คมู่ อื การปฏบิ ัติงานตดิ ต้ังระบบ ไฟฟา้ ภายในอาคาร สุชาตกิ ารไฟฟ้า N w นายสุชาติ สภุ าวนิ ิต รหัส 6241040030 สาขาเทคโนโลยีไฟฟ้า วทิ ยาลัยเทคนคิ สุราษฎรธ์ านี สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคใต้ 1 อา้ งอิงรายวิชา :การเขยี นรายงานในงานอาชพี รหสั :20-4000-1101 ที่ปรึกษา : ดร.สมหวัง ศภุ พล
สารบัญ 1 1 บทนำ 3 ขนั้ ตอนกำรตดิ ต้ังระบบไฟฟำ้ 8 เคร่ืองมือ อปุ กรณ์และขอ้ ควรระวงั 10 01.กำรอำ่ นแบบระบบไฟฟ้ำ 12 02.กำรตดิ ตั้งระบบไฟฟำ้ ด้วยทอ่ 14 03.กำรติดตัง้ ระบบไฟฟำ้ ด้วยรำง y-way 16 04.กำรต่อวงจรไฟฟำ้ 18 05.กำรตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ สวิทซ์,ปลกั๊ 20 06.กำรทำระบบกรำวด์ ตู้ควบคุม 21 ภำคผนวก 24 ภำคผนวก 01.กำรอำ่ นแบบระบบไฟฟ้ำ 36 ภำคผนวก 02.กำรตดิ ตงั้ ระบบไฟฟำ้ ด้วยท่อ 42 ภำคผนวก 03กำรติดต้ังระบบไฟฟำ้ ด้วยรำง y-way 48 ภำคผนวก 04.กำรต่อวงจรไฟฟ้ำ ภำคผนวก 05.กำรตดิ ตั้งอปุ กรณ์ สวทิ ซ์,ปลกั๊ 59 ภำคผนวก 06.กำรทำระบบกรำวด์ ต้คู วบคุม 62 ประวัติผู้จดั ทำ
-1- บทนา ระบบไฟฟ้าเป็นปัจจัยสาคัญสาหรับการดารงชีวิต การส่ือสาร การคมนาคม การศึกษา ระบบไฟฟ้าท่ีดีต้องมี ประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ในระบบ การติดตั้งระบบไฟฟ้าในอาคารเป็นสมรรถนะหน่ึงท่ีจาเป็น หวังว่า ค่มู อื การปฏบิ ัตงิ านระบบไฟฟา้ ในอาคารฉบับน้ี จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้อ่าน ข้นั ตอนการติดตั้งระบบไฟฟา้ ภายในอาคาร มี 6 ขั้นตอน การอา่ นแบบระบบไฟฟา้ 01 การตดิ ตงั้ ระบบไฟฟ้าด้วยทอ่ 02 การติดต้งั ระบบไฟฟา้ ด้วยราง y-way 03
-2- ข้นั ตอนการตดิ ต้งั ระบบไฟฟา้ ภายในอาคาร มี 6 ขนั้ ตอน การต่อวงจรไฟฟา้ 04 การตดิ ต้งั อปุ กรณ์ สวิทซ์,ปลก๊ั 05 การทาระบบกราวด์ ตู้ควบคมุ 06
-3- เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์และข้อควรระวงั บันได ประแจเลอื่ น ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง อยำ่ ใหข้ ำขำ้ งใดขำ้ งหนงึ่ ลอยข้นึ เหนอื ควรจบั ประแจเลอื่ นกับชน้ิ งำนใหแ้ นน่ พืน้ อำจทำใหต้ กจำกบันไดได้ พอดี สวา่ นไฟฟ้า ไขควงเทสไฟ ข้อควรระวงั ข้อควรระวัง ขณะใช้งำนสวำ่ นอำจสะบดั ควรจับให้ ควรตรวจสอบไฟให้ดกี ่อนใช้งำนทุกครง้ั และถนดั มอื ประแจชุด คีม ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ไมค่ วรใชจ้ ับชนิ้ งำนทใ่ี หญเ่ กนิ กว่ำคมี ควรใชใ้ หข้ นำดของประแจตรงกบั งำนที่ จะจับได้ จะใชท้ ำ
-4- เครอ่ื งมอื อุปกรณแ์ ละขอ้ ควรระวงั ไม้วดั สเกล เทปพนั สายไฟ ขอ้ ควรระวงั ข้อควรระวัง มาร์คเกอร์ ควรพันใหม้ ิดชิดแนน่ หนำ ไมใ่ หต้ ัวนำ ไฟฟำ้ หลดุ ออกมำ ระดบั นา้ ขอ้ ควรระวัง ข้อควรระวงั เคร่ืองวัดคา่ กราวด์ ไม่ควรทำระดบั น้ำตกเพรำะอำจทำให้ ค่ำทีว่ ัดคำดเคลือ่ นได้ ปลก๊ั เต้า ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวงั
-5- .3เครื่องมอื อุปกรณแ์ ละขอ้ ควรระวัง ไขควง หินเจยี ร ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง ควรใสแ่ วน่ ตาและถงมอื ทกุ ครง้ั ห้ำมกดไขควงแรงเกนิ ไป อำจทำ ให้นอ๊ ตพลกิ ทิม่ มอื ได้ ประแจหกเหลยี่ ม ฟิกเทปสาหรับดงึ สายไฟ ขอ้ ควรระวงั ข้อควรระวัง เบนเดอร์ ควรใชป้ ระแจหกเหลี่ยมใหไ้ ด้ขนำดกบั ชิ้นงำน ตลับเมตร ข้อควรระวงั ข้อควรระวัง ควรตงั้ ให้ระนำบพ้ืนอำจหล่นได้ ไมค่ วรจับท่ใี บตลบั เมตรขณะดึงใบกลบั อำจทำใหใ้ บบำดมือได้
-6- เครื่องมอื อปุ กรณ์และข้อควรระวัง กรรไกรตดั ทอ่ นา้ เล่ือยตดั ฝ้า ขอ้ ควรระวัง ข้อควรระวงั ไมค่ วรใชแ้ รงกดทอ่ มำกเกินไปอำจทำให้ทอ่ ไมค่ วรใช้เลือ่ ยตดั ฝำ้ ในแนวเฉยี ง อาจทาให้ บีบพบั ลงได้ ใบเลือ่ ยหกั ได้ ไฟเบอร์ คอ้ น ข้อควรระวัง ขอ้ ควรระวงั ระวังอยำ่ ให้สะเกต็ ไฟเขำ้ ตำ ควรจับค้อนให้ถนัดและเลง็ ใหด้ มี ฉิ ะนัน้ อำจทำ ใหต้ ถี กู มอื ได้ กรรไกรตดั ฝา้ เหล็กสตัดเกลียว ข้อควรระวงั ข้อควรระวงั ไม่ควรใช้ตัดเหลก็ เพรำะอำจทำให้ ขำกรรไกรบดิ และงอได้
-7- เคร่อื งมอื อุปกรณแ์ ละขอ้ ควรระวงั กิ๊ปแอมป์ แค้มโอม ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวัง ควรปรับย่ำนกำรวัดใหต้ รงกบั คำ่ ท่จี ะใชว้ ดั คอนเน็คเตอร์ บชุ ชิ่ง ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง
-8- 01 การอ่านแบบระบบไฟฟา้ เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ เทคนคิ การทางาน ข้อควรระวงั - ควรแยกระบบไฟฟา้ หนึ่งเฟสต่อหนึ่งสี - ถ้าอา่ นแบบไม่เข้าใจ อาจจะต้องร้ือ จะทาใหอ้ า่ นแบบงา่ ยขึน้ ระบบไฟฟ้าใหม่ท้ังระบบ
-9- 01 การอา่ นแบบไฟฟ้ า 1.อ่ำนแบบหำตำแหนง่ ทจี่ ะตดิ ต้งั 2.เอำปำกกำมำรค์ แนวระบบไฟฟำ้
- 10 - 02 การตดิ ตง้ั ระบบไฟฟ้ าดว้ ยทอ่ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ขอ้ ควรระวัง - วัดระยะทอ่ ก่อนตดั ทกุ ครั้ง ท่อจะได้ไป - การใชห้ นิ เจียรอาจมอี ันตรายได้ แนวเดยี วกัน
- 11 - 02 การตดิ ตง้ั ระบบ ไฟฟ้ าดว้ ยทอ่ emt 1.หำตำแหนง่ แนวท่อทจี่ ะยึด 2.ดัดทอ่ ด้วยเบนเดอร์ 3.ตดั ท่อตำมระยะทีต่ อ้ งกำร 4.เจำะรยู ดึ แค้มโอม
- 12 - 03 ติดตง้ั ระบบไฟฟา้ ด้วยราง y-way เครือ่ งมือและอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ข้อควรระวัง - ควรวัดมมุ ทีจ่ ะตดั ฉากให้พอดกี ับพ้นื ที่ - ควรใช้หินเจียรดว้ ยความระมดั ระวงั
- 13 - 03 ติดตั้งระบบไฟฟ้าดว้ ยราง y-way 1.ทำซบั พอดตั้งรำงวำยเวย์ 2. ตดั ฉำกรำงวำยเวย์ 3.ยดึ รำงวำยเวย์
- 14 - 04 การตอ่ วงจรไฟฟา้ เครื่องมือและอุปกรณ์ เทคนิคการทางาน ข้อควรระวงั - ไมค่ วรเหลอื สายไฟใหย้ าวเกินความ - ไมค่ วรปลอกสายทองแดงใหเ้ หลือออก จาเปน็ จากวายนดั เพราะอาจทาใหช้ อ๊ ตได - ควรปลอกสายไฟใหพ้ อดกี บั วายนดั -
- 15 - 04 ขนั้ ตอนการต่อระบบไฟฟ้า 1.ปลอกสำยและพันสำยไฟ 2.ใสว่ ำยนทั ท่จี ุดจม๊ั สำย 3.พนั ผำ้ เทปทีจ่ ุดต่อสำย
- 16 - ฃ 05 ตดิ ตงั้ อุปกรณ์ สวทิ ซ์ ปลก๊ั เคร่อื งมือและอุปกรณ์ เทคนคิ การทางาน ขอ้ ควรระวงั - ควรตดั สายและปลอกสายไฟให้พอดี - ไมค่ วรใหท้ องแดงโผล่ออกมาจากชอ่ ง กับชอ่ งเสียบของสวิทซแ์ ละปลก๊ั เสียบของสวทิ ซแ์ ละปล๊กั ไฟ - เตรยี มเกลียวปลอ่ ยใหพ้ อดีกบั ความ ยาวของบลอ็ กสวทิ ซแ์ ละปล๊ัก
- 17 - 05 ตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ สวทิ ซ์ ปลก๊ั 1.ปลอกสำยไฟ 2.เสยี บสำยไฟท่ีช่องเสียบสวิทซ์และ 3.ตดิ อุปกรณ์ ปลั๊กไฟ
- 18 - ฃ 06 การทาระบบกราว์ดตคู้ วบคมุ เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ เทคนคิ การทางาน ข้อควรระวัง - ตรวจเชค็ ระบบไฟใหพ้ ร้อมก่อน - การเตมิ น้ายาR410ทกุ คร้ังควรคว่าถงั เดนิ เครอื่ ง ลงกับพื้น - ใชก้ ๊ฟิ แอมปจ์ ับกระแสในการเตมิ น้ายา - เช็คเกจนา้ ยาดูถา้ เข็มตีลงน้ายาใน ทกุ ครงั้ ระบบมีการรวั่ ไหลแน่นอน
- 19 - 06 การทากราว์ดตู้ควบคมุ 1.ปลักแทง่ กรำวด์ 2.เชื่อมตอ่ สำยกรำวด์ 3.วดั ค่ำกรำวด์
- 20 - ภาคผนวก
- 21 - ภาคผนวก 01 การอ่านแบบระบบไฟฟา้
- 22 - 01การอ่านแบบระบบไฟฟ้า 1. กำรอ่ำนแบบไฟฟ้ ำ และระบบพิกดั ในงำนเขยี นแบบ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. เพอ่ื ให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรอ่ำนแบบ และ แปลควำมหมำยสญั ลักษณ์ชนิด ตำ่ งๆในงำน 2. เพ่อื ใหม้ ีควำมรูควำมเข้ำใจในกำรกำหนดพิกดั มำตรำสว่ น สัดส่วนได้ 2. ในงำนติดตั้งระบบไฟฟ้ำสำหรับอำคำรบ้ำนเรือน สำนกั งำน หรอื กำรติดตั้ง ระบบไฟฟ้ ำสำหรบั โรงงำนอุตสำหกรรมต่ำงๆ สิง่ ที่ ใช้เป็นสอื่ กลำงในกำรอธิบำย ควำมหมำย และควำมตอ้ งกำรของกำรติดตงั้ ระบบไฟฟ้ ำ คอื แบบไฟฟ้ ำ (Electrical Drawing) จำ เนอย่ำงยิง่ ที่ผู้เกีย่ วข้องควรอ่ำน และทำควำมเขำ้ ใจแบบน้ันได้ ส่วน ผู้ออกแบบน้ันต้องอำ่ นและเขยี นแบบได้อย่ำงถกู ตอ้ งอีกด้วย 1. กำรอ่ำนแบบไฟฟ้ ำ และระบบพิกดั ในงำนเขียนแบบ 3. จุดประสงคข์ องแบบไดอะแกรมเสน้ เดียว 1. ทรำบแนวทศิ ทม่ี ำของแหล่งจ่ำยไฟฟำ้ และวิธกี ำรจำหนำ่ ยไฟฟำ้ ไป ยงั ปลำยทำง 2. ทรำบชนิดและขนำดอปุ กรณไ์ ฟฟำ้ ท่ีสำคัญๆในระบบไฟฟำ้ 3. แสดงชนิดของโหลดต่ำงๆในระบบไฟฟำ้ 4. สำมำรถคำนวน กระแสไฟฟำ้ ที่มำจำกแหลง่ จ่ำยไฟไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง 1.1. กำรอำ่ นแบบไดอะแกรมเส้นเดยี ว 4. 1.1. กำรอำ่ นแบบไดอะแกรมเสน้ เดียว 5. 1.1. กำรอ่ำนแบบไดอะแกรมเส้นเดียว 6. 1.2. กำรอำ่ นแบบตู้จำ่ ยไฟหลกั (Main Distribution Board) 7. 1.2. กำรอำ่ นแบบตจู้ ำ่ ยไฟหลัก (Main Distribution Board) 8. 1.3. กำรอ่ำนแบบแผงจ่ำยไฟ (Panel Board Schedule) 9. 1.3. กำรอ่ำนแบบแผงจ่ำยไฟ (Panel Board Schedule)
- 23 - 10. 1.4. กำรอำ่ นแบบผังไฟฟ้ ำ 11. 1.5. กำรอ่ำนแบบสัญลกั ษณ์และรำยละเอยี ดของอปุ กรณ์ (Symbol Legends) 12. 1.5. กำรอำ่ นแบบสัญลกั ษณแ์ ละรำยละเอยี ดของอุปกรณ์ (Symbol Legends) 13. 1.6. กำรอำ่ นแบบรำยละเอียด (Details) 14. 2. สญั ลักษณใ์ นงำนเขียนแบบไฟฟ้ ำ 15. 2. สัญลกั ษณ์ในงำนเขียนแบบไฟฟ้ ำ 16. 3. ระบบพกิ ดั กำรเขียนวัตถใุ นงำนเขยี นแบบ 3.1. ระบบพิกดั (Coordinate System) ในงำนเขยี นแบบโดยทั่วไปแล้วกำรท่ีจะ กำหนด หรือวำงวัตถลุ งในงำนเขียนแบบนั้น ผูเ้ ขยี นตอ้ งระบพุ กิ ัดใหช้ ัดเจนทั้งระบบ 2 มิติ และระบบ 3 มิติ เช่นเดียวกับทเ่ี คยกำ หนดมำ แล้ว ในกำรเรียนวิชำคณติ ศำสตร์ เร่อื งกรำฟ ซึ่งในระบบ 2 มติ จิ ะประกอบดว้ ยแกน 2 แกนตดั กัน และต้ังฉำกกันคอื แกน x และแกน y สว่ นในระบบ 3 มิตจิ ะประกอบด้วยแกน 3 แกนตัดกนั และ ตั้งฉำกกนั คอื แกน x แกน yและแกน z 17. 3.1. ระบบพิกดั (Coordinate System) 18. 3.2. กำรกำหนดจุดเพื่อสรำ้ งวัตถุ 19. 3.2. กำรกำหนดจดุ เพื่อสรำ้ งวัตถุ 20. 3.2. กำรกำหนดจุดเพอ่ื สรำ้ งวัตถุ 21. 3.2. กำรกำหนดจดุ เพือ่ สรำ้ งวตั ถุ \\
- 24 - ภาคผนวก 02 การติดตัง้ ระบบไฟฟ้าด้วยทอ่ emt
- 25 - 02 การติดต้ังระบบไฟฟา้ ด้วยท่อ emt ทอ่ EMT ดดั - ผู้กีดขวางแรกเร่มิ ตน้ มชี ำ่ งไฟฟำ้ ไมก่ คี่ นทีอ่ ยู่ในเขตกำรค้ำและอุตสำหกรรมท่ีไม่ทรำบว่ำจะงอท่อ EMT ดว้ ยมือดดั ; มันเป็นหนึ่งในทักษะหลักทจี่ ำเปน็ ในกำรได้รับ และอำจจะเปน็ เร่ืองท่ีหนักใจท่ีสุดสำหรบั ช่ำงไฟฟ้ำคนใหมแ่ ละเป็นเหตุผลสำหรับแนวทำงดดั ทอ่ น้ี กำรเรียนรู้วธิ งี อทอ่ เป็นงำนแรกสำหรบั ช่ำง ไฟฟ้ำทัง้ ในเชงิ พำณิชยแ์ ละอุตสำหกรรม อย่ำงไรกต็ ำมมันไม่ไดเ้ ป็นทักษะทย่ี ำกท่ีจะเรยี นรู้ด้วยกำรศึกษำเพยี งเลก็ นอ้ ยและกำรปฏิบตั บิ ำงอย่ำง บทควำมนแี้ บ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก รวมถึงบทแนะนำและกำรอภปิ รำยสั้น ๆ เกีย่ วกับเครือ่ งมอื ท่ีจำเปน็ กำรอ่ำนอยำ่ งรอบคอบและกำรปฏบิ ัติบำงอย่ำง (อำจมี \"กระดกู \" หรอื เศษ วัสดุบำงสว่ นจำกไซต์งำน) และคณุ จะเขำ้ ใจพน้ื ฐำนของวธิ กี ำร โค้งงอทอ่ ไฟฟ้ำ มีสำมเสน้ โคง้ พ้นื ฐำนทใี่ ชก้ ันทั่วไปคอื ส่วนโคง้ 90 องศำและ แบบออฟเซทและอำน ประเภทโค้งขั้นสงู ทเี่ รียกว่ำโค้ง ศูนย์กลาง จะกล่ำวถงึ ในบทควำมที่แยกต่ำงหำก แต่ละคนจะไดร้ ับกำรกลำ่ วถึงแยกกัน - ตรวจสอบใหแ้ นใ่ จว่ำแต่ละขอ้ เข้ำใจและปฏบิ ัตกิ อ่ นทจ่ี ะย้ำยไปยงั ส่วนถัดไปเน่ืองจำกแต่ละสว่ นจะสรำ้ งข้ึนในส่วนก่อนหนำ้ เคร่ืองมอื สาหรับรางดัด มีเพียงไมก่ เี่ คร่ืองมอื ท่จี ำเป็นสำหรบั กำรดดั ท่อไฟฟ้ำ Benders เปน็ หลกั สูตรทชี่ ัดเจนที่สุดและมีทำงเลือกให้เลือกมำกมำย อลูมิเนียมเบน เดอรเ์ ป็นท่นี ยิ มในฐำนะเหลก็ ดัดในขณะท่แี ข็งแรงและบำงครง้ั รำคำถูกกว่ำก็หนกั กว่ำมำกและน้ำหนกั ทเ่ี พิ่มข้นึ จะบอกไดต้ ลอดท้ังวัน บำง benders มีเครื่องหมำยบนทั้งสองด้ำนของดัดระบุระดับของงอด้ำนหน่ึงและ \"ตวั คูณ\" ทอี่ ่ืน ๆ ในขณะท่ีบำงคนไมไ่ ดแ้ ละสำหรบั ช่ำงไฟฟ้ำ เร่มิ ตน้ เป็นประโยชน์มำกท่ีจะมีเครื่องหมำย \"ตัวคณู \" ทพ่ี วกเขำเปน็ ใช้อยำ่ งตอ่ เนือ่ งในกำรคำนวณ ทีจ่ ับเปน็ สิ่งทดี่ ี แตไ่ ม่จำเป็น ดำ้ มจับท่ีดดั มำกทีส่ ุดจำกผผู้ ลิตมขี นำดใหญก่ วำ่ ที่ปลำยของผ้ใู ช้และจะพอดกี ับท่อไฟฟ้ำ แตข่ นำดทีแ่ ทจ้ ริงของมือจบั จะเหมอื นกับทอ่ ประปำทั่วไปและ สำมำรถพบได้ในถังขยะในไซตง์ ำน หำกคณุ ทำมือจบั ของคุณเอง (หรือชำ่ งประปำทำเพือ่ คุณ) ให้แน่ใจวำ่ ไดใ้ ส่ปลำยทอ่ ที่ตดั ออกแล้วพยำยำม ให้ตรงกบั ควำมยำวของเครือ่ งอืน่ ท่ีมีขนำดเทำ่ กนั ขนำดท่ีพบมำกทส่ี ุดคือ½ \", ¾\" และ 1 \"แตร่ ำ้ นค้ำจำนวนมำกจะมขี นำด 1\" ตำมควำม จำเปน็ ร้ำนค้ำบำงแหง่ ยงั มีผู้ใหบ้ ริกำรทม่ี ีขนำดเลก็ แตเ่ ป็นควำมคิดท่ีดสี ำหรบั ชำ่ งไฟฟ้ำท่จี ะเป็นเจำ้ ของ benders ของตัวเอง แต่ละแบรนด์ แตกต่ำงกันเล็กน้อยในกำรใชง้ ำนและเคร่อื งมอื ทช่ี ่ำงไฟฟ้ำอำจเป็น \"สว่ นบุคคล\" ตำมควำมชอบ ต้องมีระดับตอรป์ โิ ดทดี่ ี ตรวจสอบให้แนใ่ จวำ่ ระดบั ของคณุ มคี ณุ ภำพสูงสุด - ระดบั พลำสติก 5 เหรียญจะไมท่ ำและแม้แตร่ ะดบั คณุ ภำพปำน กลำงที่แพงกวำ่ ก็จะไม่มีอำยุกำรใชง้ ำนทีเ่ หลืออยใู่ นระดับดี Amazon มีหลำยระดบั ที่มีคณุ ภำพสงู ซ่งึ เป็นทำงเลอื กท่ีดีสำหรับชำ่ งไฟฟ้ำท่ีมีสง่ิ อำนวยควำมสะดวกเชน่ ร่อง V ด้ำนบนขวดหลำยระดบั รวมถงึ มมุ 30 องศำและแม่เหลก็ แผ่นดินทีห่ ำยำก แม่เหลก็ ทแี่ ขง็ แรงเปน็ บวกตำม ระดบั ท่ีมักจะวำงไว้บนรำงและดำ้ นซ้ำยบำงครั้งหลำยฟุตในอำกำศ Checkpoint และ Swanson ทงั้ สองรุ่นนี้ทำระดับได้ดแี ม้บำงรุ่นจะมสี กรู \"anti-dog\" สำหรับดัดทอ่ ขนำดใหญ่
- 26 - เทปวัดที่ดี A ¾ \", เทป 25 'ตำ่ สุดและควรใช้เทป 1\", 25' หรอื 30 ' คุณลักษณะ \"standout\" มีควำมสำคัญเน่ืองจำกกำรวดั มกั ใชโ้ ดยไม่ได้รบั กำรสนับสนนุ ภำยใตเ้ ทปวัดและตอ้ งรองรับตวั เองในขณะทข่ี ยำยออกไป 8 หรือ 10 ฟุต ควรมเี ครอื่ งหมำยบำงอย่ำงท่ีจำเป็น \"sharpie\" ทว่ั ไปใชก้ นั อยำ่ งแพร่หลำยเชน่ เดียวกับชำ่ งไม้ดินสอ เครื่องหมำยสดี ำเป็นท่ีนิยมเนอื่ งจำกสี อำจดยู ำกหรอื ในที่มแี สงสลัวในขณะทด่ี ินสอใช้สำหรบั งำนที่ไมไ่ ดส้ มั ผสั เช่นในหอ้ งเคร่ืองกลหรอื โรงงำนหลำยแหง่ อยำ่ ใช้ sharpie สำหรบั งำนท่ีตอ้ งสัมผสั เนอื่ งจำกมกั มีกำรทำสีทอ่ และหมกึ จะไหลผ่ำนและสำมำรถมองเหน็ ได้หลงั จำกวำดภำพ ระดับจาก Amazon การดดั มมุ ขวาหรอื 90 มุมขวำหรอื 90 องศำจะเป็นโค้งแรก ทกุ คนสำมำรถเรยี นรูท้ จี่ ะงอ 90 ในทอ่ ไฟฟำ้ แล้วตัดท่อเพอ่ื ใหพ้ อดีกบั แตม่ ืออำชพี จะไม่จำเป็นตอ้ งตัด ภำพตัวอยำ่ งของทอ่ ที่แนบมำในแนวนอนกับผนงั ; ต้องผำ่ นกำแพงไปยงั กำแพงถัดไปและหมนุ ไป 90 °และเดนิ ตอ่ ไปผ่ำนกำแพงท่สี อง จำเปน็ ตอ้ งมีกำรวัดและคณติ ศำสตร์ แต่ไมต่ ้องกงั วล - คณติ ศำสตรเ์ ป็นเรื่องงำ่ ย วัดจำกสว่ นทำ้ ยของท่อกับผนัง - อำจเป็น 25 ½ \"ภำพ ดำ้ นล่ำงของดำ้ นหนำ้ ของหัวดัดแสดงใหเ้ หน็ ว่ำสำหรับ\" ท่อรอ้ ยละ 6 \"หัก 6\" จำก 25 ½ \"วดั ทิ้ง 19 ½ \" วำงเคร่ืองหมำยบนท่อใหม่ 19 ½ \"จำกปลำย ใช้หัวดำบบนรำงและเลือ่ นลูกศรลงบนเส้นด้ำย วำงเคร่ืองดดั และท่อบนพ้ืน น้ิวเท้ำของผดู้ ดั ตอ้ งชี้ไปทำง ปลายทอ่ ใหม่ซ่ึงใช้เวลาวัด 19 ½ \" ถำ้ ทอ่ ถูกงอและยึดติดกับช้ินสว่ นท่ีอยูบ่ นผนังแลว้ นิว้ เท้ำของผู้ดัดจะชีไ้ ปทำงท่ตี ิดตั้งไวแ้ ล้ว ท่อถำ้ ควำมรุนแรงถูกวำงไวบ้ นทอ่ ย้อนกลับ ควำมยำวจะไม่ถกู ตอ้ งดงั นั้น ใหแ้ นใ่ จวา่ จะช้ไี ปในทิศทางทถ่ี กู ตอ้ ง ในขณะทวี่ ำงแรงกดบนเท้ำเหยียบ (แรงมำกทจ่ี ะงอทอ่ จะมำจำกที่นี่) กดท่จี บั ของผู้ดัดที่มีตอ่ พ้ืน ในตวั อย่ำงของเรำปลำยสน้ั ของทอ่ จะขน้ึ ไป ในอำกำศ - เมื่อมันอยู่ท่ี 45 °หรอื เพื่อจับทปี่ ลำยท่อด้วยมือขำ้ งหน่งึ และใชค้ วำมดนั ออ่ นโยน มอื น้ใี ชเ้ ปน็ หลักเพื่อคงทอ่ ไม่ใหง้ อดงั นั้นอยำ่ ใช้ แรงกดแรงมำก นี่เป็นช่วงเวลำที่ดีในกำรแนบระดับกับช้ินงำนทีก่ ำลังจะมำถึง ดำเนนิ กำรตอ่ กำรดัดท่อจนเกือบจะตง้ั ฉำกกบั พ้นื และ ตรวจสอบระดบั โปรดทรำบว่ำควรวำงทับกันเลก็ นอ้ ยไวเ้ ล็กนอ้ ยเนือ่ งจำกทอ่ จะงอกลับเล็กนอ้ ยเม่อื ถอดดัด น้ำหนกั ของผูด้ ัดคอื กำรเพ่มิ จำนวนเลก็ นอ้ ยโคง้ เพียงโดยกำรมี ไมก่ ี่องศำของส่วนเกินอำจถูกลบออกด้วยมือได้ แตเ่ พียงจุดเดียวเทำ่ น้นั ดงั น้นั โปรดตรวจสอบ ระดบั ก่อนที่ จะปรำกฏให้เพียงพอ ตรวจสอบให้แนใ่ จว่ำแรงดันเทำ้ ของ บรษิ ทั ถกู นำไปใช้ตลอดเวลำ - ถ้ำไม่ไดท้ ำทอ่ จะขยแ้ี ละถกู ทำลำย รหสั ไฟฟำ้ แห่งชำตไิ ม่อนญุ ำตให้มกี ำรหกั เหใด ๆ เลย - ตอ้ งทำใหโ้ ค้งงอไดอ้ ยำ่ งรำบร่ืน - ดังน้ันให้ใช้แรงกดทีเ่ ทำ้ เพียงพอ ท่อขนำดใหญเ่ ป็น เร่ืองท่ยี ำกมำกในเร่อื งน้ี 1 ¼ \"ท่อโค้งมกั จะต้องมีคนยืนอยบู่ นเทำ้ ดัดและคนคนหนงึ่ ที่ทำงำนจับเพอื่ ใหด้ ัดกดหนกั ในทอ่ ดัด ขน้ั ตอนข้ำงตน้ ทำงำนได้ดีสำหรับกำรวดั ระยะสั้น แตถ่ ำ้ วัดในตวั อยำ่ งของเรำคอื 110 \"ถึงผนังแทน 25 ½\"? ผู้ดดั จะน่ังเพียง 15 นิว้ (หนึง่ ชิ้น ยำว 120 \") แทน 8\" และ \"15\" จะลดลงอยำ่ งต่อเน่อื งในขณะที่โคง้ งอทำให้เกดิ กำรสิน้ สุดของทอ่ ท่ีจะทุบลงกับพืน้ และ ควำมเสียหำยวิธี แก้ปญั หำท่ีน่คี อื กำร \"โคง้ กลับ\" ทอ่ - หนั ดัดไปมำในทศิ ทำงอนื่ ๆ - นอ้ี กี ครั้งจะใส่ควำมดัดบนควำมยำว 8 'นอกจำกน้ยี งั จะทำใหค้ วำมยำวผิด แตด่ งั นั้นเมอ่ื โค้งกลับคือ ทำมีหกั ไม่มีกำรพิจำรณำและดำวท่อี ยใู่ กลศ้ ูนยก์ ลำงของควำมดัดทเ่ี รียงรำยไปด้วยเคร่ืองหมำยแทนลกู ศรโค้งกลับ ไมไ่ ดโ้ ดยทัว่ ไปคอ่ นขำ้ งถูกตอ้ งตำมควำมยำว แต่ทำตวั เลอื กทีด่ มี ำกสำหรับ stubs ยำวและมี ใชเ้ ป็นประจำ1/2 \"และ 3/4\" กรีนลี b enders ดำ้ นหนำ้ ของศีรษะด้ำนหลงั ศีรษะตัง้ ค่ำให้โคง้ 90 องศำต้ังค่ำสำหรบั ดดั หลังเรมิ่ โค้ง 90 องศำ
- 27 - Greenlee benders 1 การหกั หา้ ม กำ้ นรำงน้ำท่ัวไปที่ตอ่ ไปซึง่ ตอ้ งได้รบั กำรพจิ ำรณำคือกำรชดเชย โคง้ หักจะใชเ้ ม่ือ \"ว่งิ \" ของทอ่ ต้องดำเนนิ กำรในทิศทำงเดียวกัน แตต่ รงกบั อุปสรรคและเขย่ำเบำ ๆ ไปด้ำนขำ้ งเหนือหรือใตอ้ ุปสรรค - ดรู ปู ด้ำนล่ำงสำหรบั รปู ร่ำงท่วั ไป ขั้นตอนแรกในกำรหกั ล้ำงชดเชยคอื กำรวดั และกำรคำนวณอีกครั้ง วดั ควำมตอ้ งกำรของทอ่ ท่ีต้องกำรให้เขย่ำเบำ ๆ ได้ดเี พียงใดเพือ่ ใหแ้ น่ใจ วำ่ มคี วำมหนำของทอ่ ตัวอย่ำงเชน่ ถ้ำท่อกำลังน่ังอยบู่ นแผน่ ด้ำนบนของผนงั ท่กี ำลงั จะหมดและต้องเลอ่ื นขึ้นไปยังเพดำนกำรวัดจะถกู นำมำ จำก ดา้ นบน ของท่อบนผนงั ถงึ เพดำน กำรวัดจำกดำ้ นบนของผนัง ( ด้านลา่ ง ของทอ่ ทมี่ อี ยู่) ไปทเี่ พดำนจะมีท่อใหม่ฝังอย่ใู นฝ้ำเพดำนเมือ่ เสรจ็ สน้ิ ต้องเลือกมุมของโค้งตอ่ ไป - โดยทวั่ ไปกำรวดั จะใช้มมุ นอ้ ยกวำ่ กำรวัดขนำด 5 \"อำจเรยี กได้ว่ำมดี โค้ง 22 ° (หน่ึงในโคง้ ท่ที ำเครือ่ งหมำยไว้ท่ี ตวั บดิ ) ในขณะทก่ี ำรวัดขนำด 15\" อำจตอ้ งมีควำมโค้งงอ 30 องศำ แต่ละสถำนกำรณต์ ่ำงกัน พยำยำมที่จะเห็นภำพลกั ษณะของทอ่ เมือ่ โค้ง งอและระยะเวลำท่โี ค้งชดเชยจะเปน็ สมมตวิ ่ำเรำต้องกำรโคง้ งอ 5 นิว้ กำรตรวจสอบ ตวั คูณ สำหรับส่วนโค้ง 22 องศำ (ประทับไว้ท่ีดำ้ นข้ำง ของเสน้ โค้งจำนวนมำกซ่ึงเป็นที่จดจำไว้เป็นอย่ำงอื่น) ระบวุ ่ำเป็น 2.6 ซึ่งหมำยควำมว่ำกำรวดั 5 \"จะกลำยเป็น 5 X 2.6 หรอื 13\" สอง เครอื่ งหมำยทำในทอ่ 13 \"กัน กำรชดเชยทั้งหมดต้องเสร็จสิน้ ก่อนท่ีจะวิ่งเขำ้ ไปในอุปสรรคดังนั้นตรวจสอบให้แนใ่ จวำ่ เคร่อื งหมำยท่ีไกล ออกไปไกลจำกปลำยท่อไมเ่ กินระยะห่ำงจำกทอ่ ที่มีอยู่ไปยังสงิ่ กีดขวำง
- 28 - สว่ นโคง้ ออฟเซ็ทสว่ นใหญ่มักทำดว้ ยแรงดดั ควำ่ ลง นั่นคอื ท่ีปลำยด้ำมจับอยบู่ นพ้นื และศรี ษะของเครอ่ื งดัดในอำกำศ ใส่สำยไฟเข้ำไปในตัวจบั ควำมร้อนให้พอดีกับเครือ่ งหมำยที่ไกลทส่ี ุดโดยมีเครื่องหมำยบนตัวดดั (ดำ้ นหน้ำของรองเท้ำจะเป็นท่ีที่ดี แต่เคร่อื งหมำยใด ๆ จะใชง้ ำนได้ ตรำบใดท่ีคณุ มคี วำมสม่ำเสมอ) วำงเท้ำขำ้ งหนงึ่ ไว้ที่ดำ้ มจับของผู้ดัดเนอ่ื งจำกมนั มีแนวโน้มที่จะเตะออกและคอ่ ยๆงอทอ่ เหนือผู้ดัด จบั มอื ให้ แรงกดใกล้กบั ตวั ยดึ มำกทส่ี ุดเทำ่ ที่จะเป็นไปไดก้ บั รำงท่อี ยูใ่ ต้แขนของคุณและโค้งงอจนกว่ำทอ่ จะเรยี งรำยไปดว้ ยเครอื่ งหมำยระดับที่ เหมำะสม (ในกรณีตวั อย่ำงเช่น 22 °) เลอื่ นรำงไปข้ำงหนำ้ ในแนวดัดจนกวำ่ เครอื่ งหมำยทส่ี องจะเรยี งรำยไปกบั ดำ้ นหน้ำของรองเท้ำ (หรอื ตำแหน่งรองเท้ำใดกไ็ ด้รบั เลือก) และหมุนท่อ 180 องศำเพื่อให้ส่วนโคง้ ทีส่ องอยู่ในทศิ ทำงตรงกนั ข้ำม ทำซ้ำขั้นตอนกำรดดั ท่ีเกิดขน้ึ จรงิ เพ่อื สร้ำงส่วนโค้งท่ีสองเหมือนกัน ฝกึ กำรใชม้ มุ ต่ำงๆสำหรับโคง้ มมุ ทเ่ี ล็กกว่ำเป็นกำรยำกทีจ่ ะให้ถูกต้องเมือ่ ปดิ เพยี ง 1 หรือ 2 องศำ (ยำกทจ่ี ะมองเหน็ ได้ในส่วนโค้ง) จะทำให้ เกิดควำมแตกต่ำงมำกขึน้ ถ้ำก้มลง 10 °แทนท่ีจะพดู วำ่ 45 ° พวกเขำยังทำโคง้ ยำวมำก; เปรยี บเทยี บตวั คณู ของสลักเกลียว 10 องศำ (6) กบั มมุ หักมมุ 45 องศำ (1.4) และมกั ใช้สำหรับกำรชดเชยขนำดใหญ่ อยำ่ งไรก็ตำมควรใช้บันไดขนำดเล็กลงเพื่อลดปริมำณกำรดดั ในทอ่ จดจำ ค่ำตัวคณู และพกเครอ่ื งคำนวณขนำดเล็กหำกจำเป็น (โทรศพั ทม์ ือถอื ส่วนใหญ่มีควำมสำมำรถเช่นกัน) การดัดออฟเซต
- 29 -
- 30 -
- 31 - การดัดคา่ ชดเชย ดัดอาน อำนเป็นจุดโค้งสดุ ทำ้ ยที่พบได้ท่วั ไปและมอี ำนสองแบบเรยี กวำ่ 3 จุดและอำน 4 จดุ อำนมนตร์สีจ่ ุดเป็นเร่ืองทเ่ี รียบงำ่ ยพวกเขำ เป็นเพียงสองออฟเซต็ (รวม 4 โคง้ ) มีช่องว่ำงระหว่ำงพวกเขำเพื่อเพิ่มรำงชวั่ ครำวเพ่อื ข้ำมอปุ สรรค หนง่ึ ชดเชยจะทำและจำกน้นั ด้วยทอ่ ที่ วำงอยูใ่ นผดู้ ัดดว้ ยปลำยตรงขำ้ มไปข้ำงหน้ำชดเชยอื่น ๆ จะงอ อำนมำ้ สำมขำเปน็ เรือ่ งยำกมำกและเปน็ สำรพิษของช่ำงไฟฟ้ำจำนวนมำก มชี ่ำงอเิ ลคทรอนิคสจ์ ำนวนมำกท่ยี ังคงใชง้ ำนไดห้ ลังจำกผ่ำนไป 10 ปีแลว้ ยังไมส่ ำมำรถทำอำนได้ 3 จดุ และต้องงออำน 4 จดุ สำหรับทุกส่งิ ทุกอยำ่ ง แต่ก็ไม่จำเป็น เรียนรู้วิธีงออำน 3 จดุ อำน 3 จุดประกอบไปดว้ ย 3 โคง้ ส่วนแรกจะทำด้วยกำรจัดวำงรำงด้วยเครอื่ งหมำยดดั สำหรับจุดก่งึ กลำงของมุม 45 องศำ จดุ กึ่งกลำงของมุม 45 องศำทำใหเ้ กดิ อำนม้ำทีส่ งู มำก มำกขน้ึ กวำ่ ที่เรยี กโดยท่วั ไปสำหรับและส่งผลในมุมท่ีไม่จำเป็นของกำรโค้งงอ วธิ ีทด่ี ีกวำ่ คือกำรทำ เครอื่ งหมำยดดั อยำ่ งถำวร (จำขอ้ ดขี องกำรมีส่วนโคง้ ของคณุ เองไดห้ รอื ไม่?) สำหรบั จดุ ศนู ย์กลำงของเส้นโค้ง 22 องศำ ทำส่วนโคง้ 22 °ใน ช้ินส่วนของเศษวัสดแุ ละวำงทอ่ บนพื้นหรือโตะ๊ ไว้อย่ำงรอบคอบทำเคร่ืองหมำยศูนยก์ ลำงของเส้นโค้ง ลูกตำเป็นสงิ่ ที่ดี - คุณไม่จำเป็นตอ้ งมี ไมโครมเิ ตอรส์ ำหรบั สงิ่ นี้ ใส่ทอ่ ในตวั ระบำยควำมร้อนไปยังตำแหนง่ เดิมกอ่ น (ทำเครอื่ งหมำยทอ่ ก่อนนำออกที่ปลำยน้ิวของผู้ดัด) และย้ำย เครื่องหมำย \"กลำง\" ไปยงั ผู้ดดั ทำเครอื่ งหมำยดังกลำ่ วเป็นรปู ถำวรโดยกำรใส่รอ่ งผำ่ นสองด้ำนของเคร่ืองเจยี รนัย ตอนนี้คุณสำมำรถโค้งงอ มุม 22 °และรวู้ ำ่ จุดศนู ยก์ ลำงของโค้งอยู่ทไ่ี หน ถัดไปทำเครอ่ื งหมำยท่อทศี่ ูนยก์ ลำงของอำนจะเป็น แต่ทรำบว่ำทอ่ จะ \"หด\" เก่ียวกบั ¼ \"สำหรับแต่ละ 1\" ของควำมลกึ อำน น่นั คอื มันจะสัน้ ท¼ี่ \"ดังน้ันถำ้ ศูนยก์ ลำงของงอทจี่ ะเป็นท่ี 20\" ทำเครอ่ื งหมำยที่ 20 ¼ \"สำหรับ 1 อำน\" อำน 2 \"จะมีเครอื่ งหมำยท่ี 20 ½\" แทน 20 \"ทำ เครื่องหมำยเพิ่มเติมสองเครอื่ งหมำยหนง่ึ ในแตล่ ะด้ำนของเครอ่ื งหมำยแรกที่ 4\" ห่ำงจำกเครอ่ื งหมำยแรกสำหรับแรก 1 \"ของอำนบวก 6\" สำหรับแต่ละ เพม่ิ เติม 1 \"ของอำน 2\" อำนจะต้องเครื่องหมำย 10 \"จำกเครื่องหมำยแรก ใสท่ ่อลงในเคร่อื งดัดเพอ่ื จัดตำแหนง่ ก่งึ กลำงด้วยเครื่องหมำยไฟล์ทีป่ รับใหเ้ ปน็ ส่วนบุคคลและตัดเขำ้ ที่ 22 ° เลอื่ นรำงไปข้ำงหน้ำจนกวำ่ เครื่องหมำยถดั ไปจะอยทู่ ี่ลกู ศรที่ใช้ในกำรงอมุม 90 °และหมุนทอ่ 180 °ก่อนทีจ่ ะดดั งอท่ีสองเป็น 11 °หรือเล็กนอ้ ยกว่ำเครื่องหมำย 10 °บน ตวั ดดั จำกน้ันให้ ยอ้ นกลบั ท่อ และใส่กลบั เขำ้ ไปท่ีตวั ดัดและวำงสำยท่ีสำมไว้ท่ลี ูกศร ท้ังสองโคง้ จะทำ อยูข่ า้ งหนา้ ของผู้ดดั อกี ครั้งงอโค้ง เดียวกัน 11 ° วำงท่อไวบ้ นพ้ืนและตรวจสอบว่ำปลำยทัง้ สองข้ำงวำงอยู่ที่รำบเรยี บ - อำจตอ้ งใช้ \"tweaking\" เพยี งเลก็ นอ้ ยเพอ่ื ควำมสมบูรณ์ แบบ
- 32 - ดัดอาน 3 จดุ
- 33 -
- 34 - ดดั อาน ขอ้ ควรพจิ ารณาขัน้ สดุ ท้าย อยำ่ ลมื ว่ำ National Electric Code จำกดั จำนวนองศำงอให้ 360 องศำระหว่ำงกล่องเชอ่ื มตอ่ และควำมจรงิ ท่วี ำ่ ย่งิ โคง้ มำกเท่ำใดกย็ ิ่งทำให้ ดึงลวดเขำ้ ไปในท่อไฟฟ้ำได้มำกข้ึน ข้อเท็จจรงิ สองขอ้ น้ที ำให้ควำมสำคญั กับกำร จำกดั โคง้ ของคุณให้น้อยที่สุด แต่น่ำเสยี ดำยท่ีช่ำงไฟฟ้ำ จำนวนมำกจะโค้งงอเฉพำะกำรเวน้ ระยะห่ำง 30 องศำ (คณิตศำสตร์ทำไดง้ ่ำยกว่ำตัวคูณคือแม้แต่ 2 แทนของ 2.6) และอำนมำ้ 3 จดุ โดยใช้ มุมโคง้ ศูนย์ 45 ° (ไม่ได้ทำเคร่อื งหมำยจดุ ศูนยก์ ลำงของส่วนโคง้ 22 °) . อำนมนตร์ 3 จดุ ตอนน้ีมีแกนงอ 90 องศำอยู่ในทอ่ แทน 45 °จะใช้ ส่วนโคง้ 22 องศำและสว่ นออฟเซท็ มี 60 °แทนท่ีจะเป็น 20 °หรือ 44 °หำกโคง้ งอโดยใชโ้ ค้ง 10 °หรือ 22 ° . ส่วนโค้งพเิ ศษมกั จะทำใหก้ ล่อง เชอ่ื มตอ่ เพ่ิมเติมและมักดึงให้หนกั ข้นึ เพื่อใหโ้ คง้ งอโคง้ นอ้ ยท่ีสุดเทำ่ ท่จี ะเป็นไปได้ กำรเรยี นรวู้ ิธกี ำรทำให้โคง้ ต่ำสดุ ท่ีจำเป็นมีควำมสำคญั เท่ำกับกำรเรยี นรวู้ ธิ งี อทอ่ ท่ีทง้ั หมด อกี วธิ หี นึ่งในกำรลดโคง้ คือกำรรวมคร่ึงหนึ่งของกำรชดเชยกบั 90 °โค้ง; 90 จะใช้แทนครึ่งหลงั ของส่วนโค้งชดเชย ดูภำพประกอบ; กำรดดั จะ เห็นไดช้ ดั และจะไม่ถูกกล่ำวถึงยกเว้นท่จี ะกลำ่ วว่ำจะมีกำร \"หดตัว\" อีกคร้ังของท่อ ปรมิ ำณกำรหดตวั แตกต่ำงกนั ไปตำมตัวแปรหลำยตัวแปร และในขณะที่สำมำรถคำนวณไดช้ ่ำงไฟฟ้ำส่วนใหญก่ ็จะทำใหโ้ ค้งงอและตัดท่อเพอ่ื ใหพ้ อดี ประเภทของโคง้ นีเ้ รียกวำ่ \"เตะ\" และเป็นเร่ือง ธรรมดำมำกดงั น้ันมองหำสถำนท่ที ี่จะใช้เตะแทนตำแหน่งออฟเซตตำมดว้ ย 90 ° คำแนะนำเพ่ิมเติมจะได้รับในฮบั ทเี่ ขียนข้ึนเกย่ี วกับวิธีงอ 90 หมำยเหตขุ ั้นสุดท้ำย - บทควำมนี้เป็นเพียงบทควำมท่เี ขยี นข้ึนโดยชำ่ งไฟฟ้ำเท่ำน้นั สำหรับช่ำงไฟฟำ้ ที่เรียนรวู้ ิธงี อทอ่ ออ่ น คำแนะนำที่ ครอบคลมุ ไปยังทอ่ งอไดร้ ับกำรเขยี นขึ้นมำเพือ่ ให้คำอธิบำยโดยย่อของแตล่ ะหนำ้ รวมทงั้ ลิงก์ไปยังหนำ้ เว็บแต่ละหน้ำรวมทั้งลิงกอ์ ่ืน ๆ ท่ี เกย่ี วข้องกบั ช่ำงไฟฟ้ำอำจเปน็ ประโยชน์ คณุ สำมำรถตรวจสอบหนำ้ ชอื่ เรอื่ งนีไ้ ด้ทุกเรือ่ งที่ดนู ่ำสนใจ หำกคุณไม่พบส่ิงที่คณุ กำลงั มองหำออก ควำมคดิ เห็นและจะได้รับกำรพิจำรณำสำหรับหนำ้ อนำคต; ชุดทัง้ หมดนี้และจะยังคงเปน็ งำนที่กำลังดำเนินอยู่
- 35 -
- 36 - ภาคผนวก 03 ตดิ ตัง้ ระบบไฟฟ้าดว้ ยราง y-way
- 37 - กำรเลือกรำงให้เหมำะกบั จำนวนสำยไฟ ตำมตำรำงน้เี ลยครับ ปกตกิ ต็ อ้ งใชร้ ำยกำรคำนวนจำกพน้ื ที่หน้ำตดั ของ สำยไฟมำรวมกันแล้วไปเลือกรำง แต่ไมต่ อ้ งเสียเวลำครบั ดจู ำกตำรำงเลยง่ำยดี เครดติ จำก หนังสอื กำร ออกแบบ อำจำรย์ ประสิทธิ์ พทิ ยพัฒน์ ครับ
- 38 -
- 39 -
- 40 - ลองดคู รบั เผ่ือเป็นประโยชนไ์ ด้นำไปใชง้ ำนจริงกันครบั หนงั สอื เรยี นก็มปี ระโยชน์อยำ่ เก็บไวเ้ ฉยๆนะครับ ต้องกำรขอ้ มลู ขนำด และรำคำ ดไู ด้ที่ h้ ttps://vbs.co.th หรอื สอบถำมข้อมลู สนิ ค้ำ รำคำ สว่ นลด ตดิ ตอ่ 02-812-1428, 081-7267979 Email: [email protected] รำงวำยเวย์ (Wire Way) คอื แผน่ เหลก็ พบั เปน็ สเี่ หล่ยี ม มีฝำปดิ เปน็ แบบบำนพับ หรอื แบบถอดได้ แผน่ เหลก็ จะต้องผ่ำน กระบวนกำรต่ำงๆเพอื่ กนั สนมิ นิยมทำ 3 วธิ ี 1. พน่ ฝนุ่ 2.เคลือบด้วยสังกะสี 3.อลซู งิ ค์ สถำนทีใ่ ช้งำน รำงเดนิ สำยในท่ดี ลง่ โปร่ง จำนวนตวั นำ ผลรวมของพ้ืนท่หี นำ้ ตดั ขวำงของสำยไฟจะต้องไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 20 % ของพืน้ ทภี่ ำคตดั ขวำงภำยในรำง เคเบลิ แบบบันได (Ladder Type) คอื รำงทม่ี โี ครงสรำ้ งตำมแนวยำว 2 จุด ยึดตดิ กนั ด้วยข้นั บนั ได มกั ทำจำกเหลก็ แผน่ มำตรำฐำน ผ่ำนกำรพ่นอบสี หรอื Hot Dip Galvanized สถำนที่ นยิ มใช้กนั มำกในโรงงำนอตุ สำหกรรม เพรำะสำมำรถ รับนำ้ หนักหรอื จำนวนสำยไฟไดม้ ำก เคเบิลแบบมชี อ่ งระบำยอำกำศ (Perforated Type) คอื รำงเคเบลิ ช้นิ เดียวตลอด มีรรู ะบำยอำกำศดำ้ นล่ำง
- 41 - ใช้จับยดึ สำยไฟ มักทำจำกเหลก็ แผ่นมำตรำฐำน ผำ่ นกำรพน่ อบสี หรอื Hot Dip Galvanized สถำนท่ี นยิ มใช้กันมำกในโรงงำนอตุ สำหกรรม เพรำะสำมำรถ รบั นำ้ หนักหรือจำนวนสำยไฟไดม้ ำก
- 42 - ภาคผนวก 04 การตอ่ วงจรไฟฟา้
- 43 - การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบต่างๆ ใบความรู้ รายวิชา งานอเิ ล็กทรอนกิ ส์เบ้ืองต้น เรอ่ื ง การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบตา่ งๆ การตอ่ วงจรไฟฟ้า ตำมปกตวิ งจรไฟฟำ้ ใด ๆ จะมคี วำมเปลี่ยนแปลงและคุณสมบัติตอ่ กระแสไฟฟ้ำ แรงดันไฟฟำ้ แตกตำ่ งกนั ไป
- 44 - ตำมแต่ วิธกี ำรต่อวงจรนน้ั ๆ และตำมกำรเปลี่ยนแปลงตัวต้ำนทำนหรอื อุปกรณไ์ ฟฟำ้ นั้นดว้ ย ซ่งึ เรำมีวธิ ีกำรตอ่ วงจรไฟฟ้ำได้ 3 แบบ คอื 1. กำรตอ่ แบบอนกุ รม (Series Circuit) 2. กำรตอ่ แบบขนำน (Parallel Circuit) 3. กำรตอ่ แบบผสม (Compound Circuit) 1. วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หมำยถงึ กำรนำอปุ กรณ์ไฟฟำ้ มำต่อเรียงลำดับกันไป โดยนำปลำยดำ้ นใดดำ้ น หนึ่งของอปุ กรณ์ตวั ที่หนง่ึ มำต่อกบั อปุ กรณ์ตวั ท่ีสอง จำกนัน้ นำปลำยที่เหลอื ของอุปกรณท์ ี่สอง ไปต่อกับอปุ กรณ์ตวั ที่สำม และต่อในลักษณะที่เรียงกันไปเร่ือย ๆ จนถงึ อุปกรณ์ตวั สดุ ทำ้ ยให้ต่อปลำยที่เหลือเข้ำกับแหล่งกำเนดิ ไฟฟำ้ ภำพที่ 6.77 กำรต่อวงจรไฟฟำ้ แบบอนกุ รม ท่มี ำ : http://www.kksci.com 2. วงจรไฟฟา้ แบบขนาน หมำยถงึ กำรนำอุปกรณ์ไฟฟำ้ ตั้งแต่ 2 ตัวขนึ้ ไปมำต่อเรียงแบบขนำนกัน โดยนำ ปลำยด้ำนเดียวกันของอุปกรณ์แตล่ ะตวั มำตอ่ เขำ้ ดว้ ยกัน แล้วต่อปลำยของอปุ กรณแ์ ต่ละตัวทต่ี อ่ กันแล้วนน้ั เข้ำกบั แหลง่ กำเนิดไฟฟ้ำ
- 45 - ภำพท่ี 6.78 กำรต่อวงจรไฟฟ้ำแบบขนำน ทมี่ ำ : http://www.kksci.com จำกตวั อย่ำงกำรต่อวงจรไฟฟำ้ ข้ำงตน้ พบว่ำหลอดไฟสองดวงทเ่ี ชือ่ มต่อกันแบบขนำนจะใหแ้ สงสว่ำงรวมทุก หลอดมำกกวำ่ เพรำะกระแสไฟฟำ้ ในวงจรมีปริมำณมำกกว่ำ และถ้ำหลอดไฟหลอดใดหลอดหนึ่งชำรดุ หลอดไฟที่ เหลอื กย็ ังคงสำมำรถใชง้ ำนได้ เนอื่ งจำกยังคงมีตัวนำไฟฟำ้ หรือสำยไฟฟำ้ ที่สำมำรถนำกระแสไฟฟ้ำให้ ไหลผ่ำนหลอดไฟดวงอืน่ ได้ครบวงจร แตกตำ่ งจำกกำรต่อหลอดไฟแบบอนุกรม ซ่ึงหำกมีหลอดไฟดวงใดดวงหนง่ึ ใช้ งำนไม่ได้ ก็จะทำใหห้ ลอดไฟท่ีเหลือไม่สำมำรถใชง้ ำนได้ท้ังหมด เนอื่ งจำกกระแสไฟฟ้ำไมส่ ำมำรถไหลผ่ำนวงจร เพรำะมตี วั นำไฟฟ้ำหรอื สำยไฟเส้นเดยี วกนั ซง่ึ ข้อแตกตำ่ งของกำรต่อหลอดไฟแบบอนุกรมและแบบขนำน อำจ สรปุ ไดด้ ังตำรำงต่อไปน้ี คุณลกั ษณะ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม วงจรไฟฟ้าแบบขนาน สวำ่ งน้อย สวำ่ งมำกกว่ำ ควำมสวำ่ งของหลอดไฟ รวมทุกหลอด หลอดไฟท่ีเหลอื ดับหมด หลอดไฟที่เหลอื ยังสำมำรถใช้งำนได้ หลอดไฟดวงใดดวงหนง่ึ ชำรุด นอกจำกนก้ี ำรนำอุปกรณไ์ ฟฟำ้ มำต่อแบบอนุกรมและขนำนแล้ว กย็ ังสำมำรถนำเซลลไ์ ฟฟำ้ มำต่อแบบ อนกุ รมและขนำนไดเ้ ช่นกนั กำรนำเซลล์ไฟฟ้ำมำตอ่ กนั แบบอนุกรมหรือต่อแบบขนำนน้ัน จะทำใหเ้ รำมอง เซลลไ์ ฟฟ้ำท้งั หมดรวมกนั เป็นแหล่งจำ่ ยพลังงำนแหลง่ หนึง่ ได้ กำรนำเซลลไ์ ฟฟำ้ มำต่อกันแบบขนำน แรงดันไฟฟ้ำจะเทำ่ กบั แรงดนั ไฟฟำ้ เพียงเซลลเ์ ดยี ว แต่จะทำใหจ้ ำ่ ย
- 46 - ไฟฟำ้ ไดม้ ำกหรือจ่ำยได้นำนกว่ำกำรใช้เซลลไ์ ฟฟ้ำเพียงเซลลเ์ ดียว ภำพที่ 6.79 กำรต่อเซลลไ์ ฟฟำ้ แบบขนำน ท่ีมำ : http://2.bp.blogspot.com สว่ นกำรนำเซลลไ์ ฟฟ้ำมำตอ่ กันแบบอนุกรมนั้น จะทำใหพ้ ลังงำนหรือแรงดันไฟฟ้ำรวม หำไดจ้ ำกผลรวมของ แรงดนั ไฟฟ้ำแต่ละเซลล์ เมือ่ แรงดนั มำกขึน้ จะทำให้กระแสไฟฟ้ำท่ีไหลในวงจรมีคำ่ มำกขึ้น ภำพท่ี 6.80 กำรต่อเซลลไ์ ฟฟ้ำแบบอนกุ รม ที่มำ : http://3.bp.blogspot.com ดงั นน้ั หำกนำเซลลไ์ ฟฟ้ำที่มแี รงดันไฟฟ้ำแตล่ ะเซลลเ์ ท่ำกันมำตอ่ กนั แบบอนกุ รม จะทำให้ได้ผลรวมของ แรงดันไฟฟ้ำมำกกว่ำกำรต่อแบบขนำน หรอื หำกต่อในวงจรไฟฟ้ำของหลอดไฟ ก็จะทำให้หลอดไฟของวงจรทต่ี ่อ เซลล์ไฟฟำ้ แบบอนุกรมสว่ำงมำกกวำ่ วงจรที่ต่อเซลลไ์ ฟฟ้ำแบบขนำนนัน่ เอง สรุปไดว้ ำ่ กำรต่อวงจรไฟฟ้ำแบบอนุกรมหรอื ขนำนนั้น มีขอ้ ดี – ข้อเสียแตกต่ำงกัน ขน้ึ อยกู่ บั วัตถุประสงค์ ในกำรใช้งำน หรือบำงคร้ังต้องตอ่ วงจรแบบผสม คือมีทั้งแบบอนุกรมและขนำน
- 47 - ในกำรต่อเซลล์ไฟฟ้ำแบบขนำน หำกเซลลไ์ ฟฟ้ำมแี รงดันไมเ่ ทำ่ กัน อำจทำให้เซลลไ์ ฟฟ้ำระเบิดได้ ในงำน ทั่วไปจะพบกำรต่อเซลล์ไฟฟำ้ ลักษณะน้ี ถำ้ หำกต้องกำรกระแสไฟฟ้ำปริมำณมำกจะเลือกใชเ้ ซลล์ไฟฟ้ำก้อนใหญ่ ขึ้นแทน หำกสงั เกตกำรทำงำนของหลอดไฟฟ้ำภำยในบำ้ นจะพบวำ่ เม่ือหลอดไฟฟ้ำหลอดใดหลอดหน่งึ เสยี หลอด ไฟฟ้ำท่ีเหลือภำยในบ้ำนยังคงสำมำรถใช้งำนได้อยู่ คำตอบคอื หลอดไฟฟ้ำภำยในบ้ำนต่อแบบขนำน ดังน้นั เพ่ือ ปอ้ งกนั ควำมเสยี หำยท่ีจะเกิดแกเ่ ครื่องใช้ไฟฟ้ำชนิดอนื่ ๆ ภำยในบ้ำน ในกรณีท่ีเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำตัวใดตวั หนงึ่ ชำรดุ จึงนยิ มตอ่ อุปกรณไ์ ฟฟ้ำหรอื เคร่อื งใช้ไฟฟ้ำแบบขนำน เพื่อให้เรำสำมำรถใชง้ ำนเครือ่ งใช้ไฟฟำ้ เหล่ำนนั้ ต่อไป ตำมปกติได้ การตอ่ แบบผสม (Compound Circuit) กำรต่อแบบผสม คือ กำรต่อวงจรทง้ั แบบอนกุ รมและแบบขนำนเข้ำไปในวงจรเดียว กำรตอ่ แบบน้ี โดยทั่วไป ไมน่ ยิ มใช้กัน เพรำะเกดิ ควำมยุ่งยำก จะใช้กนั แตใ่ นทำงดำ้ นอิเลก็ ทรอนกิ ส์เป็นสว่ นใหญ่ เชน่ ตวั ตำ้ นทำนตัวหนึ่ง ตอ่ อนุกรมกบั ตวั ตำ้ นทำนอีกตัวหนง่ึ แลว้ นำตัวต้ำนทำนทั้งสองไปต่อขนำนกับตัวตำ้ นทำนอีกชุดหนึง่ ดังในรปู จะสงั เกตเห็นไดว้ ำ่ ลักษณะกำรตอ่ วงจรแบบผสมน้ีเป็นกำรนำเอำวงจรอนกุ รมกับขนำนมำรวมกนั และ สำมำรถประยุกตเ์ ปน็ รูปแบบอน่ื ๆ ได้ ข้นึ อยูก่ ับกำรนำไปใช้งำนใหเ้ หมำะสม เพรำะกำรต่อแบบผสมนี้ไมม่ ี กฎเกณฑ์ตำยตวั เปน็ กำรต่อเพ่ือนำค่ำท่ีได้ไปใชก้ บั งำนอยำ่ งใดอย่ำงหนงึ่ เชน่ ในวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เปน็ ต้น
- 48 - ภาคผนวก 05 ติดตงั้ อปุ กรณส์ วทิ ซ์และปล๊กั
Search