Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

3

Published by Guset User, 2021-10-05 07:11:15

Description: 3

Search

Read the Text Version

BIOLOGY ม.4ชีววทิ ยา เร่ืองเซลล์

ก คานา รายงานฉบบั นีเ้ ป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ าวทิ ยาการคานวณ ผจู้ ดั ทาไดจ้ ดั ทาโครงงานวชิ าชีววทิ ยาเร่อื งเซลลจ์ ดั ทาขนึ้ เพ่ือศกึ ษาเก่ียวกบั ส่งิ มีชีวติ ขนาดเลก็ ผจู้ ดั ทาไดศ้ กึ ษา คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเตอรเ์ นต็ และแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งๆโดยมี จดุ ประสงคเ์ พ่ือใหผ้ จู้ ดั ทาไดฝ้ ึกการคน้ ควา้ และนาสง่ิ ท่ี ศกึ ษาไดม้ าสรา้ งเป็นโครงงานตามหลกั การของวทิ ยาการ คานวณ การจดั ทาโครงงานในครงั้ นีผ้ จู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ การจดั ทาเอกสารฉบบั นีจ้ ะมีขอ้ มลู ท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ ผู้ ท่ีมาศกึ ษา

ข สารบญั เรอ่ื ง หนา้ คานา ก สารบญั ข แบบทดสอบก่อนเรยี น 1 เซลล์ 2 เย่ือหมุ้ เซลล์ 3 ออรแ์ กเนลล์ 4 ผนงั เซลล์ 5 รูปเซลลพ์ ืชเซลลส์ ตั ว์ 6 แบบทดสอบหลงั เรยี น 7 ผจู้ ดั ทา 9 บรรณานกุ รม 10

1 แบบทดสอบก่อนเรียน

2 เซลล์ เซลล์ (องั กฤษ: cell จากภาษาละตินcella แปลวา่ หอ้ ง เลก็ ๆ)เป็นโครงสรา้ งและหนว่ ยการทางานพืน้ ฐานท่ีสดุ ของ สง่ิ มีชีวิตทกุ ชนิดท่ีทราบกนั เซลลเ์ ป็นหน่วยย่อยท่ีสดุ ท่ีจะ เรยี กวา่ \"ชีวติ \" ได้ ในบางครงั้ อาจเรยี กวา่ \"หนว่ ยโครงสรา้ งของ ชีวิต\" (the building block of life) การศกึ ษาเก่ียวกบั เซลลเ์ รยี กวา่ ชีววทิ ยาของเซลล์ (cell biology), ชีววิทยา ระดบั เซลล,์ หรอื เซลลว์ ิทยา (cytology) เซลลป์ ระกอบจากไซโทพลาซมึ ท่ีมีเย่ือหมุ้ ลอ้ มรอบ ภายในไซ โทพลาซมึ บรรจสุ ารชีวโมเลกลุ เช่นโปรตีนและกรด นิวคลอิ ิก เซลลข์ องพืชและสตั วส์ ว่ นใหญ่สามารถมองเหน็ ได้ ดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศนแ์ บบใชแ้ สงท่ีมีมิติ (dimension) ระหวา่ ง 1 ถงึ 100 ไมโครเมตรกลอ้ งจลุ ทรรศนอ์ เิ ลก็ ตรอนให้ ความคมชดั และรายละเอียดท่ีมากกวา่ ส่ิงมีชีวติ ถกู จาแนก ออกเป็นสง่ิ มีชีวติ เซลลเ์ ดียว (unicellular; เชน่ แบคทีเรยี ) และหลายเซลล(์ multicellular; เช่นพืชและสตั ว)์ โดย สงิ่ มีชีวิตเซลลเ์ ดียวสว่ นมากจดั เป็น จลุ ชีพ (microorganism)

3 จานวนของเซลลใ์ นพืชและสตั วแ์ ตกตา่ งกนั ออกไปตามแต่ ละสปีชีส์ มีการประมาณวา่ รา่ งกายของมนษุ ยม์ ีจานวน เซลลท์ ่ี 40 ลา้ นลา้ น (4×1013) เซลล์ สาหรบั เซลลใ์ น สมองอยทู่ ่ีประมาณ 8 หม่ืนลา้ นเซลล์ รอเบริ ต์ ฮกุ (Robert Hooke) เซลลค์ น้ พบใน ค.ศ. 1665 โดยตงั้ ช่ือวา่ cell เน่ืองจากเขาเปรยี บเซลลข์ องไม้ ก๊อกท่ีเหน็ วา่ มีลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั หอ้ งท่ีนกั บวชใน ศาสนาครสิ ตใ์ ชอ้ าศยั ภายในอาราม ใน ค.ศ. 1839 มตั ทิ อสั ยาคอบ ชไลเดน (Matthias Jakob Schleiden) และทีโอดอร์ ชวานน(์ Theodor Schwann) พฒั นาทฤษฎีเซลลท์ ่ีกลา่ ววา่ ส่งิ มีชีวติ ทกุ ชนิดลว้ นประกอบขนึ้ จากหนง่ึ เซลลห์ รอื มากกวา่ หนง่ึ , เซลลเ์ ป็นโครงสรา้ งและหนว่ ยการทางานท่ีเป็นขนั้ มลู ฐาน ของส่งิ มีชีวติ ทกุ ชนิด, และเซลลท์ งั้ หมดกาเนิดมาจาก เซลลท์ ่ีมีอยกู่ ่อน (preexisting cell) เซลลป์ รากฏขนึ้ บนโลกเม่ือประมาณ 3.5 พนั ลา้ นปีกอ่ น

เยอ่ื หุม้ เซลล์ 4 เย่ือหมุ้ เซลล์ หรอื พลาสมาเมมเบรน เป็นเย่ือชีวภาพท่ี ลอ้ มรอบไซโทพลาซมึ สาหรบั ในสตั ว์ เย่ือหมุ้ เป็นขอบเขตนอก สดุ ของเซลล์ ในขณะท่ีพืชและโพรแครโิ อตมกั หมุ้ ดว้ ยผนงั เซลล์ เย่ือหมุ้ ทาหนา้ ท่ีแยกและปกปอ้ งเซลลจ์ ากสิ่งแวดลอ้ ม ภายนอก โดยประกอบจากชนั้ คขู่ องฟอสโฟลพิ ดิ ท่ีมีสมบตั เิ ป็น แอมฟิฟิลิก (มีทงั้ สว่ นท่ีเป็นไฮโดรโฟบกิ และไฮโดรฟิลกิ ) ดว้ ย เหตนุ ีจ้ งึ ถกู เรียกวา่ ฟอสโฟลิพดิ ไบแลร์ (phospholipid bilayer) หรอื อาจเรยี กวา่ ฟลอู ิดโมเซอิคเมมเบรน (fluid mosaic membrane) มีโครงสรา้ งระดบั โมเลกลุ ท่ี เรยี กวา่ พอโรโซม (porosome) เป็นทางผา่ นเอนกประสงค์ สาหรบั การหล่งั สารของเซลล์ และมีโมเลกลุ ของโปรตีนจานวน มากทาหนา้ ท่ีเป็นทงั้ ชอ่ งทางผา่ นและป๊ัม สาหรบั เคล่อื นสารเขา้ และออกจากเซลล์ เย่ือหมุ้ เซลลย์ อมให้ สารบางอยา่ งผา่ น โดยใหส้ สาร เชน่ โมเลกลุ หรอื ไอออน ผา่ นได้ อยา่ งอสิ ระ, ผ่านไดใ้ นจานวนท่ีจากดั , หรอื ผา่ นไมไ่ ดเ้ ลยแมแ้ ต่ นอ้ ย นอกจากนีผ้ วิ นอกของเย่ือหมุ้ เซลลย์ งั มีโปรตีน ตวั รบั (receptor protein) ท่ีทาใหเ้ ซลลส์ ามารถตรวจจบั โมเลกลุ ส่อื สญั ญาณเชน่ ฮอรโ์ มน

5 ออรแ์ กเนลล์ ออรแ์ กเนลลเ์ ป็นสว่ นหนง่ึ ของเซลลท์ ่ีปรบั ตวั และ/หรอื พฒั นา ไปทาหนา้ ท่ีสาคญั เปรบี ยไดก้ บั อวยั วะ (organ) ของ รา่ งกายมนษุ ยเ์ ช่นหวั ใจ, ไต, และตบั โดยแตล่ ะอวยั วะมีหนา้ ท่ี ตา่ งกนั ออกไปทงั้ โพรแครโิ อตและยแู ครโิ อตมีออรแ์ กเนลล์ แต่ ออรแ์ กเนลลข์ องโพรแครโิ อตมีความซบั ซอ้ นนอ้ ยกวา่ และไมม่ ี เย่ือหมุ้ ออรแ์ กเนลล์ ออรแ์ กเนลลม์ ีอยหู่ ลายชนิด บางชนดิ พบแยกอยเู่ ด่ียว ๆ (เชน่ นิวเคลียสและกอลไจแอปพาราตสั ) ในขณะท่ีบางชนิดพบได้ จานวนมาก ตงั้ แตห่ ลายรอ้ ยถงึ หลายพนั (เชน่ ไมโคอนเดรยี , คลอโรพลาสต,์ เพอรอกซโิ ซม, และไลโซโซม

6 ผนังเซลล์ เซลลโ์ พรแครโิ อตและยแู ครโิ อตหลายชนิดมีผนงั เซลลท์ ่ีทา หนา้ ท่ีปกปอ้ งเซลลจ์ ากสง่ิ แวดลอ้ มทงั้ เชิงกลและเชิงเคมี และเป็นชนั้ เสรมิ การปอ้ งกนั ใหก้ บั เย่ือหมุ้ เซลล์ เซลลต์ า่ ง ชนิดกนั มีผนงั เซลลท์ ่ีองคป์ ระกอบตา่ งกนั ออกไปเชน่ เซลล์ พืชมีผนงั เซลลท์ ่ีประกอบขนึ้ จากเซลลโู ลส, ผนงั เซลลข์ อง เหด็ ราท่ีประกอบขนึ้ จากไคทิน, และผนงั เซลลข์ องแบคทีเรยี ท่ีประกอบขนึ้ จากเพปทโิ ดไกลแคน

เซลลส์ ัตว์ 7 เซลลพ์ ชื

8 แบบทดสอบหลังเรยี น

9 ผู้จัดทา นางสาว เกวรนิ ทร์ สะสวย ม.4/1 เลขท่ี3 นางสาว ปณิตา สคุ า ม.4/1 เลขท่ี13 นางสาว นจุ รยี ์ กานตว์ รเดช ม.4/1 เลขท่ี12 นางสาว ธนั ยพร กนั ทะวฒั ม.4/1 เลขท่ี10 นางสาว ศภุ กานต์ จินดาประภาพร ม.4/1 เลขท่ี20

10 บรรณานุกรม เซลล์ ( ชีววทิ ยา ) https://th.Wikipedia.org› wiki › เซลล์ ( ชีววทิ ยา )


Share
Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook