Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเขียนรายงานในงานอาชีพ ดร.สมหวัง ศุภพล

การเขียนรายงานในงานอาชีพ ดร.สมหวัง ศุภพล

Published by ดร.สมหวัง ศุภพล, 2019-09-18 21:38:26

Description: การติดตั้งไฟหมุน1 : สุทธิศักด์ สุดประเสริฐ
ที่ปรึกษา ดร.สมหวัง ศุภพล

Keywords: Work Report on eletrical competency

Search

Read the Text Version

คูม่ อื การปฏบิ ัติงานตดิ ต้งั ไฟหมนุ ภายในงาน คลองโพธิ์บรกิ าร&เซอร์วิส N w นายสุทธิศักด์ิ สุทธิป์ ระเสริฐ รหสั 6241040019 สาขาเทคโนโลยไี ฟฟ้า วทิ ยาลัยเทคนคิ สรุ าษฎรธ์ านี สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคใต้ 1 อา้ งอิงรายวิชา :การเขียนรายงานในงานอาชีพ รหัส :20-4000-1101 ท่ปี รึกษา : ดร.สมหวัง ศภุ พล

สารบัญ 1 1 บทนา 3 ขนั้ ตอนการตดิ ต้งั ไฟหมนุ ภายในงาน 5 เคร่อื งมอื อปุ กรณ์และขอ้ ควรระวงั 7 01.การสารวจทาเลที่ตั้ง 10 02.การติดตงั้ เสาน่ังรา้ น 13 03.การติดตั้งมอเตอร์ 16 04.การประกอบกา้ นไฟ 19 05.การต่อเข้าวงจร 22 06.การเซ็ตมอเตอร์และตรวจเช็คระบบ 23 ภาคผนวก 25 ภาคผนวก 01 การสารวจทาเลท่ตี ง้ั 32 ภาคผนวก 02.การตดิ ต้งั เสานั่งร้าน 34 ภาคผนวก 03 การตดิ ต้งั มอเตอร์ 37 ภาคผนวก 04 การประกอบก้านไฟ 41 ภาคผนวก 05 การต่อสายเขา้ วงจร 43 ภาคผนวก 06 การเซต็ มอเตอรแ์ ละตรวจเชค็ ระบบ ประวตั ิผจู้ ัดทา

-1- บทนา ในปัจจุบันการจัดงานประเพณีหรืองานประจาปีนั้น ผู้จัดจะนิยมจัดและประดับ ไฟประดับภายในงานเป็นไฟหมุนเป็นจานวนมาก และมีลวดลายต่างๆมากมายท่ีไม่ ซา้ กนั ซึ่งมคี วามสวยงามมาก จงึ เป็นทนี่ ยิ มของผจู้ ัดงานกนั อย่างมากในปัจจุบนั คู่มือฉบับนี้มีข้ันตอนการติดต้ังไฟหมุน รายเอียดต่างๆของวัสดุอุปกรณ์และหวัง เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ คูม่ ือฉบับนีจ้ ะเปน็ ประโยชน์ต่อผอู้ ่านไมม่ ากกน็ ้อย ขนั้ ตอนการตดิ ตง้ั ไฟหมนุ มี 6 ขั้นตอน 01 การสารวจทาเลท่ตี ัง้ 02 การติดตัง้ เสานั่งรา้ น 03 การตดิ ตงั้ มอเตอร์

-2- ขัน้ ตอนการตดิ ตั้งเครอื่ งปรับอากาศชนิดแขวน มี 6 ข้ันตอน 04 การประกอบกา้ นไฟ 05 การต่อสายเข้าวงจร 06 การเซ็ตมอเตอร์และตรวจเชค็ ระบบ

-3- เครอื่ งมือ อุปกรณ์และข้อควรระวัง แคล้มมิเตอร์ ค้อนปอนด์ ข้อควรระวัง ข้อควรระวงั ควรปรับย่านการวัดใหต้ รงกบั ค่าทีจ่ ะใช้วดั ควรจบั ให้ถนดั ขณะใช้งาน ค้อนมีนา้ หนกั มาก ไขควง ไขควงเทสไฟ ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ห้ามกดไขควงแรงเกินไป อาจทาให้น๊อต พลิกทม่ิ มือได้ ควรตรวจสอบไฟใหด้ ีก่อนใช้งานทุกครง้ั คีม ประแจชุด ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวัง ไม่ควรใชจ้ ับชนิ้ งานท่ีใหญ่เกินกว่าคีม ควรใช้ให้ขนาดของประแจตรงกับงานที่ จะจับได้ จะใชท้ า

-4- เคร่ืองมอื อปุ กรณ์และข้อควรระวัง ระดับน้า เทปพนั สายไฟ ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวัง ไม่ควรทาระดับนา้ ตกเพราะอาจทาให้ ควรพนั ใหม้ ดิ ชดิ แนน่ หนา ไมใ่ ห้ตัวนา ค่าทวี่ ดั คาดเคล่อื นได้ ไฟฟา้ หลดุ ออกมา เทปวัดระยะ สมาร์ทโฟน ข้อควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ไมค่ วรใช้ตติ ่อกันเป็นเวลานาน ควรมว้ นเก็บทุกครั้งหลงั ใช้ มีดคัตเตอร์ สมดุ โนต้ ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ควรระวงั ควรเกบ็ ไหห้ ่างจากนา้ และที่เปียกชืน้ ควรหุบใบมีดไหส้ ดุ หลังจากใช้งานเสรจ็

-5- 01 การสารวจทาเลทต่ี งั้ ยนู ิต เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ เทคนคิ การทางาน ข้อควรระวงั - ควรเลอื กตาแหน่งการตดิ ตั้งท่ีเห็นได้ - ควรเลอื กตาแหน่งทต่ี ดิ ตัง้ ให้ห่างจาก ชดั และเปน็ จดุ เด่นของงาน สายไฟฟา้ แรงสงู และตน้ ไม้ - ตดิ ต้งั ตามความต้องการของผู้จดั งาน - หากเลอื กตาแหนง่ ทต่ี ้ังทพ่ี ืน้ ดินไม่ หรอื เจา้ ภาพ แข็งแรงอาจจะเกดิ ความเสียหายได้

-6- 01 ขั้นตอนการสารวจทาเลทต่ี ง้ั 1.ปรึกษาและวางแผนกบั ผู้จดั งาน 2.ดแู ละวิเคราะหแ์ บบแปลนแผนผังการ จัดงาน 3.ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแผนผังงาน 4.วางแผนและระบุตาแหนง่ ที่ตง้ั

-7- 02 การตดิ ตงั้ เสาน่ังร้าน เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ข้อควรระวัง - ควรใชค้ นงานอยา่ งน้อย 3 คนขน้ึ ไป - ควรศึกษาสภาพลมกบั ผคู้ นที่อาศัยอยู่ เพ่ือความสะดวกและปลอดภัย บริเวณนน้ั เพ่ือการยดึ ดงึ ทกุ คร้ัง - หากต่อนงั่ รา้ นมากกว่า 4 ช้นั ควรยดึ - การประกอบนงั่ ร้านทส่ี งู ควรใช้ผู้ และดงึ นัง่ ร้าน 3 ชั้นตอ่ 1 รอบ ชานาญ

-8- 02 ข้นั ตอนการตดิ ต้ังเสานั่งร้าน 1.หาตาแหน่งทรี่ ะบุตามแผน 2.ประกอบน่ังร้านช้ันท1ี่ พรอ้ มใส่ขาปรบั ระดบั 3.วัดระดบั นา้ ให้เสาทง้ั 4 มุมมคี วามสูง 4.ประกอบนั่งร้านชน้ั ท่ี 2 และต่อข้นึ ไป เทา่ กนั ถึง 4 ช้ัน

02 -9- 5.ตอกสมอบก 4 มุม 6.มดั เชอื กคานกลางน่งั รา้ นและมัด 4 มุมดึงลงไปหาสมอบก 7.ตรวจสอบขาปรบั ระดบั วา่ แน่นหรอื ไม่ 8.ติดตงั้ เสาน่งั รา้ นเสร็จสมบรู ณ์

- 10 - 03 การตดิ ต้ังมอเตอร์ เครือ่ งมอื และอุปกรณ์ เทคนิคการทางาน ข้อควรระวงั - ควรใชเ้ ชอื กดงึ มอเตอรแ์ ละอุปกรณข์ นึ้ - ไม่ควรยกมอเตอรด้วยความ - ควรใช้คนงานอยา่ งน้อย 2 คน ระมดั ระวัง - ตอ่ สายเสร็จควรตรวจสอบว่าสายท้งั 2 แกนจะไมเ่ ก่ียวกัน

- 11 - 03 ขัน้ ตอนการติดตง้ั มอเตอร์ 1.นาตวั มอเตอรข์ น้ึ ไปวางบนน่ังรา้ นชัน้ 2.มดั ตวั มอเตอรต์ ดิ กับน่งั รา้ น บนสดุ 3.ใส่แป้นในใหเ้ ข้าลอ็ กและขันน็อตให้ 4.ใสแ่ ปน้ นอกให้เขา้ ลอ็ กและขันนอ็ ตให้ แนน่ แนน่

- 12 - 03 5.ตอ่ สายแปน้ ในและพนั รอยตอ่ ด้วยผ้า 6.ตอ่ สายแปน้ นอกและพนั รอยตอ่ ด้วย เทป ผา้ เทป 7.นาเชือกมดั หลงั มอเตอร์และดึงทแยงลง 8.ทดสอบหมนุ และความแข็งแรง ไปมดั กับคานชัน้ ที่ 1 ให้แนน่

- 13 - 04 การประกอบกา้ นไฟ เครื่องมอื และอปุ กรณ์ เทคนคิ การทางาน ขอ้ ควรระวงั - ควรใส่ก้านไฟไห้สุดหรอื ลงรอ่ งนอ็ ต - ไมค่ วรขันน็อตยึดกา้ นแน่นเกนิ ไป เดมิ - เมอ่ื ใส่กา้ นไมค่ วรปลอ่ ยใหม้ อเตอร์ - ควรใสก่ า้ นตรงข้ามกนั และตอ่ ไป หมุนลงเร็วจนเกินไป เร่อื ยๆตามลาดบั

- 14 - 04 ข้นั ตอนการประกอบก้านไฟ 1.ประกอบก้านชดุ แปน้ นอกและขนั นอ็ ต 2.พบั ปลายกา้ นเพอ่ื บานดอกตามแบบ โดยสลับตรงขา้ มกันไป 3.ประกอบก้านชุดแป้นในพรอ้ มใสส่ ลัก 4.แยกสดี อกต่อปลายพร้อมสง่ ขึ้น และขันนอ็ ตโดยสลบั ตรงข้ามกนั ไป ประกอบ

- 15 - 5.ใส่ดอกพรอ้ มขันนอ๊ ตปลายก้านชุด 6.ตรวจเชค็ น๊อตทุกตัวและทดสอบ แปน้ ในโดยสลบั ตรงขา้ มกันและเรียงสี หมนุ เพอื่ ตรวจสอบการทางาน ตามแบบ

- 16 - ฃ 05 การตอ่ สายเขา้ วงจร เครื่องมือและอุปกรณ์ เทคนิคการทางาน ขอ้ ควรระวงั - ควรตอ่ สายใหเ้ สร็จหลงั จากใสก่ า้ นไฟ - ควรเสียบเพาวเวอรป์ ล๊กั ใหส้ ุดหรอื เสร็จ ลงลอ็ ก - ควรตรวจสอบรอยรวั หรอื รอยบาดของ สายไฟ

- 17 - 05 ข้ันตอนการต่อสายเขา้ วงจร 1.เสียบปล๊กั ก้านไฟแตล่ ะก้านเขา้ กับแปน้ 2.นาสายมอเตอรม์ าเสยี บท่ีทา้ ยมอเตอร์ 3.นาสายเพาวเวอร์ปล๊กั มาเสยี บทที่ า้ ย 4.ปดิ สวิตซค์ อลโทรลมอเตอรไ์ ห้ OFF มอเตอร์ ทง้ั หมด

- 18 - 05 5.นาสายเมนมาตอ่ เขา้ แผงเบรกเกอร์ 6.นาสายปลก๊ั ท่ตี อ่ ลงจากทา้ ยมอเตอร์ มาเสยี บเขา้ แผงเบรกเกอร์

- 19 - ฃ 06 การเซ็ตมอเตอรแ์ ละตรวจเช็คระบบ เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ เทคนิคการทางาน ขอ้ ควรระวงั - ไห้คนข้างบนขึ้นถึงข้างบนก่อนแลว้ คน - ควรใช้คนงานอย่างนอ้ ย 2 คน ข้างล่างจงึ จะปดิ เบรกเกอร์เพอ่ื จา่ ยไฟ - ควรวดั แรงดนั ไฟกอ่ นจา่ ยกระแสทุก - ควรเช็คการลงกราวดท์ กุ ครัง้ หลัง คร้ัง ปล่อยกระแสไฟ

- 20 - 06 ข้นั ตอนการเซ็ตมอเตอรแ์ ละ ตรวจเชค็ ระบบ 1.เปิดเบรกเกอร์พร้อมเซ็ตมอเตอรแ์ ละ 2.จา่ ยไฟเขา้ ระบบและไฟตรวจเชค็ เชค็ ระบบ หลอดไฟพรอ้ มซอ่ มทเ่ี สยี 3.เปิดสวิตซท์ ี่หลงั มอเตอร์และปรับ 4.ตรวจสอบการหมุนของมอเตอรว์ า่ ความเรว็ รอบพอประมาณ ผิดปกติหรือไม่

- 21 - 06 5.นาแคล้มมเิ ตอร์ตรวจเช็คกระแส 6.เสร็จพรอ้ มส่งงานแกผ่ ้จู ัดงาน

- 22 - ภาคผนวก

- 23 - ภาคผนวก 01 การสารวจทาเลท่ตี ้งั

- 24 - หลักการเลอื กทาเลทต่ี ้งั 1. ตอ้ งปรึกษาผจู้ ดั งานกอ่ นทจี่ ะวางแผนการทางานทุกคร้งั 2. ต้องเปน็ ทโี่ ลง่ หรือห่างจากตน้ ไมป้ ระมาณ 3-4 เมตร และไม่ควรตดิ ต้งั ใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง 3. การเลอื กจุดติดตั้งน่ังร้าน ควรเผื่อรัศมีของกา้ นไฟหมุนตามขนาดของดอกไฟหมุนนัน้ 4. ควรเลอื กจุดตดิ ตั้งท่เี ด่นชัด รับหนา้ ทางเข้างาน 5. ตอ้ งเลือกพืน้ ดนิ บริเวณทต่ี ดิ ตั้งที่แข็งแรงและไม่ทรุดตวั ง่าย

- 25 - ภาคผนวก 02 การตดิ ต้งั เสานั่งรา้ น

- 26 - ข้อควรรู้เก่ยี วกบั การออกแบบนั่งรา้ น งานก่อสร้างโดยท่ัวไปเน้นหนักเรื่องของการรบั นา้ หนักท่ปี ลอดภยั โดยทวั่ ไปวศิ วกรจะคานึงและออกแบบการ รบั น้าหนกั ความปลอดภยั แต่เฉพาะในเร่ืองตวั อาคารเท่าน้ัน สว่ นประกอบในการใช้เคร่ืองมือเครื่องใช้ที่ ส่วนประกอบ เพ่ือเริ่มตน้ ในการทางานสาหรับการใหเ้ กดิ เป็นอาคารข้ึนมาไดอ้ ย่นู อกเหนือความรบั ผิดชอบของ วศิ วกร โดยทว่ั ไปดงั น้นั สว่ นประกอบเคร่ืองมือเคร่ืองใชต้ ่าง ๆ ทีจ่ ะนามาใช้เพ่ือการดาเนินการดังกล่าว จึงเปน็ เหตุ ให้เกิดอนั ตรายขน้ึ ดงั นน้ั มาตรการของรัฐ ฯ จึงได้กาหนดขึ้นเป็นกฎหมายเพ่ือบงั คบั ใช้แก่นายจา้ งโดยท่วั ไปสาหรับ กฎหมายดังกล่าวซึง่ ออกประกาศบงั คบั ใชใ้ นรปู ของกฎกระทรวงและประกาศกระทรวงแรงงานและสวสั ดกิ ารสังคม ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยในการทางาน งานก่อสร้าง และยังมกี ฎหมายอื่นๆ อีกหลายเรื่องซงึ่ ใช้เก่ียวขอ้ งกันอยู่ การรบั นา้ หนัก น้าหนักไมว่ า่ จะเป็นตวั อาคารหรือส่วนประกอบเครอ่ื งมือ เคร่ืองใชเ้ พื่อการกอ่ สร้างให้เกิดเปน็ ตวั อาคารขึน้ คาวา่ “นา้ หนัก” จึงเปน็ เรือ่ งสาคัญทจ่ี ะต้องคดิ ถึงกอ่ นเพ่ือความปลอดภัยในการดาเนนิ การทุกขั้นตอน เกี่ยวขอ้ งกับวสั ดุ และพน้ื ดนิ ซึ่งเปน็ ส่วนทีจ่ ะต้องรองรับน้าหนกั ดังกลา่ ว ส่งิ ทีส่ าคัญ พ้ืนดนิ หรอื วัสดทุ ่ีใชเ้ ป็น สว่ นประกอบในการดาเนนิ การงานนนั้ จะต้องรบั น้าหนกั ให้มคี วามปลอดภยั ได้อย่างไร นา้ หนัก คาว่า “น้าหนกั ” เป็นคาที่มีความหมายรวม ซ่ึงเม่ือดาเนนิ การแลว้ จะต้องมีความปลอดภยั โดยไม่มี การหักพงั ดงั นนั้ น้าหนกั เปน็ เรือ่ งทที่ ุกคนจะต้องทราบความหมายในเร่ืองของ SAFETY FACTOR (น้าหนกั ที่ ปลอดภัย) 1. นา้ หนักบรรทุก คอื นา้ หนักที่จะเพิ่มขึ้นกบั ส่งิ ก่อสร้าง เชน่ คน สง่ิ ของ หรือวัสดอุ ืน่ ๆ ท่ีนาขึ้นไป อยู่บนพืน้ หรือบนอาคาร 2. นา้ หนกั บรรทุกบนตัวอาคาร คือ น้าหนักทวี่ ิศวกรจะกาหนดใหร้ ับน้าหนักได้ตามที่กาหนด ซ่ึงเรา เรียกว่า Live Load 3. นา้ หนกั ของตัวอาคาร คือ นา้ หนกั รวมโครงสร้างทปี่ ระกอบเป็นสว่ นของอาคารทงั้ หมด ซ่งึ เรา เรียกวา่ DeadLoad

- 27 - 4. การรบั น้าหนักของพนื้ หมายถงึ น้าหนกั ของตัวอาคารท่กี ดลงพ้ืนดินที่พ้ืนดินสามารถรับน้าหนกั ได้ ที่ปลอดภยั ซึ่งเราเรียกว่า Bearing Capacity อัตราส่วนความปลอดภัย (SAFETY FACTOR) ของการออกแบบ การรบั น้าหนกั สาหรับในเร่อื งของการ ออกแบบการกอ่ สร้าง ก. พื้นดินเป็นสว่ นหนงึ่ ในการออกแบบ ซึ่งใหค้ า่ ความปลอดภยั ท่กี าหนดเปน็ SAFETY FACTOR ข. วัสดุในการก่อสรา้ งแต่ละชนดิ ท่ีต้องกาหนด SAFETY FACTOR ค. พ้ืนภูมปิ ระเทศ(Location)พืน้ ท่ีที่จะดาเนนิ การก่อสร้าง ซ่งึ ในแตล่ ะท้องถิ่นมผี ลกระทบจากภัย ธรรมชาตเิ ช่น นา้ ท่วม ภเู ขาไฟ พายุ ซึ่งกาหนด SAFETY FACTOR ไดแ้ ตกตา่ งกนั ดังนั้น สง่ิ ท่คี วรจะทราบในหลักการใหม่ ๆ เช่น ความรู้เบอ้ื งต้นของเจา้ หนา้ ท่ที ่จี ะตรวจความ ปลอดภยั ในงานก่อสรา้ ง เชน่ นั่งรา้ น หรือสว่ นประกอบอืน่ ๆ ทไ่ี ม่เกี่ยวกับตัวอาคาร ซ่งึ จะต้องร้เู ปน็ พน้ื ฐาน เบือ้ งตน้ นั่งรา้ นท่กี ฎหมายกาหนดไว้ในการสรา้ งนั่งรา้ นแบง่ ออกเปน็ 2 ชนิด 1. นั่งรา้ นท่ีออกแบบโดยวิศวกรโยธา ก.ว.ได้กาหนดเป็นกฎหมายไว้ โดยให้อานาจแกว่ ิศวกรเป็น ผอู้ อกแบบนั่งรา้ น เพื่อใชใ้ นการปฏิบัตงิ านเพ่ือการก่อสรา้ งได้ อย่างน้อยวศิ วกรผ้นู ั้นจะต้องมรี ปู แบบนง่ั รา้ น และ รายการคานวณไว้ใหเ้ จ้าพนักงานตรวจความปลอดภยั เพื่อตรวจสอบ 2. สาหรบั นัง่ ร้านทีไม่มีวศิ วกรเปน็ ผู้ออกแบบ กฎหมายไดก้ าหนดให้ใชว้ สั ดุ ตลอดจนกรรมวิธตี ่าง ๆ ให้นายจา้ งปฏิบตั เิ พ่ือการสร้างนง่ั ร้าน 3. สาหรับนงั่ ร้านทจ่ี ะใชง้ านสูงเกนิ กว่า 21 เมตรขน้ึ ไป เป็นหนา้ ท่ีของนายจ้างจะต้องดาเนินการ จัดหาวศิ วกรโยธา ซ่ึง ก.ว.กาหนดการออกแบบนั่งร้านให้อย่างนอ้ ยจะต้องมรี ูปแบบ และรายละเอียดคานวณการ รบั นา้ หนกั ของน่ังร้าน และรายละเอียดประกอบแบบน่ังรา้ น เพอื่ ใหน้ ายจา้ งพักงานตรวจสอบได้ เช่นเดียวกบั ข้อ 1.

- 28 - รายละเอยี ดท่ัวไปประกอบแบบนงั่ รา้ น ตามกฎหมาย วศิ วกรหรอื ผู้ออกแบบจะต้องกาหนดรายละเอยี ดประกอบแบบนงั่ ร้านให้ครบถว้ น ตามกฎหมายนงั่ รา้ นกาหนดไว้ กล่าวคือ การรับนา้ หนกั บันได ราวบนั ได ชานพัก สง่ิ ปดิ ลอ้ มนง่ั ร้าน ผ้ารองรับใต้ น่งั รา้ นกันของตก ส่วนยึดโยงอ่ืน ๆ เปน็ ต้น การใชล้ ูกจา้ งทางานบนนัง่ ร้าน หรือใตน้ ่งั รา้ น อันตรายทจ่ี ะเกิดขึ้นกบั ลูกจา้ ง คนงาน ท่ีทางานอยู่บนนง่ั ร้าน หรือใต้นั่งร้านในเรอ่ื งวัสดตุ กจากท่ี สงู เชน่ ไม้ เศษไม้ หิน วัสดุอื่น ๆ ตลอดจนเครื่องมือช่าง หรือเครื่องมือกล อาจจะตกจากที่สูงกวา่ ทลี่ ูกจา้ งทางาน อยู่ ทาใหเ้ กดิ อันตรายแก่รา่ งกายของลูกจ้าง ดังนั้นการปฏบิ ัตงิ านของลูกจา้ งตลอดเวลา นายจา้ งจะต้องจัดหมวก นริ ภยั หรือรองเทา้ ทป่ี ้องกันอันตรายใหแ้ ก่ลกู จ้างไว้ เรียกว่า “อปุ กรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบคุ คล” ซง่ึ กาหนดเปน็ มาตรฐานให้ใช้ตามลกั ษณะและประเภทของงานท่ีกฎหมาย กาหนด การซ่อมน่ังร้าน นง่ั ร้านโดยท่วั ไปเราจะพบเหน็ ว่า บางสว่ นของเสาน่ังรา้ นจะทรุดเอียงบางสว่ นอาจจะแตกราว บางส่วนอาจจะขาดความมัน่ คง เนื่องจากวสั ดุ เช่น ปอผุ หรือเป่อื ย เป็นต้น จึงเปน็ เหตุทาใหน้ ่งั รา้ นขาดความ แขง็ แรง การซ่อมนงั่ ร้านและการหยดุ การใชน้ ั่งรา้ น จะตอ้ งจัดให้มกี ารดาเนินการอยา่ งถูกต้อง พืน้ ฐานรับเสา นั่งร้านทถี่ า่ ยนา้ หนักลงพ้นื ดนิ อาจทรดุ ต่าลงถ้าเปน็ เสานง่ั รา้ นโลหะกค็ วรท่จี ะใชแ้ ม่ แรง ดดี ยกข้ึนแลว้ ตอ่ เสานัง่ ร้านให้ต้ังอยบู่ นพืน้ ฐานของน่งั ร้านให้ได้ระดับดงั เดิม วสั ดุอน่ื ๆ เช่น ไม้ ปอ ทแี่ ตกร้าว หรือผุ จะต้องคดั ออกเปลี่ยนใหมใ่ หม้ ีความแขง็ แรง เหมือนนง่ั ร้าน ใหม่ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ของน่งั ร้านที่ชารุด เชน่ สงิ่ ปกปิดล้อมน่ังรา้ น พนื้ รองรบั ของกันตกจากที่สงู ใต้นง่ั รา้ น ราวทางเดินบนนงั่ รา้ น ฯลฯ ท่ีชารุดเสยี หายไปจะต้องจดั เปลยี่ นใหม่โดยทันที การรักษาความสะอาดบนนั่งรา้ น ตลอดจนการบรรทกุ นา้ หนักบนนั่งร้าน จะต้องดแู ลรักษา เม่ือเลิก งานในแต่ละวันให้สะอาด นา้ หนกั บรรทุกบนน่ังร้านจะต้องบรรทกุ ได้ไมเ่ กนิ 150 กโิ ลกรัมต่อตารางเมตร และ จะตอ้ งไมเ่ ปน็ น้าหนกั เฉลีย่ ซ่ึงวางไวเ้ ปน็ ชว่ ง

- 29 - น้าหนักจร น้าหนกั จรที่เกี่ยวขอ้ งกับนงั่ รา้ น หมายถึง การเกดิ แรงจากพายุท่ที าให้วัสดุอาจพงั ทลายได้ หรือ อันตรายจากภยั ธรรมชาตเิ ชน่ ฟ้าผ่า แผน่ ดนิ ไหว ซง่ึ จะต้องไมใ่ หม้ ลี ูกจ้างคนงานอย่ปู ฏบิ ัตงิ านในขณะนั้น ขอ้ พิจารณาในการออกแบบน่งั รา้ น นง่ั รา้ นแตล่ ะประเภทยอมมีความเหมาะสมในการใช้งานเฉพาะอยา่ งตามสภาพการกอ่ สร้าง ผดู้ าเนนิ การก่อสร้างจะต้องเลือกประเภทใหเ้ หมาะสมกับแต่ละงาน เช่น นงั่ ร้านเสาเรียงเด่ียว น่งั รา้ นเสาเรียงคู่ นั่งรา้ นชนดิ แขวน นงั่ รา้ นสาหรับงานซอ่ มแซม เป็นตน้ การพิจารณาออกแบบหรือเลือกใชน้ ง่ั รา้ น มีขอ้ ควรพิจารณาคือ 1. สภาพสถานท่ี และความเหมาะสมกับสถานท่ี 2. นา้ หนกั บรรทุกท่ีใช้งาน 3. ความสะดวกในการตดิ ตัง้ และรื้อถอน 4. ความปลอดภัย 5. ความประหยัด ในปัจจบุ นั มปี ระกาศกระทรวงมหาดไทยเรือ่ งความปลอดภยั ในการทางาน ได้ออกประกาศกาหนดให้ การออกแบบนง่ั ราน ทาโดยผู้ไดร้ ับใบอนุญาตประกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม ตามท่ีคณะกรรมการควบคมุ ประกอบวิชาชพี วิศวกรรม ตามพระราชบัญูญตั วิ ชิ าชีพวิศวกรรม พ.ศ.2512 กาหนด หากมิได้ออกแบบโดยผู้ที่ ไดร้ ับใบอนญุ าตดังกล่าว ผู้ดาเนนิ การก่อสร้างจะต้องก่อสร้างน่ังรา้ นใหเ้ ปน็ ไปตามข้อกาหนดข้ันต่า ตามประกาศท่ี กระทรวงมหาดไทย กาหนดไว้ ในสว่ นของน่ังร้านทว่ั ๆ ไปนัน้ จาเป็นต้องมีแบบที่มาตรฐาน ซงึ่ คานึงถงึ ความปลอดภยั ท่จี ะใช้งาน เป็นหลกั น่งั ร้านเหลา่ น้ันควรมลี ักษณะ ดงั น้ี - สาหรับนัง่ รา้ นทที่ าดว้ ยไม้ การออกแบบเพ่ือรบั นา้ หนกั ควรออกแบบไว้สงู สุด 4 เท่าของน้าหนกั ที่ จะใช้งานจริง - การใชน้ ่ังรา้ นน้ันไม่ว่าจะใช้งานเมื่อใดก็ตาม ให้ใชอ้ ปุ กรณช์ นิ้ สว่ นชนดิ เดยี วกนั อย่าใช้ผสมผสานกัน - ฐานของนั่งร้านจะต้องม่นั คง และวางอยใู่ นลักษณะสมดุลย์ อย่าใชพ้ วกเศษวัสดุตา่ ง ๆ เชน่ เศษอิฐ เศษไม้ รองขานัง่ ร้าน - น่ังร้านควรมีการโยงยึด ผกู ติด หรอื ค้ายันกับตัวอาคาร เพื่อปอ้ งกันการ เอน ล้ม - นง่ั ร้านทส่ี ูงกว่า 2.00 เมตร จะต้องมรี าวกันตก

- 30 - - น่งั ร้านทส่ี ร้างด้วยไม้จะต้องใช้ไมท้ ี่ไม่ผุเป่ือย ไม่มีรอยรา้ ว หรอื ชารดุ อ่ืนๆ ทีจ่ ะทาให้ขาดความ แข็งแรงทนทาน - การทาน่งั รา้ นแบบเสาเรยี งเดย่ี ว กรณที ่ีใชไ้ ม้ไผเ่ ปน็ เสาควรต้ังให้หา่ งกันไม่เกนิ 1.50 เมตร ใหใ้ ชไ้ ม้ไผท่ าคาน ผูกติดกบั เสาทุกตน้ เมื่อตัง้ เสาแลว้ ใชไ้ ม้ไผท่ แยงมุม ไมเ่ กิน 45 องศา กับแนวราบ ท่ีกล่าวมานี้เปน็ ตัวอยา่ งสว่ นหนง่ึ ของแบบนัง่ ร้าน ซง่ึ ควรปฏิบัตกิ นั ในงานก่อสรา้ ง ซง่ึ รายละเอียดอาจ ศกึ ษาไดจ้ าก ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทางานก่อสร้าง(น่ังร้าน) นอกจากนี้จะต้องมกี ารบารงุ ดูแลรักษาสภาพการใช้งานของนัง่ รา้ นอยู่อยา่ งสม่าเสมอ โดยนั่งรา้ นทุก ชนดิ จะตอ้ งมีการตรวจตราทุกอาทิตย์ หากมพี ายุฝน แผน่ ดินไหว หรือเหตุที่ทาใหน้ ั่งรา้ นเสยี สมดุลย์ หรือ คลาดเคลื่อนไป ต้องมีการตรวจสภาพเสมอ และทส่ี าคัญู คอื พนกั งานทกุ คนจะต้องสวมใส่อุปกรณ์คมุ้ ครองความปลอดภัยสว่ นบคุ คล เช่น หมวก นิรภัยบางครงั้ อาจต้องใช้เข็มขัดนิรภัยด้วย หลักการในการออกแบบน่ังร้าน 1. เลอื กชนิดของน่งั รา้ นใหเ้ หมาะสมกบั อาคาร และความสะดวกในการทางาน เช่น อาคารสงู ๆ ควรใช้นัง่ รา้ นเหลก็ เสาเรียงคู่ อาคารเต้ีย ๆ การใชง้ านในช่วงระยะสัน้ ๆ ควรใช้ไม้ไผ่เสาเรยี งเดย่ี ว หรืออาจจะผสม ดดั แปลง เพื่อความสะดวกในการสร้าง หรือประหยัดค่าใช้จา่ ย ทั้งนค้ี วรอยู่ในดุลยพินจิ ของวิศวกร 2. คดิ หน่วยแรงทีเ่ กดิ ขึน้ ในชัน้ ต่าง ๆ ของนง่ั ร้าน โดยคดิ น้าหนกั ของนง่ั รา้ นให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงมหาดไทย เชน่ 150 กโิ ลกรมั ต่อตารางเมตร 3. การออกแบบฐานรองรับ สมมตุ ิว่า Bearing ในกรุงเทพมหานครใช้ 2 ตันต่อตารางเมตร ในกรณี ฐานแผ่ ไม่สามารถรบั น้าหนักนั่งร้าน เสาต้องออกแบบเปน็ ตง้ั บนเข็ม ค่า C=600 กโิ ลกรัมต่อตารางเมตร สาหรับ ดนิ ในกรุงเทพ ฯ

- 31 - การสร้างฐานนง่ั รา้ น ฐานรองรับน่ังรา้ นควรพิจารณาถงึ ความมน่ั คงแขง็ แรงของดินท่ีจะรองรับนัง่ ร้านว่าแข็งแรงเพียง พอทีจ่ ะรองรับนา้ หนกั บรรทุกที่ถา่ ยลงมาจากเสาน่งั รา้ น โดยมสี ว่ นความปลอดภยั เพียงพอหรอื ไม่ ขนาดของฐาน ควรออกแบบใหส้ มั พนั ธก์ ับความสามารถของดินทีจ่ ะรบั น้าหนกั เช่น ดินเหนยี ว ท่ีมคี วามสามารถในการรบั นา้ หนกั 2 ตนั ตอ่ ตารางเมตร โดยมสี ่วนความปลอดภัย 2 ตนั หากนา้ หนกั จากเสานง่ั รา้ นรวมกันแลว้ ได้ 1 ตนั กค็ วรจัด ขนาดฐานให้มีพน้ื ทร่ี วม 1 ตารางเมตรเป็นอย่างน้อย เพ่ือให้ได้ส่วนความปลอดภยั ในการรับน้าหนัก 2 ตนั เปน็ ตน้ หากไมส่ ามารถทาไดเ้ นื่องจากเหตุผลใด เช่น สถานท่ีไม่อานวย หรือสภาพดนิ อ่อนกค็ วรตอกเสาเข็มรองรบั ให้มี จานวนเพียงพอ วสั ดุที่ใช้รองรบั เปน็ ฐานน่งั ร้านควรออกแบบให้แรงเลอื่ นไดพ้ อเพียง และไมแ่ อ่นตัวเมื่อรบั นา้ หนกั ในกรณที ีใช้ฐานแผ่วางบนดนิ ควรลอกหน้าดินออกเสยี ก่อน ความแขง็ แรงของฐานรองรบั ควรออกแบบใหม้ ีความแข็งแรงเทา่ ๆ กัน หากจุดใดจุดหนึง่ มคี วาม แขง็ แรงด้อยกว่า อาจทาให้เกิดการทรุดตวั ไม่เทา่ กนั จนอาจเกิดการวิบัติได้

- 32 - ภาคผนวก 03 การตดิ ต้ังมอเตอร์

- 33 - การใชแ้ ละการบารุงรกั ษามอเตอร์เกียร์ มอเตอรเ์ กียร์เปน็ กลไกการส่งกาลงั คือการใชต้ วั แปลงความเรว็ เกียรม์ อเตอร์ (มอเตอร)์ เพื่อลดจานวนรอบ ของการปฏิวัตไิ ปยังจานวนท่ีตอ้ งการของการปฏิวตั ิและกลไกแรงบิดทมี่ ีขนาดใหญ่ มอเตอร์เกียรส์ ามารถมองเหน็ ไดเ้ กือบทุกชนดิ ของระบบเกียรแ์ บบกลสามารถมองเหน็ รอ่ งรอยของมนั เชน่ เรือรถยนต์เครอ่ื งใชห้ วั เราะนาฬกิ า ฯลฯ และการชะลอตัวของมอเตอร์ท่ีมีการชะลอตัวและเพมิ่ แรงบิดจงึ ไมก่ ว้าง ช่วงของใช้ในอุปกรณ์แปลงความเร็ว และแรงบดิ เกยี ร์มอเตอร์ประกอบดว้ ยเกียร์ในทกุ ระดบั เชน่ เกียร์ขบั เคล่ือนเกียรข์ นาดเลก็ สามารถบรรลุในระดับหน่ึง ของการชะลอการใชแ้ ล้วใชโ้ ครงสร้างหลายขัน้ ตอนนี้สามารถลดความเร็วได้โดยทั่วไปดงั นั้นเกียรม์ อเตอร์การ ทางาน หลักการคือการใชท้ ุกระดับของเกยี ร์เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการชะลอตัว มอเตอรเ์ กียร์มักใช้ในอุปกรณ์ส่งกาลงั ความเรว็ ตา่ ความเรว็ สูงมอเตอร์เคร่ืองยนต์สนั ดาปภายในหรอื พลงั งานความเรว็ สงู อืน่ ๆ ผา่ นการชะลอตวั ของเกยี ร์เกา่ บนเพลาอนิ พทุ ของฟนั เกยี รจ์ านวนนอ้ ยบนเพลาเพลา สง่ ออก เพื่อใหเ้ กิดการชะลอตัววตั ถปุ ระสงค์เคร่ืองยนต์แบบธรรมดาจะมีเกยี ร์หลักเดียวกันหลายค่เู พื่อใหไ้ ดผ้ ลการ ชะลอตัวทีต่ ้องการ เกยี ร์มอเตอร์แบบไดรฟ์เปน็ ไดรฟท์ ่มี ีความแม่นยาสงู และมีประสิทธิภาพในการส่งผา่ นแมว้ า่ จะมวี ธิ กี าร ชะลอตวั แต่วธิ ที ใี่ ชบ้ ่อยท่ีสดุ คือการเกยี รท์ างานชา้ ลงเน่อื งจากเกยี รส์ ามารถลดรอยเทา้ ไดเ้ พยี งอย่างเดยี ว และลด ต้นทนุ ดงั น้ันบางคนยังเรยี กเกียรเ์ กยี ร์กล่องเกียร์มกั จะกล่องเกยี ร์คือการรวมกนั ของเกยี รบ์ างเพราะกล่องเกียร์ ตัวเองไม่ได้มีแรงบนั ดาลใจดังน้ันคุณต้องขบั รถส่วนประกอบท่ีจะขบั รถได้ การใช้มอเตอร์เกยี รเ์ ป็นจุดประสงคท์ ่ี สาคัญที่สุดในการส่งผ่านคือการบรรลุการส่งกาลังการเขา้ ถึงความเรว็ บางอย่างและมีแรงบิดทใี่ หญ่ขน้ึ ดงั น้ัน มอเตอรล์ ดความเร็วในปัจจุบันมกี ารใชก้ ันอยา่ งแพร่หลายในอตุ สาหกรรมต่างๆ ตามข้อมูลการสารวจทีเ่ กยี่ วข้องแสดงให้เห็นวา่ ประมาณ 80% เกยี รเ์ กยี รม์ อเตอร์เสียหายเนื่องจากความ เสยี ดทานและการสึกหรอ ทางเลือกที่เหมาะสมของคู่แรงเสียดทานทดี่ ีสามารถลดแรงเสียดทานคุณยังสามารถใช้ การหลอ่ ลืน่ ท่เี หมาะสม แตย่ ังสามารถลดปัญหาการสญู เสยี แรงเสียดทานเกยี ร์ การหลอ่ ล่ืนใช้วัสดบุ ดเพ่อื แยก พ้นื ผิวที่เคลื่อนทีเ่ ม่ือเทียบกบั วสั ดอุ ืน่ วัสดนุ มี้ คี วามตา้ นทานแรงเสียดทานตา่ และการสึกหรอต่า ตราบเท่าที่ บทบาทของน้ามันหล่อลืน่ เกียร์ไดรฟ์คือการลดแรงเสยี ดทานและลดการสกึ หรอเพ่อื ยดื อายกุ ารใช้งานของชน้ิ ส่วน เครือ่ งจักรกลให้มากทสี่ ดุ เทา่ ทีเ่ ปน็ ไปได้

- 34 - ภาคผนวก 04 การประกอบกา้ นไฟ

- 35 - ส่วนประกอบในการประกอบกา้ นไฟ 1.กา้ นประกอบแป้นนอก 2.ก้านประกอบแปน้ ใน 3.ดอกต่อปลาย

- 36 - 4. แปน้ ใน 5.แปน้ นอก หลักการประกอบกา้ นไฟ 1. ควรประกอบก้านของชุดแป้นนอกกอ่ นและใสต่ รงข้ามสลับกนั ไปเพ่อื หมนุ ใส่กา้ นต่อไปได้ง่ายไม่หนัก จนเกนิ ไป 2. การประกอบกา้ นของชุดแปน้ ในจะมนี ็อตสลกั และนอ็ ตขนั ล็อกแน่น ไห้ใสน่ อ็ ตลักก่อนแล้วจึงขนั นอ็ ตลอ็ ก แนน่ ตามทีหลงั เพื่อไห้ประกอบได้ง่ายขึ้น 3. หลังจากประกอบก้านเสร็จไห้เสยี ปลัก๊ ของแต่ละกา้ นเพื่อความสะดวกรวดเร็ว 4. การประกอบดอกตอ่ ปลายต้องใสต่ รงข้ามเรยี งกันไป และต้องขนั น็อตไห้แนน่ พอประมาณ

- 37 - ภาคผนวก 05 การตอ่ สายเขา้ วงจร

- 38 - มาตรฐานการติดต้ังไฟฟ้าชัว่ คราว ขอ้ กาหนดในบทนี้เก่ียวกบั การออกแบบและเดนิ สายระบบไฟฟา้ ช่ัวคราวเวลาในการกาหนดระบบไฟฟา้ ชว่ั คราว 14. 1 ขอบเขต ขอ้ กาหนดนี้ใหใ้ ชก้ ับวธิ ีการเดินสายชัว่ คราวสาหรบั ไฟฟา้ กาลงั และแสงสวา่ ง 14. 2 ข้อกาหนดการเดินสายช่ัวคราว การเดินสายชัว่ คราวให้ปฏิบัติตามข้อกาหนดในบทนี้กรณีทไี่ ม่ไดร้ ะบุไวใ้ น บทนใ้ี หป้ ฏบิ ัติตามข้อกาหนดของการเดนิ สาย 14. 3 เงื่อนเวลาการกาหนดระบบไฟฟา้ ช่ัวคราว 14, 31 ระหวา่ งก่อสรา้ ง การติดตั้งไฟฟา้ กาลงั และแสงสว่างช่วั คราวอนุญาตให้กระทาได้ใน ระหวา่ งก่อสร้างการปรับปรุงรูปแบบการบารุงรักษาการซ่อมแขมหรือการรื้อถอนอาคารงานโครงสร้าง บริภัณฑ์หรืออน่ื ๆท่ีคลา้ ยกนั 14. 32 90วนั การติดตั้งไฟฟา้ กาลังและแสงสวา่ งชวั่ คราวอนญุ าตให้กระทาได้ไมเ่ กนิ 90 วัน สาหรบั งานวันข้ึนปใี หม่งานประดบั แสงสวา่ งสถานทีพ่ ักผ่อนหย่อนใจและงานอน่ื ท่ีมวี ัตถุประสงคค์ ล้ายกนั 14. 3. 3 งานฉุกเฉนิ และการทดสอบ การตดิ ต้งั ไฟฟา้ กาลังและแสงสว่างชั่วคราวอนญุ าตให้ กระทาได้ในระหว่างที่มงี านฉุกเฉินการทดสอบการทดลองและงานท่ีกาลงั พัฒนา 14. 3. 4 การร้ือถอน การเดินสายช่ัวคราวต้องทาการรื้อถอนทันทีหลงั จากงานก่อสร้างอาคาร แลว้ เสรจ็ หรอื การเดนิ สายนัน้ ได้ใช้งานตามวัตถุประสงค์แล้วเสร็จ 14. 4 ทว่ั ไป 14. 4. 1 ระบบประธาน ระบบประธานติดตงั้ ตามข้อ 3. 4 และ 3. 5 14. 4. 2 สายป้อน สายป้อนต้องมีการปอ้ งกันตามข้อ 3. 3 สายตัวนาต้องเปน็ สายทองแดง สาหรบั การตดิ ต้ังภายในอาคารไม่อาจเกิดความเสยี หายทางกายภาพและแรงดนั ไฟฟา้ เทยี บกับดินไม่เกิน 240 โวลตอ์ นุญาตใหต้ ิดตง้ั สายเปิดบนฉนวนลูกรอกทร่ี ะดบั ใตท้ ้ังคนหรือคา้ แพงท่ีระคันไม่ต่ากวา่ เมตรและ มีระยะจนไดทางกนั ไมเ่ กิน 5 เมตรได้ 14. 1 1 วงจรย่อย วงจรยอ่ ยทุกวงจรต้องเริ่มตน้ จากวงจรต้องเรม่ิ ตน้ จากเต้ารบั ตน้ กาลังหรือ แผงย่อยทร่ี ับรองแลว้ เทา่ นั้นสายตวั นาตอ้ งเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนชนิดหลายแกนสายสว่ นทั้งหมดต้อง มีการป้องกันกระแสเปน็ ตามข้อ 3. 1 ในทซ่ี ง่ึ ไม่อาจเกดิ ความเสียหายทางกายภาพและแรงดนั ไฟฟ้าเทยี บ กบั ดนิ ไมเ่ กิน 240 โวลตว์ งจรยอ่ ยอนญุ าตให้ติดตั้งแบบเดินลอยหรือติดผนงั ซ่ึงมีระยะจับห่างกนั ไม่เกิน 6 เมตรได้และหา้ มวางบนพน้ื หรือดิน

- 39 - 14, 4 4 เตา้ รบั เตา้ รบั ตอ้ งเปน็ แบบตอ่ ลงดนิ ถา้ ซองเดนิ สายโลหะหรอื สายเคเบลิ ท่ีมโี ลหะหุน้ ไม่ มีการต่อลงดินอย่างตอ่ เนอ่ื งวงจรข่อยท้ังหมดต้องมีสายดินแยกตา่ งหากและเต้ารบั ทุกๆคตอ้ งมีการต่อทาง ไฟฟ้ากับสายดินเตา้ รับในสถานท่กี อ่ สร้างต้องไม่ติดต้ังในวงจรย่อยแสงสว่างชวั่ คราว 1 การปลดวงจรวงจร ย่อยต้องจัดใหม้ ีเครื่องปลดวงจรหรอื ตวั ตอ่ เต้ารับ เพอ่ื ปลดสายเส้นไฟทุกเสน้ ได้พรอ้ มกนั ติดต้ังไว้ท่จี ุดต่อ ไฟฟา้ กาลงั หรือแผงย่อยทจี่ ดุ เริ่มต้นของวงจรย่อย 14. 4. 6 การปอ้ งกันหลอดไฟ หลอดไฟสาหรบั แสงสว่างโดยทัว่ ไปต้องมีการป้องกันจากการ สมั ผัสหรอื แตกจากการทางานปกติโดยใช้ดวงโคมหรือตัวจับยึดควงโคมแบบมีทกี่ ันโคมไฟฟ้าโลหะทส่ี ัมผัส ถึงได้ใหม้ ีการต่อลงดนิ 14, 4. 7 การต่อสายไฟฟา้ ช่ัวคราว ใหใ้ ชต้ ่อได้ท้ังสายป้อนและวงจรย่อยอนญุ าตใหต้ ่อสายโดย ไม่ต้องใช้กล่องต่อสายจุดตอ่ สายต้องมีการหุ้มฉนวนด้วยเทปหรอื อปุ กรณ์ท่ีทนแรงดนั ได้เทยี บเท่าฉนวน สายไฟฟ้าและตอ้ งไมเ่ ปน็ จุดรบั แรงดงึ ของสายจุดต่อสายชนิดหุม้ ฉนวนดว้ นเทปใหเ้ ป็นไปตามข้อกาหนด ตอ่ ไปน้ี 14. 4. 7. 1 ห้ามใชใ้ นท่ีเปียกชน้ื 14, 4. 7. 2 จุดต่อสายให้อยูใ่ นบรเิ วณท่สี ามารถตรวจสอบได้งา่ ย 14. 4. 7. 3 สูงจากพน้ื ไม่น้อยกวา่ 1. 80 เมตร 14. 4. 8 การป้องกนั สายเสียหาย สายอ่อนและสายเคเบิลตอ้ งป้องกนั การเสยี หายโดย หลีกเลีย่ งการเดนิ สายผา่ นสว่ นแหลมคมหรือการถกู เสียดสีหรอื รับแรงกดต่างๆหรือผา่ นประตหู รอื หนา้ ต่างหากมีความจาเป็นต้องมีการปอ้ งกนั การเสียหายทางกายภาพทเ่ี หมาะสม 14.4.9การต่อสายทีอ่ ุปกรณ์ สายเคเบลิ ทเ่ี ขา้ เคร่ืองหอมจะต้องมีการฉดี สานให้แนน่ กับเคร่ือง หอ่ หุม้ ดว้ ยเครื่องประกอบซึง่ กรแนบใหใ้ ช้ในงานน้ีโดยเฉพาะ 14. 5 การต่อลงดิน การตอ่ ลงดนิ การต่อลงดินทั้งหมดใหเ้ ป็นไปตามบทที่ 1 14. 6 การปอ้ งกันกระแสร่วั ลงดนิ สาหรับบุคคล การป้องกันกระแสร่วั ลงดนิ สาหรบั บุคคลการปอ้ งกัน กระแสรวงดนิ สาหรบั บุคคลต้องเป็นไปตามขอ้ 14 2. หรือ 14. 6.2 ดงั น้ี 1.4 6. 1 สาหรบั วงจรทีม่ รี ะดับแรงดันเกิน 50 โวลตต์ อ้ งมเี ครอ่ื งตัดไฟฟา้ รว่ั ลงดินสาหรบั บคุ คล ตามข้อกาหนดในบทท่ี 2 ดงั นี้ 14. 6. 1. 2 เตา้ รบั ไฟฟ้าที่ใช้กบั เครื่องมือหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่หยิบยกได้ 14, 6. 2 วงจรไฟฟ้าดงั ต่อไปนี้ 14. 6. 1. 2.1 วงจรแสงสวา่ งที่แสดงขอบเขตของสถานท่ีก่อสรา้ ง

- 40 - 14. 6. 1. 2. 2 วงจรแสงสวา่ งและเต้ารับสาหรับงานวนั ข้ึนปีใหม่งานประดบั แสงสวา่ งสถานทพ่ี ักผอ่ นหย่อนใจหรือสถานท่ีคลา้ ยคลงึ กันทีเ่ ขา้ ถึงโดยบุคคลทัว่ ไป 14. 6. 1. 2. 3 วงจรไฟปา้ ยโฆษณาเคลื่อนทีช่ ว่ั คราว 14, 6. 2 จดั ทาขอ้ บังคบั ทช่ี ดั เจนโดยตอ้ งกาหนดให้มีการบังคบั ให้ตดิ ต้ังระบบสายดนิ ของบรภิ ณั ฑ์ไฟฟา้ ในสถานที่ติดตั้งไฟชัว่ คราวและแต่งตง้ั ให้มผี ู้ตรวจสอบดูแลอย่างน้อย 1 คน คอยตรวจสอบดูแลให้มั่นใจวา่ สายไฟฟา้ ทุกๆเส้นของบรภิ ณั ฑ์ไฟฟา้ สายต่อพว่ งและเต้ารบั ที่ไม่ได้ เปน็ ส่วนหนง่ึ ของระบบไฟฟ้าถาวรรวมถงึ บริภณั ฑ์ไฟฟา้ ที่ต่อใช้จากสายและเต้ารบั ดังกล่าวมกี าร ตดิ ต้งั ระบบสายดินพร้อมการดแู ลบารงุ รักษาใหอ้ ยู่ในสภาพดีสมบรู ณ์ตลอดเวลาและเปน็ ไปตาม ข้อกาหนดการทข่ี ลงดนิ ตามบทที่ 4 14.6.2.1 ตอ้ งทดสอบสายและเต้ารับดงั กล่าวตอ้ งทดสอบตามรายการต่อไปน้ี 14.6. 2. 1. 1 ความต่อเน่ืองทางไฟฟ้าของตวั นาสาหรบั ต่อลงดินหรือ สายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟา้ ทุกเสน้ 14. 6. 2. 1. 2 ความถกู ต้องของการเชื่อมตอ่ ของตวั นาสาหรับต่อลง ดนิ ระหว่างเตา้ รบั และเต้าเสียบพร้อมทงั้ ความถูกต้องของการต่อตัวนาสาหรับ ต่อลงดนิ เขา้ กบั ขัว้ สายของเต้ารับและเด้าเสียบ 14. 6. 2. 1. 3 กาหนดให้ต้องทดสอบ 14. 6. 2. 1. 3. 1 กอ่ นการใช้งานครงั้ แรก 14. 6. 2. 1. 3. 2 เมือ่ ปรากฏการชารุดเสยี หาย 14. 6. 2. 1. 3. 3 ก่อนการนาไปใชภ้ ายหลงั จากการซ่อมบารุง 14. 6. 2. 1. 3. 4 เปน็ ระยะไม่เกนิ 3 เดอื นต่อครัง้ 14. 6. 2. 2 ตอ้ งบนั ทึกการทดสอบตามข้อ 14. 6. 2. 1 พร้อมท่ีจะให้ ตรวจสอบไดต้ ลอดเวลา 14. 7 การก้ัน สาหรับการเดินสายชวั่ คราวแรงดันระบเุ กิน 1, 000 โวลต์จะต้องมีการปอ้ งกันดว้ ยรวั้ ท่ีกั้นที่ เหมาะสมหรือวิธอี ืน่ ทม่ี ีประสิทธผิ ลเพอื่ ไม่ใหบ้ ุคคลอืน่ เขา้ ถึงได้

- 41 - ภาคผนวก 06 การเซ็ตมอเตอรแ์ ละตรวจเช็คระบบ

- 42 - คุณสมบัติและวธิ ีการใชง้ านมอเตอร์ คณุ สมบัต:ิ 400W AC 220V Motor Speed Controller Pinpoint Regulator Controller ไปข้างหนา้ และข้างหลัง ตวั ควบคุมความเรว็ รอบมอเตอรน์ เี้ หมาะสาหรับ มอเตอร์ AC220V 50 / 60HZ ชว่ งการควบคุมความเร็ว 90-1400r / นาที 50HZ, 90HP / 60HZ เหมาะสาหรับบรรจภุ ัณฑ์การพมิ พอ์ าหารอเิ ล็กทรอนิกส์อปุ กรณเ์ คร่ืองมือทางการแพทย์สายการผลติ เสอื้ ผ้า อตุ สาหกรรมสาหรบั อปุ กรณค์ วบคมุ ความเร็วรอบ คอนโทรลเลอร์ใช้วงจรอเิ ล็กทรอนิกสค์ ุณภาพสูงและส่วนประกอบภายในเพ่ือความทนทาน มีขนาดเล็กความแมน่ ยาสูงชว่ งควบคมุ ความเรว็ กวา้ งและอายุการใชง้ านยาวนาน ตวั ควบคุมความเร็วมี 6 สายสายสดี าเป็นสายหลกั ของมอเตอร์สีแดงและสีขาวเป็นสายเสริมความจแุ ละสายสีน้า เงินสองเสน้ เป็นเส้นตอบรบั ด้วยความเร็ว สายสีเขยี วเปน็ สายดิน ใช้กันอย่างแพรห่ ลายในด้านบรรจุภณั ฑ์การพิมพ์อาหารอิเล็กทรอนิกสอ์ ุปกรณเ์ ครื่องมอื ทางการแพทย์ สายการผลิตเสื้อผ้าอตุ สาหกรรมเปน็ อุปกรณข์ บั เคลอื่ นความเร็ว วธิ กี ารใช:้ 1. ปดิ แหลง่ จ่ายไฟเชื่อมต่อกับแผนภาพการเดนิ สายไฟและตรวจสอบว่าการเชอ่ื มต่อถกู ต้องและไม่ปรบั เปลยี่ นโดย พลการ 2. ตัง้ ตัวควบคมุ ให้ดแี ละต้งั ความเรว็ ไว้ที่ \"0\" ตา่ ทส่ี ุดเพ่ือหลีกเล่ียงความเสียหายที่เกดิ ขึ้นในปจั จบุ ันและกระแสสงู ทนั ทเี ม่ือเริม่ ตน้ ระบบจ่ายไฟ 3.จากน้นั ให้เปิดแหล่งจ่ายไฟปรับลูกบดิ ปรบั ความเร็วไปยังตาแหน่งทต่ี ้องการและปิดเคร่ืองเมื่อไม่จาเป็น 4.ปรับโพเทนชิออมเิ ตอร์ปรับแตง่ (การตัง้ คา่ ความเร็วในการปรับตงั้ ) ท่ีดา้ นขา้ งของเคร่ืองถ้าการเชื่อมต่อระหว่าง connecterและมอเตอร์ไมต่ รงกับความต้องการของระยะทางหรอื ความเรว็ ในการหมนุ 5. เมอ่ื ต้องการเปลี่ยนทิศทางของการทางานของมอเตอร์จะมีการเปลยี่ นจัมเปอรเ์ พยี งอย่างเดยี วของ CCW และ CW บนที่นง่ั ดา้ นหลังของคอนโทรลเลอร์ เลอื ก COM และ CW สน้ั ๆ จากนนั้ มอเตอรห์ มนุ ตามเขม็ นาฬกิ า เลือก COM และ CCW ส้นั ๆ จากนั้นมอเตอรจ์ ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา 6. สวิตชก์ ารทางานจะควบคุมเฉพาะมอเตอร์เพ่ือให้ทางานหรือหยุดทางาน และไมข่ ัดจงั หวะการจ่ายกระแสไฟ หากไม่ใช้งานเปน็ เวลานานโปรดปดิ แหล่งจา่ ยไฟ * เมอ่ื เปล่ียนทศิ ทางมอเตอร์จะตอ้ งหยดุ ทางานหลงั จากมอเตอรห์ ยดุ นิ่ง

- 43 - ประวตั ิผู้จดั ทา ชอ่ื ผู้จัดทา : นายสทุ ธศิ ักดิ์ สทุ ธปิ์ ระเสริฐ หลกั สตู ร : เทคโนโลยบี ณั ฑิต สาขาวิชา : สาขาวิชาเทคโนโลยไี ฟฟา้ ประวัตกิ ารทางาน ปี พ.ศ.2562 ตาแหน่ง หวั หนา้ ทีมการตดิ ตั้ง หนา้ ที่ 1. วางแผนตดิ ตั้งไฟหมุน 2. ติดต้ังไฟหมุน 3. ตรวจเช็คและซ่อมแซมไฟหมุน ชื่อสถานประกอบการ (ปัจจุบัน) : คลองโพธ์บิ รกิ าร&เซอร์วสิ สถานที่ตดิ ต่อ : 27 ม.1 ต.พุนพิน อ.พนุ พนิ จ.สรุ าษฎรธ์ านี 84000


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook