หนว่ ยท่ี 1 ความรูเ้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม วชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ รหัส 3001 – 2001 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาหนองคาย สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษ กระทรวงศึกษาธิการ
ใบความรู้ หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ ก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม คอมพวิ เตอร์ (Computer) หมายถึงอปุ กรณ์ชนดิ หนึง่ ทีท่ างานด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ สามารถเกบ็ และจา ข้อมูลรวมถึงชุดคาสัง่ ในการทางานไดท้ าให้สามารถทางานได้โดยอัตโนมตั ิ ดว้ ยอตั ราความเร็วทส่ี ูงมาก ใช้เพ่อื ประโยชน์ในการคานวณหรือทางานตา่ ง ๆ ไดเ้ กือบทกุ ชนดิ ทกุ ประเภทและแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบ ตา่ ง ๆไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง คอมพวิ เตอร์มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินวา่ Computer พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน (2540) ได้บัญญัตไิ วว้ า่ Computer : คอมพิวเตอร์,คณติ กรณ์ หมายถงึ เครอ่ื งคานวณหรือผู้คานวณ มีหนา้ ท่ีคานวณและเปรียบเทยี บ (ประมวลผลขอ้ มลู ) ตามคาสัง่ ทีม่ นุษย์ จดั เตรียมไวใ้ นรูปแบบของโปรแกรมหรอื ชุดคาสั่งตา่ ง ๆ ประเภทของคอมพิวเตอร์ 1. ซปุ เปอรค์ อมพวิ เตอร์ (Supercomputer) เปน็ คอมพิเตอร์ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพในการทางานสูง มีขนาด ของความจามาก ตงั้ อยูใ่ นหอ้ งท่สี ามารถปรบั อุณหภมู ไิ ด้ การใชง้ านคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มกั ในงานวจิ ยั เชน่ การวเิ คราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม การพยากรณ์อากาศ และงานอื่น ๆ ที่มีการคานวณซบั ซอ้ น 2. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (Mainframe Computer) เปน็ คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญท่ มี่ ีประสทิ ธภิ าพ รองลงมาจากซปุ เปอรค์ อมพวิ เตอร์ เปน็ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทส่ ามารถเชอื่ มโยงกบั คอมพวิ เตอร์ปลายทางได้ จานวนมาก ทาให้ตอบสนองความตอ้ งการของผใู้ ช้ได้พรอ้ มกนั หลายรอ้ ยคน จึงมกั ใช้ในองคกื รขนาดใหญ่ 3. มินคิ อมพวิ เตอร์ (Minicomputer) เปน็ คอมพวิ เตอร์ขนาดกลางท่ีมปี ระสทิ ธิภาพนอ้ ยกว่า เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ แตส่ งู กวา่ ไมโครคอมพวิ เตอร์ มักพบในองค์กรทีใ่ ชง้ านเฉพาะดา้ น เชน่ ประมวลผล งานบัยชี โดยนาไปเช่ือมต่อกับเครื่องปลายทางไดห้ ลายคน โดยมกี ารประมวลผลท่ีอยสู่ ่วนกลาง แล้วส่งผลไป ทีเ่ ครอ่ื งปลายทาง โดยที่เครอ่ื งปลายทางไมต่ ้องประมวลผลเอง 4. ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) เป็นคอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชง้ านอย่างแพร่หลาย ทที ้ังคอมพิวเตอร์ ส่วนบคุ คลแบบตง้ั โต๊ะ ซึ่งเหมาะกบั การทางานในสานักงาน สถานศกึ ษา ทบ่ี า้ น หรือคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพา ไปในสถานที่ตา่ ง ๆ ได้ เช่น โนต๊ บุ๊ก เปน็ ตน้ โทรคมนาคม (Telecommunications) หมายถงึ การส่อื สารข้อมลู ระยะทางไกลในรูปแบบ สัญญาณอีเลก็ ทรอนิกส์ ซงึ่ ในอดีตโทรคมนาคมให้บริการในรูปแบบของสญั ญาณเสียงผ่านสายโทรศัพทท์ ีเ่ รยี ก กนั ว่าสญั ญาณในระบบ อนาลอก (Analog Signal) แตใ่ นปจั จุบนั สัญญาณโทรคมนาคมกาลังจะกลายเปน็ การถ่ายทอดสญั ญาณในรูปแบบ ดิจิตอล (Digital Signal) ท้ังหมด ระบบโทรคมนาคมเปน็ ระบบใหญ่ท่ีมกั ผูกขาดโดยองคก์ รของรฐั ในเกือบทุกประเทศทวั่ โลก ดงั เชน่ ในประเทศไทย ได้แก่ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ซง่ึ ได้แปรรูปกจิ การมาเป็นบริษัทศท. คอรเ์ ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) แลว้ เพอื่ ให้เกิดการแข่งขนั ท่ีเสรีกบั องค์กรผู้ให้บรกิ ารโทรคมนาคมเอกชนอน่ื ๆ ท่ีเตบิ โต ขึ้นมาโดยลาดับ เพ่อื การขยายตวั ทีด่ ีข้นึ ในภูมภิ าค และเปน็ กจิ การสาธารณะท่สี ามารถเปิดให้บริการไดอ้ ยา่ ง เสรรี วมไปถึงการเชื่อมตอ่ ระบบอนิ เตอร์เน็ตกับประเทศอ่ืน ๆ ในภูมิภาคด้วย จะนามาซ่ึงการให้บริการที่ หลากหลายในด้านการสอื่ สารข้อมูล โดยเฉพาะการสรา้ ง ถนนสายด่วนขา่ วสาร (Information Super- วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชพี รหสั วิชา 3001 – 2001 นางสาวลลิดา เตนากุล
Highway) เชน่ การโทรคมนาคมผ่านเครือขา่ ยสอ่ื สารระบบดจิ ติ อลความเรว็ สูง ท่ีสามารถให้บรกิ ารทาง การศกึ ษา ค้นคว้าวิจัย สนั ทนาการ และการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในระดบั ชาติ ระดบั ภมู ภิ าค ตลอดจน ระดับโลก และจะเปน็ สว่ นหนึง่ ของการดารงชวี ิตในทศวรรษหนา้ โทรคมนาคม (Telecommunications) หมายถงึ คอื ระบบท่ีประกอบดว้ ยฮารด์ แวร์และซอฟท์แวร์ จานวนหนง่ึ ที่สามารถทางานรว่ มกันและถูกจัดไว้สาหรบั การสอ่ื สารข้อมลู จากสถานท่แี หง่ หนง่ึ ไปยงั สถานที่ อกี แหง่ หนึง่ ซง่ึ สามารถถ่ายทอดขอ้ ความ ภาพกราฟฟิก เสียงสนทนา และวิดีทัศนไ์ ด้ มรี ายละเอยี ดของ โครงสรา้ งส่วนประกอบดงั นี้ 1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์หรือเคร่ืองมือเปลย่ี นปริมาณใดใหเ้ ป็นไฟฟา้ (Transducer) เชน่ โทรศัพท์ หรอื ไมโครโฟน 2. เครือ่ งเทอรม์ นิ อลสาหรับการรบั ขอ้ มูลหรือแสดงผลขอ้ มูล เช่น เคร่อื งคอมพิวเตอร์หรอื โทรศัพท์ 3. อุปกรณป์ ระมวลผลการส่ือสาร (Transmitter) ทาหนา้ ท่ีแปรรูปสัญญาณไฟฟา้ ให้เหมาะสมกบั ชอ่ งสัญญาณ เชน่ โมเด็ม (MODEM) มัลตเิ พล็กเซอร์ (multiplexer) แอมพลิไฟเออร์ (Amplifier) ดาเนนิ การได้ท้งั รับและสง่ ขอ้ มูล 4. ชอ่ งทางสอ่ื สาร (Transmission Channel) หมายถงึ การเชือ่ มตอ่ รูปแบบใดๆ เชน่ สายโทรศพั ท์ ใย แกว้ นาแสง สายโคแอกเซียล หรือแม้แตก่ ารส่ือสารแบบไร้สาย 5. ซอฟท์แวรก์ ารสอ่ื สารซึง่ ทาหน้าที่ควบคุมกจิ กรรมการรับสง่ ข้อมูลและอานวยความสะดวกในการ สอื่ สาร หน้าทข่ี องระบบโทรคมนาคม ทาหนา้ ท่ีในการส่งและรับข้อมูลระหวา่ งจุดสองจุด ไดแ้ ก่ ผู้สง่ ขา่ วสาร (Sender) และ ผู้รบั ขา่ วสาร (Receiver) จะดาเนนิ การจัดการลาเลยี งขอ้ มูลผา่ นเส้นทางท่ีมีประสทิ ธิภาพที่สุด จัดการตรวจสอบความ ถกู ตอ้ งของข้อมลู ท่ีจะส่งและรับเข้ามา สามารถปรับเปล่ียนรูปแบบขอ้ มูลให้ทง้ั สองฝา่ ยสามารถเขา้ ใจได้ ตรงกนั ซงึ่ ทีก่ ลา่ วมานี้ส่วนใหญ่ใชค้ อมพวิ เตอร์เป็นตวั จัดการ ในระบบโทรคมนาคมส่วนใหญใ่ ชอ้ ปุ กรณใ์ น การรับสง่ ขอ้ มลู ข่าวสารตา่ งชนิด ต่างยหี่ อ้ กัน แต่สามารถแลกเปลีย่ นข้อมูลระหวา่ งกันไดเ้ พราะใชช้ ุดคาสั่ง มาตรฐานชดุ เดยี วกนั กฎเกณฑ์มาตรฐานในการสื่อสารนีเ้ ราเรียกว่า “โปรโตคอล (Protocol)” อปุ กรณ์แต่ ละชนิดในเครอื ขา่ ยเดียวกันต้องใช้โปรโตคอลอย่างเดียวกนั จึงจะสามารถส่ือสารถึงกนั และกนั ได้ หน้าท่ี พน้ื ฐานของโปรโตคอล คือ การทาความร้จู กั กบั อุปกรณ์ตัวอ่ืนทอ่ี ยใู่ นเสน้ ทางการถ่ายทอดขอ้ มูล การตกลง เงือ่ นไขในการรับสง่ ข้อมูล การตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ มลู การแก้ไขปญั หาข้อมูลที่เกดิ การผิดพลาดใน ขณะทีส่ ง่ ออกไปและการแกป้ ญั หาการสือ่ สารขดั ข้องทีอ่ าจเกิดขน้ึ โปรโตคอลท่รี ูจ้ กั กันมาก ไดแ้ ก่ โปรโตคอล ในระบบเครอื ขา่ ยอินเตอรเ์ น็ต เชน่ Internet Protocal ; TCP/IP , IP Address ทเี่ ราใช้กนั อยทู่ กุ วันน้ี วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี รหัสวิชา 3001 – 2001 นางสาวลลดิ า เตนากุล
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: