พื้นดินประมาณ 0.5-1.5 เมตร เปน็ แมลงวันผลไมท้ ีม่ ีเขตแพรก่ ระจายทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย ทำลายพชื ผักตระกลู แตง มีพืชอาหารกวา่ 28 ชนิด เป็นแมลงท่ีมี peak (ประชากรสงู สดุ ) การระบาด มากกว่า 1 peak จงึ มกี ารแพรก่ ระจายเกือบตลอดทั้งปี ในประเทศไทยมพี ชื อาศัยมากกว่า 21 ชนดิ 4. Bactrocera tau (Walker) แมลงชนิดน้ีมีขนาดใหญ่กว่าแมลงวันผลไม้ชนิดแรกเล็กน้อย ลำตัวมีสีดำคล้ำ มีแถบ สีเหลอื งบนอกด้านสนั หลงั จำนวน 3 แถบ ดา้ นขา้ งอก 2 แถบ และตรงกลางอก 1 แถบ ปกี ใสไม่มี แถบสดี ำตามแนวขวางของปีก ปลายปกี มีแถบสดี ำหนาจนดเู ป็นจดุ ทป่ี ลายปีก มเี ขตแพรก่ ระจายทว่ั ไป ในประเทศไทย มีพืชอาศยั มากกว่า 11 ชนดิ 5. Bactrocera umbrosa (Fabricius) แมลงชนิดนมี้ ีขนาดลำตัวและสสี ันใกล้เคียงกับแมลงวนั ผลไม้ชนดิ B. correcta กลางปกี มีแถบสีน้ำตาลพาดตามแนวขวาง มีเขตแพร่กระจายทั่วไปในประเทศไทย มีพืชอาศัยพวกขนุน และ จำปาดะฯ 6. Bactrocera latifrons (Hendel) แมลงวันผลไม้ชนิดน้ีขนาดใกล้เคียงกับแมลงวันผลไม้ชนิด B. correcta แต่มีสีเข้มกว่า เล็กน้อย ปลายอวัยวะวางไข่ของเพศเมียเป็นรูปยอดดอกจิก (Trilobe) มีเขตแพร่กระจายท่ัวไปใน ประเทศไทย มพี ืชอาศยั มากกว่า 9 ชนดิ พรกิ ชฟ้ี ้า พริกขหี้ นู ยเ่ี ข่ง มะเขือเปราะ มะแว้งต้น มะเขอื ยาว มะแวง้ เครอื มะเขอื พวงฯ 7. Bactrocera zonata (Saunders) แมลงวันผลไม้ชนิดนี้มีขนาดรูปร่างใกล้เคียงกับแมลงวันผลไม้ชนิด B. correcta แต่ม ี สเี ข้มกวา่ เลก็ นอ้ ย สามารถแยกชนดิ จากแมลงวันผลไม้อนื่ ๆ ไดง้ า่ ย โดยดทู ่สี ว่ นหนา้ ของแมลง จะพบ วา่ แมลงวนั ผลไมช้ นดิ B. zonata ที่ใตฐ้ านหนวดระหว่าง clypius และ gena (แก้ม) จะเปน็ จุดสีดำ ข้างละจุด ในขณะท่ี B. correcta จะมีแถบสีดำแคบๆ พาดขวางกลางหน้า เหนือส่วน clypius จำนวน 2 แถบ มีเขตแพร่กระจายในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง มีพืชอาศัยคือ ท้อ มะม่วง มะตูม กระโดนหนิ เชอร่ี มะคา่ โมง 8. Bactrocera carambolae Drew & Hancock แมลงชนิดน้ีมีรูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาและขนาด ที่เหมือนกับแมลงวันผลไม้ชนิด B. dorsalis ทุกประการเม่ือดูด้วยตาเปล่า มีเขตแพร่กระจายในเขตภาคใต้และภาคกลางตอนล่าง มีพืชอาศัยไม่น้อยกว่า 30 ชนิด ที่สำคัญคือ ฝรั่ง ขนุน ชมพู่ กะท้อน ส้ม ละมดุ มะม่วง มะเฟอื ง ตะลิงปลงิ แมลงศตั รไู ม้ผล 141
9. Bactrocera tuberculata (Bezzi) เป็นแมลงวันผลไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่าชนิด B. dorsalis มีขนาดใกล้เคียงกันกับแมลงวัน ผลไมช้ นดิ B. tau ปกี มแี ถบสนี ำ้ ตาลออ่ น ทขี่ อบปกี ดา้ นหนา้ พบระบาดในแถบภาคเหนอื และภาคกลาง ของประเทศไทย ทำลายไม้ผลพวก ท้อ แอปเปิ้ล มะไฟ มะม่วง ละมุด มะละกอ มะกอก กระโดน กระโดนหนิ เปน็ ตน้ รูปรา่ งลกั ษณะและชวี ประวตั ิ Bactrocera (Bactrocera) dorsalis (Hendel), Oriental fruit fly วงจรชีวิตของแมลงวนั ผลไม้ B. dorsalis ศกึ ษาในผลชมพู่สด ทม่ี ีอุณหภูมเิ ฉลี่ย 23.10 องศา เซลเซียส และความชืน้ สมั พัทธ์เฉล่ีย 91.07 เปอรเ์ ซน็ ต์ พบวา่ การเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะไข่ ตัวเตม็ วัยเพศเมยี จะวางไขเ่ ป็นฟองเด่ียวๆ หรือเป็นกลมุ่ ๆ ละ 2-3 ฟอง ในผลชมพู่ ลึกจากผิวประมาณ 2.0-5.0 มิลลิเมตร ไข่มีขนาดเล็กสีขาวผิวเป็นมันสะท้อนแสง รูปร่างคล้ายผล กล้วย เมอื่ ใกล้ฟกั มสี ีขาวขุ่น ขนาดกว้างเฉลยี่ 0.21 มลิ ลเิ มตร ยาวเฉลี่ย 1.27 มลิ ลเิ มตร ระยะไข่ 42-72 ชว่ั โมง ไขม่ เี ปอรเ์ ซน็ ตก์ ารฟกั สงู ถงึ 87% ระยะหนอน หนอนมลี ักษณะหวั แหลม ท้ายป้าน ไมม่ ีขา สว่ นหัวมีลักษณะเป็นตะขอแข็งสีดำ เมือ่ ฟกั ออกจากไขใ่ หมๆ่ ลำตัวใสส่วนหวั ทเี่ ปน็ ตะขอมีสนี ำ้ ตาล ขนาดลำตัวกวา้ งเฉลีย่ 0.25 มิลลเิ มตร ยาวเฉล่ีย 1.07 มลิ ลเิ มตร หนอนมี 3 วยั หนอนโตเต็มวยั มขี นาดลำตวั กวา้ งเฉล่ยี 1.67 มลิ ลเิ มตร ยาว เฉล่ีย 7.63 มิลลิเมตร หนอนในระยะน้ีสามารถดีดตัวได้ไกลประมาณ 30 เซนติเมตร หาทำเลที่เหมาะสม ในการเข้าดักแดใ้ นดนิ ระยะหนอน 6-8 วัน ระยะหนอนมีเปอร์เซ็นต์การรอด 63.22% ระยะดกั แด้ ดักแด้มลี ักษณะกลมรคี ล้ายถังเบียร์ ดักแด้ระยะแรกมสี ีขาวและจะคอ่ ยๆ เปล่ยี น เป็นสีน้ำตาลอ่อน จากน้ันสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นเม่ือดักแด้ใกล้ฟัก ระยะน้ีแมลงไม่มีการเคล่ือนไหวอาศัย ในดินลึกประมาณ 2.0-5.0 เซนติเมตร ดักแด้มีขนาดกว้างเฉลี่ย 2.18 มิลลิเมตร ยาวเฉลี่ย 4.71 มลิ ลิเมตร ระยะดักแด้ 9-10 วนั ระยะดักแด้มเี ปอร์เซ็นตก์ ารรอด 82.61% ระยะตวั เตม็ วยั ตัวเตม็ วัยเป็นแมลงวนั มสี นี ำ้ ตาลแดงทั้งลำตวั และขา มแี ถบสีเหลืองทส่ี ่วนอก ปีกบางใสสะทอ้ นแสง ระยะน้ไี ม่ทำลายพชื ตวั เต็มวยั หลงั จากออกจากดกั แด้ประมาณ 8 วัน จึงเริม่ จบั คู่ผสมพันธุ์และเริ่มวางไข่ โดยวางไข่ในผลของพืชอาศยั ตวั เตม็ วัยเพศเมียมคี วามสามารถในการวางไข่ ตลอดอายุขัยได้ 1,200-1,300 ฟอง วางไข่ได้สูงสุด 40 ฟอง/วัน โดยมีอัตราส่วนเพศเมียต่อเพศผู้ เท่ากับ 1 : 1.36 ตัวเต็มวยั เพศเมียเม่ือกางปีกมขี นาดกว้างเฉล่ยี 1.47 เซนติเมตร ลำตวั ยาวเฉล่ยี 0.93 เซนติเมตร ตัวเต็มวัยเพศเมียมีอายุ 79-120 วัน เฉล่ีย 95.03 วัน ตัวเต็มวัยเพศผู้เมื่อกางปีก แมลงศัตรไู มผ้ ล 142
มีขนาดกว้างเฉล่ีย 1.42 เซนติเมตร ลำตัวยาวเฉลยี่ 0.82 เซนตเิ มตร ตวั เตม็ วยั เพศผูม้ อี ายุ 86-132 วัน เฉล่ยี 97.50 วนั วงจรชวี ติ จากไขถ่ ึงตัวเต็มวยั 17-21 วัน Bactrocera (Bactrocera) correcta (Bezzi), Guava fruit fly วงจรชวี ิตของแมลงวันผลไมช้ นิด B. correcta ศึกษาในผลฝรั่งสด ทอ่ี ุณหภมู ิเฉล่ีย 24.81 องศา เซลเซียส และความชื้นสัมพทั ธ์เฉลย่ี 91.07 เปอร์เซ็นต์ พบว่ามกี ารเจรญิ เตบิ โตแบง่ ออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะไข่ ตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่มๆ ละ 2-3 ฟองในผลฝรั่ง ลึกจากผิวประมาณ 2.0-5.0 มิลลิเมตร ไข่มีสีขาวผิวเป็นมันสะท้อนแสง รูปร่างคล้ายผลกล้วยขนาดเล็ก เม่ือใกลฟ้ กั มีสขี าวขุ่น ขนาดกว้างเฉลยี่ 0.27 มิลลเิ มตร ยาวเฉลี่ย 1.13 มลิ ลเิ มตร ระยะไข่ 36-48 ชว่ั โมง ไขม่ เี ปอรเ์ ซน็ ตก์ ารฟกั สงู ถงึ 91.80% ระยะหนอน หนอนมีลักษณะหัวแหลม ท้ายป้าน ไม่มีขา ส่วนหัวมีลักษณะเป็นตะขอแข็งสีดำ เมื่อฟักออกจากไข่ใหม่ๆ ลำตัวใส ส่วนหัวที่เป็นตะขอมีสีน้ำตาล ขนาดลำตัวกว้างเฉล่ีย 0.30 มิลลิเมตร ยาวเฉลย่ี 1.28 มิลลิเมตร ตวั หนอนเคลื่อนท่โี ดยการยืดหดลำตวั หนอนมี 3 วยั หนอนโตเตม็ วยั มขี นาด ลำตัวกว้างเฉล่ีย 1.95 มิลลิเมตร ยาวเฉล่ีย 8.17 มิลลิเมตร หนอนในระยะน้ีมีลักษณะพิเศษ คือ ตัวหนอนสามารถดีดตัวได้ไกลประมาณ 30 เซนติเมตร การดีดตัวเพ่ือช่วยในการหาทำเลที่เหมาะสม ในการเขา้ ดักแดใ้ นดิน ระยะหนอน 5-6 วนั ระยะหนอนมเี ปอรเ์ ซ็นต์การรอดชีวิต 58.17% ระยะดักแด้ ดักแด้มีลักษณะกลมรีคล้ายถังเบียร์ ลำตัวมีลักษณะเป็นปล้องๆ ตามแนวขวาง ดกั แดใ้ นระยะแรกมีสขี าวและค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีนำ้ ตาลอ่อนจากนั้นสีจะคอ่ ยๆ เข้มขนึ้ ระยะนแ้ี มลงไม่มี การเคลอื่ นไหว ดักแดอ้ าศัยในดินลึกประมาณ 2.0-5.0 เซนติเมตร มขี นาดกว้างเฉล่ยี 2.26 มิลลิเมตร ยาวเฉล่ยี 5.16 มิลลิเมตร ระยะดกั แด้ 7-10 วัน ระยะน้เี ปอร์เซน็ ต์การรอดชีวิต 86.14% ระยะตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยเป็นแมลงวันมีสีน้ำตาลแดงทั้งลำตัวและขา มีแถบสีเหลืองที่ส่วนอก ปีกบางใสสะท้อนแสงที่ปลายปีกมีจุดเล็กๆ สีดำซ่ึงเป็นลักษณะสำคัญของแมลงชนิดน้ีในการใช้จำแนก ชนิด ระยะน้ีไม่ทำลายพืช กนิ นำ้ หวาน โปรตีน และวติ ามิน ท่ไี ด้จากสงิ่ ขับถ่ายจากแมลง นก นำ้ ยางจาก แผลของตน้ ไม้ นำ้ หวานจากพืช และเช้อื จุลินทรยี ์บนพ้นื ดนิ (Drew and Lloyd, 1989) ตัวเตม็ วยั หลัง ออกจากดกั แด้ 21 วัน จงึ เริ่มจบั คู่ผสมพันธ ์ุ จากน้ัน 3-4 วนั จงึ เร่มิ วางไขโ่ ดยวางไข่ในผลของพืชอาศยั ตัวเต็มวัยเพศเมียสามารถวางไข่ตลอดอายุขัยได้ 232-754 ฟอง เฉลี่ย 409.78 ฟอง โดยวางไข่ได้สูงสุด 44 ฟอง/วนั ซง่ึ มอี ัตราสว่ นเพศผูต้ ่อเพศเมียเทา่ กบั 1 : 1.16 ตัวเตม็ วัยเพศเมียเมอื่ กางปีกมีขนาดกว้างเฉล่ยี 12.05 มลิ ลิเมตร ลำตัวยาวเฉลี่ย 6.90 มิลลิเมตร อายุขยั 56-144 วนั เฉลีย่ 98.70 วัน ส่วนตัวเต็มวัย เพศผู้เมอ่ื กางปีกมขี นาดกว้างเฉลย่ี 11.74 มิลลเิ มตร ลำตวั ยาวเฉล่ยี 5.74 มลิ ลเิ มตร อายขุ ยั 48-122 วนั เฉลย่ี 85.80 วัน วงจรชีวติ จากไขถ่ ึงตวั เตม็ วัย 14-18 วนั แมลงศัตรูไมผ้ ล 143
การป้องกันกำจัดแมลงวนั ผลไม ้ แมลงวันผลไม้เป็นแมลงศัตรูพืชอีกชนิดหนึ่งที่การใช้สารฆ่าแมลงแต่เพียงอย่างเดียวไม่มี ประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดเหมือนแมลงศัตรูพืชชนิดอ่ืน การป้องกันกำจัดจำเป็นต้องใช้หลายวิธี รว่ มกัน เพอ่ื ป้องกนั การเขา้ ทำลายของแมลงวนั ผลไม้ โดยประกอบด้วยวธิ กี ารต่างๆ ดงั น้ี 1. รักษาความสะอาดในแปลงปลกู โดยหม่นั เก็บผลทถ่ี กู แมลงวันผลไมเ้ ข้าทำลายหรอื ผลที่เน่า ออกจากแปลงปลกู จากนัน้ นำไปฝังกลบโดยต้องให้หน้าดนิ หนาอยา่ งน้อย 15 เซนตเิ มตร เพอ่ื ไมใ่ หต้ วั เต็มวัยมุดออกจากดินได้ หรืออาจนำไปหมักทำปุ๋ยชีวภาพ ท้ังนี้ เพื่อเป็นการลดการสะสมและขยาย พนั ธุ์ของแมลงวนั ผลไม้ในแปลงปลกู 2. ควรทำการตัดแตง่ กง่ิ ให้โปร่งเพอื่ ลดการเกดิ ร่มเงาในทรงพุม่ ทำใหส้ ภาพแวดลอ้ มไม่เหมาะสม ต่อการแพร่ระบาดของแมลงวันผลไม้ และให้ศัตรูธรรมชาติมีบทบาทในการทำลายแมลงวันผลไม้ได้ มากข้นึ 3. การห่อผลเพ่ือป้องกันการวางไข่ของแมลงวันผลไม้ สามารถเลือกใช้วัสดุต่างๆ เช่น กระดาษหนงั สอื พิมพ์ กระดาษสมดุ โทรศัพท์ กระดาษถงุ สนี ้ำตาล ถุงพลาสติก เปน็ ต้น ทงั้ นี้ ขึ้นกับชนิด พชื และการหอ่ ผลต้องหอ่ ในเวลาทีเ่ หมาะสม เช่น ฝรั่ง : ควรห่อผลด้วยถุงพลาสติกชนิดสีขาว ขนาด 6x14 น้ิว ท่ีมีความหนาไม่น้อยกว่า 12.5 ไมครอน และมีการเจาะรูแบบซ่อนรูปสำเร็จมาจากโรงงาน และใช้กระดาษสมุดหน้าเหลืองห่อ เป็นรูปกรวยปิดทับถุงพลาสติกอีกช้ัน เพ่ือป้องกันแสงและทำให้ผิวฝร่ังสวยขึ้น การห่อผลควรเร่ิมห่อ ผลเม่ือฝรงั่ อายุ 8 สปั ดาห์หลงั ดอกบาน (สญั ญาณ,ี 2549) ชมพู่ : ควรห่อผลด้วยถุงพลาสตกิ สขี าวขนาด 8x16 น้ิว ที่มีความหนาไมน่ ้อยกว่า 12.5 ไมครอน และมีการเจาะรูแบบซ่อนรูปสำเร็จมาจากโรงงาน การห่อผลควรเริ่มห่อเมื่อผลชมพู่อาย ุ 2 สปั ดาหห์ ลงั ไหมรว่ ง และไว้ผลประมาณ 3-4 ผลตอ่ ชอ่ เพือ่ ป้องกนั การเข้าทำลายของแมลงวันผล ไม้และหนอนแดง (สัญญาณี และคณะ 2555) มะม่วง : ควรหอ่ ผลด้วยถงุ กระดาษสีน้ำตาล หรือถงุ กระดาษที่ภายในเคลือบโดยกระดาษ คาร์บอน หรอื กระดาษเคลอื บทีด่ ้านเป็นพลาสตกิ บาง เช่น กระดาษหอ่ ขา้ วมนั ไก่ ท้ังนี้ ข้นึ อยู่กบั พนั ธ์ุ มะม่วง เช่น มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองนิยมห่อด้วยถุงกระดาษที่ภายในเคลือบโดยกระดาษคาร์บอน เพื่อป้องกันการวางไข่ของแมลงวันผลไม้และให้ผิวเหลืองเป็นสีทอง การห่อผลควรเร่ิมห่อเมื่อมะม่วง ตดิ ผลอายุได้ประมาณ 60 วัน 4. การใช้กับดักล่อเพ่ือเป็นตัวชี้วัดปริมาณแมลงวันผลไม้ในแปลงปลูก โดยใช้กับดักแมลงวัน แมลงศัตรไู มผ้ ล 144
ผลไม้แบบ Steiner ท่ีภายในแขวนกอ้ นสำลีชุบสาร methyl eugenal ผสมสารฆา่ แมลง malathion (ไดมาร์ค 83% EC) ในอัตรา 4 : 1 แขวนในทรงพ่มุ ของตน้ ไม้ผลในแปลงปลูกทร่ี ะดบั ความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร จำนวน 1 กับดักต่อพ้ืนที่ 1 ไร่ หม่ันสังเกตปริมาณแมลงวันผลไม้ในกับดักทุกสัปดาห ์ ถา้ พบวา่ มีปรมิ าณแมลงวันผลไมใ้ นกับดักมากขนึ้ ใหฉ้ ดี พ่นสารฆา่ แมลงเพ่อื ลดปรมิ าณในแปลงปลกู 5. การใช้สารฆ่าแมลงเพ่ือลดประชากรแมลงวันผลไม้ในแปลงปลูก ใช้สารฆ่าแมลง profenofos 50% EC อตั รา 75 มิลลลิ ติ รต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ malathion 57% EC อัตรา 20-30 มิลลลิ ติ รต่อนำ้ 20 ลติ ร หรือ triazophos 40% EC อัตรา 20-30 มลิ ลิลติ รต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ lambdacyhalothrin 2.5% CS อตั รา 5 มิลลลิ ิตรต่อน้ำ 20 ลติ ร พน่ 1-2 คร้งั ห่างกนั 7 วัน เมอ่ื พบวา่ มแี มลงวนั ผลไม้ในแปลงปลูกระบาดมาก 6. พ่นด้วยเหย่ือพิษท่ีประกอบด้วยยีสต์โปรตีน (แซนซ-ไฟล) อัตรา 200 มิลลิลิตร ผสมกับ สารฆา่ แมลง malathion 57% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรในน้ำ 5 ลติ ร ทุก 7 วัน ควรพน่ ในเวลาเชา้ ตรู่ หลังน้ำค้างแห้งและเวลาเย็น การพ่นควรเร่ิมพ่นก่อนห่อผล 1 สัปดาห์ จนถึงเก็บเก่ียว เพื่อลด ประชากรแมลงวนั ผลไมใ้ นแปลงปลกู การป้องกันกำจัดแมลงวนั ผลไม้ดว้ ยเหยื่อพิษ เหยื่อท่ีใช้ล่อแมลงวันผลไม้เป็นวัสดุเหลือใช้ท่ีได้จากโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ (กาก เบียร์หรือยีสต์ออโตไลเซท) ยีสต์ออโตไลเซทมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบท่ีสำคัญ จากการอาศัยความรู้ พ้ืนฐานทางด้านชีววิทยา พบว่าแมลงวันผลไม้เมื่อฝักออกจากดักแด้ใหม่ๆ มีความต้องการอาหารท่ีมี โปรตนี สูง ท้ังน้ี เพอ่ื ใช้ในการพัฒนาอวัยวะสืบพนั ธ์แุ ละวางไข่ ดังนั้น การหาอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่าง ยีสต์ออโตไลเซทแล้วนำมาผสมกับสารฆ่าแมลง malathion 57% EC (เหยื่อพิษ) พ่นทิ้งไว้บนใบพืช จึงเป็นการล่อให้แมลงวันผลไม้มากินและตายในท่ีสุด โดยยีสต์ออโตไลเซทมีความสามารถในการ ดึงดูดแมลงวันผลไม้ได้ทั้งเพศผู้และเพศเมีย ท้ังนี้ เนื่องจากมีลักษณะเหมือนอาหารที่แมลงวันผลไม้มี ความตอ้ งการ แตก่ ารใช้เหย่อื พิษมขี อ้ จำกดั คอื ระยะทางในการดงึ ดูดจะไมไ่ กลนักโดยสามารถส่งกลน่ิ ลอ่ แมลงวันผลไมไ้ ด้ไมเ่ กิน 10 เมตร และมอี ายกุ ารใช้งานส้นั ประมาณ 7 วัน เม่ือพ่นยีสต์ออโตไลเซท ไปบนตน้ ไม้หรอื ผสมกับสารอน่ื ๆ ทัง้ น้ี เน่ืองจากแสงแดด และเช้ือจลุ ินทรีย์ในบรรยากาศจะทำใหย้ ีสต์ ออโตไลเซทแปรสภาพไปทีละน้อย จนไม่สามารถดึงดดู แมลงวันผลไม้ได้ วธิ ีการพ่นเหย่ือพิษ การใช้เหยือ่ พิษในประเทศไทยสามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 วธิ ี คือ 1. การพ่นเหยือ่ พิษแบบเป็นจุด (Spot Treatment ) วิธนี ้เี ปน็ วิธีทนี่ ิยมกนั มากท่ีสดุ และใช้ กันอยา่ งแพร่หลายทัว่ ไปในประเทศต่างๆ เพราะเปน็ วธิ ีท่ีประหยดั ใช้สารฆ่าแมลงนอ้ ย จึงปลอดภัยตอ่ ผู้ผลิต (เกษตรกร) ผู้บริโภค และต่อสภาพแวดล้อม ตลอดจนชว่ ยอนุรักษ์ศตั รูธรรมชาตแิ ละแมลงท่ีมี แมลงศตั รไู ม้ผล 145
ประโยชน์ตา่ งๆ การพน่ ใชเ้ หยอื่ โปรตนี อตั รา 200 มลิ ลิลติ ร ผสมสารฆา่ แมลง malathion 57 % EC อัตรา 10 มลิ ลลิ ิตร ในน้ำ 5 ลิตร พน่ บนพืชตน้ ละ 1-4 จดุ จุดละ 30 มลิ ลิลิตร ในเวลาเช้าตรู่ ทกุ ๆ 5-7 วนั และเร่ิมพ่นก่อนทำการเกบ็ เก่ยี วผลผลิตหนึ่งเดือน ในกรณีท่ีมีพชื อนื่ ๆ อยู่รอบๆ แปลง ซึง่ ไม่ ได้ใช้ประโยชน์ สามารถพ่นเหย่ือพิษดังกล่าวบนพืชนั้นๆ เพ่ือใช้เป็นแนวป้องกันแมลงวันผลไม้ได้ ซ่ึงจะทำให้การป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ได้ผลดีย่ิงข้ึน จุดท่ีพ่นเหย่ือพิษควรเป็นจุดท่ีอยู่ในร่มเงาและ ไม่ถูกแสงแดดจดั จงึ จะมีประสทิ ธภิ าพดใี นการดงึ ดูดแมลงวันผลไม้ 2. การพ่นเหยื่อพิษแบบเป็นแถบ (Strip Treatment) วิธีน้ีเหมาะสำหรับสภาพพ้ืนที่ปลูก แบบเป็นแถวมีระเบียบเรียบร้อย หรือแปลงใหญ่เป็นระบบไร่ที่สามารถใช้รถยนต์หรือยานพาหนะ เข้าไปปฏิบัติงานได้สะดวก วิธีน้ีสามารถพ่นเหยื่อพิษได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และได้ผลดี เน่ืองจาก การพ่นเหยื่อพิษแบบเป็นแถบจะมีแนวพ้ืนที่การพ่นเหยื่อท่ีกว้างกว่าแบบเป็นจุด ทำให้มีประสิทธิภาพ ในการดึงดูดแมลงวันผลไม้มากกว่า การพ่นเหย่ือพิษแบบเป็นแถบมักใช้เครื่องยนต์พ่นสาร ติดต้ังบน ยานพาหนะว่ิงในแปลงปลูก โดยจัดวางระดับการพ่นเหยื่อไว้ในระดับคงที่ ประมาณสายตาหรือกลาง ทรงพุ่มของพืช ระยะการพ่นทุก 5-7 วัน ต้นไม้แต่ละแถวอาจพ่นเหย่ือพิษไว้ 1-2 แถบก็ได้ แต่ควร เปน็ ดา้ นตรงขา้ มกัน อตั ราการผสมเหย่ือใหป้ ฏบิ ัติเชน่ เดียวกบั การพน่ แบบเป็นจุด สารฆ่าแมลงท่ีสามารถผสมกับเหยื่อโปรตีนได้ และมีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงวันผลไม้ ได้แก่ profenofos 50% EC, malathion 57% EC, triazophos 40% EC และ lambdacyhalothrin 2.5% CS หลกั เกณฑ์ในการพ่นเหย่อื พิษ การพ่นเหย่ือพิษจะให้ผลดีและมีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ขึ้นอยู่กับหลัก เกณฑ์ทีส่ ำคัญ ดังน้ ี 1. ตอ้ งพ่นเหย่ือพิษในเวลาเชา้ ตรู่ เพราะเปน็ ช่วงทแี่ มลงวนั ผลไมอ้ อกหาอาหาร 2. ระยะเวลาในการพน่ 3-7 วนั /คร้งั ขน้ึ อยู่กบั ปรมิ าณแมลงวันผลไมใ้ นแปลงปลูก 3. ควรเร่ิมพ่นเหยื่อพิษก่อนแมลงวันผลไม้เข้าทำลายผลผลิต 2 สัปดาห์ จะทำให้การป้องกัน กำจัดได้ผลดยี ่งิ ขึ้น 4. สารฆ่าแมลงที่ผสมกับเหย่ือโปรตีนควรเป็นสารฆ่าแมลงที่ออกฤทธ์ิเร็ว และคงฤทธ์ิอยู่ได้ นานประมาณ 7 วัน 5. การพ่นเหยื่อพิษแบบเป็นจุด ควรพ่นด้านใต้ใบเพ่ือป้องกันการชะล้างของฝน และจำนวน จดุ ทีพ่ น่ ในแปลงปลูกยงิ่ มากก็ยิง่ ได้ผลดี 6. ในการพ่นเหย่ือพิษไม่จำเป็นต้องพ่นเฉพาะพืชท่ีปลูกหลักเท่าน้ัน อาจพ่นในพืชอื่นๆ หรือ แมลงศตั รูไมผ้ ล 146
วัชพืชในบริเวณแปลงปลูกก็ได้ เพราะบางคร้ังแมลงวันผลไม้อาศัยพืชอ่ืนๆ พัก การพ่น เหย่อื พษิ บนพชื อื่นจงึ เปน็ การเพิ่มประสิทธภิ าพในการใชเ้ หยื่อพษิ ให้ไดผ้ ลดีมากย่ิงขึ้น 7. เมือ่ พบปรมิ าณแมลงวนั ผลไม้ในกับดกั มากขึ้น ใหพ้ น่ เหยื่อพิษถีข่ ้ึน เช่น เล่ือนจากทกุ 7 วนั เปน็ ทุก 4-5 วนั เป็นต้น การใช้เหยือ่ พษิ โปรตนี ออโตไลเซท/โปรตนี ไฮโดรไลเซทในการปอ้ งกันกำจัดแมลงวันผลไม้ในพืชชนิดต่างๆ พืช ชนดิ แมลง ระยะเรมิ่ พ่น วธิ ีการพน่ หมายเหตุ มะมว่ ง B. dorsalis หลงั ห่อผลเสรจ็ 1. พน่ เปน็ จดุ ๆ ละ 30 มลิ ลลิ ติ ร ตน้ ละ ใช้ถังอัดลมเครื่อง B. correcta 1-4 จดุ ทกุ 7 วนั พน่ ในเวลาเชา้ ตรู่ พ่นแบบสะพายหลงั 2. พน่ แบบเปน็ แถบ แถวเว้นแถว แถว เหยอื่ พษิ กวา้ ง 1 ฟตุ ขนาดพ้นื ที่พ่น เหยือ่ พษิ ไม่น้อยกวา่ 10 ไร ่ ชมพ ู่ B. dorsalis หลังห่อผลเสรจ็ พน่ เปน็ จดุ ๆ ละ 30 มิลลลิ ิตร ต้นละ พ้ืนทน่ี อ้ ยกวา่ 10 ไร่ B. correcta 4 จดุ แบบต้นเว้นตน้ ทุก 7 วัน พน่ 3-5 วัน/คร้ัง ฝรั่ง B. correcta หลังห่อผลเสรจ็ พ่นเปน็ จดุ ๆ ละ 30 มิลลลิ ติ ร โดยใช้วธิ ี พ่นเหยอ่ื พิษ B. dorsalis เดนิ พน่ ทุก 5 กา้ ว ทกุ 7 วัน จนห่อผลหมด เอกสารอ้างองิ มนตรี จริ สรุ ัตน.์ 2536. โครงการวิจยั ชวี วิทยาและการป้องกนั กำจดั แมลงวันผลไม้ รายงานผลการ ทดลอง ปี 2535. กองกีฏและสัตววทิ ยา กรมวชิ าการเกษตร. 20 หนา้ . สญั ญาณี ศรีคชา วิภาดา ปลอดครบุรี และเกรยี งไกร จำเริญมา. 2549. ชีววิทยาและการระบาดของ แมลงวันผลไมช้ นดิ Bactrocera correcta (Bezzi). วารสารอารกั ขาพชื 1(1): 55-63. แสน ตกิ วฒั นานนท.์ 2529. พืชอาหารของแมลงวนั ทองชนิดต่างๆ ในประเทศไทย. วารสารเกษตร พระจอมเกลา้ (4)1: 1-15. Drew, R.A.I., G.H.S. Hooper and M.A. Bateman. 1982. Economic Fruit Flies of South Pacific Region. Queensland Department of Primary Industries Brisbane, Australia. 137 pp. Drew, R.A.I. and A.C. Lloyd. 1989. Biology and Physiology nutrition : bacteria associated with fruit flies and their host plants. p. 131-140. In: A.S. Robinson and G. แมลงศัตรูไมผ้ ล 147
Hooper, (eds). Fruit Flies; their biology, natural enemies and control. World Crop Pests. 3(A). Hardy, D.E., 1973. The fruit flies (Tephritidae - Diptera) of Thailand and bordering countries. Pacific Insects Monograph 31, 1-353. Hardy, D.E. 1974. The fruit flies of the Philippines (Diptera: Tephritidae). Pacific Insects Monograph 32, 1-226. White, I.M. and Elson - Harris , M.M., 1992. Fruit flies of economic significance: their identification and bionomic. Wallingford, CAB International. 601 pp. กรมส่งเสรมิ การเกษตร. 2536. รายงานสถิติการปลูกไมผ้ ลเพื่อการสง่ ออก ปี 2535/36. กรมส่งเสริม การเกษตร. กรงุ เทพมหานคร. 452 หนา้ . กองกีฏและสัตววิทยา. 2544. แมลงวันผลไม้ในประเทศไทย. ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทย จำกดั , จตจุ ักร, กทม. 244 หน้า สญั ญาณี ศรคี ชา วภิ าดา ปลอดครบรุ ี ศรตุ สทุ ธอิ ารมณ ์ พนมกร วรี ะวฒุ ิ และ อมั พร วโิ นทยั . 2555. การป้องกันกำจัดแมลงวัลผลไม้แบบผสมผสานในชมพู่. น. 49-74 ใน ผลงานวิจัยดีเด่น. กรมวชิ าการเกษตร ประจำปี 2555. กองแผนงานและวชิ าการ กรมวชิ าการเกษตร กรงุ เทพฯ แมลงศัตรไู มผ้ ล 148
ภาพแสดงการเดินและตำแหนง่ การพน่ เหยือ่ พิษแบบเป็นจดุ ต้นละ 4 จดุ ภาพแสดงแผนผงั การเดินพน่ เหยอ่ื พิษแบบเป็นแถบบนตน้ พืช ตน้ ละ 2 แถบ ทิศตรงข้ามกนั แมลงศตั รูไมผ้ ล 149
แมลงวนั ผลไม ้ ไข่แมลงวนั ผลไม้ หนอนแมลงวนั ผลไม ้ ดกั แด้แมลงวันผลไม ้ ตวั เต็มวยั แมลงวนั ผลไมใ้ ช้ ovipositor เพื่อวางไข ่ แมลงวนั ผลไม้ Bactrocera dorsalis แมลงวนั ผลไม้ Bactrocera correcta แมลงวนั ผลไม้ Bactrocera carambolae แมลงศตั รไู มผ้ ล 150
แมลงวันผลไมเ้ ข้าทำลายมะมว่ ง แมลงวนั ผลไมเ้ ขา้ ทำลายชมพู่มะเหมี่ยว แมลงวันผลไมเ้ ข้าทำลายมะเฟอื ง แมลงวนั ผลไม้เข้าทำลายขนนุ แมลงวนั ผลไมเ้ ข้าทำลายกระท้อน แมลงวนั ผลไมเ้ ขา้ ทำลายมะไฟ การห่อผลเพ่ือปอ้ งกันแมลงวนั ผลไม้เข้าทำลาย การใช้กับดักเพือ่ พยากรณ์การระบาดของ แมลงวันผลไม้ แมลงศัตรูไมผ้ ล 151
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161