Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่4 เทคโนโลยีบล็อกเชน

บทที่4 เทคโนโลยีบล็อกเชน

Published by 20-Prawnapa-PWS1-1, 2021-02-05 09:51:23

Description: บทที่4 เทคโนโลยีบล็อกเชน

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 4 เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain )

บทนา แนวคดิ เทคโนโลยที ใี่ ชใ้ นการทาธรุ กรรมโดย ไม่ตอ้ งผ่านบคุ คลทสี่ าม หรอื ทเี่ รยี กวา่ บล็อก เชน ( Block Chain ) เป็ นเทคโนโลยที จี่ ะส่งผล กระทบตอ่ การเปลยี่ นแปลงการทาธรุ กรรมตา่ ง ๆ ในอนาคตและปัจจบุ นั ไดถ้ กู นามาใชใ้ นประเทศ ไทยแลว้ แตย่ งั ไม่แพรห่ ลายมากนัก เนื่องจาก ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั เทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) ยงั อย่ใู นวงแคบเฉพาะผูท้ ี่ เชยี่ วชาญดา้ นเทคโนโลยหี รอื หน่วยงานทมี่ กี ล ยทุ ธใ์ นการพฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยเี ทา่ น้ัน

ความหมายของเทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) เทคโนโลยีบลอ็ กเชน ( Block Chain ) คือ ระบบการเก็บขอ้ มลู สาธารณะ ในรูปแบบ รายการเดนิ บญั ชี ( Ledger )โดยระบบนีไ้ มจ่ าเป็นตอ้ งใชต้ วั กลางในการบรหิ ารจดั การ ขอ้ มลู เพราะเป็นการเก็บขอ้ มลู แบบกระจายศนู ย์ ( Decentralise ) ซง่ึ ขอ้ มลู ทงั้ หมดจะถกู ทาสาเนาและเก็บบนคอมพวิ เตอรใ์ นเครอื ขา่ ยทกุ เคร่อื งหรอื ท่ีเรยี กวา่ Node คาวา่ บลอ็ ก เชนนนั้ มาจากการเรยี กขอ้ มลู ดิจิทลั วา่ “บลอ็ ก” ( Block ) ซง่ึ ในระบบนีจ้ ะถกู เก็บใน ฐานขอ้ มลู โดยยงั คงขอ้ มลู ท่ีเก็บไวเ้ ดิมอยแู่ ลว้ เปรียบเสมือนการตอ่ หว่ งโซ่เดมิ หรือ “เชน” ( Cnain ) น่นั เอง

เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) เป็นเทคโนโลยที ี่จะมาเปล่ียนวธิ ีการทา ธุรกรรมทุกชนิด และเป็นแพลตฟอร์มในการทาธุรกรรมแบบเพียทูเพยี ( P2P ) ที่มีการ บนั ทึกขอ้ มูลรายการธุรกรรมท้งั หมดแบบกระจายศูนย์ ซ่ึงเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) ไดถ้ ูกการพฒั นาเป็น คร้ังแรกในภาคการเงินเพ่ือใชเ้ ป็นพ้ืนฐานสาหรับเงินดิจิทลั ( Cryptocurrency ) ซ่ึงการพฒั นาเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) สามารถออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ ๆ

1. Block Chain 1.0 เป็นยคุ แรกสาหรบั เทคโนโลยีบล็อกเชน ( Block Chain )ยคุ นีเ้ ป็นเร่อื งเก่ียวกบั “เงินตรา” โดยจะเป็นการนาระบบส่อื กลางในการแลกเปล่ียนรูปแบบดทิ ลั ( Cryptocurrency ) มาใชใ้ น โปรแกรมตา่ ง ๆ โดยเนน้ ไปท่ีเร่อื งการเงนิ เป็นหลกั เชน่ การโอนเงิน การโอนเงินระหวา่ งประเทศและระบบ การจา่ ยเงนิ ในรูปแบบดจิ ิทลั เป็นตน้ 2. Block Chain 2.0 คือ เป็นยคุ ท่ีเรยี กวา่ “สญั ญาตา่ ง ๆ” เทคโนโลยีบลอ็ กเชนใน ยคุ นีถ้ กู นาไปใชใ้ น ระบบท่ีมีความซบั ซอ้ นมากขนึ้ และมากกวา่ ระบบการโอนเงินท่ีเคยมีมา เชน่ หนุ้ ตราสารหนี้ ฟิวเจอร์ สนิ เช่ือ การจานอง กรรมสทิ ธิ์ กรรมสทิ ธิ์อจั ฉรยิ ะ สญั ญาอจั ฉรยิ ะ เป็นตน้ 3. Block Chain 3.0 คือ เป็นยคุ ท่ีเรยี กวา่ “โปรแกรมบล็อกเชน” ( Block Chain Applications ) เน่ืองจากเทคโนโลยีบลอ็ กเชนไมไ่ ดถ้ กู จากดั อยใู่ นวงการการเงนิ เทา่ นน้ั แตย่ งั ถกู นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ธรุ กจิ หรอื หน่วยงานรฐั อ่นื ๆ เชน่ ดา้ นรฐั บาล ดา้ นสขุ ภาพ ดา้ นวิทยาศาสตร์ ดา้ นวรรณกรรม ดา้ นวฒั นธรรม และ ดา้ นศิลปะ ซง่ึ แสดงวา่ ในยคุ นี้ โปรแกรม ทกุ อยา่ งท่ีมนษุ ยใ์ ชถ้ กู นาไปเช่ือมกบั เทคโนโลยีบล็อกเชนทง้ั หมด

หลกั การทางานของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) หลกั การทางานของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) คือฐานขอ้ มูลจะถูกแชร์ใหก้ บั ทุก อุปกรณ์ในเครือข่ายบลอ็ กเชน ( Note ) ท่ีอยใู่ นเครือข่ายและการทางานของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain) จะไม่มีเครื่องใดเคร่ืองหน่ึงเป็นศนู ยก์ ลาง หรือเครื่องแม่ข่ายซ่ึงการทางาน แบบกระจายศูนยน์ ้ีจะไม่ถูกควบคุมโดยคนเพยี งคนเดียว แต่ทุกอุปกรณ์ในเครือข่ายบลอ็ กเชน ( Node ) เปรียบไดก้ บั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์โทรศพั ทห์ รืออื่น ท่ีสามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เนต็ และประมวลผลได้ ซ่ึงถือวา่ เป็นโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีสาคญั ในการกระจายและเชื่อมโยงกนั ในเครือข่ายเพอื่ ใหร้ ะบบสามารถทางานและประมวลผลได้ จะไดร้ ับสาเนาฐานขอ้ มูลเกบ็ ไวแ้ ละ จะมีการ ปรับปรุงฐานขอ้ มูลแบบอตั โนมตั ิ เมื่อมีขอ้ มูลใหม่เกิดข้ึนท้งั น้ีสาเนาฐานขอ้ มูลของ ทุกคนในเครือข่ายจะตอ้ งถูกตอ้ งและตรงกนั กบั ของ สมาชิกคนอื่นในเครือข่าย อีกท้งั การบนั ทึก ขอ้ มูลเขา้ สู่กล่องเกบ็ ขอ้ มูล ( Block ) และการทาขอ้ ตกลงร่วมกนั ( Consensus ) จากสมาชิก ในเครือข่ายดว้ ยกนั ก่อนทาการบรรจุขอ้ มูลลงกล่องเกบ็ ขอ้ มูล ( Block ) และเพมิ่ เขา้ สู่เทคโนโลยี บลอ็ กเชน ( Block (Chain ) เพ่อื เป็นการป้องกนั และรับประกนั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลโดยแต่ละ เครือข่าย เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) จะมีการกาหนดกฎเกณฑใ์ นการตรวจสอบหรือ ที่เรียกวา่ ยนื ยนั ความถูกตอ้ งของรายการหรือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ขอ้ ตกลงร่วมกนั ( Consensus ) ข้ึนมาเพอ่ื ใชใ้ นเครือข่าย หลกั การทางานพ้ืนฐานท่ีสาคญั ของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) เมื่อเกิด การทา ธุรกรรมต่าง ๆ ข้ึนในระบบขอ้ มูลจะถูกบนั ทึกแบบเขา้ รหสั ไวเ้ ป็นกล่องเกบ็ ขอ้ มูล ( Block ) และ จะถูกเชื่อมโยงต่อ ๆ กนั โดย ที่จะไม่มีใครคนใดคนหน่ึงสามารถเขา้ ไปแกไ้ ขเปล่ียนแปลงขอ้ มูล ในบลอ็ กใด ๆ ไดเ้ ลย สาเหตุกเ็ พราะทุกคนต่างกม็ ีสาเนาหรือประวตั ิการ ทาธุรกรรมท้งั หมดอยู่ กบั ตวั จึงเป็นเรื่องท่ียากหรือเป็นไปไม่ไดห้ ากจะมีใครซกั คนเขา้ มาแกไ้ ขหรือปลอมแปลงขอ้ มูล

ตวั อย่างการโอนเงนิ ดว้ ยเทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) 1. A ตอ้ งการโอนเงิน (สง่ ขอ้ มลู ) ไปให้ B ผา่ นเลขบญั ชีโดยใชก้ ญุ แจสว่ นตวั พรอ้ ม รหสั ผา่ นและกญุ แจสาธารณะ 2. เก็บขอ้ มลู การเดินบญั ชีไวใ้ นสมดุ จดบญั ชี 3. ยืนยนั ความถกู ตอ้ ง 4. เพ่มิ กลอ่ งเก็บขอ้ มลู ( Block ) ไปยงั Chain 5. เงินถกู ถา่ ยโอนและปรบั ขอ้ มลู แกผ่ ใู้ ช้

องคป์ ระกอบของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) การทางานของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) มีองคป์ ระกอบสาคญั อยู่ 4 องคป์ ระกอบสาคญั คือ (สานกั งานพฒั นารัฐบาลดิจิทลั องคก์ ารมหาชน : 2562) 1. กล่องเกบ็ ขอ้ มูล ( Block ) ทาหนา้ ท่ีกระจายไปใหท้ ุกคนที่เกี่ยวขอ้ งเกบ็ เอาไว้ โดยขอ้ มูลเหล่าน้นั ไม่สามารถแกไ้ ข หรือเปล่ียนแปลงได้ และทุกๆ คร้ังท่ีมีการทาธุรกรรมใหม่ เกิดข้ึนจะมีการสร้างกล่องใหม่ข้ึนมา 2. ระบบการผกู ( Chain ) เป็นการนากลอ้ งมาผกู เขา้ ดว้ ยกนั โดยการผกู ดว้ ยวธิ ี Hash Function (การนาเอาขอ้ มูลตน้ ฉบบั มาทาการเขา้ รหสั ผา่ นกระบวนการทางดา้ นคณิตศาสตร์) ซ่ึงเปรียบเสมือนลายนิ้วมือของไฟลท์ ่ีใชใ้ น การยนื ยนั ความถูกตอ้ งจากขอ้ มูลท่ีแต่ละคนถือเอาไว้ ถือเป็นตวั แทนของขอ้ มูลตน้ ฉบบั ซ่ึงค่าท่ีไดม้ ีโอกาสท่ีซ้ากนั ยากมากจึงเป็นคุณสมบตั ิที่เช่ือมนั่ ได้ ในการนามาใชย้ นื ยนั ขอ้ มูลท่ี แต่ละบุคคลถือไว้ 3. การตกลงร่วมกนั ( Consensus ) เป็นการกาหนดขอ้ ตกลงที่ตอ้ งเห็นพอ้ งร่วมกนั ดว้ ยอลั กอริทึมต่าง ๆ แลว้ แต่ การตกลง ท้งั น้ีเพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจที่ตรงกนั ในเร่ืองกฎและ เครื่องมือที่ใชใ้ นเครือขา่ ยของผใู้ ช้

4. การตรวจสอบ ( Validation ) เป็นการยนื ยนั ความถูกตอ้ งเพื่อใหเ้ กิดความเชื่อมนั่ ร่วมกนั ซ่ึงกระบวนการตรวจสอบ ตอ้ งเกิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว เม่ือมีการทาธุรกรรมเกิดข้ึนจะสร้าง กล่องใหม่ข้ึนมา จากน้นั จะเขา้ สู่กระบวนการเชื่อมโยงกล่องเขา้ กบั ห่วงโซ่ที่ผกู รวมกนั โดยมีการยนื ยนั ตวั เองของผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั ธุรกรรมน้นั ซ่ึงขอ้ มูลธุรกรรมที่สร้างใหม่จะตอ้ งไดร้ ับ การ เห็นชอบจากผใู้ ชค้ นอ่ืน ๆ ในห่วงโซ่ผา่ นขอ้ ตกลงท่ีมีร่วมกนั ก่อนหนา้ น้ีและระบบจะทาการตรวจสอบทาใหเ้ ทคโนโลยบี ลอ็ ก เชน ( Block Chain ) ไดร้ ับความเชื่อมนั่ ดา้ นความปลอดภยั และ ความถูกตอ้ งสูง กระเป๋ าอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ( Wallet) สาหรับเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) สาหรับการใชง้ านเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) ผใู้ ชต้ อ้ งมีแอปพลิเคชน่ั หรือโปรแกรม เพื่อใชเ้ ป็น เคร่ืองมือในการทาธุรกรรมในเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน ( Block Chain ) ดงั น้นั จึงตอ้ งมีกระเป๋ า อิเลก็ ทรอนิกส์ ( Wallet ) ใหบ้ ริการดว้ ยเพ่ือสร้างรายการเดินบญั ชี ( Ledger ) ข้ึนมาผกู ไวร้ อ สาหรับการทาธุรกรรม กระเป๋ าอิเลก็ ทรอนิกส์ ( Wallet ) ถือเป็นประตูด่านแรกของผใู้ ชท้ ่ีจะเขา้ ถึง เทคโนโลยี บลอ็ กเชน ( Block Chain )

คณุ สมบตั ขิ องเทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) การจดั เกบ็ ขอ้ มูลในรูปแบบของกล่องเกบ็ ขอ้ มูล ( Block ) โดยเช่ือมต่อแต่ละกล่องดว้ ยHasshFunction (การนาเอาขอ้ มูลตน้ ฉบบั มาทาการเขา้ รหสั ผา่ นกระบวนการทางดา้ นคณิตศาสตร์) และกระจายใหท้ ุก ๆ อุปกรณ์ใน เครือข่ายบลอ็ กเชน เกบ็ ทาใหเ้ กิดคุณสมบตั ิท่ีสาคญั ของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน 3 ประการคือ 1. ความถกู ตอ้ งเท่ียงตรงของขอ้ มลู 2. ความโปรง่ ใสในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู 3. ความสามารถในการทางานไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ืองของระบบ

ประโยชนแ์ ละขอ้ จากดั ของเทคโนโลยีบลอ็ กเชน ( Block Chain ) ประโยชนข์ องเทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) จากลกั ษณะการทางานและคณุ สมบตั ขิ องบล็อกเชนทกี่ ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ เทคโนโลยี บล็อกเชนมปี ระโยชนด์ งั ตอ่ ไปนี้ 1. ไมต่ อ้ งมีคนกลางในการทาธุรกรรม 6. มีความโปรง่ ใสและไมส่ ามารถเปล่ียนแปลงได้ 2. ผใู้ ชง้ านสามารถควบคมุ ดแู ลขอ้ มลู ของตนเอง 7. มีความเรยี บงา่ ย 3. ขอ้ มลู ในระบบมีคณุ ภาพสงู 8. มีการส่อื สารขอ้ มลู กนั ไดไ้ ว 4. ความแขง็ แรงและเช่ือถือไดข้ องระบบล็อก 9. ลดตน้ ทนุ ในการส่อื สารหรือสง่ ผา่ นขอ้ มลู ไดเ้ ม่ือไมม่ ี 5. มีขน้ั ตอนท่ีถกู ตอ้ ง คนกลางในการดแู ลรกั ษาขอ้ มลู แลว้

การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยบี ล็อกเชน ( Block Chain ) การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีบลอ็ กเชน ชว่ ยเพ่มิ ประสทิ ธิภาพของระบบการจดั การขอ้ มลู ธรุ กรรมและพรอ้ มทงั้ ลดตน้ ทนุ และระยะเวลาการธรุ กรรม โดยขนั้ ตอนและระยะเวลาในการ ประสานงานเพ่ือยืนยนั ขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงานจะลดลง ยกตวั อยา่ งเชน่ 1. การเงินและการธนาคาร 6. อตุ สาหกรรมประกนั ภยั 2. อตุ สาหกรรมยานยนต์ 7. สายธรุ กิจสขุ ภาพ 3. การบรจิ าคและอดุ มทนุ 8. มอนิเตอรโ์ ครงสรา้ งตา่ งๆในเมือง 4. วงการส่ือ 9. งานเอกสาร 5. วงการแพทย์

จดั ทำโดย นำงสำว พรำวนภำ สกลุ ณี ชน้ั ปวส 1/1 เลขท่ี 20 วชิ ำ เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพ่อื กำรจดั กำรอำชพี อำจำรยน์ รำภรณ์ บวั นชุ

Thanks


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook