หน่วยที่ 3 โครงสร้างเครอื ขา่ ยจัดทาโดยนางสาว กานต์ธดิ า แชม่ เครอืปวส.2 คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ (ม.6)วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาเพชรบุรี
3.1 ลักษณะการเชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ย 1. โทโปโลยีแบบบัส เปน็ โทโปโลยีท่ีได้รับความนยิ มใช้กันมากที่สุดมาต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจบุ ัน ลักษณะการทางานของเครือขา่ ย โทโปโลยแี บบบสั คืออปุ กรณ์ทกุ ชนิ้ หรือโหนดทกุ โหนดในเครือข่ายจะตอ้ งเชื่อมโยงเข้ากับสายส่ือสารหลกั ทเี่ รียกวา่ ”บัส” (BUS) เม่ือโหนดหน่ึงตอ้ งการจะสง่ ขอ้ มลู ไปให้ยงั อีกโหนด หน่งึ ภายในเครอื ข่าย จะต้องตรวจสอบให้แนใ่ จก่อนวา่ บัสวา่ งหรือไม่ถ้าหากไม่วา่ งกไ็ มส่ ามารถจะส่งข้อมลู ออกไปได้ ท้ังน้ีเพราะสายสอื่ สารหลักมีเพียงสายเดียว ในกรณที ีม่ ีข้อมูลวิง่ มาในบัส ข้อมลู นีจ้ ะวง่ิ ผา่ นโหนดต่างๆ ไปเร่อื ยๆ ในขณะทแ่ี ตล่ ะโหนดจะคอยตรวจสอบขอ้ มลู ทผ่ี ่านมาว่าเป็นของตนเองหรอื ไม่ หากไมใ่ ช่ กจ็ ะปล่อยให้ขอ้ มลู วง่ิ ผา่ นไป แต่หากเลขท่ีอยู่ปลายทาง ซึ่งกากับมากับข้อมูลตรงกบั เลขทอี่ ยขู่ องของตน โหนดนน้ั กจ็ ะรบั ขอ้ มูลเขา้ ไป*ข้อดี*1.ใช้สายสง่ ขอ้ มลู น้อยและมรี ปู แบบทง่ี ่ายในการติดตง้ั ทาให้ลดค่าใช้จ่ายในการตดิ ต้งั และบารุงรักษา2. สามารถเพ่ิมอุปกรณช์ ิ้นใหมเ่ ขา้ ไปในเครอื ข่ายไดง้ ่าย*ขอ้ เสยี *1. ในกรณีทเ่ี กิดการเสียหายของสายสง่ ขอ้ มลู หลกั จะทาให้ทัง้ ระบบทางานไมไ่ ด้2. การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดทาได้ยาก ตอ้ งทาจากหลาย ๆจดุ
2. โทโปโลยีแบบดาว เปน็ รปู แบบท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกเครอื่ งท่ีเชื่อมต่อเข้าด้วยกนั ในเครือขา่ ย จะตอ้ งเชอ่ื มตอ่ กบั อุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งท่ีเรียกวา่ ฮับ (HUB) หรือสวิตช์ (Switch) หรือเคร่อื ง ๆ หนึ่ง ซงึ่ ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ศูนย์กลางของการเช่ือมตอ่ สายสัญญาณท่ีมาจากเคร่ืองตา่ ง ๆ ในเครือข่าย และควบคมุ เส้นทางการส่อื สาร ทงั้ หมด เม่อื มเี คร่อื งทีต่ อ้ งการสง่ ข้อมลู ไปยังเครือ่ งอื่น ๆที่ต้องการในเครือขา่ ย เครือ่ งนัน้ กจ็ ะต้องส่งขอ้ มลู มายงั HUB หรอื เครอ่ื งศนู ย์กลางก่อน แล้ว HUBก็จะทาหน้าท่ีกระจายขอ้ มลู นนั้ ไปในเครือขา่ ยตอ่ ไป *ข้อดี* – การติดตงั้ เครือขา่ ยและการดูแลรักษาทา ไดง้ า่ ย หากมีเครื่องใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบไดง้ ่าย และศูนย์ กลางสามารถตดั เครอ่ื งท่ีเสียหายน้ันออกจากการส่ือสาร ในเครือขา่ ยไดเ้ ลย โดยไมม่ ีผลกระทบกับระบบเครือขา่ ย *ข้อเสยี * – เสยี คา่ ใชจ้ ่ายมาก ทง้ั ในด้านของเคร่ืองท่จี ะใช้เป็น เครอ่ื งศูนย์กลาง หรอื ตวั HUB เองและค่าใช้จา่ ยในการติดต้งั สายเคเบิลในเครือ่ งอ่ืน ๆ ทกุ เครือ่ ง การขยายระบบให้ใหญข่ นึ้ ทาได้ยากเพราะการขยายแตล่ ะครั้ง จะตอ้ งเกีย่ วเนอื่ งกับเครื่องอ่ืนๆ ทงั้ ระบบ
3. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING) เป็นรูปแบบที่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทกุ เครื่องในระบบเครอื ขา่ ยท้ังเครอ่ื งทเ่ี ปน็ ผใู้ ห้บรกิ าร( Server) และ เครอ่ื งทีเ่ ปน็ ผู้ขอใช้บรกิ าร(Client) ทกุ เครื่องถกู เช่ือมต่อกนั เปน็ วงกลม ข้อมลู ขา่ วสารทส่ี ่งระหวา่ งกนั จะไหลวนอยใู่ นเครือขา่ ยไปใน ทิศทางเดียวกนั โดยไม่มจี ดุ ปลายหรอื เทอรม์ เิ นเตอร์เช่นเดยี วกับเครือขา่ ยแบบ BUS ในแตล่ ะโหนดหรือแต่ละเคร่ืองจะมีรพี ีตเตอร์ (Repeater) ประจาแตล่ ะเคร่ือง 1 ตวั ซึง่ จะทาหน้าทเ่ี พิ่มเตมิ ขอ้ มูลท่จี าเปน็ ต่อการติดต่อส่อื สารเขา้ ในส่วนหัวของแพ็กเกจท่ีส่ง และตรวจสอบข้อมูลจากสว่ นหวั ของ Packet ทีส่ ง่มาถึง ว่าเป็นข้อมลู ของตนหรือไม่ แตถ่ ้าไม่ใช่กจ็ ะปลอ่ ยขอ้ มลู นนั้ ไปยงั Repeater ของเคร่อื งถดั ไป*ขอ้ ดี*1.ผสู้ ่งสามารถส่งขอ้ มลู ไปยังผรู้ ับได้หลาย ๆ เคร่ืองพรอ้ ม ๆ กัน โดยกาหนดตาแหน่งปลายทางเหลา่ นน้ั ลงในส่วนหัวของแพ็กเกจข้อมูล Repeaterของแต่ละเครอ่ื งจะทาการตรวจสอบเองว่าขอ้ มลู ท่สี ง่ มาให้นน้ั เปน็ ตนเองหรอื ไม่2. การส่งผา่ นข้อมูลในเครือข่ายแบบ RING จะเปน็ ไปในทิศทางเดยี วจากเครือ่ งส่เู ครื่อง จึงไม่มีการชนกนั ของ สัญญาณข้อมูลท่ีสง่ ออกไป3.คอมพิวเตอรท์ กุ เครื่องในเนต็ เวิรก์ มโี อกาสที่จะสง่ ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งทดั เทียมกนั*ข้อเสยี *1.ถา้ มเี ครื่องใดเครื่องหนึง่ ในเครือขา่ ยเสยี หาย ขอ้ มลู จะไมส่ ามารถส่งผา่ นไปยังเคร่อื งต่อ ๆ ไปได้และจะทาใหเ้ ครอื ขา่ ยทั้งเครือขา่ ย หยุดชะงักได้2.ขณะทีข่ ้อมูลถูกส่งผา่ นแต่ละเครือ่ ง เวลาสว่ นหน่งึ จะสูญเสยี ไปกบั การทท่ี กุ ๆ Repeater จะตอ้ งทาการตรวจ
4. โทโปโลยีแบบตน้ ไม้ (Tree Topology) มลี ักษณะเชื่อมโยงคลา้ ยกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบตน้ ไม้ โดยมีสายนาสญั ญาณแยกออกไปเป็นแบบกง่ิ ไม่เป็นวงรอบ โครงสรา้ งแบบนี้จะเหมาะกบั การประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ระดบั ต่างๆกนั อยู่หลายเคร่ืองแล้วตอ่ กนั เป็นชั้น ๆ ดรู าวกบั แผนภาพองค์กร แต่ละกลมุ่ จะมโี หนดแมล่ ะโหนดลูกในกลุ่มนนั้ ท่ีมีการสัมพันธ์กัน การสอื่ สารข้อมูลจะผา่ นตัวกลางไปยังสถานอี ื่นๆไดท้ ้ังหมด เพราะทุกสถานีจะอยู่บนทางเชือ่ ม และรบั ส่งข้อมลู เดยี วกนั ดงั น้นั ในแต่ละกลมุ่ จะสง่ ขอ้ มูลไดท้ ีละสถานีโดยไม่ส่งพร้อมกัน5. โทโปโลยแี บบผสม (Hybrid Topology) เปน็ เครอื ขา่ ยท่ีผสมผสานโทโพโลยีแบบตา่ งๆ เขา้ด้วยกัน เป็นเครอื ขา่ ยขนาดใหญเ่ พยี งเครือข่ายเดียว เช่น การเชอื่ มเครอื ขา่ ยแบบวงแหวน แบบดาว และแบบบัสเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN) เป็นตัวอย่างท่ีใช้ลกั ษณะโทโพโลยีแบบผสมที่พบเห็นมากที่สุด เครือข่ายแบบนจี้ ะเชื่อมตอ่ ทั้งเครือข่ายขนาดเ ล็กและขนาดใหญ่ หลากหลายท่ีเข้าด้วยกัน ซ่ึงอาจจะถกู เช่ือมต่อจากคนละจังหวัด หรือคนละประเทศก็ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทท่ีมีสาขาแยกย่อยตามจังหวัดต่าง ๆ สาขาที่หนึ่งอาจจะใช้โทโพโลยีแบบดาว อกี สาขาหนึ่งอาจใช้โทโพโลยีแบบบัส การเช่ือมตอ่ เครือข่ายเขา้ ดว้ ยกันอาจใช้สอื่ กลางเปน็ ไมโครเวฟ หรอื ดาวเทยี ม เป็นต้น
3.2 ลักษณะของโครงสร้างเครอื ขา่ ย 1.โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบบสั (Bus Topology) มีการเชอ่ื มต่อแบบเส้นตรง เชื่อมต่องา่ ยและไม่ซบั ซอ้ น โดยจะใชส้ ายสัญญาณเส้นเดยี วในการเชอ่ื มตอ่ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทกุ เคร่ืองในเครือขา่ ย ข้อดีคือ เชื่อมต่อง่าย ไม่ซับซ้อน , ประหยัดสายสญั ญาณ , เพ่ิมเติมปริมาณเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ในเครอื ข่ายไดง้ ่าย ข้อเสยี คอื เนอื่ งจากเปน็ การเชอ่ื มต่อโดยใชส้ ญั ญาณเดียว เมือ่ สายสัญญาณเสียหายจดุใดจุดหนึ่งจะส่งผลให้เครือข่ายจะไม่ทางานได้ทนั ที , หาข้อผิดพลาดในการชารุดได้ยาก 2.โครงสร้างเครอื ข่ายแบบดาว (Star Topology) มีอุปกรณ์สาหรบั เช่อื มตอ่ เครือข่ายคือ \"ฮับ (Hub)\" เป็นศูนย์กลางในการเช่ือมต่อเครือข่าย คอมพิวเตอร์แต่ละเครอ่ื งจะเชื่อมตอ่สายสญั ญาณเขา้ ไปยงั ฮบั เป็นแบบการกระจาย ถ้าหากจะสง่ ข้อมลู ข้อมูลจะต้องผา่ นฮบั ก่อน ฮบัจะทาหนา้ ท่กี ระจายขอ้ มลู ไปยงั เครือ่ งปลายทาง ขอ้ ดคี อื จัดการระบบง่าย , จบั หาข้อผดิ พลาดง่าย , เครอื ข่ายคงทนสูง ขอ้ เสียคอื สิ้นเปลืองสัญญาณ , ต้องมกี ารจากัดจานวนคอมพิวเตอร์ทจ่ี ะนามาเชื่อมต่อ
3.โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบวงแหวน (Ring Topology) มลี กั ษณะของการเชื่อมต่อเป็นรปู วงแหวนหรอื วงกลม สญั ญาณจะเดินทางเป็นวงกลมในทิศทางเดียว โดยจะใช้ลกั ษณะการส่งตอ่ขอ้ มูล เมอื่ การส่งข้อมลู เรียบรอ้ ย จะแจง้ ไปยงั เคร่ืองอื่นๆ วา่ สายสัญญาณวา่ ง เพือ่ ใหเ้ ครอ่ื งอ่นื ทาการส่งขอ้ มลู ต่อไป ข้อดคี อื ประหยดั สายสญั ญาณ , ทาการติดตงั้ ในเครอื ขา่ ยสามารถทาได้ง่าย , การส่งขอ้ มลู มผี ลเทา่ เทยี มกัน ขอ้ เสียคอื ถ้าสายสัญญาณชว่ งใดชว่ งหน่ึงเสียหายจะทาให้ระบบเครือข่ายท้งั หมดไม่สามารถทางานได้ทนั ที ,การตรวจสอบเม่อื เกิดความผดิ พลาดทาได้ยาก4.โครงสร้างเครือข่ายแบบเมซ (Mesh Topology) เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่สมบูรณ์คอมพิวเตอรท์ ุกเครอ่ื งในเครือขา่ ยเชือ่ มต่อถึงกันได้ทั้งหมดดว้ ยสญั ญาณเป็นอสิ ระในการส่งข้อมูลถ้าเส้นทางหลักเกิดความเสียหาย จะลดความผิดพลาดในการส่งข้อมูล ทาให้ระบบนี้มีประสิทธภิ าพและมีความเชื่อถือสงู . ข้อดีคือ ถ้าสายสัญญาณเกิดความเสียหายก็ไม่ส่งผลต่อการส่งขอ้ มูลเพราะมีเส้นสารองเพื่อสง่ ขอ้ มูล ,เกดิ ความรวดเร็วในการสง่ ขอ้ มูล เนอ่ื งจากเดินทางได้หลายทาง ขอ้ เสยี คอื ทาให้สิ้นเปลอื งสายสญั ญาณมาก , มคี วามซบั ซ้อนในการเชือ่ มตอ่ เครือขา่ ย
3.3 สว่ นประกอบของเครอื ข่าย ในชวี ติ ประจาวนั ของเรานนั้ เก่ยี วข้องกับเครอื ข่ายตลอดเวลา เพระทกุ การติดต่อส่อื สารนั้นตอ้ งผา่ นระบบเครือขา่ ยมาแลว้ ทงั้ ส้นิ ไมว่ า่ จะเปน็ โทรศัพท์ SMS ATM วทิ ยุ โทรทศั น์ ล้วนเปน็ระบบเครือขา่ ยทั้งส้ิน โดยท่ี Internet เปน็ ระบบเครือข่ายที่ใหญ่ท่ีสุดในโลก ในท่ีนี้จะกล่าวถึงส่วนประกอบของระบบเครือข่าย ซึง่ ประกอบไปดว้ ย- เคร่อื งบรกิ ารขอ้ มูล (Server)- เครื่องลกู ข่ายหรอื สถานี (Client)- การ์ดเครอื ขา่ ย (Network Interface Cards)- สายเคเบิลทใี่ ชบ้ นเครือขา่ ย (Network Cables)- ฮับหรือสวติ ช์ (Hubs and Switches)- ระบบปฏบิ ตั ิการเครอื ขา่ ย (Network operating System)เคร่อื งศูนยบ์ ริการข้อมูล โดยมกั เรยี กวา่ เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ่ที าหน้าท่ีบริการทรัพยากรให้กบั เครอื่ งลกู ขา่ ย เชน่ การบรกิ ารไฟล์ การบรกิ ารงานพมิ พ์ เปน็ ตน้ เนือ่ งจากเครื่องเซฟเวอรม์ กั ต้องรับภารกิจหนกั ในระบบจึงมักใชเ้ ครอ่ื งทม่ี ขี ดี ความสามารถมาเปน็ เครื่องแมข่ ่ายเครื่องลกู ขา่ ยหรอื สถานีเครอื ข่ายเครอ่ื งลกู ขา่ ยเป็นคอมพวิ เตอร์ท่เี ชอื่ มตอ่ เขา้ กับระบบเครือขา่ ย ซ่ึงอาจเรยี กวา่ เวริ ก์ สเตชนั ก็ได้โดยมักเปน็ เคร่ืองของผูใ้ ช้งานทัว่ ไปสาหรบั ติดต่อเพื่อขอใช้บรกิ ารจากเซริ ฟ์ เวอร์ ซึง่ สามารถจะขอหรือนา software ท้งั ข้อมลู จากเครอ่ื งแมข่ า่ ยมาประมวลผลใช้งานได้และยังติดต่อสื่อสาร รับ-ส่งข้อมูลจากคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งอ่นื ๆในเครอื ข่ายได้
การด์ เครือขา่ ย แผงวงจรสาหรับใช้ในการเช่อื มตอ่ สายสญั ญาณของเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ทุกเครอื่ งในเครอื ขา่ ยจะต้องมีอุปกรณ์น้ี และหนา้ ทีของการ์ดก็คือ แปลงสัญญาณของคอมพิวเตอร์ส่งผ่านไปตามสายสญั ญาณทาใหค้ อมพวิ เตอรใ์ นเครือข่ายแลกเปล่ียนขอ้ มลู กันได้สายเคเบิลท่ีใช้บนเครือขา่ ย เครือข่ายคอมพิวเตอร์จาเป็นต้องมีสายเคเบิลเพือ่ ใชส้ าหรับเช่ือมตอ่ คอมพวิ เตอรต์ ่าง ๆ ใหอ้ ยบู่ นเครือข่ายเดียวกันเพ่ือสื่อสารกันได้ นอกจากน้ีเครือข่ายยังสามารถสือ่ สารระหว่างกนั โดยไม่ใชส้ ายกไ็ ด้ เรยี กว่า เครอื ข่ายไร้สายโดยสามารถใช้คลื่นวิทยหุ รืออนิ ฟาเรด เป็นตวั กลางในการปลงสัญญาณ อีกทัง้ ยังสามารถนาเครอื ข่ายแบบมีสายและเครอื ข่ายแบบไร้สายมาเชอ่ื มตอ่ เข้าดว้ ยกนั เป็นเครอื ขา่ ยเดียวกันได้ฮบั และสวติ ช์ เปน็ อปุ กรณฮ์ บั และสวิตชม์ กั นาไปใชเ้ ปน็ ศูนย์กลางของสายเคเบลิ ทีเ่ ชื่อมต่อเครอื ขา่ ยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งฮบั หรอื สวิตช์จะมีพอร์ตเพ่ือให้สายเคเบิลเช่ือมต่อเข้าระหวา่ งฮับกับคอมพิวเตอร์ โดยจานวนพอร์ตจะข้นึ อยู่กับแตล่ ะชนิด เช่น แบบ 4 , 8, 16 , 24 พอรต์ ยังสามารถนาฮับหรอื สวิตช์หลายๆตัว มาเช่ือมตอ่ เข้าด้วยกนั เพ่อื ขยายเครอื ข่ายไดอ้ ีกดว้ ยระบบปฏบิ ัตกิ ารเครอื ข่าย เครื่องแม่ข่ายของระบบจาเปน็ ต้องติดตัง้ ระบบปฏบิ ัติการเครือข่ายไว้ เพ่ือทาหน้าที่ควบคุมและรองรับการทางานของเครือข่ายไว้ เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจาเปน็ ต้องพึ่ง Software ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพตามด้วยเชน่ กัน
3.4 รปู แบบของเครอื ข่าย 2. เครอื ข่ายแบบ Peer To Peer แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. เครอื ข่ายแบบ Client/Serverเครือขา่ ยแบบ Client/Server เปน็ เครือขา่ ยท่มี คี อมพิวเตอรเ์ ครือ่ งหนง่ึ ทาหน้าทีเ่ ปน็ เซิร์ฟเวอร์ ไวค้ อยบรกิ ารขอ้ มูลให้กับลกู เครือข่าย โดยมฮี บั หรอื สวติ ซเ์ ป็นตัวกลาง โดยคอมพวิ เตอรท์ ุกเครอ่ื งจะถูกเชื่อมตอ่ กับฮับเพ่ือทาหน้าท่ีเช่ือมต่อระห่างกันและสมารถขอใช้บริการ web server , mail server , file serverและ print server ได้ เครอื ขา่ ยประเภทนอ้ี าจมเี ซฟเวอรต์ วั หนึ่งทาหน้าท่ีหลายๆหนา้ ท่ีบนเครื่องเดยี วหรืออาจทาหนา้ ที่เฉพาะก็ได้Web server: บริการ HTTP เพอื่ ให้ผใู้ ช้สามารถอา่ นขอ้ มลู ทางภาพและเสยี งผา่ น web browserMail server: เครือบริการรับส่งจดหมายสาหรบั สมาชิก บริการที่มีให้ใช้ เช่น ส่งจดหมาย รบัจดหมาย address book ตัวอย่าง mail server ท่เี ป็นทรี่ ู้จกั กันทวั่ ไป Hotmail เปน็ ตน้File server: เซฟเวอร์ที่มหี น้าทีจ่ ัดเก็บไฟล์โยการจัดเก็บไฟลน์ ั้นเสมือนเป็นฮาร์ดดิสค์ศูนย์รวมเสมือนว่าผู้ใช้งานทุกคนมีท่ีเก็บข้อมูลที่เดียว สามรถดูแลรักษาข้อมูลได้ง่ายและป้องกันความซ้าซอ้ นของขอ้ มลู ข้อมูลดงั กล่าวสมารถแชร์ใหเ้ ครอื่ งอื่นได้Print server: เซฟเวอรท์ ี่มีหนา้ ทใ่ี นการจัดการแบง่ ปรน้ิ เตอร์ในสานักงาน จากเครอื่ งปร้ินเตอร์เคร่อื งเดียวให้ผอู้ ืน่ สามรถสงั่ ปร้ินได้ หนา้ ที่หลักๆของปร้นิ เซฟเวอร์คือ ช่วยในการแบง่ ปัน จัดคิวในการใชเ้ คร่อื งปรน้ิ รว่ มกันในองคก์ รได้
เครือข่าย Peer To Peer เป็นระบบทเี่ คร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ุกเคร่ืองบนเครือขา่ ยมีฐานะเท่าเทยี มกนั โยทที่ ุกเครอ่ื งจะต่อสายเคเบิลเข้ากับฮับหรือสวิตซท์ กุ เคร่ืองสามารถใช้ไฟลใ์ นเครื่องอน่ื ได้และสามารถใหเ้ ครือ่ งอื่นมาใช้ไฟล์ของตนเองได้เช่นกัน ระบบเครือขา่ ยประเภทนม้ี กั จะใชง้ านในหน่วยงานขนาดเล็กหรือใช้คอมพิวเตอรไ์ ม่เกิน 10 เคร่ือง อาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในระบบเนื่องจากขอ้ มลู ท่เี ปน็ความลบั และถูกสง่ ไปยังคอมพวิ เตอร์เคร่ืองอนื่ ด้วยเชน่ กนั3.5 อปุ กรณ์ท่ีใช้เชอื่ มต่อระบบเครือขา่ ย รพี ีตเตอร(์ Repeater) : ในระบบ Lan โดยทว่ั ไปนน้ั ยง่ิ คอมพิวเตอรแ์ ต่ละเคร่ืองอยู่ไกลกันมากเท่าไร สัญญาณที่จะสื่อถึงกันเริ่มเพย้ี นและจะจางหายไปในท่ีสุดจึงต้องมอี ุปกรณเ์ สรมิพิเศษท่ีเรียกวา่ รีพตี เตอร์ ข้ึนมาทาหนา้ ที่ในการเดินสญั ญาณคือช่วยขยายสัญญาณไฟฟา้ ท่ีส่งบนสาย Lan ใหแ้ รงข้นึ และจดั รปู สัญญาณทีเ่ พ้ียนใหก้ ลับเปน็ เหมือนเดมิ
ฮบั (Hub) : ทาหนา้ ทเ่ี ปรียบเสมือนศนู ย์กลางที่กระจายข้อมูลช่วยให้คอมพิวเตอร์ตา่ งๆบนเครือขา่ ยสามารถส่ือสารถงึ กนั ได้ คอมพิวเตอรแ์ ตล่ ะเครอื่ งจะต่อเขา้ กับฮบั โยสายเคเบิลแลว้ สง่ ข้อมลู จากคอมพิวเตอร์จากเคราองหนง่ึ ไปยังอีกเครือหนึ่งโยงผา่ นฮับ ฮับไม่สามารถระบุแหล่งท่ีมาข้อมูลและปลายทางของข้อมูลที่ส่งไปได้ ดังนั้นฮับจะส่งข้อมูลไปให้กับเ คร่ืองคอมพิวเตอรท์ ี่เช่ือมต่อกับฮบั ทุกเครื่องรวมถงึ เครื่องทสี่ ่งข้อมูลด้วย ฮบั ไม่สามรถรบั และสง่ ขอ้ มูลได้ในเวลาเดยี วกนั จงึ ทาให้ฮบั ทางานช้ากวา่ สวติ ซ์ การเชอ่ื มตอ่ แบบนี้ หากเชริ ฟ์ เวอร์ไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ เครอ่ื งลูกขา่ ยก็ไม่สามารใช้งานบริการได้ สวิตซ(์ Switch) : อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ทพ่ี ัฒนามาจากฮับ ลกั ษณะทางกายภาพของเน็ตเวริ ด์ สวิตซ์นนั้ จะเหมือนกับเน็ตเวิร์ดฮบั ทกุ อยา่ ง แตกตา่ งกนั ตรงท่ี- สวติ ซ์จะเลือกสง่ ข้อมูลถึงผู้รับเทา่ น้ัน- สวิตซ์มีความเร็วสูง- มคี วามปลอดภัยสงู กวา่- สามารถรับส่งขอ้ มลู ได้ในเวลาเดยี วกัน
บริดจ(์ Bridge) : เป็นอุปกรณเ์ ครือข่ายท่ีเชอื่ ม 2 เครอื ขา่ ยเขา้ ดว้ ยกัน เสมือนเป็นสะพานเชอื่ มโยงระหวา่ ง 2 เครอื ขา่ ยบรดิ จม์ ีความสามารถมากกว่าฮับและรพี ีตเตอร์ กล่าวคือ สามารถกรองขอ้ มลู ทีจ่ ะส่งได้ โดยตรวจสอบว่า- ตรวจสอบความสามารถของขอ้ มูล- สง่ ขอ้ มลู ไปในเครอ่ื งทตี่ ้องการเทา่ นั้น- จัดการความหนาแนน่ ของข้อมูลไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: