สามคั คเี ภทคําฉันท์ เสนอ ครูณัฐยา อาจมงั กร ผจู้ ดั ทาํ นายวีรวัฒน์ สายแวว เลขที ๑๒ นางสาวจิราภา เสืออุ่น เลขที ๑๗ นางสาวรฐาพร ธรรมมา เลขที ๓๒ นางสาววรินยพุ า คําพอ เลขที ๓๓ นางสาวอนุธิดา คชศิ ลา เลขที ๓๘ รายงานนีเปนส่วนหนึงของวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๓๓๑๐๑ ภาคเรยี นที ๑ ปการศึ กษา ๒๕๖๔ โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม
สามคั คเี ภทคําฉันท์ เสนอ ครูณัฐยา อาจมงั กร ผจู้ ดั ทาํ นายวีรวัฒน์ สายแวว เลขที ๑๒ นางสาวจิราภา เสืออุ่น เลขที ๑๗ นางสาวรฐาพร ธรรมมา เลขที ๓๒ นางสาววรินยพุ า คําพอ เลขที ๓๓ นางสาวอนุธิดา คชศิ ลา เลขที ๓๘ รายงานนีเปนส่วนหนึงของวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๓๓๑๐๑ ภาคเรยี นที ๑ ปการศึ กษา ๒๕๖๔ โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม
คํานํ า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book)นี จัดทําขึนเพือเปนส่วนหนึงของ รายวิชา ภาษาไทย ท๓๓๑๐๑ ชันมัธยมศึ กษาปที ๖ ผู้จัดทําได้รวบรวม ข้อมูลตา่ งๆโดยมีจุดประสงค์เพือให้ศึ กษาความรู้ ถอดคําประพันธ์พร้อม คําอธิบาย ชือผู้แตง่ ทีมา ลักษณะคําประพันธ์ เรืองย่อ ตลอดจนประโยชน์ หรือคุณค่าในวรรณคดี เรือง สามัคคีเภทคําฉันท์ และได้ศึ กษาอย่างเข้าใจ เพือเปนประโยชน์ตอ่ การเรียน คณะผู้จัดทําหวังว่าหนังสือเล่มนีจะเปนประโยชน์ตอ่ ผู้อ่านหรือ นักเรียน นักศึ กษาทีกําลังหาข้อมูลเรืองนีอย่ไู ม่มากก็น้อย หากมีข้อแนะนํา หรือข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทําขอน้อมรับไว้และขออภยั มา ณ ทีนีด้วย คณะผู้จัดทํา
สารบญั ก ข ปกใน ค คํานํ า 1 สารบญั 1 ผแู้ ตง่ 1 จดุ ประสงค์ในการแตง่ 2 ทมี าของเรอื ง 6 ลกั ษณะคําประพันธ์ 7 เรอื งยอ่ 31 ถอดคําประพันธ์ 36 คําศั พทย์ าก ง คุณค่าวรรณคดี บรรณานกุ รม
1 ผแู้ ตง่ นายชิต บรุ ทตั กวใี นรชั กาลที ๖ ในขณะทบี รรพชาเปน สามเณร อายเุ พียง ๑๘ ป ไดเ้ ข้ารว่ มแตง่ ฉันทส์ มโภชพระมหา เศวตฉัตรในงานราชพิธฉี ัตรมงคล รชั กาลที ๖ เมอื อายุ ๒๒ ป ไดส้ ่งกาพยป์ ลกุ ใจลงในหนังสือพิมพ์ สมทุ รสาร นายชิต มี นามสกลุ เดมิ วา่ ชวางกรู ไดร้ บั พระราชทานนามสกลุ “บรุ ทตั ” จากพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ ฯ ในป ๒๔๕๐ เมอื อายะ ๒๓ ป ใช้นามปากกาวา่ เจา้ เงาะ เอกชน และแมวคราว จดุ ประสงค์ในการแตง่ นายชิต บรุ ทตั อาศั ยเค้าคําแปลของเรอื งสามคั คีเภทมาแตง่ เปนคําฉันท์ เพือแสดงความสามารถในเชิงกวใี ห้เปนทปี รากฏ และเปนพิทยาภรณ์ประดบั บา้ นเมอื ง ทมี าของเรอื ง ในสมยั รชั กาลที ๖ เกดิ วกิ ฤตการณ์ทงั ภายในและภายนอก ประเทศ เช่น เกดิ สงครามโลกครงั ที ๑ เกดิ กบฏ ร.ศ. ๑๓๐ ซึงส่ง ผลกระทบตอ่ ความมนั คงของบา้ นเมอื ง นายชิต บรุ ทตั จงึ ไดแ้ ตง่ เรอื งสามคั คีเภทคําฉันทข์ ึน ในป พ.ศ. ๒๔๕๗ เพือมงุ่ ชีความสําคัญ ของการรวมกนั เปนหมคู่ ณะ เรอื งสามคั คีเภท เปนนิทานสภุ าษิต ในมหาปรนิ ิพพานสตู ร และอรรถกถาสมุ งั คลวลิ าสินี ทฆี นิกาย มหาวรรค ลงพิมพ์ในหนังสือธรรมจกั ษุ ของมหามกฎุ ราชวทิ ยาลยั โดยเรยี บเรยี งเปาษาบาลี
2 ลกั ษณะคําประพันธ์ สามคั คีเภทคําฉันท์ แตง่ ดว้ ยคําประพันธป์ ระเภทฉันท์ ๑๙ ชนิด กาพย์ ๑ ชนิด คือ ๑. สัททลุ วกิ กี ิตฉันท์ ๑๙ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าการอา่ นสงา่ งาม เครง่ ขรมึ มอี าํ นาจดจุ เสือผยอง ใช้แตง่ สําหรบั บทไหวค้ รู บทสดดุ ี ยอ พระเกยี รติ ๒. วสันตดลิ กฉันท์ ๑๔ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าไพเราะ งดงาม เยอื กเยน็ ดจุ เมด็ ฝน ใช้สําหรบั บรรยายหรอื พรรณนาชืนชมสิงทสี วยงาม ๓. อปุ ชาตฉิ ันท์ ๑๑ นิยมแตง่ สําหรบั บทเจรจาหรอื บรรยายความ เรยี บๆ ๔. อที สิ ังฉันท์ ๒๑ เปนฉันทท์ มี จี งั หวะกระแทกกระทนั เกรยี วกราด โกรธแค้น และอารมณ์รุนแรง เช่น รกั มาก โกรธมาก ตนื เตน้ คึก คะนอง หรอื พรรณนาความสับสน ๕. อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าสวยงามดจุ สายฟา พระอนิ ทร์ มลี ลี าออ่ นหวาน ใช้บรรยายความหรอื พรรณนาเพือโน้มน้าว ใจให้ออ่ นโยน เมตตาสงสาร เอน็ ดู ให้อารมณ์เหงาและเศรา้ ๖. วชิ ชุมมาลาฉันท์ ๘ หมายถึง ระเบยี บแห่งสายฟา เปนฉันทท์ ใี ช้ ในการบรรยายความ ๗. อนิ ทรวงศ์ ฉันท์ ๑๒ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าตอนทา้ ยไมร่ าบเรยี บคลา้ ย กลบทสะบดั สะบงิ ใช้ในการบรรยายความหรอื พรรณนาความ ๘. วงั สัฏฐฉันท์ ๑๒ เปนฉันทท์ มี สี ําเนียงอนั ไพเราะเหมอื นเสียงป ๙. มาลนิ ีฉันท์ ๑๕ เปนฉันทท์ ใี ช้ในการแตง่ กลบทหรอื บรรยาย ความทเี ครง่ ขรมึ เปนสงา่ ๑๐. ภชุ งคประยาตฉันท์ ๑๒ เปนฉันทท์ มี ลี ลี างามสงา่ ดจุ งเู ลอื ย นิยม ใช้แตง่ บททดี าํ เนินเรอื งอยา่ งรวดเรว็ และคึกคัก
3 ลกั ษณะคําประพันธ์ สามคั คีเภทคําฉันท์ แตง่ ดว้ ยคําประพันธป์ ระเภทฉันท์ ๑๙ ชนิด กาพย์ ๑ ชนิด คือ ๑๑. มาณวกฉันท์ ๘ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าผาดโผน สนกุ สนาน รา่ เรงิ และตนื เตน้ ดจุ ชายหน่มุ ๑๒. อเุ ปนทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑ เปนฉันทท์ มี คี วามไพเราะใช้ในการ บรรยายบทเรยี บๆ ๑๓. สัทธราฉันท์ ๒๑มคี วามหมายวา่ ฉันทย์ งั ความเลอื มใสให้เกดิ แก่ ผฟู้ ง จงึ เหมาะเปนฉันทท์ ใี ช้สําหรบั แตง่ คํานมสั การ อธษิ ฐาน ยอพระ เกยี รติ หรอื อญั เชิญเทวดา ใช้แตง่ บทสันๆ ๑๔. สาลนิ ีฉันท์ ๑๑ เปนบททมี คี ําครุมาก ใช้บรรยายบททเี ปน เนือหาสาระเรยี บๆ ๑๕. อปุ ฏฐติ าฉันท์ ๑๑ เปนฉันทท์ เี หมาะสําหรบั ใช้บรรยายบท เรยี บๆ แตไ่ มใ่ ครม่ คี นนิยมแตง่ มากนัก ๑๖. โตฏกฉันท์ ๑๒ เปนฉันทท์ มี ลี ลี าสะบดั สะบงิ เหมอื นประตกั แทง โค ใช้แตง่ กบั บททแี สดงความโกรธเคือง รอ้ นรน หรอื สนกุ สนาน คึก คะนอง ตนื เตน้ และเรา้ ใจ ๑๗. กมลฉันท์ ๑๒ หมายถึง ฉันทมี คี วามไพเราะเหมอื นดงั ดอกบวั ใช้กบั บททมี คี วามตนื เตน้ เลก็ น้อยและใช้บรรยายเรอื ง ๑๘. จติ รปทาฉันท์ ๘ เปนฉันทท์ เี หมาะสําหรบั บททนี ่ากลวั เอะอะ เกรยี วกราด ตนื เตน้ ตกใจและกลวั ๑๙. สรุ างคนางค์ฉันท์ ๒๘ มลี กั ษณะการแตง่ คลา้ ยกาพย์ สรุ างคนางค์ ๒๘ แตต่ า่ งกนั ทมี ขี ้อบงั คับ ครุ ลหุ เพิมขึนมา ทาํ ให้เกดิ ความไพเราะมากยงิ ขึน เหมาะสําหรบั ข้อความทคี ึกคักสนกุ สนาน โลดโผน ตนื เตน้ ๒๐. กาพยฉ์ บงั ๑๖เปนกาพยท์ มี ลี ลี าสงา่ งาม ใช้สําหรบั บรรยาย ความงามหรอื ดาํ เนินเรอื งอยา่ งรวดเรว็
4 ลกั ษณะบงั คับของฉันท์ อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑ อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ จาํ นวน ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค ไดแ้ ก่ วรรคหน้าหรอื วรรคตน้ มี ๕ คํา (พยางค์) ส่วนวรรคหลงั หรอื วรรคทา้ ยมี ๖ คํา (พยางค์) อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑ บาท มจี าํ นวนคํา (พยางค์) ๑๑ คํา (พยางค์) ดงั นัน จงึ กาํ หนดเลข ๑๑ ไวท้ า้ ย ชือฉันท์ โดยยดึ ตามบาทของฉันท์ สั มผสั สัมผสั บงั คับ (สัมผสั นอก) และบงั คับครุ-ลหุ คําครุ สัญลกั ษณ์แทนดว้ ย ั คําลหุ สัญลกั ษณ์แทนดว้ ย ุ
5 ลกั ษณะบงั คับของฉันท์ วชิ ชุมมาลาฉันท์ ๑ บท มี ๔ บาท บาทละ ๒ วรรค วรรคละ ๔ คํา ๒ บาท ๘ คํา ดงั นัน จงึ เขียนเลข ๘ หลงั ชือ วชิ ชุมมาลาฉันท์ ทงั บทมจี าํ นวนคําทงั สิน ๓๒ คํา สั มผสั สัมผสั วชิ ชุมมาลาฉันท์ มสี ัมผสั นอก (ทเี ปนสัมผสั ภายในบท) บท จาํ นวน ๕ แห่ง ไดแ้ ก่ ๑. คําสดุ ทา้ ยของวรรคที ๑ ส่งสัมผสั กบั คําที ๒ ของวรรคที ๒ ๒. คําสดุ ทา้ ยของวรรคที ๒ ส่งสัมผสั กบั คําสดุ ทา้ ย ของวรรคที ๓ ๓. คําสดุ ทา้ ยของวรรคที ๔ ส่งสัมผสั กบั คําสดุ ทา้ ย ของวรรคที ๖ ๔. คําสดุ ทา้ ยของวรรคที ๕ ส่งสัมผสั กบั คําที ๒ ของวรรคที ๖ ๕. คําสดุ ทา้ ยของวรรคที ๖ ส่งสัมผสั กบั คําสดุ ทา้ ย ของวรรคที ๗ สัมผสั ระหวา่ งบท คําสดุ ทา้ ยของบท ส่งสัมผสั กบั คําสุดทา้ ยของวรรค วรรคที ๔ ในบทตอ่ ไป คําครุ ลหุ วชิ ชุมมาลาฉันท์ ๑ บท มคี ําครุทงั หมด ๓๒ คํา ปราศจากการใช้คําลหุ สัมผสั บงั คับ และบงั คับครุ-ลหุ คําครุ สัญลกั ษณ์แทนดว้ ย ั คําลหุ สัญลกั ษณ์แทนดว้ ย ุ
6 เรอื งยอ่ พระเจา้ อชาตศั ตรูแห่งกรุงราชคฤห์ แควน้ มคธ ทรงมวี สั สการ พราหมณ์ผฉู้ ลาดและรอบรูศ้ ิ ลปศาสตรเ์ ปนที ปรกึ ษา มพี ระประสงค์จะขยายอาณาจกั ร ไปยงั แควน้ วชั ชี ของเหลา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี ซึงปกครองแควน้ โดยยดึ มนั ในอปริ หานิยธรรม (ธรรมอนั ไมเ่ ปนทตี งั แห่งความเสือม) เน้น สามคั คีธรรมเปนหลกั การโจมตแี ควน้ นีให้ไดจ้ ะตอ้ งทาํ ลาย ความสามคั คีนีให้ไดเ้ สียกอ่ น วสั สการพราหมณ์ปโุ รหิตที ปรกึ ษา จงึ อาสาเปนไส้ศึ กไปยแุ หยใ่ ห้กษัตรยิ ล์ จิ ฉวแี ตก ความสามคั คี โดยทาํ เปนอบุ ายกราบทลู ทดั ทานการไปตี แควน้ วชั ชี พระเจา้ อชาตศั ตรูแสรง้ กรวิ รบั สังลงโทษให้ เฆยี นวสั สการ พราหมณ์ อยา่ งรุนแรงแลว้ เนรเทศไป ข่าวของวสั สการพราหมณ์ไปถึงนครเวสารี เมอื ง หลวงของแควน้ วชั ชี กษัตรยิ ล์ จิ ฉวรี บั สังให้วสั สการพรา หมณ์เข้ารบั ราชการกบั กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี ดว้ ยเหตทุ เี ปนผมู้ สี ติ ปญญา มวี าทศิ ลปดี มคี วามรอบรูใ้ นศิ ลปะวทิ ยาการ ทาํ ให้ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวรี บั ไวใ้ นพระราชสํานัก ให้พิจารณาคดคี วาม และสอนหนังสือพระโอรส วสั สการพราหมณ์ไดท้ าํ หน้าที อยา่ งเตม็ ความรูค้ วามสามารถ จนกษัตรยิ ล์ จิ ฉวไี วว้ าง พระทยั กด็ าํ เนินอบุ ายขันตอ่ ไป คือสรา้ งความคลางแคลงใจ ในหมพู่ ระโอรส แลส้ ลกุ ลามไปถึงพระบดิ า ซึงตา่ งกเ็ ชือ พระโอรส ทาํ ให้ขุ่นเคืองกนั ไปทวั เวลาผา่ นไป ๓ ป เหลา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวกี แ็ ตกความสามคั คีกนั หมด แมว้ สั สการ พราหมณ์ตกี ลองนัดประชุม กไ็ มม่ พี ระองค์ใดมารว่ มประชุม วสั สการพราหมณ์จงึ ลอบส่งข่าวไปยงั พระเจา้ อชาตศั ตรู ให้ ทรงยกทพั มาตแี ควน้ วชั ชีไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย
ถอดคําประพันธ์ 7 ภชุ งคประยาต ฉันทฯ์ คะเนกลคะนึ งการ ระวงั เหือดระแวงหาย ทชิ งค์ชาตฉิ ลาดยล ปวตั น์วญั จโนบาย กษัตรยิ ล์ จิ ฉววี าร สมคั รสนธสิ โมสร ลศึ กษาพิชากร เหมาะแกก่ ารณ์จะเสกสรร เสดจ็ พรอ้ มประชุมกนั มลา้ งเหตพุ ิเฉทสาย สถานราชเรยี นพลนั สนิ ทหนึ งพระองค์ไป ณวนั หนึงลถุ ึงกา กถ็ ามการณ์ ณ ทนั ใด กมุ ารลจิ ฉววี ร กถาเช่นธปจุ ฉา มนษุ ยผ์ กู้ ระทาํ นา ตระบดั วสั สการมา ประเทยี บไถมใิ ช่หรอื ธแกลง้ เชิญกมุ ารฉัน กร็ บั อรรถออออื ประดจุ คําพระอาจารย์ ลหุ ้องหับรโหฐาน นิวตั ในมชิ ้านาน มลิ ลี บั อะไรใน สมยั เลกิ ลเุ วลา พชวนกนั เสดจ็ มา จะถูกผดิ กระไรอยู่ ชองค์นั นจะเอาความ และคู่โคกจ็ งู มา ณข้างในธไตถ่ าม วจสี ัตยก์ ะสาเรา กมุ ารลจิ ฉวขี ัตตยิ ์ รวากยว์ าทตามเลา กสิกเขากระทาํ คือ วภาพโดยคดมี า มเิ ชือในพระวาจา กเ็ ทา่ นันธเชิญให้ และตา่ งองค์กพ็ าที ประสิทธศิ ิ ลปประศาสน์สาร จะพดู เปลา่ ประโยชน์มี รผลเห็นบเปนไป อรุ สลจิ ฉวสี รร ธพดู แทก้ ท็ าํ ไม และตา่ งซักกมุ ารรา จะถามนอกบยากเยน็ ธคิดอา่ นกะทา่ นเปน พระอาจารยส์ ิเรยี กไป ละแน่ ชัดถนั ดความ อะไรเธอเสนอตาม มกิ ลา้ อาจจะบอกตา ไถลแสรง้ แถลงสาร กมุ ารนันสนองสา กส็ อดคลอ้ งและแคลงดาล เฉลยพจน์ กะครู เสา อบุ ตั ขิ ึนเพราะขุ่นเคือง ประดามนี ิรนั ดรเ์ นือง กมุ ารอนื กส็ งสัย มลายปลาตพินาศปลงฯ สหายราชธพรรณนา ไฉนเลยพระครู เรา เลอะเหลวนักละลว้ นนี เถอะถึงถ้าจะจรงิ แม้ แนะชวนเข้าณข้างใน ชะรอยวา่ ทชิ าจารย์ รหัสเหตปุ ระเภทเห็น และทา่ นมามสุ าวาท พจจี รงิ พยายาม กมุ ารราชมติ รผอง พิโรธกาจววิ าทการณ์ พิพิธพันธไมตรี กะองค์นันกพ็ ลนั เปลอื ง
8 ถอดคําประพันธ์ พราหมณ์ผฉู้ ลาดคาดวา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี คลายความ หวาดระแวง เปนโอกาสเหมาะทจี ะเรมิ กลอบุ ายทาํ ลายความ สามคั คี วนั หนึงเมอื ถึงโอกาส กมุ ารลจิ ฉวเี สดจ็ มาพรอ้ ม กนั ทนั ใดนันพราหมณ์มาถึงกเ็ ชิญพระกมุ ารพระองค์ที สนิทเข้าไปพบส่วนตวั แลว้ ถามเรอื งทไี มใ่ ช่ความลบั ใดๆ เช่น ถามวา่ ชาวนาจงู โคมาคู่หนึงเพือเทยี มไถใช่หรอื ไม่ พระกมุ ารลจิ ฉวกี เ็ ห็นดว้ ยวา่ ชาวนาคงจะกระทาํ ตามคําของ พระอาจารย์ แลว้ พราหมณ์กเ็ ชิญกลบั ไป ครนั ถึงเวลาเลกิ เรยี นเหลา่ โอรสลจิ ฉวพี ากนั มาถามพระกมุ ารวา่ พระอาจารย์ เรยี กเข้าไป ไดถ้ ามอะไรบา้ ง ขอให้บอกมาตามความจรงิ พระกมุ ารพระองค์นันกเ็ ลา่ ทพี ระอาจารยเ์ รยี กไปถาม แต่ เหลา่ กมุ ารไมเ่ ชือคําพดู กว็ จิ ารณ์วา่ พระอาจารยจ์ ะไมพ่ ดู เรอื งเหลวไหลไรส้ าระเช่นนี และเหตใุ ดจะตอ้ งเรยี กเข้าไป ถามข้างในห้อง ถามข้างนอกห้องกไ็ ด้ สงสัยวา่ ทา่ นอาจารย์ กบั พระกมุ ารตอ้ งมคี วามลบั อยา่ งแน่นอน แลว้ กม็ าพดู โกหก ไมก่ ลา้ บอกตามความเปนจรงิ กมุ ารลจิ ฉวที งั หลายเห็น สอดคลอ้ งกนั กโ็ กรธเคือง เกดิ การทะเลาะววิ าทขึน เพราะ ความขุ่นเคืองใจ ความสัมพันธอ์ นั ดที เี คยมมี ากถ็ ูกทาํ ลายลง
มาณวก ฉันทฯ์ 9 ลว่ งลปุ ระมาณ กาลอนกุ รม หนึ งณนิ ยม ทา่ นทวชิ งค์ เมอื จะประสิทธิ วทิ ยะยง เชิญวรองค์ เอกกมุ าร พราหมณไป เธอจรตาม ห้องรหุฐาน โดยเฉพาะใน ความพิสดา จงึ พฤฒถิ าม โทษะและไข ขอธประทาน ครู จะเฉลย ภตั กะอะไร อยา่ ตแิ ละหลู่ ดฤี ไฉน เธอน่ ะเสวย ยงิ ละกระมงั ในทนิ นี เค้าณประโยค พอหฤทยั แลว้ ขณะหลงั เรอื งสิประทงั ราชธกเ็ ลา่ สิ กขสภา ตนบรโิ ภค ราชอรุ ส วาทะประเทอื ง ตา่ งธกม็ า อาคมยงั ทา่ นพฤฒอิ า รภกระไร เสรจ็ อนศุ าสน์ แจง้ ระบมุ วล ลจิ ฉวหิ มด จรงิ หฤทยั ถามนยมาน เมอื ตรไิ ฉน จารยปรา เหตบุ มสิ ม เรอื งนฤสาร เธอกแ็ ถลง กอ่ นกร็ ะ ความเฉพาะลว้ น แตกคณะกล ตา่ งบมเิ ชือ คบดจุ เดมิ จงึ ผลใน ขุ่นมนเคือง เช่นกะกมุ าร เลกิ สละแยก เกลยี วบนิยม
10 ถอดคําประพันธ์ เวลาผา่ นไป เมอื ถึงคราวทจี ะสอนวชิ ากจ็ ะ เชิญพระกมุ ารพระองค์หนึง พระกมุ ารกต็ าม พราหมณ์เข้าไปในห้อง พราหมณ์จงึ ถามแปลกๆวา่ ขออภยั ช่วยตอบดว้ ย อยา่ หาวา่ ตาํ หนิหรอื ลบหลู่ ครูขอถามวา่ วนั นีพระกมุ ารเสวยพระกระยาหาร อะไร รสชาตดิ หี รอื ไม่ พอพระทยั มากหรอื ไม่ พระ กมุ ารกเ็ ลา่ เรอื งเกยี วกบั พระกระยาหารทเี สวย หลงั จากนันกส็ นทนาเรอื งทวั ไป แลว้ กเ็ สดจ็ กลบั ออก มายงั ห้องเรยี น เมอื เสรจ็ สินการสอนราชกมุ ารลจิ ฉวที งั หมดกม็ าถามเรอื งราวทมี มี าวา่ ทา่ นอาจารยไ์ ด้ พดู เรอื งอะไรบา้ ง พระกมุ ารกต็ อบตามความจรงิ แตเ่ หลา่ กมุ ารตา่ งไมเ่ ชือ เพราะคิดแลว้ ไมส่ มเหตุ สมผล ตา่ งขุ่นเคืองใจดว้ ยเรอื งไรส้ าระเช่นเดยี ว กบั พระกมุ ารพระองค์กอ่ น และเกดิ ความแตกแยก ไมค่ บกนั อยา่ งกลมเกลยี วเหมอื นเดมิ
11 อเุ ปนทรวเิ ชียร ฉันทฯ์ ทชิ งค์เจาะจงเจตน์ กลห์เหตยุ ยุ งเสรมิ กระหนาและซาเตมิ นฤพัทธกอ่ การณ์ ทนิ วารนานนาน ละครงั ระหวา่ งครา ธกเ็ ชิญเสดจ็ ไป เหมาะทา่ ทชิ าจารย์ รฤหาประโยชน์ ไร เสาะแสดงธแสรง้ ถาม บห่อนจะมสี า น่ะแน่ะข้าสดบั ตาม กระนั นเสมอนั ย พจแจง้ กระจายมา กเ็ พราะทา่ นสิแสนสา และบา้ งกพ็ ดู วา่ วและสดุ จะขัดสน ยบุ ลระบลิ ความ พิเคราะห์เชือเพราะยากยล ธกค็ วรขยายความ ละเมดิ ตเิ ตยี นทา่ น น่ ะแน่ ะข้าจะขอถาม รพัดทลทิ ภา วจลอื ระบอื มา กเ็ พราะทา่ นสิแสนสา จะแน่มแิ น่เหลอื ยพิลกึ ประหลาดเปน ณทบี มคี น มนเชือเพราะไปเห็น ธกค็ วรขยายความ และบา้ งกก็ ลา่ ววา่ วนเค้าคดตี าม เพราะทราบคดตี าม นยสดุ จะสงสัย คุรุทา่ นจะถามไย ตฉิ ินเยาะหมนิ ทา่ น ระบแุ จง้ กะอาจารย์ รพันพิกลกา พระกมุ ารโน้นขาน เฉพาะอยกู่ ะกนั สอง จะจรงิ มจิ รงิ เหลอื ธมทิ นั จะไตรต่ รอง ผขิ ้อบลาํ เค็ญ พฤฒคิ รูและววู่ าม เหมาะเจาะจงพยายาม กมุ ารองค์เสา บมดิ ปี ระเดตน กระทพู้ ระครูถาม ทรุ ทฐิ มิ านจน ธพิ ิพาทเสมอมา กค็ ํามคิ วรการณ์ ทชิ ครูมเิ รยี กหา ธซักเสาะสื บใคร ชกมุ ารทชิ งค์เชิญ ฉวมิ ติ รจติ เมนิ ทวชิ แถลงวา่ คณะห่างกต็ า่ งถือ ยบุ ลกะตกู าล พลลน้ เถลงิ ลอื มนฮกึ บนึกขามฯ กมุ ารพระองค์นัน กเ็ ชือณคําของ พิโรธกมุ ารองค์ ยคุ รูเพราะเอาความ กพ็ ้อและตอ่ พิษ ลโุ ทสะสืบสน และฝายกมุ ารผู้ กแ็ หนงประดารา พระราชบตุ รลจิ ณกนั และกนั เหิน ทะนงชนกตน กห็ าญกระเหิมฮอื
12 ถอดคําประพันธ์ พราหมณ์เจตนาหาเหตยุ แุ หยอ่ ยเู่ สมอๆ เห็นโอกาส กเ็ ชิญพระกมุ ารโดยไมม่ ปี ระโยชน์อนั ใด แลว้ กแ็ กลง้ ถาม บางครงั กพ็ ดู วา่ ข้าพระองค์ไดย้ นิ ข่าวลอื ทวั ไป เขานินทา พระกมุ ารวา่ พระองค์แสนจะยากจนและขัดสนเปนเช่นนัน หรอื วเิ คราะห์แลว้ ไมน่ ่าเชือ ทนี ีไมม่ ผี ใู้ ด ขอให้ทรงเลา่ มา เถิด บางครงั กพ็ ดู วา่ ข้าไดย้ นิ เขาเยาะเยย้ ดหู มนิ ทา่ น วา่ ทา่ นนีมรี า่ งกายผดิ ประหลาดเปนจรงิ หรอื ไม่ ถ้าหากมสี ิง ใดทลี าํ บากยากแค้นกต็ รสั มาเถิด พระกมุ ารไดฟ้ งกถ็ าม กลบั วา่ สงสัยเหลอื เกนิ เรอื งไมส่ มควรเช่นนี ทา่ นอาจารย์ จะถามทาํ ไม แลว้ กซ็ ักไซ้วา่ ใครเปนผมู้ าบอก พราหมณ์ก็ ตอบวา่ พระกมุ ารพระองค์โน้นตรสั บอกเมอื อยกู่ นั เพียง สองตอ่ สอง กมุ ารพระองค์นันไมท่ นั ไดไ้ ตรต่ รอง กท็ รง เชือคําพดู ของอาจารย์ ดว้ ยความววู่ ามกก็ รวิ พระกมุ ารทยี พุ ระอาจารยใ์ ส่ความตน จงึ ตดั พ้อตอ่ วา่ กนั ขึน เกดิ ความ โกรธเคืองทะเลาะววิ าทกนั อยเู่ สมอ ฝายพระกมุ ารที พราหมณ์ไมเ่ คยเรยี กเข้าไปหากไ็ มพ่ อพระทยั พระกมุ ารที พราหมณ์เชิญไปพบ พระกมุ ารลจิ ฉวหี มางใจและเหินห่าง กนั ตา่ งองค์ทะนงวา่ พระบดิ าของตนมอี าํ นาจลน้ เหลอื จงึ มใี จกาํ เรบิ ไมเ่ กรงกลวั กนั
13 สัทธรา ฉันทฯ์ ลาํ ดบั นันวสั สการพราหมณ์ ธกย็ ศุ ิ ษยตาม แตง่ อบุ ายงาม ฉงนงาํ รณิ วริ ุธกส็ ํา ปวงโอรสลจิ ฉวดี าํ ธเสกสรร คัญประดจุ คํา มลิ ะปยะสหฉันท์ กอ็ าดรู ไปเหลอื เลยสักพระองค์อนั พระชนกอดศิ ูร ขาดสมคั รพันธ์ ปวตั ตคิ วาม ลวุ รบดิ รลาม ตา่ งองค์นําความมงิ ามทลู ณเหตผุ ล แห่งธโดยมลู นฤวเิ คราะหเสาะสน เพราะหมายใด แตกรา้ วกา้ วรา้ ยกป็ ายปาม กษณะตรเิ หมาะไฉน ทลี ะน้อยตาม สะดวกดาย พจนยปุ รยิ าย ฟนเฝอเชือนั ยดนั ยตน บเวน้ ครา สื บจะหมองมล สหกรณประดา ชทงั หลาย แทท้ า่ นวสั สการใน มติ รภทิ นะกระจาย เสรมิ เสมอไป กเ็ ปนไป พระราชหฤทยวสิ ัย หลายอยา่ งตา่ งกลธขวนขวาย ระวงั กนั ฯ วญั จโนบาย ครนั ลว่ งสามปประมาณมา ลจิ ฉวรี า สามคั คีธรรมทาํ ลาย สรรพเสื อมหายน์ ตา่ งองค์ทรงแคลงระแวงใน ผพู้ ิโรธใจ
14 ถอดคําประพันธ์ ในขณะนันวสั สการพราหมณ์กค็ อยยลุ กู ศิ ษย์ แตง่ กลอบุ ายให้เกดิ ความแคลงใจ พระโอรสกษัตรยิ ์ ลจิ ฉวที งั หลายไตรต่ รองในอาการน่าสงสัยกเ็ ข้าใจวา่ เปนจรงิ ดงั ถ้อยคําทอี าจารยป์ นเรอื งขึน ไมม่ เี หลอื เลย สักพระองค์เดยี วทจี ะมคี วามรกั ใครก่ ลมเกลยี ว ตา่ ง ขาดความสัมพันธ์ เกดิ ความเดอื ดรอ้ นใจ แตล่ ะองค์ นําเรอื งไมด่ ที เี กดิ ขึนไปทลู พระบดิ าของตน ความ แตกแยกกค็ ่อย ๆ ลกุ ลามไปส่พู ระบดิ า เนืองจากความ หลงเชือโอรสของตน ปราศจากการใครค่ รวญเกดิ ความผดิ พ้องหมองใจกนั ขึน ฝายวสั สการพราหมณ์ ครนั เห็นโอกาสเหมาะสมกค็ อยยแุ หยอ่ ยา่ งงา่ ยดาย ทาํ กลอบุ ายตา่ ง ๆ พดู ยยุ งตามกลอบุ ายตลอดเวลา เวลา ผา่ นไปประมาณ ๓ ป ความรว่ มมอื กนั ระหวา่ งกษัตรยิ ์ ลจิ ฉวที งั หลายและความสามคั คีถูกทาํ ลายลงสิน ความเปนมติ รแตกแยก ความเสือม ความหายนะก็ บงั เกดิ ขึน กษัตรยิ ต์ า่ งองค์ระแวงแคลงใจ มคี วามขุ่น เคืองใจซึงกนั และกนั
15 สาลนิ ี ฉันทฯ์ พราหมณ์ครูรูส้ ังเกต ตระหนักเหตถุ นัดครนั ราชาวชั ชีสรร พจกั ส่พู ินาศสม จะสัมฤทธมิ นารมณ์ ยนิ ดบี ดั นีกจิ และอตุ สาหแห่งตน เรมิ มาดว้ ยปรากรม ประชุมขัตตยิ ม์ ณฑล กษัตรยิ ส์ ่สู ภาคาร ให้ลองตกี ลองนัด สดบั กลองกระหึมขาน เชิญซึงสาสากล ณกจิ เพือเสดจ็ ไป จะเรยี กหาประชุมไย วชั ชีภมู ผี อง กข็ ลาดกลวั บกลา้ หาญ ทกุ ไทไ้ ปเอาภาร และกลา้ ใครมเิ ปรยี บปาน ประชุมชอบกเ็ ชิญเขา ตา่ งทรงรบั สังวา่ ไฉนนันกท็ าํ เนา เราใช่เปนใหญ่ใจ บแลเห็นประโยชน์ เลย และทกุ องค์ธเพิกเฉย ทา่ นใดทเี ปนใหญ่ สมคั รเข้าสมาคมฯ พอใจใครใ่ นการ ปรกึ ษาหารอื กนั จกั เรยี กประชุมเรา รบั สังผลกั ไสส่ง ไปไดไ้ ปดงั เคย
ถถออดดคคําปําปรระพะพันันธธ์ ์ พราหมณ์ผเู้ ปนครูสังเกตเห็นดงั นัน กร็ ูว้ า่ เหลา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวกี าํ ลงั จะประสบความพินาศ จงึ ยนิ ดมี าก ทภี ารกจิ ประสบผลสําเรจ็ สมดงั ใจ หลงั จากเรมิ ตน้ ดว้ ยความบากบนั และความอดทนของตน จงึ ให้ลองตี กลองนัดประชุมกษัตรยิ ฉ์ วี เชิญทกุ พระองค์เสดจ็ มายงั ทปี ระชุม ฝายกษัตรยิ ว์ ชั ชีทงั หลายทรงสดบั เสียงกลองดงั กกึ กอ้ ง ทกุ พระองค์ไมท่ รงเปนธุระใน การเสดจ็ ไป ตา่ งองค์รบั สังวา่ จะเรยี กประชุมดว้ ยเหตุ ใด เราไมไ่ ดเ้ ปนใหญ่ ใจกข็ ลาด ไมก่ ลา้ หาญ ผใู้ ดเปน ใหญ่ มคี วามกลา้ หาญไมม่ ผี ใู้ ดเปรยี บได้ พอใจจะ เสดจ็ ไปรว่ มประชุมกเ็ ชิญเขาเถิด จะปรกึ ษาหารอื กนั ประการใดกช็ ่างเถิด จะเรยี กเราไปประชุมมองไมเ่ ห็น ประโยชน์ประการใดเลย รบั สังให้พ้นตวั ไป และทกุ พระองค์กท็ รงเพิกเฉยไมเ่ สดจ็ ไปเข้ารว่ มการประชุม เหมอื นเคย
17 อปุ ฎฐติ า ฉันทฯ์ เห็นเชิงพิเคราะห์ช่อง ชนะคลอ่ งประสบสม พราหมณ์เวทอดุ ม ธกล็ อบแถลงการณ์ คมดลประเทศฐาน ให้วลั ลภชน ภเิ ผา้ มคธไกร กราบทลู นฤบาล สนวา่ กษัตรยิ ใ์ น วลหลา้ ตลอดกนั แจง้ ลกั ษณสา คณะแผกและแยกพรรค์ วชั ชีบรุ ไกร ทเสมอื นเสมอมา ขณะไหนประหนึ งครา บดั นีสิกแ็ ตก กบ็ ไดส้ ะดวกดี ไปเปนสหฉั น พยหุ ์ยาตรเสดจ็ กรี รยิ ยทุ ธโดยไวฯ โอกาสเหมาะสมยั นีหากผจิ ะหา ขอเชิญวรบาท ธาทพั พลพี
18 ถอดคําประพันธ์ เมอื พิจารณาเห็นช่องทางทจี ะได้ ชัยชนะอยา่ งงา่ ยดาย พราหมณ์ผรู้ อบรู้ พระเวทกล็ อบส่งข่าว ให้คนสนิทเดนิ ทางกลบั ไปยงั บา้ นเมอื ง กราบทลู กษัตรยิ แ์ ห่งแควน้ มคธอนั ยงิ ใหญ่ ใน สาสน์แจง้ วา่ กษัตรยิ ว์ ชั ชีทกุ พระองค์ ขณะนีเกดิ ความแตกแยก แบง่ พรรค แบง่ พวก ไมส่ ามคั คีกนั เหมอื นแตเ่ ดมิ จะหาโอกาสอนั เหมาะสมครงั ใด เหมอื นดงั ครงั นีคงจะไมม่ อี กี แลว้ ขอ ทลู เชิญพระองค์ยกกองทพั อนั ยงิ ใหญ่ มาทาํ สงครามโดยเรว็ เถิด
19 วชิ ชุมมาลา ฉันทฯ์ ข่าวเศิ กเอกิ องึ ทราบถึงบดั ดล ในหมผู่ คู้ น ชาวเวสาลี แทบทกุ ถินหมด ชนบทบรู ี อกสันขวญั หนี หวาดกลวั ทวั ไป หมดเลอื ดสันกาย ตนื ตาหน้าเผอื ด วนุ่ หวนั พรนั ใจ หลบลหี นีตาย ซ่อนตวั แตกภยั ซกุ ครอกซอกครวั ทงิ ยา่ นบา้ นตน เข้าดงพงไพร ชาวคามลา่ ลาด ขุนดา่ นตาํ บล เหลอื จกั ห้ามปราม คิดผนั ผอ่ นปรน พันหัวหน้ าราษฎร์ มาคธข้ามมา หารอื แกก่ นั ปาวรอ้ งทนั ที จกั ไมใ่ ห้พล รุกเบยี นบฑี า วชั ชีอาณา จงึ ให้ตกี ลอง ปองกนั ฉันใด แจง้ ข่าวไพรี ไปมสี ักองค์ เพือหมภู่ มู ี เพือจกั เสดจ็ ไป ชุมนมุ บญั ชา เรยี กนัดทาํ ไม กลา้ หาญเห็นดี ราชาลจิ ฉวี ขัดข้องข้อไหน อนั นึกจาํ นง ตามเรอื งตามที ตา่ งองค์ดาํ รสั เปนใหญ่ยงั มี ใครเปนใหญ่ใคร รุ กปราศอาจหาญ ความแขงอาํ นาจ เชิญเทอญทา่ นตอ้ ง แกง่ แยง่ โดยมาน ปรกึ ษาปราศรยั วชั ชีรฐั บาล ส่วนเราเลา่ ใช่ แมแ้ ตส่ ักองค์ฯ ใจอยา่ งผภู้ ี ตา่ งทรงสําแดง สามคั คีขาด ภมู ศิ ลจิ ฉวี บช่ ุมนมุ สมาน
20 ถอดคําประพันธ์ ข่าวศึ กแพรไ่ ปจนรูถ้ ึงชาวเมอื งเวสาลี แทบทกุ คนในเมอื งตา่ งตกใจและหวาดกลวั กนั ไปทวั หน้าตา ตนื หน้าซีดไมม่ สี ีเลอื ด ตวั สัน พากนั หนีตายวนุ่ วาย พากนั อพยพครอบครวั หนีภยั ทงิ บา้ นเรอื นไปซ่มุ ซ่อนตวั เสียในปา ไมส่ ามารถห้ามปรามชาวบา้ นได้ หัวหน้าราษฎรและนายดา่ นตาํ บลตา่ ง ๆ ปรกึ ษากนั คิดจะยบั ยงั ไมใ่ ห้กองทพั มคธข้ามมาได้ จงึ ตกี ลอง ปาวรอ้ งแจง้ ข่าวข้าศึ กเข้ารุกราน เพือให้เหลา่ กษัตรยิ แ์ ห่งวชั ชีเสดจ็ มาประชุมหาหนทางปองกนั ประการใด ไมม่ กี ษัตรยิ ล์ จิ ฉวแี มแ้ ตพ่ ระองค์เดยี วคิด จะเสดจ็ ไป แตล่ ะพระองค์ทรงดาํ รสั วา่ จะเรยี ก ประชุมดว้ ยเหตใุ ด ผใู้ ดเปนใหญ่ ผใู้ ดกลา้ หาญ เห็นดปี ระการใดกเ็ ชิญเถิด จะปรกึ ษาหารอื อยา่ งไร กต็ ามแตใ่ จ ตวั ของเรานันไมไ่ ดม้ อี าํ นาจยงิ ใหญ่ จติ ใจกข็ ีขลาด ไมอ่ งอาจกลา้ หาญ แตล่ ะพระองค์ ตา่ งแสดงอาการเพิกเฉย ปราศจากความสามคั คี ปรองดองในจติ ใจ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวแี ห่งวชั ชีไมเ่ สดจ็ มาประชุมกนั แมแ้ ตพ่ ระองค์เดยี ว
21 อนิ ทรวเิ ชียร ฉันทฯ์ ปนเขตมคธขัต ตยิ รชั ธาํ รง ยงั ทพั ประทบั ตรง นคเรศวสิ าลี พิเคราะห์เหตณุ ธานี ภธู รธสังเกต ขณะเศิ กประชิดแดน แห่งราชวชั ชี และมนิ ึกจะเกรงแกลน รณทพั ระงบั ภยั เฉยดบู รูส้ ึก บมทิ าํ ประการใด ฤๅคิดจะตอบแทน บรุ วา่ งและรา้ งคน สยคงกระทบกล นิงเงยี บสงบงาํ ลกุ ระนีถนัดตา ปรากฏประหนึ งใน คิยพรรคพระราชา รจะพ้องอนั ตถ์ภยั แน่โดยมพิ ักสง รกกาลขวา้ งไป ทา่ นวสั สการจน ดจุ กนั ฉะนันหนอ กลแหยย่ ดุ พี อ ภนิ ทพ์ ัทธสามคั จะมริ า้ วมริ านกนั ชาวลจิ ฉววี า ธุระจบธจงึ บญั พทแกลว้ ทหารหาญ ลกู ข่างประดาทา ฬุคะเนกะเกณฑก์ าร หมนุ เลน่ สนกุ ไฉน จรเข้านครบร อดศิ ูรบดศี ร ครูวสั สการแส่ ทวิ รุง่ สฤษฎพ์ ลนั ปนปวนบเหลอื หลอ พยหุ าธทิ พั ขันธ์ พลข้ามณคงคา ครนั ทรงพระปรารภ พิศเนื องขนั ดคลา ชานายนิ กายสรร ลบิ เุ รศสะดวกดายฯ เรง่ ทาํ อฬุ ุมปเว เพือข้ามนทธี าร เขารบั พระบณั ฑรู ภาโรปกรณ์ ตอน จอมนาถพระยาตรา โดยแพและพ่วงปน จนหมดพหลเนื อง ขึนฝงลเุ วสา
22 ถอดคําประพันธ์ จอมกษัตรยิ แ์ ห่งแควน้ มคธหยดุ ทพั ตรงหน้าเมอื ง เวสาลี พระองค์ทรงสังเกตวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ทาง เมอื งวชั ชีในขณะทขี ้าศึ กมาประชิดเมอื ง ดนู ิงเฉยไมร่ ู้ สึกเกรงกลวั หรอื คิดจะทาํ สิงใดโตต้ อบระงบั เหตรุ า้ ย กลบั อยอู่ ยา่ งสงบเงยี บไมท่ าํ การสิงใด มองดรู าวกบั เปนเมอื งรา้ งปราศจากผคู้ น แน่นอนไมต่ อ้ งสงสัย เลยวา่ คงจะถูกกลอบุ ายของวสั สการพราหมณ์จนเปน เช่นนี ความสามคั คีผกู พันแห่งกษัตรยิ ล์ จิ ฉวถี ูก ทาํ ลายลงและจะประสบกบั ภยั พิบตั ิ ลกู ข่างทเี ดก็ ขวา้ งเลน่ ไดส้ นกุ ฉันใด วสั สการพราหมณ์กส็ ามารถ ยแุ หยใ่ ห้เหลา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวแี ตกความสามคั คีได้ ตามใจชอบและคิดทจี ะสนกุ ฉันนัน ครนั ทรงคิดได้ ดงั นันจงึ มพี ระราชบญั ชาแกเ่ หลา่ ทหารหาญให้รบี สรา้ งแพไมไ้ ผเ่ พือข้ามแมน่ าจะเข้าเมอื งของฝายศั ตรู พวกทหารรบั ราชโองการแลว้ กป็ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทไี ดร้ บั ในตอนเช้างานนันกเ็ สรจ็ ทนั ที จอมกษัตรยิ เ์ คลอื น กองทพั อนั มกี าํ ลงั พลมากมายลงในแพทตี ดิ กนั นํา กาํ ลงั ข้ามแมน่ าจนกองทพั หมดสิน มองดแู น่นขนัด ขึนฝงเมอื งเวสาลอี ยา่ งสะดวกสบาย
23 จติ รปทา ฉันทฯ์ นาครธา นิวสิ าลี เห็นรปิ มุ ี พลมากมาย ข้ามตริ ชล กล็ พุ ้นหมาย มงุ่ จะทลาย พระนครตน มนอกเตน้ ตา่ งกต็ ระหนก ตะละผคู้ น ตนื บมเิ วน้ มจลาจล ทวั บรุ คา อลเวงไป เสี ยงอลวน มขุ มนตรี รุ กเภทภยั สรรพสกล ทรปราศรยั ตรอมมนภี ขณะนี หนอ บางคณะอา พระทวารมนั ยงั มกิ ระไร อรกิ อ่ นพอ ชสภารอ ควรบรบิ าล วรโองการ ตา้ นปะทะกนั กจ็ ะไดท้ าํ ขัตตยิ รา รสั ภบู าล ดาํ รจิ ะขอ กเ็ คาะกลองขาน ดจุ กลองพัง ทรงตรไิ ฉน ประลโุ สตทา้ ว โดยนยดาํ ขณะทรงฟง เสวกผอง และละเลยดงั อาณัตปิ าน ธุระกบั ใคร ณสภาคา ศั พทอโุ ฆษ บรุ ทวั ไป ลจิ ฉวดี า้ ว และทวารใด ตา่ งธกเ็ ฉย สิ จะปดมฯี ธุระกบั ใคร ณสภาคา บรุ ทวั ไป และทวารใด สิ จะปดมฯี
24 ถอดคําประพันธ์ ฝายเมอื งเวสาลมี องเห็นข้าศึ กจาํ นวนมากข้าม แมน่ ามาเพือจะทาํ ลายลา้ งบา้ นเมอื งของตน ตา่ งก็ ตระหนกตกใจกนั ถ้วนหน้า ในเมอื งเกดิ จลาจล วนุ่ วายไปทวั เมอื ง ข้าราชการชันผใู้ หญ่ตา่ งหวาด กลวั ภยั บางพวกกพ็ ดู วา่ ขณะนียงั ไมเ่ ปนไรหรอก ควรจะปองกนั ประตเู มอื งเอาไวใ้ ห้มนั คง ตา้ นทาน ข้าศึ กเอาไวก้ อ่ น รอให้ทปี ระชุมเหลา่ กษัตรยิ ม์ ี ความเห็นวา่ จะทรงทาํ ประการใด กจ็ ะไดด้ าํ เนิน การตามพระบญั ชาของพระองค์ เหลา่ ข้าราชการ ทงั หลายกต็ กี ลองสัญญาณขึนราวกบั กลองจะพัง เสียงดงั กกึ กอ้ งไปถึงพระกรรณกษัตรยิ ล์ จิ ฉวี ตา่ ง องค์ทรงเพิกเฉยราวกบั ไมเ่ อาใจใส่ในเรอื งราวของ ผใู้ ด ตา่ งองค์ไมเ่ สดจ็ ไปทปี ระชุม แมแ้ ตป่ ระตู เมอื งรอบทศิ ทกุ บานกไ็ มม่ ผี ใู้ ดปด
25 สัททลุ วกิ กี ิต ฉันทฯ์ จอมทพั มาคธราษฎร์ ธ ยาตพยหุ กรี ธาส่วู สิ าลี นคร โดยทางอนั พระทวารเปดนรนิกร ฤๅรอตอ่ รอน อะไร เบอื งนันทา่ นคุรุวสั สการทชิ กไ็ ป นําทพั ชเนนทรไ์ ท มคธ เข้าปราบลจิ ฉวขิ ัตตยิ ร์ ฐั ชนบท ส่เู งอื มพระหัตถ์หมด และโดย ไปพักตอ้ งจะกะเกณฑน์ ิกายพหลโรย แรงเปลอื งระดมโปรย ประยทุ ธ์ ราบคาบเสรจ็ ธเสดจ็ ลรุ าชคฤหอตุ คมเขตบเุ รศดจุ ณ เดมิ เรอื งตน้ ยกุ ตกิ แ็ ตจ่ ะตอ่ พจนเตมิ ภาษิตลขิ ิตเสรมิ ประสงค์ ปรุงโสตเปนคตสิ นุ ทราภรณจง จบั ข้อประโยชน์ตรง ตรดิ ู ฯ
26 ถอดคําประพันธ์ จอมทพั แห่งแควน้ มคธกรธี าทพั เข้า เมอื งเวสาลที างประตเู มอื งทเี ปดอยโู่ ดยไมม่ ี ผคู้ นหรอื ทหารตอ่ ส้ปู ระการใด ขณะนันวสั สการพราหมณ์ผเู้ ปนอาจารยก์ ไ็ ปนําทพั ของ กษัตรยิ แ์ ห่งมคธเข้ามาปราบกษัตรยิ ล์ จิ ฉวี อาณาจกั รทงั หมดกต็ กอยใู่ นเงอื มพระหัตถ์ โดยทกี องทพั ไมต่ อ้ งเปลอื งแรงในการตอ่ สู้ ปราบราบคาบแลว้ เสดจ็ ยงั ราชคฤห์เมอื งยงิ ใหญ่ดงั เดมิ เนือเรอื งแตเ่ ดมิ จบลงเพียงนี แตป่ ระสงค์จะแตง่ สภุ าษิตเพิมเตมิ ให้ไดร้ บั ฟงเพือเปนคตอิ นั ทรงคุณค่านําไปคิด ไตรต่ รอง
27 อนิ ทรวเิ ชียร ฉันทฯ์ อนั ภบู ดรี า ชอชาตศั ตรู ไดล้ จิ ฉวภี ู วประเทศสะดวกดี วรราชวชั ชี แลสรรพบรรดา ฑอนั ตถ์พินาศหนา ถึงซึงพิบตั บิ ี คณะแตกและตา่ งมา หสโทษพิโรธจอง เหียมนันเพราะผนั แผก ทนสิ นบปรองดอง ถือทฐิ มิ านสา ตรมิ ลกั ประจกั ษ์เจอื รสเลา่ กง็ า่ ยเหลอื แยกพรรคสมรรคภนิ คตโิ มหเปนมลู ขาดญาณพิจารณ์ ตรอง ยนภาวอาดรู ยศศั กดเิ สือมนาม เชืออรรถยบุ ลเอา คุรุวสั สการพราหมณ์ เหตหุ ากธมากเมอื กลงาํ กระทาํ มา จงึ ดาลประการหา เสี ยแดนไผทสญู ควรชมนิ ยมจดั เปนเอกอบุ ายงาม
28 ถอดคําประพันธ์ พระเจา้ อชาตศั ตรูไดแ้ ผน่ ดนิ วชั ชีอยา่ ง สะดวก และกษัตรยิ ล์ จิ ฉวที งั หลายกถ็ ึงซึงความ พินาศลม่ จม เหตเุ พราะความแตกแยกกนั ตา่ งก็ มคี วามยดึ มนั ในความคิดของตน ผกู โกรธซึงกนั และกนั ตา่ งแยกพรรค แตก สามคั คีกนั ไมป่ รองดองกนั ขาดปญญาทจี ะ พิจารณาไตรต่ รอง เชือถ้อยความของบรรดา พระโอรสอยา่ งงา่ ยดาย เหตทุ เี ปนเช่นนันเพราะ กษัตรยิ แ์ ตล่ ะพระองค์ทรงมากไปดว้ ยความหลง จงึ ทาํ ให้ถึงซึงความฉิบหาย มภี าวะความเปนอยู่ อนั ทกุ ข์ระทม เสียทงั แผน่ ดนิ เกยี รตยิ ศ และชือ เสียงทเี คยมอี ยู่ ส่วนวสั สการพราหมณ์นันน่า ชืนชมอยา่ งยงิ เพราะเปนเลศิ ในการกระทาํ กล อบุ าย
พทุ ธาทบิ ณั ฑติ พิเคราะห์คิดพินิ จปรา 29 รภสรรเสรญิ สา ธุสมคั รภาพผล วา่ อาจจะอวยผา สกุ ภาวมาดล ดสี ่ณู หมตู่ น บนิราศนิรนั ดร หมใู่ ดผสิ ามคั คยพรรคสโมสร ไปปราศนิ ราศรอน คุณไรไ้ ฉนดล พรอ้ มเพรยี งประเสรฐิ ครนั เพราะฉะนันแหละบคุ คล ผหู้ วงั เจรญิ ตน ธุระเกยี วกะหมเู่ ขา พึงหมายสมคั รเปน มขุ เปนประธานเอา ธูรทวั ณตวั เรา บมเิ ห็นณฝายเดยี ว ควรยกประโยชน์ ยนื นรอนื กแ็ ลเหลยี ว ดบู า้ งและกลมเกลยี ว มติ รภาพผดงุ ครอง ยังทฐิ มิ านหย่อน ทมผอ่ นผจงจอง อารมี มิ หี มอง มนเมอื จะทาํ ใด ลาภผลสกลบรร ลกุ ป็ นกแ็ บง่ ไป ตามน้ อยและมากใจ สจุ รติ นิยมธรรม์ พึงมรรยาทยดึ สปุ ระพฤตสิ งวนพรรค์ รอื รษิ ยาอนั อปุ เฉทไมตรี ดงั นันณหมใู่ ด ผบิ ไรส้ มคั รมี พรอ้ มเพรยี งนิพัทธน์ ี รววิ าทระแวงกนั หวงั เทอญมติ อ้ งสง สยคงประสบพลนั ซึงสขุ เกษมสันต์ หิตะกอบทวกิ าร ใครเลา่ จะสามารถ มนอาจระรานหาญ หักลา้ งบแหลกลาญ กเ็ พราะพรอ้ มเพราะเพรยี งกนั ปวยกลา่ วอะไรฝงู นรสงู ประเสรฐิ ครนั ฤๅสรรพสัตวอ์ นั เฉพาะมชี ีวคี รอง แมม้ ากผกิ งิ ไม้ ผวิ ใครจะใครล่ อ มดั กาํ กระนันปอง พลหักกเ็ ตม็ ทน เหลา่ ไหนผไิ มตรี สละลณี หมตู่ น กจิ ใดจะขวายขวน บมพิ รอ้ มมเิ พรยี งกนั อย่าปรารถนาหวงั สขุ ทงั เจรญิ อนั มวลมาอบุ ตั บิ รร ลไุ ฉนบไดม้ ี ปวงทกุ ข์พิบตั สิ รร พภยันตรายกลี แมป้ ราศนิยมปรี ตปิ ระสงค์กค็ งสม ควรชนประชุมเช่น คณะเปนสมาคม สามคั คิปรารม ภนิพัทธราํ พึง ไปมกี ใ็ ห้มี ผวิ มกี ค็ ํานึง เนืองเพือภยิ โยจงึ จะประสบสขุ าลยั ฯ
30 ถอดคําประพันธ์ ผรู้ ูท้ งั หลายมพี ระพทุ ธเจา้ เปนตน้ ไดใ้ ครค่ รวญพิจารณา กลา่ วสรรเสรญิ วา่ ชอบแลว้ ในเรอื งผลแห่งความพรอ้ มเพรยี ง กนั ความสามคั คีอาจอาํ นวยให้ถึงซึงสภาพแห่งความผาสกุ ณ หมขู่ องตนไมเ่ สือมคลายตลอดไป หากหมใู่ ดมคี วามสามคั คี รว่ มชุมนมุ กนั ไมห่ ่างเหินกนั สิงทไี รป้ ระโยชน์จะมาส่ไู ด้ อยา่ งไร ความพรอ้ มเพรยี งนันประเสรฐิ ยงิ นัก เพราะฉะนัน บคุ คลใดหวงั ทจี ะไดร้ บั ความเจรญิ แห่งตนและมกี จิ ธุระอนั เปน ส่วนรวม กพ็ ึงตงั ใจเปนหัวหน้าเอาเปนธุระดว้ ยตวั ของเราเอง โดยมเิ ห็นประโยชน์ตนแตฝ่ ายเดยี ว ควรยกประโยชน์ให้บคุ คล อนื บา้ ง นึกถึงผอู้ นื บา้ ง ตอ้ งกลมเกลยี ว มคี วามเปนมติ รกนั ไว้ ตอ้ งลดทฐิ มิ านะ รูจ้ กั ข่มใจ จะทาํ สิงใดกเ็ ออื เฟอกนั ไมม่ คี วาม บาดหมางใจ ผลประโยชน์ทงั หลายทเี กดิ ขึนกแ็ บง่ ปนกนั ไป มากบา้ งน้อยบา้ งอยา่ งเปนธรรม ควรยดึ มนั ในมารยาทและ ความประพฤตทิ ดี งี าม รกั ษาหมคู่ ณะโดยไมม่ คี วามรษิ ยากนั อนั จะตดั รอนไมตรี ดงั นันถ้าหมคู่ ณะใดไมข่ าดซึงความสามคั คี มคี วามพรอ้ มเพรยี งกนั อยเู่ สมอ ไมม่ กี ารววิ าท และระแวงกนั กห็ วงั ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งสงสัยวา่ คงจะพบซึงความสขุ ความสงบ และประกอบดว้ ยประโยชน์มากมาย ใครเลา่ จะมใี จกลา้ คิดทาํ สงครามดว้ ย หวงั จะทาํ ลายลา้ งกไ็ มไ่ ด้ ทงั นีเพราะความพรอ้ ม เพรยี งกนั นันเอง กลา่ วไปไยกบั มนษุ ยผ์ ปู้ ระเสรฐิ หรอื สรรพ สัตวท์ มี ชี ีวติ แมแ้ ตก่ งิ ไมห้ ากใครจะใครล่ องเอามามดั เปนกาํ ตงั ใจใช้กาํ ลงั หักกย็ ากเตม็ ทน หากหมใู่ ดไมม่ คี วามสามคั คีใน หมคู่ ณะของตน และกจิ การอนั ใดทจี ะตอ้ งขวนขวายทาํ กม็ พิ รอ้ ม เพรยี งกนั กอ็ ยา่ ไดห้ วงั เลยความสขุ ความเจรญิ จะเกดิ ขึนได้ อยา่ งไร ความทกุ ข์พิบตั อิ นั ตรายและความชัวรา้ ยทงั ปวง ถึงแม้ จะไมต่ อ้ งการกจ็ ะตอ้ งไดร้ บั เปนแน่แท้ ผทู้ อี ยรู่ วมกนั เปนหมู่ คณะหรอื สมาคม ควรคํานึงถึงความสามคั คีอยเู่ ปนนิจ ถ้ายงั ไมม่ กี ค็ วรจะมขี ึน ถ้ามอี ยแู่ ลว้ กค็ วรให้เจรญิ รุง่ เรอื งยงิ ขึนไปจงึ จะถึงซึงความสขุ ความสบาย
อธบิ ายคําศั พท์ 31 คําศั พท์ ความหมาย กถา ถ้อยคํา กลห์เหตุ เหตแุ ห่งการทะเลาะ กสิ ก ชาวนา ไกวล ทวั ไป ขัตตยิ ์ พระเจา้ แผน่ ดนิ คดี เรอื ง คม ไป ชเนนทร์ ทม ผเู้ ปนใหญ่ ทลทิ ภาว ความข่มใจ ทวั บรุ คาม ยากจน ทชิ ทวั บา้ นทวั เมอื ง ผเู้ กดิ สองครงั (พราหมณ์) ทนิ นครบร วนั เมอื งของข้าศึ ก
อธบิ ายคําศั พทย์ าก 32 คําศั พท์ ความหมาย นย,นั ย เค้าความ ความหมาย นยมาน ใจความสํ าคัญ(มาน=หัวใจ) นรนิ กร นฤพัทธ ฝงู ชน นฤสาร บอ่ ยๆ เนืองๆ นิ วตั ไมม่ สี าระ นี รผล กลบั ประเด ประศาสน์ ไมเ่ ปนผล ปรากรม มอบให้หมด ปรุ งโสต สั งสอน ความเพียร ปลาต ปวตั น์ ตกแตง่ ไพเราะน่าฟง พฤฒิ หายไป ความเปนไป ผเู้ ฒา่ หมายถึง วสั สการพราหมณ์
อธบิ ายคําศั พทย์ าก 33 คําศั พท์ ความหมาย พิเฉท ทาํ ลาย การตดั ขาด พิชากร วชิ าความรู้ พทุ ธาทบิ ณั ฑติ ผรู้ ู้ มพี ระพทุ ธเจา้ เปนตน้ ภตั ข้าว ภาโรปกรณ์ ภนิ ทพ์ ัทธสามคั คิย เครอื งมอื ตามทไี ดร้ บั มอบหมาย ภยิ โย การแตกสามคั คี ภรี ุก ยงิ ขึนไป ภมู ศิ มน ขลาด กลวั มนสรมณ์ พระราชา มาน ยกุ ติ ใจ รหุฐาน สมดงั ทคี ิด ความถือตวั ยตุ ิ จบสิน รโหฐานหมายถึง ทสี งดั ทลี บั
อธบิ ายคําศั พทย์ าก 34 คําศั พท์ ความหมาย ลกั ษณสาสน จดหมาย เลา รูปความ ข้อความ อบุ ายหลอกลอง วญั จโนบาย คนสนิ ท วลั ลภชน ผดิ ปกติ วริ ุธ การแตกสามคั คี ความสมคั รสมานสามคั คี สมรรคภนิ ทน หมเู่ หลา่ สมคั รภาพ หมู่ พวก สหกรณ ห้องเรยี น สา ทที มี คี วามสขุ สิ กขสภา สขุ าลยั ฟง เสาวน สภุ าพ ละมนุ ละมอ่ ม เสาวภาพ หายน์ ,หายน ความเสื อม
อธบิ ายคําศั พทย์ าก 35 คําศั พท์ ความหมาย หิตะ ประโยชน์ เหียมนั น เหตนุ ัน อนั ตถ์ ไมเ่ ปนประโยชน์ อนกุ รม ตามลาํ ดบั อภเิ ผา้ ผเู้ ปนใหญ่ อาคม มา มาถึง อปุ เฉทไมตรี ตดั ไมตรี อรุ ส โอรส ลกู ชาย อฬุ ุมปเวฬุ แพไมไ้ ผ่ เอาธูร เอาใจใส่ เปนธุ ระ เอาภาร รบั ภาระ รบั ผดิ ชอบ
คณุ คา่ วรรณคดี 36 ดา้ นวรรณศิ ลป การใช้โวหารภาพพจน์ เช่น ๑. การเปรยี บเทยี บแบบอปุ มาอปุ ไมย เช่น การกลา่ วถึงความรุง่ เรอื งของ แควน้ มคธ “เมอื งทา้ วสิเทยี บทพิ เสมอ ภพเลอสรุ าลยั เมอื งทา้ วแหละสมบรุ ณไพ บลุ มวลประการมา” วสั สการพราหมณ์เปรยี บนาพระราชหฤทยั กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี “เมตตาทยาลศุ ุภกรรม อปุ ถัมภการุณย์ สรรเสรญิ เจรญิ พระคุณสนุ ทรพนู พิบลู งาม เปรยี บปานมหรรณพนที ทะนทุ ปี ระทงั ความ รอ้ นกายกระหายอทุ กยาม นรหากประสบเห็น เอบิ อมิ กระหยมิ หทยคราว ระอผุ า่ วกผ็ อ่ นเยน็ ยงั อณุ หมญุ จนะและเปน สขุ ปตดิ ใี จ”
37 ดา้ นวรรณศิ ลป ๒. การเปรยี บเทยี บแบบอปุ ลกั ษณ์ เช่น ตอนวสั สการพราหมณ์กลา่ วเปรยี บเทยี บทหารของแควน้ วชั ชี กบั ทหารของแควน้ มคธวา่ “หิงห้อยสิแข่งสรุ ยิ ะไหน จะมนิ ่าชิวาลาญ” *ผอู้ า่ นยอ่ มจะเข้าใจไดว้ า่ หิงห้อยนันหมายถึงกองทพั มคธ ส่วนสรุ ยิ ะนันหมายถึงกองทพั วชั ชี ตอนพระเจา้ อชาตศั ตรูทรงเปรยี บเทยี บการแตกสามคั คีของ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี วา่ “ลกู ข่างประดาทา รกกาลขวา้ งไป หมนุ เลน่ สนกุ ไฉน ดจุ กนั ฉะนันหนอ” ๓. ใช้คําทกี อ่ ให้เกดิ ความรูส้ ึก เช่น ตอนพรรณนากองทพั ของ พระเจา้ อชาตศั ตรู “แรงหัตถ์กวดั แกวง่ ซึงสรรพ์ ศั สตราวธุ อนั วะวาบวะวาวขาวคม” คํา วะวาบวะวาว กอ่ ความรูส้ ึกให้ผอู้ า่ นนึก เกรงขามไดด้ มี าก
38 ดา้ นวรรณศิ ลป ๔. การเพิมสัมผสั เพิมสัมผสั นอกเข้าไปเพือให้ไพเราะยงิ ขึน นอกจากนียงั เพิมครุ ลหุเข้าไป ในกาพยส์ รุ างคนางค์ ๒๘ ทาํ ให้เกดิ ลลี าคึกคักเหมาะสมกบั ทอ้ งเรอื ง เช่น ตอนบรรยายการจดั กองทพั ของพระเจา้ อชาตศั ตรู “สะพรบึ สะพรงั ณหน้ าและหลงั ณซ้ายและขวา ละหมลู่ ะหมวด กต็ รวจกต็ รา ประมวลกะมา สิ มากประมาณ” ๕. การหลากคํา เช่น “ขุนคอคชคุมกมุ องั กสุ กรายทา้ ยยงั ขุนควาญประจาํ ดาํ ร”ี “ขุนคชขึนคชชินชาญ คุมพลคชสาร ละตวั กาํ แหงแข็งขัน” *คําวา่ คช ดาํ รแี ละคชสาร หมายถึงช้างทงั สิน
39 ดา้ นเนือหา ๑. กวมี คี วามเชียวชาญในการแตง่ คําประพันธเ์ ปนอยา่ งมาก และ สามารถใช้ฉันทลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งงดงามเหมาะสม โดยเลอื กฉันท์ ชนิดตา่ ง ๆ มาใช้สลบั กนั ตามความเหมาะสมกบั เนือเรอื ง ทาํ ให้ เนือเรอื งน่าจดจาํ และมคี วามไพเราะสละสลวย ๒. นิทานสภุ าษิตเรอื งสามคั คีเภทคําฉันทม์ กี ารประพันธท์ ใี ช้ภาษา เข้าใจงา่ ย ทาํ ให้ผอู้ า่ นเห็นภาพที ผปู้ ระพันธต์ อ้ งการจะสือไดอ้ ยา่ ง ชัดเจน ๓. เปนวรรณคดทไี ดร้ บั การยกยอ่ งวา่ มคี วามไพเราะงดงามเปนที นิยม เนืองจากมกี ารเลน่ สัมผสั ใน ทงั สัมผสั อกั ษรและสัมผสั สระ อยา่ งไพเราะ
40 ดา้ นการนําไปใช้ ๑. การขาดการพิจารณาไตรต่ รอง นําไปซึงความสญู เสีย ดงั เช่น เหลา่ กษัตรยิ ล์ จิ ฉวี “ขาดการพิจารณาไตรต่ รอง” คือ ขาดความ สามารถในการใช้ปญญาตรติ รองพิจารณาสอบสวน และใช้ เหตผุ ลทถี ูกตอ้ ง จงึ หลงกลของวสั สการพราหมณ์ ถูกยแุ หยใ่ ห้ แตกความสามคั คีจนเสียบา้ นเสียเมอื ง เพราะฉะนัน การใช้ วจิ ารณญาณไตรต่ รองกอ่ นทาํ การใด ๆ จงึ เปนสิงทดี ี ๒. การเลอื กใช้บคุ คลให้เหมาะสมกบั งานจะทาํ ให้งานสําเรจ็ ได้ ดว้ ยดี ๓. การถือความคิดของตนเปนใหญ่และทะนงตนวา่ ดกี วา่ ผอู้ นื ยอ่ มทาํ ให้เกดิ ความเสียหายแกส่ ่วนรวม
41 ดา้ นสังคม ๑. สะทอ้ นวฒั นธรรมของคนในสังคม ➢ สะทอ้ นภาพการปกครองโดยระบอบสามคั คีธรรม เน้น โทษของการแตกความสามคั คี ในหมคู่ ณะ และเน้นถึงหลกั ธรรม อปรหิ านิยธรรม 7 ประการ ซึงเปนหลกั ธรรมทสี ่งผล ให้เกดิ ความเจรญิ ของหมคู่ ณะ ปราศจากความเสือม ไดแ้ ก่ ■ ไมเ่ บอื หน่ายการประชุม เมอื มภี ารกจิ กป็ ระชุมปรกึ ษา หารอื กนั เพือช่วยกนั คิดหาทางแกไ้ ขปญหา ■ เข้าประชุมพรอ้ มกนั เลกิ ประชุมพรอ้ มกนั รว่ มกนั ประกอบกจิ อนั ควรกระทาํ - มคี วามสามคั คีกนั ■ ยดึ มนั ในจารตี ประเพณีอนั ดงี าม และประพฤตดิ ปี ฏบิ ตั ิ ตามสิงทบี ญั ญัตไิ ว้ ๒. แสดงให้เห็นถึงโทษของการแตกความสามคั คีในหมคู่ ณะ ➢ ถ้าไมส่ ามคั คีเปนอนั หนึงอนั เดยี วกนั กจ็ ะนําบา้ นเมอื งไป ส่คู วามหายนะได้ (ฝายตรงข้ามสามารถใช้จดุ ออ่ นในเรอื งนี เพือโจมตไี ดง้ า่ ย) ๓. เน้นการใช้สตปิ ญญาไตรต่ รองในการแกไ้ ขปญหามากกวา่ การใช้กาํ ลงั
ง บรรณานกุ รม กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๑)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/330820. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๒)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/330832. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๓)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/332007. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๔)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/332012. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๕)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/332031. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. กลั ยาณี ถนอมแกว้ . \"ถอดความสามคั คีเภทคําฉันทใ์ นบทเรยี น (๗)\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://www.gotoknow.org/posts/328970. 2553, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. ณัฐชยา เพ็ชรรตั น์. \"ใบความรูเ้ รอื ง สามคั คีเภทคําฉันท\"์ [ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/a/watpa.ac.th/krunatchaya /bi-khwam-ru-reuxng-samakhkhi-pheth-kha-chanth. สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. บวร แกว้ หมนื ทรง. \"สามคั คีเภทคําฉันท\"์ [ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/site/faiitanradee19. 2551, สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔.
ฉ บรรณานกุ รม ปยะฤกษ์ บญุ โกศล. \"วชิ ชุมมาลาฉันท์ ๘\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://krupiyarerk.wordpress.com/tag/ฉันทลกั ษณ์ วชิ ชุมมาลาฉันท์ ๘ สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔. ปยะฤกษ์ บญุ โกศล. \"อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑\"[ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก https://krupiyarerk.wordpress.com/tag/ฉันทลกั ษณ์ อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ๑๑ สืบค้นเมอื ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๔.
Search
Read the Text Version
- 1 - 47
Pages: