เร่ือง การแพร่ระบาดของโควิด 19 จัดทาโดย นางสาว ชาลสิ า เจริญผล 6509013063004 นางสาว ณัฐธิดา บุตรเพชร 6509013063005 นางสาว สุทธิดา ทับมุด 6509013063028 นางสาว พชั รีภรณ์ สุดจิตร์ 6509013063015 นาง รุจี คาฝอย 6509013063020 นาย อนุรักษ์ สินเจริญ 6509013063031 นาย พรชัย รุ่งเรือง 6509013063012 นาย สมโภชน์ ร่มเย็น 6509013063025 เสนอ อาจารย์ ธวัชชัย วีรวงศ์ววิ ฒั น์ รายงานเล่มนเี้ ป็ นส่วนหน่ึงของรายวิชา การเข้าใจดจิ ิทลั ภาคเรียนท่ี2 ปี การศึกษา 2565
เร่ือง การแพร่ระบาดของโควิด 19 จดั ทาโดย นางสาว ชาลสิ า เจริญผล 6509013063004 นางสาว ณัฐธิดา บุตรเพชร 6509013063005 นางสาว สุทธิดา ทับมุด 6509013063028 นางสาว พชั รีภรณ์ สุดจิตร์ 6509013063015 นาง รุจี คาฝอย 6509013063020 นาย อนุรักษ์ สินเจริญ 6509013063031 นาย พรชัย รุ่งเรือง 6509013063012 นาย สมโภชน์ ร่มเย็น 6509013063025 เสนอ อาจารย์ ธวัชชัย วีรวงศ์ววิ ฒั น์ รายงานเล่มนเี้ ป็ นส่วนหนึง่ ของรายวิชา การเข้าใจดจิ ิทลั ภาคเรียนท่ี2 ปี การศึกษา 2565
คานา รายงานเลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชา การเขา้ ใจดิจิทลั ภาคเรียนท่ี2 ปี การศึกษา 2565 เรื่อง “การแพร่ ระบาดของโควดิ 19” ในระดบั ช้นั อณุปริญญา สาขาการปกครองทอ้ งถ่ิน มีจุดประสงคท์ ี่สาคญั ในการศึกษา คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั โรคไวรัสโคโรน่า2019หรือโควดิ 19 ในปัจจุบนั ซ่ึงรายงานเลม่ น้ีไดร้ วบรวมความ เป็นมาและการกาเนิดโรควดิ 19 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทยแลว้ ทวั่ โลก ลกั ษณะ อาการของโรค วธิ ีการตรวจวินิจฉยั การแพร่ระบายของเช้ือ การป้องกนั การแพร่เช้ือ การรักษา กลมุ่ เสี่ยง มาตรการป้องกนั ในแต่ละระดบั วคั ซีนท่ีใชใ้ นการป้องกนั คณะผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ รายงานเล่มน้ีจะสร้างประโยชนแ์ ละความรู้ใหแ้ ก่ผทู้ ่ีศึกษา หากมี ขอ้ แนะนาหรือขอ้ ผิดพลาดประการใด คณะผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับและขออภยั ไว้ ณ ท่ีน้ีดว้ ย คณะผู้จัดทา 29 เมษายน 2566
สารบญั สารบญั ภาพ บทนา ความเป็ นมาและการกาเนิดของโรคระบาดโควิด19 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทยและทว่ั โลก ลกั ษณะอาการของโรค วธิ ีการตรวจวินิจฉยั การแพร่ระบาดของเช้ือ การรักษา กล่มุ เสี่ยง มาตรการการป้องกนั ในแต่ละระดบั วคั ซีนที่ใชใ้ นการป้องกนั บทสรุปของโควดิ 19 อา้ งอิง
สารบญั ภาพ ภาพท่ี 1 แสดงถึงท่ีมาและจุดเร่ิมตน้ ของประเทศท่ีมีการระบาด ภาพท่ี 2 และ 3 แสดงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควดิ ภาพท่ี 4 และ 5 แสดงวธิ ีการตรวจวนิ ิจฉยั ภาพท่ี 6 และ 7 แสดงการแพร่ระบาดของเช้ือ ภาพที่ 8 แสดงวธิ ีการป้องกนั การแพร่เช้ือ ภาพท่ี 9 แสดงวธิ ีการรักษา ภาพที่ 10 แสดงผทู้ ี่เป็นกลมุ่ เส่ียง ภาพที่ 11 แสดงมาตรการป้องกนั ในแต่ละระดบั ภาพท่ี 12 แสดงวคั ซีนแต่ละชนิดท่ีใชใ้ นการป้องกนั
บทนา โรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า เป็นโรคติดเช้ืออนั เกิดจากไวรัสโคโรนากลมุ่ อาการทางเดินทางหายใจ เฉียบพลนั รุนแรง มีการระบโุ รคคร้ังแรกในเดือนธนั วาคม 2562 ในนครอ่ฮู น่ั เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ ย์ ประเทศจีนและไดก้ ระจายไปทว่ั โลกนบั แต่น้นั ส่งผลใหเ้ กิดการระบาดทวั่ ของโควิด-19 อาการทวั่ ไป ไดแ้ ก่ ไข้ ไอและหายใจลาบาก อาการอ่ืน ๆ อาจรวมถึงอ่อนเพลีย ปวดกลา้ มเน้ือ ทอ้ งร่วง เจ็บคอภาวะเสียการรู้ กล่ินและภาวะเสียการรู้รส แมผ้ ปู้ ่ วยส่วนใหญม่ ีอาการไม่รุนแรง แตบ่ า้ งทรุดลงเป็นกลมุ่ อาการหายใจลา บากเฉียบพลนั (ARDS) ซ่ึงน่าจะมีปัจจยั กระตนุ้ จากพายไุ ซโตไคน์ อวยั วะลม้ เหลวหลายอวยั วะชอ็ กเหตพุ ิษ ติดเช้ือ และลิ่มเลือดเวลาต้งั แตก่ ารสัมผสั จนถึงเร่ิมแสดงอาการตามแบบฉบบั อยทู่ ี่ 5 วนั แต่อาจมีไดต้ ้งั แต่ 2- 14 วนั ไวรัสแพร่ระบาดไดร้ ะหวา่ งบุคคลในช่วงท่ีมีการสมั ผสั ใกลช้ ิดเป็นหลกั มกั ผา่ นละอองเสมหะขนาด เลก็ ท่ีเกิดจากการไอจามหรือสนทนา แมล้ ะอองเสมหะเหล่าน้ีเกิดเมื่อหายใจออก แต่ปกติจะตกลงสู่พ้ืนหรือ ติดคา้ งบนพ้ืนผวิ ไม่ใช่ติดเช้ือไดจ้ ากระยะไกล[6] บุคคลอาจติดเช้ือไดจ้ ากการสมั ผสั พ้ืนผวิ ที่ปนเป้ื อนแลว้ นา มาแตะตา จมกู หรือปากของตน[6] ไวรัสสามารถอยรู่ อดบนพ้นื ผวิ ไดน้ านถึง 72 ชวั่ โมง ไวรัสติดต่อทาง สัมผสั ไดม้ ากท่ีสุดระหวา่ งสามวนั แรกหลงั เร่ิมแสดงอาการ กระน้นั ไวรัสอาจแพร่ไดต้ ้งั แตก่ ่อนเร่ิมปรากฏ อาการและในโรคระยะหลงั แลว้ วิธีการวินิจฉยั มาตรฐาน คือ ปฏิกิริยาลกู โซ่โพลีเมอเรสยอ้ นกลบั แบบ เรียลไทม์ (rRT-PCR) จากการกวาดคอหอยส่วนจมูกการถ่ายภาพรังสีส่วนตดั อาศยั คอมพิวเตอร์ทรวงอกอาจ เป็นประโยชน์สาหรับวินิจฉัยผทู้ ่ีตอ้ งสงสัยติดเช้ือมากโดยอาศยั อาการและปัจจยั เส่ียงแตไ่ ม่แนะนาใหใ้ ชค้ ดั กรองเป็นกิจวตั รมาตรการที่แนะนา ในการป้องกนั การติดเช้ือ ไดแ้ ก่ การหมนั่ ลา้ งมือ การเวน้ ระยะห่างทาง กายกบั ผอู้ ื่น (โดยเฉพาะจากผทู้ ่ีมีอาการ) การปิ ดการไอและจามดว้ ยกระดาษทิชชูหรือขอ้ พบั ศอก และงดนา มือที่ไมไ่ ดล้ า้ งแตใบหนา้ แนะนาใหใ้ ชห้ นา้ กากอนามยั สาหรับผทู้ ี่สงสัยวา่ ตนเองมีไวรัสและผดู้ ูแลบคุ คลเหลา่ น้นั คาแนะนาการใชห้ นา้ กากอนามยั สาหรับ ประชาชนทว่ั ไปน้นั แตกต่างกนั ไปตามหน่วยงานบา้ งไมแ่ นะนาใหใ้ ชบ้ า้ งแนะนาใหใ้ ชแ้ ละบา้ งกาหนดวา่ ตอ้ งใชม้ ีการพฒั นาวคั ซีนสาหรับโควิด-19 ออกมาแลว้ หลายชนิดและหลายประเทศกาลงั อยรู่ ะหวา่ ง ดาเนินการใหว้ คั ซีนแก่ประชาชนของตวั เอง การรักษาหลกั ๆเป็นการรักษาอาการการประคบั ประคองการ แยกตวั และมาตรการในข้นั ทดลอง องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ประกาศใหก้ ารระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหวา่ งประเท(PHEIC) เมื่อวนั ท่ี 30 มกราคม 2563และเป็นโรคเป็น
โรคระบาดทวั่ เม่ือวนั ที่ 11 มีนาคม 2563 มีการบนั ทึกการแพร่เช้ือในทอ้ งถิ่นในประเทศส่วนใหญ่ของ ภูมิภาค WHO ท้งั 6 ภมู ิภาค ความเป็ นมาและการกาเนดิ ของโรคระบาดโควดิ 19 มีหลายทฤษฎีวา่ ผปู้ ่ วยรายแรก (First case) หรือผปู้ ่ วยตน้ ปัญหา (Index Case) อาจเกิดท่ีใด กรณีท่ีเป็น ท่ีทราบกนั คร้ังแรกของผปู้ ่ วยจากไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่ ถูกตรวจสอบยอ้ นกลบั ไปในวนั ท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 ในนครอฮู่ นั่ มณฑลหูเป่ ย์ ประเทศจีน การกลา่ วอา้ งท่ีไมย่ นื ยนั ในภายหลงั ไดอ้ า้ งถึงเอกสาร รัฐบาลจีนที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ ผปู้ ่ วยกรณีแรกเป็นชายอายุ 55 ปี ที่ป่ วยเม่ือวนั ท่ี 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เม่ือวนั ท่ี 30 ธนั วาคม กลมุ่ แพทยจ์ ากโรงพยาบาลกลางอู่ฮนั่ นาโดย พญ.อา้ ย เฟิ น (艾芬) ไดเ้ ริ่มเผยแพร่ การแจง้ เตือนเรื่อง \"ไวรัสโคโรนา-คลา้ ยโรคซาร์ส\" แพทยช์ าวจีนแปดคนถูกรัฐบาล จบั กมุ ตวั ในขอ้ หาแพร่ ข่าวลือท่ีเป็นเทจ็ รวมถึงนายแพทย์ หลี่ เหวนิ เล่ียง (李文亮) ในการใหส้ ัมภาษณ์กบั นิตยสาร เหรินวู่ ( 人物) อา้ ย เฟิ น กลา่ ววา่ เธอถูกตาหนิหลงั จากแจง้ ผบู้ งั คบั บญั ชาและเพอื่ นร่วมงานของเธอเกี่ยวกบั การพบ กรณี ไวรัส-คลา้ ยโรคซาร์ส ในผปู้ ่ วยในเดือนธนั วาคม ภายในเดือนถดั มา จานวนผปู้ ่ วยกรณีไวรัสโคโรนาในมณฑลหูเป่ ย์ คอ่ ย ๆ เพ่ิมข้ึนเป็นสองร้อยคนก่อนท่ีจะ เพมิ่ ข้ึนอยา่ งรวดเร็วในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ในวนั ท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2562 มีการรายงานผปู้ ่ วยโรค ปอดบวมที่ไม่ทราบสาเหตุจานวนหน่ึงตอ่ หน่วยงานดา้ นสุขภาพในนครอฮู่ น่ั เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ ย์ ซ่ึงทาใหเ้ กิดการเร่ิมตน้ สอบสวนโรค กรณีเหล่าน้ีส่วนใหญ่เช่ือมโยงกบั ตลาดขายส่งอาหารทะเลหวฺหนาน ซ่ึงขายสัตวม์ ีชีวิตดว้ ย ดงั น้นั จึงเชื่อวา่ โรคจากไวรัสน้ีเป็นโรครับจากสัตวใ์ นช่วงแรกของการระบาดจานวน
ผปู้ ่ วยเพ่ิมเป็นสองเทา่ ทกุ 7-12 วนั ในช่วงตน้ และกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ไวรัสแพร่กระจายไปยงั มณฑลอื่น ๆ ของจีน โดยอาจเกิดจากช่วงเวลาชุน-ยฺวน่ิ หรือการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน เม่ือวนั ที่ 20 มกราคม จีนไดร้ ายงานผปู้ ่ วยรายใหม่เกือบ 140 กรณีในหน่ึงวนั รวมถึงสองรายในนครปักก่ิง และอีกหน่ึง รายในเชินเจิ้น มณฑลกวางตุง้ ขอ้ มูลอยา่ งเป็นทางการในภายหลงั ไดแ้ สดงวา่ มี 6,174 คนที่มีอาการป่ วยแลว้ ภายในวนั ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563 เม่ือวนั ที่ 10 มกราคมจากรายงานของทางการจีน องคก์ ารอนามยั โลกไดอ้ อกคาแนะนาการเดินทางเพอื่ ขอให้ นกั ทอ่ งเที่ยวปฏิบตั ิตามแนวทาง \"เพอ่ื ลดความเสี่ยงโดยทวั่ ไปของการติดเช้ือทางเดินหายใจเฉียบพลนั ขณะ เดินทางในหรือจากพ้ืนท่ีที่ไดร้ ับผลกระทบ (นครอู่ฮนั่ )\" ในขณะท่ีขอ้ สงั เกตรูปแบบของการแพร่กระจาย ของไวรัสน้นั ไม่ชดั เจน แตก่ ไ็ มแ่ นะนาใหใ้ ช้ \"การใชก้ าร จากดั การเดินทางหรือการคา้ กบั จีน\" เมื่อวนั ที่ 12 มกราคม ตามขอ้ มลู เพิม่ เติมจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน ทาง WHO ระบุวา่ \"ในข้นั ตอนน้ีไม่มี การติดเช้ือในหมู่คนทางานดา้ นการดูแลสุขภาพ และไมม่ ีหลกั ฐานชดั เจนวา่ มนุษยม์ ีการถ่ายทอดสู่มนุษย\"์ ในวนั ที่ 13 มกราคม กรณีผตู้ ิดเช้ือไวรัสที่ทราบกนั เป็นคร้ังแรกนอกประเทศจีนไดร้ ับการยนื ยนั ในประเทศ ไทย โดยเป็นกรณีนกั เดินทางชาวจีน องคก์ ารอนามยั โลกระบุวา่ คาดวา่ จะมีกรณีเช่นน้ีและเรียกร้องให้ \"มี การติดตามและเตรียมความพร้อมในประเทศอ่ืน ๆ อยา่ งต่อเนื่อง\" เม่ือวนั ท่ี 20 มกราคมคณะกรรมการ สุขภาพแห่งชาติจีนยืนยนั วา่ การติดเช้ือโรค COVID-19 จากมนุษยส์ ู่มนุษยไ์ ดป้ รากฏข้นึ แลว้ เมื่อวนั ท่ี 24 มกราคม องคก์ ารอนามยั โลก ไดป้ รับปรุงคาแนะนาการเดินทาง โดยแนะนาการคดั กรองการผา่ นเขา้ ออก พ้ืนที่ท่ีไดร้ ับผลกระทบ ในขณะที่ยงั คงใหค้ าแนะนาตอ่ การจากดั การเดินทาง[491] เมื่อวนั ที่ 27 มกราคม WHO ประเมินความเสี่ยงของโรค COVID-19 วา่ \"สูงในระดบั โลก\" เมื่อวนั ที่ 30 มกราคม องคก์ ารอนามยั โลก ไดป้ ระกาศวา่ การแพร่ระบาดของโรคเป็นภาวะฉุกเฉินทาง สาธารณสุขระหวา่ งประเทศ โดยเตือนวา่ \"ทุกประเทศควรเตรียมพร้อมสาหรับการกกั กนั โรค รวมถึงการเฝ้า ระวงั อยา่ งแขง็ ขนั การตรวจหาเช้ือแต่เนิ่น ๆ การแยกผปู้ ่ วยและการจดั การรายกรณี การติดตามการติดต่อ ของผสู้ มั ผสั ใกลช้ ิดผปู้ ่ วย และการป้องกนั การเพ่ิมการแพร่กระจายโรค เม่ือวนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ์ ผอู้ านวยการองคก์ ารอนามยั โลก เทดรอส อดั เฮนอม เตือนวา่ ไวรัสอาจกลายเป็น \"โรคระบาดทว่ั (Pandemic)\" เนื่องจากมีผปู้ ่ วยนอกประเทศจีนเพม่ิ ข้นึ จานวนมาก เม่ือวนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ WHO ไดเ้ พ่มิ การประเมินความเสี่ยงของการแพร่ระบาดไปทวั่ โลกวา่ \"สูงมาก\"
ในวนั ที่ 11 มีนาคม องคก์ ารอนามยั โลกไดป้ ระกาศอยา่ งเป็นทางการวา่ การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา สายพนั ธุใ์ หม่เป็น \"โรคระบาดทว่ั \" หลงั จากมีการติดต่อเช้ือในระดบั ชุมชนอยา่ งต่อเน่ืองช่วงเวลาหน่ึงใน หลายภูมิภาคของโลก ในวนั ท่ี 13 มีนาคม WHO ไดป้ ระกาศใหย้ โุ รปเป็นศนู ยก์ ลางของการระบาดใหญ่คร้ัง ใหม่ หลงั จากท่ีอตั ราผปู้ ่ วยรายใหมใ่ นยโุ รปสูงกวา่ ภมู ิภาคอ่ืนของโลกนอกเหนือจากจีน เม่ือวนั ท่ี 16 มีนาคม 2563 จานวนกรณีผปู้ ่ วยทวั่ โลกท่ีอยนู่ อกประเทศจีนมีจานวนมากกวา่ ในประเทศจีนแผน่ ดินใหญ่ในวนั ท่ี 19 มีนาคม 2563 ประเทศจีนรายงานวา่ ไมม่ ีกรณีผปู้ ่ วยในประเทศกรณีใหม่ (ยกเวน้ กรณีผปู้ ่ วยเดินทางมาจาก ตา่ งประเทศ) เป็นคร้ังแรกนบั ต้งั แต่เกิดการระบาด ในขณะที่จานวนผเู้ สียชีวิตท้งั หมดในอิตาลีมากกวา่ ใน ประเทศจีน เมื่อวนั ท่ี 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 นกั วทิ ยาศาสตร์จีนไดร้ ายงานวา่ มากถึง 10% ของผทู้ ี่รักษาหายจากโรคติด เช้ือ COVID-19 และมีผลทดสอบการติดเช้ือเป็นลบ สามารถมีผลทดสอบการติดเช้ือเป็นบวกอีกคร้ัง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทยและทั่วโลก หลงั 2 ปี 9 เดือน ท่ีเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยประกาศลดระดบั จากโรคติดต่อ อนั ตรายเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวงั ต้งั แต่ 1 ต.ค.2565 และในปี 2566 คาดการณ์วา่ จะเกิดการระบาดแบบ Small Wave และเขา้ สู่สถานะตามฤดูกาลแบบไขห้ วดั ใหญ่ แต่จุดสาคญั ตอ้ งใหก้ ลมุ่ เส่ียงเขา้ รับวคั ซีนนบั ต้งั แตม่ .ค 2563 จนถึง 24 ธ.ค.2565 ประเทศไทยมีการระบาดหลายระลอก หลากหลายสายพนั ธุ์ไวรัสท่ีมีการ
เปล่ียนแปลงต้งั แต่อูฮ่ นั่ อลั ฟา เดลตา โอมิครอน จนถึงโอมิครอนสายพนั ธุย์ อ่ ยตา่ งๆ มีรายงานผตู้ ิดเช้ือ สะสม 2,498,373 ราย ผเู้ สียชีวิตสะสม 11,896 ราย และมีการฉีดวคั ซีนไปแลว้ กวา่ 150 ลา้ นโดส นพ.โอภาส การยก์ วินพงศ์ ปลดั กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ฉายภาพสถานการณ์โควิด-19ในปี 2566 วา่ การระบาดถา้ เทียบกบั ปี น้ีคงไม่แตกตา่ งกนั คาดวา่ เช้ือไม่น่าจะกลายพนั ธุ์ไปมากนกั ยงั คงตอ้ งเติมภูมิคุม้ กนั ใหก้ ลุม่ เสี่ยง สามารถใชช้ ีวิตใกลเ้ คียงปกติมากที่สุด โดยใชช้ ีวติ แบบอย่รู ่วมกบั โควิด ท้งั น้ี พิจารณาจาก 3 ปัจจยั คือ 1.เช้ือโรค จะยงั คงมีการกลายพนั ธุต์ ามธรรมชาติ แตเ่ ป็นการกลายพนั ธุ์แบบยอ่ ยๆ เลก็ นอ้ ย ซ่ึงตอนน้ีสาย พนั ธุ์หลกั เป็นโอมิครอนมา 1 ปี แลว้ ยงั ไม่เปลี่ยนเป็นสายพนั ธุ์หลกั ตวั อื่น ซ่ึงกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทยม์ ี การติดตาม เฝ้าระวงั สายพนั ธุ์อยา่ งต่อเนื่อง หากมีการเปล่ียนแปลงท่ีสาคญั กจ็ ะประกาศใหป้ ระชาชนทราบ จาการฉีดวคั ซีนและการติดเช้ือธรรมชาติ เพราะฉะน้นั ความรุนแรงโรคน่าจะตอ้ งมาทางฝ่ังโคโรนาไวรัส 4 ตวั ที่ก่อโรคหวดั 2.คน ขณะน้ีคนมีภูมิคมุ้ กนั มากข้ึน จะช่วยลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากการติดเช้ือ ดงั น้นั การฉีด เขม็ กระตนุ้ จึงสาคญั เพราะขณะน้ีวคั ซีนทกุ ยหี่ อ้ ป้องกนั อาการรุนแรงและเสียชีวิตไดเ้ หมือนกนั แต่ป้องกนั การติดเช้ือไมค่ ่อยได้ และภูมิคมุ้ กนั อยไู่ ดไ้ ม่นาน โดยตอ้ งเนน้ กลุ่ม 608 คนที่มีโอกาสสัมผสั ผคู้ นจานวนมาก เช่น บคุ ลากรสาธารณสุข บคุ ลากรด่านหนา้ คนทางานภาคบริการ 3.ส่ิงแวดลอ้ ม ในช่วงแรกของการระบาดควบคุมไมใ่ หค้ นมาพบกนั ลดความเสี่ยงปิ ดการเดินทาง เมื่อคนมี ภูมิคุม้ กนั มากข้นึ ใชช้ ีวติ ใกลเ้ คียงปกติเหมือนกนั ทวั่ โลก แมจ้ ะมีการกลายพนั ธุ์คนกไ็ ม่ค่อยกงั วลมาก และ ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ถา้ มียาที่มีประสิทธิภาพมากข้นึ กจ็ ะช่วยควบคมุ สถานการณ์ดีข้ึนอีก เฝ้าระวงั จุดเส่ียง 1 เขต 1 จงั หวดั
นพ.ธเรศ กรัษนยั รวิวงค์ อธิบดีกรมควบคมุ โรค(คร.) กล่าววา่ ปี 2566 หากไมม่ ีการกลายพนั ธุท์ ี่ทาใหโ้ รค รุนแรงข้นึ โรคโควิด-19ก็จะเป็นลกั ษณะแบบไขห้ วดั ใหญท่ ่ีระบาดตามฤดูกาล โดยหากดูจากไขห้ วดั ใหญ่ ก็จะเกิดการระบาดช่วงฤดูหนาวหรือ ปลายฝนตน้ หนาว อยา่ งไรกต็ าม กรมมีการติดตามเฝ้าระวงั อยา่ ง ตอ่ เน่ือง โดยมีการสุ่มตรวจเขตสุขภาพละ 1 จงั หวดั ท้งั 12 เขตสุขภาพ และทาในพ้ืนท่ีแตกต่างกนั อยา่ งพ้นื ท่ีเสี่ยงสูง เช่น ตลาด แหลง่ บนั เทิง รพ. เพ่ือดูวา่ มีการเพม่ิ ข้ึนผิดปกติหรือไม่ เน่ืองจากแตล่ ะจุด มีท้งั ความเส่ียงและคนเสี่ยง เช่น แรงตา่ งดา้ ว หรือการรวมตวั คนจานวนมาก ซ่ึงผลจากการเฝ้าระวงั ทาใหไ้ ด้ ขอ้ มลู วา่ พ้ืนที่ไหนตอ้ งมีการเฝ้าระวงั เป็นพิเศษ การเฝ้าระวงั ตรงน้ี ทาใหเ้ ห็นขอ้ มูลหากมีการเคลื่อนไหวท่ี ผิดปกติในพ้นื ท่ีไหน หรือกิจกรรมใด กจ็ ะไดป้ รับมาตรการในพ้ืนท่ีน้นั ผา่ นกลไกคณะกรรมการโรคคติอ ต่อจงั หวดั ในการทาตามแผนท่ีมีการซกั ซอ้ ม ตามสถานการณ์แตล่ ะระดบั เช่น เตรียมระบบ เตรียมคน เตรียมยา เตรียมรพ. โดยจะแจง้ เตือนเป็นรายพ้นื ท่ีที่มีสถานการณ์ ไมไ่ ดค้ รอบคลุมท้งั ประเทศ เพราะแต่ละพ้นื ที่ไม่เหมือนกนั บางพ้นื ที่สงบมาก บางพ้นื ที่อาจเป็นโซนสีแดง ซ่ึงระบบเฝ้าระวงั ท่ีดี จะทาใหส้ ามารถเขา้ ไปจดั การแตล่ ะ พ้นื ท่ีไดต้ ่างกนั ไมเ่ กิดผลกระทบในพ้นื ที่ท่ีไมม่ ีความจาเป็นตอ้ งดาเนินการมาตรการบางอยา่ ง “กรมควบคุมโรคไดม้ ีการสารวจคนไทย พบวา่ มีภมู ิคุม้ กนั ท้งั จากการติดเช้ือโดยธรรมชาติและการฉีด วคั ซีนแลว้ กวา่ 80 % เป็นขอ้ ที่ทาใหม้ น่ั ใจวา่ การเปิ ดประเทศ มีการไปมาหาสู่ ทากิจกรรมแบบนิวนอมลั ได้ มากข้ึน โอกาสท่ีจะเกิดการระบาไดใหญ่เหมือนตอนที่คนยงั ไมม่ ีภมู ิคุม้ กนั เลยกค็ าดวา่ น่าจะนอ้ ยมาก”นพ. ธเรศกล่าวปี 66 เขา้ สู่ยคุ โควดิ ตามฤดูกาล ท้งั น้ี การเฝ้าระวงั และนามาสู่การเตือนภยั โรคโควดิ -19 กรมควบคุมโรคจดั เป็นระดบั 1 ถึง ระดบั 5 ตาม สถานการณ์
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคมุ โรค(คร.) กลา่ ววา่ กรมไดว้ างระดบั การเตือนภยั ไว้ 5 ระดบั โดยพจิ ารณาจากหลกั เกณฑ์ คอื จานวนผปู้ ่ วยหลกั ท่ีจะเกิดข้นึ กบั ระบบรักษาพยาบาลท่ีอตั ราครอง เตียงเพ่ิมข้ึน แตต่ อนน้ีเพียง 7 % รวมถึง อาการที่รุนแรงและเร็วข้นึ ตวั อยา่ งเช่น มีการแพร่เช้ือในหลายๆพ้นื ท่ีดว้ ยสายพนั ธุท์ ี่อาจจะไม่ สามารถป้องกนั ดว้ ยวคั ซีนได้ เป็นตน้ ซ่ึงส่วนใหญจ่ ะทราบจากการเฝ้าระวงั ในตา่ งประเทศมาก่อนและมาที่ ประเทศไทย “แตต่ อนน้ีไม่มีสัญญาณท้งั 2 ส่วน เพราะความครอบคลุมวคั ซีนสูงมากกวา่ 80 % อตั ราครองเตียงอยทู่ ี่ 7 %ถือวา่ ต่ามาก เพราะเคยข้ึนไปสูงถึง 50-60 % ดงั น้นั อาจจะไมต่ อ้ งยกระดบั การเตือนภยั ในช่วงน้ี เวน้ แต่จะ มีสายพนั ธุใ์ หมท่ ่ีทาใหโ้ รครุนแรงข้ึน” นพ.โสภณกลา่ ว อาจจะเรียกวา่ กาลงั จะหมดยคุ การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19แลว้ หากติดตามขอ้ มูลและขอ้ คิดเห็นจาก อาจารยน์ กั วชิ าการหลายๆทา่ น ใหค้ วามเห็นตรงกนั วา่ หากหมดการระบาดระลอกน้ี ในช่วงสิ้นฤดูหนาว ราวๆสิ้นเดือนก.พ.2566 กจ็ ะเหมือนไขห้ วดั ใหญแ่ ลว้ จากน้นั จะกลบั เขา้ สู่ภาวะปกติจะเกิดการระบาดแบบ ไขห้ วดั ใหญท่ ่ีเป็นตามฤดูกาล โคโรนาโควดิ -19 รุนแรงลดลง นพ.โสภณ บอกวา่ พิจารณาดูจากการท่ีเช้ืออ่อนลง ซ่ึงก่อนที่จะมีโรคโควดิ -19 มีโคโรนาไวรัสมาแลว้ 6 ตวั โดย 4 ตวั เป็นโคโรนาไวรัสก่อโรคไขห้ วดั ส่วน 1 ตวั ก่อโรคเมอร์สอตั ราป่ วยตาย 30% และอีก 1 ตวั ก่อ โรคซาร์ส อตั ราป่ วยตาย 10 % โดยโคโรนาไวรัสท่ีก่อโรคโควดิ -19 เป็นตวั ท่ี 7 ตอนน้ีอยรู่ ะหวา่ งจุดท่ี แสดงถึงความรุนแรงจะไปฝั่งซา้ ยหรือขวา แต่จากขอ้ มูลตอนน้ีคือ จะไปทางซา้ ยที่มีความรุนแรงนอ้ ยลง เพราะตวั เช้ืออ่อนลงเร่ือยๆ จึงมีความเป็นไป ไดท้ ่ีจะไปเขา้ พวกกบั อีก 4 ตวั ท่ีก่อโรคไขห้ วดั โดยอตั ราป่ วยตายของโควดิ -19ตอนน้ีอยทู่ ่ีไม่ถึง 1 % นอ้ ย กวา่ โรคเมอร์สและซาร์ส รวมถึง คนมีภูมิคุม้ กนั จาการฉีดวคั ซีนและการติดเช้ือธรรมชาติ เพราะฉะน้นั ความรุนแรงโรคน่าจะตอ้ งมาทางฝั่งโคโรนาไวรัส 4 ตวั ท่ีก่อโรคหวดั ส่วนกลุ่มที่ติดเช้ือแลว้ ยงั ป่ วยหนกั และเสียชีวิตสูง คือ กล่มุ เสี่ยง 608 คือ ผสู้ ูงอายุ ผมู้ ีโรคประจาตวั เร้ือรัง และหญิงต้งั ครรภ์ ที่ไม่ไดร้ ับวคั ซีน ถา้ สามารถทาใหก้ ลมุ่ น้ีจานวนราว 2 ลา้ นคนไดร้ ับวคั ซีนโควดิ -19 จะ
ทาใหป้ ระเทศไทยกบ็ ริหารจดั การโรคโควดิ -19ไดเ้ หมือนไขห้ วดั ใหญ่ การรับวคั ซีนกอ็ าจจะเป็นเขม็ กระตนุ้ ปี ละคร้ัง “หากกลุม่ น้ีมีภมู ิคุม้ กนั กจ็ ะไม่เสียชีวิต อตั ราการป่ วยตายก็จะลดลงอีก จึงไม่น่ากงั วล ไขห้ วดั ใหญ่ต่างหากท่ี ยงั ไม่มีวคั ซีนเพียงพอสาหรับทกุคน เพราะประเทศไทยซ้ือวคั ซีนไขห้ วดั ใหญม่ าปี ละประมาณ 10 ลา้ นโดส แตม่ ีวคั ซีนโควดิ -19เป็น 100 ลา้ นโดส” นพ.โสภณกล่าว องคก์ ารอนามยั โลก หรือ WHO ประกาศวา่ สถานการณ์ฉุกเฉินจากโรคระบาดโคโรนาไวรัสสายพนั ธุ์ ใหม่ ไดส้ ิ้นสุดลงแลว้ WHO อธิบายในแถลงการณ์วา่ โควิด-19 “ไม่ไดเ้ ป็นสถานการณ์ฉุกเฉินดา้ นสุขภาพ” อีกตอ่ ไปแลว้ แถลงการณ์ของ WHO ถือเป็นกา้ วสาคญั แรกสู่การสิ้นสุดการระบาดของโควิดในฐานะ สถานการณ์ฉุกเฉินระดบั โลกท่ีประกาศใชม้ านานกวา่ 3 ปี เจา้ หนา้ ที่ WHO ยงั ระบอุ ีกวา่ อตั ราการเสียชีวิต จากโควดิ ไดล้ ดลงจากจุดสูงสุดสปั ดาห์ละ100,000 คน เม่ือเดือน ม.ค. 2021 เหลือกวา่ 3,500 คน เมื่อวนั ท่ี 24 เม.ย. ท่ีผา่ นมา แตก่ วา่ ท่ี WHO จะประกาศสิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินจากโควิด ผูอ้ านวยการองคก์ ารอนามยั โลก ระบุวา่ มีผเู้ สียชีวิตแทจ้ ริงทว่ั โลก อยทู่ ี่ “กวา่ 20 ลา้ นคน” ลกั ษณะอาการของโรค • อาการสีเขยี ว (อาการเบ้ืองตน้ ของผตู้ ิดเช้ือ) - มีไข/้ วดั อุณหภูมิได้ 37.5 C ข้ึนไป - ไอ มีน้ามกู เจ็บคอ - ถา่ ยเหลว - จมูกไม่ไดก้ ลิ่น ลิน้ ไม่รับรส - ตาแดง มีผื่น - ไมม่ ีโรคประจาตวั ร่วม
- หายใจปกติ ปอดไม่อกั เสบ - ไมม่ ีปัจจยั เส่ียงตอ่ การเป็นโรครุนแรง - หรือไมม่ ีอาการ • อาการสีเหลือง (เร่ิมมีอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง) - แน่นหนา้ อก - หายใจไม่ค่อยสะดวก - หายใจเร็ว หายใจลาบาก ไอแลว้ รู้สึกเหนื่อย - อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ - ถา่ ยเหลวมากกวา่ 3 คร้ัง/วนั - ปอดอกั เสบ - หนา้ มืด วงิ เวยี น • อาการสีแดง (ผปู้ ่ วยอาการหนกั ) - หอบเหน่ือย พูดไมเ่ ป็นประโยค - แน่นหนา้ อกตลอดเวลา หายใจแลว้ เจบ็ หนา้ อก - ซึม เรียกไมร่ ู้สึกตวั ตอบสนองชา้ - ปอดบวมข้นั รุนแรง
วธิ ีการตรวจวนิ ิจฉัย ปัจจุบนั การตรวจโควิด 19 มี 2 ประเภทไดแ้ ก่ RT-PCR คือการตรวจหาสารพนั ธุกรรมของเช้ือไวรัสโควดิ 19 โดยเฉพาะและ Rapid test คือการตรวจหา แอนติบอดี ( Antibody)ในเลือด หรือการตรวจหาแอนติเจน(Antigen) จากสารคดั หลงั่ ในระบบทางเดิน หายใจ RT- PCR หรือ Real Time Polymerase Chain Reaction คอื การตรวจหาสารพนั ธุกรรมหรือ DNA ของ ส่ิงมีชีวติ โดยการเก็บตวั อยา่ งสารคดั หลง่ั ทางจมูกและลาคอหรือที่เรียกวา่ Swab สามารถตรวจสาร พนั ธุกรรมของเช้ือไดโ้ ดยตรงแมเ้ ช้ือในร่างกายจะมีปริมาณนอ้ ยหรือพ่งึ ไดร้ ับเช้ือและยงั ไมแ่ สดงอาการ นอกจากน้ี RT- PCR ยงั สามารถตรวจพบเศษชิ้นส่วนของไวรัสในผูท้ ่ีเคยติดเช้ือและหายแลว้ ไดอ้ ีกดว้ ยซ่ึงวิธีน้ีเป็นวธิ ีที่ องคก์ ารอนามยั โลกแนะนาเนื่องจากเป็นวธิ ีการท่ีมีมาตรฐานมีการวิจยั รองรับรวมถึงมีความจาเพาะและ ความแม่นยาสูง หรือวา่ เป็นวิธีระดบั \"Gold standard \" สาหรับการตรวจหาเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 อีกดว้ ย
อะไรคือ Gold standard แตล่ ะรูปจะมีวิธีการวินิจฉยั หลายแบบซ่ึงวธิ ีที่จะไดข้ ้นึ แทน่ เป็น gold standard จะ เป็นการตรวจวนิ ิจฉยั มาตรฐาน พใี่ หก้ ารวินิจฉยั โรคแบบถูกตอ้ งตามความเป็นจริงมากท่ีสุดและไดร้ ับการ ยอมรับจากกล่มุ ผเู้ ช่ียวชาญในสาขาวชิ าท่ีเก่ียวขอ้ งมาแลว้ Rapid test คอื การตรวจหาส่วนประกอบเช้ือไวรัสโควิด 19 หรือตรวจหาภมู ิคุม้ กนั ร่างกายข้ึนอยกู่ บั ชนิด ของชุดตรวจโดยชุดตรวจ Rapid test ทาใหร้ ู้ผลไวเพยี ง 10-30 นาทีและราคาถูกกว่าการตรวจแบบ RT- PCR แตจ่ ะมีความจาเพาะและแม่นยานอ้ ย กวา่ จึงเป็นเพียงการตรวจคดั กรองเบ้ืองตน้ เท่าน้นั ซ่ึงชุดตรวจแบบ Rapid test มี 2 ชนิดดงั น้ี 1.Rapid antibody test เป็นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาแอนติบอดี igG และ igM ซ่ึงเป็นโปรตีนที่ร่างกายสร้าง ข้ึนมาหลงั จากไดร้ ับเช้ือการใชช้ ุดตรวจชนิดน้ีจะใหผ้ ลลพั ธแ์ ม่นยาข้นึ หากตรวจหลงั จากร่างกายติดเช้ือไป แลว้ ประมาณ 10 วนั จนกระทงั่ หายป่ วยแลว้ หากตรวจเร็วกวา่ น้ีจะไม่พบแอนติบอดีทาใหผ้ ลตรวจไมถ่ กู ตอ้ ง 2. Rapid antigen test การใชช้ ุดทดสอบตรวจหาส่วนประกอบ ( Antigen) ของเช้ือไวรัสจากสารคดั หลงั่ ทาง โพรงจมกู ผลลพั ธ์จะแม่นยาข้ึนเม่ือตรวจหลงั จากไดร้ ับเช้ือมาแลว้ 5-15 วนั เป็นวิธีการที่ทราบผลไดเ้ ร็วแต่มี ความแมน่ ยาและจาเพาะนอ้ ยกวา่ RT- PCR ตอนน้ีทางกระทรวงสาธารณสุขปลดลอ็ คใหท้ กุ คนสามารถซ้ือ มาตรวจเองท่ีบา้ นราคาประมาณ 100 บาทตอ่ 1 ชุดตรวจ RT - PCR Rapid test แบบไหนมีประสิทธิภาพมากกวา่ กนั การตรวจเช้ือไวรัสโควดิ 19 แบบ RT- PCR จะมี ความจาเพาะและแม่นยาสูงกวา่ ดงั น้นั การตรวจแบบ RT- PCR จึงมีประสิทธิภาพมากกวา่ เน่ืองจากสามารถ ตรวจหาสารพนั ธุกรรมของเช้ือไวรัสตวั น้นั ๆไดแ้ บบเจาะจงแตก่ ารตรวจแบบ Rapid test ทาใหท้ ราบผล เบ้ืองตน้ ไดเ้ ร็วและลดการแออดั ของสถานพยาบาลหากมีการตรวจแบบ Rapid test แลว้ ผลลพั ธ์ข้นึ 2 ขดี (แปลวา่ ติดเช้ือ) ควรมีการตรวจแบบ RT- PCR ซ้า เพื่อยนื ยนั ความถูกตอ้ งของผลการตรวจหรือในบางกรณี ท่ีมีผลการตรวจ Rapid test ข้ึน1ขดี (แปลวา่ ไมต่ ิดเช้ือ) แต่มีความเสี่ยงสูงควรตรวจซ้าดว้ ยวิธี RT-PCR ข้นั ตอนการตรวจดว้ ยวธิ ี RT-PCR สามารถแบง่ ออกเป็น 3 ส่วนดงั น้ี 1. การเกบ็ เช้ือ : เขา้ รับการตรวจที่โรงพยาบาลกบั บุคลากรทางการแพทยโ์ ดยการเก็บเช้ือจะใชก้ า้ นเก็บ ตวั อยา่ งแหย่เขา้ ไปในโพรงจมกู (Nasophayngeal swab) ใหป้ ลายแท่งชนกบั ผนงั โพรงจมกู แลว้ แช่ไวส้ ักครู่ เพอื่ ขบั สารคดั ลงั ในโพรงจมูกก่อนจะหมนุ เบาๆ 2-3 คร้ังเพอ่ื เก็บเน้ือเยอื่ หลงั จากน้นั นากา้ นเก็บตวั อยา่ งใส่
เขา้ ไปในหลอดเก็บเช้ือเพ่อื ยามนาไปยงั หอ้ งแลปสามารถทราบผลภายใน 24 ถึง 48 ชวั่ โมงนอกจากน้ียงั สามารถเกบ็ เช้ือจากหลงั ลาคอ(Thoat swab) ไดด้ ว้ ยซ่ึงวิธีการทาเหมือนกบั การเก็บเช้ือจากโพรงจมกู 2. การสกดั : เม่ือเจา้ หนา้ ที่ไดต้ วั อยา่ งเช้ือมาแลว้ จะเอาไปเขา้ กระบวนการสกดั โดยการแยกดีเอน็ เอ ของ ไวรัสที่อยใู่ นตวั อยา่ งเช้ือ 3. การทา RT-PCR : ตอนน้ีสาคญั มากโดยจะมีการใชส้ ารเคมีพเิ ศษและเครื่อง PCR หรือท่ีเรียกวา่ Thermal Cyler เพือ่ ทาการคดั ลอก DNA ของไวรัสออกมาเป็นลา้ นๆฉบบั ถา้ ในตวั อยา่ งเช้ือท่ีนามาทดลองมีโควิด 19 สารเคมีท่ีใชท้ ดสอบจะทาให้เกิดสารเรืองแสงหรือที่เรียกวา่ Singal หลงั จากน้นั จะใชเ้ ครื่องPCR ซอฟตแ์ วร์มี การแปลผลอยา่ งละเอียดอีกคร้ัง ข้นั ตอนการตรวจแบบ Rapid antibody test ดาเนินการไดด้ งั น้ีเขา้ รับการตรวจที่โรงพยาบาลกบั บคุ ลากร ทางการแพทยห์ รือจุดบริการรับตรวจโควิด 19 เจาะเลือดปลายนิ้วเก็บตวั อยา่ งเลือดนาไปใส่ช่องบนชุดตรวจ พร้อมหยดน้ายาตรวจโควดิ 19 ลงไปรอผลตรวจ 10-15 นาทีถา้ พบวา่ ผลตรวจเป็นบวกหรือข้ึน 2 ขดี แสดงวา่ ติดเช้ือควรตรวจซ้าดว้ ยวิธี RT+PCR ข้นั ตอนการตรวจแบบ Rapid antigen test ดาเนินการไดด้ งั น้ี เลือกซ้ือชุดตรวจท่ีผา่ นการรับรองมาตรฐานจากองคก์ ารอาหารและยา (อย.) ศึกษาวิธีการใชง้ านอยา่ งถกู ตอ้ ง ทาความสะอาดโตะ๊ หรือพ้ืนที่ท่ีจะวางชุดตรวจลา้ งมือให้สะอาดแหยก่ า้ นเกบ็ ตวั อยา่ งเขา้ ไปยงั โพรงจมูกจุ่ม ไมส้ าลีที่เก็บตวั อยา่ งแลว้ ลงในหลอดท่ีมีน้ายาตรวจโควิดเอากา้ นสาลีออกแลว้ ใส่ลงไปในถงุ เพอื่ เตรียมทิ้ง น้ายาที่ไดใ้ หน้ ามาบีบลงชุดตรวจโควดิ 19 ตรงจุดท่ีกาหนดรอสังเกตผลตรวจ 15-20 นาทีถา้ พบวา่ ผลตรวจ เป็นบวกหรือข้ึน 2 ขีดควรตรวจซ้าดว้ ย RT-PCR การทิง้ อุปกรณ์ชุดตรวจที่ใชแ้ ลว้ สาหรับชุดตรวจ Rapid test ท่ีใชท้ ดสอบเองที่บา้ นเม่ือชุดตรวจเสร็จแลว้ ไม่ วา่ ผลจะออกมาเป็ นผลบวกหรือลบใหน้ าชุดตรวจท้งั ชุดใส่ถุงแลว้ มดั ปากถุงใหเ้ รียบร้อยเขยี นแปะไวห้ นา้ ถุง อยา่ งชดั เจนวา่ ขยะติดเช้ือก่อนจะนาไปทิง้ ผลตรวจ Rapid test เป็นลบอยา่ เพ่ิงวางใจ
ผลเป็นบวก : หรือ positive test Result ในชุดตรวจจะข้นึ 2 ขีดแสดงวา่ มีความเป็นไปไดส้ ูงมากท่ีจะติดเช้ือ ไวรัสโควิด 19 ตอ้ งเขา้ รับการตรวจซ้าดว้ ยวธิ ี RT-PCR ผลเป็นลบ: หรือ Negative test Result ในชุดตรวจจะข้ึน 1 ขีดขดี ท่ีตวั c การที่ผลตรวจออกมาเป็นลบไม่ สามารถยนื ยนั ได้ 100% วา่ ไม่ติดเช้ือโควดิ 19 ปัจจยั ที่ทาใหผ้ ลตรวจคลาดเคลื่อนอาจเป็นเพราะทาการตรวจ เช้ือเร็วเกินไปชุดตรวจจึงไม่พบส่วนประกอบของไวรัส(antigen) หรือร่างกายยงั ไม่ทนั สร้างแอนติบอดี (antibody) และหากผลเป็นลบแตม่ ีอาการแสดงออกมาคลา้ ยผปู้ ่ วยโค วดิ ใหร้ ีบตรวจอีกคร้ังทนั ทีท้งั น้ีหากใชช้ ุดตรวจแลว้ ไมข่ ้ึนขดี ท่ีตวั c ข้ึนเลยแสดงวา่ ชุดตรวจใชง้ านไม่ไดใ้ ห้ เปลี่ยนอนั ใหม่ การแพร่ระบาดของเชื้อ - โรคโควิด19 น้ี โดยหลกั แลว้ แพร่จากคนสู่คนผา่ นทางฝอยละอองจากจมกู หรือปากซ่ึงขบั ออกมาเม่ือผปู้ ่ วย ไอหรือจาม เรารับเช้ือไดจ้ ากการหายใจเอาฝอยละอองเขา้ ไปจากผปู้ ่ วยหรือจากการเอามือไปจบั พ้นื ผวิ ที่มี ฝอยละอองเหล่าน้นั แลว้ มาจบั ตามใบหนา้ - ระยะเวลานบั จากการติดเช้ือและการแสดงอาการ (ระยะฟักตวั ) มีต้งั แต่ 1-14 วนั และมีค่าเฉล่ีย
อยทู่ ่ี 5-6 วนั เกิน 97% ของผูป้ ่ วยเร่ิมมีอาการภายใน 14 วนั - การเพมิ่ จานวนของไวรัสเกิดข้ึนในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและในปอด มีงานวิจยั ใน ช่วงแรกระบวุ า่ การเพ่มิ จานวนของไวรัสไดใ้ นระบบทางเดินอาหารแตก่ ารติดต่อโดยระบบทางเดินอาหาร ยงั ไมเ่ ป็นที่ยนื ยนั - ช่วงพีคของการแพร่เช้ือน่าจะเกิดข้ึนในช่วงแรกท่ีแสดงอาการและลดลงหลงั จากน้นั - การแพร่เช้ือก่อนแสดงอาการอาจเกิดข้ึนได้ อยา่ งไรก็ตาม หากไมม่ ีอาการไอ (กลไกหลกั ในการขบั ไวรัสออกมา) อาจจากดั การแพร่เช้ือในช่วงน้นั การป้องกนั การแพร่เชื้อ • การป้องกนั การแพร่เช้ือสู่ผูอ้ ื่น - ลา้ งมือใหส้ ะอาดทนั ที หลงั สัมผสั สารคดั หลง่ั ของร่างกาย เช่น ขย้ตี า จาม สัมผสั จมูก สั่งน้ามกู หรือไอ - ควรฉีดพน่ สเปรยแ์ อลกอฮอลไ์ ปยงั ส่ิงของหรือจุดสมั ผสั ร่วมตา่ ง ๆ ก่อนและหลงั การสัมผสั • การป้องกนั การรับเช้ือจากผูอ้ ื่น
- รับประทานอาหารปรุงสุก ร้อน สะอาด ไมร่ ับประทานร่วมกบั ผอู้ ื่น - หลีกเลี่ยงการเขา้ ร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลมุ่ หากมีความจาเป็น การรวมกลุม่ ในสถานที่เปิ ดหรือการเปิ ด หนา้ ต่างเพื่อระบายอากาศ สามารถช่วยลดโอกาสการแพร่ระบาดของเช้ือโควดิ -19 ได้ - สวมหนา้ กากอนามยั ใหก้ ระชบั ใบหนา้ ครอบคลุมท้งั จมูกและปากทุกคร้ังเม่ือออกจากบา้ น - เม่ืออยใู่ นสถานท่ีสาธารณะ ควรเวน้ ระยะห่างจากผอู้ ่ืน 1-2 เมตร และหลีกเลี่ยงพ้นื ที่ปิ ดหรือแออดั หากมี ความจาเป็น เช่น การโดยสารขนส่งสาธารณะ ใหส้ วมหนา้ กากอนามยั และหมนั่ ลา้ งมือเป็นประจา - อยบู่ า้ นเพื่อลดการสัมผสั เช้ือโควิด-19 - ลา้ งมือเป็นประจา และทาความสะอาดของใชส้ ่วนตวั เช่น โทรศพั ทม์ ือถือ - เม่ือกลบั ถึงบา้ น ตอ้ งลา้ งมือดว้ ยน้าและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ - ควรอาบน้าเปล่ียนเส้ือผา้ ทนั ทีท่ีกลบั ถึงบา้ น ก่อนสมั ผสั ส่ิงของหรือคนในบา้ น การรักษา ผทู้ ี่มีผลตรวจเช้ือโควิด-19 เป็นบวกและมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่ วยร้ายแรงสามารถใชก้ ารรักษาโควิด-19 (ยา) ที่มีอยไู่ ด้ วิธีการรักษาแบบน้ีช่วยป้องกนั การเจ็บป่ วยท่ีรุนแรง การเขา้ รักษาตวั ในโรงพยาบาล และการ เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ พูดคุยกบั ผใู้ หบ้ ริการดูแลสุขภาพของคุณทนั ทีหากมีผลตรวจเป็นบวกและมี ความเสี่ยงสูง เน่ืองจากตอ้ งเร่ิมการรักษาแต่เน่ินๆ เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลดีท่ีสุด ผใู้ หบ้ ริการดูแลสุขภาพของคณุ จะช่วย
กาหนดตวั เลือกยารักษาโควิด-19 ที่ดีท่ีสุดใหก้ บั คุณการรักษา การรักษา/ยารักษาโควิด-19 ไมไ่ ดช้ ่วยป้องกนั เรายงั คงแนะนาใหท้ ุกคนท่ีมีสิทธ์ิไดร้ ับวคั ซีนเขา้ รับการฉีดวคั ซีนเพื่อป้องกนั การแพร่กระจายของโควดิ -19 การรักษามีวิธีตา่ งๆ ดงั เช่น การรักษาโดยใช้โมโนโคลนอลแอนตบิ อดคี ืออะไร แอนติบอดีคือโปรตีนท่ีร่างกายของมนุษยส์ ร้างข้นึ เพื่อต่อสู้กบั ไวรัส เช่น ไวรัสท่ีทาใหเ้ กิดโควิด-19 แอนติบอดีท่ีผลิตข้นึ ในหอ้ งปฏิบตั ิการจะทาหนา้ ที่เหมือนกบั แอนติบอดีตามธรรมชาติเพือ่ จากดั ปริมาณ ไวรัสในร่างกายของคุณ ซ่ึงเรียกวา่ โมโนโคลนอลแอนติบอดี หากคณุ มีความเสี่ยงที่จะมีอาการป่ วยรุนแรง จากโควิด-19 และมีผลตรวจวา่ ติดเช้ือโควดิ -19 หรือสัมผสั ใกลช้ ิดกบั บคุ คลท่ีมีผลตรวจวา่ ติดเช้ือ คุณควรเขา้ รับการรักษาโดยใชโ้ มโนโคลนอลแอนติบอดี (mAb) คุณจะมีสิทธ์ิรับการรักษาโควิด-19 โดยใช้ mAb (bebtelovimab) ตามอายุ ประวตั ิสุขภาพ และระยะเวลาท่ีมีอาการ ยาป้องกนั ก่อนสัมผสั ใกล้ชิดกบั โควดิ -19 คืออะไร ยาป้องกนั ก่อนสมั ผสั ใกลช้ ิด (PrEP) คอื ยาท่ีคิดคน้ ข้ึนมาเพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หไ้ วรัสยดึ เกาะและเขา้ สู่เซลลข์ อง มนุษย์ Evusheld เป็นแอนติบอดีที่ออกฤทธ์ิยาวนานซ่ึงไดร้ ับอนุญาตใหน้ ามาใชเ้ พื่อป้องกนั หรือปกป้อง บุคคลก่อนที่จะสัมผสั กบั เช้ือโควดิ -19 เทา่ น้นั ซ่ึงแตกตา่ งจากโมโนโคลนอลแอนติบอดีอ่ืนๆ ที่มีอยใู่ น ปัจจุบนั Evusheld ไม่ไดใ้ ชใ้ นการรักษาอาการท่ีเกิดจากโควดิ -19 และจะไมใ่ หย้ าตวั น้ีหลงั สัมผสั ใกลช้ ิดกบั ผทู้ ี่ติดเช้ือโควดิ -19 แตม่ ีไวเ้ พอ่ื ป้องกนั ก่อนสมั ผสั ใกลช้ ิดเท่าน้นั ยาต้านไวรัสแบบกนิ คืออะไร การรักษาดว้ ยยาตา้ นไวรัสแบบกินช่วยใหร้ ่างกายของคุณต่อสูก้ บั โควิด-19 ดว้ ยการหยดุ ไม่ใหเ้ ช้ือไวรัส SARS-CoV-2 (ไวรัสท่ีก่อให้เกิดโควิด-19) เพมิ่ จานวนในร่างกาย ทาใหจ้ านวนเช้ือไวรัสในร่างกายลดลง หรือช่วยกระตนุ้ ระบบภูมิคุม้ กนั ของคุณ การรับประทานยาตา้ นไวรัสจะช่วยลดความรุนแรงของอาการลง รวมถึงลดโอกาสท่ีจะป่ วยหนกั ข้นึ และการเขา้ รับการรักษาในโรงพยาบาลดว้ ย ท้งั น้ี จะมีใหย้ าตา้ นไวรัสโค
วดิ -19 กบั ผปู้ ่ วยที่มีอาการเล็กนอ้ ยถึงปานกลาง ซ่ึงไม่ไดอ้ ยใู่ นโรงพยาบาล มีอาการไม่เกินหา้ วนั และมีความ เส่ียงสูงท่ีจะเจ็บป่ วยรุนแรง กลุ่มเส่ียง กลมุ่ ผปู้ ่ วยท่ีมีโรคประจาตวั เส่ียงอาการหนกั หากติดเช้ือโควิด-19 1.ความดนั โลหิตสูง เนื่องจากเช้ือไวรัสจะส่งผลใหร้ ะบบไหลเวยี นโลหิตลม้ เหลวไดถ้ ึงร้อยละ 9เสน้ เลือด หวั ใจตีบ หัวใจเตน้ ผิดจงั หวะ โดยทว่ั ไปแลว้ การทางานของหวั ใจและระบบไหวเวยี นเลือดในผปู้ ่ วยกลมุ่ น้ี จะมีประสิทธิภาพต่ากวา่ คนทว่ั ไป อีกท้งั ส่วนใหญ่เป็นผูส้ ูงอายแุ ละมีภูมิคมุ้ กนั ต่า หากติดเช้ือ COVID-19 จะยง่ิ ทาใหโ้ รครุนแรงข้ึน เสี่ยงเกิดเยอ่ื บุหลอดเลือดอกั เสบทวั่ ร่ายกายจนทาใหก้ ารไหลเวียนเลือดบกพร่อง เซลลแ์ ละเน้ือเยอ่ื ขาดออกซิเจน หวั ใจทางานหนกั ข้ึนและเกิดภาวะแทรกซอ้ นไดง้ า่ ย เช่น หวั ใจลม้ เหลว ลิ่ม เลือดอุดตนั เฉียบพลนั ในหลอดเลือดหวั ใจ ปอดอกั เสบรุนแรงและภาวะระบบการหายใจลม้ เหลวเฉียบพลัน อีกท้งั ยงั ทาใหค้ วบคมุ โรคประจาตวั ที่มีอยเู่ ดิมยากข้นึ เส่ียงเกิดภาวะหวั ใจและระบบไหลเวียนเลือดลม้ เหลว ไดเ้ ช่นเดียวกนั 2.เบาหวาน ผปู้ ่ วยเบาหวานท่ีไม่สามารถควบคมุ น้าตาลไดจ้ ะมีความเสี่ยงในการติดเช้ือง่ายกวา่ คนปกติ เพราะเช้ือจะเจริญเติบโตไดด้ ีเมื่อน้าตาลในเลือดสูงและร่างกายมีภูมิคมุ้ กนั นอ้ ยลง อีกท้งั ผปู้ ่ วยเบาหวานยงั มี
ระดบั เอนไซมโ์ ปรตีน ACE2 receptors สูงข้ึน เม่ือรับเช้ือไวรัสเขา้ ไปแลว้ จะทาใหผ้ นงั หลอดเลือดบางลง เกิดภาวะปอดบวม มีน้าคง่ั ในถุงลม เป็นเหตุใหก้ ารหายใจลม้ เหลวไดง้ า่ ย 3.ไตเร้ือรัง ผปู้ ่ วยฟอกไตและปลูกถ่ายไต ผปู้ ่ วยในกล่มุ น้ีจะมีภมู ิคุม้ กนั ต่ากวา่ คนทว่ั ไป จึงเส่ียงติดเช้ือไดง้ า่ ย และรุนแรงข้ึน ควรตอ้ งดูแลตวั เองและปฏิบตั ิตามคาแนะนาของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 4.หอบหืด ปอดอกั เสบเร้ือรัง ซิสติกไฟโบรซิส COVID-19 มีผลกระทบโดยตรงต่อปอด ซ่ึงในผปู้ ่ วยที่มี ปัญหาโรคปอดอยแู่ ลว้ อาจทาใหโ้ รคกาเริบหรือมีอาการปอดบวมไดง้ า่ ยกวา่ ผปู้ ่ วยทวั่ ไป 5.ตบั แขง็ ตบั อกั เสบเร้ือรัง รวมถึงผปู้ ่ วยปลูกถา่ ยตบั ที่ใชย้ ากดภูมิคมุ้ กนั และผปู้ ่ วยมะเร็งตบั ที่กาลงั รักษา ดว้ ยยาเคมีบาบดั เสี่ยงเกิดอาการรุนแรงไดเ้ พราะยาที่ใชร้ ักษา COVID-19 อาจมีผลตอ่ การทางานของตบั อาจ ทาใหโ้ รคที่เป็นอยเู่ ดิมควบคุมไดย้ ากข้ึนหรือรุนแรงกวา่ เดิม 6.ภูมิคุม้ กนั บกพร่อง ไมว่ า่ จะเป็นผปู้ ่ วยโรคมะเร็ง เอดส์ หรือแมแ้ ต่คนที่สูบบุหร่ีเป็นประจา จะมีภูมิคมุ้ กนั ที่ อ่อนแอ ร่างกายไมส่ ามารถต่อสู้กบั เช้ือโรคได้ จึงทาใหเ้ สี่ยงอาการรุนแรงและยงั อาจติดเช้ือนานกวา่ ผปู้ ่ วย ทวั่ ไป 7.โรคอว้ น หากติดเช้ือ COVID-19 มีโอกาสเกิดผลขา้ งเคียงคลา้ ยกบั กลุ่มผปู้ ่ วยเบาหวาน โดยเฉพาะผปู้ ่ วย โรคอว้ นชนิดรุนแรงหรือมีค่าดชั นีมวลกายต้งั แต่ 30 – 40 ข้นึ ไป การขยายตวั ของปอดจะถกู จากดั ซ่ึงจะเพม่ิ ความเสี่ยงมากข้นึ เม่ือมีการติดเช้ือไวรัสท่ีปอดหรืออาจเกิดอาการหายใจลาบากเฉียบพลนั ได้ หากมีอาการ แทรกซอ้ นรุนแรงและตอ้ งเขา้ รักษาตวั ในหอ้ ง ICU อาจมีปัญหาในการใส่ท่อช่วยหายใจหรือการ X-Ray Computer ที่อาจจากดั ขนาดและน้าหนกั ของผปู้ ่ วย
มาตรการป้องกนั ในแต่ละระดบั มาตราการป้องกนั เช้ือไวรัสโคโรนา 2019หรือ โควิด-19 (covid-19) ดว้ ยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด 19(coronavirus2019) (covid-19) ที่มีจานวนผตู้ ิดเช้ือโควิด 19 เป็นจานวนมากในหลายพ้นื ท่ีทว่ั ประเทศซ่ึงส่วนใหญพ่ บในกลุ่มผู้ สัมผสั ผปู้ ่ วยยนื ยนั ตอ่ เนื่องจากกลุ่มการแพร่ระบาดในสถานบนั เทิงการเดินทางจากพ้นื ท่ีเส่ียงและการติดเช้ือ ต่อเน่ืองจากสถานท่ีเฉพาะกล่มุ เช่นโรงงาน สถานท่ีพกั ของคนงานและแรงงานตา่ งดา้ วส่งผลใหม้ ีจานวนผู้ ติดเช้ือรายใหมแ่ ละผปู้ ่ วยสะสมเพ่มิ ข้นึ ซ่ึงจาเป็นตอ้ งกาหนดมาตรการตามกฎหมายเพ่ือป้องกนั และควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือโควิด 19 และใหผ้ มู้ ีหนา้ ท่ีสามารถปฏิบตั ิถูกตอ้ งตามลกั ษณะมีประสิทธิภาพ และเหมาะสม มาตรการป้องกนั ความเสี่ยงตามระดบั ของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 21019 หรือโรคโควิด 19 ดงั น้ี “ระดบั 1” หมายความวา่ สถานการณ์ที่ไม่พบผตู้ ิดเช้ือไวรัสท้งั ในสถานประกอบกิจการและในเขตองคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นซ่ึงเป็นท่ีต้งั ของสถานประกอบกิจการและในเขตองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินอ่ืนท่ีมี พ้นื ท่ีติดต่อกนั น้นั แตย่ งั พบการระบาดของเช้ือไวรัสภายในประเทศและตา่ งประเทศ “ระดบั 2 “หมายความ วา่ สถานการณ์ที่ไม่พบผตู้ ิดเช้ือในสถานประกอบกิจการแตพ่ บวา่ มีประวตั ิการพบผูต้ ิด เช้ือซ่ึงอยใู่ นระยะแพร่เช้ือตามที่กรมควบคุมโรคกาหนดเขา้ มาใชบ้ ริการในสถานประกอบกิจการน้นั หรือ พบผตู้ ิดเช้ือในเขตองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นน้นั หรือในเขตปกครองส่วนทอ้ งถิ่นอื่นท่ีมีพ้นื ท่ีติดต่อกนั
“ระดบั 3 “หมายความวา่ สถานการณ์ท่ีพบผตู้ ิดเช้ือในสถานประกอบกิจการน้นั มาตรการป้องกนั โคโรนา2019ในสถานประกอบกิจการหรือผดู้ าเนินกิจการ 1 กรณีท่ีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสอยใู่ นระดบั หน่ึงใหป้ ฏิบตั ิตามมาตรการดงั ต่อไปน้ี 1.1 ทาความสะอาดอาคารสถานประกอบกิจการดว้ ยน้ายาทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอโดยเฉพาะบริเวณท่ี มีพ้นื ผวิ ท่ีมีการสัมผสั บ่อยหรือสัมผสั ร่วมกนั และตอ้ งดูแลความสะอาดใหอ้ ยใู่ นสภาพที่ถกู สุขลกั ษณะเป็น ประจาทุกวนั 1.2 มีการระบายอากาศที่ดีและเพยี งพอกรณีท่ีมีระบบปรับอากาศตอ้ งมีอตั ราการระบายอากาศเป็นไปตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นท่ีเกี่ยวขอ้ ง 1.3 จุด 3 พ้นื ท่ีปฏิบตั ิงานและพ้นื ที่ใหบ้ ริการอยา่ งนอ้ ย 1 คนต่อ 4 ตารางเมตรหรือเวน้ ระยะห่างระหวา่ ง บุคคลอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร 1.4 ทาความสะอาดเคร่ืองมือเครื่องใชภ้ าชนะอุปกรณ์และเครื่องจกั รก่อนและหลงั ประกอบกิจการหรือ ใหบ้ ริการทุกคร้ัง 1.5 มีอ่างลา้ งมือพร้อมน้นั และสบอู่ ยา่ งเพียงพอหากไมส่ ามารถจดั ใหม้ ีอ่างลา้ งมือไดต้ อ้ งจดั ใหม้ ีเจล แอลกอฮอลห์ รือแอลกอฮอลเ์ ขม้ ขน้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 1.6ใหม้ ีภาชนะบรรจุหรือภาชนะรองรับท่ีเหมาะสมและเพียงพอกบั ประเภทและปริมาณของขยะมูลฝอย 1.7 มีอุปกรณ์ทาความสะอาดน้ายาทาความสะอาด สารฆ่าเช้ือ อยา่ งเพียงพอ 1.8 มีอปุ กรณ์ป้องกนั ตนเองสาหรับพนกั งานทาความสะอาดอยา่ งเพียงพอ 1.9 ผปู้ ฏิบตั ิงานตอ้ งมีสุขภาพดีไม่เป็นโรคติดต่อรักษาความสะอาดของร่างกายอยา่ งสม่าเสมอสวมใส่เส้ือผา้ ท่ีสะอาดและมีสุขอนามยั ส่วนบคุ คลท่ีดี 1.10 วดั อุณหภูมิของผปู้ ฏิบตั ิงานและผมู้ าใชบ้ ริการและมีการลงทะเบียนเขา้ ออกสถานประกอบกิจการผา่ น ระบบเทคโนโลยดี ิจิตอลท่ีทางราชการกาหนด เช่นไทยชนะหรือใชก้ ารบนั ทึกขอ้ มลู
2 กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสอยใู่ นระดบั 2 ใหป้ ฏิบตั ิตามมาตรการในระดบั หน่ึงและ ดาเนินการตามมาตรการในระดบั 2 ดงั ต่อไปน้ีดว้ ย 2.1 ใหเ้ พม่ิ มาตรการในการทาความสะอาดจุดสัมผสั ร่วมอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 คร้ังหรือเพ่ิมความถี่มากข้นึ หากมี ผใู้ ชบ้ ริการจานวนมากและอาจฆ่าเช้ือดว้ ยสารฆา่ เช้ือโรค 2.2 เมื่อทราบวา่ มีผตู้ ิดเช้ือเขา้ มาในสถานประกอบการตามช่วงเวลาใหห้ ยดุ การดาเนินกิจการในส่วนท่ี เกี่ยวขอ้ งทนั ที 2.3 จดั ใหม้ ีมาตรการลดความแออดั ลดการสมั ผสั ในสถานประกอบกิจการ 2.4 จดั ทาทะเบียนบนั ทึกประวตั ิและขอ้ มูลการเดินทางของผปู้ ฏิบตั ิงานกรณีที่มีการเดินทางไปในพ้ืนที่หรือ สถานที่เส่ียง 2.5 มีการตรวจหาเช้ือไวรัสใหแ้ ก่พนกั งานตามความเหมาะสมกรณีตรวจแลว้ ไดผ้ ลที่มีความเป็นไปไดม้ าก ที่สุดท่ีจะเป็นผตู้ ิดเช้ือใหร้ ายงานต่อเจา้ หนา้ ที่สาธารณสุขโดยทนั ทีและปฏิบตั ิตามมาตรการควบคุมโรค ตามที่กฎหมายวา่ ดว้ ยโรคติดต่อกาหนด 2.6 ส่งเสริมใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานทุกคนไดร้ ับวคั ซีนป้องกนั การติดเช้ือไวรัสตามที่กรมควบคุมโรคกาหนด 2.7เพม่ิ มาตรการในการคดั กรองในกรณีที่บุคคลภายนอกเขา้ มาใหบ้ ริการหรือปฏิบตั ิงานในสถานประกอบ กิจการมากกวา่ 1 ชวั่ โมงตอ้ งดาเนินการประเมินตนเองผา่ นระบบเทคโนโลยดี ิจิตอลตามท่ีกรมอนามยั กาหนดดว้ ย 2.8เพ่มิ มาตรการการกรณีท่ีมีการใหบ้ ริการอาหารและเครื่องดื่มในสถานประกอบกิจการโดยจดั ใหม้ ีที่นง่ั รับประทานอาหารเป็นการเฉพาะที่สามารถป้องกนั และแพร่กระจายของเช้ือไวรัส 3 กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสอยใู่ นระดบั 3 ใหป้ ฏิบตั ิตามมาตรการในระดบั 2 และ มาตรการในระดบั 3 ดงั ต่อไปน้ีดว้ ย 3.1 พิจารณาหยดุ กิจกรรมหรือการใหบ้ ริการในแผนกท่ีมีผปู้ ฏิบตั ิงานติดเช้ือและบริเวณที่เกี่ยวขอ้ งและการ ใหเ้ ปิ ดการดาเนินกิจการตอ่ ไปไดใ้ นวนั ถดั จากวนั ที่ทาความสะอาดแลว้ เสร็จ 1 วนั หรือตามท่ีเจา้ พนกั งาน สาธารณสุขตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสาธารณสุขกาหนดหรือใชม้ าตรการอื่นตามท่ีกระทรวงสาธารณสุข กาหนดแลว้ แตก่ รณีเช่นหา้ มแวะระหวา่ งการเดินทางไมใ่ หอ้ อกไปภายนอกสถานประกอบกิจการ
3.2 ใหเ้ พิม่ ความถ่ีในการทาความสะอาดสถานประกอบกิจการอยา่ งนอ้ ยทกุ 2 ชว่ั โมงหรือหลงั การใหบ้ ริการ 2.3 เพ่ิมการดูแลการระบายอากาศในสถานประกอบกิจการใหม้ ีการถ่ายเทอากาศบริเวณท่ีพบผตู้ ิดเช้ือทนั ที และปรับปรุงระบบระบายอากาศใหด้ ียง่ิ ข้ึนโดยอาจติดต้งั อุปกรณ์เพมิ่ การจดั การมลู ฝอยประเภทที่ปนเป้ื อนน้ามูกน้าลายสารคดั หลงั่ เช่นหนา้ กากอนามยั กระดาษทิชชูชุดตรวจ และน้ายาที่เก่ียวขอ้ งกบั การวินิจฉยั การติดเช้ือหรือเช้ือก่อโรคโควิด 19 แบบตรวจหาแอนติเจนดว้ ยตนเองท่ี ใชง้ านแลว้ ใหจ้ ดั ท่ีทิ้งมูลฝอยติดเช้ือเป็นการเฉพาะแยกเก็บรวบรวมและทาลายเช้ือไวรัสใส่ถุงฝอยติดเช้ือท่ี ทาจากพลาสติกหรือวสั ดุอ่ืนท่ีมีความเหนียวไม่ฉีกขาดงา่ ย มาตราการป้องกนั เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19ในสถานศึกษา 1.ใหส้ ถานศึกษาประเมินสถานการณ์ความเส่ียงอยา่ งรอบดา้ นของนกั เรียนหรือครูท่ีอาจเป็นกลุ่มเส่ียงในการ ติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงการเปิ ดเรียน หากมีนกั เรียนหรือครูท่ีเป็นกลุม่ เสี่ยงดงั กล่าว ใหส้ ถานศึกษาสามารถพิจารณาปรับการเรียนการสอนเป็น ระบบการศึกษาทางไกล (On air/ Online/ On hand/ On demand) ไดต้ ามความเหมาะสม และประสานกบั คณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวดั อยา่ งใกลช้ ิด 2.ใหส้ ถานศึกษาประเมินมาตรการการเปิ ดเรียนตาม Thai stop COVID plus และปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดของ 6 มาตรการหลกั (DMHT-RC), 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเขม้ สาหรับสถานศึกษา โดยเคร่งครัด โดยพ้ืนท่ีมีการแพร่ระบาดเป็นวงกวา้ งใหป้ ฏิบตั ิตามแนวทางคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวดั หรือตามท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนด 3.ใหส้ ถานศึกษาดาเนินมาตรการตามแผนเผชิญเหตทุ ่ีกาหนด กรณีนกั เรียน ครู หรือบคุ ลากรในสถานศึกษา มีการติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือมีผลตรวจคดั กรองหาเช้ือเป็นบวก โดยใหม้ ีการซกั ซอ้ มอยา่ งเคร่งครัด และประสานความร่วมมือกบั สถานพยาบาลเครือข่ายในพ้ืนท่ีท่ีดูแลอยา่ งใกลช้ ิดกระทรวงสาธารณสุขจึง เพม่ิ ระดบั เตือนภยั โควิด-19 จากเดิมระดบั 3 ปรับข้ึนเป็นระดบั 4 ซ่ึงอาจมีมาตรการเพิม่ เติมที่เคร่งครัดมาก
ข้นึ มีการชะลอการเดินทาง เช่น ทางานท่ีบา้ น หรือชะลอการเดินทางขา้ มจงั หวดั และลดการรวมตวั กนั เพื่อ ช่วยลดการแพร่กระจายเช้ือ ประชาชนตอ้ งปฏิบตั ิตามมาตรการ V-U-C-A อยา่ งเคร่งครัด คือ รับการฉีดวคั ซีนตามท่ีกาหนด ป้องกนั ตนเองครอบจกั รวาล ทกุ ท่ี ทุกเวลา สถานประกอบการมีระบบ COVID-19 Free Settings และตรวจ ATK สม่าเสมอ สาหรับการประเมินความเสี่ยง 5 ระดบั จะมีมาตรการป้องกนั ควบคุมโรค ตามที่กรมควบคมุ โรคกาหนด • ระดบั 1 ใชช้ ีวติ ไดป้ กติ แบบ COVID-19 Free Setting การเดินทางขา้ มประเทศไดป้ กติ • ระดบั 2 เร่งเฝ้าระวงั คดั กรอง เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่ม 1,000 คนข้นึ ไป จากดั เขา้ พ้นื ท่ีปิ ด เร่ิมระบบ Test & Go • ระดบั 3 จากดั การรวมกล่มุ ทางานจากที่บา้ น 20 – 50% คดั กรองก่อนเดินทาง เล่ียงกิจกรรมรวมกลมุ่ 200 คนข้นึ ไป และเปิ ดระบบแซนดบ์ อ็ กซ์ • ระดบั 4 ปิ ดสถานที่เส่ียง ทางานจากท่ีบา้ น 50 – 80% ชะลอการเดินทางขา้ มพ้ืนท่ี ใชร้ ะบบกกั ตวั ผเู้ ดินทาง จากต่างประเทศ • ระดบั 5 จากดั การเดินทางและกิจกรรมตา่ ง ๆ รวมถึงเคอร์ฟิ ว และใชร้ ะบบกกั ตวั ผเู้ ดินทางทุกราย
วคั ซีนที่ใช้ในการป้องกนั วคั ซีนที่เก่ียวกบั โควิด-19 จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด 1. mRNA Vaccine ยอ่ มาจากmessenger Ribonucleic Acid หรือวคั ซีนชนิดสารพนั ธุกรรม วคั ซีนกลมุ่ น้ี ใช้ เทคโนโลยใี หมส่ ังเคราะห์สารพนั ธุกรรมเอม็ อาร์เอน็ เอ (messenger RNA: mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงกบั เช้ือ ไวรัส วคั ซีนจะทาหนา้ ท่ีพา mRNA เขา้ เซลล์ และ กากบั ใหเ้ ซลลผ์ ลิตสารโปรตีนสไปคข์ องเช้ือไวรัส ซ่ึง โปรตีนน้ีจะกระตุน้ ระบบภูมิคมุ้ กนั ของร่างกายใหส้ ร้างแอนติบอดีข้นึ มาต่อตา้ นเช้ือ วคั ซีนท่ีมีใชใ้ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่ วคั ซีนของบริษทั Pfizer และ Moderna ซ่ึงปัจจุบนั วคั ซีน mRNA ถือเป็น วคั ซีนโควิด-19 ที่ทวั่ โลกนิยมใชม้ ากท่ีสุด 2. วคั ซีนท่ีใชไ้ วรัสเป็นพาหะ Recombinant Viral vectorvaccine เป็นวคั ซีนโควดิ -19 ท่ีใชไ้ วรัสตวั อื่นเป็น พาหะ แลว้ ฉีดเขา้ ไปในร่างกายมนุษย์ พฒั นาโดยการนาไวรัสที่ถกู ทาใหอ้ อ่ นฤทธ์ิลงแลว้ หรือไมส่ ามารถ แบง่ ตวั ไดอ้ ีกมาตดั แต่งพนั ธุกรรมเพ่ือใชเ้ ป็นพาหะ แลว้ ฝากสารพนั ธุกรรมของโควิด-19 เขา้ ไป ทาให้ ร่างกายสร้างภมู ิคุม้ กนั ข้ึนมา ซ่ึงเทคนิคน้ีเป็นวธิ ีท่ีสามารถกระตุน้ ภูมิคมุ้ กนั ไดด้ ี เน่ืองจากเลียนแบบการติด เช้ือที่ใกลเ้ คยี งธรรมชาติ วคั ซีนชนิด Viral vector ที่ใชก้ นั อยใู่ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่ AstraZeneca (แอสตร้าเซนเนกา้ ) ,บริษทั จอหน์ สนั แอนด์ จอห์นสนั
3. วคั ซีนท่ีทาจากโปรตีนส่วนหน่ึงของเช้ือ (Protein subunit vaccine) เป็นวคั ซีนที่เลียนแบบสไปรทโ์ ปรตีน หรือหนามแหลมของไวรัส โดยอาศยั สื่งมีชีวติ อื่นสร้างข้ึนมา เช่น แบคทีเรีย ยสี ต์ หรือพืช วคั ซีนท่ีผลิตโดย เทคโนโลยนี ้ี ทว่ั โลกมีความคนุ้ เคยมานาน เพราะใชใ้ นการผลิตวคั ซีนหลายชนิด เช่น วคั ซีนป้องกนั ไขห้ วดั ใหญ่ วคั ซีนป้องกนั ไวรัสตบั อกั เสบบี เป็นตน้ ผลิตโดยการ สร้างโปรตีนของเช้ือไวรัส ดว้ ยระบบ cell culture, yeast, baculovirus เป็นตน้ แลว้ นามาผสมกบั สารกระตนุ้ ภมู ิ เมื่อฉีดเขา้ สู่ร่างกายจะกระตนุ้ ให้ ร่างกายสร้างแอนตีบอดีต่อตา้ นโปรตีนสไปคข์ องไวรัสโรคโควดิ 19 วคั ซีนที่มีใชใ้ นปัจจุบนั คอื วคั ซีนแบ รนด์ Novavax ซ่ึงผลิตจาก baculovirus และใช้ Matrix M เป็นตวั กระตนุ้ ภมู ิ 4. วคั ซีนชนิดเช้ือตาย (Inactivated vaccine) วคั ซีนกลมุ่ น้ีผลิตโดยนาไวรัสโรคโควดิ 19 มาเล้ียงขยายจานวน มาก และนามาทาใหเ้ เช้ือตาย การฉีดวคั ซีนจะกระตนุ้ ใหร้ ่างกายสร้างภูมิคมุ้ กนั ต่อไวรัสทกุ ส่วน เสมือน ไดร้ ับเช้ือไวรัสโดยตรงแต่ไม่ทาใหเ้ กิดโรค เพราะเช้ือตายแลว้ เทคโนโลยนี ้ีเป็นวิธีท่ีใชก้ บั วคั ซีนตบั อกั เสบ เอ โปลิโอชนิดฉีด จึงมีความคนุ้ เคยในประสิทธิภาพและความปลอดภยั มานาน แตเ่ นื่องจากการเพาะเล้ียง ไวรัสตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั มาก ทาใหผ้ ลิตไดช้ า้ และมีราคาแพง วคั ซีนท่ีมีใชใ้ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่ วคั ซีนซิโนแวค (Sinovac) และวคั ซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) วคั ซีนโควดิ -19 ท่ีนามาใชแ้ ละมีแผนท่ีจะนาเขา้ มาใชใ้ นประเทศไทย 5 ยหี่ อ้ ไดแ้ ก่ วคั ซีนซิโนแวค (Sinovac) , วคั ซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) , วคั ซีนแอสตร้าเซนเนกา้ (AstraZeneca),วคั ซีนไฟเซอร์ (Pfizer) และ วคั ซีนโมเดอร์นา (Moderna) บทสรุป
โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 เกิดจากไวรัสโคโรนากลุ่มอาการทางเดินทางหายใจเฉียบพลนั รุนแรง 2 (SARS-CoV-2) ซ่ึงเริ่มปรากฏในเดือนธนั วาคม 2562 ท่ีนครอูฮ่ นั่ เมืองเอกของมณฑลหูเป่ ย์ ประเทศจีน จากน้นั ไดม้ ีการแพร่ระบาดคร้ังใหญไ่ ปทวั่ โลกในเวลาต่อมา โดยมีการเรียกช่ือโรคติดเช้ือชนิดน้ีวา่ 'โควิด- 19' อาการทว่ั ไปของโรคโควดิ -19 อาการของผปู้ ่ วยโรคโควิด-19 ท่ีโดดเด่นคือ อาการท่ีเกี่ยวกบั ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ หายใจลาบาก และมีไขส้ ูง ส่วนอาการอื่น ๆ อาจรวมถึงอ่อนเพลีย ปวดกลา้ มเน้ือ ทอ้ งร่วง เจบ็ คอ มีภาวะเสียการรับรู้กล่ิน และการรู้รส แมผ้ ปู้ ่ วยส่วนใหญ่จะมีอาการไมร่ ุนแรง แต่ก็มีบางส่วนที่อาการหนกั มากจนนอนพกั รักษาตวั ท่ี โรงพยาบาลในหอ้ งไอซียู หรือในเบ้ืองตน้ อาการไมม่ ากนกั แตก่ ลบั ทรุดลงดว้ ยกลมุ่ อาการหายใจลาบาก เฉียบพลนั เกิดลิ่มเลือด อวยั วะลม้ เหลวหลายอวยั วะ เกิดภาวะช็อก เป็นตน้ การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ไวรัสสามารถแพร่ระบาดไดร้ ะหวา่ งบคุ คล จากการสัมผสั หรืออยใู่ กลช้ ิดเป็นหลกั โดยผา่ นละอองเสมหะ ขนาดเลก็ ท่ีเกิดจากการไอ จาม หรือพูดคยุ กนั แมล้ ะอองเสมหะเหล่าน้ีเกิดเมื่อหายใจออก แต่ปกติจะตกลงสู่ พ้นื หรือติดคา้ งบนพ้นื ผิววตั ถุตา่ งๆ ไมไ่ ดเ้ กิดจากการติดเช้ือในระยะไกล บคุ คลอาจติดเช้ือไดจ้ ากการสัมผสั พ้ืนผวิ ท่ีปนเป้ื อนแลว้ นามาแตะตา จมูก หรือปากของตน ทาอยา่ งไรใหห้ ่างไกลจากเช้ือโควิด-19 มาตรการท่ีแนะนาในการป้องกนั การติดเช้ือ ไดแ้ ก่ - สวมหนา้ กากอนามยั เมื่ออยูใ่ นท่ีท่ีแออดั หรือมีอากาศปิ ด - หมน่ั ลา้ งมือใหส้ ะอาดดว้ ยน้าสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ - เวน้ ระยะห่างทางกายกบั ผอู้ ่ืน โดยเฉพาะจากผทู้ ่ีมีอาการน่าสงสยั - ปิ ดปากและจมกู ขณะมีการไอหรือจามดว้ ยกระดาษทิชชูหรือขอ้ พบั ศอก
- งดนามือที่ไม่ไดล้ า้ งแตะหรือสมั ผสั บริเวณใบหนา้ - รีบอาบน้าสระผมเปล่ียนเส้ือผา้ เม่ือกลบั ถึงบา้ น สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ในไทยกระจายเป็นวงกวา้ งและเร็วกวา่ การ ระบาดรอบแรก แตค่ วามรุนแรงของโรคนอ้ ยกวา่ และพฒั นาการของวคั ซีนมีความชดั เจนมากข้ึน ท้งั น้ี คาด วา่ ผลตอ่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะไมร่ ุนแรงเทา่ การระบาดรอบก่อน จากมาตรการที่เขม้ งวดนอ้ ยกวา่ และภาค การส่งออกสินคา้ ที่ยงั ขยายตวั ไดต้ ามเศรษฐกิจประเทศคู่คา้ อยา่ งไรกด็ ี ผลกระทบและการฟ้ื นตวั ในระยะ ตอ่ ไปจะตา่ งกนั ท้งั เชิงพ้ืนที่กลมุ่ ธุรกิจ และกลมุ่ แรงงาน โดยพ้ืนท่ีท่ีอยภู่ ายใตม้ าตรการควบคมุ เขม้ งวด ครอบคลมุ สดั ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจสูงเกินคร่ึงของประเทศ ขณะท่ีดา้ นกลุม่ ธุรกิจจะมีกลมุ่ ท่ีเปราะบาง เพ่ิมเติมจากรายไดจ้ ะลดลงในช่วงน้ีโดยเฉพาะกลุ่มบริการ ขณะที่บางกลมุ่ ท่ีมีฐานะการเงินอ่อนแออยกู่ ่อน แลว้ เช่น ธุรกิจในภาคการท่องเท่ียวจะไดร้ ับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่น้ีเพิม่ เติมอีก ส่วนดา้ น แรงงาน ในพ้ืนท่ีสีแดงท่ีมาตรการควบคุมเขม้ งวด คาดวา่ กลุม่ ที่มีความเสี่ยงจะไดร้ ับผลกระทบจะมีประมาณ 4.7 ลา้ นคน ในระยะขา้ งหนา้ ยงั มีความไมแ่ น่นอนสูงในเร่ืองการแพร่ระบาด การกระจายวคั ซีน และการ ปรับ พฤติกรรมของประชาชน อีกท้งั ในปัจจุบนั หลายภาคธุรกิจและครัวเรือนมีฐานะการเงินที่เปราะบางข้ึน มากจากการระบาดรอบแรกทาใหค้ วามสามารถในการรองรับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจนอ้ ยลง ซ่ึงอาจทา ใหผ้ ลกระทบรุนแรงข้นึ ได้ ดงั น้นั การช่วยเหลือภาคธุรกิจและแรงงานอยา่ งทนั การณ์เป็นเรื่องจาเป็นเร่งด่วน และตอ้ งเนน้ การเขา้ ถึงกลมุ่ เปราะบาง (targeted) ใหท้ ว่ั ถึงมากที่สุด
อ้างองิ https://www.sikarin.com/health https://th.m.wikipedia.org https://hpc11.go.th/web60/cluster_ward64/?p=176 https://www.vejthani.com https://www.bbc.com/thai.com/thai/articles/ce9x7rew95po
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: