Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โคลงโลกนิติ

โคลงโลกนิติ

Published by saithip, 2020-08-25 09:44:57

Description: โคลงโลกนิติ

Search

Read the Text Version

โคลงโลกนติ ิ

โคลงโลกนิติ เป็นวรรณกรรมประเภทคาสอน ในลกั ษณะของโคลง สุภาษติ คาว่า โลกนติ ิ (อ่านว่า โลก-กะ-นดิ ) แปลว่า ระเบยี บแบบแผน แห่งโลก เน้อื หาในโคลงโลกนิตจิ งึ มงุ่ แสดงความจรงิ ของโลกและสจั ธรรม ของชวี ติ เพอ่ื ใหผ้ ูอ้ ่านไดร้ ูเ้ท่าทนั ต่อโลก และเขา้ ใจในความเป็นไปของ ชวี ติ พรอ้ มเป็นแมแ่ บบเพอ่ื ใหผ้ ูอ้ ่านไดด้ าเนนิ ชวี ติ ไปในทางทถ่ี กู ตอ้ งดี งามสบื ไป

โคลงโลกนิตมิ คี วามไพเราะเหมาะสมทง้ั ดา้ นรูปแบบและเน้อื หา ปรชั ญาสาระ ครบคณุ ค่าทางวรรณกรรม ทาใหเ้ป็นทแ่ี พร่หลาย ในหมคู่ นทวั่ ไป บางทา่ นกลา่ วยกย่องโคลงโลกนติ วิ า่ เป็น อมตะ วรรณกรรมคาสอน หรอื ยอดสุภาษติ อมตะ ไดร้ บั คดั เลอื กจาก กระทรวงศึกษาธกิ ารใหเ้ป็นบทอ่านหนงั สอื แบบเรยี นในสาหรบั นกั เรยี นนกั ศึกษาอยู่ทกุ ยุคสมยั และไดร้ บั การจดั ใหเ้ป็นหน่งึ ใน หนงั สอิืื ดี ๑๐๐ เลม่ ทค่ี นไทยควรอ่าน

ผูแ้ ต่ง : สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร ลกั ษณะคาประพนั ธ์ : แต่งดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภทโคลงส่ี สุภาพและมบี างบทเป็นโคลงกระทู ้

สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร ทรงชาระโคลงโลกนิตสิ านวนเก่าแล้วจารึกไว้ทวี่ ดั พระเชตุพนฯ พร้อมท้งั บนั ทกึ ไว้ในสมุดไทยด้วย ซ่ึงวดั พระเชตุพนฯ ก็ เปรียบเสมือนมหาวทิ ยาลยั แห่งแรกของประเทศไทย

วดั พระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม ราชวรวหิ าร (วดั โพธ์ิ)



โคลงสส่ี ุภาพกาหนดใหบ้ ทหน่งึ มี ๔ บาท บาทหน่งึ มี ๒ วรรค คอื วรรคหนา้ กบั วรรคหลงั วรรคหนา้ มี ๕ พยางค์ วรรคหลงั มี ๒ พยางค์ ยกเวน้ บาทท่ี ๔ ใหม้ ี ๔ พยางค์ และเพม่ิ คาสรอ้ ยไดท้ บ่ี าทท่ี ๑ และ ๓ แหง่ ละ ๒ พยางค์ โคลงสส่ี ุภาพมตี าแหน่งบงั คบั คาเอก ๗ แห่ง คาโท ๒ แห่ง คาเอกนน้ั สามารถใชค้ าตายหรอื คาเอกโทษแทนได้ สว่ นคาโทใหใ้ ชโ้ ทโทษ แทนได ้

คาเป็ น ๑. คาทป่ี ระสมสระเสยี งยาวในมาตราแม่ ก กา เช่น ตามี ดี งู โต โลเล เกเร รวมทงั้ คาทป่ี ระสมสระ อา ไ- ใ- เ-า เช่น นา้ ใจ ไม่ เบา ๒. คาทม่ี ตี วั สะกดในมาตราแม่ กง กน เกย เกอว เช่น เป็นสาวแลว้ ยงั กนิ นมเนย ผองเพอ่ื นหวิ โหยความเป็นธรรม

คาตาย ๑. คาทป่ี ระสมสระเสยี งสนั้ ในมาตราแม่ ก กา เช่น จะ กะทิ เตะ ทะลุ โละ เละ เฉอะแฉะ เป็นตน้ ๒. คาทม่ี ตี วั สะกด ในมาตราแม่ กก กด กบ เช่น สุขมาก ทกุ ขห์ มด เมฆ โรค พยคั ฆ์ กฎ วุฒิ ภาพ รูป เป็นตน้

คาเอก คอื คาทม่ี รี ูปวรรณยกุ ตเ์ อกกากบั เช่น แม่ เก่ง ไม่ เด่น ต่อ พร่งุ คา เอกโทษ คอื การเปลย่ี นพยญั ชนะเพอ่ื ใหเ้ขยี นดว้ ยรูปวรรณยกุ ตเ์ อกได้ เช่น ผูค้ น เขยี นว่า พคู่ น ขา้ ว เขยี นวา่ ค่าว ถา้ เขยี นว่า ทา่ ฝ้า เขยี น วา่ ฟ้า เป็นตน้

คาโท คอื คาทม่ี รี ูปวรรณยุกตโ์ ทกากบั เช่น ฟ้า บา้ น ใกล ้ เชา้ คาโทโทษ คอื การ เปลย่ี นพยญั ชนะตน้ เพอ่ื ใหเ้ขยี นดว้ ยรูปวรรณยุกตโ์ ทได้ โดยออกเสยี ง เหมอื นเดมิ เช่น พา่ ง เขยี นเป็น ผา้ ง ควา่ เขยี นเป็น ขวา้ แน่ เขยี นเป็น แหน้ เงา่ เขยี นเป็น เหงา้ ร่าย เขยี นเป็น หรา้ ย เป็นตน้

คาสรอ้ ย คอื คาทเ่ี ขยี นเพม่ิ เตมิ ข้นึ ทา้ ยวรรคทอ่ี นุญาตใหใ้ ชค้ าสรอ้ ยได้ โดยไม่ กาหนดความหมายเพม่ิ ข้นึ เพอ่ื ความไพเราะ เช่น “ภมุ ราอยู่ไกลสถาน นบั โยชน์ กด็ ี “ หรอื อาจตอ้ งใชค้ าสรอ้ ยเพยี งคาเดยี ว เพอ่ื ต่อความให้ สมบูรณ์ เช่น “เวน้ เลา่ ลขิ ติ สงั เกตว่าง เวน้ นา”

ลักษณะการบังคับ ๑. โคลงส่สี ภุ าพ ๑ บท มี ๔ บรรทดั ๒. โคลงส่สี ภุ าพ ๑ บรรทดั แลง่ ออกเป็น วรรคหนา้ และวรรคหลงั ๓. โคลงส่สี ภุ าพ วรรคหนา้ มี ๕ คา วรรคหลงั มี ๒ คา สว่ นคาท่ีอยใู่ น วงเลบ็ สเี ขียวจะมีหรอื ไมม่ ีกไ็ ด้ เป็นเพียงสรอ้ ยเพ่ือใหไ้ พเราะ ๔. โคลงส่สี ภุ าพ ๑ บท จะบงั คบั ใหม้ ีวรรณยกุ ตเ์ อก ๗ คา และโท ๔ คา (ในกรณีท่ีหาคาท่ีตอ้ งใชร้ ูปวรรณยกุ ตไ์ มไ่ ด้ จะใชเ้ สียงวรรณยกุ ตแ์ ทน) ๕. การสมั ผสั หรือคาคลอ้ งจอง เป็นไปตามเสน้ สนี า้ เงินแผนผงั

ตวั อยา่ งเนือ้ เร่ือง

(๗) ผลเดื่อเม่ือสกุ ไซร้ มีพรรณ ภายนอกแดงดฉู นั ชาดบา้ ย ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบอ่ น ดจุ ดงั คนใจรา้ ย นอกนนั้ ดงู าม การคบการคบคนอยา่ มองเพยี งความงดงามภายนอก ตรงกบั สานวนรูห้ นา้ ไมร่ ูใ้ จ หรอื ขา้ งนอกสกุ ใสขา้ งในเป็นโพรง

(๒๓)นาคีมีพิษเพีย้ ง สรุ โิ ย เลอื้ ยบท่ าเดโช แชม่ ชา้ พิษนอ้ ยหย่ิงโยโส แมลงป่อง ชแู ตห่ างเองอา้ อวดอา้ งฤทธี๚ ผมู้ ีความรู้ ความสามารถย่อมไมอ่ วดตนหรอื คยุ โม พฤติกรรม ของนาคีตรงกบั ตรงกบั สานวนคมในฝัก

(๒๔)ความรูผ้ ปู้ ราชญน์ นั้ นกั เรยี น ฝนท่งั เท่าเขม็ เพยี ร ผา่ ยหนา้ คนเกียจเกลยี ดหน่ายเวียน วนจิต กลอทุ กในตระกรา้ เป่ียมลน้ ฤามี๚ คนท่ีมีความหยนั หม่นั เพียรแมท้ ากิจการใดท่ียากก็ยอ่ มสาเรจ็ (ท่งั คือแทง่ เหลก็ ) แตค่ นเกียจครา้ นทาสง่ิ ใดไมส่ าเรจ็ เหมือนกบั การ ตกั นา้ ในตะกรา้ (อทุ ก=นา้ ) พฤติกรรมของปราชญต์ รงกบั สานวน หนกั เอาเบาสู้

(๔๑)หา้ มเพลงิ ไวอ้ ย่าให้ มีควนั หา้ มสรุ ยิ แสงจนั ทร์ สอ่ งไซร้ หา้ มอายใุ หห้ นั คนื เลา่ หา้ มดงั นีไ้ วไ้ ด้ จ่งึ หา้ มนินทา๚ การหา้ มธรรมชาติทงั้ ๔ ประการไมใ่ หด้ าเนินไปวา่ เป็น สงิ่ ท่ียากแลว้ การหา้ มไมใ่ หค้ นนินทายงั ยากกวา่ ตรงกบั สานวน อนั นินทากาเลเหมอื นเทนา้ ไม่ชอกชา้ เหมอื นเอามีดมากรดี หิน แมอ้ งพระปฏมิ ายงั ราคนิ มนษุ ยเ์ ดินดินหรอื จะสนิ้ คนนินทา

(๗๒)นา้ เคยี้ วยงู วา่ เงีย้ ว ยงู ตาม ทรายเหลอื บหางยงู งาม วา่ หญา้ ตาทรายย่งิ นิลวาน พรายเพรศิ ลงิ วา่ หววั หวงั หวา้ หวา่ ดนิ้ โดดตาม๚ การหลงเช่ือในส่งิ ท่ีผิด หรอื การหลงผดิ โดยขาดการไตรต่ รอง อาจจ นามาซง่ึ อนั ตรายถึงชีวติ เชน่ นกยงู มองจากท่ีสงู เห็นสายนา้ ท่ีคดเคยี้ วไกล ๆวา่ เป็นงู กระโดดลงไปตาย เนือ้ ทรายมองแพหางนกยงู เป็นหญา้ ก็ กระโดด หมายจะกิน ก็ตายตามไป ขณะเดยี วกนั ลงิ เห็นตาทรายท่ีโผลพ่ น้ นา้ เป็นลกู หวา้ ก็กระโดดหมายจะกินอีก ตา่ งตายตามไปดว้ ย ตรงกบั สานวนเห็นผดิ เป็นชอบ

บทวเิ คราะห์

คุณค่าด้านเนือ้ หา สอนให้ยดึ ม่ันในความดี โคลงโลกนิติสอนใหร้ ูจ้ กั ความดีความช่วั การท่ีเราไดร้ บั ผลอยา่ งไรยอ่ มมีเหตจุ ากการ กระทาของเราทงั้ สนิ้ ผทู้ าดียอ่ มไดร้ บั ผลดีตอบแทน สว่ นผทู้ าช่วั ผลท่ีเกิดจากการทา ช่วั นนั้ ยอ่ มกดั กรอ่ นใจซง่ึ เปรยี บไดก้ บั สนิมกดั กรอ่ นเนือ้ เหลก็ ใหผ้ พุ งั ไป ดงั ท่ีวา่ สนิมเหลก็ เกิดแตเ่ นือ้ ในตน กินกดั เนือ้ เหลก็ จน กรอ่ นขรา้ บาปเกิดแตต่ นคน เป็นบาป บาปยอ่ มทาโทษซา้ ใสผ่ บู้ าปเอง

โคลงโลกนติ กิ ลา่ วถึงความดคี วามช่วั ไวใ้ นอีกบทหนง่ึ ว่า ววั ควายนนั้ เม่ือ สนิ้ ชีพแลว้ ยงั มเี ขาและหนงั ท่ีเป็นประโยชน์ สว่ นคนเราเม่ือสนิ้ ชีวิต คงเหลอื แตเ่ กียรติยศช่ือเสยี งและความดคี วามช่วั ใหค้ นไดจ้ ดจาไว้ เทา่ นนั้ ดงั ท่ีวา่ โคควายวายชีพได้ เขาหนงั เป็นสง่ิ เป็นอนั ยงั อยไู่ ซร้ คนเดด็ ดบั สญู สงั - ขารรา่ ง เป็นช่ือเป็นเสยี งได้ แตร่ า้ ยกบั ดี

สอนให้รู้จักประมาณตน โคลงโลกนิติสอนใหร้ ูจ้ กั ประเมินความสามารถและประมาณกาลงั ของตน นบั เป็นคาสอนท่ีสอดคลอ้ งกบั แนวพระราชดารขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ เร่อื งเศรษฐกิจพอเพียง ดงั คาสอนท่ีใชแ้ นวเทียบกบั นกตวั นอ้ ยท่ีหากินตามกาลงั ของ ตนและทารงั แตพ่ อตวั นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั รงั แตง่ จเุ มียผวั อยไู่ ด้ มกั ใหญ่ยอ่ มคนหววั ไพเพดิ ทาแตพ่ อตวั ไซร้ อยา่ ใหค้ นหยนั

สอนใหร้ ู้จักพจิ ารณาคนและรู้จักคบเพอื่ น โคลงโลกนิติสอนใหร้ ูจ้ กั พิจารณาเลือกคบคน โดยกลา่ วเปรยี บเทียบวา่ กา้ น บวั สามารถบอกความตืน้ ลกึ ของนา้ ไดฉ้ นั ใด กิรยิ ามารยาทของคนก็สามารถบง่ บอกถงึ การอบรมเลยี้ งดไู ดฉ้ นั นนั้ คาพดู กส็ ามารถบง่ บอกใหร้ ูว้ า่ คนนนั้ พดู ฉลาด หรอื พดู โง่ เช่นเกียวกบั หยอ่ มหญา้ ท่ีเห่ียวแหง้ ยอ่ มบอกใหร้ ูว้ า่ ดินในบรเิ วณนนั้ ไมด่ ี ดงั ท่ีวา่ กา้ นบวั บอกลกึ ตืน้ ชลธาร มารยาทสอ่ สนั ดาน ชาตเิ ชือ้ โฉดฉลาดเพราะคาขาน ควรทราบ หยอ่ มหญา้ เห่ียวแหง้ เรอื้ บอกรา้ นแสลงดนิ

อีกบทหน่งึ สอนใหอ้ ยหู่ า่ งไกลจากคนช่วั เพราะหากคบคนช่วั เป็น มิตร เม่ือถงึ เวลาผิดใจกนั เขากอ็ าจกลา่ วโทษแก่เราได้ ดงั ท่ีวา่ มิตรพาลอยา่ คบให้ สนิทนกั พาลใช่มิตรอยา่ มกั กลา่ วใกล้ ครนั้ ครามเคียดคมุ ชกั เอาโทษ ใสน่ า รูเ้ หตสุ ่ิงใดไซร้ สอ่ สิน้ กลางสนาม

สอนไม่ใหท้ าตามอยา่ งผู้อน่ื เม่ือเหน็ ผอู้ ่ืนม่งั มกี วา่ ก็ไม่ควรโลภ ไมค่ วรอยากมีอยากไดต้ ามคนอ่ืน แมจ้ ะยากจนก็ใหห้ ม่นั ทามาหากิน อยา่ เกียจครา้ นและทอ้ แท้ ใหร้ ูจ้ กั ใช้ ชีวติ อยา่ งพอเพียง ดงั ท่ีวา่ เหน็ ทา่ นมอี ยา่ เคลมิ้ ใจตาม เรายากหากใจงาม อยา่ ครา้ น อตุ สาหพ์ ยายาม การกิจ เอาเย่ียงอยา่ งเพ่ือนบา้ น อยา่ ทอ้ ทากิน

สอนใหม้ คี วามกตญั ญู โคลงโลกนิตสิ อนใหร้ ะลกึ ถงึ พระคณุ บิดามารดาและครู โดยกลา่ วเปรยี บ วา่ พระคณุ ของมารดานนั้ ยิ่งใหญ่เปรยี บไดก้ บั แผน่ ดิน พระคณุ ของบดิ าเลา่ ก็ กวา้ งขวางเปรยี บไดก้ บั อากาศ พระคณุ ของพ่ีนนั้ สงู เทา่ กบั ยอดเขาพระสเุ มรุ และพระคณุ ของครูบาอาจารยก์ ็ลา้ ลกึ เปรยี บไดก้ บั นา้ ในแมน่ า้ คณุ แมห่ นกั หนาเพีย้ ง พสธุ า คณุ บดิ รดจุ อา- กาศกวา้ ง คณุ พ่ีพา่ งศขิ รา เมรุมาศ คณุ พระอาจารยอ์ า้ ง อาจสสู้ าคร

สอนใหเ้ ป็ นคนมวี าจาออ่ นหวาน คนท่ีพดู จาสภุ าพไพเราะยอ่ มมีเพ่อื นมาก เปรยี บไดก้ บั ดวงจนั ทรท์ ่ีมี ดาวจานวนมากรายลอ้ มประดบั ตา่ งกบั คนพดู จากระดา้ งหยาบคาย ทา ใหม้ ีไม่ใครปรารถนาจะคบหรอื สมาคมดว้ ย เปรยี บไดก้ บั ดวงอาทิตยแ์ สง รอ้ นแรงท่ีบดบงั แสงของดาวดวงอ่ืน ดงั ท่ีวา่ ออ่ นหวานมานมติ รลน้ เหลือหลาย หยาบบม่ ีเกลอกราย เกล่อื นใกล้ ดจุ ดวงศศฉิ าย ดาวดาษ ประดบั นา สรุ ยิ าสอ่ งดาราไร้ เพ่ือรอ้ นแรงแสง

สอนให้ละทงิ้ ความโอ้อวด สอนเรื่องความโออ้ วดโดยเปรียบเทียบกบั กิริยาหรือ ธรรมชาติของสตั วอยา่ งเช่นงู นาคีมีพิษเพ้ยี ง สุริโย เล้ือยบ่ทาเดโช แช่มชา้ พิษนอ้ ยหยง่ิ โยโสนกั แมลงป่ อง ชูแต่หางเองอา้ อวดอา้ งฤทธี

คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การใช้ภาพพจน์ เปรียบส่ิงหน่ึงเหมือนกบั สิ่งหน่ึงหรืออปุ มา (๗) ผลมะเดื่อเม่ือสุกไซร้ มีพรรณ ภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ย ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบ่อน ดุจดงั่ คนใจร้าย นอกน้นั ดูงาม

การใช้ภาษาสร้างจนิ ตภาพ การทาใหเ้ น้ือความลึกซ้ึงและสร้างจินตนาการไดอ้ ยา่ งแจ่มชดั (๖๐) จระเขค้ บั น่านน้า ไฉนหา ภกั ษเ์ ฮย รถใหญ่กวา่ รัถยา ยากแท้ เสือใหญ่กวา่ นา ไฉนอยไู่ ดแ้ ฮ เรือเขื่องคบั ชเลแล้ แล่นโลไ้ ปไฉน

การเล่นเสียง เป็นการใชส้ มั ผสั สระหรือสมั ผสั อกั ษรในวรรคเดียวกนั ช่วยใหเ้ กิด ความไพเราะ มีลีลาจงั หวะ และเสียงคากลมกลืนกนั (๓๑๙) สูสารสี่เทา้ ยา่ ง เหยยี บยนั บางคาบเชี่ยวไปพลนั พวกพล้งั นกั รู้ร่าเรียนธรรม์ ถึงมาก กด็ ี กล่าวดง่ั น้าผล้งั ผล้งั พลาดถอ้ ยทางความ

การเล่นคา โดยการซ้าคาเพ่ือช่วยดา้ นเสียงและเนน้ ย้าความหมาย (๔๔) หา้ มเพลิงไวอ้ ยา่ ให้ มีควนั หา้ มสุริยแสงจนั ทร์ ส่องไซร้ หา้ มอายใุ หห้ นั คืนเล่า หา้ มดงั่ น้ีไวไ้ ด้ จ่ึงหา้ มนินทา

กจิ กรรมท้ายบท ๑. เลือกคาประพนั ธ์จากโคลงโลกนิติคนละ ๑บท ๒. คดั คาประพนั ธ์ที่เลือกลงในกระดาษ ๓. แปลความบทประพนั ธ์เขยี นลงในกระดาษ ๔. วาดภาพประกอบและระบายสีให้สวยงาม ***สามารถใช้ความคดิ สร้างสรรค์ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างอสิ ระ***


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook