Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2ที่ดีขึ้น

บทที่ 2ที่ดีขึ้น

Published by Phubet Dorkkulap, 2021-09-15 02:59:31

Description: บทที่ 2ที่ดีขึ้น

Search

Read the Text Version

บทท่ี 2 เอกกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 1.สายพนั ธข์ุ องปลาดุก ปลาดุก เป็นปลาสกุลปลาหนงั น้ำจดื ในสกุล Clarias มีการแพร่กระจายพันธุ์ในน้ำจืดและน้ำกร่อยตาม แหล่งนำ้ ของทวปี เอเชียและแอฟริกา เป็นปลาไม่มีเกล็ด ลำตวั ยาว มหี วั ท่แี บนและแข็ง มหี นวดยาวแปดนิ้ว มีครีบ หลงั และครีบกน้ ยาวเกนิ ครึ่งของความยาวลำตวั จดุ เรมิ่ ตน้ ของครีบหลงั อยู่ล้ำหน้าจุดเรม่ิ ต้นของครีบท้อง ครีบหลัง ไมม่ เี งี่ยงแขง็ ไม่มคี รบี ไขมัน ครบี หางมนกลม ครบี ทง้ั หมดเป็นอิสระจากกัน[2] สามารถหายใจและครีบคลานบน บกได้เมื่อถึงฤดูแล้ง เป็นปลาวางไข่ เป็นปลากินเนื้อโดยเฉพาะเมื่อตัวโตเตม็ ที่ชอบกนิ ปลาอ่ืนทีต่ ัวเลก็ กวา่ เปน็ อาหาร รวมถึงกินซากพชื และซากสตั ว์อกี ดว้ ย เปน็ ปลาทร่ี ูจ้ ักกันดีในแงข่ องการเป็นปลาเศรษฐกิจ ท่ีนิยมบริโภค กนั โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย (https://sites.google.com, 2564) สายพนั ธขุ์ องปลาดกุ ในประเทศไทย 1.1ปลาดกุ อุย ภาพที่ 1 แสดงปลาดุกอยุ ท่ีมา: https://www.grobest.com วนั ท่ีสบื ค้น 30 สิงหาคม 2564 • ปลาดุกอยุ หรือ ปลาดกุ นา หรือ ในภาคใต้ เรยี กว่า \" ปลาดกุ เนือ้ ออ่ น \" • เป็นปลาที่มรี สชาติดี อรอ่ ย เนอื้ ไม่เละ • เปน็ ปลาท่ีมคี วามทนทานตอ่ สภาพแวดลอ้ มได้ดมี าก แตม่ อี ัตราการเจรญิ เตบิ โตและน้ำหนักตวั ท่ีนอ้ ย

1.2ปลาดุกเทศหรอื ปลาดกุ รสั เซีย ภาพท่ี 2 แสดงปลาดุกเทศ ท่มี า: https://www.grobest.com วันท่ีสบื ค้น 30 สิงหาคม 2564 • ปลาดกุ เทศหรือ ปลาดุกรสั เซีย เปน็ ปลาที่ขนาดใหญส่ ดุ ในสกลุ Clarias ขนาดเมือ่ โตเตม็ ที่ยาวได้ถึง 1.70 เมตร • เปน็ ปลาพืน้ เมอื งของทวีปแอฟรกิ า พบได้ในตอนเหนือและตอนตะวันออกของทวปี สำหรับในประเทศ ไทยได้ถกู นำเขา้ มาในปี พ.ศ. 2528 โดยเอกชนบางราย • เปน็ ปลาทม่ี ีอตั ราการเจริยเตบิ โตทีส่ งู แตม่ รี สชาตขิ องเนือ้ ท่ไี ม่คอ่ ยอร่อและรบั ความนิยมเท่าไรเนอ่ื งจาก มขี นาดใหญ่ และมีเนอื้ สีขาวทเ่ี ละ

1.3ปลาดุกบิ๊กอยุ ภาพท่ี 3 แสดงปลาดกุ บ๊ิกอุย ทีม่ า: https://www.grobest.com วันทีส่ บื ค้น 30 สิงหาคม 2564 •ปลาดกุ บกิ้ อยุ กรมประมงไดน้ ำมาทดลองผสมข้ามพันธ์กุ ับปลาดุกอยุ • ปลาดุกบิก้ อุย เปน็ ปลา ลูกผสม ระหว่างพ่อพนั ธ์ุ “ปลาดุกเทศ” กับแมพ่ ันธ์ุ “ปลาดุกอยุ ” • พบวา่ ปลาดกุ ลกู ผสมมผี ลการรอดสูง และมีการเจรญิ เติบโตเร็วทส่ี ดุ เนือ้ มรี สชาติท่ีดีขน้ึ จึงสง่ เสริมและ แพร่วธิ กี ารเพาะขยายพนั ธแุ์ ละเล้ียงดูสู่เกษตรกรอย่างกวา้ งขวาง จนปัจจบุ ันน้ี กลายเป็นปลาเศรษฐกจิ ที่ ไดร้ ับความนยิ มชนิดหนง่ึ ของไทย • เปน็ ปลาทสี่ ามารถเล้ียงในสภาวะการเลีย้ งทม่ี ีความหนาแน่นสูงทนต่อสภาวะคุณภาพนำ้ ต่ำ • และเปน็ ปลาท่มี เี น้ือรสชาติดมี ีการเจริญเติบโตรวดเรว็

1.4ปลาดกุ ด้าน ภาพที่ 4 แสดงปลาดุกดา้ น ท่ีมา: https://www.grobest.com วนั ที่สืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 • ปลาดุกดา้ น ขนาดเม่อื โตเตม็ ท่ีอยทู่ ปี่ ระมาณ 50 เซนติเมตร • นอกจากจะมกี ารเลย้ี งเป็นปลาเศรษฐกจิ แล้วปลาดุกยังถกู พฒั นาข้ึนเป็นปลาสวยงามท่ีมีสสี ันและ ลวดลายแตกตา่ งไปจากเดมิ โดยเฉพาะปลาท่มี ีลกั ษณะของสเี ผือกและปลาตา่ งซงึ่ เป็นท่ตี ้องการในกลุม่ นกั เลี้ยงปลาแปลกอยา่ งมาก • สีของลำตัวคอ่ นขา้ งดำ และ ลักษณะสขี องลำตัวจะเปลย่ี นไปตามอายุ ขนาด และสภาพแวดล้อม ตวั โต เตม็ วยั จะมีลำตวั สีเขม้ แตเ่ มือ่ นำมาเลี้ยงในบ่อจะมีสีนำ้ ตาลเหลอื ง ข้างลำตวั มีจุดสขี าวเรยี งเปน็ แถวตาม ขวางประมาณ 13 - 20 แถว ยกเว้นบรเิ วณท้อง • เปน็ ปลาท่ีมกั จะพบ ในเขตบรเิ วณป่าพรุ • เนอ้ื ปลามรี สชาติอรอ่ ยและหวาน • และจากการสำรวจพบวา่ ปลาดุกลำพันในธรรมชาติมแี นวโนม้ ลดล(https://www.grobest.com,2563)

2.วิธกี ารเล้ยี งปลาดกุ ปลาดุกเป็นปลาท่ีสามารถเล้ียงไดง้ ่าย โตเรว็ และอดทนต่อสภาพแวดล้อมจึงทำใหม้ ผี ทู้ สี่ นใจในการเลย้ี งมากขึน้ ใน ปัจจุบนั การเลยี้ งปลาดุกในปัจจบุ ันปลาดุกทีน่ ยิ มเล้ยี งกนั มากลกั ษณะทวั่ ไปของปลาดุก คือ เป็นปลาไมม่ ีเกลด็ ตัว ยาวเรยี ว ครีบหลังยาวไมม่ กี ระโดง ครบี ท้องยาวเกอื บถึงโคนหางมีอวัยวะชว่ ยในการหายใจซึ่งชว่ ยใหป้ ลาดุกมีความ อดทนสามารถในสภาพนำ้ ทีไ่ มห่ มาะสม หรืออยู่พ้นน้ำไดน้ าน ชอบกนิ อาหารจำพวกเนอื้ สัตว์ แต่ถา้ นำมาเลี้ยงในบอ่ อาจใหอ้ าหารจำพวกพืชและสามารถฝกึ นิสัยให้ปลาดกุ ขึ้นมากินอาหารบรเิ วณผวิ น้ำได้ 2.1)การเตรียมบ่อเลี้ยงปลา มวี ิธกี ารเตรยี มบอ่ ดงั น้ี 2.1.1บ่อใหม่ - ใส่ปนู ขาวเพ่ือปรบั สภาพดินในอัตรา 60-100 กโิ ลกรัม/ไร่ โดยใหท้ ั่วพืนบอ่ - ใส่ปยุ๋ คอกอตั รา 200 กโิ ลกรมั /ไร่ โดยโรยใหท้ ว่ั บ่อ - เติมน้ำให้ไดร้ ะดับ 40-50 เซนตเิ มตร ทงิ้่ ไว้ 1-2 วนั จนน้ำเป็นสเี ขยี วระวังอย่าใหเ้ กดิ แมลง หรือศัตรูของปลา 2.2.1บ่อเก่า - หลังจากจับสัตว์นำ้ าออกจากบ่อหมดแลว้ สูบนำ้ จากบ่อเลี้ยงให้แหง้ พอหมาดเพราะการตากบ่อจนแห้งจะเป็นการ ฆ่าจุลชีพทีม่ ปี ระโยชน์ในดินจนหมดกําจัดวชั พืชหรอื หญ้าตามขอบบอ่ ออกให้มากทสี่ ุดการเล้ยี งสัตว์น้ำโดยทั่วไป จะประสบผลสําเร็จในช่วง 1-2 ปีแรกเท่านั้นหลังจากนั้นหากไม่มีการพักหรือฟื้นฟูสภาพบ่อ เกษตรกรมักจะ ประสบปญั หาผลผลิตลดลงปัญหาการเกดิ โรคระบาดทําใหไ้ มส่ ามารถได้ผลผลติ ดเี หมือนกับทเี่ คยได้จนต้องขาดทุน อยู่เสมอ ๆทเี่ ป็นเชน่ นี้เพราะ 1) เกษตรกรไมม่ ีการพักบอ่ หรอื เวน้ ระยะการเลีย้ ง 2) สภาพดินในบ่อเสื่อมโทรม 3) เกดิ การสะสมของสารอินทรีย์ในดินก้นบ่อ 4) เกดิ การสะสมของสารพษิ หรอื กา๊ ซพิษในดิน 5) ดินพื้นบ่อกลายเป็นแหลง่ สะสมของเชื้อโรค

6) จุลินทรยี ท์ ีÉเป็นประโยชน์ไม่สามารถเจริญได้ - สาดปนู ขาวในอตั รา 100-120 กโิ ลกรมั /ไร่ ใหท้ ่ัวพืน้ กน้ บอ่ เพ่อื เป็นการปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างให้ เหมาะสมตอ่ การเจริญเติบโตของจุลชพี ในการย่อยสลายของเสียในบอ่ - ตากบ่อท้งิ ไว้1 สัปดาห์ จากนนั้ พลิกกลบั หน้าดินช้ันล่างขึ้นมา โดยใชร้ ถไถหรือคลาด เพือ่ ให้ของเสียที่ หมกั หมมในดินสมั ผัสกับอากาศและจลุ นิ ทรยี ์จะทาํ การย่อยสลายของเสยี ได้ดียง่ิ ขน้ึ - สาดปนู ขาวในอัตรา 100-120 กิโลกรมั /ไร่ ใหท้ ่วั พ้ืนกน้ บ่ออีกคร้ัง จากนั้นตากบ่อปอีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในบ่อท่ีใชง้ านมากกว่า 3 ปี ควรทาํ ซ้ำอกี คร้ัง จนครบ 3 ครั้ง หรอื ใชเ้ วลาตากบ่ออย่างน้อย 3 สัปดาห์ - นํานำ้ เข้าบ่อเลยี้ ง 1-2 วนั แลว้ ทําการปล่อยสัตวน์ ำ้ กอ่ นปล่อยปลาควรตรวจวดั ความเป็นกรด-ด่างของนำ้ อกี ครั้ง ถา้ ไมถ่ ึง 7.5-8.5 ควรนำปนู ขาวละลายนำ้ สาดใหท้ ว้ั บ่อเพื่อปรับความเปน็ กรด-ดา่ ง ให้ได้ 7.5 -8.5 2.3.การเตรยี มพันธปุ์ ลา การแลกซอ้ื ลกู ปา้ ควรพิจารณาปัจจยั ต่างๆ ดงั นี้ 1. แหล่งพนั ธุ์ฟกั ควรดจู าก - ความนา่ เช่ือถือและไว้วางใจ ได้เรือ่ งคุณภาพ - มันคัดเลือกพันธ์ุ เพ่ือให้ไดพ้ ันธ์ุทีม่ ีคุณภาพ - มคี วามชำนาญในการขนสง่ ลูกปลา 2.4. การปล่อยลกู ปลา เมอ่ื ขนส่งลกู ปลามาถงึ บอ่ ทีเ่ ตรยี มไวค้ วรแช่ถุงปลาไวใ้ นบ่อประมาณ 10-15 นาที เพ่ือปรบั อุณหภมู ิระหว่างน้ำใน ถุงกับนำ้ ในบอ่ เพ่อื ป้องกันลูกปลาช็อค ก่อนปล่อยลูกปลาควรมกี ารทาํ ร่มเงาไว้ในบอ่ ให้ลูกปลาไดใ้ ชเ้ ปน็ ท่อี ยอู่ าศัย อัตราการปล่อย 2.5. อัตราการปล่อย เกษตรกรรายใหม่ ควรปล่อยลูกปลาขนาดปลานวิ จะทาํ ให้อตั ราการรอดสูง อัตราการปล่อย ปลาขนาด 3-4 เซนติเมตร ปลอ่ ย 60,000-80,000 ตวั /ไร่ กอ่ นปลอ่ ยควรสุม่ นับจาํ นวนเพ่อื ตรวจสอบใหร้ ู้จาํ นวนจริง

2.6. อาหารและการให้อาหาร ตารางการใหอ้ าหารปลาดกุ ภาพที่ 5 แสดงแสดงตารางการใหอ้ าหารปลาดุก ทม่ี า: ฝา่ ยบรกิ ารวิชาการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ท่สี ืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 ต้นทุนการผลิตปลาประมาณ 80% เปน็ ค่าอาหาร เพราะฉะนนั้ ในการเลย้ี งปลาการให้อาหารเป็นส่งิ ที่ตอ้ งให้ ความสาํ คญั ทั้งในส่วนของคณุ ภาพของอาหารและปรมิ าณท่ีให้ต้องเพียงพอกับความต้องการของปลาซ่งึ ถ้าใม่ เพียงพอจะทาํ ใหป้ ลามีอตั ราการเจรญิ เตบิ โตทไี่ มด่ ี แตก่ ไ็ มค่ วรมากเกินความตอ้ งการเพราะจะเกิดปญั หาต่างๆ ตามมา เช่น สน้ิ เปลืองอาหาร อาหารเน่าเสยี เร็วตอ้ งเสียค่าใชจ้ า่ ยในการเปลยี่ นถา่ ยน้ำ 2.7. โรคของปลาดุกและการระวังรกั ษา สาเหตุทีท่ ําใหป้ ลาดุกเป็นโรคนน้ั เน่ืองมาจากปลาเครยี ดและออ่ นแอ ทําให้เชอื้ แบคทีเรยี เข้าส่ตู ัวปลาแสดงพิษ ออกมาได้ง่ายขนึ้ ซึ่งสาเหตุดังกลา่ วน้ันมกั เกิดข้ึนเพราะ 1. น้ำเสยี หรอื ก้นบ่อมีเศษอาหารเนา่ เสยี หมกั หมมอยมู่ าก 2. การปล่อยปลามจี าํ นวนมากเกินไปในบอ่ เดยี วกัน 3. โปรโตซวั เช้อื รา แบคทเี รีย ไวรสั 4. ปลาขาดธาตอุ าหารและมีอาหารไมเ่ พียงพอในการเล้ยี งโรคทเี กิดจากปรสติ ภายนอกปลิงใส

ภาพท่ี 6 แสดงปลิงใส ทม่ี า: ฝา่ ยบริการวิชาการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ท่ีสืบค้น 30 สิงหาคม 2564 ภาพท่ี 7 แสดงเหบ็ ระฆัง ท่มี า: ฝ่ายบรกิ ารวิชาการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วันที่สบื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 ภาพท่ี 8 แสดงจดุ ขาว ที่มา: ฝ่ายบริการวชิ าการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วันที่สบื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 การปอ้ งกันรกั ษา รกั ษาคณุ ภาพนำ้ ห้ดีอย่เู สมอ ฟอรม์ าลนิ 25 มลิ ลลิ ติ ร ตอ่ นำ้ 1 ตัน

โรคกกหูบวม ท้องบวมน้ำ ภาพที่ 9 แสดงโรคกกหบู วม ท้องบวมนำ้ ทีม่ า: ฝ่ายบริการวชิ าการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วันท่สี ืบค้น 30 สิงหาคม 2564 สาเหตุ: เกดิ จากแบคทีเรยี ทอ่ นสัÊน (แอโรโมแนส ไฮโดรฟิ ลลา) เมืÉอทาํ การแยกเชื Êอจากตับหรอื ม้าม สามารถ พบ แบคทเี รียจํานวนมาก และมีสาเหตโุ น้มนํามาจาก การเปลีÉยนแปลงของสภาพแวดล้อม เชน่ ฝนตก อากาศ เปล่ียน โดยเฉพาะช่วงนําหลากหรือปลายฝนต้นหนาว ทําใหป้ ลาอ่อนแอ เกิดโรคง่ายการปอ้ งกันรักษา ลดหรืองด ให้อาหาร ผสมยาปฏิชีวนะ 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม ติดต่อกัน 5-7 วันเสริมวิตามินซีใน อาหาร 3-5 กรัม/ กิโลกรัม ในช่วงอากาศเปลย่ี น(ร่วมกบั การเสริมยาปฏชิ ีวนะ 3-5 กรมั / กโิ ลกรัม) โรคท่ีไม่ได้เกิดจากการติดเชอ้ื โรคทเี กดิ จากการขาดวิตามิน ซี ภาพท่ี 10 แสดงโรคทีเ่ กดิ จากการขาดวติ ามนิ ซี ทีม่ า: ฝ่ายบริการวชิ าการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ท่สี บื ค้น 30 สิงหาคม 2564

อาการหรอื ลักษณะความผดิ ปกติ ตัวคดงอ คอพับ หวั กะโหลกเป็นรู กะโหลกร้าว มีแผลระหวา่ งคอ ปลา จะตายจํานวนมากระหว่างการจบั หรือขนส่ง การป้องกันรกั ษา - ใชอ้ าหารทเี่ สรมิ วติ ามนิ ซี 3-5 กรมั /อาหาร 1 กิโลกรัมตดิ ต่อกัน นาน 5-7 วัน - เก็บ อาหารไว้ในที่รม่ ใหห้ า่ งความชื้นและแสงแดด การป้องกันรักษา หลกี เลยี่ งการใช้อาหารสด ใช้อาหารสําเรจ็ รปู ทม่ี ีคุณภาพ รักษาคุณภาพนำ้ ใหด้ อี ย่เู สมอ ( ฝา่ ยบรกิ ารวชิ าการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ ) 3.ผลผลิตของปลาดุก ปลาดกุ ทเี่ ลยี้ งจะเริ่มทยอยจบั ได้ตัง้ แตป่ ลาอายุ 8-10 เดอื น ซง่ึ จะมขี นาด 6-10 ตัว/กก.แต่ยงั มขี นาดเลก็ ไม่ตรงกับ ความต้องการของตลาด สสี ัน ภายนอกจะดูดสี ปู้ ลาจากธรรมชาติไมไ่ ด้ แต่เมอ่ื นำมาบริโภครสชาตจิ ะไมต่ า่ งกันเน้ือ ปลาเมือ่ สกุ แลว้ จะดูนมิ่ และเหลืองนา่ รับประทานการเลย้ี งปลาดกุ อุยชนิดเดยี วกันน้ีจะเลีย้ งกันอยา่ งแพร่หลายอยู่ ระยะหน่งึ แล้วหายไป ตอ่ มามีการนำปลาดุกอยุ ไปปลอ่ ยเล้ยี ง รวมกับปลานลิ ปลาสวาย ปลาชอ่ น แตจ่ ะปล่อยปลา ดกุ อุยตัวโต โดยไม่ไดป้ ลอ่ ยปลาดกุ อุยลงเลยี้ งเป็นปลาหลักเพยี งแต่ปลอ่ ยลงไปสมทบใน ปรมิ าณไม่มากนักก็จะได้ ปลาขนาดใหญ่สีสันดีข้ึนไม่แตกต่างจากปลาธรรมชาติและจำหน่ายได้ราคาดี เกษตรกรบางรายนำปลาดุกอยุ ไป ปล่อย ร่วมกบั ในนาปลาสลิดโดยหวังผลขา้ งต้น ซง่ึ ไดป้ ลดีเช่นเดยี วกนั ทงั้ นี้ในปัจจุบันผเู้ ลี้ยงปลาดุกท่ัวประเทศมัก นยิ มเลยี้ งปลาดกุ บก๊ิ อุย ซ่ึงเปน็ ปลาที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหวา่ งปลาดกุ รสั เซียหรือปลาดกุ อัฟรกิ ัน เพศผู้กับ ปลาดุกอุยเพศเมียปลาดกุ ลกู ผสมท่ไี ด้จะเติบโตเร็ว มคี วามต้านทานโรคสงู รูปรา่ งสีสนั ดแี ละเนอื้ มรี สชาติใกล้เคียง กับปลาดุกอุย การเล้ยี งปลาชนิดน้ปี ัจจุบันประสบผลสำเรจ็ ยึดเป็นอาชีพหลักได้ทำใหก้ ารเลยี้ งแพร่กระจาย ทั่วไป โดยเฉพาะในเขตพนื้ ทท่ี ห่ี าอาหารปลาได้ง่ายราคาถกู และฝนไมต่ กชกุ มากนักจนกระทงั่ ปัจจบุ ันปลาดุกบก๊ิ อุยได้เข้า มาแทนท่กี ารเลี้ยงปลาดกุ ด้านอย่างสนิ้ เชงิ และไมพ่ บผเู้ ลี้ยงปลาดกุ ด้านเป็นการคา้ ซ่งึ ในอดีตมีอยู่มากมายได้หายไป หมดส้ินจากประเทศไทยในขณะน้ี (กรมประมง, 2563) 4.สายพนั ธ์ปุ ลานิลในประเทศไทย ปลานลิ สามารถอาศัยอยไู่ ด้ในน้ำจืดและนำ้ กรอ่ ย มถี นิ่ กำเนิดเดิมอยู่ทีแ่ ม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟรกิ า พบทั่วไป ตามหนอง บงึ และทะเลสาบในประเทศซูดาน, ยกู ันดา และทะเลสาบแทนกันยีกา ปลานิลนำเขา้ สปู่ ระเทศไทยคร้ัง แรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครัง้ ดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งญีป่ ุ่น ซึ่งทรงจัดส่งเข้ามา ทลู เกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เมอื่ วันท่ี 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน 50

ตวั ครง้ั นัน้ ได้โปรดเกล้าฯ ใหท้ ดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อนา้ํ ภายในสวนจิตรลดา เปน็ หนึ่งโครงการในโครงการส่วน พระองค์ สวนจิตรลดา (สำนกั งานการปฏิรูปทด่ี ินเพอ่ื เกษตรกรรม, 2561) 4.1 ปลานิลพันธุ์จิตรลดา 1 ภาพท่ี 11 แสดงปลานลิ พันธจ์ุ ิตรลดา 1 ทม่ี า:กองวจิ ัยและพฒั นาการเพาะเลีย้ งสตั วน์ ้ำจืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ท่สี ืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 ปลานิลสายพันธุ์ จิตรลดา 1 เป็นปลานิลที่ปรับปรุงพันธุ์มาจากการคัดเลือกสายพันธุ์แบบภายใน ครอบครัว (within family selection) เร่ิมดำเนนิ การปรบั ปรงุ พันธ์ุต้ังแต่ปี พ.ศ. 2528 ซึ่งทดสอบพันธุ์ แลว้ พบว่าอัตราการ เจรญิ เติบโตดกี ว่าปลานลิ พันธ์ุทีเ่ กษตรกรเลยี้ ง 22 % ลักษณะทีส่ ำคัญ มกี าร เจรญิ เติบโตดเี ล้ยี งง่าย ทนทาน และ ออกลกู งา่ ย 4.2 ปลานิลพันธจ์ุ ิตรลดา 2 ภาพที่ 12 แสดงปลานิลพันธจุ์ ิตรลดา 2 ที่มา:กองวจิ ยั และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสตั ว์น้ำจืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วันทสี่ ืบค้น 30 สงิ หาคม 2564

ปลานลิ สายพันธุ์ จติ รลดา 2 ได้จากการปรบั เปลย่ี นพันธุกรรมปลานลิ สายพันธุ์อยี ปิ ต์ ใหพ้ ่อพนั ธม์ุ ี โครโมโซมเพศ เปน็ “YY” เรยี กว่า “YY-male” หรือ Supermale เมอ่ื น าไปผสมกับแมพ่ นั ธป์ุ กติ จะไดล้ ูกพันธุป์ ลานลิ เป็นเพศผู้ ทั้งหมด มีลักษณะส่วนหัวเล็ก ล าตัวกว้าง สีขาวนวลเนื้อหนาและแน่น รสชาติดี อายุ 6-8 เดือน สามารถ เจรญิ เตบิ โตได้ขนาด 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ใหผ้ ลผลติ ต่อไร่ สูงกว่าปลา นลิ พันธทุ์ ่เี กษตรกรเลยี้ ง 45% และเนอ่ื งจาก ปลานิลสายพันธ์นุ ตี้ อ้ งใชเ้ ทคโนโลยขี ั้นสูงและยากต่อการเพาะพนั ธุจ์ งึ ไมน่ ยิ มนามาเลี้ยง 4.3 ปลานิลพันธ์จุ ิตรลดา 3 ภาพท่ี 13 แสดงปลานิลพันธุ์จิตรลดา 3 ทีม่ า:กองวจิ ยั และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน์ ำ้ จืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ท่สี บื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 “ปลานลิ สายพันธ์จุ ติ รลดา 3” เป็นพันธ์ปุ ลานลิ ทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาปรบั ปรุงพนั ธ์ุส าเรจ็ ในปี 2550 โดยปรบั ปรุงจาก ปลานิลสายพันธ์ุGIFT (Genetic Improvement of Farmed Tilapia) รุ่นที่ 5 ของหน่วยงาน International Center for Living Aquatic Resource Management (ICLARM) ประเทศฟิลิปปินส์ (ซึ่งมีสายพันธุ์จิตรลดา ดั้งเดิมผสมอยู่ด้วย) “ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3” ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ (Mass Selection) เพอ่ื ใหม้ ีการเจรญิ เตบิ โตดมี ีอัตรา รอดและใหผ้ ลผลิตสูง มีลกั ษณะเด่นคือ หัวเลก็ ตัวหนา เนื้อแน่น และมาก

4.4 ปลานลิ พนั ธุ์จิตรลดา 4 ภาพที่ 14 แสดงปลานลิ พันธจ์ุ ติ รลดา 4 ที่มา:กองวิจยั และพฒั นาการเพาะเล้ยี งสัตว์น้ำจืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ทีส่ บื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 “ปลานลิ สายพันธ์จุ ิตรลดา 4” เป็นพนั ธปุ์ ลานลิ ทีไ่ ดร้ ับการพัฒนาปรับปรงุ พันธ์สุ าเรจ็ ในปี 2552 โดยปรับปรุงจาก ปลานิลสายพันธ์ุGIFT รุ่นท่ี 9 จาก WorldFish Center ประเทศมาเลเซีย (ซ่งึ มีสาย พันธุจ์ ิตรลดาดั้งเดิมผสมอยู่ เช่นเดียวกัน) “ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 4” ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ด้วย วิธีการประเมินจากค่าการผสมพันธุ์ (Estimated Breeding Value, EBV) ของน้ำาหนกั เพ่อื ใหไ้ ด้ ผลผลิตสูง มลี กั ษณะเดน่ คอื ส่วนหัวเล็ก ลาตวั กว้าง สนั หนา (กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตว์น้ำจดื กรมปะมง, 2559, น.1-2) 5.วธิ ีการเล้ยี งปลานิล การเตรียมบ่อ เปน็ ข้ันตอนขั้นตอนท่ีสำคัญขั้นตอนหนงึ่ ของการเล้ียงปลา กอ่ นปลอ่ ยพนั ธุล์ ูกปลาเกษตรกร ต้องเตรยี มความพรอ้ มของบอ่ ให้เรียบรอ้ ย โดยการตากบอ่ ใหแ้ ห้งเพื่อปรบั สภาพดินพืน้ บอ่ ฆา่ เชอ้ื กำจัดวชั พืชและ พรรณไมน้ ้ำต่างๆ กำจดั ศตั รูของปลา นำนำ้ เข้าบอ่ สร้างอาหารธรมชาติ แล้วจงึ ปลอ่ ยลูกปลาโดย ซ่งึ มรี ายละเอียด ดังนี้ 5.1 การตากบ่อ ควรมีการตากบอ่ ทุกครั้งหลังการจับปลาขาย เพื่อเปน็ การปรับสภาพข องดินพื้นบอ่ ที่ อาจมกี ารสะสมของสิ่งขับถา่ ยจากสัตว์น้ำท่เี ลย้ี ง ซ่งึ หากสะสมเปน็ ปริมาณมากจะก่อใหเ้ กิดก๊าซแอมโมเนียซึ่งเป็น พิษต่อสตั วน์ ำ้ การตากบอ่ ใหแ้ ห้งจะเป็นวธิ ีการกำจัดก๊ซแอมโมเนีย แนะนำใหม้ ีการตากบ่อให้แห้งเป็นเวลาอย่าง นอ้ ย 7 วัน หรอื มากกว่าขึ้นกบั สภาพบ่ อ และช่วงเวลาทีต่ ากบอ่ การใส่ปูนขาว มวี ัตถปุ ระสงค์เพื่อการฆา่ เชื้อต่างๆ ท่ีสะสมอยู่บรเิ วณพื้นบอ่ และปรับสภาพของดินในบ่อ ปริมาณปนู ทีใ่ สแ่ ตกต่างกันไปตามสภาพพ้ืนที่ เช่นบริเวณท่ี เปน็ ดนิ กรดมีความต้องการปูนขาวมากกว่า หรือบอ่ ท่ีผา่ นการเล้ยี งปลามาเป็นเวลานานมี ความต้องการปูนขาว

นอ้ ยกวา่ บ่อใหม่ อยา่ งไรก็ตามมขี ้อแนะนำสำหรบั การใส่ปูนขาวให้ใส่ในปริมาณ 100 -1 50 กโิ ลกรมั ต่อไร่ โดยโรย ใหท้ ว่ั พน้ื ก้นบอ่ และขอบบ่อ 5.2 กำจดั วัชพชื และพรรณไม้น้ำต่างๆ เช่น กก หญา้ ผักตบชวา โดยนำมากองสมุ ไว้ เม่ือแหง้ แลว้ นำมาใช้ เป็นปยุ๋ หมักในขณะที่ปลอ่ ยปลาลงเลยี้ งถา้ ในบ่อมเี ลนมากจำเป็นต้องสาดเลนข้ึนโดยนำไปเสริมคันดินท่ีชำรุดหรือ ใช้เป็นปยุ แก่พืช ผัก ผลไม้ บริเวณใกล้เคียง พร้อมทง้ั ตกแตง่ เชิงลาดและคันบอ่ ใหแ้ น่นด้วย หรือโดยการตากบ่อให้ แหง้ แลว้ ดนั ดนิ ก้นบ่อขนึ้ หลงั จากตากบ่อแหง้ แลว้ นำดนิ ไปเสรมิ คนั บ่อให้แน่น 5.3 กำจดั ศัตรูปลา ศัตรปู ลานิลไดแ้ ก่ กลมุ่ ปลากนิ เนื้อ เช่น ช่อน ชะโด หมอ ดุก นอกจากนี้ก็มีสัตว์พวก กบ เขยี ด งู เปน็ ต้น ดงั นน้ั กอ่ นปล่อยปลานลิ ลงบ่อเล้ียง จำเป็นต้องกำจดั ศัตรูดังกล่าวเสียก่อน โดยวิธีระบายน้ำ ออกใหเ้ หลอื นอ้ ยที่สุด ใช้โล่ติ๊นสดหรือแห้งประมาณ 1 กิโลกรัมตอ่ ปรมิ าณน้ำในบอ่ 100 ลกู บาศก์เมตร ทุบหรือ บดโลต่ น๊ิ ให้ละเอยี ดนำลงแชน่ ำ้ ประมาณ 1-2 ป๊ีบ ขยำโล่ติน๊ ให้นำ้ สขี าวออกมาหลายๆ ครงั้ จนหมด นำไปสาดให้ท่ัว บอ่ ปลาทีค่ า้ งอยู่ท่ีพ้ืน บ่อจะลอยหัวขึ้นมาภายหลังสาดโล่ติ๊นประมาณ 30 นาทีใชส้ วิงจับข้ึนมาบริโภคได้ ปลาท่ี เหลือตายพื้นบอ่ จะลอยในวนั รุ่งขึน้ ส่วนศัตรจู ำพวก กบ เขียด งู จะหนอี อกจากบอ่ ไป และก่อนปล่อยปลาลงเลี้ยง ควรทงิ้ ระยะไว้ประมาณวนั เพ่ือใหฤ้ ทธ์ิของโลต่ ิ๊นสลายตัวไปหมดเสยี ก่อน นอกจากใชโ้ ล่ตนิ๊ ในการกำจดั ศัตรูปลาใน บ่อแลว้ ยังอาจใชป้ ูนขาวและกากชาในการกำจัดศัตรู ปลาไดอ้ ีกดว้ ยใชก้ ากชา 2 กโิ ลกรัมตอ่ น้ำ 20 ลติ ร แช่ทิ้งไว้ ประมาณ 1 วัน หลังจากนนั้ ก็นำเฉพาะนำ้ ทีไ่ ด้ไปสาดให้ทว่ั บ่อทม่ี ีเนอ้ื ทข่ี องบอ่ ประมาณ 2 ไร่ 5.4 การลอกเลน มีความจำเปน็ ถ้าหากว่ามกี ารสะสมของเลนในพ้ืนบ่อปรมิ าณมาก แ ละการตากบอ่ เพียง อยา่ งเดียวอาจไมเ่ พียงพอ ดังนนั้ จงึ ต้องมีการลอกเลน ซ่งึ อาจมกี ารลอกเลนปีละคร้งั หรอื ทกุ 2 ปี 3 ปีหรือ 5 ปี ข้ึนอยกู่ บั สภาพการสะสมของเลนพื้นบ่อ การลอกเลนทำไดโ้ ดยการตากบอ่ ใหแ้ ห้งแล้วใช้รถแทรกเตอร์ดันเลนแห้ง ทบี่ รเิ วณผิวหน้าพ้นื บ่อขน้ึ ไปตบแต่งคั นบอ่ ให้แนน่ หนา 5.5 การนำนำ้ เขา้ บอ่ ใชอ้ วนตาถ่สี องช้นั หมุ้ ทป่ี ลายทอ่ นำน้ำเขา้ บอ่ เพ่อื กรองไขแ่ ละลูกปลาขนาดท่จี ะเข้า มาในบอ่ การใส่ปยุ๋ ปลานลิ เปน็ ปลาที่กินอาหารได้หลากหลายชนิด ในบอ่ เล้ยี งปลาควรให้มีอาหารธรรมชาติเกิด ขึ้นอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งให้ เกิดอาหารธรรมชาติจำพวกแพลงก์ตอนพืช (พืชน้ำขนาดเล็ก) เป็น อันดบั แรก ซ่ึงจะเหน่ยี วนำให้เกดิ อาหารธรรมชาติอ่ืนๆ ตามมา ไดแ้ ก่ แพลงกต์ อนสัตว์ ไรน้ำและตัวออ่ นของแมลง ปุ้ยทีใช้ได้แก่ มูลวัว ควาย หมู เป็ด ไก่ นอกจากมูลสัตว์แล้วอาจใช้ปุ้ยหมกั และฟางขา้ วหรือปุ้ยพืชสดต่างๆ ได้ เช่นกันการใส่ปุ๋ยคอกในระยะแรกควรใส่ประมาณ 250-300 กิโลกรัมต่อไร่ต่อเดือนส่วนในระยะหลังให้ลดลง ครง่ึ หนง่ึ โดยการสังเกตสีนำ้ ในบ่อ วธิ ี ใส่ปยุ๋ คอกควรตากให้แหง้ เสียก่อนเพราะป้ยุ สดจะทำให้มีแก๊สแอมโมเนียที่ เปน็ อนั ตรายต่อปลา การใสป่ ุ๋ยคอกใชว้ ธิ หี ว่านลงไปในบอ่ ส่วนปย้ หมกั หรอื ปุ้ยพชื สดควรกองสุมไว้ตามมมุ บ่อ 2-3

แหง่ โดยมไี มป้ ักล้อมเป็นคอกรอบกองป๊ยุ เพ่ือป้องกันมใิ ห้สว่ นท่ยี ังไมล่ ะลายตวั กระจัดกระจาย และในกรณีท่ีหาปุ้ย คอกไม่ได้กอ็ าจใช้ปุ๋ยวทิ ยาศาสตรส์ ูตร 15:15:15 ใส่ประมาณ 5 กโิ ลกรมั ต่อไร่ต่อเดือน นอกจากปุ๋ยวิทยาศาสตร์ แลว้ การเตรยี มบอ่ เลี้ยงปลานลิ ในปัจจุบัน ยังพบวา่ ปราชญอ์ า่ งทองมีการใส่ อามอิ ามิ สาดท่วั บอ่ (บ่อขนาด 25 ไร่) บ่อละ 100-200 ลิตร จะช่วยให้น้ำมีอาหารตามธรรมชาติเรว็ ขึน้ ปราชญ์จังหวัดสมุทรปราการมีการใส่น้ำหมัก ชีวภาพ ทุก 7-10 วัน เตรียมน้ำหมักชีวภาพโด ยผสม พด.2 และ พด 6อย่างละ 1 ซอง กับเศษผัก 20 กิโลกรมั เปลือกสับปะรด 4 กิโลกรัม กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม แล้วเติมน้ำจนได้ปริมาตร 100 ลิตร หมักนาน 15-20 วัน จากนัน้ นำนำ้ หมกั ชีวภ าพที่ได้ 20 ลิตร ผสมมลู ไก่ 25 กโิ ลกรัมกากน้ำตาล 4 ลติ ร น้ำ 50 ลติ ร หมักนาน 4 วนั แล้ว ผสมนำ้ 100 ลติ ร จากนั้นจงึ นำไปสาดให้ทัว่ บ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วนั จงึ ตรวจสอบคุณสมบัตขิ องน้ำ เชน่ ความ เปน็ กรดเป็นด่าง ความเปน็ ด่าง ความกระดา้ งและคามโปร่งแสงตวั อยา่ งการเตรยี มบ่อของปราชญ์จังหวัดชัยภูมิ การเตรียมบ่อเลี้ยงจะเหมือนกันกบั การเตรียมบ่ออนุบาลต่างกันตรงท่ีหลังจากหว่านปูนขาวปล่อยไว้ อาทิตย์แล้ว จะทำการหว่านขา้ วและปล่อยใหว้ ซั พืชเจริญเตบิ โตประมาณ 1 เดอื น จากนัน้ จะตัดต้นกล้าและวัชพชื ที่ข้ึนให้หมด นำตน้ กลา้ และวัชพืชท่ีไดไ้ ปทำป้ยุ หมักไวม้ มุ บ่อปลาเพ่ือเป็นแหลง่ อาหารธรรมชาติ โดยจะปักไม้ก้ันไม่ให้กองปุ๊ย หมกั กระจัดกระจาย วางต้นข้าวและวัชพชื สลับกบั ขวี้ วั แห้งเป็นชน้ั ๆ ใชข้ ้วี ัวแหง้ ประมาณ 100 กโิ ลกรัมตไ่ ร่จากน้ัน นำนำ้ เข้าประมาณ 30เซนติเมตร พกั ไว้ 1 อาทิตย์ เพมิ่ นำ้ อีกประมาณ 20 เซนติเมตรสงั เกตุสีน้ำถ้าเป็นสีขุ่นแก้ไข โดยใสปยุ๋ ยเู รยี 5-6 กโิ ลกรัมแตป่ กติจะเป็นสเี ขียวโดยไมต่ ้องใสป่ ุ๊ยยูเรีย(การทำปยุ๋ หมักนี้จะทำไปเรอื่ ยจนกว่าจะจับ ปลาจำหน่ายหากกองปุ้ยหมักเหลอื น้อยก็จะหาฟางหรือหญ้าท่ีตดั จากขอบบ่อมาทำป๋ยุ หมกั เพม่ิ โดยใช้ขี้วัวแห้งมา สลับชัน้ เหมอื นเดมิ )(สำนกั วิจยั และพัฒนาประมงน้ำจืดกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2554, น.16-17) 6.ผลผลติ ของปลานลิ ปลานลิ เป็นปลาท่มี ีการเจรญิ เติบโตเรว็ เมื่อได้รับการเลย้ี งดูอยา่ งถูกตอ้ งจะมขี นาดเฉลย่ี 500 กรัม ใน เวลา 1 ปี ผลผลติ ไม่นอ้ ยกว่า 500 กก./ไร/่ ปี ในกรณเี ลีย้ งในกระชังทคี่ ณุ ภาพนำ้ ดี มอี าหารสมทบอย่างสมบูรณ์ สามารถใหผ้ ลผลติ ไมน่ ้อยกวา่ 5 กโิ ลกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ชลานนท์ ชูสาด:ออนไลน)์ 6.พลงั งานลม พลังงานลมในปัจจุบนั 2 ทศวรรษแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกอ่ ให้เกดิ กังหันลมท่ีทันสมัยที่มี อุปกรณท์ ำงานร่วมกันไดแ้ ละติดต้งั ได้รวดเร็ว ในปจั จบุ ัน กงั หันลมสมยั ใหมเ่ พียงตัวเดียวมพี ลังมากกว่ากังหันลม ขนาดเท่ากันเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว 100 เท่า และปัจจุบันฟาร์มกงั หันลมใหพ้ ลังงานมากเท่ากับโรงไฟฟา้ ท่วั ไป ภายในตน้ พ.ศ. 2546 การติดต้ังพลงั งานลมสูงขึ้นสรู่ ะดบั 40,300 เมกะวัตต์ ซ่ึงใหพ้ ลังงานมากพอที่จะตอบสนอง ความต้องการของครัวเรือนท่ัวไปในยุโรปประมาณ 19 ล้านครัวเรือน ซึ่งใกล้เคียง 47 ล้านคน ในขณะที่ตลาด

พลังงานลมเตบิ โต พลงั งานลมมีคา่ ใช้จ่ายในการผลิตลดลง 50% ใน 15 ปที ีผ่ า่ นมา ปัจจุบนั กังหันลมในสถานที่ท่ี เหมาะสมทีส่ ุดสามารถแข่งขนั กับโรงไฟฟา้ พลังงานถา่ นหิน และในบางสถานท่สี ามารถเป็นคูแ่ ข่งกับก๊าซในขณะที่ ตลาดพลังงานลมเติบโต พลังงานลมมีค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลง 50% ใน 15 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันกังหันลมใน สถานท่ที ่ีเหมาะสมทสี่ ุดสามารถแขง่ ขันกับโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหนิ และในบางสถานที่สามารถเป็นคู่แข่งกับก๊าซ ได้ 6.1 ขอ้ ดขี องพลงั งานลม เปน็ มิตรต่อส่ิงแวดล้อม โดยลดระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ท่ีก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน นี่ เป็นประโยชน์ด้านส่ิงแวดล้อมทีส่ ำคัญที่สุดของการผลิตพลังงานลม นอกจากนี้พลังงานลมยังปราศจากสารก่อ มลพิษอนื่ ๆ ที่เกิดจากเชอื้ เพลิงฟอสซลิ และโรงไฟฟา้ นิวเคลียรอ์ ีกดว้ ย ภาพที่ 15 แสดงฟารม์ กงั หันลมนอกชายฝ่งั ในเดนมาร์ก ท่ีมา: Paul Langrock / Zenit / Greenpeace วันที่สืบค้น 30 สิงหาคม 2564

มีความสมดุลด้านพลงั งานท่ดี ีเย่ียม การปลอ่ ยก๊าซคาร์บอนไดออกไซตท์ ีเ่ กิดจากการผลติ ตดิ ต้งั และ ให้บรกิ ารของกงั หนั ลมที่มีช่วงอายโุ ดยเฉลยี่ 20 ปถี กู “ทดแทน” หลังดำเนนิ การผลติ 3-6 เดือน ซง่ึ เทา่ กับการผลติ พลงั งานมากกวา่ 19 ปีโดยแทบไมม่ ีคา่ ใช้จ่ายด้านสง่ิ แวดล้อมเลย ดำเนนิ งานได้รวดเร็ว ฟารม์ กงั หันลมสามารถสร้างเสรจ็ สิ้นภายในไมก่ ่ีสปั ดาห์ โดยใช้รถเครนติดต้งั หอคอย ของกังหนั ลม ส่วนเช่อื มตอ่ กบั ปกี หมุน (โครงยึด) และ ใบพัดเหนือฐานคอนกรีตเสรมิ กำลัง ด้วยเงินลงทุนท่ีเท่ากัน พลังงานลมสร้างงานมากกว่าเครอ่ื งปฏกิ รณน์ วิ เคลยี ร์ 5 เท่า และผลติ พลังงานไดม้ ากกวา่ 2.3 เทา่ เป็นแหล่งพลงั งานที่นา่ เช่ือถอื และนำกลับมาใชใ้ หม่ได้ เนอื่ งจากลมท่ใี ชข้ ับเคล่ือนกังหันลมไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดกาล และไมถ่ กู กระทบโดยราคาของเช้อื เพลิงฟอสซลิ ทข่ี ้ึนๆ ลงๆ นอกจากน้ยี ังไม่ต้องอาศัยการทำเหมือง ขุด เจาะ หรอื ขนส่งไปยังสถานีจา่ ยไฟฟ้า ในขณะทร่ี าคาเชื้อเพลิงฟอสซิลสูงข้ึน คณุ คา่ ของพลงั งานลมกส็ ูงข้ึนเช่นกัน ทำใหค้ ่าใช้จ่ายของการผลติ ไฟฟ้าโดยพลงั งานลมมีแต่จะลดลง นอกจากนใ้ี นโครงการใหญ่ๆ ทใ่ี ชก้ ังหนั ลมขนาดกลางทไ่ี ด้รบั การทดสอบประสิทธิภาพ จะมีศักยภาพใน การปฏิบัติงาน 98% อย่างสม่ำเสมอโดยอาศัยลม ซึ่งหมายถึงต้องซ่อมแซมเป็นระยะเวลาเพียง 2% ซึ่งเป็น ประสิทธภิ าพการทำงานที่สงู กวา่ ประสิทธิภาพทค่ี าดหวังไดจ้ ากโรงไฟฟ้าทวั่ ไปอยา่ งมาก 6.2 ความไมแ่ น่นอนของพลังงานลม ความไม่แนน่ อนของพลังงานลมสรา้ งปัญหาน้อยกว่าการจัดการสายส่งไฟฟา้ ที่ผสู้ งสยั ในเรื่องน้ีได้คาดไว้ มาก ความต้องการพลังงานทีข่ ้ึนลงไม่แน่นอนและความผิดพลาดจากโรงไฟฟ้าท่ัวไปที่จำเป็นต้องปอ้ งกันไม่ให้ เกดิ ข้นึ ทำใหต้ อ้ งอาศยั ระบบสายส่งไฟฟ้าทย่ี ืดหยุ่นมากกวา่ พลังงานลม และประสบการณ์การใช้งานจริงแสดงให้ เหน็ วา่ ระบบไฟฟา้ ในประเทศสามารถปฏบิ ตั งิ านส่งไฟฟ้าจากพลงั งานลมได้ ตัวอยา่ งเชน่ ในคืนวนั ลมแรง กงั หนั ลม ผลติ ไฟฟ้าไดส้ งู สุดถงึ 50% ในทางตะวันตกของเดนมาร์ก แตง่ านท่ีมากเช่นน้ันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจัดการได้ นอกจากนี้ การสร้างสายส่งไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงยังลดปัญหาความไม่แน่นอนของลม โดยทำให้ความเร็วลม เปลย่ี นแปลงในหลายๆ พืน้ ที่ เพอ่ื ทำใหแ้ ตล่ ะท่สี มดลุ ซง่ึ กันและกัน (Greenpeace Thailand, 2553: ออนไลน์) 7. แพ เเพ คือ น. ไมไ้ ผ่หรอื ซุงเปน็ ต้นทผี่ ูกมัดเรียงติดกันมาก ๆ สาํ หรับใช้เป็นพาหนะทางนํ้า หรือลอ่ งมาขาย เช่น แพไม้ไผ่ แพซงุ แพหยวกกล้วย โดยปรยิ ายหมายถงึ สง่ิ ที่ตดิ เน่อื งกันเป็นตบั อยา่ งแพ (ราชบัณฑิตยสถาน, 2554)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook