Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดที่ 6 คำสั่งควบคุมเงื่อนไข และการทำงานเป็นรอบ

ชุดที่ 6 คำสั่งควบคุมเงื่อนไข และการทำงานเป็นรอบ

Published by kruraphiphon2019, 2022-06-15 06:44:56

Description: ชุดที่ 6 คำสั่งควบคุมเงื่อนไข และการทำงานเป็นรอบ

Search

Read the Text Version

นางรพพี ร นามมุลตรี ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ

คานา สำหรับชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ 6 ชดุ น้ี จดั ทำข้ึน เพือ่ ใชเ้ ปน็ ส่อื ประกอบกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรดู้ ว้ ยกำรเรียนรูแ้ บบสบื เสำะหำควำมรู้ 7 ข้ัน (7E) วชิ ำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 6 โรงเรยี นนำโพธิ์พทิ ยำสรรพ์ สังกัดสำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำ มัธยมศึกษำ เขต 26 เพ่ือพัฒนำผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน และทกั ษะกำรคดิ วิเครำะห์ สงั เครำะห์ และ แก้ปญั หำ ตลอดจนควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยแี ละกำรทำงำนร่วมกับผู้อน่ื ทงั้ นี้ ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรูแ้ บบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 6 จะช่วยพฒั นำ ผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี น และทกั ษะกำรคดิ วิเครำะห์ สงั เครำะห์ และแกป้ ญั หำ ตลอดจน ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยแี ละกำรทำงำนรว่ มกบั ผอู้ ่ืน จำกกำรทำกิจกรรมเสริมทักษะย่อย ต่ำงๆ ประจำเน้ือหำสำระกำรเรยี นรูท้ กี่ ำหนดให้ตำมวิธกี ำรเรยี นร้แู บบสืบเสำะหำควำมรู้ มีควำม สอดคลอ้ งตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 และหลักสตู รสถำนศึกษำโรงเรียนนำโพธพิ์ ทิ ยำสรรพ์ สังกัดสำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำ เขต 26 มุ่งเน้นกำรเรยี นรูด้ ้วยตวั เอง และทำกิจกรรมร่วมกับผอู้ ื่น เพ่ือใหน้ กั เรียนร้จู ัก เข้ำสงั คมและปรับตัวใหเ้ ข้ำกับผ้อู ื่นได้ ตลอดจนสำมำรถนำควำมรู้ ควำมสำมำรถไปปรบั ประยกุ ต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ ผ้จู ัดทำขอขอบพระคุณ และคณะครูอำจำรย์ทุกท่ำนที่ให้กำรสนับสนนุ กำรพัฒนำชดุ กิจกรรม กำรเรยี นรแู้ บบอิเล็กทรอนกิ ส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 6 นี้ ได้สำเรจ็ ตำมวตั ถุประสงค์ จนทำใหม้ ีควำมสมบรู ณ์ถูกต้องเป็นอย่ำงดี และเป็นประโยชน์ตอ่ ครู นักเรียน และผู้สนใจได้เป็นอยำ่ งดี รพีพร นำมมลุ ตรี

คาช้ีแจง ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 6 มีเนอื้ หำสำระ สอดคล้องกบั หลักสตู รกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน พุทธศักรำช 2551 และหลกั สูตรสถำนศกึ ษำตำม กระทรวงศกึ ษำธกิ ำรกำหนด ซ่ึงนับว่ำมคี วำมสำคัญอยำ่ งยงิ่ สำหรบั นกั เรยี น เพรำะถือเป็นพืน้ ฐำน สำคญั ของกำรใช้เทคโนโลยีในยุค 4.0 และสอดคล้องกับกำรเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 น้ี เพื่อสง่ เสรมิ และพฒั นำกำรเรยี นรูด้ ้ำนเทคโนโลยแี กน่ กั เรียน ตลอดจนทักษะกำรคิดวเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ และ กำรแกป้ ัญหำ เพื่อกำรนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้แู บบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับ นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ชดุ นี้ ท่ีไดจ้ ดั ทำขึน้ ประกอบด้วย 9 ชดุ ดงั น้ี ชดุ ที่ 1 หลักกำรเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้น ชุดที่ 2 กำรตดิ ตัง้ โปรแกรม Dev C++ ชดุ ท่ี 3 องคป์ ระกอบของภำษำซี ตัวแปร และชนิดข้อมลู ชุดท่ี 4 นพิ จนแ์ ละตัวดำเนนิ กำร ชุดที่ 5 ฟงั กช์ ันกำรรบั แสดงผล และฟังกช์ นั ทำงคณติ ศำสตร์ ชุดที่ 6 คำสัง่ ควบคุมเงอื่ นไข และกำรทำงำนเป็นรอบ ชดุ ท่ี 7 อำร์เรยแ์ ละฟังก์ชนั จัดกำรสตรงิ ชดุ ที่ 8 กำรสรำ้ งฟงั กช์ ันและตัวแปรชนดิ พอยน์เตอร์ ชุดท่ี 9 ขอ้ มลู ชนดิ โครงสรำ้ งและกำรจัดกำรแฟ้มข้อมูล ทง้ั น้ี ชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรแู้ บบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุม่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 เป็นหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ โดยสำมำรถ สแกนผ่ำน QR-Code หรอื ผำ่ นลิงค์เวบ็ ไซต์ https://pubhtml5.com/bookcase/wjru เพือ่ ใช้งำนตำมปกติ พร้อมกับรปู เล่มจรงิ ตำมลงิ ค์ ออนไลนท์ ี่แนบนี้ QR-Code

คาแนะนาสาหรับครู 1. นกั เรยี นศึกษำคำชแ้ี จง และคำแนะนำให้พร้อมก่อนเริ่มศึกษำ 2. นกั เรียนรบั ฟงั คำแนะนำกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ วิชำ กำรเขยี น โปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 6 ให้เข้ำใจก่อนเสมอ 3. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ 4-5 คน เพอ่ื ทำกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำชุดกิจกรรมกำรเรียนรแู้ บบอิเล็กทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 6 ด้วยควำมต้ังใจ และซ่ือสัตย์ 5. นกั เรียนศึกษำใบควำมรู้ ให้เข้ำใจก่อนทำกิจกรรมระหว่ำงเรียน และกจิ กรรมโครงงำน 6. ทบทวนควำมรู้และฝึกทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยดี ้วยกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ 7. หำกนกั เรยี นเกดิ ขอ้ สงสยั ให้ปรึกษำ หรอื แจ้งครูไดท้ ันที และให้นกั เรียนควรตรวจสอบ ควำมถกู ต้องของกำรทำกจิ กรรมให้เรยี บรอ้ ย 8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนประจำชุดกิจกรรมกำรเรียนรแู้ บบอเิ ล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 6 ด้วยควำมต้องใจ และซือ่ สตั ย์ 9. นกั เรียนรวบรวมกระดำษคำตอบและชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 6 สง่ คืนครู 10. นักเรยี นต้องใหค้ วำมร่วมมอื ในกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ เพื่อใหบ้ รรลุเปำ้ หมำย

คาแนะนาสาหรบั นักเรยี น 1. ศกึ ษำคำชีแ้ จง คำแนะนำ และเตรียมกระดำษคำตอบให้พร้อมก่อนเรม่ิ ศึกษำ 2. อธบิ ำยและให้คำแนะนำกับนกั เรียนในกำรใช้ชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรแู้ บบอิเลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม 4-5 คน เพื่อทำกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ด้วยควำมต้งั ใจ และซ่ือสัตย์ 5. ให้นกั เรียนศกึ ษำใบควำมรู้ ให้เข้ำใจก่อนทำกิจกรรมระหวำ่ งเรียนและกจิ กรรมโครงงำน 6. ให้ทบทวนควำมรูแ้ ละฝึกทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยีด้วยกำรทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ 7. หำกนกั เรยี นเกดิ ข้อสงสยั ใหป้ รึกษำ หรือแจ้งครูได้ทันที และให้นักเรยี นควรตรวจสอบ ควำมถกู ต้องของกำรทำกิจกรรมใหเ้ รยี บรอ้ ย 8. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรแู้ บบอิเลก็ ทรอนิกส์ วชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 ดว้ ยควำมต้องใจ และซื่อสัตย์ 9. ให้นกั เรียนรวบรวมกระดำษคำตอบและชดุ กิจกรรมกำรเรยี นร้แู บบอิเล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 6 สง่ คนื ครู 10. สงั เกตพฤตกิ รรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของนักเรียนเพ่ือบนั ทึกคะแนน และกล่มุ

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด มำตรฐำน ง 3.1 เขำ้ ใจ เหน็ คุณค่ำ และใชก้ ระบวนกำรเทคโนโลยสี ำรสนเทศในกำรสืบค้น ขอ้ มลู กำรเรียนรู้ กำรสื่อสำร กำรแก้ปัญหำ กำรทำงำน และอำชีพอย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพประสิทธผิ ล และมคี ุณธรรม (ง3.1 ม.5/1-13) แนวคดิ ศึกษำเก่ียวกบั คำส่งั ควบคุมเง่ือนไข และกำรทำงำนเป็นรอบดว้ ยลูป for ซง่ึ เนือ้ หำเหลำ่ นี้ ถือเป็นสิง่ สำคัญในกำรศึกษำวิชำกำรเขียนโปรแกรมเบอ้ื งต้นทั้งสนิ้ สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 6 คำสั่งควบคมุ เง่อื นไข และกำรทำงำนเปน็ รอบ 1. คำสง่ั ควบคมุ เง่ือนไข ไดแ้ ก่ - กำรควบคุมเงื่อนไขดว้ ย if-statement - กำรควบคุมเงื่อนไขดว้ ยประโยค switch 2. กำรทำงำนเปน็ รอบ ได้แก่ - กำรทำงำนเป็นรอบดว้ ยลปู while - กำรทำงำนเปน็ รอบดว้ ยลูป do-while - กำรทำงำนเป็นรอบดว้ ยลูป for จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ความเข้าใจ (K) 1. มีควำมรู้เก่ียวกับคำสง่ั ควบคมุ เง่ือนไข และกำรทำงำนเป็นรอบ 2. รวบรวม วิเครำะห์ข้อมลู คำสง่ั ควบคุมเง่ือนไข และกำรทำงำนเป็นรอบได้ 3. สรุปขอ้ มูลเกย่ี วกบั คำส่ังควบคมุ เง่ือนไข และกำรทำงำนเป็นรอบได้ ทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้ควำมรู้เกี่ยวกับคำสงั่ ควบคมุ เง่ือนไข และกำรทำงำนเปน็ รอบ 2. มกี ำรคดิ วเิ ครำะห์ และกำรให้เหตผุ ลตำมกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ได้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. มีควำมสนใจและต้ังใจเรียน กระตือรอื รน้ ตรงต่อเวลำ ให้ควำมร่วมมือในกำรทำงำนกลุม่ และ มีเจตคติท่ีดีต่อกำรเรียนวทิ ยำศำสตร์

สมรรถนะท่สี าคัญ (C) 1. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 2. ควำมสำมำรถในกำรให้เหตุผล 3. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร 4. ควำมสำมำรถในกำรเชื่อมโยง 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้ควำมคดิ ริเร่มิ สร้ำงสรรค์ ภาระหนา้ ที่ / ชิน้ งาน ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ วิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 ชดุ ท่ี 6 คำส่งั ควบคุมเงื่อนไขและกำรทำงำนเป็นรอบ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. กิจกรรมระหว่ำงเรยี น (กิจกรรมท่ี 1-6) 3. แบบทดสอบหลังเรยี น กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กำรเรียนรแู้ บบสบื เสำะหำควำมรู้ 7 ขัน้ (7E) การวัดผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป จงึ จะผำ่ นเกณฑ์ 2. กจิ กรรมระหวำ่ งเรียน คะแนนเฉล่ีย ร้อยละ 80 ขึ้นไป จงึ จะผำ่ นเกณฑ์ 3. แบบทดสอบหลงั เรียน คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป จงึ จะผ่ำนเกณฑ์ 4. แบบประเมนิ สมรรถนะท่ีสำคัญ คะแนนเฉลี่ย รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป จงึ จะผำ่ นเกณฑ์ 5. แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 60 ขึ้นไป จงึ จะผ่ำนเกณฑ์

สารบญั คำนำ หนา้ คำชี้แจง ก คำแนะนำสำหรบั ครู ข คำแนะนำสำหรับนักเรยี น ค ง ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วิชำ กำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี (ง33205) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี สำหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 6 จ สำรบัญ ช แบบทดสอบก่อนเรียน 1 กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น 3 ใบควำมรู้ เรอ่ื ง คำส่งั ควบคุมเง่อื นไข และกำรทำงำนเปน็ รอบ 4 24 กจิ กรรมท่ี 1 25 กิจกรรมท่ี 2 26 กจิ กรรมท่ี 3 27 กจิ กรรมท่ี 4 28 กจิ กรรมท่ี 5 29 กจิ กรรมที่ 6 30 แบบทดสอบหลังเรียน 32 กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น 33 ภำคผนวก 34 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 35 เฉลยกจิ กรรมที่ 1 36 เฉลยกิจกรรมที่ 2 37 เฉลยกิจกรรมท่ี 3 38 เฉลยกิจกรรมท่ี 4 39 เฉลยกจิ กรรมที่ 5 40 เฉลยกิจกรรมที่ 6 41 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 42 แบบบนั ทกึ คะแนน 43 บรรณำนกุ รม 44 ประวัติย่อผ้จู ัดทำ

คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกทสี่ ดุ เพียงคำตอบเดียวแลว้ ทำเครอื่ งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ 1. ขอ้ ใดต่อไปน้ีจัดเปน็ คำส่งั ควบคุมเงื่อนไข ก. varchar... ข. if....else ค. printf... ง. <stdio.h> 2. ประโยคเง่ือนไขท่ีมคี วำมซับซ้อนตำมขอ้ ใด ทจ่ี ำเป็นต้องใชอ้ ยำ่ งระมัดระวัง ก. switch....case ข. Nested if ค. if...else ง. case...if 3. คำส่ังควบคมุ เงื่อนไขตำมข้อใดถือว่ำผดิ ก. case ‘1’ : ข. if (ch == ‘Y’ + 1) ค. case num + 7 ง. switch (ch) 4. ภำยใน case ของแต่ละกรณใี นประโยคคำส่ัง switch จำเป็นตอ้ งใส่คำสง่ั ใดลงไป ก. break ข. { } ค. while ง. Include 5. หำกเง่ือนไขท่ีตรวจสอบด้วย switch ไม่ตรงกับเงื่อนไขใดๆ เลย จะไปทำงำนท่ีสว่ นใด ก. break ข. else ค. default ง. case

6. ลปู ประเภทใดต่อไปนี้ ชดุ คำสง่ั ภำยในลูปอำจไม่ไดร้ ับกำรประมวลผลกไ็ ด้ ก. for ข. do-while ค. if...else ง. While 7. ลปู ประเภทใดตอ่ ไปน้ี อย่ำงนอ้ ยจะประมวลผลชุดคำส่ังภำยใน 1 รอบเสมอ ก. for ข. do-while ค. while ง. if...else 8. คำส่ังใดตอ่ ไปนี้ สำมำรถสั่งให้หลุดออกจำกลูปได้ ก. continue ข. switch ค. break ง. case 9. จำกชุดคำสง่ั ตอ่ ไปน้ี อยำกทรำบว่ำรปู ดงั กล่ำวทำงำนก่ีรอบ for (x = 1; k < 10; k++) ก. 10 รอบ ข. 9 รอบ ค. n รอบ ง. ไม่ทำงำนเลย 10. จำกชดุ คำส่งั กำรทำงำนของลปู ตอ่ ไปนี้ อยำกทรำบว่ำถูกทำงำนก่รี อบ for (int x = 0; x <= 100; x+=2) ก. 51 รอบ ข. 100 * 2 รอบ ค. 100 / 2 รอบ ง. 53 รอบ

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกท่ีสดุ เพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเคร่อื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. สรปุ คะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผ่าน คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน

หลังจำกท่ีได้ศึกษำมำถงึ บทน้ีแลว้ กจ็ ะสำมำรถเขยี นโปรแกรมไดค้ ล่องข้นึ บ้ำง อยำ่ งไรก็ตำม ในกำรเขียนโปรแกรมเพอื่ ใชง้ ำนจรงิ ยงั คงต้องมีกำรตดั สินใจทำงเลอื กรวมถึงกำรสร้ำงลปู เพอ่ื ทำงำน เปน็ รอบ จึงทำใหโ้ ปรแกรมมีควำมสมบรู ณย์ ่งิ ข้ึน ดงั นัน้ ในบทนีจ้ งึ อธบิ ำยเน้ือหำเก่ียวกับคำสั่งควบคุม ซง่ึ ประกอบด้วยคำส่ังควบคุมเง่ือนไข และกำรทำงำนเปน็ รอบ ภำษำซจี ะใชป้ ระโยค if ในกำรสร้ำงเงื่อนไข ซึ่งสำมำรถตรวจสอบเงื่อนไขว่ำตรงกับควำมจรงิ หรอื ควำมเท็จได้ นอกจำกประโยค if แลว้ ในภำษำซยี ังมีกำรกำหนดทำงเลือกดว้ ยประโยค switch ให้เลอื กใช้อีกดว้ ย 1. การควบคมุ เง่ือนไขดว้ ย if-statement ในกำรใชป้ ระโยคคำสงั่ if-statement เพอ่ื ตรวจสอบเงอ่ื นไขมีอยู่ 4 รูปแบบดว้ ยกนั คือ 1.1 กำรสรำ้ งเงื่อนไขประโยคเดยี ว เป็นกำรตรวจสอบเง่ือนไขวำ่ เป็นจรงิ หรือเทจ็ แล้วใหท้ ำชุดคำสง่ั น้ันๆ รปู แบบ if (continue) statement; ภำพท่ี 1 กำรสรำ้ งเง่ือนไขประโยคเดียว ตัวอยา่ งเช่น - ตรวจสอบเงอื่ นไขของตัวแปรชอ่ื var วำ่ มคี ่ำเทำ่ กบั 0 หรอื ไม่ ถำ้ เทำ่ กับ 0 ใหแ้ สดง ขอ้ ควำมวำ่ ตวั หำรมคี ำ่ เป็นศูนย์ if (var == 0) printf(\"Devide by zero...\"); ภำพท่ี 2 ตรวจสอบเงื่อนไขของตัวแปรช่อื var - ตรวจสอบเงอื่ นไขของตัวแปร score ว่ำมคี ่ำเกนิ 80 หรือไม่ใช่ให้พิมพข์ ้อควำมแสดง ควำมยินดวี ่ำ Excellent! if (score >= 80) printf(\"Excellent !\"); ภำพท่ี 3 ตรวจสอบเง่ือนไขของตัวแปร score

1.2 กำรสร้ำงเงอ่ื นไข if...else เป็นกำรตรวจสอบว่ำหำกเงื่อนไขเปน็ จริงก็จะดำเนนิ กำรกับชุดคำสัง่ ท่ีกำหนดไว้ และหำกเงื่อนไขเปน็ เท็จ กจ็ ะดำเนนิ กำรชุดคำสงั่ หลงั ประโยค else รปู แบบ if (condition) statement; else statement; ภำพท่ี 4 กำรสรำ้ งเงือ่ นไข if...else ตัวอยา่ งเชน่ printf(\"Enter value : \"); scanf(\"%u\", &num); if (num % 2 == 0) printf(\"Even value...\"); else printf(\"Odd value...\"); ภำพท่ี 5 ตรวจสอบว่ำคำ่ ท่ีป้อนเข้ำมำเป็นเลขคหู่ รือเลขคี่ อยำ่ งไรกต็ ำมรปู แบบประโยคขำ้ งตน้ จะมเี พยี งชดุ คำสงั่ เดียวสำหรับเง่อื นไขน้นั ๆ เท่ำนน้ั ดังน้นั มชี ุดคำสงั่ หลำยประโยคภำยในเงอ่ื นไขจำเป็นตอ้ งเพิ่มบล็อก {.....} เขำ้ ไปด้วยดงั รูปแบบตอ่ ไปนี้ รูปแบบ if (condition) { statement 1; statement 2; statement n; } else { statement 1; statement 2; statement n; } ภำพท่ี 6 ชุดคำส่งั หลำยประโยคภำยในเงือ่ นไข

ตัวอยา่ งเช่น printf(\"Input score : \"); scanf(\"%d\", &sc); if (sc >= 60 ) printf(\"Congratulation...you passed!\"); else { printf(\"Sorry... you failed...\\n\"); printf(\"Please contact your advisor\\n\"); } ภำพท่ี 7 ตรวจสอบคะแนนนักศึกษำว่ำสอบตกหรือสอบผ่ำน if (salesTotal >= 10000000 ) { rate = .05; commission = salesTotal * rate; printf(\"Congratolation .\"); } else { rate = .025; commission = salesTotal * rate; printf(\"You will try.\"); } ภำพที่ 8 ตรวจสอบยอดขำยเพอ่ื คำนวณหำค่ำคอมมชิ ชนั่ 1.3 กำรสรำ้ งเงื่อนไข if...else แบบหลำยกรณี จำกรูปแบบเงื่อนไขข้ำงตน้ ที่ผ่ำนมำเป็นรปู แบบเงื่อนไขเพยี งแค่ 2 กรณีเทำ่ น้ันดงั น้นั หำก รปู แบบกำรสรำ้ งเง่ือนไขทต่ี ้องตรวจสอบหลำยๆ กรณี ก็จะใช้ประโยค else it เพื่อตรวจสอบเป็น ลำดับขัน้ ย่อยๆ ต่อไป ตวั อยา่ งเช่น printf(\"Input score => \"); scanf(\"%d\", &score); if(score >= 80) grade = ‘A’; else if(score >= 70) grade = ‘B’; else if(score >= 60) grade = ‘C’; else if(score >= 50) grade = ‘D’; else grade = ‘F’; printf (\"Your grade is %c\\n\", grade); ภำพที่ 9 กำรตรวจสอบเง่ือนไขของคะแนนเพื่อหำเกรดท่ีได้

if (weigh < 5) // หนว่ ยกิโลกรมั printf(\"Put durian inside box number 3\"); else if (damage = ‘Y’) //มีตำหนิหรอื ไม่ printf(\"Put durian inside box number 2\"); else printf(\"Put durian inside box number 1\"); ภำพที่ 10 กำรตรวจสอบน้ำหนกั ของผลทเุ รยี นเพื่อแบง่ บรรจลุ งในกล่องหมำยเลขใด 1.4 กำรสร้ำงเงอ่ื นไขแบบซ้อน (Netsted if) เป็นรปู แบบกำรสร้ำงเงื่อนไขที่ซบั ซ้อนย่ิงขึ้น โดยจะมีกำรตรวจสอบเงื่อนไขซ้อนยอ่ ย ลงไป อกี ซ่ึงกำรสรำ้ งประโยคซ้อนเง่ือนไขดังกลำ่ วจำเปน็ ต้องตรวจสอบให้รอบคอบมิฉะนั้น อำจเกดิ ผลลัพธ์ ท่ีผิดพลำดได้ ตวั อย่างเชน่ if (a > b) if (a > c) printf(\"A is max\"); else printf(\"C is max\"); else if (b > c) printf(\"B is max\"); else printf(\"C is max\"); ภำพท่ี 11 กำรตรวจสอบค่ำ a, b และ c วำ่ ค่ำใดมำกทสี่ ดุ (ตรวจสอบแบบทีละคำ่ แบบ Netsted if) ดังนั้นจะพบว่ำกำรสรำ้ งประโยคเงอื่ นไข if นัน้ จะมีอยหู่ ลำยรูปแบบด้วยกันข้นึ อยกู่ บั เง่อื นไข ว่ำซบั ซอ้ นเพยี งใด และเรำจะเลอื กเขียนประโยคเงื่อนไขแบบใดเปน็ สำคญั และตอ่ ไปน้ีจะสรปุ รปู แบบ ตัวอย่ำงกำรตรวจสอบเง่อื นไขดว้ ย if ในรปู แบบตำ่ งๆ if(condition) do this; ภำพท่ี 12 รูปแบบตวั อยำ่ งกำรตรวจสอบเงอ่ื นไขด้วย if ในรปู แบบ A if(condition) { do this; and this; } ภำพท่ี 13 รปู แบบตัวอย่ำงกำรตวจสอบเงอื่ นไขด้วย if ในรูปแบบ B

if(condition) do this; else do this; ภำพที่ 14 รปู แบบตวั อยำ่ งกำรตรวจสอบเง่ือนไขดว้ ย if ในรปู แบบ C if(condition) { do this; and this; } else { do this; and this; } ภำพที่ 15 รูปแบบตัวอยำ่ งกำรตรวจสอบเงอ่ื นไขด้วย if ในรูปแบบ D if(condition) do this; else { if(condition) do this; else { do this; and this; } { ภำพท่ี 16 รปู แบบตวั อยำ่ งกำรตรวจสอบเง่ือนไขด้วย if ในรปู แบบ E if(condition) { if(condition) do this; else { do this; and this; } } else do this; ภำพที่ 17 รูปแบบตัวอยำ่ งกำรตรวจสอบเงอ่ื นไขด้วย if ในรปู แบบ F นอกจำกนเี้ งอื่ นไขในประโยคก็ยงั สำมำรถใช้ตัวดำเนินกำรตรรกะอย่ำง &&, ||,. ! มำใช้ ประกอบกบั เง่ือนไขได้ เช่น

if (experience >=3 && experience < 5) bonus = salary * 3; ภำพที่ 18 ตวั ดำเนนิ กำรตรรกะอย่ำง && if (grade == ‘A’ || grade == ‘B’) printf(\"Your’re very good \"); ภำพท่ี 19 ตวั ดำเนนิ กำรตรรกะอยำ่ ง || if (!true) printf (\"Invalid password \"); ภำพที่ 20 ตวั ดำเนนิ กำรตรรกะอยำ่ ง ! ตำรำงที่ 1 ตำรำงคณุ สมบตั ิ เพศ ประสบการณ์ (ปี) วุฒกิ ารศกึ ษา เงนิ เดือน 30,000 >=10 Post-Graduate 20,000 20,000 ชำย >=10 Graduate 14,000 24,000 <10 Post-Graduate 18,000 20,000 <10 Graduate 12,000 >=10 Post-Graduate หญิง >=10 Graduate <10 Post-Graduate <10 Graduate 1: #include <stdio.h> 2: main() 3: { 4: char g, qual: 5: int exp, sal; 6: 7: printf(\"Enter Gender, Experience and Qualifications(P/G) : \"); 8: scanf(\"%c %d %c, &g, &exp, &qual); 9: 10: if(g == ‘M’ && exp >= 10 && qual == ‘P’) 11: sal = 30000; 12: else if((g == ‘M’ && exp >= 10 && qual == ‘G’) || 13: (g == ‘M’ && exp < 10 && qual == ‘P’)) 14: sal = 20000; 15: else if((g == ‘M’ && exp < 10 && qual == ‘G’) 16: sal = 14000; 17: else if((g == ‘F’ && exp >= 10 && qual == ‘P’) 18: sal = 24000; 19 else if((g == ‘F’ && exp >= 10 && qual == ‘G’) 20 sal = 18000; 21: else if((g == ‘F’ && exp < 10 && qual == ‘P’) 22: sal = 20000; 23: else if((g == ‘F’ && exp < 10 && qual == ‘G’) 24: sal = 12000; 25: 26: printf(\"\\nSalary of employee = %d Baht\", sal); 27: } ภำพท่ี 21 โปรแกรมคำนวณเงนิ เดอื นตำมเกณฑ์ของบริษัทแหง่ หน่ึง

ตำรำงที่ 2 คำอธิบำยโปรแกรมคำนวณเงินเดือนตำมเกณฑ์ของบริษทั แหง่ หนึ่ง บรรทดั ที่ ความหมาย 8 รอรบั ข้อมูลเพศ ประสบกำรณแ์ บะวุฒกิ ำรศึกษำ 10-11 ถำ้ เป็นเพศชำย และมีประสบกำรณม์ ำกกวำ่ หรือเท่ำกับ 10 ปี และวฒุ ิ ปริญญำโทใหเ้ งนิ เดือน 30,000 บำท 12-14 ถ้ำเป็นเพศชำย และมีประสบกำรณม์ ำกกวำ่ หรือเทำ่ กบั 10 และวฒุ ิปริญญำ ตรีหรอื ถำ้ เป็นเพศชำย และมีประสบกำรณน์ ้อยกว่ำ 10 ปี และวฒุ ปิ ริญญำโท ใหเ้ งนิ เดือน 20,000 บำท 15-16 ถำ้ เปน็ เพศชำย และมปี ระสบกำรณน์ ้อยกว่ำ 10 ปี และวฒุ ิปรญิ ญำตรีให้ เงนิ เดอื น 14,000 บำท 17-18 ถำ้ เปน็ เพศหญิง และมีประสบกำรณม์ ำกกว่ำหรือเทำ่ กบั 10 ปี และวฒุ ิ ปริญญำโทให้เงนิ เดือน 24,000 บำท 19-20 ถำ้ เป็นเพศหญงิ และมีประสบกำรณ์มำกกวำ่ หรือเท่ำกับ 10 ปี และวฒุ ิ ปริญญำตรใี ห้เงนิ เดือน 18,000 บำท 21-22 ถ้ำเปน็ เพศหญงิ และมปี ระสบกำรณน์ ้อยกว่ำหรือเท่ำกบั 10 ปี และวฒุ ิ ปริญญำโทใหเ้ งนิ เดือน 20,000 บำท 23-24 ถำ้ เปน็ เพศหญงิ และมปี ระสบกำรณน์ ้อยกวำ่ หรอื เท่ำกับ 10 ปี และวฒุ ิ ปริญญำตรีให้เงินเดือน 12,000 บำท ภำพท่ี 22 ผลลัพธจ์ ำกกำรรนั โปรแกรมคำนวณเงินเดอื นตำมเกณฑ์ ของบริษัททดสอบกำรรันครั้งท่ี 1 ภำพท่ี 23 ผลลัพธ์จำกกำรรนั โปรแกรมคำนวณเงินเดือนตำมเกณฑ์ ของบริษทั ทดสอบกำรรันครงั้ ท่ี 2

2. การควบคุมเง่ือนไขด้วยประโยค switch นอกจำก if-else แล้ว ภำษำซยี ังมคี ำสง่ั ควบคมุ เงื่อนไขอีกตัวหนง่ึ คือ switch ซึ่งสำมำรถนำมำใชง้ ำนได้ดีกับโปรแกรมท่ีมรี ำยกำรเมนใู ห้เลือก โดยมรี ูปแบบกำรใชง้ ำนดังน้ี รูปแบบ switch (integer_expression) { case constant 1; statement_1; statement_2; statement_n; break case constant 2; statement_1; statement_2; statement_n; break default; statement; } ภำพท่ี 24 กำรควบคมุ เงือ่ นไขดว้ ยประโยค switch โดยท่ี integer_expression คอื ค่ำจำนวนเต็มที่นำมำใช้ตรวจสอบเงอ่ื นไข case คอื เงื่อนไขท่ีอย่ใู นแตล่ ะกรณีท่เี ปน็ ไปตำม constant น้นั ๆ default กรณีทีเ่ งื่อนไขตรวจสอบไม่อยู่ในทกุ กรณกี ็จะตกอยใู่ นกรณี ของ default โดยอตั โนมัติ (อำจจะมหี รอื ไม่กไ็ ด้) break แต่ละ case จำเป็นต้องใส่คำส่ัง break ลงไปด้วยทุกคร้งั เพ่อื ให้ หลุดออกจำก case มิฉะนนั้ จะมกี ำรตรวจสอบใน case ถดั ไป สง่ ผลใหผ้ ลลัพธ์ผดิ พลำดได้แตค่ ำสัง่ break ไม่จำเป็น ต้องใสล่ งในส่วนกรณีของ default อยำ่ งไรกต็ ำม คณุ สมบตั ิของประโยค if และ switch มีขอ้ แตกตำ่ งดังต่อไปนี้ 1. switch ไม่สำมำรถตรวจสอบนิพจน์ชนิดเลขจำนวนจรงิ ทีม่ จี ดุ ทศนิยม 2. switch นำมำใช้ตรวจสอบชนิดขอ้ มูลทเ่ี ปน็ แบบ int หรือ char เทำ่ นั้น 3. กำรตรวจสอบเงอื่ นไขภำยใน case ของ switch ในแต่ละกรณี จะไมส่ ำมำรนำตวั แปร มำใชไ้ ด้ จะใช้ได้แต่เพียงคำ่ คงทีเ่ ท่ำน้นั 4. switch ไมส่ ำมำรถตรวจสอบเงื่อนไขหลำยๆ ตัวภำยในนิพจน์เดียวได้

1: #include <stdio.h> 2: #include <conio.h> 3: 4: main() 5: { 6: char ch; 7: printf(\"1. Apple\\n\"); 8: printf(\"2. Orange\\n\") 9: printf(\"3. Mango\\n\") 10: printf(\"4. Durian\\n\") 11: printf(\"5. Grape\\n\") 12: 13: printf(\"\\nSelect => \"); 14: ch=getche(); 15 16: switch(ch) 17: { 18: case ‘1’: 19 printf(\"\\nYou select apple\"); 20 break; 21: case ‘2’: 22: printf(\"\\nYou select orange\"); 23: break; 24: case ‘3’: 25: printf(\"\\nYou select mango\"); 26: break; 27: case ‘4’: 28: printf(\"\\nYou select durian\"); 29: break; 30: case ‘5’: 31: printf(\"\\nYou select grape\"); 32: break; 33: default : 34: printf(\"\\nPlease type 1 – 5 only...\"); 35: } 36: } ภำพท่ี 25 โปรแกรมทดสอบกำรใช้ประโยคคำสง่ั switch เพ่อื ตรวจสอบค่ำ ตำรำงท่ี 3 คำอธิบำยโปรแกรมทดสอบกำรใช้ประโยคคำส่ัง switch เพือ่ ตรวจสอบคำ่ บรรทัดท่ี ความหมาย 6 ประกำศตัวแปร ch มชี นดิ ข้อมลู เปน็ ตวั อกั ขระหน่งึ ตัว 7-11 พิมพ์รำยกำรเมนู 13 พมิ พข์ ้อควำมว่ำใหเ้ ลือกรำยกำรตำมเมนู 14 รอรับแปน้ คยี ์ เพอ่ื เก็บค่ำไวใ้ นตัวแปร ch 16 ตรวจสอบค่ำตวั แปร ch ทปี่ ้อนเขำ้ ไปดว้ ย switch 17 จดุ เร่ิมต้นกำรทำงำนของบล็อก switch 18-20 กรณีเทำ่ กับ ‘1’ พิมพ์ขอ้ ควำมว่ำ คณุ เลือกแอปเปิล้ แลว้ ใหห้ ลุดจำกบลอ็ ก switch 21-23 กรณีเทำ่ กบั ‘2’ พมิ พ์ข้อควำมว่ำ คณุ เลอื กสม้ แลว้ ให้หลุดจำกบล็อก switch 24-26 กรณเี ท่ำกบั ‘3’ พมิ พ์ขอ้ ควำมว่ำ คณุ เลือกมะมว่ ง แลว้ ให้หลดุ จำกบล็อก switch 27-29 กรณีเท่ำกบั ‘4’ พิมพ์ข้อควำมวำ่ คณุ เลือกทุเรยี น แล้วให้หลดุ จำกบล็อก switch 30-32 กรณเี ท่ำกับ ‘5’ พมิ พ์ขอ้ ควำมวำ่ คณุ เลอื กองุ่น แลว้ ให้หลุดจำกบล็อก switch 33-34 กรณีเป็นคำ่ นอกเหนอื จำกนัน้ ใหพ้ มิ พข์ ้อควำมว่ำใหเ้ ลือก 1 -5 ไดเ้ ทำ่ นั้น 35 จดุ สนิ้ สุดกำรทำงำนของบล็อก

รนั คร้ังท่ี 1 : กรณเี ลือก 2 รนั คร้ังที่ 2 : กรณเี ลอื ก 5 รนั ครั้งท่ี 3 : กรณีเลือกค่ำที่นอกเหนือจำก 1 – 5 ภำพที่ 26 ผลลัพธ์จำกกำรรันโปรแกรมทดสอบ กำรใชป้ ระโยคคำสง่ั switch เพอ่ื ตรวจสอบค่ำ ตวั อยำ่ งโปรแกรมที่ผ่ำนมำลว้ นเปน็ กำรประมวลผลชดุ คำส่งั เพยี งรอบเดียวทงั้ สิ้น แตใ่ นควำม เป็นจรงิ แล้ว เรำสำมำรถส่ังให้คอมพวิ เตอรป์ ระมวลผลชดุ คำส่ังซ้ำๆ ได้ เรยี กวำ่ กระบวนกำรทำซำ้ หรอื ลูป เช่น สรำ้ งลูปเพ่ือประมวลผลอำ่ นไฟล์ขอ้ มูลจนกระทง่ั จบไฟล์สร้ำงลูปเพื่อกำรคำนวณจน ครบรอบหรือสร้ำงลูปของรำยกำรเมนเู พอื่ ใหผ้ ูใ้ ช้สำมำรถใช้งำนโปรแกรมไปได้เรื่อยๆ จนกวำ่ จะเลอื ก รำยกำรจบกำรทำงำน ดังน้ันจะพบว่ำจำนวนรอบกำรทำงำนของลปู ทสี่ ร้ำงขึน้ นั้น ข้ึนอยู่กับเงอ่ื นไขที่ กำหนดขน้ึ เป็นสำคญั และในภำษำซีกม็ ชี ดุ คำส่ังทำงำนเปน็ รอบอยู่ 3 ประเภทด้วยกนั ดงั น้ี 1. การทางานเปน็ รอบด้วยลูป while รปู แบบ while(condition) { statement_1; statement_2; statement_n; } ภำพท่ี 27 ทำงำนเป็นรอบดว้ ยลูป while โดยท่ี condition หมำยถึง เง่ือนไขหรอื นิพจน์ทีส่ รำ้ งข้นึ statement หมำยถึง ประโยคชุดคำส่งั คุณลกั ษณะของการทางานเป็นรอบด้วยลูป while มดี งั น้ี 1. ลูป while จะถูกทำงำนตอ่ เม่อื เงื่อนไข เป็นจรงิ 2. เมอื่ เงื่อนไขเป็นเท็จกจ็ ะหลุดออก จำกลปู while

3. นิพจนท์ น่ี ำมำใช้ตรวจสอบเงอื่ นไข สำมำรถใช้ตัวดำเนนิ กำรเปรยี บเทยี บ และ ตวั ดำเนินกำรทำงตรรกะได้ โดยสำมำรถสรุปกำรทำงำนของลปู while ตำมผงั งำนดงั ภำพท่ี 28 ต่อไปน้ี ภำพท่ี 28 ผงั งำนแสดงกำรทำงำนของลูป while และจำกคุณลักษณะของกำรทำงำนเป็นรอบดว้ ยลูป while นี้เอง จงึ มีควำมเปน็ ไปไดว้ ำ่ ชดุ คำส่ังภำยในลปู อำจมิได้ถูกประมวลผลเลยกไ็ ด้ หำกเงอ่ื นไขทตี่ รวจสอบคร้ังแรกค่ำเป็นเท็จ ตวั อย่างการสร้างลปู while เชน่ - สร้ำงลูปดว้ ย while โดยจะทำงำนภำยในลปู ต่อเม่ือคำ่ i มีค่ำน้อยกว่ำหรอื เทำ่ กับ 50 และหำก i มคี ำ่ มำกกว่ำ 50 เมอ่ื ใด ก็จะหลดุ ออกจำกลูป while(i <= 50) - สรำ้ งลปู ด้วย while โดยจะทำงำนภำยในลูปต่อเม่ือคำ่ x มีคำ่ มำกกว่ำหรือเทำ่ กับ 10 และค่ำ y มคี ่ำน้อยกวำ่ หรือเท่ำกับ 15 และจะหลดุ ออกจำกลปู ต่อเม่ือเง่ือนไขใดเงือ่ นไขหน่งึ เปน็ เทจ็ while(x >= 10 && y <= 15)

1: #include <stdio.h> 2: 3: main() 4: { 5: int x; 6: 7: printf(\"Input number 1 – 20 : \"); 8: scanf(\"%d\", &x); 9: putchar(‘\\n’); 10: 11: while(x <= 20) 12: { 13: if(x % 2 == 0) 14 printf(\"%3d\\t\", x); 15: x++; 16: } 17: printf(\"\\nEnd of program\"); 18: } ภำพที่ 29 โปรแกรมทดสอบกำรทำงำนเปน็ รอบด้วยลปู while ตำรำงที่ 4 คำอธบิ ำยโปรแกรมทดสอบกำรทำงำนเป็นรอบด้วยลูป while บรรทดั ท่ี ความหมาย 8 รอรับค่ำตวั เลข เพอ่ื เกบ็ ไว้ในตวั แปร x 9 ปัดบรรทัดใหม่ 1 บรรทดั 11 กำหนดลูป while ขึน้ มำ โดยชดุ คำสง่ั ภำยในลปู จะทำงำนต่อเมื่อค่ำ x มคี ่ำน้อย กวำ่ หรือเท่ำกับ 20 12 บลอ็ กแสดงจดุ เร่ิมตน้ ของกำรทำงำนซ้ำภำยในลูป while 13-14 ถ้ำ x โมดลู ัสกบั 2 มคี ่ำเปน็ 0 (หมำยถงึ เลขคู่) ใหส้ ั่งพมิ พค์ ่ำตัวเลขดังกลำ่ ว 15 เพิ่มค่ำ x อีกหนงึ่ 16 บลอ็ กแสดงจดุ สิ้นสุดของลูป while ซง่ึ จะกลับไปตรวจสอบเงอ่ื นไขบรรทดั ที่ 11 เพื่อเข้ำสู่กระบวนกำรทำซ้ำภำยในลูปตอ่ ไป 17 พิมพ์ข้อควำมว่ำ จบโปรแกรม ภำพท่ี 30 ผลลพั ธ์จำกกำรรันโปรแกรมรันครงั้ ท่ี 1 กรณปี อ้ นคำ่ ที่ตรวจสอบแล้วมคี ำ่ เปน็ จรงิ

ภำพที่ 31 ผลลัพธ์จำกกำรรันโปรแกรมรันครัง้ ที่ 2 กรณปี ้อนค่ำทตี่ รวจสอบแลว้ มีค่ำเปน็ เท็จลูปภำยในก็จะไม่ไดร้ ับกำรประมวลผล 2. การทางานเปน็ รอบด้วยลูป do-while รปู แบบ do { statement_1; statement_2; statement_n; } while(condition) ภำพท่ี 32 ทำงำนเป็นรอบด้วยลูป do-while โดยที่ statement หมำยถึง ชดุ ประโยคคำสง่ั ท่ีทำงำนซ้ำ condition หมำยถงึ เงือ่ นไขหรือนิพจนท์ ่ตี รวจสอบเงอ่ื นไข คณุ ลกั ษณะของการทางานเป็นรอบด้วยลูป do-while ดงั นี้ 1. หำกสร้ำงลูปด้วย do-while ชดุ คำสัง่ ภำยในลูปอยำ่ งน้อยจะต้องถกู ทำงำน 1 รอบ เสมอ ถงึ แม้วำ่ กำรตรวจสอบเง่ือนไขในรอบแรกจะเป็นเท็จก็ตำม 2. เม่อื เงื่อนไขทตี่ รวจสอบเป็นเทจ็ ก็จะหลดุ ออกจำกลูป โดยสำมำรถสรุปกำรทำงำนของลปู do-while ตำมผังงำนดังภำพที่ 33 ต่อไปนี้ ภำพท่ี 33 ผังงำนแสดงกำรทำงำนของลปู do-while

1: #include <stdio.h> 2: 3: main() 4: { 5: 6: while ( 5 > 10) 7: { 8: printf(\"Testing while loop...\\n\"); 9: } 10: 11: do 12: { 13: printf(\"Testing do-while loop...\\n\"); 14 } while( 5 > 10); 15: 16: } ภำพที่ 34 โปรแกรมเปรยี บเทียบกำรทำงำนของลปู while และ do-while ตำรำงท่ี 5 คำอธิบำยโปรแกรมเปรียบเทยี บกำรทำงำนของลปู while และ do-while บรรทดั ที่ ความหมาย 6-9 สรำ้ งลูป while ด้วยเงอ่ื นไข 5 มำกกวำ่ 10 11-14 สรำ้ งลูป do-while ด้วยเงอ่ื นไข 5 มำกกว่ำ 10 ภำพที่ 35 ผลลัพธ์จำกกำรรนั โปรแกรมเปรียบเทยี บกำรทำงำนของลปู while และ do-while จะพบว่ำเงื่อนไขของนิพจน์ 5 > 10 น้นั เป็นเทจ็ แนน่ อน ดงั นั้นข้อควำมภำยในลปู while จึงไม่ไดร้ บั กำรประมวลผล เนอื่ งจำกลปู while จะมีกำรตรวจสอบเง่ือนไขก่อนแต่สำหรับข้อควำม ภำยในลูป do-while จะแสดงชุดคำส่ังภำยในลูปอยำ่ งน้อย 1 คร้ัง เนอ่ื งจำกลูป do-while จะประมวลชุดคำส่ังภำยในลูปรอบแรกก่อนเสมอแลว้ จงึ ค่อยตรวจสอบเงื่อนไข ส่งผลใหม้ กี ำรพิมพ์ ข้อควำมภำยในลปู do-while ถึงแมเ้ ง่ือนไขทตี่ รวจสอบจะเป็นเทจ็ ก็ตำม

1: #include <stdio.h> 2: #include <conio.h> 3: 4: main() 5: { 6: char ch; 7: 8: do 9: { 10: putchar(‘\\n’); 11: printf(\"1. Apple\\n\"); 12: printf(\"2. Orange\\n\"); 13: printf(\"3. Grape\\n\"); 14: printf(\"0. Exit\\n\"); 15: 16: printf(\"\\nSelect => \"); 17: ch=getche(); 18: 19 switch(ch) 20 { 21: case ‘1’: 22: printf(\"\\nYou select apple\\n\"); 23: break; 24: case ‘2’: 25: printf(\"\\nYou select orange\\n\"); 26: break; 27: case ‘3’: 28: printf(\"\\nYou select grape\\n\"); 29: break; 30: default : 31: if (ch != ‘0’) 32: printf(\"\\nSorry...Please re-enter...\\n\"); 33: } 34: 35: } while(ch != ‘0’); 36: } ภำพท่ี 36 โปรแกรมประยุกต์กำรใช้งำนลปู do-while ตำรำงท่ี 6 คำอธบิ ำยโปรแกรมประยุกต์กำรใชง้ ำนลปู do-while บรรทัดท่ี ความหมาย 6 ประกำศตัวแปร ch มีชนิดข้อมูลเปน็ ตวั อักขระหนงึ่ ตัว 8 สร้ำงลูป do...while เพ่ือทำงำนเป็นรอบ 9 จดุ เร่มิ ตน้ ของบล็อก เพ่ือทำงำนซ้ำ 10-16 พิมพข์ ้อควำมและรำยกำรเมนู 17 รอรบั คำ่ จำกแปน้ คีย์ 19 ตรวจสอบค่ำทกี่ ดดว้ ย switch 20-33 ชดุ คำส่ังให้ทำงำนในแต่ละ case 35 จดุ ส้นิ สดุ ของบล็อกลปู

ภำพท่ี 37 ผลลพั ธ์จำกกำรรันโปรแกรมประยุกต์กำรใชง้ ำนลูป do-while 3. การทางานเป็นรอบด้วยลูป for รปู แบบ for(expression1; expression2; expression3) { statement_1; statement_2; statement_n; } ภำพที่ 38 ทำงำนเปน็ รอบดว้ ยลูป for โดยที่ expression1 หมำยถงึ คำ่ เร่ิมตน้ ของตวั แปรท่ีนำมำใช้นบั จำนวนรอบ expression2 หมำยถงึ นพิ จน์เงื่อนไขเพ่ือกำรทำซ้ำ expression3 หมำยถึง ตัว counter ทีใ่ ช้เพิ่มค่ำลูป statement หมำยถงึ ชุดคำสงั่ ภำยในลปู คณุ ลกั ษณะของการทางานเปน็ รอบดว้ ยลูป for มีดังนี้ 1. กำรทำงำนของลปู จะเรม่ิ จำกคำ่ เร่ิมตน้ ทกี่ ำหนดใน expression1 2. รอบกำรทำงำนข้นึ อยู่กบั นิพจน์เงื่อนไขท่ตี ้งั ไวใ้ น expression2 3. กำรเพม่ิ คำ่ counter ให้กับลปู ใน expression3 จะสง่ ผลต่อจำนวนรอบของลปู โดยสำมำรถสรุปกำรทำงำนของลูป for ตำมผังงำนดงั ภำพที่ 39 ตอ่ ไปนี้

ภำพที่ 39 ผงั งำนแสดงกำรทำงำนของลปู for ตัวอย่างเช่น for(x = 1; x <= 10; x++) printf(\"%d\\n\", x); ภำพท่ี 40 สรำ้ งลปู ด้วย for จำนวน 10 รอบ เพื่อพิมพ์ค่ำ 1 – 10 for(x = 0; x < 10; x+=2) printf(\"%d\\n\", x); ภำพที่ 41 สร้ำงลปู ดว้ ย for เพือ่ พมิ พ์คำ่ 0 – 9 จำนวน 5 รอบ (เน่ืองจำกตัว counter เพิม่ ทีละ 2) 1: #include <stdio.h> 2: #include <math.h> 3: main() 4: { 5: int i , n; 6: 7: for(i = 1; i <= 3; i++) 8: { 9: printf(\"\\n\\nEnter digit : \"); 10: scanf(\"%d\", &n); 11: printf(\"\\nSqrt of this digit is : %f\", sqrt(n)); 12: } 13: } ภำพที่ 42 โปรแกรมรับคำ่ ข้อมูลจำนวน 3 รอบ ดว้ ยกำรใชล้ ปู for ตำรำงท่ี 7 คำอธบิ ำยโปรแกรมรบั คำ่ ข้อมูลจำนวน 3 รอบ ด้วยกำรใช้ลูป for บรรทดั ท่ี ความหมาย 7 สรำ้ งลปู for เพ่อื วนซำ้ ทำงำน 3 รอบ 8 จุดเร่ิมต้นกำรทำงำนของบล็อกเพ่ือวนซ้ำ 9-11 ชุดคำส่งั ภำยในลูป 12 จุดส้ินสุดกำรทำงำนของบล็อก for เพอื่ วนซำ้ จนกระทง่ั ครบจำนวนรอบ

ภำพที่ 43 ผลลัพธจ์ ำกกำรรนั โปรแกรมรบั ค่ำขอ้ มูล จำนวน 3 รอบ ดว้ ยกำรใช้ลปู for 1: #include <stdio.h> 2: 3: main() 4: { 5: int x; 6: 7: for(x = 1; x <= 12; x++) 8: printf(\"| 2 * %2d = %2d |\\n\", x, x * 2); 9: } ภำพที่ 44 โปรแกรมสตู รคณู แม่ 2 ตำรำงที่ 8 คำอธิบำยโปรแกรมสูตรคูณแม่ 2 บรรทัดที่ ความหมาย 7 สรำ้ งลูป for เพ่อื วนซ้ำทำงำน 12 รอบ 8 พิมพส์ ูตรคณู แม่ 2 ภำพที่ 45 ผลลพั ธ์จำกกำรรนั โปรแกรมสูตรคูณแม่ 2 นอกจำกนีเ้ รำยังสำมำรถใชค้ ำสั่ง break เพื่อสั่งให้หลุดออกจำกลูปตำมเง่ือนไขที่ไดก้ ำหนดไว้ หรือใช้คำส่งั continue ในกำรส่ังให้กลับไปวนซำ้ ที่ตน้ ลปู ใหม่

1: #include <stdio.h> 2: 3: main() 4: { 5: int x = 1; 6: 7: while (x <= 10) 8: { 9: printf(\"\\nLoop#%d\", x++); 10: if (x == 8) 11: break; 12: } 13: } ภำพท่ี 46 โปรแกรมทดสอบกำรใช้คำส่ัง break เพื่อสง่ั ใหห้ ลดุ ออกจำกลูป ภำพที่ 47 ผลลัพธจ์ ำกกำรรันโปรแกรมทดสอบกำรใชค้ ำส่ัง break เพ่ือสัง่ ใหห้ ลดุ ออกจำกลูป จะพบว่ำถึงแมจ้ ะสรำ้ งลูปใหท้ ำงำนจำนวน 10 รอบก็ตำม แต่มีกำรสรำ้ งเงื่อนไขวำ่ ถ้ำตวั นับ ลูปมคี ่ำเท่ำกับ 8 ให้หลุดออกจำกลูป ในขณะเดียวกันคำสัง่ continue จะทำงำนตรงกนั ข้ำมด้วยกำร สงั่ ใหก้ ลับไปทำงำนชุดคำสง่ั ท่ีต้นลปู อกี ครั้ง 1: #include <stdio.h> 2: 3: main() 4: { 5: int x = 1; 6: 7: while (x <= 10) 8: { 9: printf(\"\\nRunning Loop #%d\", x++); 10: if (x == 8) 11: continue; 12: 13: putchar(‘\\n’); 14: } 15: } ภำพท่ี 48 โปรแกรมทดสอบกำรใชค้ ำสง่ั continue

ภำพที่ 49 ผลลัพธ์จำกกำรรนั โปรแกรมทดสอบกำรใช้คำสัง่ continue เม่ือรันโปรแกรมแล้วให้สังเกตบรรทัดข้อควำมของลูปที่ 7 และ 8 จะพบวำ่ ไม่มกี ำรปดั บรรทัดใหม่ ทงั้ น้ีเนื่องจำกมีกำรสั่งใหก้ ลบั ไปที่ต้นลปู ด้วยคำสงั่ continue (เม่อื ค่ำ X++ เทำ่ กับ 8) ทำใหค้ ำสัง่ บรรทัดท่ี 13 ซ่งึ เป็นกำรสั่งให้ปดั บรรทดั ใหมท่ ่ีอยถู่ ดั จำกคำสั่ง continue นั้นไมไ่ ด้ถกู ประมวลผล สรปุ ทา้ ยบท ประโยคเงอ่ื นไข if มรี ปู แบบกำรเขยี นในลักษณะตำ่ งๆ ดังนี้ 1. กำรสร้ำงเงอื่ นไขประโยคเดียว 2. กำรสร้ำงเง่อื นไข if...else 3. กำรสรำ้ งเงอ่ื นไข if.... else แบบหลำยกรณี 4. กำรสร้ำงเงื่อนไขแบบซอ้ น (Netsted if) นอกจำก if-else แลว้ ภำษำซียงั มคี ำส่ังควบคมุ เง่ือนไขอีกตัวหน่ึงคือ switch ..case อยำ่ งไรกต็ ำม switch...case นำมำใชง้ ำนได้ดีกบั โปรแกรมทม่ี ีรำยกำรเมนูให้เลือก และ ไมส่ ำมำรถนำมำใช้ตรวจสอบเงอ่ื นไขที่ใช้ตวั แปรและเลขจำนวนจริงได้ ภาษาซี มีชุดคาสง่ั ทางานเป็นรอบ ดงั นี้ - การทางานเป็นรอบดว้ ยลปู while จะทำกำรตรวจสอบเง่อื นไขก่อนดำเนนิ กำรเสมอ ดงั นัน้ ชุดคำส่ังภำยในลูปอำจมิได้ถูกประมวลผลเลยก็ได้ หำกตรวจสอบเงื่อนไข ครงั้ แรกแลว้ มคี ำ่ เป็นเทจ็ - การทางานเป็นรอบดว้ ยลปู do-while จะกระทำชุดคำสั่งภำยในลปู อย่ำงน้อยรอบหน่ึงเสมอ - การทางานเปน็ รอบด้วยลปู for เหมำะกับกรณมี จี ำนวนรอบกำรทำงำนที่แน่นอน การใช้คาสัง่ - คาส่งั break สำมำรถนำมำใชเ้ พ่ือส่งั ใหห้ ลุดออกจำกลูปตำมเงอื่ นไขท่ีได้กำหนดไว้ - คาสง่ั continue นำไปใชง้ ำนเพื่อสั่งให้วกกลบั ไปทำงำนซ้ำท่ตี ้นลูป ดงั น้นั ชดุ คำสั่งท่ี อย่ถู ัดจำกคำสัง่ continue จึงมิได้ถูกประมวลผล

คาชี้แจง ให้นกั เรียนเติมคำในช่องว่ำงตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้อง 1: #include <stdio.h> 11 2: 3: main() 4: { 21 5: int i , n; 6: 7: for(i = 1; i <= 3; i++) 8: { 31 9: printf(\"\\n\\nEnter digit : \"); 10: scanf(\"%d\", &n); 11: printf(\"\\nSqrt of this digit is : %f\", sqrt(n)); 12: } 13: } คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทดั ที่ ความหมาย 7 41 8 จดุ เรม่ิ ต้นกำรทำงำนของบล็อกเพื่อวนซ้ำ 9-11 ชดุ คำสงั่ ภำยในลูป 51 12 สรปุ คะแนน สรปุ ผล ผา่ น ไมผ่ า่ น คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ 10 คะแนน ………………. คะแนน ……………...…. …………………. ง่ำยมำกๆ เลยใช่ ไหมคะนักเรียน

คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมแต่ละข้อแล้วทำเคร่ืองหมำยถูก  หน้ำข้อท่ีถูกและ ทำเครื่องหมำยผิด  หน้ำข้อที่ผิดต่อไปน้ีให้ถูกต้อง ................... 1. ภำษำซไี ม่มีคำสั่งควบคุมเง่ือนไข คือ switch ................... 2. switch ไมส่ ำมำรถนำมำใชง้ ำนกบั โปรแกรมที่มีรำยกำรเมนใู ห้เลือก ................... 3. ภำษำซีจะใช้ประโยค if ในกำรสรำ้ งเงื่อนไข ................... 4. ในภำษำซมี ีกำรกำหนดทำงเลือกดว้ ยประโยค switch ................... 5. คำสง่ั if-statement เพื่อตรวจสอบเง่ือนไข มีอยู่ 4 รปู แบบ ................... 6. case คอื คำสง่ั ทีอ่ ยู่ในแตล่ ะกรณที ่ีเป็นไปตำม constant น้นั ๆ ................... 7. เง่ือนไขทต่ี ้องตรวจสอบหลำยๆ กรณีจะใช้ประโยค else if ................... 8. integer_expression คำ่ จำนวนจริงท่ีนำมำใช้ตรวจสอบคำส่งั ................... 9. switch สำมำรถตรวจสอบนิพจน์ชนดิ เลขจำนวนจริงทีม่ ีจดุ ทศนิยม ................... 10. ประโยค if สำมำรถใชต้ วั ดำเนินกำรตรรกะอย่ำง &&, ||, ! สรปุ คะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผา่ น คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน อยำ่ ลืมทวนคำตอบ นะคะนกั เรียน

คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลุม่ ดังตอ่ ไปนี้ 1. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่มละ 4-5 คน เพอื่ ทำกิจกรรมกลุ่ม 2. ใหฝ้ ึกเขยี นโปรแกรมแสดงเมนูเพื่อคำนวณชุดตวั เลขของ 10 และ 2 3. ใหว้ เิ ครำะห์หำผลลัพธใ์ หถ้ ูกตอ้ ง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... สรุปคะแนน สรปุ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลุ่มดังต่อไปนี้ 1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุม่ ละ 4-5 คน เพ่อื ทำกิจกรรมกลุ่ม 2. ให้ปรับคำ่ ตวั เลข 3. ให้แปลงเป็นตวั เลขฐำนแปดและฐำนสิบหก 4. ให้ปรบั คำ่ ตัวเลขจนมีกำรกรอกค่ำเป็น 999 5. ให้วเิ ครำะหห์ ำผลลัพธใ์ ห้ถูกตอ้ ง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ สรปุ คะแนน สรุปผล ผา่ น ไมผ่ ่าน คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลุ่มดังตอ่ ไปน้ี 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น กลุ่มละ 4-5 คน เพือ่ ทำกจิ กรรมกลมุ่ 2. ให้เขยี นโปรแกรมเพือ่ คำนวณหำค่ำแฟคตอเรยี ล 3. ให้พจิ ำรณำหลกั กำรคำนวณของตวั อย่ำงต่อไปนี้ โดยโปรแกรมจะทำงำนไปจนกระท่งั มีกำรป้อนค่ำ 0 ลงไป ตวั อย่างของหลกั การคานวณ 8! = 8 * 7 * 6 * 5 * 4 * 3 * 2 * 1 = 40320 0! = 1 Enter number : 8 8! = 40320 Enter number : 10 10! = 3628800 Enter number : 15 15! = 2004310016 Enter number : 0 0! = 1 ……………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปคะแนน สรปุ ผล ผ่าน ไม่ผา่ น คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมดังต่อไปนี้ 1. ชว่ ยกันสรุปองคค์ วำมรู้ 2. สร้ำงแผนที่ควำมคดิ จำกกำรสรปุ องคค์ วำมรู้ 3. สรปุ องคค์ วำมรู้ในสมุดบันทกึ ส่วนตัว 4. นำเสนอแผนทีค่ วำมคิด ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. .. สรุปคะแนน สรุปผล ผ่าน ไมผ่ ่าน คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ ……………...…. …………………. 15 คะแนน ………………. คะแนน

คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบที่ถูกทีส่ ุดเพียงคำตอบเดียวแล้วทำเครอื่ งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ 1. ข้อใดต่อไปนี้จดั เปน็ คำส่ังควบคมุ เงื่อนไข ก. varchar... ข. <stdio.h> ค. printf... ง. if....else 2. ประโยคเงื่อนไขที่มคี วำมซับซอ้ นตำมขอ้ ใด ท่ีจำเป็นต้องใชอ้ ย่ำงระมดั ระวัง ก. switch....case ข. if...else ค. Nested if ง. case...if 3. คำส่งั ควบคุมเง่ือนไขตำมข้อใดถือว่ำผดิ ก. case ‘1’ : ข. case num + 7 ค. if (ch == ‘Y’ + 1) ง. switch (ch) 4. ภำยใน case ของแต่ละกรณใี นประโยคคำสัง่ switch จำเป็นต้องใส่คำสง่ั ใดลงไป ก. { } ข. break ค. while ง. Include 5. หำกเง่ือนไขท่ีตรวจสอบด้วย switch ไม่ตรงกับเงื่อนไขใดๆ เลย จะไปทำงำนทส่ี ว่ นใด ก. break ข. else ค. case ง. default

6. ลูปประเภทใดต่อไปน้ี ชดุ คำสั่งภำยในลปู อำจไม่ไดร้ บั กำรประมวลผลกไ็ ด้ ก. for ข. do-while ค. if...else ง. while 7. ลูปประเภทใดต่อไปน้ี อย่ำงนอ้ ยจะประมวลผลชดุ คำส่งั ภำยใน 1 รอบเสมอ ก. do-while ข. for ค. while ง. if...else 8. คำสั่งใดต่อไปน้ี สำมำรถสั่งให้หลดุ ออกจำกลปู ได้ ก. continue ข. switch ค. break ง. case 9. จำกชุดคำสั่งต่อไปน้ี อยำกทรำบว่ำลปู ดังกลำ่ วทำงำนก่ีรอบ for (x = 1; k < 10; k++) ก. 9 รอบ ข. 10 รอบ ค. n รอบ ง. ไมท่ ำงำนเลย 10. จำกชดุ คำสงั่ กำรทำงำนของลปู ตอ่ ไปนี้ อยำกทรำบว่ำถูกทำงำนกี่รอบ for (int x = 0; x <= 100; x+=2) ก. 51 รอบ ข. 100 * 2 รอบ ค. 53 รอบ ง. 100 / 2 รอบ

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกท่ีสดุ เพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเคร่อื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. สรปุ คะแนน สรุปผล ผา่ น ไม่ผ่าน คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ ……………...…. …………………. 10 คะแนน ………………. คะแนน



คาช้แี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ท่สี ุดเพยี งคำตอบเดียวแลว้ ทำเครอ่ื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10.  ตอบถกู กี่ข้อคะ

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนเติมคำในชอ่ งวำ่ งตอ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง 1: #include <stdio.h> 11 2: #include <math.h> 3: main() 4: { 21 5: int i , n; 6: 7: for(i = 1; i <= 3; i++) 8: { 31 9: printf(\"\\n\\nEnter digit : \"); 10: scanf(\"%d\", &n); 11: printf(\"\\nSqrt of this digit is : %f\", sqrt(n)); 12: } 13: } คาอธบิ ายโปรแกรม บรรทดั ที่ ความหมาย 7 สรำ้ งลูป for เพ่ือวนซ้ำทำงำน 3 รอบ 41 8 จดุ เรมิ่ ต้นกำรทำงำนของบล็อกเพื่อวนซำ้ 9-11 ชุดคำสง่ั ภำยในลูป 12 จุดสิน้ สุดกำรทำงำนของบล็อก for เพ่ือวนซำ้ จนกระทง่ั ครบจำนวนรอบ 51 เก่งมำกเลยคะ นกั เรียน

คาชแี้ จง ให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมแต่ละข้อแล้วทำเคร่ืองหมำยถูก  หน้ำข้อท่ีถูกและ ทำเคร่ืองหมำยผิด  หน้ำข้อที่ผิดต่อไปนี้ให้ถูกต้อง .................. 1. ภำษำซีไม่มคี ำสงั่ ควบคุมเง่ือนไขคือ switch .................. 2. switch ไม่สำมำรถนำมำใชง้ ำนกับโปรแกรมท่ีมีรำยกำรเมนูใหเ้ ลือก ................... 3. ภำษำซีจะใช้ประโยค if ในกำรสร้ำงเงอ่ื นไข ................... 4. ในภำษำซีมีกำรกำหนดทำงเลือกด้วยประโยค switch ................... 5. คำสัง่ if-statement เพอ่ื ตรวจสอบเง่ือนไข มีอยู่ 4 รูปแบบ .................. 6. case คือ คำสัง่ ท่ีอยู่ในแต่ละกรณีที่เปน็ ไปตำม constant นน้ั ๆ ................... 7. เง่ือนไขท่ีต้องตรวจสอบหลำยๆ กรณจี ะใช้ประโยค else if .................. 8. integer_expression คำ่ จำนวนจริงทน่ี ำมำใชต้ รวจสอบคำสั่ง .................. 9. switch สำมำรถตรวจสอบนิพจนช์ นิดเลขจำนวนจริงท่ีมีจดุ ทศนิยม ................... 10. ประโยค if สำมำรถใช้ตัวดำเนินกำรตรรกะอยำ่ ง &&, ||, ! ง่ำยมำกๆ เลย ใช่ไหมคะนกั เรียน

คาช้แี จง ให้นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่ ดังต่อไปน้ี 1. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น กลมุ่ ละ 4-5 คน เพอ่ื ทำกจิ กรรมกลุม่ 2. ให้ฝึกเขียนโปรแกรมแสดงเมนเู พ่ือคำนวณชุดตัวเลขของ 10 และ 2 3. ให้วเิ ครำะห์หำผลลพั ธ์ใหถ้ ูกตอ้ ง เกณฑก์ ารประเมิน คาชแี้ จง โปรดทำเครื่องหมำย  ลงในช่องวำ่ งตำมระดับคะแนนที่เปน็ จรงิ ระดับคะแนน 3 ระดบั ดังน้ี 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถึง พอใช้ 1 คะแนน หมำยถงึ ควรปรบั ปรงุ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. ปฏบิ ตั ติ ำมขน้ั ตอนอย่ำงถกู ตอ้ งและครบถ้วน 2. อธบิ ำยขน้ั ตอนได้อยำ่ งถูกตอ้ งและชัดเจน 3. แกไ้ ขปัญหำและสถำนกำรณไ์ ด้อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ 4. ทำงำนเสรจ็ เรียบรอ้ ยตำมเวลำกำหนด 5. สนใจศึกษำหำควำมรูเ้ พ่ิมเติมดว้ ยตนเอง รวม เกณฑ์การประเมิน ตอ้ งผำ่ นร้อยละ 80 ข้ึนไป หรอื 12 คะแนนข้ึนไป  ผ่ำน  ไม่ผ่ำน ลงชื่อ..........................................ผู้ประเมิน (..........................................)

คาชี้แจง ให้นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกล่มุ ดังต่อไปนี้ 1. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุม่ ละ 4-5 คน เพ่ือทำกิจกรรมกลุม่ 2. ใหป้ รบั ค่ำตัวเลข 3. ใหแ้ ปลงเป็นตัวเลขฐำนแปดและฐำนสบิ หก 4. ใหป้ รับคำ่ ตัวเลขจนมีกำรกรอกค่ำเป็น 999 5. ใหว้ ิเครำะห์หำผลลพั ธใ์ หถ้ ูกต้อง เกณฑก์ ารประเมิน คาช้แี จง โปรดทำเครื่องหมำย  ลงในชอ่ งว่ำงตำมระดบั คะแนนท่เี ป็นจริง ระดับคะแนน 3 ระดบั ดังน้ี 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถึง พอใช้ 1 คะแนน หมำยถงึ ควรปรบั ปรงุ รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. ปฏบิ ัตติ ำมขนั้ ตอนอยำ่ งถกู ตอ้ งและครบถ้วน 2. อธิบำยข้ันตอนได้อย่ำงถูกตอ้ งและชัดเจน 3. แกไ้ ขปัญหำและสถำนกำรณไ์ ด้อย่ำงสร้ำงสรรค์ 4. ทำงำนเสร็จเรยี บร้อยตำมเวลำกำหนด 5. สนใจศกึ ษำหำควำมร้เู พิ่มเตมิ ดว้ ยตนเอง รวม เกณฑ์การประเมนิ ต้องผ่ำนรอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป หรือ 12 คะแนนขนึ้ ไป  ผำ่ น  ไมผ่ ่ำน ลงช่ือ..........................................ผู้ประเมนิ (..........................................)

คาชแี้ จง ให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลุม่ ดังต่อไปน้ี 1. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อทำกจิ กรรมกลมุ่ 2. ใหเ้ ขียนโปรแกรมเพ่อื คำนวณหำค่ำแฟคตอเรยี ล 3. ให้พจิ ำรณำหลกั กำรคำนวณของตัวอย่ำงต่อไปน้ี โดยโปรแกรมจะทำงำนไปจนกระทั่ง มกี ำรป้อนค่ำ 0 ลงไป เกณฑก์ ารประเมิน คาชแ้ี จง โปรดทำเครอ่ื งหมำย  ลงในชอ่ งวำ่ งตำมระดบั คะแนนท่เี ป็นจรงิ ระดบั คะแนน 3 ระดับ ดังนี้ 3 คะแนน หมำยถึง ดี 2 คะแนน หมำยถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมำยถึง ควรปรับปรงุ รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. ปฏบิ ัติตำมขัน้ ตอนอย่ำงถกู ตอ้ งและครบถ้วน 2. อธบิ ำยข้นั ตอนได้อยำ่ งถูกต้องและชดั เจน 3. แก้ไขปัญหำและสถำนกำรณไ์ ด้อย่ำงสร้ำงสรรค์ 4. ทำงำนเสรจ็ เรยี บร้อยตำมเวลำกำหนด 5. สนใจศกึ ษำหำควำมรูเ้ พ่ิมเติมด้วยตนเอง รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ต้องผำ่ นรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป หรือ 12 คะแนนขนึ้ ไป  ผ่ำน  ไม่ผ่ำน ลงช่อื ..........................................ผปู้ ระเมิน (..........................................)

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมดังต่อไปนี้ 1. ชว่ ยกนั สรปุ องคค์ วำมรู้ 2. สร้ำงแผนที่ควำมคดิ จำกกำรสรุปองค์ควำมรู้ 3. สรปุ องคค์ วำมรใู้ นสมุดบนั ทกึ ส่วนตัว 4. นำเสนอแผนทค่ี วำมคดิ เกณฑ์การประเมนิ คาช้แี จง โปรดทำเครอื่ งหมำย  ลงในชอ่ งว่ำงตำมระดับคะแนนทเ่ี ป็นจริง ระดบั คะแนน 3 ระดบั ดงั นี้ 3 คะแนน หมำยถงึ ดี 2 คะแนน หมำยถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมำยถึง ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 321 1. สรปุ องค์ประกอบควำมรูไ้ ด้ชัดเจนและครบถว้ น 2. บอกควำมสำคญั ได้ตรงประเด็น 3. สะอำด เรยี บรอ้ ย และสวยงำม 4. ควำมคิดสรำ้ งสรรค์ 5. ควำมกล้ำแสดงออกในกำรนำเสนองำน รวม เกณฑก์ ารประเมิน ตอ้ งผำ่ นร้อยละ 80 ขนึ้ ไป หรือ 12 คะแนนขน้ึ ไป  ผำ่ น  ไมผ่ ำ่ น ลงช่ือ..........................................ผูป้ ระเมนิ (..........................................)

คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ท่สี ุดเพยี งคำตอบเดียวแล้วทำเครอ่ื งหมำย X ลงใน กระดำษคำตอบ ข้อ ก ข ค ง 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10.  ตอบถกู กข่ี ้อคะ

การประเมนิ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ความก้าวหนา้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน 10 เกณฑ์การประเมิน 10 ตอ้ งผำ่ นรอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป หรือ 8 คะแนนขน้ึ ไป  ผ่ำน  ไมผ่ ำ่ น การประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ คา่ เฉลยี่ S.D. ร้อยละ กิจกรรมที่ 1 10 กจิ กรรมท่ี 2 10 กิจกรรมท่ี 3 15 กิจกรรมท่ี 4 15 กิจกรรมที่ 5 15 กิจกรรมท่ี 6 15 รวม 80 เกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งผ่ำนรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป หรือ 64 คะแนนขึ้นไป  ผ่ำน  ไมผ่ ำ่ น ลงชื่อ..........................................ผู้ประเมิน (..........................................)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook