carbohydate 3333

คาร์โบไฮเดรต เป็ นสารอาหารท่ีจาเป็ นต่อชีวติ เป็ นแหล่งพลงั งานอนั ดับแรก สะสมใน รูปของแป้ งและไกลโคเจน ทาหน้าที่ เป็ นองค์ประกอบของเซลล์ต่างๆ เช่น เยอ่ื หุ้มเซลล์ เซลล์เนือ้ เยอื่ ผนังเซลล์

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต1. มอนอแซ็กคาไรด์ (monosaccharide)2. ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide)3. พอลแิ ซ็กคาไรด์ (polysaccharide)

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต1. มอนอแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) หรือนา้ ตาลโมเลกลุ เดยี่ ว เป็ นหน่วยทเ่ี ลก็ ทส่ี ุดของคาร์โบไฮเดรต มสี ูตรทว่ั ไปเป็ น CnH2nOn หรือ (CH2O)n , n = 3 - 8 ไซโลส มี C 5 อะตอม มสี ูตร C5H10O5 แมนโนส มี C 6 อะตอม มสี ูตร C6H12O6

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)1. มอนอแซ็กคาไรด์ (monosaccharide)มอนอแซ็กคาไรด์ทเ่ี กดิ ในธรรมชาติส่วนใหญ่มจี านวนคาร์บอน 5-6 อะตอมC6H12O6 กลโู คสเป็ นนา้ ตาลทพี่ บมากทส่ี ุดในธรรมชาติ พบในผลไม้ท่ีมรี สหวาน และพบในกระแสเลอื ด เลอื ด ถ้าในเลอื ดมีตา่ กว่า 90-110 มลิ ลกิ รัม/cm3 จะเกดิ อาการวงิ เวยี น อ่อนเพลยี ถ้ามีมากกว่า 160 มิลลกิ รัม/cm3ของเลอื ดจะเป็ นโรคเบาหวาน เซลล์สมองและกล้ามเนือ้ ส่วนใหญ่ใช้พลงั งาน จากกลูโคส

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)1. มอนอแซ็กคาไรด์ (monosaccharide)C6H12O6 ฟรุกโตส พบในผลไม้และนา้ ผงึ้ เป็ น นา้ ตาลทมี่ รี สหวานทส่ี ุด หวานกว่า นา้ ตาลทราย 2 เท่า

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)1. มอนอแซ็กคาไรด์ (monosaccharide)C6H12O6 กาแลกโทส เป็ นส่วนประกอบของ นา้ ตาลในนม นมววั พบ 5% นา้ นมคน พบ 7%

การทดสอบนา้ ตาลโมเลกลุ เดยี่ ว ใช้สารละลายเบเนดกิ ต์เติมลงในสารท่ตี ้องการทดสอบและให้ความร้อน จะได้ตะกอนสีแดงอฐิ ของ คอปเปอร์(I)ออกไซด์ O RCOOH + Cu2O + 2H2OR-C-R + 2Cu2+ + 4OH - ตะกอนสีแดงอฐิ

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)2. ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) นา้ ตาลโมเลกลุ คู่ เกดิ จากนา้ ตาลโมเลกลุ เดยี่ ว 2 โมเลกลุ มาเชื่อมต่อกนั ด้วยพนั ธะเคมี โดยสูญเสียนา้ 1 โมเลกลุH2O C6H12O6 + C6H12O6 C12H22O11 + มสี ูตรทว่ั ไปเป็ น CnH2n-2On-1 C5H10O5 + C5H10O5

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)2. ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide)กลูโคส + กลูโคส มอลโทสมอลโทส พบในข้าวมอลต์ ข้าวโพด ต้นถั่วและเมลด็ พชื แก่กลูโคส + กาแลกโทส แลกโทสแลกโทส หรือนา้ ตาลนม พบในนา้ นมกลูโคส + ฟรุกโทส ซูโครสซูโครส หรือน้าตาลทราย เป็ นนา้ ตาลทพ่ี บมากทส่ี ุดในพชื พบในผลไม้สุก เช่นอ้อย หัวบีท

การหมกั (Fermentation) คอื กระบวนการเปลยี่ นสารอนิ ทรีย์ในการทไี่ ม่ใช้ O2 โดยมสี ่ิงมีชีวติ เช่นยสี ต์เป็ นตัวเร่งปฏิกริ ิยา ได้สารผลติ ภัณฑ์เช่นแอลกอฮอล์ ดงั นี้ เอทิลแอลกอฮอล์

ประเภทของคารโ์ บไฮเดรต(ต่อ)3. พอลแิ ซ็กคาไรด์ (polysaccharide) (C6H10O5)n เป็ นคาร์โบไฮเดรตโมเลกลุ ใหญ่มาก เช่น แป้ ง เซลลูโลส ไกลโคเจน แป้ ง เกดิ จากกลูโคสหลายพนั โมเลกลุ มาต่อกนั ท้งั แบบโซ่ตรงและโซ่กงิ่ พบในพชื ประเภทเมลด็ และหัว ถ้านาแป้ งมาไฮโดรไลส์โดยใช้กรดเป็ นตัวเร่งปฏกิ ิริยาโมเลกลุ ของแป้ งจะเลก็ ลงเรื่อยๆ จนได้กลโู คส แป้ ง + nH2O HCl กลูโคส

การย่อยแป้ งอะไมเลส มอลเทสแป้ ง มอลโทส กลูโคสกลูโคสทไี่ ด้จะนาไปใช้ในปฏิกริ ิยาการหายใจระดบั เซลล์ดงั นี้C6H12O6 + 6O2 6CO2 + 6H2O + พลงั งานฮอร์โมนทมี่ หี น้าทป่ี รับกลูโคสในเลอื ดให้อยู่ในระดบั ปกติ คอือนิ ซูลนิ จะช่วยกระตุ้นให้กลูโคสเปลยี่ นเป็ นไกลโคเจนกลูคากอน ช่วยกระตุ้นให้ไกลโคเจนเปลย่ี นเป็ นกลูโคส

3. พอลแิ ซ็กคาไรด์ (polysaccharide)  เซลลูโลส เกดิ จากกลโู คสประมาณ 50,000 โมเลกลุ ต่อ กนั เป็ นสายยาว แต่ละสายเรียงขนานกนั มีแรงยดึ ระหว่าง สาย ทาให้มลี กั ษณะเป็ นเส้นใย ไม่ละลายนา้ เมื่อพรบับมปารกะในทผานนเังขเ้าซไลปลแ์ ลแ้วลระ่าในงกโคายรไงมส่สร้ามงขารอถงย่อยได้แตพ่กชืารทรับาหปนร้าะทเ่ีาปน็ นเซโคลรลงูโสลรส้าเงปท็ นชี่ ป่วรยะเโพยมิ่ ชคนว์ คามอื ช่วยในกาแรขง็บั แถร่างยใไหด้ก้โบัดเยนทือ้ าเใยหอ่ื ้เขป็อนงกพากชื อาหารในลาไส้ กระตุ้นให้ลาไส้ใหญ่เกดิ การขับถ่ายกากอาหารทีไ่ ม่ย่อย และป้ องกนั ท้องผูก

3. พอลแิ ซ็กคาไรด์ (polysaccharide)  ไกลโคเจน เกดิ จากโมเลกลุ กลูโคสจานวนเป็ นแสนหรือมากกว่าเช่ือมต่อกนั เป็ นสายทม่ี ีกง่ิ ก้านสาขา พบในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ส่วนใหญ่จะถูกสะสมไว้ ทตี่ บั และกล้ามเนือ้ เมอื่ปริมาณนา้ ตาลในเส้นเลอื ดลดลง หรือร่างกายขาดสารอาหารตบั จะเปลย่ี นไกลโคเจนเป็ น กลูโคสเพอื่ ให้พลงั งานแก่ร่างกายต่อไป ไม่พบในพชื

3. พอลแิ ซ็กคาไรด์ (polysaccharide) สารไคตนิ (chitin) ซึ่งเป็ นส่วนประกอบอยู่ในเปลอื กก้งุเปลอื กแมลง กระดองปู กเ็ ป็ นสารประกอบของคาร์โบไฮเดรตโมเลกลุ ขนาดใหญ่ด้วย HOME