การเขียนรายงานในงานอาชีพ ดร.สมหวัง ศุภพล

คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านติดตั้ง เคร่อื งปรับอากาศชนดิ แขวน หจก.สินโสภา เซอรว์ สิ N w นายวิศรุต มสุ ิแดง รหัส 6241040028 สาขาเทคโนโลยไี ฟฟา้ วิทยาลยั เทคนคิ สรุ าษฎร์ธานี สถาบนั การอาชีวศกึ ษาภาคใต้ 1 อ้างอิงรายวิชา :การเขียนรายงานในงานอาชพี รหสั :20-4000-1101 ทปี่ รึกษา : ดร.สมหวัง ศภุ พล

สมรรถนะวิชาชพี / รายวชิ า 4100-2303 ฝกึ ปฏิบตั งิ านเทคโนโลยพี น้ื ฐาน (Basic Technology Practice) สมรรถนะรายวชิ า 1.สรุปหลกั การเก่ยี วกับการปฏิบัติงานเทคโนโลยีขนั้ พ้นื ฐานและเทคโนโลยีเฉพาะสาขา 2.ปฏบิ ตั งิ านเทคโนโลยีพืน้ ฐานและเทคโนโลยเี ฉพาะสาขา 3.ตระหนักถึงความปลอดภยั ในการปฏิบัติงานเทคโนโลยพี นื้ ฐานและเทคโนโลยีเฉพาะสาขา คาอธบิ ายรายวิชา ปฏบิ ัตงิ านเกี่ยวกับเทคโนโลยีพ้ืนฐาน เทคโนโลยีเฉพาะสาขา การใช้เครอื่ งมือพืน้ ฐาน เครอื่ งมอื ร่างแบบ เคร่ืองมอื วดั การวางแบบช้ินงาน การเลื้อย การสกัด การลับดอกสว่าน การเจาะ การทาเกลยี ว งานเช่ือมโลหะ และการปฏบิ ตั งิ านด้านไฟฟ้า 4104-2601 เทคโนโลยไี ฟฟา้ 1 (Electrical Technology 1) สมรรถนะรายวชิ า 1.นาความรู้เก่ียวกับวิศวกรรมไฟฟา้ ส่กู ารปฏิบัติงานดา้ นอุตสาหกรรม 2.ปฏิบตั ิงานเกีย่ วกับวิศวกรรมไฟฟา้ ในสถานประกอบการหรอื โรงงานอตุ สาหกรรม คาอธิบายรายวชิ า ปฏิบัตงิ านที่เก่ยี วข้องกับวศิ วกรรมไฟฟา้ ในสถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับมอบหมาย แลว้ นาเสนอและเขียนเป็นรายงาน

สารบัญ 1 1 บทนา 3 ข้ันตอนการตดิ ตงั้ เครอื่ งปรับอากาศชนิดแขวน 8 เครอ่ื งมือ อุปกรณ์และขอ้ ควรระวงั 11 01.การตดิ ตั้งแฟนคอยลย์ ูนติ 14 02.การตดิ ตั้งคอนเดนซงิ่ ยูนติ 17 03.การเดินท่อและปล่อยระบบนา้ ยา 19 04.การตอ่ ระบบไฟฟ้า 22 05.การเดนิ ระบบท่อน้าทงิ้ 25 06.การรนั เคร่ืองและตรวจเช็คระบบ 26 ภาคผนวก 30 ภาคผนวก 01 การตดิ ต้ังแฟนคอยลย์ นู ติ 34 ภาคผนวก 02.การตดิ ตง้ั คอนเดนซิ่งยูนิต 38 ภาคผนวก 03 การเดนิ ท่อและปลอ่ ยระบบน้ายา 42 ภาคผนวก 04 การต่อระบบไฟฟา้ 45 ภาคผนวก 05 การเดนิ ระบบท่อน้าทิ้ง 48 ภาคผนวก 06 การรันเคร่ืองและตรวจเชค็ ระบบประวัติผจู้ ัดทา ประวัตผิ จู้ ดั ทา

-1- บทนา ในปจั จุบันบนโลกของเราอากาศรอ้ นข้นึ มากทุกวนั รวมทั้งมีฝุน่ ละออง ผู้คนส่วน ใหญจ่ งึ หนั มาตดิ ตง้ั เครื่องปรับอากาศกนั เยอะและเป็นทนี่ ิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน คู่มือฉบับน้ีมีข้ันตอนการติดตั้งเคร่ืองปรับอากาศ รายเอียดต่างๆของวัสดุ อุปกรณแ์ ละหวงั เป็นอยา่ งย่ิงวา่ ค่มู ือฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผ้อู ่านไม่มากก็น้อย ขั้นตอนการตดิ ตั้งเคร่อื งปรบั อากาศชนดิ แขวน มี 6 ขนั้ ตอน การตดิ ตัง้ แฟนคอยล์ยนู ิต 01 การตดิ ตง้ั คอนเดนซงิ่ ยนู ติ 02 การเดินท่อ แวค็ คั่มและปล่อยน้ายา 03 เข้าระบบ

-2- ขนั้ ตอนการติดต้งั เครอื่ งปรบั อากาศชนดิ แขวน มี 5 ขน้ั ตอน การต่อระบบไฟฟ้า 04 การเดนิ ระบบท่อน้าท้ิง 05 การรนั เคร่อื งและตรวจเชค็ ระบบ 06

-3- เครือ่ งมือ อปุ กรณ์และข้อควรระวงั บนั ได 7 ขั้น (staircase) ประแจเลอ่ื น 12 นิ้ว (Adjustable ขอ้ ควรระวัง wrench) อยา่ ให้ขาข้างใดขา้ งหนง่ึ ลอยขึน้ เหนอื ขอ้ ควรระวงั พนื้ อาจทาใหต้ กจากบันไดได้ สวา่ นไฟฟ้า 850 W (electric drill) ควรจบั ประแจเล่ือนกับชิน้ งานใหแ้ นน่ ไขควงเทสไฟ 220 โวลท์ (Test ข้อควรระวงั screwdriver) ขณะใช้งานสวา่ นอาจสะบัดควรจับให้ และถนดั มอื ขอ้ ควรระวัง คมี (pliers) ขนาด 6 นว้ิ ควรตรวจสอบไฟให้ดีก่อนใชง้ านทุกครั้ง ประแจ (Wrench )เบอร์10,11,14 ข้อควรระวัง ข้อควรระวงั ไมค่ วรใช้จับช้นิ งานท่ใี หญ่เกนิ กวา่ คีม ควรใชใ้ ห้ขนาดของประแจตรงกับงานที่ จะจับได้ จะใช้ทา

-4- ++เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์และขอ้ ควรระวงั เกจวดั นา้ ยา(Reagent gauge) สามารถ เทปพนั สายไฟ(Duct tape) ขนาด10เมตร ทนแรงดนั ได้800 - 4000 PSI ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ไม่ควรใช้กับแรงดนั ท่ีสงู เกนิ ไป ควรพนั ใหม้ ดิ ชดิ แน่นหนา ไมใ่ หต้ ัวนา ไฟฟา้ หลดุ ออกมา เบนเดอร์ (Bender) ขนาด 3/8,3/4 ระดับนา้ (water level) ขนาด 24 นว้ิ ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ควรเลอื กใช้ให้เหมาะสมกบั ขนาดของ ไม่ควรทาระดบั นา้ ตกเพราะอาจทาให้ ท่อนา้ ยา ค่าท่ีวัดคาดเคลื่อนได้ ป๊ัมสญุ ญากาศ (Vacuum pump) ชดุ บานแฟร์ (Flare fair set) ขนาด2-6หนุ มอเตอร์ :1/4HP,180W ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ควรตรวจสอบน้ามันกอ่ นใช้งานทุกครงั้ ควรจับทอ่ ให้พอดีกับตัวบานแฟร์

-5- .3เครื่องมอื อปุ กรณ์และข้อควรระวัง ไขควง (Screwdriver) ขนาด 3.5 น้ิว คตั เตอรต์ ดั ท่อทองแดง (Pipe cutter) ช่วงการตดั เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 4-28 มม. ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั หา้ มกดไขควงแรงเกนิ ไป อาจทา ขณะตัดไมค่ วรหมนุ คตั เตอร์มากจนเกินไป ให้นอ๊ ตพลกิ ทิม่ มอื ได้ ประแจหกเหล่ียม (Hex) เบอร์ 6 ทอ่ ทองแดง (Copper pipe) ขนาด 3/8,3/4 ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั อยา่ กดหรือบีบทอ่ แรงเกินไป อาจทา ควรใชป้ ระแจหกเหล่ียมให้ไดข้ นาดกบั ใหท้ ่อบบุ ได้ ชนิ้ งาน ฉนวนหมุ้ ทอ่ แอร์ (Air duct ตลับเมตร (Measuring Tape) ขนาด 5 insulation) ขนาด 1238,1234 เมตร ข้อควรระวงั ข้อควรระวงั ควรใช้อย่างนุ่มนวลเพอ่ื ป้องกันการฉกี ขาด ไม่ควรจับทใ่ี บตลับเมตรขณะดึงใบกลบั อาจ ของฉนวน ทาให้ใบบาดมือได้

-6- เครื่องมอื อปุ กรณแ์ ละขอ้ ควรระวงั กรรไกรตัดท่อนา้ (Water pipe cutter) เลอ่ื ยตดั ฝ้า (Saw cutting) ขนาด 6.5 นิ้ว ขนาด 42 มลิ ลิเมตร ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวัง ไม่ควรใชแ้ รงกดท่อมากเกินไปอาจทาให้ท่อ ไมค่ วรใช้เล่ือยตัดฝา้ ในแนวเฉยี ง อาจทาให้ใบ บบี พับลงได้ เล่ือยหักได้ ไฟเบอร์ (fiber) ขนาด 14น้ิว 2000วัตต์ คอ้ น (hammer) ขนาด 300กรมั ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวัง ระวงั อย่าใหส้ ะเก็ตไฟเขา้ ตา ควรจบั ค้อนให้ถนัดและเล็งใหด้ ีมฉิ ะนั้นอาจทา ใหต้ ีถกู มือได้ กรรไกรตัดฝา้ (Frosted scissors) เหล็กสตัดเกลยี ว (Spiral steel) ขนาด 4 ขนาด 8 นว้ิ หนุ ขอ้ ควรระวงั ไม่ควรใช้ตดั เหลก็ เพราะอาจทาให้ ข้อควรระวงั ขากรรไกรบิดและงอได้ ไมค่ วรใช้ค้อนตโี ดยตรงอาจทาให้เกลียวลม้ และไมส่ ามารถใช้งานได้

-7- เครือ่ งมือ อุปกรณแ์ ละขอ้ ควรระวัง กิป๊ แอมป์ (Clip amps) ขนาด 1000A ถงั น้ายา(Reagent tank) ชนิดนา้ ยาR410a ขอ้ ควรระวัง ขอ้ ควรระวงั ควรปรับย่านการวดั ใหต้ รงกบั คา่ ทจี่ ะใช้วดั ควรใชค้ วามระมัดระวังในการเติมนา้ ยาเพราะ เทปพนั ท่อ (Duct tape) ความกวา้ ง 2 นา้ ยา R410a มีแรงดันมาก นิ้ว ยาว 15 เมตร สีเทา กาวทาทอ่ น้า (Glue) ขนาด 50 กรมั ขอ้ ควรระวัง ขอ้ ควรระวัง ขณะพนั ควรดงึ เทปให้แนน่ ระวังอยา่ ให้กาวสัมผัสมือโดยตรง

-8- 01 การติดตั้งแฟนคอยลย์ นู ิต ยนู ิต เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ขอ้ ควรระวัง - ตดิ ตั้งตามความเหมาะสม ไม่ควรให้ - หากตดิ ตง้ั ไมไ่ ด้ตาแหนง่ ความเย็นกจ็ ะ แฟนคอยล์และคอยล์รอ้ นห่างจนเกนิ ไป ไม่ไดต้ ามทต่ี อ้ งการ - ตดิ ตัง้ ตามแบบหรือตามความต้องการ - หากตวั ยึดขาแขวนแอร์ไมแ่ ขง็ แรงพอ ของลกู คา้ อาจทาใหเ้ กดิ ความเสยี หายได้

-9- 01 ขั้นตอนการตดิ ตัง้ แฟนคอยล์ ยูนติ 1.หาตาแหน่งทีจ่ ะตดิ ตง้ั 2.ถอดคอยเยน็ 3.ทาการวดั ตาแหน่งเพอื่ ตดิ ตัง้ แฟนคอยล์ 4.ทาการผ่าฝา้ เพดาน

- 10 - 01 5.ตัดเหล็กสตดั เกลยี วเพอ่ื ทาขาแขวน 6.เจาะรูขาแขวนและรทู อ่ นา้ ยา 7.ตอกยดึ ขาแขวนกับเพดาน 8.ทาการยกตวั เครอ่ื งขนึ้ แขวนกับขา 9.ขันน๊อตยดึ ตวั เครอ่ื งเขา้ กับขาใหแ้ นน่ 10.แขวนแฟนคอยลเ์ สรจ็ สมบรู ณ์

- 11 - 02 การตดิ ตัง้ คอนเดนซง่ิ ยูนิต เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ เทคนคิ การทางาน ขอ้ ควรระวงั - ควรเลือกใชข้ าให้พอดกี บั ขนาดคอน - ไมค่ วรใหต้ าแหนง่ ของคอนเดนซ่งิ อยู่ เดนซงิ่ อยสู่ งู กวา่ แฟนคอยล์ - คอนเดนซิง่ จะเปา่ ลมรอ้ นออกมาควร - ควรยึดขาคอนเดนซ่ิงให้แนน่ และไม่ เลือกตาแหน่งทศิ ทางลมใหด้ ี เอียงไปทางใดทางหนึ่ง

- 12 - 02 ข้ันตอนการติดตัง้ คอนเดนซิ่ง ยนู ิต 1.หาตาแหน่งเจาะยึดขาคอนเดนซ่ิง 2.ประกอบขาคอนเดนซงิ่ 3.วดั ตาแหน่งเพ่ือยดึ ขาคอนเดนซิง่ 4.เจาะรูท่วี ัดตาแหนง่ ขาเอาไว้

- 13 - 02 5.ตอกยึดขาคอนเดนซ่ิงเขา้ กบั ผนงั 6.ยกคอนเดนซิง่ มาตง้ั บนขา 7.รองขายางแบนและยดึ น๊อต 8.ติดต้ังคอนเดนซิ่งเสรจ็ สมบรู ณ์

- 14 - 03 การเดินท่อ แว็คคั่มและปลอ่ ยน้ายาเข้าระบบ เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ เทคนคิ การทางาน ข้อควรระวงั - เดินรางSlim ductใหเ้ สร็จกอ่ นทจ่ี ะ - ไมค่ วรใช้มอื ดดั ท่อนา้ ยาอาจทาใหท้ อ่ นาทอ่ น้ายามาใส่ พบั เสยี หายได้ - กอ่ นเดนิ ทอ่ ทกุ ครัง้ ควรยดื ท่อใหต้ รง - ควรปดิ ปากทอ่ ให้มดิ ชิดอย่าใหส้ ่ิง และวัดใหพ้ อดกี ับขนาดของราง แปลกปลอมเขา้ มาอดุ ตนั ได้

- 15 - 03 ขั้นตอนการเดินทอ่ แวค็ ค่มั และปล่อยนา้ ยาเข้าระบบ ระบบ 1.คลี่ท่อนา้ ยาให้ไดต้ ามแนวที่วางไว้ 1.เจาะยึดรางวางแนวทอ่ นา้ ยา 3.ใชเ้ บนเดอร์ดดั ท่อน้ายา 4.ใสท่ ่อน้ายาพรอ้ มปิดฝาครอบราง

03 - 16 - 5.ตัดท่อใหพ้ อดีกบั หัวแฟร์ 6.บานแฟรท์ ่อนา้ ยา 7.ขันหัวแฟร์เข้ากับตัวเครือ่ ง 8.แว็คคั่มระบบท่อนา้ ยา 9.ปลอ่ ยระบบน้ายาเขา้ ตวั เคร่อื ง 10.ต่อระบบทอ่ นา้ ยาเสร็จเรยี บรอ้ ย

- 17 - 04 การตอ่ ระบบไฟฟา้ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ขอ้ ควรระวัง - ควรตดิ ตัง้ ตวั เบรกเกอรใ์ หอ้ ยใู่ กลก้ ับ - ไมค่ วรใหต้ วั เบรกเกอรอ์ ยู่ตา่ หรอื สูง บล็อคไฟ จนเกินไป - สายเบรกเกอร์ควรตคี ู่หรือวง่ิ ไปแนว - ไม่ควรตดิ ตวั เบรกเกอรอ์ ยู่หา่ งจาก เดยี วกบั สายปลก๊ั บล็อคไฟมากเกนิ ไป

- 18 - 04 ข้ันตอนการต่อระบบไฟฟา้ 1.เจาะยึดเบรกเกอรพ์ รอ้ มเขา้ สาย 2.ตดิ ตัง้ เบรกเกอร์เสร็จเรยี บร้อย 3.ลากสายระหวา่ งเคร่ืองจากแฟนคอยล์ 4.ตอ่ สายระหวา่ งเครอื่ งกับสายเมนต์ไฟ ไปยังคอนเดนซ่ิง เข้าตัวคอนเดนซ่งิ

- 19 - ฃ 05 การเดินระบบทอ่ น้าท้ิง เครือ่ งมอื และอุปกรณ์ เทคนคิ การทางาน ข้อควรระวงั - ติดต้งั ทอ่ น้าท้ิงใหเ้ ป็นแนวสโลปเพอ่ื นา้ - หากแนวท่อน้าไม่ไดร้ ะดับน้าอาจไหล จะไหลไดส้ ะดวก ย้อนกลบั ได้ - เวน้ ระยะห่างของแคมป์แตล่ ะตวั ให้ - ถ้าเว้นระยะห่างของแคมปแ์ ต่ละตัว เทา่ ๆกนั ไมส่ นั้ และยาวจนเกนิ ไป มากเกินไปท่ออาจตกทอ้ งช้างได้

- 20 - 05 ขัน้ ตอนการเดนิ ระบบท่อน้า ทง้ิ 1.ตอ่ ทอ่ นา้ ทิ้งเขา้ กบั ตัวเคร่อื ง 2.เดนิ ท่อนา้ ท้ิงตามแนวตวั อาคาร 3.ตดั ต่อสามทางเพอื่ ใหท้ ่อมาเชือ่ มตอ่ กัน 4.ให้ปลายสดุ ของทอ่ พน้ จากตัวอาคาร

05 - 21 - 5.เจาะยดึ แคมปก์ ล้ามปู 6.เดนิ ทอ่ นา้ ยาเสร็จเรยี บรอ้ ย

- 22 - ฃ 06 การรันเครื่องและตรวจเช็คระบบ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ข้อควรระวัง - ตรวจเช็คระบบไฟใหพ้ รอ้ มกอ่ น - การเตมิ นา้ ยาR410ทุกคร้งั ควรควา่ ถงั เดนิ เครื่อง ลงกบั พ้ืน - ใชก้ ฟิ๊ แอมป์จบั กระแสในการเตมิ นา้ ยา - เชค็ เกจนา้ ยาดูถา้ เขม็ ตีลงนา้ ยาใน ทุกคร้ัง ระบบมกี ารรั่วไหลแน่นอน

- 23 - 06 ข้นั ตอนการรันเคร่อื งและ ตรวจเช็คระบบ 1.เปดิ เบรกเกอรพ์ รอ้ มรนั เครอื่ ง 2.ดกู ระแสไฟบน Name Plate 3.ใช้กฟ๊ิ แอมป์จับกระแส 4.เติมน้ายาเขา้ ไปในระบบ

- 24 - 06 5.ตรวจสอบความเยน็ ภายในหอ้ ง 6.เช็คระบบการไหลของทอ่ น้าทิ้ง

- 25 - ภาคผนวก

- 26 - ภาคผนวก 01 การติดต้ังแฟนคอยลย์ ูนติ

- 27 - 01 การตดิ ต้ังแฟนคอยล์ยูนยิ ต การตดิ ตัง้ เครือ่ งปรบั อากาศทดี่ ี มี 6 วิธี ควรคานงึ 1. ควรติดตัง้ แฟนคอยลย์ ูน้วิ และคอนเดนส่งิ ยนู ติ ้นองเครือ่ งแบบแยกส่วนให้ใกล้กนั มากทส่ี ดุ จะทาให้ เครอ่ื งไมต่ ้องทางานหนกั ในการสง่ สารทาความเย็นให้ไหลไปตามทอ่ ทั้งยังลดคา่ ใช้จ่ายในการเดินทอ่ และหุ้มฉนวนตลอดจนลดโอกาส การรั่วของสารทาความเยน็ 2. หมุ้ ท่อสารทาความเย็นจากคอนเดนเซอร์ไปยงั แผงทอ่ ทาความเย็น (Cooling coil) ของ เครอ่ื งปรับอากาศแบบแยกสว่ นด้วย ฉนวนทีม่ ีความหนา ประมาณ 0.5 นิ้ว หรือตามที่ผผู้ ลิตแนะนา เพ่ือป้องกันมิให้มีสารทาความเยน็ ภายในทอ่ แลกเปล่ียนความรอ้ นกับอากาศภายนอกตามเสน้ ทอ่ 3. ตาแหน่งตดิ ตั้งคอนเดนซึง่ ยูนคิ ม(หรือเครอ่ื งแบบหนา้ ตา่ ง)ควรอยใู่ นทีร่ ่ม ไมถ่ กู แสงแดดโดยตรงแต่ อากาศภายนอกสามารถถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรอยใู่ นท่ีอบั ลมหรือคับแคบที่วา่ งโดยรอบเคร่อื งต้อง เพยี งพอตามที่ผผู้ ลิตแนะนา 4. ในสถานทซ่ี ่ึงมีการติดตง้ั คอนเดนซง่ิ ยูนติ (หรอื เคร่ืองแบบหนา้ ตา่ ง)หลาย ๆ ชุด ต้องระวังอยา่ ให้ลม รอ้ นทร่ี ะบายออกจากเครื่อง ชุดหนึ่งเป่าเขา้ หาเครอื่ งอีกชดุ หนง่ึ ควรใหล้ มรอ้ นจากแตล่ ะเครื่องเป่า ออกไดโ้ ดยสะดวก 5. ในบางสถานท่ซี ่งึ มลี มพัดแรงตลอดเวลาในทศิ ทางเดยี ว ควรตดิ ตั้งคอนเดนซง่ิ ยนู ิต (หรือเคร่อื งแบบ หน้าต่าง)ให้อากาศร้อนระบายออกจากตัวเครื่องอยู่ในทิศเดยี วกับกระแสลม อย่าใหป้ ะทะกบั ลม ธรรมชาติเพราะจะทาใหเ้ คร่ืองระบายความร้อนได้ลาบาก

- 28 - 6. ตาแหน่งตดิ ตั้งแฟนคอยล์ยนู ติ (หรอื เครือ่ งแบบหน้าตา่ ง)ต้องใหล้ มเยน็ ท่ี จ่าย ออกจากตวั เครือ่ งสามารถกระจายไปทว่ั ท้ังห้อง การคานวณ BTU ที่เหมาะสม BTU (British Thermal Unit) คือ หนว่ ยทีใ่ ช้วัดปริมาณความร้อนหนว่ ยหน่ึง (ซ่งึ เป็นทน่ี ิยมใช้กันมาก ในระบบของเครือ่ งปรับอากาศ) สามารถเทยี บไดก้ บั หน่วยจลู หรือแคลอรี่ในระบบสากล โดยท่ีความ ร้อน 1 BTU คือปริมาณความร้อนทที่ าให้น้า 1 ปอนด์มอี ณุ หภูมทิ ีเ่ พม่ิ ข้ึนหรอื ลดลง 1 องศาฟาเรน ไฮด์ แอรน์ ัน้ จะวดั กาลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความรอ้ น (ถ่ายเทความร้อน) ออกจาก ห้องปรบั อากาศในหน่วยบีทยี ู (BTU) เช่นแอรข์ นาด 14,000 บีทยี ตู ่อช่วั โมง หมายความว่าแอร์เครื่อง นัน้ มีความสามารถในการดงึ ความร้อนออกจาก หอ้ งปรบั อากาศ 14,000 บีทยี ูภายในเวลา 1 ชัว่ โมง ทาไมต้องเลือก BTU แอร์ ให้พอเหมาะกับขนาดของหอ้ ง - ถา้ เลือก BTU สงู ไป คอมเพรสเซอรจ์ ะทางานตัดบ่อยเกินไป ทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพในการทางานลด น้อยลง ทาใหค้ วามชื้นในห้องสงู ไม่สบายตวั และท่ีสาคัญราคาแพงและสิ้นเปลืองพลงั งาน - ถ้าเลือก BTU ตา่ ไป คอมเพรสเซอร์จะทางานตลอดเวลา เพราะความเย็นหอ้ งไมไ่ ด้ตามอณุ หภมู ิ ท่ีตัง้ ไว้ อาจจะส้นิ เปลอื งพลงั งานมากกว่าเลือกบีทยี ูทพ่ี อดีกบั หอ้ ง และทาให้อายุการใช้งานของเครอื่ ง

- 29 - สน้ั ลง มีโอกาสเสียเร็วมากขนึ้ รวมถึงทางแบรนด์ผผู้ ลติ โรงงาน ศนู ย์บริการ ในฐานะเจ้าของ ผลิตภัณฑอ์ าจจะไมไ่ ด้รับประกันในตวั สนิ ค้า กรณีตัวสนิ คา้ มีปญั หา เนอื่ งจากการใช้งานผดิ สเป็ค ผิด ประเภท หรอื ผดิ ขนาด สรุปกค็ ือ การเลอื กขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับพืน้ ท่ีของหอ้ ง จะช่วย ให้แอร์ทางานไดเ้ ตม็ ประสทิ ธิภาพ ไมส่ ิ้นเปลอื งพลังงาน และประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยของ คณุ ลกู ค้าเทด็ ด้แี อรอ์ ีกดว้ ย \\

- 30 - ภาคผนวก 02 การติดตัง้ คอนเดนซ่งิ ยนู ติ

- 31 - 02 การตดิ ต้ังคอนเดนซิ่งยูนิต ตาแหน่งติดตัง้ คอนเดนซิ่งยูนิตท่เี หมาะสม 1.ควรวางคอนเดนซ่ิงยูนิต(คอยลร์ อ้ นตวั นอก) ในบริเวณท่ตี ัวแอร์จะสามารถเป่าระบายลมรอ้ นไดด้ ี มิ เช่นน้ันอาจจะทาใหแ้ อร์เสียเร็วเน่อื งจากความรอ้ น อีกทงั้ ยังทาให้ทาความเยน็ ได้ไม่ดเี ทา่ ทค่ี วร 2.ควรวางตาแหน่งคอยลร์ ้อนแอร์ในตาแหนง่ ที่ไมโ่ ดนฝนสาดไดง้ า่ ยหรือทาทก่ี าบงั มิเชน่ นนั้ จะทาให้ สว่ นท่ีเปน็ โลหะเกิดสนิมขึน้ ได้เรว็ ขึ้น 3.ควรวางตาแหนง่ คอยลร์ ้อนแอร์บรเิ วณท่ีไมถ่ กู แสงแดดส่องโดยหรอื ควรทาที่ กาบัง มิเช่นนนั้ จะทา ใหแ้ อร์เสอ่ื มสภาพเร็วขนึ้ และทาให้แอร์ทาความเย็นไม่ดีเทา่ ท่ีควร 4.ควรวางตาแหนง่ คอยลร์ ้อนแอร์ไมใ่ ห้มีเสียงดังรบกวนบ้านขา้ งเคียง และควรไมใ่ หล้ มรอ้ นเปา่ ออกไป รบกวนบริเวณบ้านข้างเคียง 5.ในกรณีจาเปน็ ตอ้ งแขวนคอยล์รอ้ น ควรแขวนบริเวณทม่ี ีโครงสร้างท่แี ข็งแรง มิเชน่ นั้นอาจจะทาให้ เกดิ การสนั่ สะเทือนหรือตกหล่นลงมาได้ 6.ควรวางตาแหนง่ คอยลร์ ้อนแอร์ใหส้ งู จากพื้นดินอย่างน้อย 10 เซนตเิ มตร เพ่ือหลกี เลี่ยงน้าขังเวลา ฝนตกน้าท่วม

- 32 - 7.ควรวางตาแหนง่ คอยลร์ ้อนแอรใ์ นทีส่ ามารถลา้ งบารงุ รกั ษาได้สะดวก 8.ควรหลีกเล่ยี งการตดิ ต้ังในบรเิ วณท่มี กี รดซลั ไฟด์ เชน่ บริเวณทอ่ ระบายน้าท้ิง เนื่องจากสารทาความเยน็ จะทาปฏกิ ริ ยิ ากบั กรดซัลไฟด์ ทาให้เกดิ แกส๊ พิษ ซื่ง อันตรายกบั ร่างกายเมือ่ สูดดม 9.ควรวางตาแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ในตาแหนง่ ท่ีไมเ่ กะกะขวางทางเดนิ ทาไมตอ้ งใชข้ าแขวนแอร์ ในปจั จุบนั การประหยัดพื้นที่ใช้สอยในบา้ น ในอาคารถือเป็นสิ่งจาเปน็ แต่เดมิ นั้นจะนาแอรต์ งั้ ไวก้ ับ พนื้ แตป่ ัจจบุ ันหลายบ้าน มีพ้ืนท่ีน้อย การต้งั แอร์กบั พนื้ ดนิ จงึ ทาให้เสยี พืน้ ทใี่ ช้ประโยชน์ดา้ นล่าง แถมยงั ให้คอมเพรสเซอร์แอร์สกปรกไดง้ า่ ย เนื่องจากเวลาฝนตก น้าจากพน้ื ดนิ จะกระเดน็ โดนในทนั ที ดังน้ันการตดิ ต้ังแอรโ์ ดยใช้ ขาแขวนแอร์ ตดิ กับผนัง กาแพง จงึ ถอื วา่ เปน็ ทางเลือกท่ีดีกว่า สาหรับ บา้ นพักทว่ั ไป โดยเฉพาะบา้ นท่มี หี ลายชนั้ เพราะจะทาให้ระยะห่างระหวา่ งแอร์ และคอมเพรสเซอร์ ส้ันลง การเดนิ ท่อแอร์กท็ างา่ ยเพราะทอ่ ไม่ยาว ใชแ้ รงดังสง่ น้ายาน้อยกวา่ และท่ีสาคญั คือ เวลามกี าร ทาความสะอาด ล้างแอร์ จะทาการฉีดน้าล้างไดง้ า่ ยกวา่ การตัง้ แอรก์ บั พ้ืนโดยใช้ขายางรองแอร์ ก่อนติดต้ังขาแขวนแอร์ ตอ้ งดอู ะไรบ้าง การตดิ ตัง้ ขาแขวนแอร์ ท่ีเป็นขาเหลก็ ติดกบั ผนัง โดยส่วนมากนิยมใชก้ ับแอรท์ ่ีอยชู่ น้ั ลอยข้ึนไป ดังนนั้ ส่งิ ที่ต้องพจิ ารณาอย่างแรกกค็ ือ พื้นทตี่ ดิ ตัง้ ขาเหล็ก สว่ นของกาแพงติดผนงั เนอื่ งจากเวลาแอร์ทางาน

- 33 - จะเกิดพัดลมหมุน เกิดการสั่นสะเทือน หากกาแพงทท่ี าการยึด ขาแขวนแอร์ ไมแ่ ข็งแรง ก็อาจ ก่อใหเ้ กดิ ปญั หาเสียงดงั หรอื สั่นจนกาแพงพงั ท่ีแย่ทส่ี ดุ คอื ขาแขวนแอรห์ ลดุ รว่ ง คอมเพรสเซอร์แอร์ เสยี หาย หรืออาจตกโดนผใู้ ช้งานทาใหบ้ าดเจบ็ ดงั นัน้ การตดิ ตงั้ ขาแขวนยดึ แอร์ภายนอกกับผนงั จะต้องดคู วามแขง็ แรงของผนังมากอ่ นเสมอ ปัจจยั ต่อไปกค็ ือการตอ่ ทอ่ น้าทงิ้ หากการติดตง้ั คอยล์ ร้อนอยูช่ ั้นบน ช่างแอรบ์ างคนไม่ได้ตอ่ ท่อนา้ ทิง้ ให้ ปลอ่ ยให้น้าทงิ้ หยดลงบนพ้ืนใต้คอยล์รอ้ น หากเปน็ พื้นที่ไมม่ กี ารระบาย หยดสะสมนานๆ จะทาให้เกดิ นา้ ขัง เกดิ ตะไคร่น้า ส่งผลใหพ้ ้ืนลา่ ง ส่วนน้ันไมส่ วยงาม ดังนน้ั ถงึ แม้ว่าจะตดิ ตั้งแอรส์ งู แคไ่ หน ก็ควรทาการต่อท่อน้าทง้ิ ให้ลง ไปยังท่อนา้ ท้ิงทกุ ครั้ง

- 34 - ภาคผนวก 03 การเดนิ ทอ่ แว็คคั่มและปลอ่ ยนา้ ยาเขา้ ระบบ

- 35 - 03 การเดนิ ท่อ แว็คคัม่ และปล่อยน้ายาเข้าระบบ การเดินทอ่ น้ายาแอร์ มีดงั นี้ ในการเดินท่อน้ายาแอร์กรณีทีต่ วั คอยล์ร้อนอยสู่ ูงกว่าคอยลเ์ ย็น จะตอ้ งเดินท่อใหส้ ามารถกกั น้ามัน (Oil Trap) เพอ่ื ให้แนใ่ จว่า นา้ มันหลอ่ ล่นื ท่หี นกั กวา่ ตวั น้ายาแอรจ์ ะสามารถไหลกบั ขน้ึ ไปยังตัว คอมเพรสเซอร์ได้ และการทาทีก่ ักน้ามันควรทาให้ใกลค้ อยลเ์ ยน็ และถ้าระยะห่างกนั มากควรทาที่กัก นา้ มนั ทุกๆช่วงความสูงท่ี 4.5 เมตร เพอ่ื กกั นา้ มนั นจ้ี ะถกู ดดู ไปหล่อล่ืนคอมเพรสเซอรไ์ ด้ทันทีท่ีเรมิ่ เดนิ เคร่อื ง (ไม่ควรเดนิ ทอ่ ในแนวด่งิ สงู เกินกว่า 15 เมตร) ในกรณีทีต่ ิดตงั้ คอยลร์ ้อนอยู่ตา่ กวา่ คอยล์เย็น ถ้าเกิดระยะหา่ งยงิ่ มากยงิ่ มีผลให้ความดันของน้ายาแอร์ ตกลงเพราะคอมเพรสเซอร์ต้องใช้แรงอดั น้ายาแอร์ข้ึนที่สงู ดังนน้ั การเดนิ ทอ่ น้ายาแอรด์ ้านส่งตอ้ ง คานวณถึงความดนั ตกครอ่ มจากความเสยี ดทานและการเดินทอ่ ในแนวด่ิงดว้ ย และในการเดนิ ทอ่ นา้ ยาแอรท์ ี่มยี าวเกนิ กว่า 10 เมตร จะต้องทาการเติม นา้ มนั หลอ่ ลน่ื เพิ่มเขา้ ไปอีกเพ่ือชดเชยน้ามันทมี่ กั เกาะเปน็ ฟิล์มบางๆอยู่กับผวิ ด้าน ในของท่อดูด

- 36 - บานแฟล คอื เครอ่ื งมือสาหรบั บานท่อทองแดง เพ่อื ใช้เชอื่ มต่อระหว่างระหว่างทอ่ ทองแดง และแฟร์นัน้ เข้ากับช่องเซอรว์ สิ เทคนคิ การได้แฟรท์ ีใ่ ชง้ านไดด้ ี 1.หลงั จากตดั ทอ่ ต้องทาการลบคมทกุ ครั้งเพอื่ นาเส้ียนทไ่ี ด้จากการตัดท่อออกมา 2.เม่อื ทาการตัดทอ่ ลักษณะทอ่ ต้องไม่เบย้ี ว หรือ ถูกบบี ให้สงั เกตุทกุ คร้ัง การทาสุญญากาศระบบ (Evacuating the System) หรือท่เี รียกว่า “การทาแวคคัม่ ” จะกระทา ภายหลังจากการตรวจรั่วระบบ แต่ต้องทาก่อนท่ีจะชาร์จสารความเยน็ เข้าในระบบ การทาสญุ ญากาศ เปน็ การใช้เครื่องปัม๊ สญุ ญากาศ (Vaccum Pump) ดูดเอาอากาศและความชื้นภายในระบบออกให้ หมด ถา้ เปน็ ระบบเก่ากร็ วมถึงการขจัดเอาสารความเย็นทเี่ สอ่ื มคุณภาพแลว้ ออกจากระบบ เพือ่ ให้ แน่ใจวา่ ภายในระบบเป็นสุญญากาศอยา่ งแทจ้ ริง เคร่ืองมอื และเครือ่ งวัดทจี่ าเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการทา สุญญากาศระบบประกอบดว้ ย เคร่อื งปัม๊ สญุ ญากาศและเครื่องวดั สุญญากาศที่ เทยี่ งตรง ไม่ควรใชค้ อมเพรสเซอร์เป็นเคร่ืองปมั๊ สุญญากาศหรือใชค้ อมเพรสเซอร์ ของระบบทาสุญญากาศด้วยตวั เอง เพราะถ้าทาสุญญากาศไดไ้ มถ่ งึ ระบบแลว้ จะ เกดิ ปัญหาตอ่ ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ ข้ึนภายหลัง

- 37 - วงจรการทางานของสารทาความเย็นประกอบดว้ ย 4 กระบวนการ ดงั นี้ 1. กระบวนการอดั สารทาความเย็น โดยสารทาความเย็นในสถานะไอจะถกู เครอื่ งอดั อดั ให้มคี วามดนั สูงขน้ึ ตามตอ้ งการของสารทาความเยน็ แตล่ ะชนดิ เมือ่ ความดันสงู ขน้ึ อุณหภูมขิ องสารทาความเยน็ ก็ จะสงู ข้นึ ตามกฎของกา๊ ซ 2. กระบวนการควบแน่น สารทาความเย็นในสถานะไอที่มอี ณุ หภูมแิ ละความดนั สงู จะถกู ส่งผ่านท่อ เขา้ ไปยงั ขดทอ่ ระบายความรอ้ น (Condenser)โดยจะใช้น้าหรืออากาศระบายความรอ้ นทาใหส้ ารทา ความเย็นควบแนน่ เปน็ ของเหลว 3. กระบวนการขยาย สารทาความเย็นท่อี อกจากคอนเดนเซอร์จะอยู่ในสถานะของเหลวอ่มิ ตัวหรอื ของเหลวเย็นเยือกประมาณ 10OC ทมี่ คี วามดนั สงู จะถูกลดความดันลงโดยอุปกรณล์ ดความดัน ทาให้ สารทาความเยน็ มีอุณหภมู ิลดตา่ ลงตามท่ีผู้ใช้ต้องการ 4. กระบวนการระเหย สารทาความเยน็ ท่มี อี ุณหภูมิตา่ จะผา่ นเขา้ ไปยังขดท่อความ เยน็ เม่ือรบั ความรอ้ นจากอากาศหรอื น้าทาใหไ้ ด้อากาศเย็นและนา้ เยน็ ส่วนสารทา ความเย็นจะเกิดการระเหยตวั กลายเป็นไอจนอยใู่ นสถานะไออม่ิ ตวั หรือไอรอ้ น ยวดยงิ่ ประมาณ 10OC (Superheat Vapor) ก่อนทจ่ี ะถกู เคร่ืองอัดดูดแลว้ เริ่ม การทางานตอ่ ไปอยา่ งต่อเน่อื ง

- 38 - ภาคผนวก 04 การตอ่ ระบบไฟฟ้าและเทสรนั เคร่อื ง

- 39 - 04 การต่อระบบไฟฟ้าและเทสรนั เครอ่ื ง เบรกเกอร์ (breaker) เป็นสวติ ซ์เปดิ -ปิดทใ่ี ช้ในงานไฟฟ้าทั่ว ๆ ไปแตม่ คี ณุ ภาพ ที่สูงกวา่ เพราะวา่ เบรกเกอรน์ อกจากจะทาหน้าที่เปน็ สวติ ซ์เปิด-ปดิ วงจรไฟฟ้าแล้วยัง สามารถควบคุมและป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินในวงจรและการลดั วงจร ทางานโดยอาศยั ความร้อนและสนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ เมื่อเบรกเกอรต์ ัดวงจรแลว้ มันยงั สามารถใช้งานได้ อกี ชนดิ ของสายไฟ มี 5 ชนดิ 1 สายไอวี (IV) สาย ชนิดน้ีเป็นสายเดยี วหรอื แกนเด่ียวชนิดทนแรงดนั ไฟ 300 โวลต์ใชเ้ ป็น สายเดินเข้าอาคารสาหรบั ทพี่ กั อาศัยที่ใช้ระบบ 1 เฟสและหา้ มใชก้ ับระบบ3เฟสทม่ี แี รงดนั 380 โวลต์ 2 สายวเี อเอฟ (VAF) เปน็ สายชนดิ ทนแรงดนั 300 โวลตม์ ีทง้ั ชนดิ เปน็ สายเดย่ี วสายค่แู ละท่ีมี สายดินอยดู่ ้วย ถา้ เป็นสายเดีย่ วจะเปน็ สายกลมและถ้าเปน็ ชนดิ 2 แกนหรอื 3 แกนจะเป็นสายแบน ตวั นานอกจากจะมฉี นวนห้มุ แลว้ ยงั มีเปลือกหมุ้ อกี ชั้นหนงึ่ สายคู่จะนยิ มเดนิ 3 สายทีเอชดับเบิลยู (THW) เป็น สายไฟฟา้ ชนดิ ทนแรงดนั 750โวลต์เปน็ สายเดีย่ วนยิ มใชก้ ัน อย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในโรงงานอตุ สาหกรรม เน่ืองจากใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 เฟสปกติ 4 สายเอ็นวายวาย (NYY) มี ทั้งชนดิ แกน เดยี วและหลายแกนสายหลายแกนก็จะเปน็ สายกลม เชน่ กนั สายชนิดนีท้ นแรงดัน 750 โวลต์ 5 สายวซี ีที (VCT) เป็น สายกลมมที ้ัง1แกน 2 แกน 3 แกนและ 4 แกน สามารถทนแรงดนั 750 โวลต์มีฉนวนและเปลอื กเช่นกันกบั สายเอ็นวายวาย มีข้อ พิเศษกว่ากค็ อื ตวั นาจะประกอบดว้ ยทองแดงฝอยเส้นเล็กๆร้อยรวมกนั เปน็ หน่ึง แกน

- 40 - การเดินสายไฟ • การดาเนนิ การเกีย่ วกับไฟฟ้ากบั เคร่ืองปรบั อากาศตอ้ งกระทาโดยผู้ตดิ ต้ังทีม่ ีความชานาญ หรอื ช่าง บริการที่มคี วามชานาญเท่าน้ัน ผูท้ ่ไี ม่มคี วามชานาญไม่สามารถดาเนินการเองไดเ้ พราะการดาเนนิ การ ทไ่ี ม่เหมาะสมอาจกอ่ ให้เกิดไฟฟ้าดูดและ/หรือไฟฟ้ารวั่ ได้ • เมือ่ เชือ่ มต่อสายไฟ ซอ่ มแซมช้นิ ส่วนทางไฟฟา้ หรือดาเนนิ งานดา้ นอืน่ ๆ เก่ยี วกบั ไฟฟา้ ช่างไฟควร สวมถุงมือรองเทา้ และเสอ้ื ผา้ ท่ีเป็นฉนวน เพ่อื ปอ้ งกันไฟฟา้ ซ็อต การไมส่ วมใส่อุปกรณป์ ้องกันอาจ ก่อให้เกิดไฟฟา้ ช็อตได้ • ใช้สายไฟทีม่ คี ุณสมบตั ติ รงตามท่ีกาหนดไวใ้ นขอ้ บังคับในทอ้ งถ่นิ และข้อกาหนดทางกฎหมาย การ ใชส้ ายไฟท่ไี ม่ตรงตามคณุ สมบตั อิ าจเพ่ิมความเส่ียงในการเกดิ ไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้ารัว่ ควนั ไฟ และ/หรือ เพลงิ ไหม้ • ตอ่ สายดนิ (งานสายกราวนด)์ การต่อสายดนิ ทีไ่ มส่ มบูรณอ์ าจกอ่ ใหเ้ กิดไฟฟ้าช็อต • ห้ามตอ่ สายดนิ กบั ท่อก๊าซ ทอ่ นา้ และสายล่อฟา้ หรอื สายดนิ ของโทรศัพท์คูม่ ือการตดิ ตั้ง เครอื่ งปรับอากาศ แคเรียร์ 3 40LAU-X Series • หลังซ่อมแซมหรอื ยา้ ยท่ีตดิ ต้ัง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดเ้ ช่อื มต่อสายดินอย่างถูกตอ้ งแล้ว • ตดิ ต้งั เคร่อื งตดั กระแสไฟฟา้ ที่มีคุณสมบัติตรงตามท่ีกาหนดไวใ้ นค่มู อื การตดิ ตง้ั ข้อบังคับในท้องถิ่น และข้อกาหนดทางกฎหมาย

- 41 - • ตดิ ต้งั เคร่ืองตัดกระแสไฟฟา้ ในท่ีทผี่ ู้ตรวจสอบสามารถเข้าถงึ ได้โดยสะดวก • เมอ่ื ติดตง้ั เครือ่ งตดั กระแสไฟฟ้านอกอาคาร ควรเลือกใช้เครื่องตดั กระแสไฟฟา้ ท่อี อกแบบมาเพือ่ การ ใชง้ านนอกอาคาร • ไม่ควรพว่ งตอ่ สายไฟให้ยาวขึ้น ปัญหาดา้ นการเชื่อมตอ่ ในทท่ี ่ีมีการพว่ งต่อสายไฟ อาจเพม่ิ ความเสีย่ งในการเกิดควนั ไฟหรือเพลิงไหม้ • ควรเดนิ สายไฟตามข้อกาหนดทางกฎหมายและข้อบังคับในชุมชนรวมถงึ คู่มอื การ ติดตงั้ การไม่กระทาตามอาจส่งผลให้เสียชวี ิตจากการถูกไฟดดู หรือเกดิ ไฟฟ้าลัดวงจร

- 42 - ภาคผนวก 05 การเดินระบบทอ่ นา้ ท้งิ

- 43 - 05 การเดินระบบทอ่ นา้ ท้ิง ทอ่ PVC คือ ทอ่ ท่ีทาข้ึนจากโพลิไวนลิ คลอไรด์ โดยไมผ่ สมพลาสติกไซเซอร์ ซ่ึงช่ืออยา่ งเป็น ทางการทีไ่ ด้ระบใุ น มอก. คือ ท่อพีวีซีแข็ง แต่คนทั่วไปนนั้ จะรจู้ ักมกั คุน้ กนั ในชอื่ ทอ่ PVC กันมากกวา่ โดยในปจั จบุ ันท่อชนดิ นีเ้ ป็นทนี่ ยิ มอยา่ งมากในวงการกอ่ สร้าง เพราะดว้ ยคุณสมบตั ิที่ดีหลายอย่างไม่ ว่าจะเปน็ คุณสมบัติทม่ี ีความเหนยี วยดื หยุ่นตัวไดด้ ี ทนต่อแรงดนั น้า ทนต่อการกัดกร่อน ไม่เป็น ฉนวนนาไฟฟ้าเพราะไมเ่ ปน็ ตวั นาไฟฟา้ เป็นวสั ดไุ ม่ติดไฟ น้าหนักเบาอกี ท้งั ยังราคาถกู อกี ดว้ ย ท่อ PVC จงึ ถูกนามาใช้ในงานหลาย ๆ ระบบ อาทิเช่น ระบบประปา ระบบงานร้อยสายไฟฟ้า ระบบงานระบายน้าทางการเกษตร/อตุ สาหกรรม ท่อพีวีซสี ีฟ้า หรือ ท่อพีวซี แี ข็งสาหรบั ใช้เปน็ ทอ่ นา้ ดื่ม ตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม หรอื มอก. 17-2532 ทอ่ ชนิดนี้เปน็ ทน่ี ยิ มใชง้ านประปาสุขาภบิ าลภายในอาคาร เช่น ใช้เป็นทอ่ น้าประปา หรอื ใช้กับป๊ัมน้า ซงึ่ ท่อประเภทนี้เป็นเพยี งประเภทเดยี วใน 3 สหายของเราทมี่ กี ารระบุ มาตรฐานความดันหรือช้ันคณุ ภาพ อันได้แก่ PVC 5, PVC 8.5, PVC 13.5 ซงึ่ ตวั เลขท่ไี ดร้ ะบุคือค่า ความดันระบุและค่าความดนั ระบุหมายถึง ความดันทก่ี าหนดใหส้ าหรับใชง้ าน ณ อณุ หภูมิ 27 องศาเซลเซียส โดยในมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมได้ อธบิ ายไว้ว่า ชัน้ คุณภาพคือ ความดนั ระบุทมี่ หี น่วยเปน็ เมกะพาสคลั ตามตาราง

- 44 - การตดิ ตัง้ ทอ่ น้าทงิ้ ในการติดตัง้ แอรบ์ ้าน ในการติดตั้งแอร์บ้าน การตดิ ต้งั ท่อนา้ ทิง้ ของแอร์ ถือว่าเป็นสว่ นสาคัญส่วนหนึ่งทีจ่ ะตอ้ งระวงั เพราะถา้ หากตดิ ตัง้ ไม่ดีจะใหน้ า้ ท้ิงที่ระบายมาจากตัวแอร์ ไมส่ ามารถระบายออกได้และจะมนี า้ ทิง้ ของ แอรค์ ้างอยใู่ นตัวเครอื่ งและเพมิ่ มาก ข้ึนเร่ือยๆ จนล้นออกมาภายนอก(นี่ก็เป็นอกี าเหตหุ น่ึงของอาการ แอร์นา้ หยด และจะสร้างความเสียหายใหอ้ ปุ กรณ์ทีอ่ ยู่ข้างใต้ตวั แอรไ์ ด้ - การเดินท่อนา้ ท้งิ ในช่วงผ่านรูผนัง ควรทามมุ ให้ลาดเอียงลงเล็กนอ้ ย ให้ทอ่ อยู่ต่ากวา่ ระดบั ถาดรอง นา้ ท้งิ เพ่ือใหน้ ้าเดรนออกทิง้ ภายนอกได้สะดวก - ในการตดิ ตัง้ ท่อนา้ ท้ิงแอร์ สว่ นมากจะใช้ท่อพวี ซี ี หรอื ท่อ S-LON โดยตอ่ ออกจากตวั เครอื่ งทาความ เย็นดา้ นใน - การต่อทอ่ น้าทงิ้ แอร์นั้นควรจะหมุ้ ฉนวน ในจุดทีจ่ ะเกดิ การควบแนน่ ของไอน้าดว้ ย (condensate) และถ้าเดินทอ่ อยู่บนฝา้ เพดานจาเป็นต้องใส่ฉนวนหุ้มตลอดท้ังแนว - ในกรณที ่จี าเปน็ ต้องตอ่ ท่อน้าทง้ิ ลงท่อระบายน้า ควรปอ้ งกนั กลิ่นและแมลงโดย การทา TRAP ทที่ อ่ น้าทิง้ ด้วย (การทา trap คอื การเดินทอ่ ให้โค้งขนึ้ ก่อนแลว้ โคง้ ลง คล้ายตวั n เพื่อกักนา้ ใหข้ งั ไว้ในทอ่ น้าท้ิงเลก็ นอ้ ย

- 45 - ภาคผนวก 06 การรันเคร่อื งและตรวจเชค็ ระบบ

- 46 - 06 การรนั เคร่ืองและตรวจเช็คระบบ ตรวจสอบการกนิ ไฟ ของคอมเพรสเซอร์ ก่อนเดินเครอ่ื ง ก่อนที่จะเดินระบบทาความเย็น เพือ่ เตมิ สารทาความเยน็ ตรวจมีการตรวจสอบกระแสไฟของ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์เสียกอ่ น โดยใชค้ ลปิ แอมป์ จับดกู ารกินกระแสไฟของ คอมเพรสเซอร์ เพ่อื ควบคมุ การเติมน้ายาแอรไ์ ม่ให้มอเตอร์กินกระแสมากเกนิ ไป หากพบวา่ มคี ่าการกนิ กระแสไฟทีป่ กติ ตอ้ งเชค็ คา่ ความดนั เกจ์ ดว้ ยวา่ อยู่ระดบั ปกติ หรือไม่ หากผิดปกติ ควรหยุดการเตมิ สารทาความเย็น และหาจุดขดั ขอ้ งเสียก่อน การเชค็ น้ายาแอร์ เปน็ อกี หน่งึ หัวขอ้ ของการใช้และบารงุ เคร่อื งปรบั อากาศ การเชค็ น้ายาแอร์ เปน็ อกี หนึง่ หวั ขอ้ ของการใช้และบารุงเคร่อื งปรับอากาศ ที่แม้คุณจะไมใ่ ช่ชา่ ง แอรห์ รอื คนท่มี คี วามเชยี่ วชาญกต็ ามที ซงึ่ ก็ควรทีจ่ ะทราบว่าถงึ การทางานของระบบและการเตมิ นา้ ยา แอร์ท่ถี ูกตอ้ ง

- 47 - 1. วธิ ีการวัดน้ายาแอรท์ ่ีเติมวธิ ีแรก ในการเตมิ น้ายาแอร์แตล่ ะคร้ังทีส่ าคัญ ควรทีจ่ ะตอ้ งชา่ ง นา้ หนักของถังน้ายาแอรก์ ่อนและหลังการเติมน้ายาแอร์ เพ่อื หาน้าหนกั ของแอร์ท่หี ายไปเพอ่ื เปรียบเทียบปริมาณของน้ายาทเ่ี ตมิ ไปเพอื่ ความแมน่ ยา 2. วธิ ีการวัดน้ายาแอร์ทเ่ี ติมวิธีทสี่ อง การใช้กระบอกเตมิ นา้ ยาแอร์เพ่ือบอกปรมิ าณน้ายาแอร์ท่ี เหลอื ในถังน้ายา ซง่ึ จาเปน็ ต้องจดปรมิ าณของนา้ ยาแอรเ์ อาไว้ดว้ ย 3. วธิ ีการวัดนา้ ยาแอร์ท่ีเติมวิธีที่สาม การตรวจสอบนา้ ยาแอรโ์ ดยการอ่านจากกระแสไฟฟ้าท่ี เครื่องปรับอากาศใช้ เพื่อเปรยี บเทียบพกิ ดั ของกระแสไฟฟา้ ของเครือ่ งปรับอากาศทใ่ี ช้รว่ มกับขณะที่ เตมิ น้ายาแอร์และจะหยดุ เตมิ เมอื่ กระแสไฟฟา้ เทา่ กบั พกิ ดั ของกระแสไฟฟา้ ทพ่ี อเหมาะ วิธกี ารเตมิ น้ายาแอร์น้ันจะมีด้วยกัน 2 ประเภทซึง่ มวี ิธกี ารดงั ต่อไปนี้ การเติมน้ายาแอรเ์ ขา้ สู่ทางดดู ของ Compressor หรือเรียกว่าการบรรจุน้ายาแอรท์ างแรงดนั ต่า ซ่ึงจะอยใู่ นรูปของก๊าซ เมือ่ ได้ไลอ่ ากาศออกจากท่อนา้ ยาแอรแ์ ลว้ จะทาการปลดสายล่างของมาตร วัดออกจากเครอ่ื งปมั๊ สุญญากาศและต่อเขา้ กบั ทอ่ น้ายาแอร์จากนั้นเปิดวาลว์ เติมนา้ ยาเขา้ ไปประมาณ 120-150 ปอนดต์ ่อตารางน้วิ หลังจากน้ันเปิดสวทิ ชใ์ หท้ ง้ั ชดุ อีวาปอเรเตอร์และชุดคอนเดนซง่ิ ทางาน แล้วจึงเรมิ่ เติมนา้ ยาแอรเ์ ข้าสรู่ ะบบเพื่อให้เครอ่ื งทางาน ปลอ่ ยให้เครอื่ งทางานอย่างนอ้ ย 20 นาทีแลว้ จงึ เรมิ่ อา่ นค่าความดนั จากมาตรวดั ความดันนา้ ยาแอร์ทั้งสองดา้ นอ่านความดนั จากด้านดูดใหไ้ ด้ ประมาณ 60-75 ปอนดต์ อ่ ตารางนิว้ และดา้ นสง่ ควรประมาณ 250-275 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว การเตมิ นา้ ยาแอร์เขา้ ทางท่อของเหลว เมือ่ ไลอ่ ากาศออกไปจากท่อแลว้ ใหถ้ อดปลายสายลา่ ง ของมาตรวดั แรงดนั นา้ ยาแอร์ออกจากเครอื่ งปัม๊ อากาศ และตอ่ ทอ่ เขา้ กับทอ่ น้ายาแอร์ ตรวจสอบ น้าหนกั แอร์ก่อนเตมิ นา้ ยาแอรโ์ ดยถงั นา้ ยาแอรบ์ นเตาชั่งปิดวาล์วท่อน้ายาแอร์ และเปดิ วาลว์ ท่อน้ายาแอรใ์ นสถานะของเหลวเมอื่ น้ายาแอร์เติมไดต้ ามทก่ี าหนด แลว้ ทาการปดิ วาลว์ และทดลองเดนิ เคร่ืองทาความเยน็ ตรวจค่ากระแสไฟฟา้ จาก แอมปม์ ิเตอร์ ความดนั ด้านดดู ควรจะอยู่ประมาณ 60-75 ปอนด์ต่อตารางนวิ้ ความดนั ดา้ นส่งควรจะเป็น 250- 275 ปอนด์ตอ่ ตารางน้ิว