การฟัง การดู และการพูด
การฟงั และดสู ่อื
ความสาคญั ของการฟัง และดูสื่อ - รับรู้ความรู้ใหม่ ขา่ วสารใหม่ - เป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ - ก่อใหเ้ กิดสติปัญญาอนั ฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถตดั สินปัญหา ดาเนินการกิจกรรมไดด้ ี - ทาใหเ้ กิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน หรือให้ ความบนั เทิง
ประเภทของการฟังและดูสื่อ - การฟังการดูโดยไม่ต้งั ใจ คือ ไม่มีเจตนาโดยตรง ที่จะฟังหรือดู - การฟัง การดูโดยต้งั ใจ คือการฟังและการดูท่ีมีจุดมุ่งหมายชดั เจน ใน การฟังและการดูในคร้ังน้นั ๆ
จุดมุ่งหมายในการฟังและดูสื่อ - ฟังและดูเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด - ฟังและดูเพอ่ื ใหเ้ กิดความเพลิดเพลิน - ฟังและดูเพอ่ื ติดต่อสื่อสารในชีวติ ประจาวนั - ฟังและดูเพื่อหาสาระและคติชีวติ
หลกั การฟังและดูสื่อ - สามารถเล่าเรื่องที่ฟังและดูมาไดถ้ ูกตอ้ ง - แสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดูได้ - บอกท่ีมาของขา่ วสารได้ - ฟังแลว้ สามารถวนิ ิจฉยั ไดว้ า่ ขา่ วน้นั ๆ ควรเชื่อหรือไม่ - จบั ใจความได้ - รู้จกั จดบนั ทึก ลักษณะของการฟังทด่ี ี - ฟังดว้ ยความสนใจ - ฟังทงั้ วจั นภาษาและอวจั นภาษา - ฟังอย่างมีสมาธิ - ฟังและจดบนั ทกึ
มารยาทในการฟังและดูสื่อ - เขา้ ฟังใหต้ รงเวลา - ไม่พดู คุยกนั ขณะที่ฟัง - จดบนั ทึกสาระสาคญั - เมื่อไม่พอใจ ตอ้ งรู้จกั ยบั ย้งั ความรู้สึก และอารมณ์ได้
การสรปุ ความจากการฟงั และการดู
ความหมายของการสรุปความจากการฟังและการดู หมายถึง การจบั ใจความสาคญั จากเร่ืองที่ฟังและดู แลว้ นามาเรียบเรียงใหม่อยา่ งส้นั ๆ ใหร้ ู้วา่ เป็นเรื่องอะไร มีใครทา อะไร มีใครทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร อยา่ งไร ประโยชน์ของการ สรุปความจากการฟังและการดู ไดแ้ ก่
๑.เพ่ือการนาไปใช้ เช่น เพ่ือขอ้ มลู ท่ีไดม้ าเขียนเรยี งความ เพ่ือชว่ ยทบทวน ความรู้ ความคดิ และความจา เพ่ือนาใจความสาคญั ไปใชใ้ นการติดต่อส่อื สาร ช่วยให้ การฟังและการดไู ดผ้ ลดีย่งิ ขนึ้ ๒.เพ่ือความเพลดิ เพลิน ไดแ้ ก่ การรบั สารเพ่ือความสนกุ สนาน ผอ่ นคลาย ความตงึ เครยี ด ไมเ่ นน้ ความสาคญั ของเนือ้ หาสาระ ไมจ่ าเป็นตอ้ งมีสมาธิมากนกั ในการ รบั สาร
๓.เพ่ือความจรรโลงใจ ไดแ้ ก่ การรบั สารท่ีก่อใหเ้ กิดสติปัญญาหรอื ชว่ ย ยกระดบั จิตใจใหส้ งู ขนึ้ ผรู้ บั สารตอ้ งมีวิจารณญาณท่ีจะเช่ือหรอื ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ี ถกู ตอ้ ง ๔.เพ่ือประเมินผลและวิจารณ์ ไดแ้ ก่ การรบั สารท่ีตอ้ งอาศยั ความรูอ้ ยา่ ง ละเอียด ถกู ตอ้ งในเรอ่ื งท่ีจะประเมินหรอื วิจารณ์ นอกจากนนั้ ตอ้ งมีความเป็นธรรม ไมม่ ี อคตติ ่อผสู้ ง่ สารหรอื ตวั สาร
หลกั การฟังและการดูทด่ี ี ไดแ้ ก่ ๑.ฟังและดูใหต้ รงจุดประสงค์ จะทาใหผ้ รู้ ับสารรู้จกั เลือกฟัง หรือดูในส่ิงท่ีตอ้ งการและทาใหต้ ้งั ใจรับสารเพื่อใหไ้ ดป้ ระโยชนต์ าม จุดมุ่งหมายที่กาหนด ๒.ฟังและดูดว้ ยความพร้อม คือ ตอ้ งมีความพร้อมท้งั ทาง ร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ๓.ฟังและดูอยา่ งมีสมาธิ คือ มีความต้งั ใจ จดจ่ออยกู่ บั เร่ืองที่ ฟังหรือดู ไม่ฟ้งุ ซ่านหรือคิดถึงเรื่องอ่ืน
๔.ฟังและดูดว้ ยความกระตือรือร้น คือ มีความสนใจ เห็น ประโยชนห์ รือคุณค่าของเร่ืองที่ฟังหรือดู ๕.ฟังและดูโดยไม่มีอคติ คือ ไม่มีความลาเอียง ซ่ึงความลาเอียง เกิดจากความรัก ความโกรธ ความหลง ๖.ฟังและดูโดยใชว้ จิ ารณญาณ จะนาส่ิงที่ฟังหรือดูมาประเมินวา่ มี ประโยชนห์ รือน่าเช่ือถือมากนอ้ ยแคไ่ หน
หลกั การฟังและดูสารจากส่ือมวลชน ไดแ้ ก่ ๑.การเลือกส่ือที่จะฟังและดู ในปัจจุบนั ท่ีสื่อมากมายไดร้ ับ การคดั เลือกเพอื่ นามาใชเ้ ผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสาร วทิ ยุ เป็นสื่อท่ีใชใ้ น ชีวิตประจาวนั มากท่ีสุด สามารถเขา้ ถึงทุกชุมชนในเวลาอนั รวดเร็ว ราคาถูก โทรทศั น์ วีดิทศั น์ ซีดี เป็นส่ือที่ไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ ง มาก แต่อาจมีไม่ทวั่ ถึงทุกชุมชน เนื่องจากราค่อนขา้ งแพง และยงั เป็นส่ือที่มองเห็นภาพ ส่ืออินเทอร์เน็ต เป็นส่ือท่ีกาลงั ไดร้ ับความ นิยมกนั ในปัจจุบนั แต่กม็ ีใชเ้ ฉพาะกลุ่มบุคคลเท่าน้นั
๒.การเลือกเร่ืองหรือรายการที่จะฟังและดู กลุ่มผฟู้ ังมีความ สนใจเรื่องราวที่จะฟังแตกต่างกนั เช่นสนใจฟังเพลง ละคร ขา่ วสาร สารคดี ตลอดจนการวิเคราะห์เหตุการณ์บา้ นเมือง ๓.มีวจิ ารณญาณ ส่ือมวลชนต่างๆ นาเสนอรายการมากมาย หลายรูปแบบ ผฟู้ ังจะตอ้ งใชว้ จิ ารณญาณ แยกแยะวา่ รายการใดมี ประโยชน์ เหมาะสมกบั เพศ วยั แยกแยะองคค์ วามรู้ ขอ้ เทจ็ จริง
๔.การแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง รายการวทิ ยหุ รือโทรทศั น์ บางรายการ ผฟู้ ังและผดู้ ูสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการส่ือสาร ไดด้ งั น้นั หากมีโอกาสไดแ้ สดงความคิดเห็น ควรแสดงความ คิดเห็นบา้ งตามโอกาส
มารยาทในการฟังและการดู มีดงั น้ี ๑.ไปถึงสถานท่ีจดั งานก่อนเวลาอยา่ งนอ้ ย ๑๕ นาที เพือ่ จะ ไดไ้ ม่รบกวนผอู้ ื่นขณะฟังและดูการแสดง และควรนง่ั ตามลาดบั ก่อนหลงั ๒.แต่งกายใหถ้ ูกกาลเทศะ ถา้ งานท่ีจดั เป็นทางการ ควร สวมเส้ือผา้ ที่สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเทา้ แตะ ๓.ใหเ้ กียรติผพู้ ดู หรือผแู้ สดงเม่ือมีการแนะนาตวั ดว้ ยการ ปรบมือ และปรบมืออีกคร้ังเมื่อมีการพดู
๔.ต้งั ใจฟังหรือดูการแสดงดว้ ยอาการสารวม ไม่ พดู คุยหรือวจิ ารณ์เสียงดงั เพราะเป็นการรบกวน ผอู้ ่ืน ๕.รักษาความสงบ ไม่รบกวนสมาธิผอู้ ื่นดว้ ยการ กระทาใดๆ ๖.ไม่แสดงกิริยาท่ีไม่เหมาะสมต่อผอู้ ื่นขณะฟังหรือดู การแสดง
๗.ควรปิ ดเครื่องมือส่ือสาร หากมีธุระจาเป็นควรใช้ ระบบฝากขอ้ ความ ๘.สบตาผพู้ ดู เพ่ือแสดงความสนใจ ไม่ควรทากิจกรรมอยา่ งอ่ืน
การสรุปความจากสารประเภทต่างๆ ไดแ้ ก่ ๑.สารท่ีใหค้ วามรู้ มีท้งั ความรู้ทว่ั ไปที่ไดย้ นิ ไดเ้ ห็นใน ชีวติ ประจาวนั การทางานจากบุคคลรอบขา้ ง ข่าวสาร สารคดี บทวเิ คราะห์ข่าว พิจารณาใหร้ อบคอบ ๒.สารท่ีใหค้ วามบนั เทิง จะไม่เนน้ ที่ความสาคญั ของเน้ือหา สาระ จะเนน้ ที่ความสนุกสนาน เพลิดเพลินแก่ผรู้ ับ สาร
การพดู ต่อประชมุ ชน
การพดู ต่อประชุมชน คือ การพดู ท้งั เป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่มเพือ่ แสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกรวมท้งั ขอ้ เสนอแนะต่างๆต่อผฟู้ ัง จานวนมากในท่ีสาธารณะหรือในท่ีประชุมชน โดยผฟู้ ังอาจมี ปฏิกิริยาตอบสนองในขณะที่ผพู้ ดู กาลงั พดู หรือพดู จบแลว้ เป็นอวจั น ภาษา เป็นขอ้ ซกั ถามหรือเป็นขอ้ คิดเห็นกไ็ ด้ สารท่ีส่งไป ควรเป็น เร่ืองที่รับฟังไดท้ วั่ ไป เปิ ดโอกาสใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคิดเห็น ซกั ถาม หลงั จากท่ีผพู้ ดู พดู จบ
ประเภทของการพดู ต่อประชุมชน การพดู ตามวธิ ีนาเสนอ มี 4 ประเภท คือ 1.1 การพดู โดยฉับพลนั ผพู้ ดู มิไดเ้ ตรียมตวั ล่วงหนา้ มาก่อน เช่น การ กล่าวอวยพร การช้ีแจงต่อท่ีประชุม 1.2การพดู โดยอาศัยต้นร่างเป็นการพดู โดยเตรียมตน้ ร่างมาเป็นอยา่ งดี โดยผพู้ ดู จะวางเคา้ โครงเร่ืองอยา่ งระมดั ระวงั เวลาที่พดู อาจดดั แปลง เน้ือหา ถอ้ ยคาที่เหมาะสมอีกดว้ ย
1.3 การพูดโดยท่องจามา เป็นการพดู ที่ผพู้ ดู เขียนตน้ ฉบบั ที่จะพดู ไว้ อยา่ งละเอียดทุกคา แลว้ ท่องจามาพดู วธิ ีน้ีไม่คอ่ ยดีนกั เพราะเวลาพดู จะไม่เป็ นธรรมชาติ 1.4 การพดู โดยวธิ ีอ่านจากร่าง เป็นการพดู คลา้ ยกบั วธิ ีท่องจามา คือ เขียนตน้ ฉบบั ไวเ้ กือบละเอียดทุกคา แต่แทนท่ีจะท่องจากลบั ใชว้ ธิ ี อ่าน โดยพยายามใชน้ ้าเสียง การทอดจงั หวะ การเนน้ และอวจั นภาษา แบบท่ีเป็นธรรมชาติ เช่น การกล่าวเปิ ดประชุม การกล่าวปราศรัย เป็นตน้
การเตรียมตวั พูดต่อประชุมชน 1. การกาหนดจุดมุ่งหมาย ผพู้ ดู ควรกาหนดจุดมุ่งหมายทวั่ ไปและ จุดมุ่งหมายเฉพาะเรื่องใหแ้ น่ชดั 2. การวเิ คราะห์ผฟู้ ัง ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผฟู้ ังวา่ กลุ่มของผฟู้ ังมีพ้ืนความรู้ อาชีพ ความสนใจ เพศ วยั สถานการณ์ 3. การกาหนดขอบเขตของเร่ือง ประกอบดว้ ย การกล่าวนา เน้ือเร่ือง และการสรุป ถา้ มีโอกาสเลือกเร่ือง ควรเลือกเร่ืองที่เหมาะสมกบั ผฟู้ ัง เร่ืองที่ตนรู้ถา้ ไม่รู้ควรศึกษามาก่อนพดู กาหนดขอบเขตเรื่องใหเ้ หมาะ กบั เวลา
4. การรวบรวมเน้ือหา คน้ ควา้ เน้ือหาก่อนท่ีจะพดู 5. การทาเคา้ โครงเร่ืองตามลาดบั จดั ทาเคา้ โครงเร่ืองตามลาดบั จบั ประเดน็ สาคญั ๆใหช้ ดั เจน 6. การเตรียมวธิ ีใชภ้ าษา การพดู ทุกคร้ังควรใชภ้ าษาหรือถอ้ ยคาท่ี เขา้ ใจง่าย ตรงประเดน็ มีความหมายชดั เจน 7. การซกั ซอ้ ม ซกั ซอ้ มการพดู บุคลิก ท่ายนื ท่านง่ั กิริยาอาการ การ ใชเ้ สียง การแสดงออกทางดวงตา และสีหนา้
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: