การ โดยการออกแบบและพัฒนา MIS ที่สอดคล้องตามหลกั การ ระบบกจ็ ะสามารถอานวยประโยชน์ใหก้ บั องค์การไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสิทธิภาพ โดยทีก่ ารพฒั นาระบบสารสนเทศ ตอ้ งคานึงถึงคณุ สมบัตทิ สี่ าคญั ของ MIS ตอ่ ไปนี้
คณุ สมบตั ิของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ 1. ความสามารถในการจัดการข้อมูล (Data Manipulation) 2. ความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) 3. ความยดื หยนุ่ (Flexibility) 4. ความพอใจของผู้ใช้ (User Satisfaction)
คณุ สมบตั ขิ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 1. ความสามารถในการจัดการขอ้ มูล (Data Manipulation) ระบบสารสนเทศทดี่ ตี อ้ งสามารถปรบั ปรุงแก้ไขและจัดการขอ้ มูล เพอ่ื ให้เป็น สารสนเทศที่พรอ้ มสาหรบั นาไปใชง้ านอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ปรกติขอ้ มูลตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกับการดาเนนิ ธุรกิจจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลา ข้อมูลท่ี ถูกป้อนเขา้ สู่ MIS ควรท่ีจะไดร้ ับการปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นารูปแบบ เพื่อให้ ความทันสมยั และเหมาะสมกบั การใชง้ านอยู่เสมอ
คณุ สมบัติของระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ 2. ความปลอดภัยของขอ้ มูล (Data Security) ระบบสารสนเทศเป็นทรพั ยากรท่ีสาคัญอกี อยา่ งขององค์การ ถา้ สารสนเทศ บางประเภทร่วั ไหลออกไปสู่ บุคคลภายนอก โดยเฉพาะคูแ่ ขง่ ขนั อาจทาให้ เกดิ ความเสยี โอกาสทางการแขง่ ขนั หรือสร้างความเสยี หายแก่ธุรกิจ ความ สูญเสียทเี่ กิดขึ้นอาจจะเกดิ จากความร้เู ท่าไมถ่ งึ การณ์ หรอื การกอ่ การรา้ ยต่อ ระบบ จะมีผลโดยตรงตอ่ ประสทิ ธิภาพและความเป็นอย่ขู ององคก์ ร
คณุ สมบัติของระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 3. ความยดื หยนุ่ (Flexibility) สภาพแวดลอ้ มในการดาเนนิ ธรุ กิจหรือสถานการณก์ ารแขง่ ขันทางการค้าที่ เปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ สง่ ผลให้ระบบสารสน เทศที่ดตี อ้ งมคี วามสามารถ ในการปรับตัว เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับการใชง้ านหรอื ปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ โดยที่ระบบ สารสนเทศทถ่ี ูกสรา้ งหรือถกู พัฒนาขึ้นต้องสามารถตอบสนองความต้องการ ของผบู้ รหิ ารไดอ้ ยู่เสมอ โดยมอี ายุการใชง้ าน การบารุงรักษา และค่าใชจ้ า่ ยที่ เหมาะสม
คุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ 4. ความพอใจของผใู้ ช้ (User Satisfaction) ปรกติระบบสารสนเทศ ถูกพัฒนาขึ้น โดยมคี วามมุ่งหวงั ใหผ้ ู้ใช้สามารถนามา ประยกุ ต์ในงานหรือเพม่ิ ประสิทธิภาพในการทางาน ระบบสารสนเทศท่ดี ี จะตอ้ งกระตนุ้ หรอื โนม้ นา้ วใหผ้ ู้ใช้หันมาใชร้ ะบบใหม้ ากขึ้น โดยการพฒั นา ระบบต้องทาการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการ และพยายามทาให้ผใู้ ชพ้ อใจ กบั ระบบ เม่อื ผูใ้ ช้เกิดความไม่พอใจกบั ระบบ ทาให้ความสาคญั ของระบบลด น้อยลงไป ก็อาจจะทาใหไ้ ม่คุม้ คา่ กับการลงทนุ ได้
ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการ 1. ช่วยใหผ้ ู้ใช้สามารถเขา้ ถึงสารสนเทศทต่ี อ้ งการได้อยา่ งรวดเรว็ และทนั ต่อเหตกุ ารณ์ เนอ่ื งจากข้อมูลถูกจัดเกบ็ และบริหารเป็นระบบ ทาให้ผู้บริหารสามารถจะ เขา้ ถึงข้อมูลได้อยา่ งรวดเร็วในรูปแบบท่ีเหมาะสม และสามารถนาขอ้ มูล มาใช้ประโยชน์ได้ทนั ตอ่ ความต้องการ
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ 2. ช่วยผู้ใช้ในการกาหนดเปา้ หมายกลยทุ ธ์และการวางแผนปฏบิ ัติการ โดยผูบ้ รหิ ารจะสามารถนาขอ้ มูลที่ได้จากระบบ สารสนเทศมาชว่ ยในการ วางแผนและกาหนดเปา้ หมายในการดาเนนิ งาน เนอื่ งจากสารสนเทศถูก เก็บรวบรวมและจัดการ อยา่ งเหมาะสม ทาให้มปี ระวัติของขอ้ มูลอย่าง ตอ่ เนื่อง สามารถที่จาช้ีแนวโนม้ ของการดาเนินงานไดว้ า่ น่าจะเป็นไปใน ลักษณะใด
ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ 3. ช่วยผูใ้ ชใ้ นการตรวจสอบประเมินผลการดาเนินงาน เมอ่ื แผนงานถูก นาไปปฏบิ ตั ใิ นช่วงระยะเวลาหนึง่ ผู้ควบคุมจะต้องตรวจสอบผลการ ดาเนนิ งานโดยนาข้อมูลบางส่วนมาประมวลผลประกอบการประเมนิ สารสนเทศท่ไี ดจ้ ะแสดงใหเ้ หน็ ผลการดาเนินงานว่าสอดคลอ้ งกับ เปา้ หมายทตี่ ้องการเพยี งไร
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 4. ชว่ ยผู้ใชใ้ นการศึกษาและวเิ คราะห์สาเหตุของปญั หา ผู้บรหิ ารสามารถ ใช้ระบบสารสนเทศประกอบการศึกษาและการค้นหาสาเหตุ หรือ ข้อผดิ พลาดท่เี กดิ ขน้ึ ในการดาเนินงาน ถ้าการดาเนินงานไมเ่ ปน็ ไปตาม แผนทว่ี างเอาไว้ อาจจะเรียกขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ออกมาจากระบบ เพือ่ ให้ ทราบวา่ ขอ้ ผิดพลาดในการทางานเกิดข้นึ มาจากสาเหตุใด หรอื จดั รูปแบบ สารสนเทศในการวิเคราะห์ปัญหาใหม่
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 5. ช่วยใหผ้ ูใ้ ชส้ ามารถวิเคราะห์ปัญหาหรืออปุ สรรคทเี่ กิดขึ้น เพื่อหาวธิ ี ควบคมุ ปรับปรุงและแก้ไขปญั หา สารสนเทศท่ีไดจ้ ากการประมวลผล จะช่วยใหผ้ ูบ้ รหิ าร วเิ คราะหว์ า่ การดาเนินงานในแตล่ ะทางเลอื กจะช่วย แก้ไข หรือควบคุมปัญหาทเ่ี กิดขึน้ ไดอ้ ย่างไร ธรุ กิจตอ้ งทาอยา่ งไรเพ่ือ ปรบั เปลี่ยนหรือพัฒนาใหก้ ารดาเนนิ งานเป็นไปตามแผนงานหรอื เป้าหมาย
ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ 6. ช่วยลดคา่ ใช้จา่ ย ระบบสารสนเทศทีม่ ีประสทิ ธิภาพ ชว่ ยใหธ้ รุ กจิ ลดเวลา แรงงานและค่าใชจ้ า่ ยในการทางานลง เนอ่ื งจากระบบสารสนเทศสามารถ รบั ภาระงานท่ตี อ้ งใช้แรงงาน จานวนมาก ตลอดจนช่วยลดขน้ั ตอนในการ ทางาน ส่งผลให้ธรุ กจิ สามารถลดจานวนคนและระยะเวลาในการประสานงาน ใหน้ อ้ ยลง โดยผลงานทอ่ี อกมาอาจเทา่ หรือดกี วา่ เดิม ซึง่ จะเป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพ และศักยภาพในการแข่งขนั ทางธรุ กิจ
ใบงาน เรอื่ งประเภทของสารสนเทศ 1.จบั คู่ 2.คน้ หาขอ้ มูลเรอ่ื งประเภทของสารสนเทศ โดยเลอื กมากลุ่มละ 1 เร่อื ง 3.นาเสนอ
ประเภทของสารสนเทศ 1. ระบบสารสนเทศประมวลผลรายการธรุ กรรม TPS 2.ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ MIS 3.ระบบสารสนเทศเพอ่ื สนับสนนุ การตดั สินใจ DSS 4.ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ GIS 5.ระบบสารสนเทศสนับสนุนการตดั สินใจผู้บริหารระดบั สูง EIS 6.ปญั ญาประดิษฐ์ 7.ระบบสารสนเทศสานกั งาน OIS
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: