51 กาจดั น้า และเกลอื หรือยาขบั ปัสสาวะ ภาวะทพุ โภชนาการ -ตอ้ งการทาCAPD -ไม่สามารถทาทางออกของเลือดเพอ่ื ทาHD ได้ ผปู้ ่ วยที่ทนการทาHD ไมไ่ ด้ เช่น CHF, CAD -ผปู้ ่ วยเดก็ ข้อห้ามในการท า CAPD -มีรอยโรคบริเวณผวิ หนงั หนา้ ทอ้ งที่ไมส่ ามารถวางสายได้ -มพี งั ผดื ภายในช่องทอ้ งไมส่ ามารถวางสายได้ -มีสภาพจิตบกพร่องอยา่ งรุนแรง ซ่ึงอาจกระทบต่อการรักษาดว้ ย วิธี CAPD -มีส่ิงแปลกปลอมในช่องทอ้ ง เช่น Vascular graft, Ventriculos Peritoneal shunt -ไสเ้ ลื่อน (รอ 6 สปั ดาห)์ ช่องติดต่อระหว่าง ช่องทอ้ งกบั อวยั วะนอกช่องทอ้ ง -น้าหนกั มากกว่า 90 กก. หรือ BMI > 35 -มีขอ้ จากดั ดา้ นรูปร่าง -โรคลา ไสอกั เสบเร้ือรงั -การตดิ เช้ือท่ีผนงั ช่องทอ้ งและผวิ หนงั บริเวณตาแหน่งที่จะทาการวางสาย Tenckhoff -Recurrent diverticulitis Gastrostomy การใหอ้ าหารทางสายท่ีใส่ผา่ นหนา้ ทอ้ ง ,Colostomy เป็นทวารเทียม ชนิดลาไสใ้ หญ่, Ileostomy เป็นทวารเทียมชนิดลาไสเ้ ลก็ -ภาวะทุพโภชนาการรุนแรง -ไม่สามารถทนการใส่น้ายาในช่องทอ้ งได้ กลไกของ Solute Transport Osmosis(การซึมผา่ น) คือ การเคลอ่ื นที่ของตวั ทาละลายจากท่ีท่ีมคี วามเขม้ ขน้ นอ้ ยไปที่ที่มคี วาม เขม้ ขน้ มาก Diffusion (การแพร่ผา่ น) คือ การเคล่ือนทขี่ องสารละลายจากท่ีท่ีมีความเขม้ ขน้ มากไป ที่ท่ีมีความเขม้ ขน้ นอ้ ย Convection (การนาพา) คือ การนาสารออกจากร่างกายอาศยั คุณสมบตั ิในการละลายของสารน้นั ใน ตวั ทาละลาย Ultrafiltration (การกรองน้า คือ การดึงน้าส่วนเกนิ ออกจากร่างกายผา่ นทางเยอื่ บุช่องทอ้ ง ข้นั ตอนการลา้ งไตทางช่องทอ้ งแบบต่อเน่ือง (CAPD) ผปู้ ่ วยทาการลา้ งวนั ละ 3-6 คร้ัง โดยการเปล่ียนถา่ ยน้ายา 3 ข้นั ตอนทาต่อเน่ืองเป็นวงจร 1. ข้นั ถ่ายน้ายาออก (Drain) ถ่ายน้ายาคา้ งไวในช่องทอ้ ง 20 นาที 2. ข้นั เติมน้ายาใหม่ (fill) ข้นั เติมน้ายาใหม่แทนท่ีของเดิมนาน 10-15 นาที 3.ข้นั การพกั ทอ้ ง (repression) การคงคา้ งน้ายาเพอื่ ใหเ้ กิดการฟอก 4-6 ชม การล้างไตทางช่องท้องโดยการใช้เครื่องอตั โนมตั ิ (automated peritoneal dialysis:PAD) เปลยี่ นถา่ ยน้ายา 3 คร้ังโดยใชเ้ คร่ืองอตั โนมิแทนผปู้ ่ วย
52 การเปลย่ี นถุงนา้ ยา แพทยส์ งั่ ทา 4-5 คร้ัง/วนั โดยเริ่ม 6.00น 12.00 น. 18.00 น. 22.00 น. หากทาเกิน 5 คร้ัง เริ่มที่6.00 น.ทา จน ครบตามแผนการรกั ษาสามารถทาที่บา้ นพ้นื ท่ีสะอาดไมเ่ ส่ียงต่อการติดเช้ือ การพยาบาล ระยะพกั ทอ้ ง (1-2 สปั ดาห์) ไมใ่ หแ้ ผลโดนน้าหา้ มเปิ ดแผลเอง ลดกิจกรรมที่ทาใหเ้ หง่ือออก งดใส่เส่ือผา้ รัดเกินไป หากปวด บวม มีไข้ หรือ บวม ใหไ้ ปพบแพทย์ จากดั น้าด่ืม เลี่ยงกิจกรรมที่เพมแรงดนั ในช่องทอ้ ง หากมีเลือดออกน้ารั่วซึมใหพ้ บแพทย์ ระยะหลงั พกั ทอ้ ง หมน่ั ตรวจสอบสายทาความสะอาด ตอ้ งไดร้ ับการยนื ยนั จากแพทยว์ า่ แผลแหง้ สนิทถึงจะ อาบน้าได้ หา้ มโดน แป้งทาครีมบริเวณช่องทางออกของสาย ติดพลาสเตอร์เพอื่ กนั การดึงร้ัง ระยะลา้ งไตทางช่องทอ้ ง มกั เริ่มลา้ งในสปั ดาห์ทท่ี 4 เนน้ การลา้ งมือ Medical hand washing ประเมนิ น้ายาและ จดบนั ทึก รักษาความสะอาดสิ่งแวดลอ้ ม เฝ้าระวงั อาการแทรกซอ้ นน้าออกนอ้ ย น้าเกิน ติดเช้ือ ความดนั โลหิตต่า บวม ออกกาลงั กาย รับประทานอาหาร พกั ผอ่ น พบแพทยต์ ามนดั แนะนาชง่ั น้าหนกั ทุกวนั ไมค่ วรข้ึนเกิน 0.5 กก/วนั หา้ มยกของหนกั เกิน 6 กก. การประเมนิ ลกั ษณะแผล EXIT SITE Perfect exit site > สีเดียวกบั ผวิ หนงั หรืออาจมีสีคล้าข้นึ อาจพบคราบน้าเหลอื ง Good exit site > Exit site มสี ีเดียวกบั ผวิ หนงั หรือสีคล้าหรือสีชมพอู ่อน อาจคราบน้าเหลืองเกิดข้ึนไมเ่ กิน 3 คร้ัง/สปั ดาห์ ไม่มีอาการปวด บวม แดง และไมม่ ี external exudates Equivocal exit site > Exit site มีสีชมพูเขม้ หรือสีแดง ความกวา้ งประมาณ 2-3 มม. ไม่เกิน 13 มม. อาจพบคราบน้าเหลอื ง ทุก 1-2 วนั หรือมสี ะเกด็ น้าเหลือง ไมม่ ีอาการปวด บวม หรือหนองไหล ออกจากแผล Acute infection exit site > มอี าการปวด บวม ร้อน ผวิ หนงั มสี ีแดง ผวิ หนงั คลมุ sinus นอ้ ยกว่า 25 % อาจพบคราบ เลือดหรือหนองไหลออกมา อาจมตี ิ่งเน้ือยนื่ ออกมานอก sinus ระยะเวลาใน การติดเช้ือนอ้ ยกวา่ 4 สปั ดาห์ Chronic infection exit site ระยะเวลาเป็นนานกวา่ 4 สปั ดาห์ ปวดหรือไม่ปวดกไ็ ด้ ผวิ หนงั มสี ีแดงคลา้ ย acute exit site infection แต่สีจางกวา่ ถา้ มีอาการปวด บวม แดงแสดงว่า มีภาวะ acute infection ร่วมดว้ ย การฟอกเลอื ดด้วยเคร่ืองไตเทยี ม Cr มากกว่า mg/dl หรือ BUN มากกว่า mg/dl น้าเกินหรือน้าท่วมปอด ความดนั โลหิตสูง ไม่ตอบสนองต่อยา มีภาวะเลือดออกผดิ ปกติ ภาวะ Uremic pericarditis N/V ตลอดเวลา
53 การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม Weekly renal Kt/V urea ต่ากว่า 20 เน่ืองจากเส่ียงต่อภาวะทุพโภชนาการ การเริ่มทาในผปู้ ่ วยไตวาย ระยะสุดทา้ ยทุพโภชนาการที่มีการปรับปรุงการบริโภค โปรตีนและพลงั งานแลว้ เส้นเลือดเพ่อื การฟอกเลือด 1. เสน้ ฟอกชว่ั คราว double lumen catheter (DLC) หลอดเลือดดาที่คอ หรือขาหนีบ 2. เสน้ ฟอกเลือดถาวร แบ่งเป็น 3 ชนิด -Perm catheter สวนสายเขา้ ไปท่ี subclavian vein -Arteriovenous Fistula (AVF) -Arteriovenous graft (AVG) -AVF และ AVG นิยมทาที่แขนท่อนบน ท่อนลา่ ง และตน้ ขา ข้อดขี ้อเสียการฟอกเลือดด้วยไตเทยี ม
54 บทที่12 การพยาบาลผ้ปู ่ วยทมี่ ภี าวะชอ็ ค
55
56 บทท่ี 13 ห่วงโซ่แห่งการรอดชีวติ (Chain of survival)
Search