คู่มือการใชย้ าโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบล อาเภอบ้านผอื จงั หวดั อุดรธานี จดั ทาโดยกลมุ่ งานเภสัชกรรมและคมุ้ ครองผบู้ ริโภค โรงพยาบาลบา้ นผอื
คานา หนังสอื คู่มือการใชย้ า โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลเลม่ นี้ จดั ทาข้ึนโดยกล่มุ งานเภสัชกรรมและคุ้มครองผูบ้ รโิ ภค มวี ัตถุประสงค์เพื่อให้เจา้ หนา้ ท่ีโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบลได้ใชเ้ ป็นเอกสานประกอบการปฏิบตั ิงาน การดแู ลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบล โดยประกอบด้วยเน้อื หาเก่ยี วกับข้อมลู รายละเอียดของรายการยาแต่ละรายการ สภาวะการเก็บรักษายา รายการยาทีค่ วรเกบ็ พ้นแสงและหรอื เกบ็ ในตู้เย็น ความคงตัวของยาหลงั จากเปิดใช้ รายการยาทตี่ อ้ งระมดั ระวงั ในการใช้ สาหรับสตรมี คี รรภ์ที่มีพิษต่อเดก็ ในครรภ์ เทคนคิ การใชย้ าพ่นสูด MDI และการใช้ยาหยอดหู กลุ่มงานเภสชั กรรมและค้มุ ครองผบู้ ริโภค หวังเป็นอยา่ งยิ่งวา่ หนงั สือเลม่ นี้ จะเปน็ ประโยชน์ไม่มากน็ ้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด กรุณาแจ้งขอ้ มลู มายงั กลมุ่ งานเภสัชกรรมและคมุ้ ครองผู้บริโภคโรงพยาบาลบา้ นผือ จะเปน็ พระคุณย่ิง นางผอ่ งพรรณ แมนเมือง หวั หน้ากลุม่ งานเภสัชกรรมและคมุ้ ครองผ้บู ริโภค โรงพยาบาลบ้านผอื
สารบัญ หน้า 11. ยาแก้ปวดลดไข้ 2 - ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) 3 - ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) - ยาไอบโู พรเฟน (Ibuprofen) 5 62. ยาแก้แพ้ - ยาคลอรเ์ ฟนริ ามนี (Chlorpheniramine; CPM) 8 83. ยาต้านจลุ ชพี 9 - ยาอะมอ๊ กซซ่ี ิลลิน (Amoxycillin) - คลอกซ่าซลิ ิน (cloxacillin) หนา้ - ยาโคไตรม๊อกซาโซล (Co-trimoxazole) - ยาไดคล๊อกซาซิลลิน (Dicloxacillin) - ยาเพน็ นซิ ลิ ลนิ (Penicillin)4. ยาถา่ ยพยาธิ - ยาอัลเบ็นดาโซล ( Albendazole) - ยามเี บน็ ดาโซล (Mebendazole) - ยานิโคลซาไมด์ (Niclosamide)5. ยาขบั ลม - ยาขับลมคาร์มิเนทีฟ (Carminative Mixture) - ยาไซเมตโิ คน (simeticone) - ยาโซดามิ้นท์ (Sodium bicarbonate) - ยานา้ แก้ท้องอดื ทอ้ งเฟ้อ โซเดยี มไบคาร์บอเนต6. ยาลดอาการปวดเกรง็ - ยาฉดี ไฮออสซีน (Hyoscine injection)7. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร - ยาเคลอื บกระเพาะ (Antacid Suspension) - ยาเม็ดลดกรด อะลูมินา-แมกนเี ซีย8. ยาบรรเทาอาการคลน่ื ไสอ้ าเจียน - ยาไดเมน็ ไฮดรเิ นท (Dimenhydrinate) - ยาดอมเพอรโิ ดน (Domperidone)
9. ยาถา่ ย ยาระบาย 10 - ยาไบซาโคดลิ (bisacodyl) - ยาระบายมลิ ท์ ออฟ แมกนีเซีย (Milk of Magnesia) 11 - ยาสวนทวารยนู ซี นั (Sodium chloride enema ; Uneson enema) 1210. ยาบรรเทาอาการท้องเสีย 13 - ผงนา้ ตาลเกลอื แร่ (ORS) 14 1411. ยาบรรเทาอาการไอ ขบั เสมหะ 16 - ยาแกไ้ อจีจี (Glyceryl guaiacolate) - ยาแก้ไอบรอมเฮก็ ซ์ซนี (Bromhexine) 17 - ยาแก้ไอเด็กซ์โตรมีทอรแ์ ฟน (Dextromethorphan) - ยานา้ แก้ไอขับเสมหะสาหรบั เด็ก 17 - ยาแก้ไอนา้ ดา ( Brown Mixture ) 1812. ยาขยายหลอดลม หนา้ - ยาซาลบทู ามอล ( salbutamol )13. ยากระต้นุ การบีบตวั ของมดลูก - Methylergometrine14. ยาคลายกังวล - ยาไดอาซแี พม ( Diazepam )15. วิตามินและเกลือแร่ - วติ ามนิ ซี (Ascorbic acid) - ยาเม็ดบารงุ เลอื ด เอฟ บี ซี (FBC) - ยาเมด็ วติ ามินรวม (Multivitamin) - ยาเม็ดวิตามิน บี รวม (Vitamin B Complex)16. ยาเตรียมใชส้ าหรับตาและหู - ยาหยอดตาคลอร์แรมเฟนิคอล (Clorramphenicol eye drop) - ยาหยอดตาฮิสตา-ออฟ (Hista-Oph) - ยาปา้ ยตาคลอรเ์ ตตราซัยคลิน (Chlortetracycline eye ointment)17. ยาชาเฉพาะท่ี - ยาชาลโิ ดเคน (Lidocaine injection)18. ยาที่ใช้สาหรับผวิ หนัง - ยารกั ษาหิดเหา (Benzyl benzoate) - ยาแก้คันคาลาไมน์ (Calamine) - ยาฆา่ เชอ้ื รา (Clotrimazole)
- ยานวดแก้ปวด (Methylsalicylate) 19 - ยาทาเพรดนโิ ซโลน (Prednisolone) - ยาป้ายปากไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone oral paste) 20 - ยารกั ษาโรคกลากเกล้ือน น้ากดั เท้า (Whitfied’s ointment) 2119. อนื่ ๆ 22 - แอลกอฮอล์ (70% Alcohol) 23 - ยาใส่แผลโพวิโดนไอโอดนี (Povidone Iodine Solution) 24 - แอมโมเนยี (Aromatic Ammonia Spirit) 25 27สภาวะการเกบ็ รักษายา รายการยาท่ีควรเก็บพ้นแสงและหรอื เก็บในตู้เยน็ความคงตัวของยาหลังจากเปิดใช้ รายการยาท่ตี ้องระมดั ระวังในการใช้ สาหรับสตรีมีครรภ์ ยาที่มีพิษต่อเดก็ ในครรภ์เทคนิคการใชย้ าพน่ MDI การใชย้ าหยอดหู
1. ยาแก้ปวดลดไข้1.) ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)ขอ้ บ่งใช้ แกป้ วด, ลดไข้ ไม่มฤี ทธ์ิต้านการอักเสบขนาดท่ีใช้ ยากิน 10-15 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม/ครงั้ ไม่ควรเกิน 5 ครงั้ /วนั เด็กอายุ 0 - 6 เดือน 1.5 ซีซี - 1/2 ช้อนชา ( หน่ึงสว่ นส-่ี ครึ่ง ช้อนชา ) 6 เดอื น-1ปี ครง่ึ ช้อนชา 1 ปี–3 ปี ½ -1 ชอ้ นชา (ครง่ึ -หน่ึงช้อนชา) 3 ปี-6 ปี 1-2 ชอ้ นชา 5 ปี-15 ปี 325 มิลลิกรมั คร่ึง-หน่งึ เม็ด 500 มิลลกิ รัม ½-1 เม็ด ผู้ใหญ่ 500 มลิ ลกิ รมั 1-2 เมด็ (สูงสดุ 8 เม็ดตอ่ วัน) คนแก่ (อายุ > 60 ป)ี 500 มิลลิกรัม 1-2 เมด็ (ตามนา้ หนักตวั ) ยาฉีด 10-15 มิลลิกรัม/กโิ ลกรัม/ครัง้ คนไข้โรคตบั ลดขนาดยาลง 50%ขอ้ ควรระวงั1) คนไข้ทม่ี ีประวัตแิ พ้ยา Paracetamol2) ถา้ ใชย้ านเ้ี กนิ ขนาด จะทาให้เป็นพษิ ต่อ ตบั ได้ และไมค่ วรใชย้ าน้ตี ดิ ต่อกนั เกนิ 5 วนั3) ผู้ทีเ่ ป็นโรคตบั โรคไต ควรปรึกษาแพทย์หรือ เภสัชกรก่อนใช้ยานี้รูปแบบยา ยาน้า 120 มิลลกิ รัม/ 1 ชอ้ นชา (5 มลิ ลิลติ ร) ยาเม็ด ผ้ใู หญ่ 500 มลิ ลิกรัม/เม็ด เด็ก 325 มิลลกิ รัม/เมด็ ยาฉีด 150 มลิ ลกิ รมั / 1 มิลลิลิตร (300 มลิ ลิกรมั /1 แอมพูล)2.) ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac)ขอ้ บ่งใช้ บรรเทาปวดเมื่อยเคล็ดขดั ยอกของข้อและกลา้ มเนื้อขนาดที่ใช้ ยากนิ - บรรเทาปวด 25 มลิ ลิกรมั /คร้ัง วันละ 3 ครัง้ ( 1 เม็ด วันละ 3 ครัง้ หลังอาหารทันที ) ยาฉีด - บรรเทาอาการปวด 1 amp IM ในผู้ใหญ่
ข้อควรระวัง ผูป้ ่วยทีแ่ พย้ าน้ี โรคแผลในทางเดนิ อาหาร ตับ ไต โรคหัวใจ สตรตี ั้งครรภ์และสตรี กาลงั ใหน้ มบตุ รขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ในเดก็ อายตุ า่ กวา่ 12 ปีคาแนะนา ให้รบั ประทานยานีพ้ ร้อมหรือหลังอาหารทันทีรปู แบบยา ยาเม็ด 25 มิลลกิ รมั /เมด็ ยาฉดี 75 มิลลกิ รัม/3 มลิ ลลิ ิตร3.) ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)ข้อบ่งใช้ ลดไข้,ลดอาการอักเสบอาการขา้ งเคียง ทาให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารขนาดทใี่ ช้ ยากนิ - ลดไข้,แก้ปวด 10-15 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม/ครั้ง ทุก 6-8ชั่วโมง ขนาดสูงสุด 40 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั /วนั ( ให้ยาขนาด 400 มก./เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 คร้งั หลังอาหารทันที )รปู แบบยา ยาเมด็ 200 มก./เม็ด***ไม่แนะนาใหใ้ ช้ในเด็กและวัยรนุ่ ห้ามใชล้ ดไข้ (ห้ามแบง่ ครงึ่ )*** 2. ยาแก้แพ้1) ยาคลอรเ์ ฟนริ ามีน (Chlorpheniramine; CPM)ขอ้ บ่งใช้ รกั ษาโรคแพต้ า่ งๆ แพ้ผน่ื คนั แพอ้ ากาศน้ามกู ไหลขอ้ หา้ มใช้ ต้อหนิ ชนิดมมุ ปดิ (narrow-angle) ทางเดินปสั สาวะอุดตันและหืดระยะ เฉียบพลันอาการข้างเคยี ง งว่ ง ซมึ ปากแห้ง คลน่ื ไส้ ตาพร่า ปัสสาวะลาบาก และผิวหนังอกั เสบขนาดทีใ่ ช้ ยากิน 0.35 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรัม/วนั แบง่ ใหท้ ุก 4-6 ชวั่ โมง เด็ก อายุ 1 ปี–3 ปี 1.5 ซซี ี-2.5 ซซี ี (1/4-คร่งึ ช้อนชา) 3 ปี-5 ปี ครงึ่ -หนึ่งชอ้ นชา 5 ปี-10 ปี หนงึ่ -หนึ่งชอ้ นชาครงึ่ ผู้ใหญ่ 4 มลิ ลกิ รัม/เม็ด 1 เม็ด/ครง้ั***ยาตามขนาด วนั ละ 3 คร้งั หลังอาหาร เชา้ กลางวนั เยน็ หรอื เมอื่ มอี าการ*** ยาฉีด เดก็ คานวณตามน้าหนกั 0.35 มก./กก. ให้ทางหลอดเลือดดา ผู้ใหญ่ ให้ 1 amp. ทางหลอดเลือดดา
รปู แบบยา ยาน้า 2 มิลลิกรัม/1 ชอ้ นชา (บรรจุ 60 มิลลลิ ิตร) ยาเมด็ 4 มลิ ลิกรัม ยาฉีด 10 มลิ ลกิ รมั /1 มลิ ลิลิตร 3. ยาต้านจุลชีพ 2.1.)อะม๊อกซซี่ ลิ ลนิ (Amoxycillin)ขอ้ บ่งใช้ การตดิ เชอ้ื ท่ีเกดิ จาก Streptococcus spp.ใช้ในการติดเช้ือทางเดินหายใจ คอ อักเสบ ทอลซลิ อักเสบขนาดท่ีใช้ ยากนิ 20-40 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั /วนั แบง่ ให้ทกุ 8 ช่ัวโมง เด็ก 0-6 เดือน ½-3/4 ช้อนชา (คร่ึง-ค่อน ชอ้ นชา) 6 เดือน-1ปี ¾-1 ช้อนชา (ค่อน-หนงึ่ ช้อนชา) 1 ปี–3 ปี 1-2 ชอ้ นชา 3 ปี-10 ปี 250 มลิ ลกิ รัม/เมด็ 5 ปี-15 ปี 500 มลิ ลิกรัม/เม็ด***ใหย้ าตามขนาด วนั ละ 3 คร้งั หลังอาหาร เชา้ -กลางวนั -เยน็ ***รปู แบบยา ยาน้า 125 มลิ ลิกรัม/ 1 ชอ้ นชา แคปซูล 250 มิลลิกรมั2.) Cloxacillin ขอ้ บ่งใช้ เป็นยาในกลุม่ เพนิซิลลนิ ชนิดหนึ่งใชร้ ักษาโรคตดิ เชอ้ื เบคทเี รียท่ีมีชอ่ื ว่า สแตฟฟีโลคอ็ กคสั (Staphylococcus) เชน่ ฝี, แผลอกั เสบ, ตุ่มหนอง, พุพอง, ผิวหนงั อกั เสบ, กุ้งยงิ , หนังตาอกั เสบ, ถงุ นา้ ตาอักเสบ, หชู ั้นนอกอกั เสบ, ตอ่ มน้าเหลอื งอกั เสบ, ปอดอักเสบ เป็นตน้ ซ่งึ มกั จะด้ือต่อยาเพ นิซลิ ลินธรรมดา ขนาดทีใ่ ช้ ผู้ใหญ่ ใหค้ ร้ังละ 500 มลิ ลกิ รมั วันละ 4 ครัง้ เดก็ ให้วนั ละ 50-100 มลิ ลกิ รมั ต่อนา้ หนักตวั 1 กโิ ลกรมั แบง่ ใหว้ ันละ 4 ครั้ง ให้ กนิ ก่อนอาหาร 1 ช่ัวโมงและกอ่ นนอน ระยะทีใ่ ช้นาน 5-10 วัน ผลขา้ งเคียง อาจมีอาการจุกแน่นทอ้ ง ท้องเดิน หรือแพ้ยาได้ ขอ้ ควรระวัง อาจมอี าการแพเ้ ชน่ เดยี วกับเพนวีได้ คนทแ่ี พเ้ พนิซิลลนิ หา้ มกินยาน้ี อาจแพ้ได้ รปู แบบยา ชนดิ แคปซลู 250 มก.
3.) โคไตรม๊อกซาโซล Co-trimoxazole (Sulfamethoxazol+trimethoprim: Bactrim®)ขอ้ บ่งใช้ รกั ษาอาการตดิ เช้ือทางเดนิ ปัสสาวะ ท้องเสียขอ้ ห้ามใช้ ผปู้ ว่ ยโลหติ จางเนอ่ื งจากขาดธาตุเหลก็ และเด็กอายตุ ่ากวา่ 2 เดอื นขอ้ ควรระวงั ผู้ปว่ ยท่เี ปน็ โรคตบั และไตอาการขา้ งเคยี ง ผืน่ คลื่นไส้ อาเจียน ทอ้ งเสยี ตับและไตอักเสบขนาดที่ใช้ ยากนิ 6-12 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม/วนั แบ่งให้ทุก12 ชั่วโมงเด็ก < 2 ขวบ คร้ังละ คร่งึ ช้อนชา วนั ละ 2 ครงั้ หลังอาหาร เชา้ -เยน็อายุ 2-6 ขวบ ครง้ั ละ คร่ึง-หนงึ่ ช้อนชา วันละ 2 ครง้ั หลงั อาหาร เช้า-เยน็อายุ 6-12 ขวบ ครง้ั ละ หน่ึง-สอง ช้อนชา วนั ละ 2 ครั้ง หลงั อาหาร เช้า-เยน็ผูใ้ หญ่ ครงั้ ละ 2 เมด็ วันละ 2 ครัง้ หลงั อาหาร เชา้ -เย็นรูปแบบยา ยาน้า SMX 200 มิลลิกรัม+TMP 40 มิลลิกรัม/1 ช้อนชา ยาเมด็ SMX 400 มลิ ลิกรมั +TMP 80 มลิ ลิกรัม **ใหย้ าตามขนาดและแนะนาใหผ้ ้ปู ว่ ยด่มื น้าตาม 1-2 แกว้ **4.) ไดคล๊อกซาซลิ ลิน (Dicloxacillin)ข้อบ่งใช้ อาการติดเชื้อแบคทีเรียไดแ้ ก่ การติดเชอื้ ทผ่ี วิ หนงั ท่ีเกิดจากเช้อืstreptococcus, แผลตามผวิ หนัง แผลมหี นอง พุพอง, หูชน้ั นอกอักเสบ ไม่ใช้ในแผลถูกสัตวก์ ัดอาการขา้ งเคยี ง ผื่น ไข้ คลืน่ ไส้ อาเจยี น และท้องเสียขนาดทใ่ี ช้ < 40 กิโลกรัม :12.5-50 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั /วนั แบ่งใหท้ กุ 6 ชวั่ โมง สงู สดุ 50-100 มิลิกรมั /กิโลกรมั /วนั > 40 กิโลกรัม : 125-500 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรัม/วนั แบ่งให้ทุก 6 ชว่ั โมง *ใหร้ ับประทานยาก่อนอาหาร 1-2 ช่ัวโมง***โดยท่วั ไป เดก็ ใหย้ าตามน้าหนัก วันละ 4 ครัง้ ก่อนอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอนผู้ใหญ่ ให้ คร้ังละ 1 แคปซูล (250 มก.)วันละ 4 ครง้ั ก่อนอาหาร เช้า-กลางวนั -เยน็ -ก่อนนอน***รูปแบบยา แคปซลู 250 มลิ ลิกรมั ยาน้าผงแห้ง 62.5 มิลลิกรัม/ 1 ชอ้ นชา (5 มลิ ลิลติ ร)5) Penicillin V ขอ้ บ่งใช้ การตดิ เชอ้ื ท่ีเกิดจาก Streptococcus spp.ใชใ้ นการติดเชื้อทางเดนิ หายใจ คอ อักเสบ เหงือกและฟันอักเสบ ขนาดที่ใช้ ยากนิ อายุ < 12 ปี : 25-50 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั /วนั แบง่ ทุก 6-8 ชั่วโมง สงู สุด 3 กรมั /วัน อายุ > 12 ปี : 125-500 มลิ ลิกรมั ทุก 6-8 ชั่วโมง***โดยท่วั ไป เด็ก ใหย้ าตามน้าหนัก วนั ละ 4 ครงั้ ก่อนอาหาร เชา้ -กลางวนั -เย็น-ก่อนนอน ผใู้ หญ่ ให้ คร้งั ละ 1 เม็ด (250 มก.)วันละ 4 ครง้ั ก่อนอาหาร เช้า-กลางวนั -เยน็ -กอ่ นนอน***
***กรณีเดก็ อายตุ า่ กวา่ 5 ปี ทส่ี งสัยการตดิ เช้ือระบบทางเดินหายใจ ควรใช้ Amoxycillin เปน็ตัวเลอื กแรก เน่อื งจากต้องคลุมเชื้อ H. influenza.***รปู แบบของยา ยาน้า 125 มลิ ลกิ รมั / 5 มิลลิลติ ร ยาเม็ด 250 มลิ ลกิ รัม 4. ยาถ่ายพยาธิ1.) ยาอัลเบน็ ดาโซล ( Albendazole)ขอ้ บ่งใช้ ถ่ายพยาธิตัวกลม ตวั ตดื และพยาธิใบไม้ในตับขนาดที่ใช้ ใช้ในเด็กอายมุ ากกวา่ 2 ปี- พยาธิไส้เดือน พยาธเิ สน้ ด้าย หรือพยาธแิ ส้มา้ รบั ประทาน 400 มิลลิกรมั ( 1 ขวด ) ครั้งเดยี ว- พยาธิ Strongyloid พยาธิตัวตืด รบั ประทาน 400 มลิ ลกิ รมั ( 1 ขวด ) วนั ละ 1 ครั้ง ตดิ ตอ่ กนั 3 วัน- พยาธิ ใบไม้ในตับ รบั ประทาน 400 มลิ ลกิ รัม ( 1 ขวด ) วนั ละ 2 คร้ัง เชา้ – เย็น ตดิ ตอ่ กนั 3 วนัอาการไม่พงึ ประสงค์ ไมส่ บายท้อง ท้องเสียคาแนะนา- ควรให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวซ่ึงมโี อกาสติดรบั ประทานยานี่ดว้ ย- ล้างมอื และเลบ็ ใหส้ ะอาดก่อนรบั ประทานอาหารรปู แบบของยา ยาน้า 100 มลิ ลิกรัม / 5 มิลลลิ ิตร (1 ช้อนชา) ยาเมด็ 200 มลิ ลิกรมั2.) ยามเี บน็ ดาโซล (Mebendazole)ข้อบ่งใช้ ถ่ายพยาธิตัวกลม พยาธเิ สน้ ด้าย พยาธิปากขอ พยาธิแส้มา้ พยาธิไส้เดือนขนาดทใ่ี ช้ พยาธเิ ส้นดา้ ย 100 มิลลิกรัม ( 1 เม็ด หรอื 1 ชอ้ นชา) คร้ังเดียว และให้ซ้าอีก ครงั้ ใน 2 สปั ดาห์ พยาธติ ัวกลมอ่นื ๆ 100 มิลลิกรัม ( 1 เมด็ หรือ 1 ช้อนชา) เช้า-เยน็ เป็นเวลา 3 วนั ถา้ ไม่หายซ้าอกี ใน 3-4 สปั ดาห์รูปแบบของยา ยานา้ 100 มลิ ลกิ รมั / 5 มลิ ลลิ ติ ร (1 ชอ้ นชา) ยาเมด็ 100 มิลลกิ รัม
3.) ยานโิ คลซาไมด์ (Niclosamide)ข้อบ่งใช้ ยาถา่ ยพยาธิ รกั ษาพยาธิตัวตืด ตวั แบนขนาดที่ใช้ ยากนิ 40 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรัม ขนาดสงู สดุ 2 กรัม คร้ังเดียว สาหรับ Hymenolepsis nana ใหต้ ดิ ต่อกนั 5 วนั***โดยทว่ั ไป ผใู้ หญ่ ให้ 4 เม็ด หลังอาหารเยน็ และให้ยาระบายตามเวลา ก่อนนอน เพ่ือปอ้ งกนั ภาวะ cysticerosis จากพยาธิตดื หมู ยาระบายที่ให้ อาจให้ MOM 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน ครั้งเดยี ว**รปู แบบของยา ยาเม็ด 500 มลิ ลกิ รมั 5. ยาขบั ลม 3.1.)Carminative mixtureขอ้ บ่งใช้ บรรเทาอาการปวดท้อง เนื่องจากจกุ เสยี ด ท้องข้ึน ท้องเฟ้อขนาดที่ใช้ รบั ประทานก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง ผใู้ หญ่ รบั ประทานครั้งละ 1 ชอ้ นโต๊ะ เด็ก 6-12 ปี รับประทานครง้ั ละ ครงึ่ ชอ้ นโตะ๊*** หา้ มให้ในเดก็ อายุ < 6 ปี และหญงิ ต้งั ครรภ์ เน่ืองจากมีแอลกอฮอล์เปน็ ส่วนประกอบ ***รูปแบบของยา ยานา้ 180 มลิ ลลิ ิตร2.) Simethicone ขอ้ บ่งใช้ บรรเทาอาการท้องอืด (flatulence) เนื่องจากมีแกส๊ มาก ในทางเดินอาหาร ขนาดยา ผูใ้ หญ่ วัยรุ่นและเด็กโต ครงั้ ละ 40-120 มิลลกิ รัม วันละ 4 ครงั้ หลังอาหารและ กอ่ นนอน ไมเ่ กินวนั ละ 500 มลิ ลกิ รัม เด็ก อายุ 2-12 ปี ครงั้ ละ 40 มลิ ลิกรมั วันละ 4 ครัง้ หลังอาหารและก่อนนอน ไม่เกนิ วนั ละ 240 มิลลกิ รัม ทารกและเด็กอายุตา่ กวา่ 2 ขวบ คร้ังละ 20 มิลลิกรัม วันละ 4 ครงั้ หลงั อาหารและกอ่ น นอน ไมเ่ กินวันละ 240 มิลลกิ รัม ขอ้ ควรระวัง หญิงตงั้ ครรภ์ ใช้เฉพาะเมือ่ ประโยชน์ มมี ากกวา่ ความเส่ียงจากการใช้ยา (US Pregnancy Category C) ขอ้ ห้ามใช้ ผทู้ ี่แพ้ต่อยานี้ ผลขา้ งเคียง ถา่ ยเหลว คล่ืนไส้ อาเจยี น เรอ รปู แบบยา ยาเมด็ ขนาด 80 mg
4.)Sodium bicarbonate , Sodamint® ขอ้ บ่งใช้ เปน็ ยาขับลม ขนาดท่ีใช้ ใชป้ อ้ นให้ทารกและเด็กหลังอาหาร หรือเมอื่ มีอาการ ไม่ควรให้เกนิ วันละ 6 ครั้ง เด็กอายุ 2-3 ปี ครง้ั ละ 2-3 ชอ้ นชา เด็กอายุ 6-12 เดอื น ครงั้ ละ 2 ชอ้ นชา เด็กอายุ 1-6 เดอื น ครั้งละ 1 ช้อนชา ทารกแรกเกดิ -1 เดือน ไม่ควรใช้ ผใู้ หญ่ กนิ ครัง้ ละ 1 เม็ด วนั ละ 3 คร้งั หลงั อาหาร เช้า-กลางวนั -เยน็ คาเตอื น 1) ห้ามใช้ในผู้ทีเ่ ปน็ โรคหัวใจหรอื โรคไต 2) ไม่ควรรบั ประทานเปน็ เวลานานกวา่ 2 สัปดาห์ นอกจากแพทย์สัง่ รูปแบบของยา ยาเมด็ 300 มิลลกิ รัม/เมด็ ยานา้ 50 มก./ 1 ชอ้ นชา5.)ยานา้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ โซเดียมไบคาร์บอเนต ในสูตรตารับ 5 มลิ ลลิ ติ ร ประกอบด้วยตัวยาสาคัญ คอืSodium Bicarbonate 50 mg.โดยในสตู รตารบั ไม่อนญุ าตให้ใช้ Alcohol เป็นส่วนผสมข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการท้องอดื ท้องขึน้ ท้องเฟ้อ เนื่องจากมีกรดมากในกระเพาะอาหารขนาดและวธิ ใี ช้ ใช้ป้อนให้ทารกและเด็กหลังอาหารหรอื เม่ือมีอาการไม่ควรใหเ้ กนิ วันละ 6 ครั้งเดก็ อายุ 2-3 ปี คร้งั ละ 2-3 ชอ้ นชาเดก็ อายุ 6-12 เดอื น ครง้ั ละ 2 ชอ้ นชาเดก็ อายุ 1-6 เดอื น ครง้ั ละ 1 ช้อนชาทารกแรกเกิด –1 เดอื น ไม่ควรใช้คาเตือน 1) หา้ มใชใ้ นผทู้ ีเ่ ป็นโรคหัวใจหรอื โรคไต 2) ไม่ควรรบั ประทานเปน็ เวลานานกวา่ 2 สปั ดาห์ นอกจากแพทย์ส่งัการเกบ็ รักษา เกบ็ ในท่ีอุณหภมู ิต่ากว่า 400 C และป้องกันไมใ่ หถ้ ูกแสงแดด
1.) Hyoscine 6. ยาลดอาการปวดเกร็ง ขอ้ บ่งใช้ 6. ขอ้ ห้ามใช้ ขนาดท่ีใช้ อบารหรเาทราอาการปวดเกร็ง4ช.่องท้อง,ใช้รว่ มกบั ยาอื่นในการรักษาแผลในทางเดิน รูปแบบยา ผปู้ ่วยลาไสอ้ ุดตัน 0.1 มิลลกิ รัม/กิโลกรัม/ครั้ง ทกุ 4 ชั่วโมง ขนาดสงู สุด 5 มิลลิลิตร ยาฉีด 20 มิลลกิ รมั / 1 มลิ ลิลติ ร ยาเมด็ 10 มลิ ลิกรมั /เม็ด 7. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร 8. เกร็ง1.) ยาเคลือบกระเพาะ Antacid suspension7.ข้อบ่งใช้ เคลชือ่วยบลแดผกลรเยด่ือในบกุก5รร.ะะเเพพาาะะออาาหหาารรแชลว่ ะยลขาบั ไลสม้ บรรเทาอาการท้องอืดทอ้ งเฟอ้ จุกเสียด แนน่ขนาดและวธิ ใี ช้ เขย่าขวดก่อนใชย้ า รบั ประทานกอ่ นอาหาร 1/2 ชั่วโมง หรอื หลังอาหาร 1 ชว่ั โมง หรอื เมื่อมีอาการ ผู้ใหญ่ รบั ประทานคร้ังละ 1-4 ชอ้ นชา เด็ก 6-12 ปี รบั ประทานครั้งละ 1-2 ชอ้ นชา เด็ก 3-6 ปี รับประทานครง้ั ละ 1/2-1 ช้อนชาคาเตอื น 1) หา้ มใช้ในผ้ทู เ่ี ป็นโรคหวั ใจหรือโรคไต 2) ไม่ควรรับประทานเป็นเวลานานกว่า 2 สปั ดาห์ นอกจากแพทยส์ ัง่การเกบ็ รกั ษาเก็บที่อุณหภมู ติ ่ากวา่ 40 องศาเซลเซียสส่วนประกอบ Aluminium Hydroxide 918 mg (เคลอื บกระเพาะ) Magnsium Hydroxide 300 mg (เคลือบกระเพาะ) Simethicone 60 mg (ขับลม)2.) ยาเมด็ ลดกรด อะลูมนิ า-แมกนเี ซยีในสูตรตารับ 1 เม็ด ประกอบด้วยตวั ยาสาคญั คอืAluminium Hydroxide 200-600 mg.Magnesium Hydroxide 200-400 mg.
ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการจกุ เสยี ด ทอ้ งข้ึน ทอ้ งเฟอ้ และปวดท้องเนือ่ งจากมีกรดมากใน กระเพาะอาหารหรือแผลในกระเพาะอาหารและลาไส้ขนาดและวธิ ใี ช้ เคยี้ วยากอ่ นกลนื รับประทานก่อนอาหาร ½ ชัว่ โมง หรอื หลังอาหาร 1 ช่ัวโมง หรือเม่ือมอี าการ ผ้ใู หญ่ รับประทานครั้งละ 1-4 เมด็ วันละ 3 เด็ก 6-12 ปี รบั ประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3คาเตือน 1) ห้ามใช้ในผู้ท่เี ป็นโรคหัวใจหรือโรคไต 2) ไม่ควรรบั ประทานเปน็ เวลานานกว่า 2 สปั ดาห์ นอกจากแพทย์ส่งัการเก็บรกั ษา เก็บท่ีอณุ หภมู ติ า่ กว่า 400 C 8. ยาบรรเทาอาการคลน่ื ไส้อาเจยี น1.) ยาไดเม็นไฮดรเิ นท (Dimenhydrinate) ข้อบ่งใช้ ใชร้ กั ษาอาการเมารถเมาเรอื อาการว6ิง.เวียน ขนาดทีใ่ ช้ ยากิน อายุ 2-5 ปี ¼ เม็ด (12.5 มลิ ลิกรมั ) วนั ละ 3 ครง้ั หลงั อาหาร อายุ 6-12 ปี ½-1 เม็ด ทกุ 6-8 ชัว่ โมง ไม่ควรเกนิ 300 มลิ ลกิ รัม/วนั ผู้ใหญ่ ครัง้ ละ 1 เมด็ ก่อนออกเดินทางอยา่ งนอ้ ย 30 นาที คาเตอื น 1) ยานี้อาจทาใหเ้ กิดอาการง่วงซมึ จงึ ไม่ควรขับข่ียานยนต์หรือทางานเก่ียวกับเคร่อื งจักรกล 2)หลกี เล่ยี งเครอื่ งดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ผสม รปู แบบของยา ยาเมด็ 50 มลิ ลกิ รัม ยาฉีด 50 มิลลกิ รัม/มลิ ลิลิตร2.) ยาดอมเพอรโิ ดน (Domperidone)ข้อบ่งใช้ แกอ้ าการคล่ืนไส้ อาเจียน ท่ีเกดิ จากระบบทางเดินอาหาร ปวดแนน่ ไม่สบายท้องขนาดที่ใช้ ยากนิ 0.5 -1 มิลลิกรมั /5 กโิ ลกรมั /ครั้ง วัน 3-4 ครงั้ เดก็ ¼ ช้อนชา ต่อ น้าหนักตัว 5 กก. วนั ละ 3 ครงั้ กอ่ นอาหาร ผูใ้ หญ่ กินครั้งละ 1 เมด็ วนั ละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารขอ้ ห้ามใช้ โรค prolactinoma ไม่ควรใช้ใน colicky pain หรือมอี าการเลือดออกในทางเดิน อาหารรูปแบบของยา ยานา้ 1 มลิ ลกิ รัม/มิลลลิ ิตร ยาเมด็ 10 มิลลกิ รมั
9. ยาถ่าย ยาระบาย1) Bisacodyl tabขอ้ บ่งใช้ เป็นยาระบาย อ6อปกีฤ7รท.ับธป์กิ รระะทตาุ้นนกคารร้งั บลบี ะต1วั ขเมอ็ดงลกา่อไนสน้ อนขนาดและวธิ ีใช้ เด็ก : อายเุ กิน ผู้ใหญ่ : รับประทานครงั้ ละ 2 -3 เมด็ กอ่ นนอน ยาจะออกฤทธห์ิ ลงั กนิ ยา ประมาณ 12 ช่วั โมงอาการขา้ งเคียง อาการบีบตวั ของลาไส้มากเกินไป อ่อนเพลยี วงิ เวียน ปวดเกรง็ ท่ีชอ่ งท้องอยา่ ง รนุ แรง ปวดบบี ในท้อง หรอื คลื่นไส้ อาเจียนคาเตือน ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวัง1. ห้ามใช้ยานี้เม่ือมอี าการปวดท้องหรือคล่ืนไส้ อาเจยี น ไม่ควรใชใ้ นผ้ปู ว่ ยทีล่ าไสม้ ีการอุดตนั2. ห้ามใช้ในหญงิ มีครรภ์ (Category C) หรอื ระยะให้นมบุตร3. ไมค่ วรใชต้ ดิ ต่อกนั นานเกนิ กวา่ 1 สัปดาห์4. หา้ มเค้ียวยา หรอื บดเพราะจะทาให้เปลือกท่ีเคลอื บยาไว้แตกตวั ซึ่งอาจทาให้ระคายเคอื งกระเพาะ อาหารได้5. ระวังการใช้ในเด็กอายตุ ่ากวา่ 4 ปี6. ไมค่ วรรบั ประทานยาน้รี ่วมกบั ยาลดกรดหรือนมรูปแบบยา ยาเมด็ 5 mg/tab2) ยาระบายมิลค์ ออฟ แมก๊ นเี ซยี (Milk of magnesia)ข้อบ่งใช้ ยาระบายขนาดและวธิ ใี ช้ เขย่าขวดก่อนใชย้ า รบั ประทานกอ่ นนอนหรอื ตน่ื นอนเช้า ผู้ใหญ่ รับประทานครง้ั ละ 2-3 ชอ้ นโตะ๊ (30-45 มิลลิลติ ร) เดก็ 6-12 ปี รับประทานครัง้ ละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊ (15-30 มิลลิลติ ร) เด็ก 1-6 ปี รับประทานครัง้ ละ 1-3 ช้อนชา ( 5-15 มลิ ลิลติ ร)คาเตอื น1) ห้ามใชเ้ มื่อมีอาการปวดทอ้ ง หรือคล่ืนไส้อาเจยี น2) ไม่ควรรับประทานเป็นประจาการเกบ็ รกั ษา เก็บทอ่ี ุณหภมู ิระหว่าง 15-30 องศาเซลเซียสรปู แบบของยา ยาน้า 240 มลิ ลลิ ิตร/ขวด3.) ยาสวนทวารยนู ซี นั Sodium chloride enema ( Unison enema ) ในสูตรตารบั ประกอบด้วยตวั ยาสาคัญ คอื Sodium Chloride 15 % w/v สรรพคณุ สาหรับบรรเทาอาการท้องผูก ใช้สวนทวารให้ถา่ ยอุจจาระ ขนาดและวิธีใช้ สวนเขา้ ทางทวารหนกั แลว้ กล้ันไว้จนทนไวไ้ หวจงึ เข้าส้วมหลงั สวน 10-20 นาที จะทาใหถ้ า่ ย ออกมา
ผู้ใหญ่ ใช้ครัง้ ละ 20-40 มิลลลิ ติ ร เด็ก 6-12 ปี ใช้คร้ังละ 10-20 มลิ ลลิ ิตร เดก็ 1-6 ปี ใช้ครัง้ ละ 5-10 มลิ ลลิ ิตร 10. ยาบรรเทาอาการท้องเสีย 10.1.) ผงนา้ ตาลเกลือแร่ (ORS) สทรดรแพทคนณุ การเสียน้าในรายที่มีอาการท้องร8่ว.ง หรอื ในรายทม่ี ีอาเจยี นมากๆ และป้องกันการช็อคเน่อื ง จากการท่ีรา่ งกายขาดนา้ วิธีใช้ เทผงยาทัง้ ซองละลายในน้าสะอาด เช่น นา้ ตม้ สุกทเี่ ยน็ แล้ว ประมาณ 250 มลิ ลลิ ิตร (1 แกว้ ) ให้ ดม่ื มากๆ เมอื่ เริ่มมีอาการทอ้ งร่วง ถ้าถ่ายบอ่ ยให้ด่ืมบ่อยครั้งขน้ึ ถ้าอาเจียนดว้ ยให้ดื่มทลี ะน้อยแต่ บ่อยครง้ั ขนาดการใช้ เด็กอายุมากกวา่ 2 ปี-ผ้ใู หญ่ ใหด้ ื่มสารละลายเกลือแร่ประมาณ 1 แก้ว (250 มิลลิลติ ร) ตอ่ การถา่ ย อุจจาระ 1 ครง้ั หรือตามความกระหายของผปู้ ่วย เดก็ อ่อน-เด็กอายุ 2 ปี ใหด้ ืม่ ทีละน้อยสลับกับนา้ เปลา่ ประมาณวนั ละ 3 ซองหรอื มากพอทีค่ นไข้ ตอ้ งการและด่ืมต่อไปจนกว่าอาการจะดีขึ้น คาเตือน 1) ผ้ทู ี่เปน็ โรคหัวใจหรอื โรคไต ควรปรึกษาแพทย์กอ่ นใช้ 2) ถา้ ผู้ป่วยยังมีอาการอาเจยี นมาก เหงื่อออกมาก ตัวเย็น ความรู้สกึ เปลยี่ นแปลงไป หรอื หมดสติ ควรนาผปู้ ว่ ยส่งโรงพยาบาลโดยดว่ น การเกบ็ รกั ษา 1) เก็บในทแี่ ห้ง และป้องกนั ไม่ใหถ้ กู แสงแดด 2) ยาทล่ี ะลายน้าแล้วเกิน 24 ชวั่ โมง ไมค่ วรใช้ วธิ ที าน้าเกลอื แร่ด้วยตนเอง นา้ 750 cc เกลือ 1 ช้อนชา นา้ ตาลทราย 2 ช้อนโตะ๊
11. ยาบรรเทาอาการไอ ขบั เสมหะ1.)ยาแก้ไอจจี ี (Glyceryl guaiacolate)ขอ้ บ่งใช้ ยาขับและละลายเสมหะ 11.ขนาดที่ใช้ อายุ < 2 ปี 1 ซซี ี-2.5 ซซี ี วันละ3-4 คร้ัง หลังอาหาร อายุ 2-5 ปี ½ - 1 ช้อนชา วนั ละ3-4 ครงั้ ไมเ่ กนิ 600 มิลลกิ รมั /วัน 9.2.)ยาแกไ้ อบรอมเฮ๊กซ์ซีน (Bromhexine)ข้อบ่งใช้ ลดความเหนียวหนืดของเสมหะขนาดทใ่ี ช้ เด็กอายุ6-12 ปี กนิ ½-1 เมด็ วันละ 3-4 คร้ัง หลงั อาหาร เด็กอายุมากวา่ 12 ปีข้ึนไป กิน 1 เม็ด วันละ 3-4 ครง้ั หลังอาหารรูปแบบของยา ยาเม็ด 8 มลิ ลิกรมั ยาน้า 4 mg./5 ml. ขนาด 60 ml.3.)ยาแกไ้ อเด็กซ์โตรมีทอรแ์ ฟน (Dextromethorphan)ข้อบ่งใช้ ระงับอาการไอ แกไ้ อแหง้ ๆ ท่ไี ม่มีเสมหะ มีฤทธ์ิกดอาการไอขนาดทีใ่ ช้ เดก็ อายุ 6-12 ปี กนิ ½-1 เม็ด วันละ 3-4 คร้ัง เด็กอายุมากวา่ 12 ปขี ้นึ ไป กิน 1 เมด็ วนั ละ 3-4 ครง้ัข้อหา้ มใช้ ไมค่ วรใชใ้ นกรณีไอมีเสมหะ หรอื ในเด็กเล็ก < 6 ปีรูปแบบของยา ยาเมด็ 15 มิลลิกรัมต่อเม็ด4.) ยานา้ แกไ้ อขับเสมหะสาหรับเดก็ในสตู รตารับ 5 มล. ประกอบด้วยตัวยาสาคญั คือAmmonium Carbonate 0.02 g.Glycyrrhiza Fluidextract 0.25 ml.ขอ้ บ่งใช้ บรรเทาอาการไอ ขบั เสมหะขนาดและวิธีใช้ รบั ประทานวันละ 3-4 ครงั้ เด็ก 6-12 ปี รับประทานครั้งละ 2 ช้อนชา (10 มลิ ลลิ ติ ร) เดก็ 3-6 ปี รบั ประทานคร้ังละ 1 ช้อนชา ( 5 มลิ ลิลติ ร) เดก็ 1-3 ปี รับประทานครั้งละ ½ ชอ้ นขา (2.5 มลิ ลิลติ ร) เก็บในอุณหภูมิต่ากว่า 400 C และป้องกนั ไม่ให้ถูกแสงแดดการเกบ็ รักษาขนาดบรรจุ ขวดละ 60 มิลลลิ ิตร5.)ยาแก้ไอน้าดา (Brown mixture) ในสูตรตารบั 5 มล. ประกอบดว้ ยตัวยาสาคัญ คอื
Glycyrrhiza Fluidextract 0.6 ml.Antimony Potassium Tartrate 1.2-2.0 mg.Camphorated Opium Tincture 0.6 ml.ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการไอและช่วยขบั เสมหะขนาดและวธิ ใี ช้ เขยา่ ขวดก่อนใชย้ า รบั ประทานวันละ 3-4 ครง้ั ผ้ใู หญ่ รบั ประทานคร้ังละ 1-2 ช้อนโตะ๊ เด็กอายุ 6-12 ปี ครึง่ -1 ช้อนชาคาเตอื น 1.ห้ามใชย้ านใี้ นเด็กท่อี ายุต่ากว่า 6 ปี คนชรา และหญงิ มคี รรภ์ 2.ยานมี้ ี Alcohol ผสมอยู่ 9.1% ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง 12. ยาขยายหลอดลม1) ซาลบทู ามอล (Salbutamol ) 12.ขอ้ บ่งใช้ ยาขยายหลอดลม สาหรับผทู้ ่ีเป็นโรคหอบ หดื ถุงลมโปง่ พอง หลอดลมอักเสบ เร้อื รัง COPD ( Chronic Obtructive Pulmonary Disease ) 10.ขนาดทีใ่ ช้ยากนิ เด็ก 2-6 ปี : ใหย้ าครงั้ ละ 0.1-0.2 mg/Kg วนั ละ 3 ครั้ง เด็ก 6-12 ปี : ให้ยาครัง้ ละ 2 mg วนั ละ 3-4 ครงั้ ผใู้ หญ่ : ครั้งละ 2-4 mg วันละ 3-4 ครั้ง ผ้สู ูงอายุ : ครง้ั ละ 2 mg วันละ 2-4 คร้งัยาพน่ nebulizer ; exacerbation of asthma 0.15 mg / kg (minimum 2.5 mg) ทกุ 20นาที 3 dose จากนัน้ ทกุ 0.15-0.3 mg/kg (max. 10 mg / kg) ทุก 1-4 ช่ัวโมงอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา :- หวั ใจเต้นเร็ว , ใจสั่น, หัวใจเต้นแรง , คลื่นไสห้ นา้ แดง , กระสบั กระส่ายนอนไมห่ ลับ , มึนงง, งว่ งนอน , เป็นลม . อาเจยี น , อ่อนเพลีย , แนน่ หน้าอก , เบ่ืออาหาร , หลอดลมตีบตวัผทู้ ่ีควรระวังในการใช้ยาน้ี- ผู้ท่แี พย้ าน้ี หรือยาใกลเ้ คียงอื่นๆ( คาเตือนมาตรฐาน )- ระวังเป็นพเิ ศษในผู้ท่ีเป็นโรคธยั รอยด์ , เบาหวาน , ความผิดปกตใิ นระบบหลอดเลือดหัวใจการเก็บรกั ษายา :- เก็บยานใ้ี นภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจมุ า ปดิ ภาชนะใหส้ นิท และเกบ็ ให้พน้ มือเด็ก- เกบ็ ยาน้ที ี่อณุ หภมู ิห้องโดยไม่ให้อยู่ในท่รี ้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซยี ส เชน่ บริเวณทถี่ กูแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณท่ีเปียกหรือชืน้รปู แบบยา ยาเมด็ 2 mg. / เมด็ ยาน้า 2 mg./5 ml. ขนาด 60 ml.
13. ยากระตุ้นการบบี ตวั ของมดลูก1.)Methylergometrine (Methergin ® Injection 01.23.mg/ml)ข้อบ่งใช้ ใช้ในหญิงหลังคลอดหรือแทง้ บุตร เพอื่ ให้มดลกู บีบตัว ป้องกันการตกเลอื ดแนวทางการบรหิ ารยา 11.1. การฉดี เขา้ กลา้ ม (I.M.) 0.2mg. ถา้ จาเปน็ ให้ยาซ้าได้ ทกุ 2-4 ชวั่ โมง แต่ไมค่ วรให้ยาเกิน 5 คร้ัง ส่วน I.V.:dose เหมือนกับ I.M. แต่ต้องระมัดระวัง ความดันเลือดท่ีอาจะสูงผิดปกติเฉียบพลัน และการทาลายหลอดเลือดทีไ่ ปเลี้ยงสมอง (cerebrovascular ccidents)2. อาการพิษท่ีสาคัญ คือ ชักและเน้ือตายเน่า ซึ่งเกิดได้มากท่ีน้ิวมือและน้ิวเท้า อาการอ่ืนๆ ได้แก่ อาเจียนทอ้ งรว่ ง เวียนศีรษะ ความดันเลอื ดเพ่มิ หรือลด ชีพจรออ่ น การแขง็ ตวั ของเลอื ดเร็วผดิ ปกติการแกพ้ ิษ ทาได้ดังนี้- ล้างท้องหรือทาให้อาเจียนทันที หรือให้รับประทาน activated charcoal และยาระบาย magnesiumsulfate- ถ้ามีอาการชักควรใหย้ าระงบั การชกั เช่น diazepam เขา้ I.V.- แก้ไขอาการเลือดแข็งตวั เร็วผดิ ปกติ โดยให้ heparin การเกบ็ รกั ษา ในภาชนะปิดสนิทแน่น ในบรรยากาศของก๊าซไนโตรเจนหรือก๊าซที่เหมาะสม ป้องกันอากาศและแสงเก็บทีอ่ ุณหภมู ไิ ม่เกนิ 8C บทบาทพยาบาล 1.ถา้ สารละลายใน ampules เกดิ การเปลย่ี นสเี ปน็ ไม่มีสไี มค่ วรใช้ 2.ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นระยะๆ เน่ืองจากอาการไม่พึงประสงค์อาจพบอย่างเฉียบพลันและ รนุ แรง คอื ภาวะความดนั เลือดสูง 14. ยาคลายกงั วล แก้ชัก1.) ไดอาซีแพม (Diazepam) 14.ขอ้ บ่งใช้ ไดอาซแี พม เปน็ ยาออกฤทธ์ิต่อจติ และประสาทชนิดหนง่ึ ในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีนส์(เBปe็นnยzาoคdลiาaยzกeังpวinลeหsร,อื BยZา)กลออ่อมกฤปทระธสิ์ทา่สี ทมอ(Tง1หra2รn.ือqรuะiบlizบeปrร)ะทสาาใทหส้จว่ิตนใจกสลงาบง (CNS) ในทางการแพทยใ์ ช้ ใช้สาหรบั รักษาผปู้ ว่ ยท่มี ีอาการผิดปกตทิ างอารมณ์ เช่น ความเครยี ด วติ กกังวล รกั ษาอาการฟุ้งซา่ นทเี่ กิดจากโรคประสาท ทาใหก้ ล้ามเนื้อคลายตัว และระงับอาการชักขนาดการใช้ พิจารณาตามสภาพอาการของผู้ป่วย โดยทวั่ ไป ขนาดท่ีใช้ คอื 4 - 40 มก./วนัลดอาการวติ กกังวล
ผู้ใหญ่: รับประทานครง้ั ละ 2-10 มก.วนั ละ 2-4 ครัง้ หรอื ตามแพทยส์ ่ัง คลายกล้ามเนือ้ ผู้ใหญ่: รบั ประทานครงั้ ละ 2-10 มก.วันละ 3-4 ครงั้ หรือตามแพทยส์ ่ัง ผสู้ ูงอายุหรือผปู้ ว่ ยหนักดว้ ยโรคทางกาย ควรลดขนาดของยาลง แก้อาการชกั หรือเกรง็ ผู้ใหญ่: ในรายที่เป็นโรคลมชักชนิด status epilepticus หรือชักเกร็ง ในระยะเร่ิมแรก ฉีดเข้า หลอดเลอื ดดาครง้ั ละ 5-10 มก. หากจาเป็นอาจให้ยาน้ี ซ้าได้อีกทุก 10-15 นาที แต่อย่าให้เกิน 30 มก. และหากยงั ชกั ไม่หยุด อาจใหย้ าได้อีก แต่ควรเว้นระยะหา่ งอย่างน้อย 2-4 ช่ัวโมง ผู้สูงอายุหรือ ผปู้ ว่ ยหนักดว้ ยโรคทางกาย ควรลดขนาดของยาลง แก้อาการวติ กกงั วลอยา่ งรนุ แรง ผู้ใหญ่: ฉีดเข้าหลอดเลือดดาอย่างช้าๆคร้ังละ 5-10 มก. ถ้าจาเป็นอาจให้ยานี้ซ้าได้ ภายหลังการให้ยา คร้ังแรก 3-4 ช่วั โมง หากไมส่ ามารถฉีดเขา้ หลอดเลือดดากส็ ามารถให้ยาโดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อแทนได้ ปอ้ งกนั ชกั จากไข้ 0.2-0.25 mg/kg/คร้งั ทกุ 6-8 ชวั่ โมงเวลามไี ข้สูงอาการไมพ่ ึงประสงค์ อาการไม่พึงประสงค์เกิดจากฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง อาการท่ีพบส่วนใหญ่ คือ ง่วงซึมกล้ามเน้ือทางานไม่ประสานกัน กล้ามเนื้อเปลี้ย สับสน มึนงง เวียนศีรษะ ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วนอกจากน้ี อาจเกิดภาวะเสียความจาข้างหน้า มีรายงานการเกิดอาการระคายเคืองทางเดินอาหาร และพบปฏิกิรยิ าทางผิวหนัง นอกจากนี้ อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบได้จากการใช้ยาฉีด diazepam คือ ภาวะหลอดเลือดดาอกั เสบ และภาวะหลอดเลอื ดดามลี มิ่ เลือดการดอ้ื ยาและการตดิ ยา การใชย้ าติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะทาให้เกิดการดื้อยาและติดยา ซง่ึ ตดิ ได้ทง้ั ทางรา่ งกายและจิตใจ ซึง่ ถา้ หยดุ ใช้ยาทนั ทจี ะเกดิ อาการขาดยาหรือถอนยา เชน่ คลน่ื ไส้ นอนไม่หลบั มือส่นั หวั ใจเต้นเรว็ ซึมเศร้า เป็นโรคจติ หรอื อาจชกั ได้ ความรนุ แรงของอาการจะมากหรอื น้อยข้นึ อยู่กบั ขนาดยาและระยะเวลาที่ใชย้ าการใช้ยาเกนิ ขนาด อาการรุนแรงมากหรือน้อยข้ึนอยกู่ บั ปรมิ าณท่ีได้รบั ส่วนใหญอ่ าการทางระบบประสาทกลางไม่คอ่ ยรนุ แรง เช่น มเี พยี งอาการง่วงนอน พูดไม่ชัด กลา้ มเนื้อทางานไมป่ ระสานกนั เพราะยามีขดี ความปลอดภยั สูง แต่ถา้ ให้ยาร่วมกับยากดประสาทส่วนกลางชนิดอืน่ อาจรุนแรงจนเป็นอันตายตอ่ ชวี ิตได้ การรักษา ลดการดูดซึมยา โดยทาให้อาเจียนร่วมกับการให้รับประทาน activated charcoal เพื่อลดการดูดซมึ ยาสาหรบั ผู้ป่วยท่ยี งั ไม่หมดสติ หรือใหล้ ้างทอ้ งในกรณที ผ่ี ู้ปว่ ยหมดสติ ให้การรักษาตามอาการร่วมกบั ให้ specific antidote โดยให้สารละลายทางหลอดเลือดดาเพอ่ื เพิม่ การ กาจดั ยา หากมภี าวะกดการหายใจควรใหอ้ อกซิเจน หากจาเปน็ ใหพ้ ิจารณาช่วยการหายใจ อาจพจิ ารณาให้ ยา flumazenil ซง่ึ เปน็ specific benzodiazepine receptor antagonist เพื่อลดฤทธ์กิ าร
คาเตือนหรอื ขอ้ ควรระวัง 1) อาจทาใหง้ ่วงซมึ ไม่ควรขับขย่ี านพาหนะหรือทางานเก่ียวกับเคร่อื งจักรกลหรือในทส่ี ูง 2) หา้ มดม่ื สรุ า หรอื สิง่ ที่มแี อลกอฮอลผ์ สมอยู่ 3) ห้ามใช้ในผูท้ ีแ่ พย้ ากลมุ่ เบนโซไดอาซีปีน (Benzodiazepines) ผปู้ ่วยโรคตอ้ หินเฉียบพลันชนิด มุมแคบ (Acute narrow angle glaucoma) 4) สตรมี ีครรภ์ สตรรี ะยะให้นมบุตร ผูป้ ่วยโรคตบั โรคไต โรคต้อหินชนดิ มมุ เปิด (Open angle glaucoma) โรคไมแอสทีเนีย แกรวีส โรคพอร์ไฟเรยี โรคที่ระบบทางเดินหายใจทางานบกพร่อง ภาวะหยดุ หายใจขณะหลับ โรคพษิ สรุ าเร้ือรงั โรคทางจิตเวช เช่น โรคจิต โรคอารมณซ์ ึมเศรา้ เป็น ต้น ผมู้ ีประวตั กิ ารติดยา หรือสารเสพตดิ ควรใชด้ ้วยความระมัดระวงั เป็นพเิ ศษ 5) อาจทาใหเ้ กดิ ความผิดปกติของเมด็ เลือด ตบั หรือไตได้ 6) ไมค่ วรใช้ติดตอ่ กนั เป็นเวลานาน นอกจากแพทย์สง่ั หากใช้เปน็ ประจาควรปรึกษาแพทย์กอ่ น หยดุ ใช้ 8) อาจเกิดปฏกิ ริ ยิ าระหว่างยาเม่อื ใช้รว่ มกับยาอืน่ เชน่ ยาทีม่ ีฤทธิ์ยบั ย้งั การทางานของเอนไซมใ์ น ตบั (CYP2C19) เช่น cimetidine, quinidine จะทาให้ diazepam ออกฤทธ์ิยาวข้นึ ยาทอี่ อกฤทธ์ิ กระตุน้ การทางานของเอนไซมใ์ นตบั (CYP2C19) เชน่ rifampin จะทาใหเ้ พิ่มการกาจัดออกของ diazepam ยา ranitidine จะทาให้การดูดซึม diazepam ในทางเดินอาหารลดลง 15. วติ ามนิ และเกลอื แร่1.) วิตามนิ ซี (Ascorวbติ icามaินcซidี ใ)ช้รกั ษาลักปิดลักเป1ิด5.ข้อบ่งใช้ขนาดท่ใี ช้ รบั ประทานคร้ังละ 1 เมด็ 3 เวลา หลงั อาหารรูปแบบของยา ยาเม็ด 100 มลิ ลิกรมั /1เม3็ด.2.) ยาบารงุ เลือด เอฟ บี ซี (FBC)ขอ้ บ่งใช้ ธาตเุ หลก็ เสรมิ การสร้างเม็ดเลือดแดง ใช้รักษาภาวะขาดธาตุเหล็กขนาดที่ใช้ รับประทานครั้งละ 1 เมด็ วนั ละ 1-3 ครั้ง หลงั อาหารเชา้ กลางวนั เย็นรปู แบบยา ยาเมด็ โดยท่วั ไปจะมี 60 มลิ ลกิ รัม3.)ยาเม็ดวติ ามนิ รวม (Multivitamin)ข้อบ่งใช้ บารงุ รา่ งกาย ป้องกนั การขาดวิตามินขนาดทีใ่ ช้ รับประทานวันละ 1 เม็ด วันละหน่ึงคร้งั หลงั อาหารเชา้***ยาน้ีอาจจะสะสมในรา่ งกายทาใหเ้ กดิ อนั ตรายได้ จึงไม่ควรใชเ้ กินขนาดท่ีกาหนดไว้ หรอื ใชต้ ิดต่อกนัเปน็ ระยะเวลานาน***
3.) ยาเมด็ วิตามินบี รวม (Vitamin B complex)ข้อบ่งใช้ ป้องกนั และรักษาอาการขาดวิตามินบี เช่น ล้นิ อักเสบวิธใี ช้ รบั ประทานครั้งละ 1 เมด็ วนั ละ 1-3 คร้ัง หลงั อาหาร เชา้ กลางวัน เย็น 16. ยาเตรียมใช้สาหรับตาและหู1.) Chloramphenicol eye drop 16.ข้อบ่งใช้ ใช้หยอดตารกั ษาโรคตาแดง ตาอกั เสบ เปลือกตาอกั เสบ กระจกตาอักเสบ และใชใ้ นรายที่ เปน็ แผลในตาวธิ ีใช้ หยอดตาขา้ งทเี่ ป็น 1-2 หยด ว1ัน4ล. ะ 2-4 ครัง้ เช้า กลางวัน เยน็ ก่อนนอน***เก็บยาในตเู้ ยน็ ช่องธรรมดามีอายุ 1 เดือน อยนู่ อกตู้เยน็ มอี ายุ 7 วนั ***2.) Hista-oph eye dropขอ้ บ่งใช้ ใช้หยอดแก้แพ้ บรรเทาอาการระคายเคือง ตาแดงท่ีไม่มีขี้ตาและไมป่ วดวธิ ีใช้ หยอดตาขา้ งทเี่ ป็น 1-2 หยด วนั ละ 2-4 คร้ัง เชา้ กลางวนั เยน็ กอ่ นนอน***ยาหยอดตาเปดิ แล้วมีอายุ 1 เดอื น***3.) Chloramphenicol eye Ointข้อบ่งใช้ ป้ายตารักษาการติดเชื้อในตาวธิ ีใช้ ป้ายตาวนั ละ 1 ครัง้ ก่อนนอน 17. ยาชาเฉพาะท่ี1.) Lidocaine injection 17.ขอ้ บ่งใช้ ยาชาขนาดท่ใี ช้ Infiltrate รอบบรเิ วณท่ีจะทาหัตถการ ขนาดสูงสุด 4.5 มิลลิกรัม/ กิโลกรมั /ครง้ั ไมค่ วร1ซ5้า.ภายใน 2 ช่ัวโมง
18. ยาทใี่ ช้สาหรับผวิ หนัง1.)ยารกั ษาหิด เหา (Benzyl benzoate) ทารกั ษาหดิ เหา 18.ขอ้ บ่งใช้วธิ ใี ช้ รกั ษาหดิ ชโลมใหท้ ่วั หลังอาบนา้ ต้ังแตค่ อซอกขอ้ พบั ต่างๆ ซอกนว้ิ มือ นิ้วเทา้ รใหกั เ้แจรอื ้ ขจาางหนน้าบี เทอา่ วตัยวั วกะ่อ1เนพ6ทศ. าใแหล้ทะาทหาลซังา้ ออากี บ1น้าสเชปั ้าดาเยหน็์ถัดตไิดปต่อกัน 3 วัน ในเด็กเลก็รูปแบบของยา โลช่ัน 25 % 60 มิลลลิ ิตร,450 มลิ ลิลติ ร2.)ยาแก้คนั คาลาไมน์ (Calamine)ขอ้ บ่งใช้ บรรเทาอาการคัน เนื่องจากผดผน่ื คัน,ลมพษิวิธีใช้ เขยา่ ขวดก่อนใช้ยา ทาบริเวณทเ่ี ปน็ วนั ละ 3-4 คร้ังคาเตอื น ยาใช้ภายนอก ห้ามรบั ประทาน3.) ยานวดแกป้ วด (Methylsalicylate)ข้อบ่งใช้ นวดแกป้ วดเม่ือย เคลด็ ขัด ยอกวธิ ีใช้ นวดบริเวณที่เป็น***ยามีฤทธิร์ ะคายเคือง ไมค่ วรนวดบริเวณแผลถลอก***4.)ยาทาเพรดนิโซโลน (Prednisolone )ข้อบ่งใช้ ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ทาแกแ้ พ้ ผืน่ คันขนาดทใี่ ช้ ทาบรเิ วณที่เป็น หลังอาบนา้ เชา้ เย็น***ห้ามทาบรเิ วณแผลฝี หนอง และเช้อื รา***5.) Triamcinolone oral pasteข้อบ่งใช้ ใชร้ ักษาแผลรอ้ นใน และบรรเทาอาการอักเสบในช่องปาก เช่น กระพุ้งแก้มเปน็แผลทง้ั ชนดิ เฉียบพลนั และเร้ือรัง แผลอกั เสบทีเ่ หงือก แผลอกั เสบบริเวณล้นิ เป็นต้นวธิ ใี ช้ ทายาบรเิ วณท่เี ป็นวันละ 3-4 ครั้ง หลงั อาหารเช้า กลางวัน เยน็6.)ยารักษาโรคกลากเกลอื้ น น้ากัดเท้า (Whitfied’s ointment)ขอ้ บง่ ใช้ รกั ษาโรคกลากเกล้ือ และนา้ กดั เทา้วิธีใช้ ทาบริเวณทเ่ี ป็น วนั ละ 2-3 ครั้งคาเตอื น มีส่วนผสมของกระ salicylic อาจทาใหร้ ะคายเคืองได้
1.) Alcohol 70% 19. อน่ื ๆ ข้อบ่งใช้ วธิ ใี ช้ 19. คาเตือน สาหรับฆ่าเช้อื โรค ใยชาล้ใชา้ ้ภงมาือยนลอา้ กงเคหร้าื่อมงรมับอื ปรท1ะา7ทค.าวนามสะอาดแผล ใช้ทาฆ่าเช้ือโรคที่ผิวหนงั2.) Povidone iodine solutionขอ้ บ่งใช้ รกั ษาแผลสดวิธีใช้ ใช้สาลีสะอาดชุบยาทาทีแ่ ผลคาเตอื น 1.หากมีอาการระคายเคอื งหรือผนื่ แดงเกดิ ขน้ึ ให้หยุดใช้ยา 2.หลีกเล่ียงอย่าให้เข้าตา3.) Aromatic ammonia spiritข้อบ่งใช้ ใชส้ าหรับดมแก้วิงเวียน หนา้ มดื เปน็ ลม หรือรับประทานครั้ง 15-30 หยด ผสม กับนา้ อุ่นพอสมควร หรอื ใช้สาลีชบุ ปดิ แผล บรรเทาอาการแมลงกัดต่อยคาเตอื น ยาน้ีมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ 60% ควรใช้ด้วยความระมัดระวงั
สภาวะการเกบ็ รักษายาการเก็บรักษายาจากแตล่ ะแหลง่ อา้ งองิ ทีร่ วบรวมมา มีดงั นี้1. องค์การอนามัยโลก Normal storage conditions ใหเ้ ก็บรักษาในท่ีแห้ง อากาศถ่ายเทดี ท่ี อุณหภมู ิ 15 – 25 องศาเซลเซยี ส หรอื 30 องศาเซลเซยี ส ขนึ้ อย่กู บั เขตของภมู ิประเทศ ท่จี ายาไปใช้ ปราศจากการรบกวนทางดา้ น กลน่ิ แสง และอื่น ๆ การกาหนดสภาวะการเกบ็ รักษาทฉี่ ลาก ข้อความบนฉลาก หมายถงึ สภาวะการเก็บรกั ษาเกบ็ ท่ีอณุ หภูมิ 2 – 8 หรือต่ากวา่ 8 องศา เกบ็ ในตเู้ ย็น ( ไมใ่ ช่ตแู้ ชแ่ ข็ง )เซลเซยี สเก็บที่อุณหภูมิ ( - 5 ) – ( - 10 ) องศาเซลเซียส เก็บในตู้แช่แข็งเกบ็ ที่อณุ หภมู ิ ( - 18 ) องศาเซลเซียส เกบ็ ในต้แู ชแ่ ขง็ พเิ ศษDo not store over 30 C เกบ็ ระหว่าง 2 – 30 องศาเซลเซียสDo not store over 25 C เก็บระหวา่ ง 2 – 25 องศาเซลเซียสDo not store over 15 C เก็บระหวา่ ง 2 – 15 องศาเซลเซยี สDo not store over 8 C เก็บระหว่าง 2 – 8 องศาเซลเซียสDo not store below 8 C เก็บระหว่าง 8 – 25 องศาเซลเซยี สProtect form moisture เกบ็ ท่ีอณุ หภมู หิ อ้ งและความชืน้ ไมเ่ กิน 60 % RHProtect form light เกบ็ ในภาชนะทีป่ ้องกันแสง 2. USP หมายถงึ สภาวะการเกบ็ รักษา ข้อความบนฉลาก - เก็บท่ีอณุ หภมู ไิ ม่เกิน 8 องศาเซลเซียสCold - ตู้เย็นตอ้ งมีอณุ หภมู ิ 2 - 8 องศาเซลเซียส - ชอ่ งแข็งต้องมอี ุณหภมู ิอย่รู ะหวา่ ง ( - 20 ) – ( - 10 ) องศาCool เซลเซียสRoom temperature - อณุ หภูมิ 8 - 15 องศาเซลเซียส อาจเกบ็ ในตเู้ ยน็ ได้ ถ้าไมม่ กี ารControlled roomtemperature ระบอุ ย่างอืน่ ไว้เป็นพเิ ศษWarm - อณุ หภูมหิ ้องปฏบิ ตั ิการวเิ คราะห์ - เป็นการต้ัง thermostat ไวท้ ี่ 20 - 25 องศาเซลเซยี ส - อณุ หภูมิอยู่ระหวา่ ง 30 - 40 องศาเซลเซยี ส
ข้อความบนฉลาก หมายถึงสภาวะการเก็บรกั ษาExcessive heat - อณุ หภมู ิมากกว่า 40 องศาเซลเซียสDry place - สถานทม่ี ีความช้นื ไมเ่ กนิ 40 % RH ทีอ่ ณุ หภูมิห้อง เกบ็ ในภาชนะ ทป่ี อ้ งกันความชนื้Non – specific codition - สถานที่ป้องกันความชน้ื การแช่แข็งและความร้องสูงหรือที่ Controlled room temperature ไม่เกิน 23 องศาเซลเซยี ส ความชน้ื 75 % RH ถ้าไม่มีการแจง้ เปน็ อย่างอน่ืหมายเหตุ : RH ( Relative Humidity ) หมายถงึ ความชืน้ สัมพทั ธ์ รายการยาทีค่ วรเก็บพ้นแสงและหรอื เกบ็ ในตู้เยน็ลาดับ รายการยา ควรเกบ็ ควรเก็บในตู้เย็น หมายเหตุที่ พน้ แสง 2 - 8 C1 Adrenaline 1 mg/ml inj ถา้ เก็บนอกตู้เย็น มอี ายุ 6 เดอื นหลงั จากเอาออกมาจาก ตู้เย็น2 Albrndazole 200 mg tab 3 Brown mixture 60 ml 4 Chloramphenicol ear drops 1%, 10 ml5 Chloramphenicol eye drops 0.5%,10 ml6 Chloramphenicol eye oint 1%, 5 gm 7 Chlorpheniramine maleate syr 8 Chlorpheniramine maleate inj 9 Co-trimoxazole susp 60 ml 10 Co-trimoxazole tab 11 Diasgest 12 Doxycycline 100 mg cap 13 Erythromycin 250 mg cap 14 F.B.C. Tab 15 Folic acid 5 mg tab 16 Hydroxyzine 10 mg tab 17 Metoclopramide 10 mg/ 2 ml inj
ลาดบั รายการยา ควรเกบ็ ควรเก็บในตเู้ ยน็ หมายเหตุ ท่ี พน้ แสง 2 - 8 C 18 Methergin inj 19 Metronidazole 200 mg tab 20 Multivitamin tab (MTV) 21 Norgesic 22 Obimin AZ 23 Ranitidine 150 mg tab 24 Salbutamol 2 mg tab (Ventolin) 25 Sodium bicarb 300 mg tab 26 Tetracycline 250 mg cap 27 Vitamin B-complex tab (B-CO) 28 Vitamin C 100 mg tab ความคงตวั ของยาหลังจากเปดิ ใช้ลาดบั รายการยา ขนาดบรรจุ ความคงตวั หมายเหตุ ที่ หลงั เปิดใช้ 1 Aromatic ammonia spirit 450 ml จนกวา่ จะเปลย่ี นสภาพ 2 Ethyl alcohol 70 % solution 240 ml - 3 Glutaraidehyde 2 % solution 5 lite 1 เดอื น ผสมแล้วใช้ได้ 28 วัน หากยงั ไมผ่ สม ใชไ้ ด้ 3 เดือน 4 Hydrogen peroxide 20 % 450 ml - solution 1 เดือน 5 Insulin inj. 6 Lidocaine HCl 2 % inj. 10 ml 42 วัน เกบ็ ท่ีอณุ หภมู ิ 2- 8 C 7 NSS 1,000 ml for Irrigate 20 ml 10 วนั 8 Povidone iodine 10 % solution 1,000 ml 1 วนั 9 Sterile water for inj. 450 ml 1 เดือน 100 ml 10 วนั
รายการยาทีต่ อ้ งระมดั ระวังในการใช้ สาหรบั สตรีมีครรภ์ยาที่ทาให้ทารกในครรภ์พิการ ช่ือยา ผลเสยี ตอ่ เดก็1.1 แอลกอฮอล์ หรอื แม่ทเ่ี ป็นโรคพิษ ทาให้เกิดการแท้งได้มากและเด็กมีโอกาสตายระหว่างคลอดสุราเร้ือรัง เพม่ิ ข้นึ เด็กในครรภ์จะมีความพิการของศีรษะ หน้า แขนขาและ หัวใจ การเจริญเติบโตในครรภ์ช้าผิดปกติ อาจเป็นเด็กปัญญา ออ่ น และเมื่อคลอดออกมาเดก็ อาจมีอาการขาดเหลา้1.2 ยากนั ชกั พวก ฮัยแดนโตอิน จะทาให้การเจริญเติบโตของท้ังร่างกายและจิตใจช้ากว่าปกติ มี(hydantoin) ความผิดปกติของศีรษะและหน้า รวมทั้งแขน ขา โดยเฉพาะเล็บเช่น ไดแลนติน (Dilantin) และพนี ัย และปลายน้ิวฝ่อ ซึ่ง 30% ของแม่ท่ีกินยาเหล่านี้จะมีลูกท่ีมีโตอิน (Phenytoin) อาการดงั กล่าว1.3 ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน แม่ท่ีได้รับยานี้เพ่ือป้องกันการแท้งในระยะตั้งครรภ์3 เดือนแรก(Estrogen) ลกู ทเี่ ปน็ ผูห้ ญงิ เมื่อโตจนอายุ 13-24 ปีจะเกดิ เน้อื งอก และมะเร็งเช่น ไดเอธลิ สตลิ เบสตรอล ปากมดลูกและชอ่ งคลอดเพิ่มมากขึน้1.4 ปรอท (อาจเกดิ จากการสะสมของ ทาให้เกิดการแท้ง ลูกตายในท้องหรือตายหลังคลอดเพ่ิมมากข้ึนสารปรอทท่ีมีในอาหาร) หรือลูกเกิดมามคี วามพกิ ารทางสมองหรือโรคทางสมองอื่นๆ
ยาที่มีพิษต่อเด็กในครรภ์ ช่ือยา ผลเสียต่อเด็ก3.1 แอสไพรนิ (Aspirin) และ ถา้ แม่กินยาน้ีเมื่อใกล้คลอด อาจไปยับย้ังการทางานเลือดแข็งตัวช้าลงซาลซิ ยั เลท (Salicylate) ถ้าแม่กินยาน้ีหรือยาที่มีสารประกอบเป็นตัวยาน้ีอยู่ต้ังแต่ระยะ 3 เดือนแรก จะทาให้คลอดเกินกาหนดเพ่ิมอัตราการตายในท้อง และ อาจมีความผิดปกติต้ังแต่กาเนดิ ได้หลายอยา่ ง3.2 พาราเซตามอล ( ถา้ แม่กินยานีข้ นาดสงู ในระยะใกลค้ ลอด จะมีพิษต่อParacetamol) ตับของเดก็ ในครรภ์3.3 คลอแรมเฟนิคอล ไมพ่ บวา่ ทาให้เกิดความพิการแต่กาเนดิ ถา้ ให้ยานแ้ี กแ่ ม่ขณะคลอด(Chloramphenicol) อาจทาให้เดก็ ในครรภเ์ กิดอาการขาดออกซเิ จน ตัวเขยี ว ๆ เทา ๆ ออ่ นปวกเปียก เรียกอาการน้ีว่า เกรย์ ซินโครม และจะทาใหเ้ ด็ก เปน็ โรคโลหิตจางได้3.4 เตตรา้ ซัยคลนิ (Tetracycline) ถ้าใช้ในหญิงมีครรภ์ที่อยู่ในระหว่าง 6-8 เดือนหลังการต้ังครรภ์ ยานี้ จะไปจับกับแคลเซ่ียมท่ีกระดูกและฟันของเด็กในครรภ์ ทาให้ฟันของ เดก็ มสี เี หลืองสีนา้ ตาลไปตลอดชีวิต และยังทาให้การเจริญของกระดูก และสมองของเด็กเหลา่ น้ีผดิ ปกติไปด้วย3.5 อะมโิ นกลยั โคโซด์ ทาให้ประสาทเก่ียวกับการได้ยินเสียไปบางส่วนหรืออาจรุนแรงถึง(Aminoglycoside) ขนาดทาให้เด็กแรกเกิดหูหนวกได้ถ้าหญิงมีครรภ์ได้รับในระยะใกล้เชน่ สเตร็ปโตมัยซิน กานามยั คลอด เด็กแรกเกิดมีโอกาสท่ีจะมีอาการตัวเหลือง เพราะปริมาณบิลิรูซนิ และ เจนตามยั ซิน ซลั โฟนา บินในเลือดสูง และซึมผ่านเข้าไปในสมองบางส่วนทาให้ สมองเสื่อมไมด์ (Sulfonamides) ชัก ภาษาอังกฤษเรียกวา่ เกดิ ภาวะ \"Kernicterus\"3.6 ฟโิ นบารบ์ ติ อล ถ้าแม่กินยาน้ีในขนาดสูงในระยะใกลค้ ลอดมักทาใหเ้ ด็กในครรภ์หายใจ(Phenobarbital), ไม่สะดวก เนอ่ื งจากยาน้ีมีผลไปกดศูนย์การหายใจ และยามีผลต่อการบารบ์ ติ เู รท (Barbiturate) แขง็ ตัวของเลือด อาจทาใหม้ ีเลอื ดออกในเด็กแรกเกิด3.7 ไดอะซีแพม (Diazepam) ถ้าใช้ในระยะใกล้คลอด เด็กแรกเกิดจะมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตัวเย็น และอาจแสดงอาการขาดยาหลงั คลอด3.8 เมโปรบาเมท การเจริญเติบโตของเด็กช้าลง ถ้าให้ในระยะใกล้คลอดจะกดการ(Meprobamate) หายใจของเดก็ แรกเกิด แมท่ ีต่ ดิ ยา-เสพติดจะมีโอกาสแท้งง่าย หรือลูกยาเสพติด ไดแ้ ก่ เฮโรอนี ออกมาตัวเล็กและอาจมีอาการขาดยา คือ กระวนกระวาย อาเจียนมอรฟ์ นี มอื เทา้ สั่นรอ้ งเสียงแหลม ชกั3.9 ยารักษาเบาหวานชนดิ ทาใหเ้ ด็กแรกเกดิ มนี า้ ตาลในเลือดตา่คลอร์โปรปาไมด์( Chlorpropamide)3.10 ไอโอดนี ( Radioactive I131 ถ้าให้ไอโอดีนกัมมันตภาพ I131 ในหญิงมีครรภ์เกิน14 อาทิตย์ จะทา) ให้สารนี้ไปสะสมอยู่ในต่อมธัยรอยด์ของลูกได้ ทาให้เกิดภาวะขาด สารธัยรอยด์
ช่อื ยา ผลเสยี ต่อเดก็3.11 วติ ามนิ ซี ถ้าให้สตรีมีครรภ์มีมากเกินไปจะทาให้เด็กที่คลอดออกมาเกิดเป็นโรค เลอื ดออกตามไรฟัน3.12 ไอโอไดด์ (Iodides) ซง่ึ มกั ถ้าให้หลงั ต้ังครรภ์ 14 อาทิตย์ อาจเกิดคอพอก มีการเจริญเติบโตของผสมอย่ใู นพวกยาแก้ไอ ขบั เสมหะ สมองช้า และบางครั้งคอพอกอาจใหญ่มากจนกดหลอดลมหรือหลอด อาหาร3.13 ยาชาเฉพาะท่ี ( Local ถ้าใช้ยาพวกนี้มากเกินไป พบว่า 25% ของเด็กแรกคลอด จะมีหัวanesthetics ) ใจเต้นช้าลง และอาจมีผลทาให้เด็กในครรภ์เกิดหัวใจเต้นช้า หรือเด็ก แรกคลอดหยุดหายใจหรือชกั3.14 แอมโมเนียม คลอไรด์ ถ้าแม่ใช้ในปริมาณมากและในระยะใกล้คลอดเด็กแรกเกิดภาวะใน รา่ งกายจะเปน็ กรด3.15 คลอโรควีน ( Chloroquin ) ทาให้แทง้ บ่อยข้ึน จะมีผลตอ่ สมองและประสาทหูของเด็กในครรภ์3.16 ควินนิ ( Quinine ) เกดิ แท้งได้ มพี ิษตอ่ หู และหอู าจหนวกในเดก็ แรกคลอด3.17 ยาขบั ปัสสาวะพวกไธอาไซด์ ปริมาณของพลาสมา และเลือดที่ไปยังรก อาจทาให้เด็กแรกเกิดมี( Thiazide diuretic ) เช่น เกล็ดเลอื ดนอ้ ยลงHCTZ3.18 รีเซอรป์ นี ( Reserpine ) ถ้าใช้ในระยะใกล้คลอด จะทาให้เด็กแรกเกิดมีอาการคัดจมูก ตัวเย็น หัวใจเต้นชา้ ตัวออ่ นปวกเปยี ก3.19 ยาต้านอักเสบท่ีไมใ่ ช่ สเตยี จะทาให้เกิดการยับย้ังการทางานของเกล็ดเลือดเหมือนแอสไพริน จึงรอยด เช่น นาโปรเซน ไม่ควรใหใ้ นหญิงมีครรภ์3.21 อะมิโนฟลิ ลีน อาจทาให้เดก็ แรกเกดิ มภี าวะหัวใจเต้นเร็ว ร้องกวนตัวสัน่ และอาเจียน(Aminophylline) และ ทโี อฟลิ อาการมกั ปรากฏในช่วง 6-48 ชัว่ โมง ภายหลงั คลอดลีน (Theophylline)3.22 ยาลดกรด (Antacids) ถ้าแมก่ ินยานี้ขนาดสงู ๆ ติดต่อกันเป็นประจา อาจทาให้เด็กแรกเกิดมี ปริมาณแคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดสูงจนเกิดอาการชักกระตุก ได้
การใชย้ าพน่ สดู
การใชย้ าหยอดหู 1. ล้างมอื ใหส้ ะอาด 2. เอยี งศรีษะใหย้ าด้านทจ่ี ะหยอดยาอย่ดู า้ นบน 3. หยอดยาเข้าไปในหูตามที่กาหนด เอียงหไู ว้สกั ครู่ * ระวงั ! อย่าเอาหลอดหยดสอดเข้าไปในหู และอย่าให้ปลายหลอดหยดถูกตา มอื หรือสง่ิ ใด ๆ 4. ยาที่เปดิ ใชแ้ ลว้ เกบ็ ไวใ้ ช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน คาแนะนาเพ่ิมเตมิ - ควรทาความสะอาดหู ก่อนหยอดยาทุกครั้ง โดยใช้สาลพี ันปลายไมท้ ี่สะอาด ทาความสะอาด หูจนสะอาด - ไม่ควรใช้ยาร่วมกบั ผู้อืน่ เพราะจะติดเชื้อกันได้ - ถา้ เป็นยาน้าแขวนตะกอน ให้เขยา่ ขวดก่อนใช้
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: