แผนผังแสดงขนั้ ตอน การบรกิ ารผู้มาติดต่อราชการ ผู้ใช้บริการ ติดต่องานธรุ การ เจา้ หน้าท่ธี ุรการสอบถามความประสงคข์ อง ผใู้ ชบ้ ริการ แลว้ ตดิ ต่อ ประสานงาน ผ้รู ับผดิ ชอบดาเนนิ การ 5 นาที เสร็จสิน้ การใหบ้ ริการ ผู้รบั ผิดชอบ : นางฐติ ิมา อุยนาคธรรม (เจา้ หนา้ ท่ีธุรการ)
แผนผงั แสดงขัน้ ตอน การขอย้ายเขา้ โรงเรียน ตรวจสอบความถกู ต้องครบถ้วนของคาขอ 1 และเอกสารประกอบคาขอ ชั่วโมง ตรวจสอบคุณสมบตั ิตาม 1 เอกสารของผู้เรียน วัน จดั ทาหนังสือและเสนอผู้อานวยการโรงเรยี น 1 พจิ ารณา ชั่วโมง ดาเนินการมอบตวั 1 วนั ผู้รบั ผิดชอบ : นางเบญจมาศ สุขเจรญิ
แผนผังแสดงขน้ั ตอน การขอย้ายออกจากโรงเรยี น ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคาขอ 1 และเอกสารประกอบคาขอ ช่วั โมง ตรวจสอบคณุ สมบัติของนกั เรียนและจดั ทาเอกสาร 2 หลกั ฐานประกอบการขอย้ายออก วัน 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 2. ใบรับรองเวลาเรียนและคะแนนเก็บ 3. สมุดรายงานประจาตัวนกั เรียน (ปพ.6) 4. สมดุ ระเบียนสะสม(ปพ.8) 5. แบบบนั ทึกสขุ ภาพ (ถ้าม)ี จัดทาหนังสอื เสนอ 1 ผอู้ านวยการโรงเรียน ช่วั โมง พจิ ารณาลงนามพจิ ารณา ผูร้ ับผดิ ชอบ : นางเบญจมาศ สุขเจรญิ
แผนผังแสดงขัน้ ตอน การรับนกั เรยี น รบั สมัครและตรวจสอบ 1 เอกสารการสมัคร วัน สอบเพือ่ เลอื กห้อง 1 ประกาศผล วัน รายงานตัวนกั เรียน 1 มอบตวั /ขึน้ ทะเบียนนักเรียน วนั 1 วัน 1 วัน ผู้รับผดิ ชอบ : นางสาวอมรรตั น์ ลออเอี่ยม
แผนผงั แสดงขั้นตอน การขอการเทียบโอนผลการเรยี น ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคาร้องและ 1 เอกสารประกอบคาร้อง ชัว่ โมง คณะกรรมการพิจารณาการ 5 ขอเทียบโอนผลการเรยี น วนั จัดทาหนงั สือแจงผลการขอ 1 เทียบโอนผลการเรียนและ ชวั่ โมง เสนอผอู้ านวยการโรงเรียนลงนามพจิ ารณา ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวอมรรัตน์ ลออเอยี่ ม
แผนผังแสดงขนั้ ตอน การขอใบแทนเอกสารทางการศึกษา ตรวจสอบความถกู ต้องครบถ้วนของคาร้องและ 1 เอกสารประกอบคาร้อง ชัว่ โมง สบื คน้ และตรวจสอบเอกสาร 2 ตามทรี่ ้องขอ วัน จัดทาใบแทนเอกสารทางการศกึ ษา/แจ้งผลการสบื ค้น 1 และ วัน เสนอผู้อานวยการโรงเรยี นลงนาม ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวอมรรัตน์ ลออเอย่ี ม
ภาระงานดา้ นการบรหิ ารงานวชิ าการ 1. การวางแผนงานดา้ นวิชาการ มขี อบขา่ ยงาน ดงั น้ี (1) วางแผนงานด้านวิชาการ โดยการรวบรวมขอ้ มลู และกากบั ดูแล นเิ ทศ และติดตาม เกี่ยวกับงานวิชาการ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การวัดผล ประเมินผล และการเทียบโอนผลการเรียน การประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา การพัฒนา และใช้สื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา การพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ การวิจัยเพ่ือพัฒนาคุณภาพ การศึกษา และส่งเสริมให้ชุมชนมีความเขม้ แข็งทางวิชาการ (2) ผ้บู ริหารสถานศกึ ษาอนมุ ตั ิโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา 2. การจดั การเรียนการสอนในสถานศกึ ษา และพฒั นากระบวนการเรียนรู้ มีขอบข่ายงาน ดงั นี้ (1) จัดทาแผนการเรียนรู้ทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ (2) จดั การเรยี นการสอนทกุ กลุ่มสาระการเรยี นร้ทู กุ ชว่ งช้ัน ตามแนวปฏริ ปู การเรยี นรู้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคญั พฒั นาคณุ ธรรมนาความรู้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง (3) การใช้สอ่ื การเรยี นการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้ (4) จัดกิจกรรมพฒั นาห้องสมดุ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารต่าง ๆ ใหเ้ อ้อื ต่อการเรียนรู้ (5) ส่งเสรมิ การวจิ ัยและพัฒนาการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ (6) สง่ เสริมการพฒั นาความเป็นเลศิ ของนักเรยี นและช่วยเหลอื นกั เรียนพกิ ารดอ้ ยโอกาส และมคี วามสามารถพเิ ศษ (7) จดั หาเน้ือหาสาระ และกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ และความถนดั ของ ผเู้ รยี นโดยคานึงถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล (8) ฝกึ ทักษะ กระบวนการคดิ การจดั การเผชญิ สถานการณ์ และการประยกุ ต์ความรู้ มาใช้เพ่ือปอ้ งกันและแก้ปัญหา (9) จัดกิจกรรมให้ผ้เู รียนไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝกึ ปฏบิ ัตใิ หท้ าได้ คิดเป็น ทาเป็น รักการอา่ นและเกดิ ความใฝ่รู้อยา่ งตอ่ เนื่อง (10) จัดการเรียนการสอน โดยผสมผสานสาระความรู้ตา่ งๆ อย่างได้สดั ส่วน และ สมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคณุ ธรรม คา่ นิยมทีด่ ีงามและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคไ์ วท้ กุ วิชา (11) ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหผ้ สู้ อนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม ส่อื การเรยี น และอานวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้ รวมท้ังสามารถใชก้ ารวิจัยเป็นส่วน หนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ท้งั นผี้ สู้ อนและผู้เรยี น อาจเรยี นรู้ไปพรอ้ มกนั จากสอื่ การเรียนการสอนและแหลง่ วิทยาการประเภทต่างๆ (12) จดั การเรยี นร้ใู หเ้ กิดขน้ึ ไดท้ กุ เวลา ทุกสถานท่ี มกี ารประสานความร่วมมือกับ บิดา มารดา และบุคคลในชุมชนทกุ ฝ่าย เพือ่ ร่วมกันพฒั นาผู้เรียนตามศกั ยภาพ
(13) ศึกษาค้นควา้ พัฒนารปู แบบหรอื การออกแบบกระบวนการเรียนรทู้ ก่ี ้าวหนา้ เพือ่ เป็นผู้นาการจัดกระบวนการเรยี นรู้ เพอื่ เป็นต้นแบบให้กับสถานศึกษาอนื่ 3. การพัฒนาหลักสตู รของสถานศกึ ษา และหลกั สูตรท้องถนิ่ มีขอบข่ายงาน ดงั น้ี (1) จัดทาหลกั สูตรสถานศึกษาเปน็ ของตนเอง โดย 1.1 จัดใหม้ ีการวจิ ยั และพฒั นาหลกั สตู รขึน้ ใชเ้ องให้ทันกบั การเปล่ยี นแปลง ทางดา้ นเศรษฐกจิ และสังคมและเปน็ ต้นแบบใหก้ บั โรงเรยี น 1.2 จดั ทาหลกั สตู รทีม่ ุ่งเนน้ พัฒนานักเรยี นใหเ้ ปน็ มนุษยท์ ่ีสมบูรณท์ ง้ั ร่างกาย จติ ใจ สติปญั ญา มคี วามรูแ้ ละคุณธรรม สามารถอยู่รว่ มกับผ้อู ่นื ได้อยา่ งมีความสุข 1.3 จัดใหม้ ีวชิ าตา่ ง ๆ ครบถว้ นตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ 1.4 เพม่ิ เติมเน้ือหาสาระของรายวชิ าให้สงู และลึกซึ้งมากขึน้ สาหรับกล่มุ เป้าหมายเฉพาะ ไดแ้ ก่ การศกึ ษาด้านศาสนา ดนตรี นาฎศิลป์ กฬี า อาชีวศกึ ษา การศึกษาทส่ี ง่ เสรมิ ความ เปน็ เลิศ ผู้บกพรอ่ ง พกิ ารและการศึกษาทางเลือก 1.5 เพม่ิ เตมิ เนอ้ื หาสาระของรายวิชาที่สอดคลอ้ งกับ สภาพปญั หา ความตอ้ งการ ของผ้เู รยี น ผปู้ กครอง ชมุ ชน สังคมและโลก (2) วิเคราะห์กรอบสาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ทส่ี านักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาจัดทาไว้ (3) วิเคราะห์หลักสตู รสถานศึกษา เพ่ือกาหนดจดุ เน้น หรอื ประเด็นทส่ี ถานศึกษา ให้ความสาคญั (4) ศกึ ษา และวิเคราะหข์ อ้ มูลสารสนเทศของสถานศึกษา และชมุ ชนเพ่ือนามาเปน็ ขอ้ มลู จดั ทาสาระการเรยี นรู้ท้องถ่ินของสถานศกึ ษาให้สมบรู ณย์ ง่ิ ข้ึน (5) จดั ทาสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ ของสถานศึกษาเพือ่ นาไปจัดทารายวชิ าพื้นฐานหรอื รายวิชาเพม่ิ เตมิ จดั ทาคาอธบิ ายรายวิชา หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ เพือ่ จัดประสบการณ์และจัด กจิ กรรมการเรียนการสอนให้แก่ผูเ้ รียนประเมินผลและปรับปรุงผบู้ รหิ ารสถานศึกษาอนุมตั ิ (6) สถานศกึ ษาสามารถจัดทาหลักสตู ร การจดั กระบวนการเรยี นรู้ การสอนอืน่ ๆให้ เหมาะสมกับความสามารถของนกั เรยี นตามกลุ่มเป้าหมายพิเศษ (7) คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานใหค้ วามเห็นชอบหลกั สูตรสถานศึกษา (8) นเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผลและปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษาและรายงานผลให้ สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาทราบ 4. การวดั ผล ประเมินผลและการดาเนินการเทยี บโอนผลการเรยี น มขี อบขา่ ยงาน ดงั นี้ (1) กาหนดระเบยี บการวัดผลประเมินผลของสถานศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษาโดย
สอดคลอ้ งกับนโยบายระดบั ประเทศ (2) จดั ทาเอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการวัดผล และการประเมินผล ของสถานศึกษา (3) วัดผล ประเมินผล เทยี บโอนประสบการณ์ผลการเรยี นและอนุมตั ิผลการเรียน (4) จัดให้มกี ารประเมนิ ผลการเรยี นทุกช่วงชนั้ และจัดใหม้ ีการซอ่ มเสริม กรณีทมี่ ี ผู้เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน (5) จัดให้มีการพฒั นาเคร่ืองมือในการวดั ผลประเมินผล (6) จดั ระบบสารสนเทศด้านการวดั ผลประเมินผล และการเทียบโอนผลการเรียน เพอ่ื ใชใ้ นการอ้างองิ ตรวจสอบและใชป้ ระโยชนใ์ นการพฒั นาการเรยี นการสอน (7) ผบู้ ริหารสถานศึกษาอนุมตั ิผลการประเมินการเรียนด้านต่างๆ รายปี /รายภาค และ ตดั สินผลการเรียน การผ่านช่วงชนั้ และจบการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน (8) การเทยี บโอนผลการเรียน เป็นอานาจของสถานศกึ ษาทจ่ี ะแต่งตั้งคณะกรรมการ ดาเนินการเพ่ือกาหนดหลักเกณฑ์วิธี ได้แก่ คณะกรรมการเทียบระดับการศึกษาท้ังในระบบนอกระบบและ ตามอัธยาศัย คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน และเสนอคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และวิชาการ พร้อมทั้งใหผ้ ูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาอนุมัติการเทียบโอน 5. การวิจยั เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในสถานศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) กาหนดนโยบาย และแนวทางการใช้การวจิ ัยเปน็ สว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรียนรู้ และกระบวนการทางานของนกั เรียน ครูและผูท้ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั การศึกษา (2) พัฒนาครูและนกั เรยี นให้มคี วามรู้เก่ียวกับการปฏิรูปการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการ วิจัยเป็นสาคัญในการเรียนรู้ที่ซับซ้อนขึ้น ทาให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิด การจัดการ การหาเหตุผลในการตอบ คาถาม การผสมผสานความรู้แบบสหวิทยาการ และการเรยี นรใู้ นปัญหาที่ตนสนใจ (3) การพฒั นาคุณภาพการศึกษาดว้ ยกระบวนการวจิ ยั (4) รวบรวมและเผยแพร่ผลการวิจัยเพื่อการเรียนรู้และพฒั นาคุณภาพการศึกษา รวมท้ัง สนบั สนุนใหค้ รนู าผลการวจิ ยั มาใช้ เพ่ือพฒั นาการเรยี นรูแ้ ละพฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 6. การพฒั นาและสง่ เสรมิ ให้มแี หล่งเรยี นรู้ มีขอบข่ายงาน ดังน้ี (1) จดั ใหม้ ีแหล่งเรยี นรู้อย่างหลากหลายทง้ั ภายใน และภายนอกสถานศึกษาให้ เพยี งพอ เพอื่ สนับสนุนการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองกบั การจดั กระบวนการเรยี นรู้ (2) จัดระบบแหลง่ การเรียนรูภ้ ายในโรงเรียน ใหเ้ ออื้ ต่อการจดั การเรียนรขู้ องผู้เรยี น
เช่น พัฒนาห้องสมุดให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ จัดให้มีห้องสมุดหมวดวิชา ห้องสมุดเคล่ือนท่ี มุมหนังสือใน ห้องเรียน ห้องSound Lab ห้องคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ศูนย์วิชาการ ศูนย์วิทยบริการ Resource Center ศนู ยศ์ ลิ ปวัฒนธรรมลาวเวยี ง ศูนย์Eric หอ้ งสหกรณ์ ห้องคหกรรม เปน็ ตน้ (3) จัดระบบข้อมูลแหลง่ การเรียนรู้ในท้องถ่นิ ให้เอื้อต่อการจดั การเรยี นรขู้ องผเู้ รียน ของสถานศึกษาของตนเอง เช่น จัดเส้นทาง/แผนท่ีและระบบการเช่ือมโยงเครือข่ายห้องสมุดประชาชน หอ้ งสมดุ สถาบันการศกึ ษา พิพธิ ภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์วทิ ยาศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถนิ่ ฯลฯ (4) ส่งเสรมิ ให้ครแู ละผู้เรยี นได้ใชแ้ หล่งเรียนรู้ ท้งั ในและนอกสถานศกึ ษา เพือ่ พัฒนา การเรยี นรู้ และนิเทศ กากบั ตดิ ตามประเมนิ และปรับปรุงอยา่ งตอ่ เนื่อง (5) สง่ เสริมให้ครแู ละผู้เรยี นใช้แหล่งเรยี นรใู้ นตา่ งประเทศ 7. การนเิ ทศการศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดงั นี้ (1) สรา้ งความตระหนักใหแ้ ก่ครแู ละผูเ้ กีย่ วขอ้ ง ให้เข้าใจกระบวนการนเิ ทศภายในว่า เป็นกระบวนการร่วมกันทใ่ี ช้เหตผุ ลการนเิ ทศเป็นการพฒั นาวธิ กี ารปรับปรงุ ในการทางาน ของแต่ละบคุ คลให้ มีคุณภาพ การนิเทศเป็นส่วนหน่ึงของการบริหาร เพื่อให้ทุกคนเกดิ ความเชื่อมั่นว่า ได้ปฏิบัติถูกต้อง ก้าวหน้า และเกิดประโยชนส์ ูงสุดแก่ผู้เรยี นและตวั ครูเอง (2) จดั การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษาให้มีคุณภาพท่วั ถงึ และตอ่ เนอื่ งเป็นระบบ และ กระบวนการ (3) จัดระบบนเิ ทศภายในสถานศึกษา ให้เช่ือมโยงกับระบบการนิเทศการศกึ ษาของ สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา 8. การพฒั นาระบบประกนั คุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา มีขอบขา่ ยงาน ดงั นี้ (1) กาหนดมาตรฐานการศึกษาเพิ่มเติมของสถานศึกษาให้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศกึ ษาชาติ มาตรฐานการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน มาตรฐานสานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษา และความต้องการของชมุ ชน (2) จดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศ โดยจดั โครงสรา้ งการบริหารทเี่ อือ้ ต่อการพัฒนางาน และการสร้างระบบประกันคุณภาพภายใน จัดระบบสารสนเทศให้เป็นหมวดหมู่ ข้อมูลมีความสมบูรณ์และ เรียกใชง้ ่าย สะดวก รวดเร็ว ปรับปรุงให้เป็นปจั จุบนั อยเู่ สมอ (3) จัดทาแผนสถานศึกษาท่มี งุ่ เน้นคุณภาพการศึกษา (แผนกลยุทธ์/แผนยทุ ธศาสตร์) (4) ดาเนนิ การตามแผนพัฒนาสถานศึกษาในการดาเนินโครงการ / กจิ กรรม สถานศึกษาเอง สร้างระบบการทางานที่เข้มแข็ง เน้นการมีส่วนร่วมและวงจรการพัฒนาคุณภาพ เดมมิ่ง (Deming Cycle) หรือทร่ี จู้ ักกันว่า วงจร PDCA (5) ตรวจสอบ และทบทวนคณุ ภาพการศกึ ษา โดยดาเนนิ การอยา่ งจรงิ จงั ตอ่ เนอื่ ง ดว้ ยการสนบั สนนุ ใหค้ รู ผูป้ กครอง และชุมชนเขา้ มามีส่วนรว่ ม
(6) ประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศกึ ษา ตามมาตรฐานที่กาหนด เพอื่ รองรับ การประเมนิ คุณภาพภายนอก (7) จดั ทารายงานคณุ ภาพการศกึ ษาประจาปี (SAR) และสรุปรายงานประจาปี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน เสนอต่อหน่วยงานต้นสงั กดั และเผยแพร่ตอ่ สาธารณชน 9. การส่งเสรมิ ชุมชนให้มคี วามเข้มแข็งทางวิชาการ มขี อบข่ายงาน ดังน้ี (1) จดั กระบวนการเรียนรู้ร่วมกับบคุ คล ครอบครัว ชมุ ชน องคก์ รชุมชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบนั อื่น (2) สง่ เสรมิ ความเขม้ แข็งของชุมชน โดยการจดั กระบวนการเรียนรู้ภายนอกชมุ ชน (3) ส่งเสริมให้ชมุ ชนมีการจดั การศกึ ษาอบรม มกี ารแสวงหาความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร และร้จู ักเลือกสรรภูมปิ ัญญาและวทิ ยาการต่างๆ (4) พฒั นาชมุ ชนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการรวม หาวธิ ีการสนบั สนนุ ใหม้ กี ารแลกเปล่ยี นประสบการณ์ระหว่างชมุ ชน (5) ระดมทรพั ยากรเพอื่ การศกึ ษา ตลอดจนวทิ ยากรภายนอก และภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ เพ่อื เสริมสร้างพฒั นาการของนกั เรียนทุกดา้ น รวมทัง้ สืบสานจารีตประเพณี ศิลปวัฒนธรรมของทอ้ งถ่ิน (6) เสริมสร้างความสมั พนั ธร์ ะหว่างสถานศกึ ษากบั ชุมชน ตลอดจนประสานงานกบั องค์กรท้ังภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่งวิทยการของชุมชน และมีส่วนร่วมในการพัฒนา ชุมชนและท้องถ่นิ (7) ให้บริการดา้ นวชิ าการทส่ี ามารถเช่อื มโยง หรอื แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารกับแหลง่ วิทยาการในท่ีอ่ืนๆ (8) จัดกจิ กรรมร่วมกับชมุ ชน เพอ่ื สง่ เสริมวัฒนธรรม การสร้างความสมั พนั ธ์อันดกี บั ศษิ ยเ์ กา่ การประชมุ ผปู้ กครองนักเรยี น การปฏบิ ัตงิ านรว่ มกับชุมชน การร่วมกิจกรรมกบั สถาบัน การศึกษาอ่นื เป็นตน้ (9) ประชาสัมพันธส์ รา้ งความเข้าใจตอ่ บุคคล ครอบครัว ชมุ ชน องค์กรชุมชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เอกชน องคก์ รเอกชน องคก์ รวิชาชพี สถาบันศาสนา สถานประกอบการและ สถาบนั สงั คมอื่น ในเร่อื งเกี่ยวกบั สิทธิในการจัดการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน (10) จัดใหม้ กี ารสร้างความรู้ ความเขา้ ใจการเพ่มิ ความพรอ้ มใหก้ ับบุคคล ครอบครวั ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสงั คมอ่ืน ที่รว่ มจดั การศึกษา (11) รว่ มกับบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น
เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสังคมอน่ื ร่วมกันจัด การศกึ ษาและใชท้ รัพยากรร่วมกนั ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ แก่ผ้เู รยี น (12) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกันระหว่างสถานศกึ ษา กบั บคุ คล ครอบครัว ชมุ ชน องคก์ รชุมชน องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบนั สังคมอน่ื (13) ส่งเสรมิ สนบั สนุนใหบ้ คุ คล ครอบครวั ชมุ ชน องค์กรชมุ ชน องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถน่ิ เอกชน องค์กรเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสงั คมอื่น ได้รบั ความช่วยเหลือทางดา้ นวิชาการตามความเหมาะสมและจาเปน็ (14) ส่งเสรมิ พัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ ท้ังด้านคณุ ภาพ และปริมาณ เพ่ือการเรยี นรตู้ ลอด ชีวิตอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 10. การจดั ทาระเบียบและแนวปฏิบตั ิเก่ยี วกบั งานด้านวชิ าการของสถานศกึ ษา มีขอบขา่ ยงาน ดงั น้ี (1) ศึกษา และวเิ คราะหร์ ะเบยี บ และแนวปฏิบัติเกย่ี วกับ งานดา้ นวชิ าการของ สถานศึกษา เพื่อใหผ้ ู้ที่เก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ายรับร้แู ละถือปฏบิ ตั ิเป็นแนวเดยี วกนั (2) จดั ทารา่ งระเบียบ และแนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับงานดา้ นวิชาการของสถานศกึ ษา เพ่ือ ท่ีใหผ้ ทู้ ่ีเกยี่ วขอ้ งทุกฝา่ ยรบั รูแ้ ละถือปฏบิ ตั เิ ป็นแนวเดยี วกนั (3) ตรวจสอบร่างระเบียบ และแนวปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกบั งานด้านวชิ าการของสถานศกึ ษา และแก้ไขปรบั ปรุง (4) นาระเบยี บและแนวปฏบิ ัติเกย่ี วกับงานด้านวิชาการของสถานศกึ ษาไปสู่การปฏิบตั ิ (5) ตรวจสอบและประเมนิ ผลการใช้ระเบยี บและแนวปฏิบัตเิ กี่ยวกบั งานด้านวิชาการ ของสถานศกึ ษาและนาไปแกไ้ ขปรับปรุงให้เหมาะสมตอ่ ไป 11. การคดั เลือกหนงั สอื แบบเรยี นเพื่อใช้ในสถานศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) ศึกษา วิเคราะห์คัดเลอื กหนังสอื เรยี น กล่มุ สาระการเรยี นรู้ต่างๆ ท่ีมคี ณุ ภาพ สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รสถานศึกษา เพือ่ เปน็ หนงั สอื แบบเรยี น เพื่อใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน (2) จดั ทาหนงั สอื เรียน หนงั สอื เสริมประสบการณ์ หนังสืออา่ นประกอบ แบบฝึกหัด ใบงาน ใบความรู้ เพอื่ ใช้ประกอบการเรยี นการสอน (3) ตรวจพิจารณาคุณภาพหนังสอื เรียน หนงั สอื เสริมประสบการณ์ หนังสืออ่าน ประกอบ แบบฝกึ หดั ใบงาน ใบความรู้ เพ่ือใช้ประกอบการเรยี นการสอน 12. การจัดสามะโนผู้เรยี น มีขอบข่ายงาน ดงั นี้
(1) ประสานกับชุมชนและท้องถ่ินในการสารวจและจัดทาสามะโนผู้เรียนที่จะเข้ารับบรกิ าร ทางการศกึ ษาของสถานศึกษา (1) เสนอสามะโนผเู้ รียนให้เขตพน้ื ที่การศกึ ษารับทราบ (2) จดั ระบบขอ้ มูลสารสนเทศจากการสามะโนผู้เรยี น (3) เสนอข้อมลู สารสนเทศการสามะโนผเู้ รียนในเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา 13. การรบั นักเรียน มีขอบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) ร่วมกับสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษากาหนดเขตพ้ืนที่บริการการศึกษาของแต่ละ สถานศกึ ษาโดยประสานงานกับเขตพื้นที่การศึกษา (2) กาหนดแผนการรบั นักเรยี นของสถานศกึ ษา โดยประสานงานกบั เขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา (3) ดาเนนิ การรับนักเรียนตามแผนทก่ี าหนด โดยความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 14. การส่งเสริม สนบั สนนุ และประสานการจดั การศกึ ษาของบุคคล ชุมชน องคก์ ร หน่วยงาน และสถาบันสังคมอนื่ ท่จี ัดการศึกษา รวมทั้งการประสานการจดั การศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศยั มขี อบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) ให้คาปรึกษา แนะนา ส่งเสริม สนับสนุนและประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษา รว่ มกบั บคุ คล ชมุ ชน องคก์ ร หนว่ ยงาน และสถาบันอื่นทีจ่ ัดการศึกษา (2) สารวจความตอ้ งการ ในการเข้ารบั บรกิ ารการศกึ ษาในทุกรูปแบบ ท้งั ในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศัย (3) กาหนดแนวทางและความเชอ่ื มโยงในการจัดและพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา ทงั้ การศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย ตามความตอ้ งการของผเู้ รียนและ ทอ้ งถ่ินทสี่ อดคลอ้ งกับแนวทางของเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา (4) ดาเนินการจดั การศกึ ษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือท้ัง 3 รปู แบบตามความเหมาะสมและ ศกั ยภาพของสถานศึกษา รวมทง้ั เช่อื มโยงประสานความรว่ มมือและส่งเสรมิ สนับสนุนการจัดการศึกษาของบุคคล ชมุ ชน องคก์ ร หนว่ ยงานและสถาบนั ตา่ ง ๆ ที่จดั การศกึ ษา 15. จัดทาแผนปฏบิ ตั ิงาน ตน้ ทนุ ผลผลิตและแผนปฏิบัติการของสถานศึกษา มีขอบข่ายงาน ดังน้ี (1) จัดเก็บฐานข้อมูลของสถานศึกษา เพ่ือใช้ในการบริหารจัดการภายในสถานศึกษา สอดคล้องกับระบบฐานข้อมูล รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา
(2) จัดระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศเช่ือมโยงกับสถานศึกษาอ่ืน สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาและสว่ นกลาง (3) นาเสนอแผนปฏิบัติการของสถานศึกษาต่อเขตพ้ืนที่การศึกษา และเผยแพร่ข้อมูล สารสนเทศเพื่อการบริการ การบริการ และการประชาสมั พนั ธ์ 16. การพัฒนาระบบและเครือขา่ ยข้อมูลสารสนเทศ มีขอบข่ายงาน ดังนี้ (1) จัดระบบฐานขอ้ มลู ของสถานศกึ ษา เพอื่ ใชใ้ นการบริหารจดั การภายในสถานศกึ ษาให้ สอดคลอ้ งกบั ระบบฐานข้อมลู ของเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา (2) จัดระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศเช่ือมโยงกับสถานศึกษาอื่น เขตพ้ืนทีการศึกษา และสว่ นกลาง (3) นาเสนอ และเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการบริหาร การบริการ และการ ประชาสัมพันธ์ 17. การพัฒนาและใช้สื่อและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศกึ ษา มขี อบข่ายงาน ดังน้ี (1) จัดใหม้ กี ารรว่ มกันกาหนดนโยบาย วางแผนในเรอื่ งการจดั หา และพฒั นาสือ่ การเรยี นรู้ และเทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษาของสถานศกึ ษา (2) พัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาในเรื่องเกยี่ วกบั การพัฒนาส่อื การเรยี นรู้ และ เทคโนโลยเี พอื่ การศกึ ษา พรอ้ มทัง้ ใหม้ กี ารจัดตั้งเครือขา่ ยทางวิชาการ ชมรมทางวชิ าการ เพ่ือเปน็ แหล่ง เรียนรู้ของสถานศกึ ษา (3) พัฒนา และใช้สื่อเทคโนโลยีทางการศกึ ษา โดยมงุ่ เนน้ พฒั นาส่ือเทคโนโลยที าง การศึกษาท่ีให้ข้อเท็จจริง เพ่ือสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆเกิดข้ึน โดยเฉพาะหาแหล่งสื่อท่ีเสริมการจัด การศึกษาของสถานศกึ ษาใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ (4) พัฒนาหอ้ งสมุดของสถานศึกษาใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรู้ของสถานศกึ ษาและชมุ ชน (5) นิเทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านของบคุ ลากรในการจดั หา ผลติ ใช้ และพฒั นาส่อื และเทคโนโลยที างการศึกษา 18. งานวิจัยเพ่ือพัฒนานโยบายและแผน มีขอบข่ายงานดงั น้ี (1) ศึกษาวเิ คราะห์ วจิ ัยการจัดและการพฒั นาการศึกษาของสถานศกึ ษาตามกรอบทศิ ทาง ของเขตพ้ืนท่ี ตามความต้องการของสถานศกึ ษา (2) แจง้ ผลการศกึ ษาวิจยั ของสถานศึกษาให้เขตพนื้ ท่ีการศกึ ษารบั ทราบ (3) เผยแพรผ่ ลการศกึ ษาวิจัยของสถานศกึ ษาใหบ้ คุ ลากรในสถานศึกษาและสาธารณชน รบั ทราบ
19. การจดั ระบบการบริหารและพฒั นาองค์กร มขี อบขา่ ยงาน ดงั นี้ (1) ศึกษาวิเคราะหจ์ ดั ทาแผนกลยุทธพ์ ัฒนาสถานศกึ ษาและแผนปฏิบัตกิ ารพัฒนา สถานศึกษา (2) กาหนดตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็ ของการบริหารจดั การ (3) จัดระบบการบริหารและพฒั นาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรทที่ นั สมัยและมีประสิทธิภาพ (4) ประเมนิ ผลงานและรายงาน (5) ปรับปรงุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารงานสถานศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง 20. การรายงานผลการปฏิบัตงิ าน มีขอบข่ายงาน ดงั นี้ (1) จดั ระบบการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและการรายงานผลการพัฒนาการศกึ ษา ของสถานศกึ ษา (2) จัดทาเกณฑ์มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี และเกณฑก์ ารติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการ พัฒนาการศึกษาของสถานศกึ ษา (3) ดาเนนิ การติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการพฒั นาการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ตามระบบทีก่ าหนดไว้ (4) รายงานผลการพฒั นาการศึกษาของสถานศึกษา ให้สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งและสาธารณชนทราบ (5) ปรบั ปรงุ และพฒั นาระบบการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และการรายงานผล การพฒั นาการศึกษาของสถานศึกษา 21. การจัดระบบการควบคุมภายในหน่วยงาน มีขอบข่ายงาน ดังน้ี (1) วเิ คราะหก์ าหนดมาตรการในการปอ้ งกันความเส่ียงในการดาเนินงานของสถานศึกษา (2) วางแผนการจดั ระบบการควบคมุ ภายในสถานศกึ ษา (3) ดาเนินการควบคุมตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่ีสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินกาหนด (4) ตดิ ตามและประเมนิ ผลการควบคมุ ภายในและรายงานให้เขตพนื้ ที่การศึกษาทราบ
แผนผงั แสดงขน้ั ตอน การลาป่วย/ลากิจ ผู้ขอเขียนคาขอตามแบบฟอร์ม (ใบลา) 2 นาที ลากิจตอ้ งสง่ ใบลาลว่ งหนา้ 3 วนั ลาปว่ ย เม่ือมาปฏบิ ัตงิ านสง่ ใบลาทันที 2 นาที ส่งใบลาตอ่ หัวหนา้ งานฝา่ ยบุคคล เพื่อตรวจสอบการลา 5 นาที หวั หนา้ งานฝา่ ยบคุ คลเสนอใบลาเพอื่ ขออนมุ ตั ิ จากผู้บังคับบัญชา 1 วัน ผรู้ ับผดิ ชอบ : นางปยิ ะรตั น์ รตั นซ้อน (หวั หนา้ งานฝา่ ยบุคคล)
แนวทางการดาเนนิ งานดา้ นบริหารงานบุคคล ภาระงานดา้ นการบริหารงานบคุ คล 1. การวางแผนอัตรากาลัง มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ (1) รวบรวมและรายงานขอ้ มูลข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาต่อสานักงาน เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา - จานวนขา้ ราชการครู จาแนกตามสาขา - จานวนลูกจ้างประจาในสถานศึกษา - จานวนลูกจ้างช่ัวคราว - จานวนพนกั งานราชการ (2) วเิ คราะหค์ วามตอ้ งการอตั รากาลัง (3) จัดทาแผนอัตรากาลงั ของสถานศกึ ษา (4) เสนอแผนอัตรากาลังของสถานศกึ ษาโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา ข้ันพืน้ ฐานไปยังสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา 2. การจัดสรรอัตรากาลงั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา มีขอบข่ายงาน ดังนี้ (1) รวบรวมและรายงานขอ้ มูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อสานักงานเขต พน้ื ท่กี ารศึกษาเก่ียวกับจานวนขา้ ราชการครู จาแนกตามสาขา (2) เสนอความต้องการ จานวน และอตั ราตาแหนง่ ของขา้ ราชการครู และบุคลากร ทางการศกึ ษาในสถานศึกษาจาแนกตามสาขา ตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กาหนดต่อสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา 3. การเปลย่ี นตาแหนง่ ให้สูงขึ้น การย้ายขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) การเปลี่ยนตาแหน่งข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ขา้ ราชการครู และ บคุ ลากรทางการศึกษาเสนอความประสงค์ และเหตุผลความจาเป็นในการขอเปลี่ยนตาแหนง่ กรณีสมัครใจ กรณี เพื่อประโยชน์ของทางราชการและกรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่อผู้บริหารสถานศึกษาเพอื่ ส่งให้ สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาพจิ ารณาดาเนนิ การตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด (2) การยา้ ยขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาภายในเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา 2.1 การยา้ ยผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผ้บู รหิ ารสถานศึกษาในหนว่ ยงานการศกึ ษา ท่เี รียกช่อื อยา่ งอ่ืน - ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาเสนอความประสงค์ และเหตุผลความจาเป็นในการ ขอย้ายไปยังสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาตน้ สงั กดั
2.2 การย้ายขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 2.2.1 ผบู้ ริหารสถานศึกษาเสนอความประสงค์ และเหตผุ ลความจาเป็น ในการขอยา้ ยตอ่ สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาเพือ่ ดาเนินการต่อไป 2.2.2 รวบรวมรายช่ือและข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ ประสงค์จะขอยา้ ยและให้ความเห็นเสนอไปยงั สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา เพ่ือดาเนนิ การต่อไป 2.2.3 พิจารณาให้ความเห็นชอบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ท่ปี ระสงค์จะขอยา้ ยมาปฏิบัตงิ านในสถานศึกษา - ในกรณีท่ีเหน็ ชอบการรบั ย้าย หรือเห็นวา่ ไมส่ มควรรบั ย้ายขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ให้เสนอเรือ่ งไปยังเขตพืน้ ท่ีการศึกษา เพ่อื ขออนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา 2.2.4 สั่งย้าย และสัง่ บรรจุแต่งตัง้ ข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา แล้วแต่กรณตี ามอานาจหน้าท่ที ่กี ฎหมายกาหนด (3) การยา้ ยขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตา่ งเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา 3.1 การย้ายผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศกึ ษาในหนว่ ยงานการศกึ ษาที่ เรยี กชอ่ื อย่างอ่ืน - ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาในหนว่ ยงานการศึกษาท่เี รียก ชือ่ อย่างอนื่ เสนอความประสงค์ และเหตุผลความจาเปน็ ในการขอย้ายไปยังเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาต้นสงั กัดและ เขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาท่ปี ระสงคจ์ ะขอย้ายไปปฏบิ ตั ิงาน 3.2 การย้ายขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 3.2.1 รวบรวมรายชื่อ และข้อมูลข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ ประสงค์จะขอย้าย และให้ความเห็นเสนอไปยังเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และเขตพ้ืนท่ีการศึกษาท่ี ขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาประสงคจ์ ะขอย้ายไปปฏิบัตงิ าน 3.2.2 สถานศกึ ษาพิจารณา ใหค้ วามเห็นชอบข้าราชการครู และบคุ ลากร ทางการศกึ ษาทปี่ ระสงค์จะขอยา้ ยมาปฏิบัติงานในสถานศึกษา - ในกรณที ีเ่ ห็นชอบการรับย้าย หรอื เห็นวา่ ไมส่ มควรรบั ย้ายขา้ ราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เสนอเร่ืองไปยังสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพ่ือขออนุมัติ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา 3.2.3 ส่ังย้าย และส่ังบรรจุแต่งต้ังข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา แล้วแต่กรณตี ามอานาจหน้าที่ทก่ี ฎหมายกาหนด
4. การดาเนนิ การเกีย่ วกับการเลื่อนขนั้ เงนิ เดอื น มขี อบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) การเลือ่ นขน้ั เงินเดอื นปกติ 1.1 ประกาศเกณฑ์การประเมนิ และแนวปฏิบตั ิในการพิจารณาความดีความชอบ ใหแ้ กข่ า้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาในสถานศกึ ษาทราบโดยทวั่ ไป 1.2 แต่งตงั้ คณะกรรมการพิจารณาเล่ือนขั้นเงนิ เดอื นระดับสถานศกึ ษาตามหลักเกณฑ์ และวิธีการทก่ี ฎหมายกาหนดให้ฐานะผูบ้ งั คับบัญชา 1.3 รวบรวมขอ้ มลู พร้อมความเห็นของผู้มีอานาจในการประเมินและให้ความเหน็ ในการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เสนอคณะกรรมการตามข้อ 1.2 พิจารณา 1.4 แจง้ คาส่ังไมเ่ ลอ่ื นขั้นเงินเดือนให้แกข่ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ในฐานะผบู้ ังคบั บัญชาทราบพรอ้ มเหตุผลที่ไมเ่ ลือ่ นขน้ั เงินเดือน 1.5 สงั่ เลอื่ นขั้นเงนิ เดือนให้แกข่ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะ ผู้มีอานาจสั่งบรรจุและแตง่ ต้งั (2) การเล่อื นขัน้ เงินเดอื น กรณีพิเศษ กรณีถงึ แกค่ วามตายอันเนือ่ งมาจากการปฏิบตั ิ หนา้ ท่รี าชการ 2.1 เสนอเรื่อง พรอ้ มทง้ั ข้อเทจ็ จรงิ และความเหน็ ที่เป็นข้อยตุ ิ และรายละเอียด ตา่ งๆ ที่เกย่ี วข้องไปยงั เขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา 2.2 ดาเนินการดา้ นสวัสดิการให้แก่ครอบครวั ผถู้ ึงแก่กรรม อนั เนอื่ งมาจากการ ปฏบิ ตั ิหน้าทรี่ าชการตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการทก่ี ฎหมายกาหนดตามความเหมาะสม 5. การลาทุกประเภท มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ (1) อนญุ าตหรอื เสนอขออนญุ าตการลาตามนโยบาย หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการของสานกั งาน เขตพ้ืนที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและกระทรวงศึกษาธิการตามท่ีกฎหมาย กาหนด (2) เสนอเรื่องการอนญุ าตให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษาลา ตอ่ ให้สานักงาน เขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาพจิ ารณาตามอานาจหน้าทท่ี ก่ี ฎหมายกาหนดหรือเพื่อทราบแลว้ แต่กรณี 6. การประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน มีขอบขา่ ยงาน ดงั น้ี (1) กาหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน และดชั นีช้วี ัดผลการปฏบิ ตั ิงานของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษาของเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาและที่ ก.ค.ศ.กาหนด
(2) ดาเนนิ การประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษา ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการตามขอ้ (1) (3) นาผลการประเมินไปใช้ประโยชนใ์ นการบริหารงานบุคคลของสถานศกึ ษา (4) รายงานผลการประเมินการปฏิบตั งิ านในส่วนที่สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษารอ้ งขอ ไดร้ บั ทราบ 7. การดาเนนิ การทางวนิ ยั และการลงโทษ มขี อบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) การกระทาผดิ วินัยไม่รา้ ยแรง 1.1 กรณมี มี ลู ความผดิ วินัยไมร่ ้ายแรง ให้แตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนการกระทา ผดิ วนิ ยั ไม่รา้ ยแรงในฐานะผบู้ ังคบั บัญชา 1.2 พจิ ารณาลงโทษทางวนิ ัย หากปรากฏผลการสอบสวนวา่ ผู้ใต้บงั คบั บญั ชา กระทาผิดวินัยไมร่ า้ ยแรงตามอานาจทก่ี ฎหมายกาหนด 1.3 รายงานผลการพจิ ารณาลงโทษทางวินัยไปยงั อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ก.ค.ศ. พิจารณาตามลาดับแล้วแต่กรณี ภายในระยะเวลาท่ี กาหนด (2) การกระทาผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง 2.1 ดาเนนิ การสบื สวนข้อเทจ็ จรงิ เบ้อื งต้นในกรณที ีม่ ีมลู ทค่ี วรกล่าวหาว่ากระทา ผดิ วนิ ยั อย่างรา้ ยแรงไมช่ ัดเจน 2.2 กรณมี มี ูลการกระทาผดิ วนิ ยั อย่างร้ายแรงของครผู ชู้ ่วยและครทู ยี่ งั ไมม่ วี ทิ ยฐานะ ให้แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงในฐานะผู้มีอานาจส่ังบรรจุและแต่งตั้งหรือ รายงานต่อผมู้ ีอานาจแลว้ แตก่ รณี 2.3 ประสานกับหนว่ ยงานการศกึ ษาอน่ื และกรรมการสอบสวน กรณีมีการกระทา ผิดวนิ ยั ร่วมกนั 2.4 พิจารณาสถานโทษหรือส่งั ลงโทษตามอานาจหนา้ ที่ทีก่ ฎหมายกาหนดกรณีความ ผิดวนิ ยั ไม่ร้ายแรง 2.5 รายงานสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา หรอื เสนอสถานโทษไปยงั สานักงาน เขตพื้นที่การศึกษากรณีเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงของครูผู้ช่วย และครูท่ียังไม่มีวิทยฐานะ เพ่ือเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่กี ารศึกษาพจิ ารณา
8. การจัดระบบและการจัดทาทะเบียนประวัติ มขี อบขา่ ยงาน ดงั น้ี (1) จดั ทาขอ้ มลู ทะเบียนประวัติขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา และลกู จ้าง (2) ดาเนนิ การในสว่ นท่ีเก่ียวขอ้ งกับการเกษียณอายรุ าชการของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาและลกู จ้างในสถานศกึ ษา (3) รบั เรือ่ งการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด แล้วเสนอใหผ้ มู้ ีอานาจตามกฎหมายพจิ ารณา 9. การจดั ทาบญั ชรี ายชือ่ และให้ความเหน็ เกยี่ วกบั การเสนอขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ มีขอบข่ายงาน ดังนี้ (1) ดาเนนิ การในการขอเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณใ์ ห้แกข่ ้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาและลกู จ้างประจาในสถานศึกษาไปยงั เขตพ้นื ที่การศึกษา เพ่อื เสนอผมู้ ีอานาจตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร ทีก่ ฎหมายกาหนด (2) จัดทาทะเบียนผไู้ ด้รับเคร่อื งราชอิสริยาภรณข์ องข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษาและลูกจา้ งประจาในสังกดั 10. การส่งเสรมิ การประเมินวิทยฐานะขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ (1) สารวจ และรวบรวมข้อมูลการขอให้มี และเลือ่ นวทิ ยฐานะของข้าราชการครู และ บคุ ลากรทางการศกึ ษา (2) ประชุมข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา เพ่อื ช้แี จงทาความเข้าใจหลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารใหข้ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามวี ทิ ยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด (3) รวบรวมแบบเสนอขอรับการประเมินและรายงานผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี ของผู้เสนอขอให้มี และเลื่อนวิทยฐานะของขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาส่งไปยังสานักงานเขต พื้นท่กี ารศกึ ษาเพอื่ ดาเนนิ การต่อไป 11. การสง่ เสริมและยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติ มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ (1) ส่งเสริมการพฒั นาตนเองของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในการปฏิบัตงิ าน ให้มคี ณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพ เพ่อื นาไปสู่การพฒั นามาตรฐานวิชาชพี และคณุ ภาพการศึกษา (2) สร้างขวญั และกาลังใจแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา โดยการยกยอ่ ง เชดิ ชเู กียรติ ผมู้ ผี ลงานดีเดน่ และมีคุณงามความดตี ามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารทีก่ าหนด หรอื กรณอี ่นื ตามความ เหมาะสม
12. การส่งเสรมิ มาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวชิ าชีพ มีขอบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) ดาเนนิ การพฒั นาข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษาใหป้ ระพฤตปิ ฏิบัตติ าม ระเบยี บวนิ ัย มาตรฐาน และจรรยาบรรณของวชิ าชพี ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (2) ควบคุม ดแู ล และสง่ เสรมิ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ีการประพฤติ ปฏิบัตติ ามระเบียบวนิ ยั มาตรฐานและจรรยาบรรณของวชิ าชพี ครูและบุคลากรทางการศึกษา (3) ปอ้ งกนั ไมใ่ หผ้ ใู้ ต้บังคับบัญชากระทาผดิ วนิ ยั 13. การริเริม่ ส่งเสริมการขอรับใบอนญุ าตประกอบวชิ าชพี ครูและบุคลากรทางการศึกษา มขี อบขา่ ยงาน ดงั นี้ ดาเนนิ การขอรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี และการขอต่อใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาเพื่อเสนอไปยังสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ให้ ดาเนนิ การต่อไป 14. การพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) วิเคราะห์ความจาเปน็ และความตอ้ งการในการพฒั นาข้าราชการครู และบุคลากร ทางการศึกษาในสถานศกึ ษา (2) จดั ทาแผนพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา (3) ดาเนินการพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตามแผนทก่ี าหนด (4) สร้าง และพัฒนาความรว่ มมอื กับเครือขา่ ยสง่ เสรมิ ประสทิ ธภิ าพการศกึ ษาในการพฒั นา ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
แผนผังแสดงขั้นตอน การจดั ซือ้ จดั จา้ ง เจ้าหนา้ ทพี่ ัสดทุ ารายงานขอซือ้ /ขอจ้าง ยื่นต่อหัวหน้า เจา้ หนา้ ทีพ่ สั ดุ 1 วัน หวั หนา้ เจา้ หนา้ ทีพ่ ัสดทุ าการตดิ ตอ่ ตกลงราคากับผู้ขาย/ผู้รับจ้าง โดยมหี ลักฐาน คือ ใบเสนอราคาสิง่ ของ ราคาท่จี ้างแนบรายการขอซอ้ื /ขอจา้ ง 1 วัน หัวหน้าเจ้าหนา้ ที่พสั ดอุ อกใบสั่งซื้อ/สงั่ จ้าง 1 วนั แจ้งคณะกรรมการตรวจสอบสิง่ ของ/การจ้าง โดยใหก้ รรมการเซน็ ตรวจรบั พสั ด/ุ การจ้าง 5 วนั เจา้ หนา้ ที่พัสดุ ส่งหลักฐานรายงานการขอซื้อ/ขอจ้าง พรอ้ มทงั้ เอกสารอืน่ ๆ เพือ่ เบิกจ่ายเงิน ตอ่ หวั หนา้ งานงบประมาณ(เจา้ หน้าที่การเงนิ ) 1 วนั ผู้รบั ผดิ ชอบ : นางสาวกนั ต์สิรี มหี วงั (หัวหน้าเจ้าหนา้ ท่ีพัสด)ุ นางสาวลนิ ดา ธนูศรี (เจ้าหน้าที่พสั ด)ุ
แผนผังแสดงขัน้ ตอน การเบิกจ่ายวสั ดสุ านกั งาน ผู้ขอเบิกมารับแบบฟอรม์ ใบเบิกท่ีงานพสั ดุ 1 นาที ผู้ขอเบกิ เขียนรายการวสั ดทุ ต่ี อ้ งการเบกิ 5 นาที เจา้ หนา้ ทพ่ี สั ดตุ รวจเชค็ รายการวสั ดแุ ละ รายละเอียดในใบเบกิ 3 นาที เจ้าหนา้ ท่พี ัสดุเสนอผา่ นหัวหนา้ พัสดเุ ซ็นอนมุ ตั ิ เบกิ 5 นาที เจา้ หน้าทพี่ ัสดุจัดเตรยี มวสั ดเุ พ่อื จ่ายวสั ดใุ ห้กับผู้ขอเบิก 1 วนั เจา้ หน้าท่ีพัสดจุ า่ ยวสั ดใุ หก้ บั ผู้ขอเบกิ ผรู้ ับผิดชอบ : นางสาวกันต์สิรี มหี วงั (หัวหนา้ เจ้าหน้าท่พี ัสดุ) นางสาวลินดา ธนูศรี (เจา้ หนา้ ที่พสั ดุ)
ภาระงานด้านการบรหิ ารงานงบประมาณ 1. การจดั ทาแผนงบประมาณและคาขอตั้งงบประมาณเพ่อื เสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขน้ั พื้นฐาน มีขอบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา (SWOT Analysis) โดยต้องเชือ่ มโยงกับ แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา และกลยุทธ์ของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานและยทุ ธศาสตรข์ องกระทรวงศึกษาธกิ าร (2) จัดทาขอ้ มูลสารสนเทศทางการเงินของสถานศึกษาไดแ้ ก่ แผนชั้นเรียน ข้อมลู ครู นักเรียน และส่ิงอานวยความสะดวกของสถานศึกษา เพื่อใช้กาหนดเป้าหมาย ผลผลิต เป้าหมายกิจกรรม หลักและสนับสนุน (3) ทบทวนประสทิ ธภิ าพการใช้จ่าย ตามแผนปฏิบัตกิ ารในปีที่ผา่ นมา เพ่ือจดั ทา ประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยปขี อต้ังงบประมาณและลว่ งหนา้ 3 ปี ของงบบคุ ลากร งบดาเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบลงทนุ และงบรายจ่ายอ่ืน (4) ประมาณการค่าใชจ้ ่ายกจิ กรรมหลกั และกิจกรรมสนับสนนุ ของแต่ละผลผลิต (5) จัดทากรอบงบประมาณรายจา่ ยล่วงหน้าระยะปานกลาง ( MTEF) เป็นรายละเอียด ของแผนงบประมาณ (6) ขอความเหน็ ชอบแผนงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พื้นฐาน เพอ่ื ใช้ เป็นคาขอต้งั งบประมาณต่อสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน 2. การจดั ทาแผนปฏิบัตกิ ารใชจ้ ่ายเงนิ ตามท่ีไดร้ ับจดั สรรงบประมาณ จากสานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานโดยตรง มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) จัดทาแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปแี ละแผนการใช้จา่ ยงบประมาณ (2) ขอความเหน็ ชอบแผนปฏิบัตงิ านและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการ สถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน 3. การอนุมตั กิ ารใช้จ่ายงบประมาณทไ่ี ดร้ ับจัดสรร มขี อบข่ายงาน ดังน้ี ผอู้ านวยการสถานศึกษาอนุมัติการใชจ้ า่ ยงบประมาณตามงาน/โครงการทกี่ าหนดไว้ ในแผนปฏิบตั กิ ารประจาปแี ละแผนการใช้จา่ ยเงนิ 4. การขอโอนและการขอเปลยี่ นแปลงงบประมาณ มขี อบข่ายงาน ดงั น้ี
ตรวจสอบรายละเอียดรายการงบประมาณทีจ่ าเป็นตอ้ งขอโอนและเปล่ยี นแปลง เสนอขอ ความเหน็ ชอบคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 5. การรายงานผลการเบิกจา่ ยงบประมาณ มขี อบขา่ ยงาน ดังน้ี รายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจาปีไปยังสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พื้นฐานและหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องแล้วแตก่ รณี 6. การตรวจสอบ ตดิ ตามและรายงานการใช้งบประมาณ มีขอบข่ายงาน ดงั นี้ กรณีสถานศึกษาที่ยงั ไม่ไดร้ บั การอนมุ ตั ใิ ห้เปน็ ผ้เู บกิ เงินจากคลงั 1.1 จัดใหม้ กี ารตรวจสอบ และติดตามให้ กล่มุ ฝา่ ย งานในสถานศึกษารายงานผล การปฏิบัติงาน และผลการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจัดทารายงานผลการปฏิบัติงาน และผลการใช้จ่าย งบประมาณตามแบบท่ีสานักงบประมาณกาหนด แล้วจัดส่งไปยังสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาทุกไตรมาส ภายในระยะเวลาทีส่ านักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษากาหนด 1.2 จดั ทารายงานประจาปที ี่แสดงถงึ ความสาเรจ็ ในการปฏบิ ตั งิ าน ทกุ ส้นิ ปีงบประมาณ แลว้ จดั สง่ ใหส้ านกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา ภายในระยะเวลาทีส่ านักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษากาหนด 7. การตรวจสอบ ตดิ ตามและรายงานการใชผ้ ลผลิตจากงบประมาณ มีขอบข่ายงาน ดงั นี้ (1) ประเมนิ คุณภาพการปฏบิ ัติงานตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย (2) วางแผนประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลการดาเนนิ งานของสถานศึกษา (3) วิเคราะห์และประเมนิ ความมีประสิทธภิ าพประหยัด และคุ้มคา่ ในการใชท้ รัพยากร ของหนว่ ยงานในสถานศึกษา 8. การระดมทรพั ยากรและการลงทนุ เพอื่ การศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดงั นี้ (1) วางแผน รณรงค์ ส่งเสรมิ การระดมทุนการศึกษา (2) จัดทาขอ้ มลู สารสนเทศ และระบบการรับจา่ ยทุนการศึกษาให้ดาเนนิ งานไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล คุ้มค่า และมีความโปร่งใส (3) สรปุ รายงาน เผยแพร่ และเชิดชูเกยี รติผสู้ นับสนุนทนุ การศกึ ษา โดยความชอบ ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน 9. การบริหารจดั การทรัพยากรเพอ่ื การศกึ ษา มีขอบข่ายงาน ดังน้ี (1) จดั ทารายการทรพั ยากรเพอื่ เป็นสารสนเทศ ไดแ้ ก่ แหลง่ เรยี นรูภ้ ายในสถานศกึ ษา
แหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ินท้ังที่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ และภูมิปัญญาท้องถิ่นแหล่งเรียนรู้ท่ีเป็นสถาน ประกอบการ เพ่ือการรับรู้ของบุคลากรในสถานศึกษา นักเรียน และบุคคลท่ัวไปจะได้เกิดการใช้ทรัพยากร รว่ มกันในการจัดการศึกษา (2) วางระบบ หรือกาหนดแนวปฏบิ ัตกิ ารใช้ทรพั ยากรร่วมกนั กับ บุคคล หนว่ ยงาน รฐั บาลและเอกชน เพ่ือใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ (3) กระต้นุ ให้บุคคลในสถานศกึ ษาร่วมใชท้ รัพยากรภายใน และภายนอก รวมทงั้ ให้ บรกิ าร การใชท้ รัพยากรภายใน เพ่ือประโยชนต์ อ่ การเรียนรแู้ ละส่งเสรมิ การศึกษาในชมุ ชน (4) ประสานความรว่ มมือกับผู้รับผดิ ชอบแหล่งทรพั ยากรธรรมชาติ ทรัพยากรทมี่ นุษย์ สรา้ งทรพั ยากรบคุ คลทม่ี ีศักยภาพให้การสนบั สนนุ การจดั การศกึ ษา (5) ดาเนนิ การเชิดชูเกียรตบิ ุคคล และหน่วยงานท้งั ภาครัฐ และเอกชน ที่สนบั สนุน การใช้ทรัพยากรรว่ มกนั เพอ่ื การศึกษาของสถานศกึ ษา 10. การวางแผนพสั ดุ มขี อบขา่ ยงาน ดังน้ี กรณสี ถานศึกษาทยี่ งั ไม่ได้รับการอนุมตั ใิ หเ้ ป็นผ้เู บกิ เงินจากคลงั 1.1 การวางแผนพัสดลุ ่วงหนา้ 3 ปี ให้ดาเนนิ การตามกระบวนการของการวางแผนงบ ประมาณ 1.2 การจดั ทาแผนการจัดหาพัสดุ ใหฝ้ า่ ยท่ที าหน้าท่จี ัดซือ้ จัดจ้างเป็นผ้ดู าเนนิ การ โดยให้ ฝ่ายที่ต้องการใช้พัสดุ จัดทารายละเอียดพัสดุที่ต้องการ คือรายละเอียดเก่ียวกับปริมาณ ราคา คุณลักษณะ เฉพาะหรือแบบรูปรายการและระยะเวลาที่ต้องการใช้พัสดุ (ทั้งนี้รายละเอียดพัสดุท่ีต้องการน้ีต้องเป็นไปตาม แผนปฏิบัติการประจาปี (แผนปฏิบัติงาน) และตามที่ระบุไว้ใน เอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจาปี) สง่ ใหฝ้ า่ ยท่ที าหน้าที่จัดซือ้ จัดจ้างเพ่ือจัดทาแผนการจดั หาพัสดุ 1.3 ฝ่ายท่จี ัดทาแผนการจดั หาพสั ดุ ทาการรวบรวมขอ้ มลู รายละเอียดจากฝา่ ยทตี่ ้องการ ใช้พัสดุ โดยมีการสอบทานกับแผนปฏิบัติงาน และเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจาปีและความเหมาะสมของวิธีการจัดหาว่าควรเป็นการซ้ือการเช่าหรือการจัดทาเอง แล้วจึงนาข้อมูลที่ สอบทานแล้ว มาจัดทาแผนการจัดหาพัสดุในภาพรวมของสถานศึกษา แล้วส่งแผนที่จัดทาน้ีไปให้ สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาเพือ่ จดั ทาเป็นภาพรวมของสานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาตอ่ ไป 11. การกาหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครภุ ัณฑ์หรือสิ่งก่อสรา้ งที่ใชเ้ งิน งบประมาณ มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) กาหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ เพ่ือประกอบการขอตั้งงบประมาณ ส่ง ใหส้ านกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
(2) กรณที ่เี ป็นการจดั หาจากเงนิ นอกงบประมาณ ให้กาหนดแบบรูปรายการ หรือ คุณลักษณะเฉพาะได้ โดยให้พิจารณาจากแบบมาตรฐานก่อนหากไม่เหมาะสมก็ให้กาหนดตามความต้องการโดย ยดึ หลกั ความโปร่งใส เปน็ ธรรมและเปน็ ประโยชน์กับทางราชการ 12. การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพือ่ การจดั ทาและจดั หาพัสดุ มีขอบข่ายงาน ดังน้ี พฒั นาระบบข้อมูลสารสนเทศ เพ่ือการจดั หาพัสดุ เชน่ สมดุ โทรศพั ทห์ นา้ เหลือง การจัดทาบัญชีผู้ขายหรือผู้รับจ้าง เพื่อสาหรับการดาเนินการจัดซอื้ จัดจ้างและการประเมินผลผู้ขายและผู้ รับจา้ ง เป็นตน้ 13. การจดั หาพสั ดุ มีขอบข่ายงาน ดังน้ี (1) การจดั หาพัสดุถือปฏิบตั ติ ามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ และคาสั่งมอบอานาจของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน (2) การจัดทาพัสดุถอื ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาวา่ ดว้ ย การให้สถานศกึ ษารับ จัดทา รับบริการ รบั จ้าง ผลิตเพอ่ื จาหน่าย พ.ศ. 2533 14. การควบคุมดูแล บารงุ รกั ษาและจาหน่ายพัสดุ มีขอบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) จัดทาทะเบยี นคุมทรพั ย์สินและบญั ชวี สั ดุ ไม่วา่ จะไดม้ าด้วยการจัดหาหรือการรับบริจาค (2) ควบคุมพสั ดใุ หอ้ ยูใ่ นสภาพพรอ้ มการใชง้ าน (3) ตรวจสอบพัสดปุ ระจาปี และให้มีการจาหน่ายพัสดุท่ีชารดุ เสื่อมสภาพหรือไมใ่ ช้ ในราชการอีกต่อไป (4) พัสดทุ เ่ี ป็นทีด่ ิน หรือสิง่ ก่อสร้าง กรณีท่ีได้มาด้วยเงินงบประมาณ ใหด้ าเนินการ ขึ้นทะเบียนเป็นท่ีราชพัสดุ กรณีท่ีได้มาจากการรับบริจาคหรือจากเงินรายได้สถานศึกษาให้ข้ึนทะเบียนเปน็ กรรมสิทธิข์ องสถานศกึ ษา 15. การจดั หาผลประโยชน์จากทรัพย์สนิ มขี อบข่ายงาน ดังน้ี (1) จัดทาแนวปฏิบตั ิหรือระเบยี บของสถานศึกษาในการดาเนนิ การหารายได้ โดยไม่ขดั ตอ่ กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวขอ้ ง (2) การจัดหาประโยชนเ์ ก่ียวกับท่รี าชพัสดุและอสงั หาริมทรัพย์ท่อี ยู่ในความครอบครอง ของสถานศึกษา ภายในของวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบาย วัตถุประสงค์และ ภารกิจแลว้ ของสถานศึกษาเทา่ นน้ั
(3) เงินรายไดท้ ่ีเกิดขน้ึ ถือเปน็ เงนิ นอกงบประมาณประเภทเงนิ รายได้สถานศกึ ษา จึงตอ้ ง ใช้จ่ายใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่เี กยี่ วขอ้ ง (4) การจดั หาผลประโยชน์จากทรัพย์สนิ ตามขอ้ 1 - 3 ในส่วนที่อยูใ่ นความรับผิดชอบ ของสถานศกึ ษาต้องไดร้ บั ความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน 16. การเบิกเงนิ จากคลงั มีขอบข่ายงาน ดังน้ี สถานศึกษาทีย่ ังไมไ่ ด้รับการอนมุ ัติให้เป็นผู้เบิกเงนิ จากคลงั ใหย้ น่ื หลักฐานการขอเบกิ เงนิ ทุกรายการให้สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาดาเนนิ การ 17. การรบั เงนิ การเก็บรักษาเงิน และการจา่ ยเงนิ มขี อบข่ายงาน ดังนี้ กรณสี ถานศกึ ษาทย่ี ังไมไ่ ด้รบั การอนมุ ัติใหเ้ ป็นผูเ้ บกิ เงินจากคลัง 1.1 การปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การรบั เงนิ และการจา่ ยเงินให้ปฏบิ ตั ิตามระเบียบท่ีกระทรวงการคลงั กาหนดคือ ระเบียบการเก็บรักษาเงิน และการนาเงินส่งคลังในหน้าท่ีของอาเภอ และก่ิงอาเภอ พ.ศ. 2520 โดยสถานศึกษาสามารถกาหนดวิธีปฏิบัติเพ่ิมเติมได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบ ดังกล่าว 1.2 การปฏิบัติเกย่ี วกับ การเก็บรกั ษาเงนิ ให้ปฏิบัติตามระเบยี บท่ีกระทรวงการคลังกาหนด คอื ระเบียบการเก็บรักษาเงนิ และการนาเงินสง่ คลงั ในของส่วนราชการ พ.ศ. 2520 โดยอนโุ ลม 18. การนาเงนิ ส่งคลงั มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี กรณีสถานศึกษาทยี่ งั ไม่ไดร้ ับการอนมุ ัติให้เปน็ ผูเ้ บกิ เงนิ จากคลัง การนาเงินส่งคลังใหน้ าส่ง ต่อสานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาภายในระยะเวลาทก่ี าหนดไว้ตามระเบยี บการเกบ็ รักษาเงิน และการนาเงนิ ส่งคลัง ในหน้าทีข่ องอาเภอและกิ่งอาเภอ พ.ศ. 2520 หากนาสง่ เปน็ เงินสดให้ต้ังคณะกรรมการนาส่งเงินดว้ ย 19. การจดั ทาบญั ชีการเงิน มขี อบขา่ ยงาน ดงั น้ี กรณสี ถานศกึ ษาที่ยงั ไม่ได้รับการอนุมตั ใิ ห้เป็นผเู้ บิกเงนิ จากคลัง ใหจ้ ัดทาบัญชกี ารเงนิ ตามระบบท่ีเคยจัดทาอยู่เดิม คือ ตามระบบท่ีกาหนดไว้ในคู่มือการบัญชีหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือ ตามระบบการควบคุมการเงนิ ของหนว่ ยงานยอ่ ย พ.ศ.2544 แลว้ แตก่ รณี 20. การจดั ทารายงานทางการเงนิ และงบการเงิน มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ กรณสี ถานศกึ ษาทีย่ งั ไม่ไดร้ บั การอนมุ ัตใิ ห้เป็นผู้เบิกเงินจากคลัง
1.1 จดั ทารายงานตามทก่ี าหนดในคูม่ ือการบัญชสี าหรับหน่วยงานยอ่ ย พ.ศ. 2515 หรอื ตามระบบการควบคุมการเงินของหนว่ ยงานยอ่ ย พ.ศ. 2544 แลว้ แตก่ รณี 1.2 จดั ทารายงานการรับจ่ายเงนิ รายได้สถานศึกษา ตามทสี่ านักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานกาหนด คือ ตามประกาศสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าด้วยหลักเกณฑ์ อัตราและ วธิ กี ารนาเงนิ 21. การจัดทาและจัดหาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และรายงาน มีขอบข่ายงาน ดังนี้ กรณสี ถานศกึ ษาทีย่ ังไม่ไดร้ บั การอนมุ ตั ิให้เปน็ ผูเ้ บกิ เงินจากคลงั แบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และแบบรายงานให้จัดทาตามแบบที่กาหนดในคู่มือการบัญชีสาหรับหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือตาม ระบบการควบคมุ การเงนิ ของหนว่ ยงานยอ่ ย พ.ศ. 2544
แผนผงั แสดงขน้ั ตอน การให้บรกิ ารการขอใช้อาคารสถานท่ี หนว่ ยงาน/ผ้ปู ระสงคจ์ ะขอใช้ 1. โทรสอบถามหวั หนา้ งานฝา่ ยบริหารท่ัวไป 2. ตอ่ ต่อโดยตรงท่โี รงเรยี นอนุบาลโพธาราม(ชุมชนวดั บา้ น สงิ ห์) หรือทาหนังสือจากหนว่ ยงานแจง้ สอบถามการขอใชม้ า ทีโ่ รงเรยี น 5 นาที กรณวี ่าง สามารถให้บรกิ ารได้ เขียนแบบฟอร์มขอใช้ แนบหลักฐานประกอบ 10 นาที หวั หน้างานฝ่ายบรหิ ารทว่ั ไป ทาการตรวจสอบตาราง การใชส้ ถานทแ่ี ละลงนามยนื ยันรับรองสถานท่ีที่ขอใช้ 5 นาที เสนอ ผอ. ลงนาม เพ่ืออนมุ ตั กิ ารขอใช้อาคารสถานที่ 1 วัน ผ้รู บั ผิดชอบ : นายกึกก้อง ไตรศริ ิ (หัวหนา้ งานฝ่ายบริหารท่ัวไป)
แผนผังแสดงขน้ั ตอน การให้บรกิ ารการขอใช้รถโรงเรียน ผู้ขอใช้บริการกรอกแบบฟอรม์ การขอใชร้ ถโรงเรยี น กอ่ นเดนิ ทางอยา่ งนอ้ ย 3 วนั ทาการ 5 นาที ย่ืนต่อหวั หนา้ งานฝ่ายบริหารทั่วไป เพอ่ื ทาการ ตรวจสอบรายละเอยี ดและความพร้อมของรถทขี่ อใช้ 10 นาที หวั หน้างานฝา่ ยบริหารท่ัวไป เสนอ ผอ. พจิ ารณาอนมุ ตั ิ 1 วัน หวั หน้างานฝ่ายบริหารทั่วไป ประสานคนขับรุชถ ตรวจสอบสภาพรถกอ่ นเดนิ ทางและแจง้ กาหนดการ เดนิ ทาง 1 วัน ผ้รู บั ผิดชอบ : นายกกึ ก้อง ไตรศริ ิ (หัวหน้างานฝ่ายบรหิ ารทว่ั ไป)
แนวทางการดาเนินงานด้านการบริหารงานท่วั ไป ภาระงานดา้ นการบรหิ ารงานทว่ั ไป 1. การประสานงานพฒั นาเครอื ขา่ ยการศกึ ษา มขี อบข่ายงาน ดังนี้ (1) ประสานงานกับเครือขา่ ยการศึกษา เพอ่ื แสวงหาความรว่ มมือ ความชว่ ยเหลือ เพ่อื ส่งเสริม สนับสนุนงานการศกึ ษาของสถานศึกษา (2) เผยแพร่ข้อมูลเครอื ขา่ ยการศึกษาใหบ้ ุคลากรในสถานศกึ ษา และผเู้ ก่ยี วขอ้ งทราบ (3) กาหนดแผน โครงการ หรือกจิ กรรม เพ่ือการแลกเปลีย่ นเรียนรูร้ ะหวา่ งเครือข่าย การศึกษาทเ่ี ก่ียวข้องกับสถานศกึ ษา (4) ใหค้ วามร่วมมือ และสนบั สนนุ ทางวชิ าการแก่เครือข่ายการศึกษาของสถานศกึ ษา และเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง 2. การวางแผนการบรหิ ารงานการศกึ ษา มขี อบขา่ ยงาน ดังนี้ (1) จดั ทาแผนพฒั นาการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องกบั เป้าหมายและทิศทางของ เขตพื้นที่การศึกษาและสนองความต้องการของชุมชนและสังคม โดยการมีส่วนร่วมของบุคคล ชุมชน องคก์ ร สถาบนั และหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั การจัดและพฒั นาการศึกษาของสถานศึกษา (2) เสนอแผนพฒั นาการศกึ ษาใหส้ านักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษารบั ทราบ (3) การดาเนินการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 3. การดาเนินงานธรุ การ มขี อบข่ายงาน ดังนี้ (1) ศึกษาวิเคราะหส์ ภาพระบบงานธุรการและระเบยี บ กฎหมายท่เี กี่ยวข้อง (2) วางแผนออกแบบระบบงานธุรการ โดยนาเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อลดขน้ั ตอนการปฏบิ ัติงาน (3) จดั บคุ ลากรรับผิดชอบและพฒั นาใหม้ ีความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ัตงิ านธุรการ (4) จัดหาเทคโนโลยที ่ีทันสมัยที่สามารถรองรับการปฏบิ ตั ิงานดา้ นธุรการได้ตามระบบงาน ที่กาหนดไว้ (5) ดาเนินงานธรุ การตามระบบท่กี าหนดไว้ โดยยดึ หลักความถูกตอ้ ง รวดเรว็ ประหยัด และคุ้มค่า (6) ตดิ ตามประเมินผลและปรับปรุงงานธรุ การให้มีประสทิ ธภิ าพ 4. การดูแลอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม มีขอบข่ายงาน ดงั นี้ (1) กาหนดแนวทางวางแผนการบรหิ ารจดั การอาคารสถานที่และสภาพแวดลอ้ ม (2) บารงุ ดูแล และพัฒนาอาคารสถานทแี่ ละสภาพแวดลอ้ มของสถานศกึ ษาใหอ้ ยู่ใน
สภาพพร้อมใช้ มัน่ คง ปลอดภัย และสวยงาม (3) ตดิ ตามและตรวจสอบการใช้อาคารสถานทีแ่ ละสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา 5. การทัศนศึกษา มขี อบข่ายงาน ดงั น้ี (1) วางแผนการนานักเรียนไปทัศนศกึ ษานอกสถานศกึ ษา (2) ดาเนนิ การนานักเรียนไปทศั นศกึ ษานอกสถานศึกษาตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีท่กี าหนด 6. การประชาสัมพนั ธ์งานการศึกษา มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) วางแผนการประชาสมั พันธง์ านการศึกษาของสถานศกึ ษา (2) ดาเนนิ การประชาสมั พนั ธ์งานการศึกษาตามแนวทางท่ีกาหนด (3) ตดิ ตาม ประเมนิ ผล ปรับปรงุ และพัฒนาการประชาสัมพันธก์ ารศกึ ษาของสถานศึกษา 7. งานประสานราชการกบั สว่ นภูมภิ าคและสว่ นท้องถน่ิ มขี อบข่ายงาน ดงั นี้ (1) ประสานความรว่ มมือกับหน่วยงานราชการสว่ นภมู ิภาคในการจัดและพฒั นาการศึกษา ของสถานศกึ ษา (2) ประสานความร่วมมอื กับองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ และสถานศึกษาขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ในการจดั และพัฒนาการศกึ ษาร่วมกนั 8. การส่งเสรมิ งานกิจการนกั เรยี น มีขอบข่ายงาน ดงั น้ี ดาเนินการจัดกจิ กรรมนักเรียน และส่งเสรมิ สนับสนุนให้นกั เรยี นได้มสี ว่ นร่วมในการ จัดกิจกรรมอย่างหลากหลายตามความสนใจและความถนัดของนกั เรยี น สรุปและประเมนิ ผลเพ่ือปรับปรงุ 9. แนวทางการจดั กจิ กรรมเพือ่ ปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมในการลงโทษนักเรียน มีขอบขา่ ยงาน ดังน้ี (1) ศึกษาสภาพปัญหาเก่ียวกับพฤติกรรมของนักเรียน ระเบียบ กฎหมายท่ี เกย่ี วข้อง (2) การวางแผนงานปกครองนักเรยี น (3) การบริหารงานปกครองนักเรียน การกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบการประสานงาน ปกครอง (4) การส่งเสริมพัฒนาให้นักเรียนมีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ การจัดกิจกรรม ส่งเสรมิ
พัฒนาด้านความรับผิดชอบต่อสังคม การจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การยกย่องให้ กาลังใจแก่นกั เรียนผูป้ ระพฤตดิ ี (5) การป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไมเ่ หมาะสมของนกั เรยี น ได้แก่ การป้องกนั และ แก้ไขพฤตกิ รรมทไี่ มเ่ หมาะสม การดาเนินงานป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ในโรงเรยี น การดาเนินงานปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาโรคเอดสใ์ นโรงเรยี น (6) ประเมนิ ผลงานปกครองนกั เรียน
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: