หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอื่ ง การสร้างมลู คา่ เพม่ิ ในการผลติ [ชอ่ื รองของเอกสาร] ศภุ สทิ ธ์ิ ดีรักษา วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแกว้
2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 เรอ่ื ง การสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ในการผลติ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง สาระสาคัญ โรงงานอุตสาหกรรมเกษตรใชผ้ ลผลิตทางดา้ นการเกษตรเปน็ หลกั เม่อื แปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์ แลว้ จะมีของเหลือส่วนหน่ึงจากกระบวนการแปรรูป หากมมี ลู ค่าสงู สามารถนาไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ ได้ เรยี กวา่ ผลพลอยได้ แตถ่ ้าของนนั้ มมี ูลคา่ ต่า ใชป้ ระโยชนไ์ ดน้ อ้ ย หรือขายใหธ้ ุรกจิ อ่นื ไมไ่ ด้ หรอื ราคาไมด่ ีเรยี กวา่ ของเหลอื การจัดการผลพลอยไดแ้ ละของเหลือ คือ การนามาใชป้ ระโยชนใ์ ห้ไดม้ าก ที่สุดสาหรบั ผลพลอยไดแ้ ละของเหลอื เพอื่ ลดปรมิ าณสารที่จะต้องกาจดั ก่อนปล่อยออกจากโรงงาน อตุ สาหกรรมเกษตรและเพอ่ื ใชท้ รัพยากรทมี่ อี ยใู่ หเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุด หวั ขอ้ เรอ่ื ง/ชอ่ื งาน 1. ผลท่ีได้จากอตุ สาหกรรมเกษตร 2. การใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยได้ 3. การใช้ประโยชนจ์ ากของเหลือ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แบ่งเป็น จุดประสงค์ท่วั ไป เพอื่ ใหน้ กั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ 1. ผลที่ไดจ้ ากอตุ สาหกรรมเกษตร 2. การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ 3. การใชป้ ระโยชนจ์ ากของเหลือ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (สมรรถนะทีค่ าดหวัง) นักเรียนสามารถ 1. บอกผลที่ไดจ้ ากอตุ สาหกรรมเกษตรไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม 2. บอกการใช้ประโยชนจ์ ากผลพลอยได้ได้อย่างถกู ต้อง และเหมาะสม 3. บอกการใช้ประโยชนจ์ ากของเหลือไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม 4. มีความความกระตือรอื รน้ และใฝ่ร้ใู นการเรยี น 5. มีความซื่อสตั ย์ ความรบั ผิดชอบ มวี นิ ยั และขยนั อดทน (ได้อยา่ งถูกต้อง คือ สมรรถนะ เหมาะสม คือ พอเพียง ข้อ 4,5 เปน็ คุณธรรม จรยิ ธรรม)
3 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เรือ่ ง การสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมในการผลิตจากอุตสาหกรรมเกษตร คาสงั่ : ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ท่ีสดุ เพียงข้อเดียว โดยเขียนเครื่องหมายกากบาท ( x ) ลงใน กระดาษคาตอบหนา้ อกั ษร ก ข ค หรือ ง 1. ข้อใดไมใ่ ช่ผลท่ไี ด้จากอตุ สาหกรรมเกษตร ? 6. ผลิตภัณฑ์ใดทไ่ี มไ่ ด้เกดิ จากอุตสาหกรรมสขี ้าว ? ก. ผลิตภณั ฑ์ ก. แปง้ ข้าว ข. ผลพลอยได้ ข. บะหม่ี ค. น้าเสยี ค. เส้นหม่ี ง. ของเหลือ ง. น้ามนั รา 2. จุดประสงคใ์ นการใชป้ ระโยชน์จากของเหลอื คือขอ้ ใด ? 7. ของเหลือใดท่นี ยิ มนาไปใชท้ าเปน็ เช้ือเพลิง ? ก. แสวงหากาไรเพ่ิมเตมิ ก. ราขา้ ว ข. ตัดปญั หาการกาจัดและทาลาย ข. ฟางขา้ ว ค. สรา้ งงานสร้างอาชีพ ค. ปลายข้าว ง. เพ่มิ ประสิทธภิ าพการผลติ ง. แกลบ 3. ผลพลอยไดแ้ ละของเหลือจากอตุ สาหกรรมผลิตนา้ ตาล 8. ของเหลือใดทีส่ ามารถนาไปแปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์ คือขอ้ ใด ? อาหารไดอ้ กี ? ก. นา้ ตาลทราย ก. ชานอ้อย ข. ข้าวสาร ข. ฟางขา้ ว ค. กากนา้ ตาล ค. กากนา้ ตาล ง. บะหมส่ี าเรจ็ รูป ง. ปลายขา้ ว 4. ขอ้ ใดไม่ใช่ปัจจัยในการพิจารณาเกีย่ วกับการนาเอาของ 9. Product หมายถงึ ข้อใด ? เหลือเปน็ วตั ถดุ บิ สาหรบั การผลิตผลิตภณั ฑ์ ? ก. ผลิตภณั ฑ์ ก. ชนดิ ของเหลอื และปริมาณท่ีมอี ยู่ ข. สินคา้ ข. ปรมิ าณของผลติ ภณั ฑท์ จ่ี ะได้รับ ค. อาหาร ค. ความตอ้ งการของตลาด ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู ง. ความยงุ่ ยากในกรรมวธิ ีการแปรรูป 10. ข้อใดเป็นของเหลือที่ได้จากโรงงานผลิตนา้ ตาล ? 5. ข้อใดไมจ่ ดั เปน็ ของเหลือจากโรงงานสีขา้ ว ? ก. ชานออ้ ย ก. แกลบ ข. น้าตาลทรายขาว ข. รา ค. น้าตาลทรายแดง ค. ข้าวสาร ง. นา้ ท้ิงจากการล้างเคร่อื งจักร ง. ปลายข้าว
4 เน้อื หา การสร้างมลู ค่าเพม่ิ ในการผลติ จากอตุ สาหกรรมเกษตร โดยวัสดเุ หลอื ใช้หรือของเสียจาก โรงงานอุตสาหกรรมเกษตร คือ ส่วนของวตั ถดุ บิ ซึ่งผู้ดาเนินการหรือเจ้าของกิจการเห็นวา่ การนาวัสดุ นัน้ มาทาการแปรรปู ใหเ้ ปน็ ผลผลติ แลว้ จะใหผ้ ลทไี่ มค่ ุม้ คา่ กับการลงทุน แตเ่ น่อื งจากปัญหาเก่ียวกับ สภาวะแวดลอ้ มในปัจจบุ นั ทาให้การกาจดั วสั ดุเหลือใชใ้ หอ้ ยใู่ นสภาพซง่ึ สามารถทิ้งออกจากโรงงาน ไดม้ ีราคาสูงมากขนึ้ เรอื่ ยๆ และผลเนอ่ื งจากสภาพทางเศรษฐศาสตร์ และเทคโนโลยซี งึ่ จะมีการ เปล่ียนแปลงตลอดเวลา จึงทาใหเ้ กิดการศึกษาการค้นคว้าวจิ ยั กันอยา่ งแพร่หลายมากขน้ึ ทจี่ ะนา วัสดุเหลอื ใชซ้ งึ่ เป็นผลติ ภณั ฑผ์ ลพลอยได้ จากโรงงานอตุ สาหกรรมเกษตรมาเป็นวัตถุดบิ เพอ่ื ใช้ผลติ เปน็ ผลิตภณั ฑ์ซึง่ อาจจะเปน็ การเพ่ิมรายไดแ้ ละช่วยลดตน้ ทนุ ในการกาจดั วสั ดุเหลือใชเ้ หล่านนั้ โดยมี จดุ ประสงคห์ ลกั เพอ่ื ลดปรมิ าณสารท่ีจะตอ้ งกาจดั ก่อนปล่อยออกจากโรงงานอุตสาหกรรม และเพอ่ื ใช้ ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด 1. ผลที่ได้จากการอตุ สาหกรรมเกษตร การผลติ ผลิตภณั ฑข์ องอตุ สาหกรรมเกษตรจะมีผลท่ีได้จากอตุ สาหกรรมเกษตร 3 อยา่ งคือ 1.1 ผลิตภัณฑ์ (Product) คือ สง่ิ ท่ีไดโ้ ดยตรงจากกรรมวธิ ีการแปรรูปจากวัตถุดิบ เปน็ ส่งิ ท่ี มีราคาสามารถขายได้ เชน่ นา้ ตาล ปลากระป๋อง น้ามนั พืช ผลไม้ดอง กิมจิ หมา่ แหนม ไวน์ เป็นต้น ซงึ่ เป็นจดุ ประสงค์หลกั ของการผลิต 1.2 ผลพลอยได้ (Byproduct) คือ สง่ิ ทไ่ี ดม้ าจากกรรมวธิ ีการแปรรปู จากวัตถุดิบ เป็นส่งิ ที่ สามารถนาไปทาผลติ ภณั ฑห์ รือเปน็ ส่ิงที่มีราคา ถงึ แมม้ ไิ ดด้ าเนนิ การตอ่ ไปกส็ ามารถขายไดร้ าคา เช่น กากน้าตาล กา้ งปลา เศษปลา ราข้าว ปลายข้าว เปน็ ต้น 1.3 ของเหลอื (Waste) คือ วัสดเุ หลือใช้ซึ่งเปน็ ผลติ ผลพลอยได้ จากอตุ สาหกรรมประเภท หนง่ึ เช่น อุตสาหกรรมน้าตาลใชอ้ อ้ ยเปน็ วัตถดุ ิบจะไดน้ า้ ตาลทรายขาวเป็นผลิตภัณฑ์ ของเหลอื คือ ชานอ้อย สว่ นโรงสขี า้ วผลิตภณั ฑ์ทไี่ ดค้ ือขา้ วสาร แกลบเปน็ ของเหลือ เป็นตน้ 2. การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ การผลิตผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมเกษตรซ่งึ ใชว้ ตั ถุดิบหลักจากผลิตผลการเกษตร นอกจากจะ ได้ผลิตภัณฑต์ ามตอ้ งการแลว้ ยังไดส้ ง่ิ อน่ื เรยี กวา่ ผลพลอยไดแ้ ละของเหลือเพม่ิ จากผลิตภณั ฑ์ ซึง่ โรงงานต้องหาทางใชป้ ระโยชน์ใหม้ ากทส่ี ดุ เพือ่ ทจี่ ะตดั ปัญหาในการกาจดั และทาลายและปอ้ งกนั มลภาวะอนั จะเกดิ ข้ึนกบั สภาพแวดลอ้ มตลอดจนเพ่ือให้เปน็ ไปตามข้อบงั คับการสขุ าภบิ าล และการ กาจดั ของเสยี ตามกฎหมาย อตุ สาหกรรมเกษตรจะมีของเหลอื เกดิ ขึน้ เป็นปรมิ าณมากในรปู ของแขง็ ของเหลวและน้าเสีย จากโรงงาน ซ่งึ จะตอ้ งหาวิธีใช้ประโยชนก์ ่อนที่จะกาจัดทงิ้ การใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยได้มหี ลัก การพิจารณาดังนี้ 2.1 ปริมาณของผลพลอยไดซ้ ง่ึ จะนาไปใช้เป็นวตั ถดุ ิบในการผลติ 2.2 กรรมวธิ ใี นการผลิตไม่ซบั ซ้อนยุ่งยากและเสยี คา่ ใชจ้ ่ายสงู 2.3 ทุนทตี่ ้องใชเ้ พ่ือจดั หาเคร่อื งมืออปุ กรณใ์ นการผลิต
5 2.4 ปรมิ าณผลติ ภณั ฑ์ทจ่ี ะไดร้ ับ และความต้องการของตลาดต่อผลิตภณั ฑ์ การท่จี ะใช้ ประโยชนจ์ ากผลพลอยได้ด้วยการผลิตผลติ ภณั ฑ์ จึงต้องมีโรงงานอตุ สาหกรรมชนิดตา่ งๆ อยู่รวมกนั เป็นกลมุ่ เชน่ อตุ สาหกรรมสีข้าว ขา้ วแปรูปของไทยในระดบั อตุ สาหกรรมไดม้ กี ารพัฒนาความหลาก หลายของชนดิ ผลิตภัณฑ์เพ่ือตอบสนองตอบตอ่ ความตอ้ งการของตลาดมากขึน้ ท่สี าคญั ไดแ้ ก่ 2.4.1 แปง้ ขา้ ว (Rice Flour ) นับได้วา่ เป็นผลติ ภณั ฑ์ทมี่ ีศกั ยภาพสงู เนื่องจากปจั จบุ ัน การผลิตขนม และขนมขบเคี้ยวต่างๆ ของไทย แปง้ ขา้ วของไทย จงึ มีความสาคญั นอกจากผลติ เพ่ือ การสง่ ออกแล้วน้ันยังเป็นผลิตภัณฑท์ ีส่ ามารถใชท้ ดแทนแปง้ ข้าวสาลไี ด้เปน็ อย่างดี 2.4.2 ผลติ ภัณฑเ์ สน้ การพัฒนานวัตกรรมการผลติ ของผปู้ ระกอบการไทยอยา่ งต่อเน่ือง ประเภทของผลติ ภัณฑอ์ าหารเส้นจะมที ้ังเสน้ สด เสน้ แหง้ และเส้นกงึ่ สาเร็จรูป โดยเสน้ สดสว่ นใหญจ่ ะ เปน็ การผลติ เพ่อื บรโิ ภคในประเทศ ส่วนเส้นแหง้ และเสน้ กง่ึ สาเร็จรปู นอกจากผลิตเพ่ือบริโภคภายใน ประเทศยังเป็นอุตสาหกรรมการส่งออกที่มคี วามสาคัญและมีการเตบิ โตมาโดยตลอด 2.4.3 สตารช์ ขา้ ว (Starch) เป็นแป้งท่ผี ่านการแยกสว่ นของโปรตนี และอนื่ ๆ ออกจนมี ความบรสิ ุทธิ์ของแปง้ สูงมาก จากแปง้ บรสิ ทุ ธิ์สามารถนามาผลติ เปน็ แปง้ ดดั แปร (Modified Starch) ทมี่ ีคณุ สมบัตกิ ารไหลที่ดี ปจั จบุ ันเปน็ อตุ สาหกรรมท่ีสาคญั ในกล่มุ ผู้ผลิตแปง้ ข้าว เนอื่ งจากเป็นสนิ คา้ มลู คา่ เพ่ิมสงู โดยมุง่ เนน้ กล่มุ ตลาดเพ่ือการส่งออก 2.4.4 อาหารประเภทพองกรอบ (Expanded Product) ไดแ้ ก่ ขนมปังอบกรอบอาราเร่ (Arare) วตั ถุดิบการผลติ จะมาจากข้าวเหนียวและเซมเบ่ (Senbei) ผลติ มาจากขา้ วเจ้าที่มีอะมโิ ลสตา่ การผลิตสว่ นใหญ่จะเปน็ การผลิตเพือ่ การสง่ ออก 2.4.5 ขา้ วก่งึ สาเร็จรูป (Quick Cooking Rice or Instant Rice) มีหลายรปู แบบ เช่น Cup Rice , Sanding Rice และ Simmering Rice , Saute Rice , Boil in Bag ซึ่งในปัจจบุ ันกาลัง กลายเป็นผลติ ภัณฑ์ทางเลอื กหนง่ึ ของผบู้ ริโภคยุคใหม่ ท่ีต้องการความสะดวกสบายมากยิง่ ขน้ึ โดย พบว่ามกี ารขยายตัวทงั้ ในตลาดในประเทศและตลาดส่งออก 2.4.6 ข้าวกล้องงอกกาบา (Gaba Rice) เปน็ การนาข้าวกล้องมาผ่านกระบวนการงอก ทาใหช้ ่วยเพมิ่ ปรมิ าณสารกาบาในขา้ วกลอ้ ง สารกาบาจะชว่ ยบารงุ เซลลป์ ระสาท ในระบบประสาท ส่วนกลาง และสารกาบายังเป็นสารส่ือประสาทประเภทสารยบั ย้ัง โดยจะทาหนา้ ท่รี กั ษาสมดลุ ใน สมอง ช่วยทาให้สมองผอ่ นคลายและนอนหลับสบาย อีกทง้ั ยังทาหนา้ ทชี่ ่วยกระต้นุ ตอ่ มไร้ทอ่ ซึง่ ทา หนา้ ท่ีผลิตฮอรโ์ มนทชี่ ่วยในการเจรญิ เตบิ โต ทาให้เกิดการสรา้ งเน้อื เย่ือ ทาใหก้ ล้ามเนอื้ กระชบั และ ปอ้ งกันการสะสมไขมนั ขา้ วกล้องงอกท่ีมีสารกาบามากกวา่ ข้าวกล้องปกติ 15 เทา่ จะสามารถป้องกัน การทาลายสมอง และโรคสญู เสยี ความทรงจา ดงั นั้น จงึ ไดม้ กี ารนาสารกาบา มาใช้ในวงการแพทย์ เพอ่ื การรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทตา่ งๆ การรับประทานข้าวกล้องงอกยงั ช่วยลดความเส่ียงจาก โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ช่วยระบบยอ่ ยอาหาร นอนหลับสบาย และชว่ ยควบคุมน้าหนกั ตัวได้ดว้ ย แถมยงั ชว่ ยชะลอการเส่ือมสภาพของเซลล์ ไม่ใหแ้ กก่ อ่ นวัย (วนดิ า, 2552) อตุ สาหกรรมสขี ้าว จะไดป้ ลายข้าว และรา เปน็ ผลพลอยได้ จะตอ้ งมโี รงงานอุตสาหกรรม ทาแป้ง และผลติ ภณั ฑจ์ ากแป้ง เชน่ โรงงานทาเส้นหมี่ เส้นกว๋ ยเตยี๋ ว โรงงานสกดั นา้ มันรา หรอื โรงงานผลติ อาหารสตั ว์ เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพที่ 8.1
ผลติ ภณั ฑ์จากฟางข้าว ต้นข้าว 6 ข้าวเปลือก เผาอิฐ เพาะเห็ดฟาง ฟางขา้ ว แกลบ อาหารสัตว์ โรงสขี า้ ว อาหารสตั ว์ ราขา้ ว ขา้ วสาร ปลายข้าว นา้ มนั ราขา้ ว แปง้ จากข้าว อาหารจากข้าว ภาพที่ 8.1 การใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยไดแ้ ละของเหลือจากอตุ สาหกรรมสีข้าว ท่มี า : ดัดแปลงมาจาก ประภาพร, 2552.
7 3. การใชป้ ระโยชน์จากของเหลือ โดยท่วั ไปโรงงานทกุ แห่งพยายามจะใช้ประโยชนจ์ ากของเหลือใหไ้ ดม้ ากทีส่ ดุ เพ่ือเปน็ การลดค่าใช้จา่ ยในการกาจดั ทงิ้ ลง โดยต้งั จุดประสงค์ในการใชป้ ระโยชน์ 3 ประการดงั ตอ่ ไปนี้ 3.1 ใชเ้ ป็นเช้อื เพลิง เชน่ โรงงานน้าตาลทรายใชช้ านอ้อยท่เี ป็นของเหลอื จากการหบี อ้อยเป็นเชือ้ เพลงิ วทิ ยาการเก่ียวกบั แกส๊ ชีวภาพและการนาไปใช้ประโยชน์ เปน็ ท่สี นใจในปัจจบุ นั เพราะเปน็ การนาเอาของเหลือมาใช้ประโยชน์เปน็ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและควบคุมสภาวะ แวดล้อมไมใ่ หเ้ กิดผลภาวะขึ้น ทงั้ ยงั เปน็ การรักษาความสะอาดใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะ 3.2 ทาเปน็ ปุ๋ยหมัก (Compose) ถึงแม้วา่ จะใช้ของเหลอื เปน็ เชื้อเพลงิ โดยตรงแลว้ ก็ ตาม ก็ยังมเี หลือมากทจี่ ะตอ้ งการกาจัดท้ิง ซึง่ เป็นการเสียค่าใชจ้ า่ ยโดยไม่มผี ลตอบแทนทางตรง เชน่ นาเอาไปหมักเพื่อผลติ แก๊สชีวภาพ นอกจากจะไดแ้ กส๊ เป็นเช้อื เพลิงแล้ว กากที่เหลอื จากการ หมักยังนาไปใช้เป็นปยุ๋ ไดด้ ้วย หากไมไ่ ด้นาไปหมักเพือ่ ผลติ แก๊สชีวภาพ ยงั มีวธิ ีการใชป้ ระโยชนข์ อง เหลือเหลา่ น้อี ีกวิธีหนึง่ คอื การทาปุ๋ยหมกั เพ่ือจาหน่ายแก่เกษตรกรราคาตา่ เปน็ การชว่ ยบารงุ ดิน และเพม่ิ ธาตอุ าหารแกพ่ ชื ซึ่งจะส่งผลกลับมายังโรงงานในรปู ของวตั ถุดิบท่ีมีคุณภาพสงู 3.3 ผลิตเป็นผลิตภณั ฑต์ า่ งๆ การใชข้ องเหลือเปน็ วัตถดุ ิบสาหรบั ผลติ ผลิตภัณฑน์ ้นั จะ ต้องพิจารณาถึงปจั จัยตา่ งๆ เหล่านี้ประกอบด้วย ชนดิ ของของเหลือ และปรมิ าณทม่ี อี ยู่ ตน้ ทนุ ใน การใช้ของเหลือเพอ่ื ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ความยงุ่ ยากในกรรมวธิ แี ปรรูป ความต้องการของตลาด ตัวอย่างการผลติ นา้ ตาลทรายจากอ้อยมขี องเหลือและผลพลอยไดเ้ กดิ ข้ึนหลายอยา่ ง ได้แก่ ชานออ้ ย กากตะกอน และกากน้าตาล ทงั้ น้าตาลและผลพลอยไดส้ ามารถนามาใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ ง กว้างขวาง.(ดงั แสดงในภาพท่ี.8.2).เชน่ 3.3.1 ใชเ้ ปน็ อาหารมนษุ ย์ สว่ นของลาต้นทเี่ ก็บน้าตาล สามารถนามาเป็นอาหาร ของมนุษย์ไดเ้ ชน่ ทาเป็นออ้ ยคว่นั หรือบบี เอาน้าอ้อยเพอ่ื บรโิ ภคโดยตรงหรือทาเปน็ ไอศกรีม ผลิต น้าตาล โดยน้าตาลส่วนใหญท่ ี่ไดจ้ ากออ้ ยเป็นน้าตาลซูโครส นอกจากนก้ี ม็ ีน้าตาลกลูโคส และนา้ ตาล ฟรักโทสอยดู่ ้วย นา้ ตาลจากออ้ ยมชี ือ่ เรยี กตา่ งๆ กันตามความบริสทุ ธิแ์ ละกรรมวธิ ีในการผลิตเชน่ น้าตาลแดงหรอื นา้ ตาลทรายแดง นา้ ตาลดบิ หรือนา้ ตาลทรายดบิ น้าตาลทรายขาว นา้ ตาลทราย บริสทุ ธิ์ หรอื น้าตาลทรายขาวบริสุทธ์ิ เปน็ ต้น 3.3.2 ใช้เป็นอาหารสตั ว์ ใบ ยอด และสว่ นของลาตน้ ที่ยงั ออ่ นใช้เปน็ อาหารสตั ว์ เช่น ววั ควายไดโ้ ดยตรง หรือสว่ นชานอ้อยถ้าใหส้ ัตวก์ ินโดยตรงมักจะเกิดปญั หาเกย่ี วกับรสชาติ การ ย่อยของสตั ว์ ตลอดจนมอี ตั ราสว่ นต่าระหวา่ งอาหารทีส่ ตั วก์ นิ กับนา้ หนกั ตวั ท่เี พม่ิ วิธีที่ดกี ค็ ือนามา หมักก่อนท่ีจะใหส้ ัตว์กิน 3.3.3 ใชเ้ ปน็ เช้ือเพลิง ใบออ้ ยแหง้ (Trash) จะเปน็ แหลง่ ของพลังงานชีวมวล และ เช้อื เพลิงทีส่ าคัญทัง้ น้ีเพราะใบออ้ ยแห้งใหพ้ ลงั งานคอ่ นขา้ งสงู มาก 3.3.4 ใช้เปน็ วัตถคุ ลุมดินหรอื บารงุ ดิน ใบอ้อยแหง้ เมื่อใช้คลุมดนิ จะช่วยรักษาความ ชนื้ และปอ้ งกันวชั พชื ด้วย ในขณะเดยี วกนั กจ็ ะกลายเปน็ อาหารของจลุ นิ ทรยี ์ต่างๆ
8 กระดาษและไมอ้ ดั ไรอ่ อ้ ย ป๋ยุ ชวี ภาพปลกู พชื อาหารสตั ว์ กากน้าตาล ชานออ้ ย โรงงานผลิตน้าตาล อาหารสัตว์ ปยุ๋ หมกั โรงงานผลติ เอทานอล ผลติ ภณั ฑ์นา้ ตาล ปลูกพืช นา้ มนั E-20, E-85 ภาพท่ี 8.2 การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้และของเหลือจากอุตสาหกรรมการผลติ นา้ ตาล ท่ีมา : ดดั แปลงมาจาก ประภาพร, 2552.
9 3.3.5 กากนา้ ตาล เป็นของเหลวมลี ักษณะเป็นน้าเชือ่ มสีน้าตาลเข้ม สามารถนามาใช้ ประโยชนไ์ ดก้ วา้ งขวางกว่าผลพลอยได้ชนิดอนื่ ๆ.ทงั้ หมด.เชน่ 1)”ใชท้ าปยุ๋ ..ทาป๋ยุ น้าชวี ภาพบาบัดน้าเสยี 2) การใชเ้ ปน็ อาหารสัตว์สาหรบั สตั วเ์ ค้ียวเอื้อง ใชเ้ ล้ียงสตั ว์ ซง่ึ กากนา้ ตาล นอกจากจะชว่ ยเพมิ่ รสชาตแิ ก่อาหารแลว้ ยงั ชว่ ยกระตนุ้ การทางานของบัคเตรีในกระเพาะซ่งึ จะชว่ ย ยอ่ ยอาหารหยาบเช่น..โค..กระบือ..แพะ 3)”ใช้ในอตุ สาหกรรมยสี ต.์ .หรอื จะใชท้ าผงชรู ส 4) ใชผ้ ลติ แอลกอฮอล์ กระทาได้โดยนาเอากากนา้ ตาลมาทาให้เจอื จางดว้ ย น้า แล้วหมกั โดยใชเ้ ช้ือยสี ตพ์ วก Saccharomyces cerevisiae เปล่ยี นนา้ ตาลไปเป็นแอลกอฮอล์ จากนน้ั ก็นามากลน่ั แยกแอลกอฮอลอ์ อก ซึง่ จะได้แอลกอฮอล์ท่มี ีความบริสทุ ธ์ิประมาณ รอ้ ยละ 95 โดยกากน้าตาลหนัก 1 ตนั จะให้แอลกอฮอลป์ ระมาณ 340 ลิตร (พิมพ์เพญ็ , 2553) กระบวนการหมัก น้าตาลไปเป็นแอลกอฮอล์ ดงั แสดงในภาพท่ี 8.3 นา้ ตาล ยสี ต์ แอลกอฮอล์ คารบ์ อนไดออกไซด์ ภาพท่ี 8.3 กระบวนการหมักน้าตาลไปเป็นแอลกอฮอล์ ทม่ี า : พิมพ์เพญ็ , 2553. กากนา้ ตาลทเี่ หลอื จากกระบวนการผลิตนา้ ตาลในโรงงานผลิตน้าตาลของประเทศไทย สว่ น ใหญส่ ง่ ออกจาหนา่ ยต่างประเทศ หากได้นามาใชป้ ระโยชน์โดยเฉพาะใชผ้ ลิตแอลกอฮอลเ์ พ่ือนามาใช้ เป็นพลงั งานเชื้อเพลิง ก็จะไดป้ ระโยชนม์ ากกวา่ การส่งเป็นสนิ ค้าออก สรุป การสรา้ งมลู ค่าเพิ่มในการผลติ จากอุตสาหกรรมเกษตร โดยวัสดุเหลอื ใช้หรอื ของเหลือ จากโรงงาน อุตสาหกรรมเกษตร ซึง่ ผูด้ าเนนิ การเหน็ ว่าการนาวสั ดุนน้ั มาทาการแปรรูปให้เปน็ ผลผลิตแล้ว จะ ให้ผลที่ไม่คุม้ คา่ กับการลงทนุ ทาให้เกดิ การศกึ ษา การคน้ ควา้ วิจัยกนั อย่างแพรห่ ลายมากขึ้นทีจ่ ะนา วัสดเุ หลือใช้ซง่ึ เป็นผลติ ภณั ฑผ์ ลพลอยได้ จากโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรมาเป็นวตั ถุดบิ เพอื่ ใช้ ผลิตเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ซึ่งอาจจะเปน็ การเพมิ่ รายได้และชว่ ยลดตน้ ทุนในการกาจดั วสั ดุเหลอื ใชโ้ ดยมี จดุ ประสงค์หลกั เพ่ือลดปริมาณสารท่ีจะตอ้ งกาจดั กอ่ นปล่อยออกจากโรงงานอุตสาหกรรม และเพื่อ ใชท้ รัพยากรทม่ี อี ยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ เพ่อื ตัดปัญหาในการกาจัดและทาลายและป้องกนั มลภาวะ อันจะเกดิ ข้ึนกบั สภาพแวดลอ้ ม ตลอดจนให้เปน็ ไปตามขอ้ บงั คบั การสุขาภบิ าล และการกาจดั ของ เสียตามกฎหมาย
10 กิจกรรมหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่ือง การสร้างมลู คา่ เพมิ่ ในการผลิตจากอุตสาหกรรมเกษตร 1. การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ วัสดุ อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการเรียนรู้ 1.1 รูปภาพและสื่อนาเสนอ Power Point 1.2 กระดาษ A4 1.3 ปากกาเคมี 1.4 ใบมอบหมายงานที่ 8 2. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ 2.1 แบ่งนักเรียนออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 3-5 คน ตามความเหมาะสม 2.2 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ศกึ ษาเนอ้ื หา เรอ่ื ง การสรา้ งมูลคา่ เพิม่ ในการผลติ จาก อุตสาหกรรมเกษตร 2.3 นกั เรยี นชว่ ยกนั วิเคราะหแ์ ละสรุปเนื้อหาเกย่ี วกับ การสรา้ งมลู คา่ เพิ่มในการผลติ จาก อตุ สาหกรรมเกษตร 2.4 บันทกึ ผลลงใบมอบหมายงานท่ี 8 ทคี่ รูแจกให้ 3. กิจกรรมเสนอแนะ 3.1 ครูทบทวนเนื้อหาที่สาคัญ โดยใช้ส่ือประกอบ เช่น แผน่ ภาพ 3.2 ชแี้ จงการปฏิบตั งิ านและการบรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี งเขา้ กบั เน้ือหาการเรียนรู้ 3.3 แบ่งหน้าที่ใหท้ ุกคนในกลุ่มมีหน้าทีร่ บั ผดิ ชอบอยา่ งชัดเจน 4. เครอ่ื งมือการวดั ประเมนิ ผล 4.1 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ 4.2 แบบประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานที่ 8 5. เกณฑ์การวดั ประเมินผล 5.1 ประเมนิ พฤติกรรมกลุ่ม 5.2 ประเมินขั้นตอนการปฏิบัติงานและผลงานในแบบมอบหมายงานที่ 8 5.3 คะแนนผ่านเกณฑ์ประเมนิ ตา่ สุดรอ้ ยละ 50
11 ใบมอบหมายงานท่ี 6 เร่ือง การสรา้ งมูลค่าเพมิ่ ในการผลติ ชอ่ื – สกลุ ..............................................เลขท.ี่ ............ชนั้ ปวช.............คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ให้นักเรียนช่วยกนั วเิ คราะหห์ ัวข้อดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 ผลพลอยไดแ้ ละของเหลอื จากอตุ สาหกรรมเกษตร (2 คะแนน) ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. . 1.2 กรรมวิธีการนาวสั ดเุ หลอื ใชจ้ ากอตุ สาหกรรมเกษตรมาใชป้ ระโยชน์ (3 คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. . 1.3 การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้และของเหลอื (3 คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี งในการปฏิบตั งิ าน (2 คะแนน) 2.1 พอประมาณ............................................................................................................................ 2.2 มีเหตุผล................................................................................................................................... 2.3 มีภูมิคุ้มกนั ............................................................................................................................... 2.4 ความร.ู้ .................................................................................................................................... 2.5 คุณธรรม..................................................................................................................................
12 แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง การสร้างมลู ค่าเพมิ่ ในการผลิต ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปน้ใี หไ้ ดใ้ จความถกู ต้องสมบรู ณ์ 1. ผลพลอยไดแ้ ละของเหลอื มคี วามแตกตา่ งกันอยา่ งไร ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. การใช้ประโยชนข์ องผลพลอยไดจ้ ากอตุ สาหกรรมสีขา้ วมีอะไรบ้าง ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. การใชป้ ระโยชน์ผลพลอยไดข้ องน้าตาลมีอะไรบา้ งยกตัวอยา่ ง ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. จงอธบิ ายการใชป้ ระโยชน์จากของเหลอื ในอตุ สาหกรรมเกษตรพอสงั เขป ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. มกี ารนากากน้าตาล (Molasses) มาใชท้ าประโยชน์ต่อการเกษตรอย่างไร ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
13 7. การผลิตน้าตาลทรายจากออ้ ยมผี ลพลอยไดอ้ ะไรบา้ ง ? ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
14 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เร่อื ง การสร้างมลู คา่ เพิม่ ในการผลติ คาส่งั : ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว โดยเขยี นเครอ่ื งหมายกากบาท ( x ) ลงใน กระดาษคาตอบหน้าอกั ษร ก ข ค หรือ ง 1. ข้อใดไมจ่ ดั เป็นของเหลือจากโรงงานสขี ้าว ? 6. ขอ้ ใดเปน็ ของเหลือที่ได้จากโรงงานผลิตนา้ ตาล ? ก. ขา้ วสาร ก. น้าตาลทรายแดง ข. แกลบ ข. นา้ ตาลทรายขาว ค. รา ค. ชานอ้อย ง. ปลายขา้ ว ง. นา้ ท้งิ จากการล้างเคร่อื งจกั ร 2. ขอ้ ใดไมใ่ ชผ่ ลท่ีได้จากอุตสาหกรรมเกษตร ? 7. ผลติ ภณั ฑ์ใดทไ่ี ม่ได้เกิดจากอุตสาหกรรมสขี า้ ว ? ก. น้าเสีย ก. แปง้ ขา้ ว ข. ผลติ ภัณฑ์ ข. เส้นหม่ี ค. ผลพลอยได้ ค. น้ามนั รา ง. ของเหลอื ง. บะหมี่ 3. จุดประสงค์ในการใชป้ ระโยชนจ์ ากของเหลือคือขอ้ ใด ? 8. ของเหลอื ใดท่นี ยิ มนาไปใชท้ าเปน็ เชอื้ เพลิง ? ก. แสวงหากาไรเพ่มิ เตมิ ก. ราข้าว ข. สรา้ งงานสร้างอาชีพ ข. แกลบ ค. เพิ่มประสทิ ธภิ าพการผลติ ค. ฟางขา้ ว ง. ตดั ปญั หาการกาจดั และทาลาย ง. ปลายขา้ ว 4. ผลพลอยได้และของเหลอื จากอุตสาหกรรมผลิตนา้ ตาล 9. ของเหลือใดทีส่ ามารถนาไปแปรรูปเปน็ ผลติ ภัณฑ์ คอื ขอ้ ใด ? อาหารได้อกี ? ก. กากน้าตาล ก. ชานอ้อย ข. นา้ ตาลทราย ข. ปลายข้าว ค. ข้าวสาร ค. ฟางขา้ ว ง. บะหม่ีสาเร็จรปู ง. กากน้าตาล 5. ข้อใดไม่ใช่ปจั จัยในการพิจารณาเกยี่ วกบั การนาเอาของ 10. Product หมายถงึ ข้อใด ? เหลือเป็นวัตถดุ ิบสาหรบั การผลติ ผลิตภณั ฑ์ ? ก. อาหาร ก. ชนดิ ของเหลอื และปริมาณทม่ี อี ยู่ ข. สินค้า ข. ปรมิ าณของผลิตภณั ฑท์ ่ีจะไดร้ บั ค. ผลิตภัณฑ์ ค. ความยุงยากในกรรมวิธกี ารแปรรปู ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก ง. ความต้องการของตลาด
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: