ทศั นธาตุ ทศั นะ หมายถงึ การเห็น สิ่งทมี่ องเหน็ ธาตุ หมายถึง สิ่งทถ่ี ือว่าเปน็ สว่ นสาคัญท่ี รวมกนั เปน็ รูปร่างของสิง่ ทงั้ หลาย ทศั นธาตุ หมายถงึ สว่ นสาคัญทีร่ วมกนั เปน็ รูปร่างของส่ิงทัง้ หลายตามที่ตามองเหน็ ทศั นธาตุ ไดแ้ ก่ 1. จดุ (Dot) 2. เสน้ (Line) 3. สี (Color) 4. รปู รา่ งและรปู ทรง (Shape and Form) 5. นา้ หนกั (Value) 6. บรเิ วณวา่ ง (Space) 7. ลกั ษณะผวิ (Texture)
1. จดุ (Dot) จุด หมายถึง รอยหรือแตม้ ที่มีลกั ษณะกลมๆ ปรากฏท่ีผิวพ้นื ไมม่ ขี นาด ความกวา้ ง ความยาว ความหนา เป็นสิ่งท่เี ลก็ ท่ีสดุ และเป็นธาตุเร่ิมแรก ท่ีทาใหเ้ กิดธาตุอนื่ ๆ ขนึ้ 2.เสน้ (Line) เส้น คอื จดุ หลาย ๆ จดุ ตอ่ กนั เปน็ สาย เปน็ แถว แนวไปในทิศทางใดทศิ ทางหน่งึ เปน็ ทางยาวหรือ จุดทเ่ี คล่ือนทไ่ี ปในทิศทางใดทิศทางหนึง่ ด้วย แรงผลักดัน หรือรอยขูดขดี เขยี นของวตั ถุเปน็ รอย ยาว
เสน้ แบ่งเป็นลกั ษณะใหญ่ ๆ 2 ลักษณะ ดงั น้ี 1. เสน้ ตรง 1.1. เส้นดิง่ คือ เส้นตรงที่ตงั้ ฉากกับ พนื้ ระดับใหค้ วามรู้สึก ม่นั คง แข็งแรง สง่า รุ่งเรอื ง สมดลุ พุ่งขน้ึ 1.2. เส้นนอน คอื เสน้ ตรงท่นี อนราบไป กับพน้ื ระดบั ให้ ความรสู้ ึกกวา้ งขวาง สงบเงียบ เยือกเย็น ผ่อนคลาย
1.3.เสน้ เฉียง คอื เส้นตรงเอนไมต่ ัง้ ฉากกบั พ้ืน ระดับให้ความรู้สกึ ไมม่ ั่นคง เคลอื่ นไหว แปรปรวน ไม่สมบูรณ์ 1.4. เส้นฟันปลา คอื เส้นตรงหลายเสน้ ตอ่ กนั สลบั ขึน้ ลงระยะเท่ากัน ให้ ความรสู้ ึกรุนแรง กระแทก ตน่ื เตน้ อนั ตราย ขดั แยง้
1.5. เสน้ ประ คือ เสน้ ตรงที่ขาดเปน็ ช่วง ๆ มีระยะ เทา่ กนั ให้ความรูส้ ึกต่อเนื่องขาดระยะใจหาย ไม่ แนน่ อน 2. เสน้ โค้ง 2.1. เส้นโคง้ ลง คือ เส้นท่ีเป็นทอ้ งกระทะคลา้ ย เชอื กหยอ่ น ให้ ความร้สู ึกอ่อนโยน เคล่อื นไหวไม่ แขง็ แรง
2.2. เสน้ โคง้ ขึ้น คือ เสน้ ทีโ่ คง้ เป็นหลงั เตา่ คล้าย คนั ธนูให้ความรูส้ ึกแข็งแรง เชื่อมน่ั เคลอื่ นไหว 3. เสน้ คด คือ เส้นโคง้ ข้นึ โค้งลงตอ่ เนือ่ งกันคล้าย คลืน่ ในทะเล ให้ความรู้สกึ เล่อื นไหล ตอ่ เน่อื ง ออ่ น ช้อย น่มุ นวล
4. เส้นก้นหอย คือ เสน้ โคง้ ต่อเนือ่ งกนั วนเขา้ เล็ก ลงเปน็ จดุ คลา้ ยกน้ หอย ใหค้ วามร้สู กึ อึดอัด เคลื่อนไหวคล่ีคลาย 5. เส้นโค้งอิสระ คือ เส้นโคง้ ตอ่ เนอ่ื งกนั ไปไม่มี ทิศทาง คลา้ ยเชอื กพนั กัน ใหค้ วามรสู้ ึกวุน่ วาย ยุ่ง เหยิง ไมเ่ ป็นระเบียบ
3.สี (Colour) สี หมายถึง ลกั ษณะของแสงสว่าง ปรากฏแก่ ตาใหเ้ หน็ เป็นสขี าว ดา แดง เขียว นา้ เงนิ เหลือง เป็นตน้ ถ้าไม่มแี สงจะมองไมเ่ หน็ สี ซ่ึงสมี ี 2 ชนดิ ดงั น้ี 1. สที เ่ี ปน็ วตั ถุ (Pigment) สที ีเ่ ปน็ รงควตั ถสุ ผี ง หรือธาตใุ นรา่ งกายท่ที าใหค้ นมสี ีต่าง ๆ สที เ่ี กิดจาก วตั ถุธาตุ เช่น จากพืช สัตว์ แร่ธาตุ เปน็ ตน้ ซึ่ง เปน็ สีทใี่ ช้ในงานศิลปะ
2. สที เี่ ปน็ แสง (Spectrum) สที ีเ่ กดิ จากการหกั เหของแสง แสงส่องผ่านแทง่ แก้ว แสงแดด ส่องผ่านละอองนา้ ในอากาศจะเกดิ การหักเหของ แสงเป็นสรี ุ้ง 7 สี ไดแ้ ก่ สี แดง ส้ม เหลือง เขยี ว น้าเงนิ คราม ม่วง
วงจรสธี รรมชาติ วงจรสี เกดิ จากการนาเอาแม่สที ีเ่ ปน็ วตั ถมุ าผสม กันเปน็ สี 3 ข้นั มี 12 สี คือ สีเหลือง เหลอื ง เขยี ว เขยี ว เขยี วน้าเงิน นา้ เงิน น้าเงิน ม่วง มว่ ง ม่วงแดง แดง แดงสม้ สม้ เหลอื ง สม้ หรอื เรยี กวา่ วงล้อของสี สขี น้ั ที่ 1 คอื สที ี่ไมม่ ีสีใดสามารถผสมให้ไดส้ ีน้ัน ไดแ้ ก่ สีแดง สีเหลอื ง สนี ้าเงิน
สขี น้ั ท่ี 2 (Secondary Colours) เกดิ จากการนาเอาแม่สีทีเ่ ป็นวตั ถทุ ้งั 3 สี มาผสม กันเกิดสีใหม่ขึ้นมาอีก 3 สี คือ ส้ม เขยี ว มว่ ง
สขี ้นั ที่ 3 (Tertiory Colours) เกิดจากการนาเอาสขี ้ันท่ี 1 กับสีขน้ั ที่ 2 มาผสมกนั ทลี ะคูท่ ่ีอย่ตู ดิ กนั จะได้สเี พม่ิ ขน้ึ อกี 6 สี
สกี บั อารมณ์และความรสู้ กึ สีแดง = ตืน่ เต้น เร้าใจ อนั ตราย พลงั อานาจ รกั สสี ม้ = ต่ืนตัว ตื่นเต้น เรา้ ใจ สนกุ สนาน สเี หลือง = สดใส รา่ เรงิ ฉลาด เปรี้ยว สีเขียวออ่ น = สดชนื่ ร่าเริง เบกิ บาน สีเขียวแก่ = สะอาด ปลอดภัย สดชน่ื ธรรมชาติ ชรา สีนา้ เงิน = สุภาพ เชือ่ มั่น หนักแน่น ถอ่ มตัว ผู้ชาย สฟี ้า = ราบร่นื สว่าง วัยรนุ่ ทันสมยั สมี ่วง = ฟุ่มเฟอื ย ลึกลบั ขเ้ี หงา สชี มพู = ความรกั ผู้หญิง อ่อนหวาน นมุ่ นวล หอม สีขาว = ความบริสุทธิ์ สะอาด ปลอดภยั เดก็ ทารก สีดา = ทุกข์ ลกึ ลบั สบื สวน หนักแนน่ สเี ทา = สภุ าพ ขรึม สีน้าตาล = อนุรักษ์ โบราณ ธรรมชาติ
4. รปู รา่ งและรปู ทรง (Shape and Form) รปู รา่ ง (Shape) หมายถึง เสน้ รอบนอก ของ วตั ถุ คน สัตว์ สงิ่ ของ มลี กั ษณะเป็น 2 มติ ิ (กวา้ ง ยาว) รปู ทรง (Form) หมายถึง โครงสร้างของ รปู วัตถุ คน สัตว์ สิง่ ของ มีลกั ษณะเป็น 3 มิต (กว้าง ยาว ลกึ )
5. นา้ หนกั (Value) นา้ หนกั หมายถึง ความอ่อนแกข่ องสี หรอื แสง เงาท่ีนามาใช้ในการเขียนภาพ น้าหนักทาให้ รปู ทรงมี ปรมิ าตร และใหร้ ะยะแกภ่ าพ แสงและเงา(Light & Shade) แสงและเงา เป็นองค์ประกอบท่ีอย่คู กู่ นั แสง เมอ่ื สอ่ งกระทบกบั วัตถุ จะทาให้เกดิ เงา แสงและเงา เปน็ ตัวกาหนดระดบั ของคา่
น้าหนกั ความเขม้ ของเงาจะข้ึนอย่กู ับความเขม้ ของแสง ในที่ที่มีแสงสว่างมาก แสงและเงา เป็นองค์ประกอบทีอ่ ยูค่ ู่กัน แสง เม่อื สอ่ งกระทบกบั วตั ถุ จะทาให้เกดิ เงา แสงและเงา เปน็ ตัวกาหนดระดบั ของคา่ น้าหนัก ความเข้มของเงาจะข้ึนอยู่กบั ความเขม้ ของแสง ในที่ทีม่ ีแสงสวา่ งมาก
6. บรเิ วณวา่ ง (Space) บรเิ วณว่าง หรือ ชอ่ งไฟ คือ 1. อากาศทีโ่ อบล้อมรูปทรง 2. ระยะห่างระหวา่ งรูปทรง
3. บรเิ วณภายในรูปทรงที่มีลกั ษณะกลวงหรือทะลุ เปน็ ช่องทีม่ อี ากาศผ่านเขา้ ไปได้ 4. บรเิ วณว่างของภาพเขยี นหรือภาพวาด ท่ีมองดู เปน็ ช่องลึกเขา้ ไปในภาพ เรยี กวา่ บรเิ วณวา่ งลวง ตา
7. ลกั ษณะผวิ (Texture) ลักษณะผวิ หมายถึง ลักษณะภายนอกของวัตถุที่ มองเหน็ และสัมผสั พ้ืนผิวได้ แสดงความรู้สึก หยาบ ละเอียด ขรุขระ มัน ดา้ นเป็นเสน้ เป็นจุด จับดูแล้วสะดุดมือ หรือสมั ผสั ได้จากความรู้สึกผิว เป็นทัศนธาตุทน่ี ามาประกอบในการสร้างงาน ศลิ ปะ ลกั ษณะผวิ ทแ่ี ตกต่างกนั จะทาใหเ้ กดิ ความรู้สกึ แตกต่างกัน
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: