เรือ่ ง การเขยี นแบบภาพฉาย ใบความรู้เพ่ิมเตมิ ความหมายของภาพฉาย ภาพฉาย (Orthographic Drawing) หมายถงึ ภาพท่ีมองจากช้นิ งานจรงิ ด้านใดด้านหนึ่งในลกั ษณะ 2 มิตคิ ือความกว้างและความยาว แลส้ ฉายภาพไปปรากฏรูปทรงบนระนาบรับภาพ ถ้าพจิ ารณาช้นิ งานท่ีวางอยู่ ระหวา่ งตาของผ้สู ังเกตกับระนาบรับภาพ โดยเสน้ สายตาของผู้สงั เกตท่ีสมมติว่าขนานกนั ถกู ฉายผ่านจุดบน ขอบวัตถุไปยังระนาบรบั ภาพ ทาให้เกดิ ภาพของวัตถตุ ้นแบบบนระนาบรบั ภาพทึบแสง ซึง่ เส้นขนานเหลา่ นี้ เรยี กว่า “เส้นฉาย”ถ้าเสน้ ฉายตงั้ ฉากกบั ระนาบรับภาพกจ็ ะได้ภาพที่มีขนาดเท่ากับชิน้ งานตน้ แบบเรียกการ ฉายภาพแบบนว้ี า่ “ภาพฉาย” ระนาบของภาพฉาย ระนาบของภาพฉาย (Plane) มลี กั ษณะเป็นกลอ่ งแก้วใส ทสี่ มมตขิ ึ้นตามจินตนาการเทา่ นัน้ โดยการที่ ทางานจริงจะไมเ่ หน็ แต่การท่ไี ดย้ กเอารูปรา่ งของกลอ่ งแกว้ ขนึ้ มาเพ่ือแสดงอธิบายให้เห็นถึงความสัมพนั ธ์ของ การฉายภาพในแต่ละดา้ น และให้สามารถเข้าใจถึงความเป็นมาของภาพฉายเทา่ นนั้ ซ่งึ ในลักษณะของภาพ 3 มติ แิ ละแสดงระนาบในแนวแกน X Y และ Z ซึ่งจะแบ่งออกเป็น สว่ นเรยี กว่า Quadrant พรอ้ มกับระนาบ นอนและระนาบดิง่ โดยในการเขยี นภาพฉายจะมีการเพิม่ ระนาบรับภาพทด่ี ้านหลังของชนิ้ งานอกี 1 ระนาบ รปู ท่ี 1 ระนาบรบั ภาพ
เรอื่ ง การเขยี นแบบภาพฉาย ใบความรู้เพ่ิมเตมิ หลกั การเขยี นภาพฉายมุมท่ี 1 การเขียนภาพฉายโดยทว่ั ไปจะนิยมเขยี น 3 ดา้ น คอื ภาพดา้ นหนา้ ภาพดา้ นขา้ งและภาพด้านบน ซึง่ สามารถใหร้ ายละเอยี ดของรูปรา่ งและกาหนดขนาดของมิตไิ ด้ครบทั้งหมด ดังนัน้ เพ่ือใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจที่ดขี ึ้น ควร ยึดหลักเกณฑใ์ นการเขียนแบบภาพฉายมุมที่ 1 ดงั นี้ 1. การเลือกภาพด้านหน้า ควรเลอื กด้านท่ีสามารถเหน็ รายละเอียดของแบบงานชดั เจนมากที่สุด 2. ทิศทางการมองภาพจากภาพด้านหน้า ด้านข้างและด้านบนใหม้ องจากทางซา้ ยมอื หรือมองภาพแบบ เวยี นซ้ายหรอื ตามเข็มนาฬกิ า 3. ภาพดา้ นข้างซา้ ยจะตอ้ งอยดู่ ้านขวาของภาพด้านหน้าและต้องอยู่ในแนวระนาบเดยี วกัน 4. ภาพดา้ นบนต้องอยู่ดา้ นล่างของภาพด้านหนา้ และต้องอยใู่ นแนวระนาบเดียวกัน 5. ความยาวของภาพดา้ นบน ต้องยาวเท่ากบั ความยาวของภาพด้านหน้า 6. ความสูงของภาพด้านข้าง ต้องสงู เท่ากับความสูงของภาพด้านหน้า 7. ความกว้างของภาพดา้ นบน ต้องกว้างเทา่ กบั ความกวา้ งของภาพด้านข้าง รูปท่ี 2 ขนาดภาพแต่ละด้าน วิธีการฉายภาพ เพือ่ ใหม้ องภาพฉายมรี ูปแบบทเี่ ปน็ มาตรฐาน และมีความเข้าใจตรงกันระหวา่ งผู้เขียนแบบและผูอ้ ่านแบบ จึงได้มกี ารกาหนดวธิ กี ารมองภาพฉาย โดยใช้หลักการของระนาบรบั ภาพคอื การนาระนาดิ่ง และระนาบนอน มา วางตัง้ ฉากซง่ึ กนั และกัน และในการเขยี นแบบภาพฉายน้ีจะยึดระนาบดิ่งเป็นหลกั เสมอการเขียนแบบภาพฉายที่ นิยมใชใ้ นปจั จุบันแบ่งออกเป็น 2 วธิ ี คอื วิธีฉายภาพมุมที่ 1 (First Angle Projection) และวธิ ีฉายภาพมมุ ที่ 3 (Third Angle Projection) ซง่ึ แต่ละวิธมี ีรายละเอยี ดดงั น้ี
เรือ่ ง การเขยี นแบบภาพฉาย ใบความร้เู พิม่ เตมิ 1. วธิ ีการฉายภาพมมุ ที่ 1 (ISO Method E) การเขียนแบบภาพฉายมุมที่ 1 นชี้ ิน้ งานจะถกู สมมติให้วางลอยอยู่ใน Quadrant ท่ี 1 โดยผสู้ งั เกต มองกลับมาในแนวแกน Z แล้วใช้ระนาบนอนและระนาบดิง่ รบั ภาพ แลว้ เพม่ิ ระนาบรับภาพทดี่ า้ นหลงั ของ ชิ้นงานอีก 1 ระนาบคือระนาบชว่ ยรับภาพในแนวดง่ิ ดังนัน้ ภาพท่ีผู้สังเกตเห็นในดา้ นหน้าจะไปปรากฏบน ระนาบรับภาพทอ่ี ยู่ดา้ นหลงั ของชิ้นงาน และเม่อื ผู้สังเกตเดินไปทางดา้ นซ้ายเพื่อดภู าพของชนิ้ งานภาพนน้ั กจ็ ะ ไปปรากฎบนระนาบรับภาพดา้ นขา้ ง (ซึง่ อย่หู ลงั ชน้ิ งานอกี เช่นเดียวกนั ) สว่ นภาพดา้ นบนก็จะไปปรากฏบน ระนาบรบั ภาพด้านลา่ ง วธิ กี ารฉายภาพแบบนน้ี ยิ มใชก้ ันมากในสหภาพยุโรป เชน่ ประเทศเยอรมนี (DIN5456- 2:1998) และเป็นวธิ ีฉายภาพวิธหี นง่ึ ในมาตรฐานสากล (ISO R128) และนอกจากนีย้ งั เปน็ มาตรฐานทางดา้ น การเขียนแบบเครอ่ื งกลของไทย (มอก. 210: 2520) อีกด้วย รูปที่ 3 การวางชนิ้ งานใน Quadrant ที่ 1 ทศิ ทางการมองภาพฉายจากช้นิ งาน 1.ภาพฉายมุมท่ี 1 จากหลกั การของการฉายภาพมุมมองที่ 1 ซ่ึงเป็นหลักการมองภาพโดยทว่ั ๆไปในงานเขียนแบบ ดังน้นั ทศิ ทางการมองช้ินงาน และการวางภาพฉายตามมาตรฐาน มอก.210(2520), DIN ISO 5456(1998) และมาตรฐาน ISO 128(1998) ซง่ึ มีทิศทางการมองภาพฉายจากช้ินงาน การวางตาแหน่งภาพฉายและสัญลกั ษณ์ รปู ท่ี 4 ทศิ ทางการมองภาพมุมมองที่ 1
เรอ่ื ง การเขยี นแบบภาพฉาย ใบความรู้เพม่ิ เติม วธิ กี ารเขยี นภาพฉาย การเขยี นแบบภาพฉาย เปน็ วธิ ีการนาเอาชนิ้ งานทไ่ี ดจ้ ากการมองภาพฉายของชิน้ งานมาเขยี นลงใน กระดาษเขยี นแบบ โดยให้แตล่ ะดา้ นสมั พันธ์กันตามมาตรฐานการวางภาพฉายในมมุ มองท่ี 1 หรือมุมมองที่ 3 ซ่งึ วิธกี ารเขียนแบบภาพฉายมีดังน้ี 1.วธิ ีการฉายภาพในงานเขยี นแบบ ซงึ่ การฉายภาพแบง่ ออกเป็น 3 วธิ ดี งั นี้ 1.1 การฉายภาพโดยวิธลี ากเสน้ เอียง 45 องศา การฉายภาพดว้ ยวธิ ีนี้ เป็นการฉายภาพของช้นิ งานจากภาพหนึง่ ไปอกี ภาพหน่ึงด้วยเส้นตรงท่ีเอยี ง ทามมุ 45 องศา กบั แนวระดบั โดยมที ศิ ทางพุ่งออกจากภาพด้านหน้าและเอยี งไปทางดา้ นที่ต้องการ การฉายภาพวิธีน้ี จะ ทาใหภ้ าพแต่ละด้านมีความสมั พันธก์ ัน เชน่ ความกว้างของภาพด้านหน้าจะเท่ากบั ความกวา้ งของภาพด้านบน ความยาวของภาพดา้ นบนจะเทา่ กบั ความยาวของภาพดา้ นซ้าย และความสูงของภาพด้านหนา้ จะเท่ากับความ สงู ของภาพดา้ นซา้ ย รปู ที่ 5 การฉายภาพโดยวิธีลากเสน้ ตรงเอยี ง 45 องศา 1.2 วิธีการใชเ้ ส้นรัศมีสว่ นโค้ง การฉายภาพดว้ ยวิธีน้ี คล้ายกบั วธิ แี รก เพียงแต่ใช้วงเวยี นในการถ่ายขนาดจากภาพด้านซ้ายไปยงั ภาพด้านบนหรอื จากภาพด้านบนไปยังภาพดา้ นซ้าย สว่ นเส้นทฉ่ี ายจากภาพด้านหน้าไปยงั ภาพดา้ นซ้ายหรอื ภาพด้านหนา้ ไปทภ่ี าพ ดา้ นบนซึ่งยังจาเป็นตอ้ งใชเ้ ส้นตรงในแนวนอนหรือในแนวด่งิ รปู ท่ี 6 การฉายภาพโดยวิธกี ารใชเ้ สน้ รัศมีสว่ นโคง้
เรื่อง การเขียนแบบภาพฉาย ใบความรู้เพิม่ เตมิ 1.3 การวัดระยะโดยตรงจากภาพฉาย การฉายภาพดว้ ยวิธนี ี้ เปน็ การใช้การวดั ระยะโดยตรงจาพภาพหนึง่ เพือ่ นาไปใชอ้ ีกภาพหน่ึง เปน็ การเขียนภาพ ด้านซ้าย ซง่ึ หลงั จากเขียนภาพด้านหน้าและด้านบนแล้วความยาวของภาพด้านซา้ ยจะมีค่าเทา่ กบั ความยาว ของภาพดา้ นบน โดยขนาดความยาวของช้นิ งานนกี้ ็มีอยแู่ ล้วในภาพดา้ นบนดังน้นั จึงสามารถใช้ไม้บรรทดั วดั ขนาดความยาวจากภาพดา้ นบน แล้วนาขนาดดังกล่าวไปใช้กาหนดความยาวสาหรับเขยี นภาพด้านซา้ ยได้ รูปที่ 7 การฉายภาพโดยวธิ กี ารวดั ระยะโดยตรงจากภาพฉาย 2. การเขยี นภาพฉายมุมท่ี 1 จากภาพ 3 มติ ิ การเขียนแบบภาพฉายรปู ทรงสีเ่ หล่ยี มตดั ตรงจากภาพ 3 มติ ิ มีขั้นตอนดงั น้ี 1. วางแผนการเขยี นภาพฉาย โดยพจิ ารณาขนาดของชน้ิ งานเพอ่ื เลือกกระดาษเขียนแบบท่เี หมาะสม 2. คานวณพ้ืนที่ทต่ี อ้ งใชใ้ นการเขยี นแบบแล้วจดั ให้พน้ื ท่ีวางภาพฉายทัง้ 3 ดา้ น ให้ได้ตาแหน่งทีเ่ หมาะสม บนกระดาษเขียนแบบ 3. เริ่มการเขียนภาพด้านหน้าตามขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 3.1 เขยี นเส้นอา้ งอิงในแนวนอนและแนวด่ิงตดั กนั 3.2 เขียนเส้นรา่ งเป็นกรอบส่ีเหลย่ี มของภาพดา้ นหนา้ ด้านบน และดา้ นซ้ายตามขนาดของช้ินงานจรงิ ที่มองเหน็ จากภาพ 3 มติ ิ โดยใหม้ ีระยะหา่ งพอประมาณ พรอ้ มกบั เสน้ ฉาย ทามุม 45 องศา รูปท่ี 8 เส้นอา้ งอิงในแนวนอน และแนวดิง่ ตัดกัน รปู ที่ 9 การเขยี นเส้นร่างเปน็ กรอบสเ่ี หลย่ี ม 3 ดา้ น
เรือ่ ง การเขียนแบบภาพฉาย ใบความรเู้ พิม่ เตมิ 3.3 เขียนเสน้ ร่างของภาพด้านหนา้ ตามขนาดของช้ินงาน รปู ที่ 10 การเขียนเสน้ รา่ งของภาพด้านหน้า 3.4 เขยี นภาพดา้ นซา้ ยโดยใช้ขนาดจากภาพ 3 มติ ิ ที่ ภาพด้านขา้ งและด้านบน ตามขนาดชน้ิ งาน มองเห็นหรือวธิ ีการถา่ ยขนาดขอ้ มลู ของภาพดา้ นหนา้ ไปยัง ภาพด้านซ้าย 3.5 เขียนภาพฉายดา้ นบนโดยใช้ขนาดจากภาพ 3 มติ ิหรือ วิธีการถ่ายขนาดจากภาพด้านหน้า และภาพด้านซ้าย 4. เมอื่ ได้เส้นร่างครบทุกรูปแลว้ จงึ เขยี นเส้นเต็มหนาทับเส้น รา่ งเป็นเส้นขอบรูปทีม่ องเหน็ ในภาพฉายทัง้ 3 ดา้ น 5. เขยี นเสน้ ประในส่วนทถี่ กู บงั 6.ลบเสน้ ร่างทไี่ ม่ต้องการออกใหห้ มด 7. เขยี นสญั ลกั ษณ์ภาพฉายเพิม่ เตมิ ทดี่ า้ นลา่ งของภาพฉาย รปู ท่ี 11 การเขียนภาพฉายพร้อม เพอ่ื แสดงใหเ้ ห็นว่าเปน็ ภาพฉายมมุ มองใด สัญลกั ษณ์มุมมอง บรรณานกุ รม นางสาวณัชชา พลายบวั ครูผสู้ อน [1] อานาจ ทองแสน, 2558, เขียนแบบเทคนคิ เบือ้ งตน้ , พิมพค์ รงั้ ท่ี 1, สานักพิมพ์เอมพันธ์ จากดั , นนทบรุ ,ี หน้าท่ี 73-84. [2] รักชาติ วิจันทมุข, 2556, เขยี นแบบเทคนคิ เบ้ืองต้น, พิมพ์ครั้งที่ 1, สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ จากดั , นนทบุร,ี หนา้ ที่ 78-81.
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: