Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมตารางคำนวณ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมตารางคำนวณ

Published by ทวีพล คงสมปราชญ์, 2021-03-16 16:48:35

Description: หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมตารางคำนวณ

Search

Read the Text Version

โปรแกรมตารางคาํ นวณ Microsft Office2010

คาํ นาํ หนงั สือเรียนวิชาโปรแกรมตารางคาํ นวณ รหสั 2204-2103 มีเน้ือหาถูกตอ้ งครบถว้ นตามหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2556 สาํ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการมีเน้ือหาตรงตามจุดประสงคร์ ายวิชาสมรรถนะรายวิชาและคาํ อธิบายรายวิชาซ่ึงเน้ือหา ภายในเลม่ มีทง้ั หมด 9 หน่วยเรียนประกอบดว้ ยเร่ืองลกั ษณะและพ้ืนฐานโปรแกรมตารางคาํ นวณการป้อน ขอ้ มูลการจดั เก็บขอ้ มูลการแกไ้ ขขอ้ มูลและการตกแตง่ ขอ้ มูลการสรา้ งตารางขอ้ มูลการใชส้ ูตรคาํ นวณการใช้ ฟงั กช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มูลการเรียงลาํ ดบั และการกรอกขอ้ มูลการสรุปและนําเสนอขอ้ มูลใน รูปแบบแผนภูมิหรือกราฟการสรุปและนําเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตารางและแผนภูมิวิเคราะหข์ อ้ มูลและการพิมพ์ เอกสารออกทางเคร่ืองพิมพโ์ ดยในแตล่ ะหน่วยเรียนจะมีแบบประเมินการเรียนรูก้ ิจกรรมการเรียนรูแ้ ละใบงานให้ ผูเ้ รียนไดฝ้ ึกทกั ษะและทบทวนเก่ียวกบั เน้ือหาถา้ มีส่ิงใดท่ีผิดพลาดไปผูเ้ ขียนขออภยั มาณท่ีน้ีดว้ ยและหวงั วา่ หนงั สือเลม่ น้ีจะมีประโยชนต์ อ่ ทา่ นผูส้ อนและผูเ้ รียนไมม่ ากก็นอ้ ย

หลกั สตู รรายวชิ า จ1.ุดปมรีคะวสามงครูคร้์ าวยามวิชเขาา้ ใเพจ่ืเอกใ่ียหว้ กบั สว่ นประกอบเคร่ืองมือของโปรแกรมตารางคาํ นวณ 243... ปวมิเ้อีคคุณนราจธะะรหเรกส์ม็บรจุแปรกแิยไล้ธขะรแรรลามะยแตงลากะนแคขตา่ อน้ง่ ขมิยอูล้มมใทนูล่ีดรใีใูปชนแส้กบูตาบรรใแแชลผค้นะอฟภมงัูมกพิหิชว์ รเน่ัืตอเอตบร้าือ์รงาตงน้วิเคราะหข์ อ้ มูล 1ส2..มแใรชรสคถ้ดาํนงสคะง่ัวรเาาคมยร่ืรวอูเิช้งกมา่ียือวเกพบ่ัือหจลดั กักกาารรขกอ้ ามรูลใชเ้ คร่ืองมือของโปรแกรมตารางคาํ นวณ 3. สรุปจดั ทาํ รายงานและแสดงผลขอ้ มูลในรูปแบบตารางและแผนภูมิตามลกั ษณะงาน ศคึากํ อษธาิบแาลยะรปาฏยิบวิชตั ิาเก่ียวกบั ลกั ษณะพ้ืนฐานของโปรแกรมตารางคาํ นวณการป้อนและจดั เก็บขอ้ มูลการแกไ้ ขและตกแตง่ ขอ้ มูลการสรา้ ง ตแลาระาตงาขรอ้ามงวูลิเกคราาระใชหส้ข์ ูตอ้ รมแูลละฟงั กช์ น่ั ในการคาํ นวณการพยากรณข์ อ้ มูลการเรียงลาํ ดบั การสรุปและนําเสนอขอ้ มูลในรูปแบบแผนภูมิ

สารบญั หน่วยท่ี 1 ลควกั าษมณหมะาแยลขะอพง้ืโนปฐราแนกขรมอตงาโปรารงแคกาํ นรมวณตา..ร..า..ง.ค...ํา..น..ว..ณ...............................................................................................................76 หน่วยท่ี 2 ปสรว่ นะโปยรชะนกข์ออบงขโอปงรโแปกรรแมกตรามรตาางรคาาํ งนควาํ ณนว..ณ...............................................................................................................................................87 หน่วยท่ี 3 กปารระกเภาํ ทหขนอดงขQอ้ มuูลi.c...k....B....a...r...............................................................................................................................................................................190 กแกบาารบรปปป้อ้รอนะนเขมขอ้ินอ้มผมูลล.ูลก..า.ก.ร..าเ.รร.ี.ยจ..น.ดั .ร.เ.ู ห้ ก..น.็บ..่วข.ย..อ้ท..่มี..1.ูล.......ก....า....ร....แ....ก......ไ้ ...ข.....แ....ล......ะ....ต....ก......แ....ต.....่.ง..ข......อ้ ....ม......ูล....................................................................................................111123 แกกกบาาารรรบตแจปกดกัรไเแ้ะกขตเ็บมขง่ ขินอข้ อมผ้อ้ มลูลมูลก.ูล..า.....ร......เ...ร....ี.ย......น.......ร.....ู.ห้......น........่ว....ย.......ท.....่.ี.....2.............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................11114956 กกกาารราสจรสดรั าร้รูงปา้ ตแงาตบรบาารตงา.า.ง.ร.ขา..งอ้...ม......ูล..............................................................................................................................................................................................................................................................................................222103 แบบประเมินผลการเรียนรูห้ น่วยท่ี 3..............................................................................24

สารบญั หน่วยท่ี 4 การใชส้ ตู รคาํ นวณ........................................................................................25 การใชส้ ูตรคาํ นวณ...........................................................................................26 การหาผลรวมอนุมตั ิ.........................................................................................26 การหาคา่ เฉล่ียคา่ สูงสุดและคา่ ต่าํ สุด..................................................................27 แบบประเมินผลการเรียนรูห้ น่วยท่ี 4...................................................................28 หน่วยท่ี 5 การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มูล.........................................29 การใชฟ้ งั กช์ น่ั Bahttext............................................................................30 การใชฟ้ งั กช์ น่ั Count, Counta และ Countif..................................31 การใชฟ้ งั กช์ น่ั If...............................................................................................32 การใชฟ้ งั กช์ น่ั VLOOKUP......................................................................33 การใชฟ้ งั กช์ น่ั SUMIF................................................................................34 แบบประเมินผลการเรียนรูห้ น่วยท่ี 5....................................................................35

ลักษณะและพนื้ ฐานของโปรแกรมตารางคาํ นวณ สาระการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 1. ความหมายของโปรแกรมตารางคาํ นวณ 2. ประโยชน์ของโปรแกรมตารางคาํ นวณ 3. สว่ นประกอบของโปรแกรมตารางคาํ นวณ 4. การกาํ หนด Quick Bar 5. ประเภทของขอ้ มูล

ลกั ษณะและพืน้ ฐานของโปรแกรมตารางคาํ นวณ ความหมายของโปรแกรมตารางคํานวณ โปรแกรมตารางคํานวณ หมายถึงโปรแกรมสาํ เร็จรูปท่ใี ชง้ านดา้ นการสรา้ งตารางการคาํ นวณ การเรียงลาํ ดบั การสรา้ ง แผนภูมิ และการสรา้ งตารางวิเคราะหข์ อ้ มูล เป็นโปรแกรมหน่ึง ท่ีอยูใ่ นชุดของ Microsoft Office ซ่ึงประกอบดว้ ย Microsoft Word, Microsoft Exce,l Microsoft Powerpoint, Microsoft Access เป็นตน้ แตล่ ะโปรแกรมก็ จะมีลกั ษณะการทาํ งานท่แี ตกตา่ งกนั ไป ประโยชนข์ องโปรแกรมตารางคํานวณ โปรแกรมตารางคาํ นวณเป็นโปรแกรมท่ีใชจ้ ดั เก็บขอ้ มูลในลกั ษณะของตารางเวิรก์ ชีตท่ีเหมือนสมุดบญั ชี เหมาะสาํ หรับเก็บขอ้ มูลรายการเก่ียวกบั ตวั เลขท่ีตอ้ งนํามาคาํ นวณหรือการวิเคราะหท์ างดา้ นสถิติซ่ึงจะมี ฟงั กช์ นั การคาํ นวณสาํ เร็จรูปใหเ้ ลือกใชม้ ากมายโดยประโยชน์ตา่ งๆของโปรแกรมตารางคาํ นวณ มีดงั น้ี 1. สรา้ งตารางเพ่ือจดั ขอ้ มูลใหเ้ ป็นระเบียบและสวยงาม 2. คาํ นวณขอ้ มูลตา่ งๆไดห้ ลายรูปแบบ 3. สรา้ งแผนภูมิหรือกราฟเพ่ือเปรียบเทียบคา่ ตา่ งๆได้ 4. จะเรียงลาํ ดบั ขอ้ มูลเพ่ือใหท้ ราบวา่ ใครมีผลรวมมากท่ีสุดไปถึงนอ้ ยท่ีสุด

ส่วนประกอบของโปรแกรมตารางคาํ นวณ สว่ นประกอบของโปรแกรมตารางคาํ นวณจากใกลเ้ คยี งกบั โปรแกรม Microsoft Word โดยสว่ นประกอบของโปรแกรม ตารางคาํ นวณซ่ึงใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel มีดงั น้ี

การกาํ หนด Quick Bar Quick Bar หมายถึงเคร่ืองมือลดั ซ่ึงการกาํ หนดแถบเคร่ืองมือหลกั มีขน้ั ตอน ดงั น้ี 1. คลิกท่ีลูกศรบริเวณดา้ นขวาของคลิกบาร์ 2. จะปรากฏรอบ Customize Quick Access Toolbar ใหเ้ ลือกเคร่ื องมือท่ีตอ้ งการซ่ึงเคร่ื องมือท่ีปรากฏ เคร่ืองหมายถูกแสดงวา่ มีกาํ หนดไวแ้ ลว้ บนแถบเคร่ืองมือลดั ท่ีน้ีใหเ้ ลือก Open 3. ก็จะปรากฏเคร่ืองมือ Open เปิดท่ีแถบเคร่ืองมือหลกั ตามท่ีตอ้ งการ

ประเภทของข้อมูล ประเภทของขอ้ มูลท่ีกรอกในโปรแกรมตารางคาํ นวณมีอยู่ 4 ประเภทดงั น้ี 1. ขอ้ ความ หมายถึง ประเภทของขอ้ ความจะเป็นรูปแบบของตวั อกั ษรหรือตวั เลขท่ีไมน่ ํามาใชใ้ นการคาํ นวณ เชน่ รหสั ไปรษณียห์ มายเลขโทรศพั ท์ ท่ีอยู่ เป็นตน้ โดยตวั อกั ษรตวั แรกจะอยชู่ ิดดา้ นซา้ ยมือของเซลล์ 2. ตวั เลข หมายถึง ขอ้ มูลท่ีเป็นตวั เลขซ่ึงนํามาใชใ้ นการคาํ นวณ ทง้ั น้ีจะสงั เกตไดว้ า่ เม่ือกรอกตวั เลขแลว้ ตวั เลขจะอยชู่ ิดดา้ นขวาของเซลล์ 3. สูตรคาํ นวณ หมายถึง ขอ้ มูลประเภทสูตรคาํ นวณขอ้ มูลชนิดน้ีจะสามารถคาํ นวณขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เพ่ือใหเ้ กิด ผลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการออกมาเชน่ สูตรทางคณิตศาสตรซ์ ่ึงการใสส่ ูตรทางคณิตศาสตร์สามารถทาํ ไดโ้ ดยใชต้ วั เลขและ เคร่ืองหมายทางคณิตศาสตรท์ ง้ั น้ีจะตอ้ งมีเคร่ืองหมาย เทา่ กบั กอ่ นเชน่ = 30 + 25 หรืออาจกาํ หนดเป็นช่ือ เซลลห์ รือเป็นฟงั กช์ นั ก็ได้ 4. วนั และเวลา หมายถึง ขอ้ มูลเก่ียวกบั วนั ท่ีและเวลา เป็นขอ้ มูลท่ีประกอบดว้ ยวนั ท่ี เดือน ปี เวลาซ่ึงมีหลาย รูปแบบ

แบบประเมินผลการเรยี นรู้หน่วยท1ี่ 1. อธิบายความหมายของโปรแกรมตารางคาํ นวณ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. ประโยชนข์ องโปรแกรมตารางคาํ นวณ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. อธิบายประเภทของขอ้ มูลทง้ั 4 ประเภท ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

การป้อนข้อมูล การจดั เกบ็ ข้อมูล การแก้ไขและตกแตง่ ข้อมูล สาระการเรียนรู้ หน่วยที่ 2 1. การป้อนขอ้ มูล 2. การจดั เก็บขอ้ มูล 3. การแกไ้ ขขอ้ มูล 4. การตกแตง่ ขอ้ มูล

การปอ้ นขอ้ มลู การจดั เก็บขอ้ มลู การแกไ้ ขและตกแตง่ ขอ้ มลู การป้อนขอ้ มูล วิธีการป้อนขอ้ มูลมีหลายวิธี ดงั น้ี 1. การป้อนขอ้ มลู ในช่วง การเพ่ิมขอ้ มูลโดยคา่ ปกติของโปรแกรมหลงั จากกดปุ่ม Enter ตาํ แหน่ง cell pointer จะเล่ือนไปแถวถดั ไปเสมอ ไมส่ ามารถควบคุมใหว้ ่ิงไปทางดา้ นขวาได้ 2. การป้อนขอ้ มูลที่มีค่าซา้ํ กนั ในช่วงเดียวกนั ถา้ ตอ้ งการป้อนขอ้ มูลท่ีมีคา่ เดียวกนั ในเซลลห์ ลายเซลลส์ ามารถ ปฏิบตั ิได้ 2.1 ระบายแถบสีกลุม่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการป้อนขอ้ มูล 2.2 พิมพข์ อ้ มูลจากนั้นกดปุ่ม <ctrl> <Enter> จะพบวา่ ทุกๆเซลลใ์ นชว่ งมีขอ้ มูลเหมือนกนั 3. การป้อนขอ้ มูลหลายบรรทดั ในเซลลเ์ ดียวกนั บางคร้ังขอ้ มูลท่ีนํามาป้อนน้ันมีปริมาณมากและจาํ เป็นตอ้ งอยูใ่ น เซลลเ์ ดียวกนั แตเ่ น่ืองจากขอ้ จาํ กดั ของความกวา้ งของเซลลจ์ ึงสามารถแกไ้ ขไดโ้ ดยการป้อนเป็นหลายๆบรรทดั ในเซลล์ เดียวกนั 4. การป้อนขอ้ มูลแบบเติมเองอตั โนมตั ิการเติมขอ้ มูลลาํ ดบั อตั โนมตั ิเป็นความสามารถพิเศษของโปรแกรมตารางคาํ นวณ ในการป้อนขอ้ มูลท่มี กั จะใชบ้ อ่ ยๆ และเป็นขอ้ มูลท่ีตอ้ งเรียงลาํ ดบั เชน่ เดือน วนั พ.ศ. ไตรมาสทางการคา้ ตวั เลขเป็นตน้

การจัดเกบ็ ข้อมูล เม่ือป้อนขอ้ มูลครบแลว้ หรือป้อนเพียงบางสว่ นจึงควรท่ีจะทาํ การจดั เก็บขอ้ มูลไวซ้ ่ึงเหตุผลท่ีจะตอ้ งมีการ จดั เก็บขอ้ มูลมีดงั น้ี 1. ป้องกนั การสูญหายของขอ้ มูล เพราะเม่ือเกิดไฟดบั หรือเคร่ืองคอมพิวเตอร์มีปัญหาขอ้ มูลจะไดไ้ มส่ ูญหาย 2. สามารถจดจาํ ขอ้ มูลป้อนขอ้ มูลตอ่ ได้ 3. สามารถนําขอ้ มูลไปใชต้ อ่ ท่ีอ่ืนหรือนําไปพิมพเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพไ์ ด้ ขน้ั ตอนในการจดั เก็บขอ้ มูลมี ดงั น้ี 1. คลิกท่ีแท็บเมนู (แฟ้ม) 2. คลิกท่ีเคร่ืองมือ (บนั ทึก) หรือเคร่ืองมือ (บนั ทึก) เป็นซ่ึงสว่ นใหญแ่ ลว้ ในการบนั ทึกจะใช้ (บนั ทึก) ยกเวน้ ใน กรณีท่ีเปล่ียนช่ือแฟ้มขอ้ มูลหรือเปล่ียนแหลง่ ท่ีเก็บขอ้ มูลจึงจะใช้ (บนั ทึกเป็น) 3. จะปรากฏรอบบนั ทึกใหพ้ ิมพช์ ่ือแฟ้มขอ้ มูลในชอ่ งและใหเ้ ลือกแหลง่ ท่ีตอ้ งการเก็บขอ้ มูลไวเ้ ชน่ documents หรือโฟลเดอรท์ ่ีกาํ หนดไวเ้ สร็จแลว้ ใหค้ ลิกท่ีปุ่ม (บนั ทึก) 4. เม่ือทาํ การจดั เก็บขอ้ มูลแลว้ จะปรากฏช่ือแฟ้มขอ้ มูลในสว่ นของ (หวั ขอ้ เร่ือง) ท่ีอยดู่ า้ นบน

การแกไ้ ขข้อมูล ในการป้อนขอ้ มูลแตล่ ะคร้ังอาจจะตอ้ งมีการปรบั เพ่ือแกไ้ ขขอ้ มูลใหม้ ีความสมบูรณแ์ ละถูกตอ้ งโดยมี วิธีการปรับแกไ้ ขขอ้ มูลหลายแบบ ดงั น้ี 1. การแทรกคอลมั นแ์ ละแถว มีขนั้ ตอนปฏิบตั ิดงั น้ี 1. คลิกเมาสข์ า้ งขวาบริเวณช่ือคอลมั น์ท่ีตอ้ งการ 2. จะปรากฏรายละเอียดใหเ้ ลือกในท่ีน้ีเลือกแทรก 3. จะปรากฏคอลมั นท์ ่ีไดท้ าํ การแทรกไว้ ส่วนในกรณีการแทรกแถวก็เช่นกนั ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี 1. เมาสข์ า้ งขวาท่ีบริเวณช่ือแถวท่ีตอ้ งการ 2. จะปรากฏรายละเอียดใหเ้ ลือกในท่ีน้ีใหเ้ ลือกคาํ สง่ั แทรก

การแกไ้ ขข้อมูล 2. การลบคอลมั นแ์ ละแถว มีวิธีปฏิบตั ิดงั น้ี 1. คลิกท่ีช่ือคอลมั นห์ รือแถวท่ีตอ้ งการ 2. จะปรากฏรายละเอียดใหเ้ ลือกในท่ีน้ีใหเ้ ลือกลบ 3. การลบขอ้ มลู มีวิธีในการปฏิบตั ิดงั น้ี 1. คลิกเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. กดแป้น (Delete) 4. การแกไ้ ขขอ้ มลู มีวิธีในการปฏิบตั ิดงั น้ี 1. คลิกขอ้ มูลในเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. ป้อนขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ งทบั ขอ้ มูลเดิม 3. จะปรากฏขอ้ มูลท่ีป้อนใหมโ่ ดยท่ีไมต่ อ้ งทาํ การลบกอ่ น

การแกไ้ ขข้อมูล 5. การคดั ลอกขอ้ มลู มีวิธีในการปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ทาํ แถบสีคลุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ โดยกดเมาสค์ า้ งไวบ้ ริเวณเซลลแ์ รกแลว้ ลากไปยงั เซลลส์ ุดทา้ ย 2. คลิกเมาสข์ า้ งขวาบริเวณท่ีแถบสีคุมไวแ้ ลว้ เลือกคดั ลอก 3. จะปรากฏเสน้ ประบริเวณโดยรอบท่ีทาํ แถบสีคลุมไว้ 4. คลิกเมาสบ์ ริเวณท่ีตอ้ งการนําไปวาง 5. กดแป้น (Enter) ก็จะปรากฏขอ้ ความเพ่ิมข้ึน

การตกแตง่ ข้อมูล การตกแตง่ ขอ้ มูลหรือปรับแตง่ ขอ้ มูลในท่ีน้ีจะอธิบายขนั้ ตอนในการวางหินกลางของเซลลแ์ ละการวาง ตรงกลางระหวา่ งเซลล์ เพ่ือใหข้ อ้ มูลเป็นระเบียบ และสวยงามดว้ ยการตกแตง่ ขอ้ มูลน้นั มีหลายรูปแบบ ดงั น้ี 1. การจดั กลุ่มกลางของเซลล์ มีวิธีการปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ป้อนขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ 2. ทาํ แถบสีคลุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการตกแตง่ 3. คลิกท่ีลูกเคร่ืองมือก่ึงกลาง 4. จะปรากฏขอ้ มูลท่ีตกแตง่ เรียบรอ้ ยแลว้ 2. การจดั พิมพก์ ลางระหวา่ งเซลล์ มีวิธีปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ทาํ แถบสีคลุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ 2. คลิกท่ีเคร่ืองมือผสานเซลลแ์ ละจดั ก่ึงกลาง 3. จะปรากฏขอ้ มูล

แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หน่วยที่ 2 1. อธิบายวิธีการป้อนขอ้ มูล ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. อธิบายวิธีการจดั เก็บขอ้ มูล ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. การแกไ้ ขขอ้ มูลมีวิธีการใดบา้ งอธิบาย ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

การสร้างตารางข้อมลู สาระการเรียนรู้ หน่วยที่ 3 1. การสรา้ งตาราง 2. การจดั รูปแบบตาราง

การสรา้ งตารางขอ้ มลู การสรา้ งตาราง เสน้ ท่ีปรากฏบริเวณกระดาษทาํ การนัน้ จะเป็นเพียงเสน้ แบง่ เซลลเ์ ทา่ น้ันจะไมป่ รากฏในขณะท่ีพิมพเ์ ป็น เอกสารออกทางเคร่ืองพิมพใ์ นการสรา้ งตารางจะตอ้ งมีการกาํ หนดเสน้ ตารางใหก้ บั ขอ้ มูล ซ่ึงมีวิธีปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ป้อนขอ้ มูลตามท่ีตอ้ งการ 2. ทาํ จากส่ิงคุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ 3. คลิกท่ีเคร่ืองมือแลว้ เลือกแบบ 4. จะปรากฏเสน้ ตาราง

การสรา้ งตารางขอ้ มลู การกาํ หนดสี เพ่ือใหง้ านท่ีออกมาสวยงามและขอ้ มูลมีความเดน่ ชดั มีวิธีในการกาํ หนดสี ดงั น้ี 1. คลิกเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกท่ีเคร่ืองมือ แลว้ เลือกสีท่ีตอ้ งการ แตถ่ า้ หากตอ้ งการท่ีจะยกเลิกสีท่ีกาํ หนดไวใ้ หเ้ ลือก (ไมเ่ ติม)

การจดั รูปแบบตาราง การกาํ หนดรูปแบบหวั ตารางยงั มีวิธีกาํ หนดนอกเหนือท่ีไดก้ ลา่ วมาแลว้ เรียกวา่ การจดั รูปแบบตารางโดย มีวิธีปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ป้อนขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ 2 กาํ หนดเสน้ ตารางโดยใช้ (All Borders) หรือไมก่ ็ไดแ้ ตท่ าํ ใหแ้ ถบสีคลุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ 3 เลือกเคร่ืองมือจดั รูปแบบตาราง 4 จะปรากฏรูปแบบใหเ้ ลือกโดยใหค้ ลิกรูปแบบตารางท่ีตอ้ งการ 5 จะปรากฏกรอบ (Format As Table) ซ่ึงเป็นกรอบท่ีแสดงพ้ืนท่ีของขอ้ มูลจะสงั เกตวา่ มีเสน้ ปรบลอ้ มรอบ ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ ถา้ ขอ้ มูลถูกตอ้ งแลว้ ใหค้ ลิกท่ีปุ่ม (OK)

แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้หน่วยที่ 3 1. อธิบายวิธีการสรา้ งตาราง ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. บอกรูปแบบของตารางในเคร่ืองมือ Borders ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. บอกแท็บจากทง้ั 6 แท็บของ Format Cell ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

การใชส้ ูตรคาํ นวณ สาระการเรียนรู้ หน่วยที่ 4 1. การใชส้ ูตรคาํ นวณ 2. การหาผลรวมอนุมตั ิ 3. การหาคา่ เฉล่ียคา่ สูงสุดและคา่ ต่าํ สุด

การใช้สูตรคาํ นวณ การใชส้ ตู รคํานวณ โปรแกรมตารางคาํ นวณเป็นโปรแกรมท่ีใชส้ าํ หรบั การคาํ นวณท่ีมีเคร่ืองมือใหใ้ ชม้ ากมายทง้ั ในรูปแบบสูบ หรือฟงั กช์ นั สามารถใชใ้ นรูปแบบอตั โนมตั ิหรือสามารถกาํ หนดดว้ ยตนเองซ่ึงสูตรท่ีเราหมายถึงคือการคาํ นวณ ทางคณิตศาสตร์ ซ่ึงประกอบดว้ ยเคร่ืองหมายทางคณิตศาสตรเ์ คร่ืองหมายในการเปรียบเทียบเช่ือมขอ้ ความและ การตงั้ อีกเชน่ การบวก ลบ คูณ หารเป็นตน้ สว่ นฟงั กช์ นั นัน้ จะหมายถึงคาํ สง่ั สาํ เร็จรูปท่ีใชใ้ นการคาํ นวณเชน่ sum average min max เป็ นตน้ การสรา้ งสูตรคาํ นวณในโปรแกรมตารางคาํ นวณจะเร่ิมตน้ ดว้ ยเคร่ืองหมายเทา่ กบั (=) เสมอ การหาผลรวมอตั โนมตั ิ การหาผลรวมอตั โนมตั ิ หมายถึง การหาผลรวมซ่ึงเป็นผลมาจากการบวกจาํ นวนตวั เลขหลายจาํ นวน เขา้ ดว้ ยกนั แตแ่ ทนท่ีจะตอ้ งใสเ่ คร่ืองหมายบวกมากมายโปรแกรมตารางคาํ นวณมีเคร่ืองมือหรือคาํ สง่ั ท่ีใชใ้ นการ คาํ นวณหาผลรวมอตั โนมตั ิ

การหาค่าเฉลี่ยค่าสูงสุดและค่าต่าํ สุด 1. การหาค่าเฉล่ีย หมายถึงการนําขอ้ มูลทงั้ หมดมารวมกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ มูลซ่ึงการหาคา่ เฉล่ียมีวิธี ปฏิบตั ิดงั น้ี 1.1 ป้อนขอ้ มูลท่ีตอ้ งการและกาํ หนดช่ือซีต 1.2 คลิกเซลลท์ ่ีตอ้ งการแสดงผลลพั ธค์ า่ เฉล่ีย 1.3 พิมพเ์ คร่ืองหมาย = แลว้ พิมพค์ าํ วา่ (average) หรือคลิกท่ีสูตรคาํ นวณท่ีปรากฏ 1.4 จะปรากฏสูตรคาํ นวณ 1.5 ทาํ แถบสีคลุมขอ้ มูลท่ีตอ้ งการนํามาคาํ นวณ 1.6 เสร็จแลว้ กดแป้น (Enter) จะปรากฏผลลพั ธ์

แบบประเมินผลการเรยี นรู้หน่วยที่ 4 1. บอกเคร่ืองหมายในการคาํ นวณของการบวกลบคูณและหาร ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. บอกลาํ ดบั ขนั้ ตอนการคาํ นวณ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. บอกวิธีการคาํ นวณ 20 + 50 * 2 ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

การใชฟ้ ังกช์ ันในการคาํ นวณและพยากรณข์ ้อมูล สาระการเรียนรู้ หน่วยที่ 5 1. การใชฟ้ งั กช์ น่ั Bahttext 2. การใชฟ้ งั กช์ น่ั Count, Counta และ Countif 3. การใชฟ้ งั กช์ น่ั If 4. การใชฟ้ งั กช์ น่ั VLOOKUP 5. การใชฟ้ งั กช์ น่ั SUMIF

การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มลู การใชฟ้ งั กช์ น่ั Bahttext ฟงั กช์ น่ั Bahttext ใชใ้ นการแสดงผลลพั ธเ์ ป็นตวั อกั ษรของคา่ เงินบาทหรือเป็นฟงั กช์ นั ยอดนิยมฟงั กช์ นั หน่ึงเพราะสามารถแปลงจาํ นวนเงินท่ีเป็นตวั เลขใหเ้ ป็นตวั อกั ษรไดง้ า่ ยๆผูใ้ ชห้ ลายๆคนท่ีสรา้ งบิลสง่ หรือบิลเงิน สดดว้ ย excel ติดปัญหาในการพิมพจ์ าํ นวนเงินท่ีเป็นตวั อกั ษรลงไปในบิลซ่ึงอาจเส่ียงตอ่ การพิมพผ์ ิดหรือเม่ือ มีการแกไ้ ขตวั เลขแตไ่ มไ่ ดไ้ ปแกไ้ ขจาํ นวนเงินท่ีเป็นตวั อกั ษรเพราะฉะนัน้ การนําความเชน่ น้ีมาใชช้ ว่ ยในการ ทาํ งานงา่ ยข้ึน

การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มลู การใชฟ้ งั กช์ น่ั Count, Counta และ Countif ฟงั กช์ น่ั Count, Counta และ Countif ใชใ้ นการนบั จาํ นวนโดย Count เป็นการนบั จาํ นวน ของขอ้ มูล Counta เป็นการนบั จาํ นวนขอ้ มูลท่ีเป็นตวั อกั ษร และ Countif เป็นการนับจาํ นวนท่ีมีเง่ือนไข

การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มลู การใชฟ้ งั กช์ น่ั If ฟงั กช์ น่ั If เป็นหลกั การหาผลลพั ธโ์ ดยกาํ หนดเง่ือนไขใดเง่ือนไขหน่ึงข้ึนมาเพ่ือเป็นตวั แปรในการ วิเคราะหข์ อ้ มูลซ่ึงถา้ หากเป็นไปตามเง่ือนไขใดโปรแกรมก็จะทาํ ตามเง่ือนไขนัน้ โดยกาํ หนดเป็นเง่ือนไข (เป็นจริง) และ (ไมเ่ ป็นจริง)

การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มลู การใชฟ้ งั กช์ น่ั VLOOKUP ฟงั กช์ น่ั VLOOKUP เป็นฟงั กช์ นั คน้ หาคอลมั น์สามารถใชค้ น้ หาคอลมั นแ์ รกของชว่ งของเซลลแ์ ลว้ สง่ กลบั คา่ จากเซลลใ์ ดๆในแถวเดียวกนั กบั ชว่ งอกั ษร (V) ใน VLOOKKUP

การใชฟ้ ังกช์ นั ในการคาํ นวณและพยากรณข์ อ้ มลู การใชฟ้ งั กช์ น่ั SUMIF ฟงั กช์ น่ั SUMIF เป็นฟงั กช์ นั สาํ หรับหาผลรวมของคา่ ตา่ งๆ ในชว่ งซ่ึงเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีระบุซ่ึงจะถูก นําไปใชก้ บั คา่ ท่ีเทา่ กนั ท่ีกาํ ลงั หาผลรวม โดยสามารถนําเกณฑน์ ้ีไปใชข้ องชว่ งหน่ึง แลว้ หาผลรวมของคา่ ท่ี ตรงกนั ในชว่ งอ่ืนไดถ้ า้ ตอ้ งการ

แบบประเมินผลการเรยี นรู้หน่วยที่ 5 1. ใหอ้ ธิบายวิธีการใชฟ้ งั กช์ น่ั Bahttext ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. 2. ใหอ้ ธิบายวิธีการใชฟ้ งั กช์ น่ั Count ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. 3. ใหอ้ ธิบายวิธีการใชฟ้ งั กช์ น่ั Countif ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................