สุนทรภู่ รัตนกวีศรแี ผน่ ดิน ค่มู ือประกอบ การทาแบบทดสอบความรู้ออนไลน์ “ประวตั ิและผลงานของสุนทรภ่”ู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนศรยี านสุ รณ์ จงั หวัดจนั ทบรุ ี
สุนทรภู่ กวีสำคญั สมัย ตน้ รัตนโกสินทร์ เกิดวนั จันทร์ เดอื น 8 ขึ้น 1 คำ ปมี ะเมยี จลุ ศักรำช 1148 เวลำ 2 โมงเช้ำ หรอื ตรงกับวนั ที 26 มิถุนำยน พ.ศ. 2329 เวลำ 08.00 น. ซึงตรงกบั สมัยรชั กำลที 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณดำ้ นเหนอื ของพระรำชวงั หลัง (บริเวณสถำนรี ถไฟ บำงกอกนอ้ ยปจั จุบัน) บดิ ำของทำ่ นเป็นชำวบำ้ นกรำ อำเภอแกลง จังหวดั ระยอง ชอื พ่อพลบั ส่วนมำรดำเปน็ ชำวเมืองฉะเชิงเทรำ ชือแม่ชอ้ ย สันนิษฐำน ว่ำมำรดำเป็นขำ้ หลวงอยู่ในพระรำชวังหลงั เชือว่ำหลงั จำกสุนทรภู่ เกิดได้ไมน่ ำน บดิ ำมำรดำกห็ ย่ำร้ำงกนั บิดำออกไปบวชอยู่ทีวัดปำ่ กรำ อนั เป็นภูมลิ ำเนำเดิม ส่วนมำรดำไดเ้ ข้ำไปอยู่ในพระรำชวงั หลัง ถวำยตวั เปน็ นำงนมของพระองค์เจำ้ หญงิ จงกล พระธิดำในเจำ้ ฟ้ำ กรมหลวงอนรุ กั ษ์เทเวศร์ ดังนน้ั สุนทรภจู่ งึ ไดอ้ ยู่ในพระรำชวงั หลงั กบั มำรดำ และได้ถวำยตวั เปน็ ข้ำในกรมพระรำชวังหลงั ซึงสนุ ทรภู่ ยังมีน้องสำวตำ่ งบดิ ำอีกสองคน ชือฉิมและนิม
\"สนุ ทรภ\"ู่ ไดร้ ับกำรศกึ ษำในพระรำชวงั หลังและทวี ัดชปี ะขำว (วดั ศรีสุดำรำม) ตอ่ มำไดเ้ ข้ำรับรำชกำรเป็นเสมยี นนำยระวำง กรมพระคลังสวน แตไ่ มช่ อบทำงำนอืนนอกจำกแตง่ บทกลอน ซึงสำมำรถแตง่ ไดด้ ีตั้งแตย่ ังรุ่นหนุ่ม เพรำะต้ังแตเ่ ยำว์วัยสนุ ทรภู่ มีนิสัยรักแตง่ กลอนยิงกว่ำงำนอืน ครนั้ รุ่นหนุ่มกไ็ ปเปน็ ครูสอน หนังสอื อยู่ทีวดั ศรีสุดำรำม ในคลองบำงกอกนอ้ ย ไดแ้ ตง่ กลอน สภุ ำษติ และกลอนนทิ ำนขึ้นไว้ เมืออำยุรำว 20 ปี ตอ่ มำสนุ ทรภลู่ อบรักกบั นำงข้ำหลวงในวงั หลงั คนหนึง ชอื แม่จัน ซึงเปน็ บุตรหลำนผู้มีตระกูล จงึ ถกู กรมพระรำชวังหลังกริว้ จนถึงให้โบยและจำคุกคนทงั้ สอง แตเ่ มอื กรมพระรำชวงั หลงั เสด็จ ทวิ งคตในปี พ.ศ. 2349 จงึ มีกำรอภัยโทษแกผ่ ู้ถกู ลงโทษทงั้ หมด ถวำยเปน็ พระรำชกศุ ล สนุ ทรภกู่ ับแม่จัน มีบตุ รด้วยกนั 1 คน ชอื \"พอ่ พดั \" ไดอ้ ยู่ในควำมอปุ กำระของเจำ้ ครอกทองอยู่ ส่วนสุนทรภู่ กับแม่จันกม็ เี รืองระหองระแหงกันเสมอ จนภำยหลงั กเ็ ลิกรำกนั ไป
หลังจำกนนั้ สนุ ทรภู่ กเ็ ดินทำงเขำ้ พระรำชวงั หลงั และมีโอกำส ตดิ ตำมพระองค์เจำ้ ปฐมวงศใ์ นฐำนะมหำดเลก็ ตำมเสด็จไปในงำน พิธมี ำฆบูชำ ทีพระพุทธบำท จงั หวดั สระบุรี เมือปี พ.ศ. 2350 และ ไดแ้ ตง่ \"นิรำศพระบำท\" พรรณนำเหตกุ ำรณใ์ นกำรเดินทำงครำวนี้ ด้วย จนกระทงั ปี พ.ศ. 2359 ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระพุทธ เลิศหล้ำนภำลยั (รชั กำลที 2) สุนทรภไู่ ดเ้ ข้ำรบั รำชกำรในกรมพระ อำลกั ษณ์ และเปน็ ทโี ปรดปรำนของพระบำทสมเด็จพระพทุ ธ เลิศหล้ำนภำลยั จนไดร้ ับกำรแตง่ ตงั้ ให้เปน็ กวีทปี รึกษำคอยรับใช้ ใกล้ชดิ เนอื งจำกเมอื ครง้ั ทพี ระบำทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้ำนภำลยั ทรงแตง่ กลอนบทละครในเรอื ง \"รำมเกียรติ\"์ ตดิ ขัด ไม่มผี ู้ใดแตง่ ตอ่ กลอนได้ต้องพระรำชหฤทัย จงึ โปรดให้สนุ ทรภทู่ ดลองแตง่ ปรำกฏว่ำแต่งไดด้ ีเปน็ ทพี อพระรำชหฤทัย จงึ ทรงพระกรุณำฯ เลอื น ให้เป็น \"ขนุ สนุ ทรโวหำร\"
ตอ่ มำในรำว พ.ศ. 2364 สนุ ทรภตู่ อ้ งตดิ คุกเพรำะเมำสรุ ำ อำละวำดและทำร้ำยญำตผิ ู้ใหญ่ แตไ่ ม่นำนกพ็ ้นโทษ เนอื งจำก พระบำทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้ำนภำลัย ทรงตดิ ขดั บทพระรำช นพิ นธเ์ รือง \"สังข์ทอง\" ไม่มใี ครแตง่ ได้ต้องพระรำชหฤทยั ทรงให้ สุนทรภลู่ องแตง่ กเ็ ปน็ ทพี อพระรำชหฤทัย ภำยหลังพ้นโทษ สุนทรภู่ ไดเ้ ปน็ พระอำจำรย์ถวำยอกั ษรสมเดจ็ พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ เจำ้ ฟ้ำ อำภรณ์ พระรำชโอรสในรัชกำลที 2 และเชอื กนั วำ่ สุนทรภแู่ ตง่ เรือง \"สวสั ดิรักษำ\" ถวำย ในระหว่ำงนี้สนุ ทรภแู่ ตง่ งำนใหม่กับแม่นิม มีบตุ รด้วยกันหนึงคน ชอื \"พอ่ ตำบ\" \"สนุ ทรภ\"ู่ รบั รำชกำรอยู่เพยี ง 8 ปี เมอื ถึงปี พ.ศ. 2367 พระบำทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้ำนภำลยั เสดจ็ สวรรคต หลงั จำกนั้น สุนทรภกู่ ็ออกบวชทวี ดั รำชบุรณรำชวรวิหำร (วดั เลียบ) ระหว่ำงนนั้ ไดย้ ้ำยไปอยู่วดั ตำ่ ง ๆ หลำยแห่ง ไดแ้ ก่ วดั แจ้ง, วัดโพธิ,์ วัดมหำธำตุ และวดั เทพธิดำรำม ซงึ ผลจำกกำรทีทำ่ นเดินทำงธดุ งค์ ไปทีต่ำง ๆ ทัวประเทศ ปรำกฏผลงำนเปน็ นริ ำศเรอื งตำ่ ง ๆ มำกมำย งำนเขียนช้นิ สุดทำ้ ยทภี กิ ษภุ แู่ ตง่ ไวก้ อ่ นลำสกิ ขำ คือ \"รำพันพิลำป\" โดยแตง่ ขณะจำพรรษำอยู่ทีวดั เทพธิดำรำม พ.ศ. 2385
ระหว่ำงทสี นุ ทรภอู่ อกบวชเป็นพระภิกษไุ ดร้ ับกำรอุปกำระจำก พระองค์เจำ้ ลักขณำนุคณุ จนพระองค์ประชวรสนิ้ พระชนม์ สุนทรภู่ จงึ ลำสกิ ขำ และถวำยตวั อยู่กับเจำ้ ฟ้ำน้อย หรอื สมเดจ็ เจ้ำฟ้ำ จุฑำมณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ รวมทงั้ ไดร้ บั อุปกำระจำกกรมหมืน อปั สรสดุ ำเทพอีกดว้ ย ในสมัยรชั กำลที 4 เมือพระบำทสมเดจ็ พระจอมเกล้ำเจำ้ อยหู่ ัว ไดค้ รองรำชย์ ทรงสถำปนำเจ้ำฟ้ำ กรมขนุ อศิ เรศรงั สรรค์ เป็น พระบำทสมเดจ็ พระปิ่นกล้ำเจำ้ อยู่หวั ประทับอยู่วงั หน้ำ สุนทรภู่ จงึ ไดร้ ับพระรำชทำนบรรดำศกั ดิเ์ ปน็ \"พระสนุ ทรโวหำร\" ตำแหน่ง เจำ้ กรมพระอำลกั ษณ์ฝ่ำยบวรรำชวงั ในปี พ.ศ. 2394 และรบั รำชกำรได้ 4 ปี กถ็ ึงแกม่ รณกรรมใน พ.ศ. 2398 รวมอำยุได้ 70 ปี
ทำยำทของสุนทรภนู่ นั้ เชอื กนั วำ่ สุนทรภมู่ ีบุตรชำย 3 คน คือ \"พอ่ พัด\" เกิดจำกภรรยำคนแรกคือแม่จัน, \"พ่อตำบ\" เกิดจำกภรรยำ คนทสี องคือแม่นิม และ \"พอ่ นลิ \" เกดิ จำกภรรยำทีชือแม่มว่ ง นอกจำกนี้ ปรำกฏชือบตุ รบุญธรรมอีกสองคน ชือ \"พอ่ กลนั \" และ \"พอ่ ชบุ \" อย่ำงไรก็ตำม ในรัชสมัยพระบำทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้ำ เจำ้ อยู่หัว (รชั กำลที 6) ทรงตรำพระรำชบญั ญตั นิ ำมสกุลขึน้ และ ตระกลู ของสุนทรภไู่ ดใ้ ช้นำมสกลุ ตอ่ มำว่ำ \"ภเู่ รือหงส์\"
ผลงานของสุนทรภู่ หนังสอื บทกลอนของสุนทรภมู่ ีอยู่มำก เทำ่ ทีปรำกฏเรืองทยี งั มี ต้นฉบบั อยู่ในปจั จุบันน้ี ประเภทนิราศ - นริ ำศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) - แตง่ เมือเดินทำงไปหำพ่อที เมืองแกลง นบั ว่ำเปน็ นริ ำศเรอื งแรกของสนุ ทรภู่ - นริ ำศพระบำท (พ.ศ. 2350) - แตง่ เมือครำวตำมเสด็จ พระองค์เจำ้ ปฐมวงศไ์ ปนมสั กำรรอยพระพทุ ธบำททจี ังหวัดสระบุรี ในวันมำฆบชู ำ - นริ ำศภเู ขำทอง (ประมำณ พ.ศ. 2371) - แตง่ โดยแตง่ ขณะบวชเปน็ พระภิกษเุ ดินทำงไปนมสั กำรเจดยี ์ภเู ขำทอง ทกี รงุ เก่ำ (จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยำในปจั จุบนั ) เป็นนริ ำศทีสน้ั ทีสุด และ กลำ่ วกันวำ่ เปน็ นริ ำศทีดที สี ดุ ของสนุ ทรภู่
- นริ ำศสุพรรณ (ประมำณ พ.ศ. 2374) – แตง่ ในขณะ เดินทำงไปเมืองสพุ รรณบุรี เพือหำแร่ชนิดหนึง ทสี ำมำรถนำมำ แปรเป็นธำตชุ นิดอืนได้ ทเี รียกกันวำ่ \"เล่นแร่แปรธำต\"ุ นันเอง นริ ำศเรอื งน้ีเปน็ เรืองเดียวของทำ่ นทแี ตง่ เป็นโคลง - นริ ำศวัดเจำ้ ฟ้ำ (ประมำณ พ.ศ. 2375) – แตง่ โดยใช้ชอื เณรหนูพดั บตุ รชำยไดเ้ ดินทำงไปคน้ หำยำอำยุวฒั นะตำมลำยแทง ทวี ัดเจำ้ ฟ้ำอำกำศ (ยังไม่ปรำกฏชดั ว่ำคือวดั ใด) ทจี ังหวดั อยุธยำ - นริ ำศอิเหนำ – แตง่ เปน็ เน้อื เรืองอิเหนำรำพันถึงนำงบษุ บำ คำดว่ำแต่งในสมยั รัชกำลที 3 - รำพันพิลำป (พ.ศ. 2385) - แตง่ เมอื ครงั้ จำพรรษำอยู่ทีวัด เทพธิดำรำม แล้วเกดิ ฝนั ร้ำยวำ่ ชะตำขำด จงึ บนั ทกึ ควำมฝนั พร้อม รำพนั ควำมอำภพั ของตวั ไว้เปน็ \"รำพนั พิลำป\" จำกนนั้ จึงลำสกิ ขำ - นริ ำศพระประธม (พ.ศ. 2385) - เชอื ว่ำแต่งเมือหลงั จำก ลำสกิ ขำและเข้ำรับรำชกำรในพระบำทสมเด็จพระปิ่นเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ไปนมสั กำรพระประธมเจดยี ์ (หรอื พระปฐมเจดยี ์) ทีจงั หวัดนครปฐม
- นริ ำศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388) - แตง่ เมอื เข้ำรบั รำชกำรใน พระบำทสมเด็จพระปิ่นเกล้ำเจำ้ อยหู่ วั เชอื ว่ำไปธุระรำชกำรอย่ำงใด อย่ำงหนึง ประเภทนิทาน เรืองโคบุตร, เรืองพระอภัยมณี, เรืองพระไชยสรุ ิยำ, เรือง ลกั ษณวงศ,์ เรืองสิงหไกรภพ ประเภทสภุ าษิต - สวสั ดิรกั ษำ คำดว่ำประพนั ธใ์ นสมยั รัชกำลที 2 ขณะเปน็ พระอำจำรย์ถวำยอกั ษรแดเ่ จำ้ ฟ้ำอำภรณ์ - สุภำษติ สอนหญิง เปน็ หนึงในผลงำนซึงยังเปน็ ทเี คลือบแคลง ว่ำ สนุ ทรภเู่ ปน็ ผู้ประพันธจ์ ริงหรอื ไม่ - เพลงยำวถวำยโอวำท คำดวำ่ ประพันธใ์ นสมยั รัชกำลที 3 ขณะเป็นพระอำจำรย์ถวำยอกั ษรแดเ่ จำ้ ฟ้ำกลำงและเจำ้ ฟ้ำป๋วิ
ประเภทบทละคร - เรืองอภัยนุรำช แตง่ ขึ้นในสมยั รัชกำลที 4 เพือถวำย พระองค์เจำ้ ดวงประภำ พระธิดำในพระบำทสมเดจ็ พระปิ่นเกล้ำ เจำ้ อยู่หวั ประเภทบทเสภา - เรืองขุนช้ำงขุนแผน (ตอนกำเนดิ พลำยงำม) - เรืองพระรำชพงศำวดำร ประเภทบทเห่กลอ่ ม แตง่ ขึ้นสำหรับใชข้ ับกล่อม เทำ่ ทีพบมี 4 เรือง คือ เห่จบั ระบำ, เห่เรืองพระอภยั มณี, เหเ่ รืองโคบุตร และเหเ่ รืองกำกี
วรรคทองของสนุ ทรภู่ ด้วยควำมทีสุนทรภเู่ ป็นกวีเอกทีมผี ลงำนทำงวรรณกรรม มำกมำย ทำใหผ้ ลงำนหลำย ๆ เรืองของสนุ ทรภู่ ไดร้ ับกำรคดั เลอื ก นำไปเป็นบทเรยี นให้เดก็ ไทยได้ศึกษำ จงึ ทำให้มหี ลำย ๆ บทประพนั ธ์ ทคี ุ้นหู หรือทเี รยี กว่ำ \"วรรคทอง\" ยกตัวอย่ำงเช่น บางตอนจาก นิราศอิเหนา จะหักอนื ขืนหกั กจ็ ักได้ หักอำลยั นีไ้ มห่ ลดุ สดุ จะหกั สำรพดั ตดั ขำดประหลำดนัก แตต่ ดั รกั นไี้ ม่ขำดประหลำดใจ บางตอนจาก พระอภัยมณี บัดเดี๋ยวดงั หงงั เหง่งวงั เวงแว่ว สะดงุ้ แล้วเหลยี วแลชะแงห้ ำ เหน็ โยคีขีรุ้งพุ่งออกมำ ประคองพำขึน้ ไปจนบนบรรพต แล้วสอนวำ่ อย่ำไวใ้ จมนุษย์ มันแสนสุดลึกลำ้ เหลือกำหนด ถึงเถำวัลย์พนั เกยี วทเี ลยี้ วลด ก็ไม่คดเหมือนหนงึ ในน้ำใจคน (พระฤำษีสอนสดุ สำคร)
แม้นใครรักรกั มงั ชงั ชงั ตอบ ให้รอบคอบคิดอ่ำนนะหลำนหนำ รู้สงิ ไรไม่สู้รู้วชิ ำ รู้รักษำตัวรอดเปน็ ยอดดี (พระฤำษีสอนสุดสำคร) อันนินทำกำเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมอื นเอำมีดมำกรีดหนิ แต่องค์พระปฏิมำยังรำคิน คนเดินดินหรอื จะส้นิ คนนนิ ทำ *********************** เขำย่อมเปรยี บเทยี บควำมวำ่ ยำมรัก แตน่ ำ้ ผกั ต้มขมชมว่ำหวำน ครน้ั รักจำงห่ำงเหินไปเนนิ นำน แตน่ ำ้ ตำลวำ่ เปรยี้ วไมเ่ หลียวแล *********************** ถึงม้วยดินสนิ้ ฟ้ำมหำสมทุ ร ไม่สนิ้ สุดควำมรกั สมัครสมำน แม้เกิดในใต้ฟ้ำสธุ ำธำร ขอพบพำนพิศวำสไมค่ ลำดคลำ แม้เนื้อเยน็ เปน็ ห้วงมหรรณพ พีขอพบศรีสวัสดเ์ิ ปน็ มัจฉำ แม้เป็นบัวตวั พีเปน็ ภมุ รำ เชยผกำโกสมุ ประทมุ ทอง
แม้เปน็ ถำ้ อำไพใคร่เปน็ หงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง ขอตดิ ตำมทรำมสงวนนวลละออง เปน็ คู่ครองพิศวำสทุกชำตไิ ป (ตอน พระอภัยมณีเกยี้ วนำงละเวง ได้ถูกนำไปดัดแปลงเล็กนอ้ ย กลำยเป็นเพลง \"คำมนั สญั ญำ\") บางตอนจาก เพลงยาวถวายโอวาท อนั ควำมคิดวทิ ยำเหมือนอำวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝกั สงวนคมสมนึกใครฮึกฮกั จงึ ค่อยชักเชอื ดฟันให้บรรลัย *********************** อันอ้อยตำลหวำนลิน้ แล้วส้นิ ซำก แตล่ มปำกหวำนหูไม่รู้หำย แม้นเจ็บอืนหมืนแสนจะแคลนคลำย เจ็บจนตำยเพรำะเหน็บให้เจ็บใจ บำงตอนจำก สภุ ำษติ สอนหญิง มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบำท อย่ำให้ขำดสงิ ของตอ้ งประสงค์ จงมกั น้อยกินน้อยค่อยบรรจง อย่ำจ่ำยลงใหม้ ำกจะยำกนำน ***********************
จะพดู จำปรำศรยั กับใครนนั้ อย่ำตะคั้นตะคอกให้เคืองหู ไม่ควรพูดอือ้ องึ้ ขึ้นมึงกู คนจะหลู่ล่วงลำมไมข่ ำมใจ *********************** เปน็ มนุษย์สุดนยิ มเพยี งลมปำก จะไดย้ ำกโหยหิวเพรำะชิวหำ แม้นพดู ดมี ีคนเขำเมตตำ จะพูดจำพิเครำะห์ใหเ้ หมำะควำม *********************** รู้วชิ ำก็ให้รู้เปน็ ครูเขำ จงึ จะเบำแรงตนช่วยขวนขวำย มีข้ำไทใช้สอยค่อยสบำย ตวั เปน็ นำยโง่เงำ่ บ่ำวไม่เกรง ลูกผู้ชำยลำยมอื นนั้ คือยศ เจำ้ จงอุตสำ่ ห์ทำสมำเสมียน (ขุนแผนสอนพลำยงำม)
บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง ถึงบำงพูดพดู ดเี ป็นศรีศกั ดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจติ แม้พดู ชวั ตัวตำยทำลำยมิตร จะชอบผิดในมนษุ ยเ์ พรำะพูดจำฯ *********************** ไม่เมำเหล้ำแล้วแตเ่ รำยังเมำรัก สุดจะหักห้ำมจติ คิดไฉน ถึงเมำเหล้ำเช้ำสำยก็หำยไป แตเ่ มำใจนปี้ ระจำทกุ คำคืนฯ บางตอนจาก นิราศพระบาท เจ้ำของตำลรักหวำนขนึ้ ปีนต้น ระวงั ตนตีนมอื ระมดั มัน เหมือนคบคนคำหวำนรำคำญครนั ถ้ำพลั้งพลนั เจบ็ อกเหมือนตกตำล ***************************** กำแพงรอบขอบคูกด็ ลู ึก ไม่น่ำศึกอ้ำยพม่ำจะมำได้ ยังให้มันข้ำมเข้ำเอำเวียงชยั โอ้อย่ำงไรเหมือนบุรีไม่มีชำย
ทม่ี าของวันสุนทรภู่ องค์กำรกำรศกึ ษำ วิทยำศำสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชำชำติ (UNESCO) ประกำศยกย่องเชิดชูเกยี รติ ยกย่อง \"สุนทรภ\"ู่ ใหเ้ ปน็ บคุ คลผู้มผี ลงำนดเี ด่นทำงวัฒนธรรมระดบั โลก โดย ในวำระครบรอบ 200 ปีเกิด เมอื วันที 26 มิถนุ ำยน พ.ศ. 2529 ในปี พ.ศ. 2530 นำยเสวตร เปยี่ มพงศส์ ำนต์ อดีตรอง นำยกรัฐมนตรี ได้ดำเนินกำรจัดตงั้ สถำบนั สุนทรภขู่ ึ้น เพือสนบั สนนุ กำรจัดกิจกรรมเกียวกับชีวิตและงำนของสุนทรภู่ ให้แพร่หลำยในหมู่ เยำวชนและประชำชนชำวไทยมำกยงิ ขึ้น ดังนน้ั ทำงรัฐบำลจึงได้ กำหนดให้ วนั ที 26 มิถุนำยน ของทุกปี เปน็ \"วันสุนทรภ\"ู่ นับแต่นนั้ เมอื ถึงวันสนุ ทรภู่ จะมีกำรจัดงำนรำลึกถึงสนุ ทรภู่ ตำมสถำนศกึ ษำและทตี ำ่ ง ๆ เช่น ทพี ิพิธภณั ฑ์สนุ ทรภู่ \"วัดเทพธิดำ รำม\" และทจี งั หวดั ระยอง จะมีกำรจดั กิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณของ สนุ ทรภแู่ ละสง่ เสริมศิลปะกำรประพันธบ์ ทกวีเป็นประจำทกุ ปี
ทงั้ น้ี ผลงำนของสุนทรภยู่ ังเป็นทีนิยมในสังคมไทยอย่ำงตอ่ เนอื ง ตลอดมำไมข่ ำดสำย และมกี ำรนำไปดดั แปลงเปน็ สอื ตำ่ ง ๆ เช่น หนังสอื กำรต์ ูน ภำพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีกำรก่อสร้ำง อนุสำวรีย์สนุ ทรภู่ ไวท้ ตี ำบลกรำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึงเปน็ บำ้ นเกิดของบดิ ำของสุนทรภู่ และเปน็ สถำนทกี ำเนดิ ผลงำนนิรำศ เรืองแรกของทำ่ นคือ นริ ำศเมืองแกลง อีกดว้ ย ทีม่ า https://hilight.kapook.com/view/24209?fbclid=IwAR1OQGu22R ZNeUtaEIo6BgOyKwBo39ZHnLGVTUqLy88GPVI_6GC9YuYBpJo
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: